Thursday, 15 May 2025
NEWS FEED

‘พิพิธภัณฑ์หัวโขน สวนนงนุชพัทยา’ แห่งแรกของโลก! ที่รวบรวมหัวโขนไว้มากที่สุด 506 เศียร

ตามปณิธานของ คุณนงนุช ตันสัจจา ที่ได้ตั้งใจไว้ในเรื่องที่เกี่ยวกับการสืบทอดงานศิลปกรรมไทย เพื่อเป็นมรดกของแผ่นดินไว้ให้คนรุ่นหลังศึกษา ต่อมาคุณกัมพล ตันสัจจา ประธานสวนนงนุชพัทยา จึงได้ทำการรวบรวมงานศิลปกรรมไทยไว้ที่สวนนงนุชพัทยา จังหวัดชลบุรี อีกหนึ่งแขนงคือหัวโขน โดยจัดสร้างพิพิธภัณฑ์หัวโขนขึ้น ซึ่งภายในอาคารพิพิธภัณฑ์ประกอบด้วย ห้องโถงจัดแสดง เป็นที่ตั้งของตู้หัวโขน จำนวน 121 ตู้ ห้องสาธิตงานผลิตหัวโขน, ห้องเขียนลาย และตกแต่งหัวโขน, โดยเริ่มดำเนินการสร้างมาตั้งแต่ วันที่ 1 กรกฎาคม 2560 จนถึงปัจจุบัน

สวนนงนุชพัทยา สร้างพิพิธภัณฑ์หัวโขนขึ้น เพื่อแสดงงานศิลปกรรมไทยชั้นสูง ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์แห่งแรกของโลก ที่มีการรวบรวมหัวโขนไว้มากที่สุด จำนวน 506 เศียร โดยได้แบ่ง ออกเป็น 3 ชุด ดังนี้

1.หัวโขนชุดอนุรักษ์แบบโบราณ   จำนวน 24  เศียร 

2.หัวโขนบรมครู ฤษี  จำนวน 108 พระองค์

3. หัวโขนรามเกียรติ์   จำนวน 374  เศียร

ซึ่งหัวโขนทั้งหมด จัดแสดงในพิพิธภัณฑ์ เพื่อรอให้นักเรียน,นักศึกษา,นักท่องเที่ยว และผู้ที่สนใจ ได้เข้ามาศึกษาเรียนรู้หลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลายและได้รับอนุญาตให้เปิดบริการตามปกติ 

ทั้งนี้ เมื่อโครงการจัดทำหัวโขนแล้วเสร็จ โครงการต่อไปทางสวนนงนุชพัทยา จะทำหุ่นกระบอกไทย ตามเรื่องในพระราชนิพนธ์,วรรณคดีไทย และนิทานพื้นบ้าน สำหรับในงานหุ่นกระบอกนี้ จะใช้ทักษะของงานหัวโขน แต่มีขนาดเล็กและส่วนประกอบที่สำคัญคือ งานปักสะดึงกลึงไหม ซึ่งเป็นเครื่องแต่งกายของหุ่น มาเป็นจุดขาย


ภาพ/ข่าว  นิราช / นันทพล ทิพย์ศรี ก012 ชลบุรี

สหรัฐฯ ทุ่มงบสร้างอาคารหลังใหม่บนพื้นที่สถานทูตฯ สหรัฐฯ ในไทย เพื่อเป็นศูนย์กลางขับเคลื่อนภารกิจอาเซียน

ในเดือนสิงหาคม 2564 ที่ผ่านมานี้ สหรัฐอเมริกาได้เริ่มก่อสร้างอาคารแห่งใหม่บนพื้นที่เดิมของสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศไทย โดยอาคารดังกล่าวจะส่งเสริมการเดินหน้ายกระดับความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ และไทย ทั้งทางการทูต ความมั่นคง และการพาณิชย์ ตลอดจนสานสัมพันธไมตรีระหว่างชาวสหรัฐฯ และชาวไทยให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ตามคำแถลงของสถานทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศไทย

อาคารหลังนี้คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 2568 โดยจะพัฒนาพื้นที่สำหรับบริการด้านกงสุลและภารกิจทางการทูตให้ทันสมัย รวมถึงสะท้อนความสำคัญของพันธมิตรอันยาวนานระหว่างสหรัฐอเมริกากับราชอาณาจักรไทย ด้วยมิตรภาพกว่า 2 ศตวรรษ สหรัฐฯ และไทยได้กระชับความร่วมมือกันในทุกภาคส่วน ตั้งแต่การค้าระดับทวิภาคี ไปจนถึงการบังคับใช้กฎหมายระหว่างประเทศ และการสาธารณสุข 

โดยอาคารหลังใหม่จะเป็นที่ทำการของหน่วยงานต่าง ๆ ของรัฐบาลสหรัฐฯ ซึ่งปัจจุบันตั้งอยู่ในหลากหลายพื้นที่ทั่วกรุงเทพฯ และรวมการปฏิบัติงานของสหรัฐฯ เข้ามาที่ศูนย์กลาง เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือระดับทวิภาคีต่อไป

เนื่องจากประเทศไทยได้ก้าวขึ้นมาเป็นศูนย์กลางของภูมิภาคในด้านการเงิน, สื่อ, โลจิสติกส์ และการคมนาคม อีกทั้งกรุงเทพฯ ยังเป็นที่ตั้งขององค์การระหว่างประเทศหลายแห่ง สหรัฐฯ จึงได้ใช้สถานเอกอัครราชทูตที่นี่เป็นศูนย์กลางการดำเนินงานระดับภูมิภาคมาเป็นเวลานาน 

มากกว่าครึ่งของพนักงานสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศไทยมีหน้าที่รับผิดชอบงานระดับภูมิภาค ซึ่งรวมไปถึงการบริหารจัดการความช่วยเหลือด้านการพัฒนาระหว่างประเทศ

การสนับสนุนการตั้งถิ่นฐานใหม่ของผู้ลี้ภัยทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ การประสานงานด้านการบังคับใช้กฎหมาย เพื่อปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ ตลอดจนการระดมเงินทุนภาคเอกชนเพื่อช่วยแก้ไขความท้าทายด้านการพัฒนาที่สำคัญ ๆ

อุปทูตรักษาการแทนเอกอัครราชทูต ไมเคิล ฮีธ กล่าวว่า “อาคารใหม่ของสถานทูตที่ออกแบบอย่างทันสมัยแห่งนี้จะเป็นที่ตั้งของหน่วยงานต่าง ๆ ของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ร่วมมือกับประเทศไทยและอาเซียนเพื่อยกระดับประเด็นสำคัญของภูมิภาค รวมทั้งการปรับปรุงด้านสาธารณสุข การจัดการกับความท้าทายด้านสิ่งแวดล้อม และการต่อสู้กับอาชญากรรมข้ามชาติ”

“อาคารนี้ออกแบบให้สะท้อนถึงสถาปัตยกรรมแบบไทยเดิม และผมหวังว่าอาคารหลังใหม่นี้จะเป็นสัญลักษณ์และศูนย์กลางของมิตรภาพระหว่างไทยกับสหรัฐฯ อย่างยืนยาวในอนาคต”

การก่อสร้างอาคารหลังนี้ สหรัฐฯ จะใช้งบประมาณ 625 ล้านเหรียญ (20,000 ล้านบาท) ในโครงการดังกล่าว และว่าจ้างคนงานไทยประมาณ 2,000 คนตลอดระยะเวลาการก่อสร้าง

การออกแบบร่วมสมัยของอาคารได้รับแรงบันดาลใจมาจากมรดกทางสถาปัตยกรรมไทย โดยคำนึงถึงสภาพอากาศของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และยังเป็นการผสมผสานขนบไทยเข้ากับสถาปัตยกรรม การออกแบบ วิศวกรรม เทคโนโลยี และการก่อสร้างชั้นเลิศของอเมริกา 

โครงการนี้มีเป้าหมายที่จะก่อสร้างอาคารให้ได้รับการรับรองมาตรฐานอาคารอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อมระดับ Silver ภายใต้มาตรฐาน Leadership in Energy and Environmental Design (LEED) และมีองค์ประกอบมากมายที่ออกแบบมาเพื่อให้อาคารมีความยั่งยืนยิ่งขึ้น


ที่มา: https://th.usembassy.gov/th/u-s-embassy-begins-construction-of-new-annex-th/


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!
A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!! 
>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท
>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ
>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต
>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย
***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก???? https://lin.ee/vfTXud9

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดพัทลุง เปิดกิจกรรม “สื่อสร้างสรรค์เล่าเรื่องดี ๆ ที่บ้านฉัน” Street Art Phatthalung ภายใต้โครงการสร้างความเข้าใจทั้งในและนอกจังหวัดชายแดนใต้ ปี 2564

ที่บริเวณหลังสถานีรถไฟพัทลุง  นายกู้เกียรติ วงศ์กระพันธุ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง เป็นประธานเปิดกิจกรรม “สื่อสร้างสรรค์เล่าเรื่องดี ๆ ที่บ้านฉัน” Street Art

สำหรับกิจกรรม “สื่อสร้างสรรค์เล่าเรื่องดีๆ  ที่บ้านฉัน” Street Art Phatthalung ภายใต้โครงการสร้างความเข้าใจทั้งในและนอกจังหวัดชายแดนใต้ ปี 2564 เพื่อสร้างการรับรู้ ในเชิงบวกต่อสังคมไทย และผู้เกี่ยวข้องกับการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ในทุกระดับ  เพิ่มช่องทางการสื่อสารที่หลากหลาย เพื่อให้สอดคล้องกับพฤติกรรม การรับสื่อในปัจจุบัน และเพื่อให้การดำเนินงานเกิดผลสัมฤทธิ์บรรลุวัตถุประสงค์ ตามเป้าหมายภารกิจในงานด้านการสร้างความเข้าใจ

ซึ่งสำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดพัทลุง ได้จัดขึ้นในเขตเทศบาลเมืองพัทลุง โดยได้เปิดโอกาสให้ประชาชนและเยาวชนได้มีส่วนร่วมในการสร้างงานศิลปะในสถานที่ต่าง ๆ ในพื้นที่ดังกล่าว จำนวน 7 จุด ประกอบด้วยบริเวณสถานีรถไฟพัทลุง 3 จุด ร้านสหกรณ์พัทลุง ร้านเพื่อนเกษตร ฟาร์ม ร้านแสนสวย และร้านคุณจินตนา โพธิ์ดารา (ตรงข้ามร้านเพื่อนเกษตร)  ออกแบบและวาดภาพโดยนายลิขิต นิสีทนาการ กลุ่มศิลปิน "แลศิลป์ถิ่นเมืองลุง" ได้ใช้แนวคิดที่เกี่ยวกับวิถีชีวิต ขนบธรรมเนียม ประเพณี ศาสนา ซึ่งเป็นอัตลักษณ์ของประชาชนในพื้นที่จังหวัดพัทลุง

ทั้งนี้ เพื่อสนับสนุนให้เยาวชนและประชาชน เกิดจิตสำนึกรักบ้านเกิด และสามารถนำความรู้ที่ได้รับไปพัฒนาตนเองในด้านการประกอบอาชีพ และเพื่อสร้างจุดเช็คอินแห่งใหม่ในจังหวัดพัทลุง ให้สังคมน่าอยู่อย่างยั่งยืน จะเปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้าเยี่ยมชม และถ่ายภาพ ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2564 เป็นต้นไป

ทร. แจง อาวุธปืนขนาด 40 มม. ที่สหรัฐมอบให้ปี 14 สูญหาย มีอายุกว่า 50 ปี ระบุ เป็นอาวุธปืนสำรองคลังพร้อมตั้งกรรมการสอบหาข้อเท็จจริง

พล.ร.อ.เชษฐา  ใจเปี่ยม  โฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยถึงกรณรที่มีการนำเสนอข่าว เหตุอาวุธปืนกลขนาด 40 มิลลิเมตร ที่สหรัฐอเมริกามอบให้กองทัพเรือสูญหายไปจากคลังปืนใหญ่ กรมสรรพาวุธทหารเรือ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี จำนวน 2 กระบอก มูลค่าความเสียหายกว่า 3 ล้านบาท นั้น  จากการตรวจสอบ พบว่าอาวุธปืนที่สูญหายดังกล่าวเป็น อาวุธปืนประเภท ปืนยิงลูกระเบิดกล ขนาด 40  มิลลิเมตร รุ่น มาร์ค 20 ม็อด 0 ซึ่งเป็นอาวุธประจำเรือที่ติดตั้งกับเรือตรวจการณ์ลำน้ำของกองทัพเรือ โดยกองทัพเรือได้รับการช่วยเหลือทางทหารจากประเทศสหรัฐอเมริกา ตามโครงการความช่วยเหลือทางทหารเมื่อปี พ.ศ.2514 ซึ่งอาวุธปืนดังกล่าวได้ใช้ราชการมานานถึง 50 ปี   

ทั้งนี้ อาวุธปืนดังกล่าวข้างต้นทั้ง 2 กระบอก ได้ถูกถอดถอนมาเก็บรักษาไว้ที่คลังของ กรมสรรพาวุธทหารเรือ ตั้งแต่ปี 2530 และ 2552 ตามลำดับ  เนื่องจากเรือตรวจการณ์ลำน้ำที่ติดตั้งอาวุธปืนดังกล่าวปลดระวางประจำการ  โดยอาวุธปืนดังกล่าวมีราคากระบอกละ 1,600 บาท (ราคาในปีที่กองทัพเรือได้รับมอบจากสหรัฐฯ)
      
โฆษกกองทัพเรือ กล่าวต่อไปว่า กองทัพเรือไม่ได้นิ่งนอนใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยขณะนี้ได้ดำเนินการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างเร่งด่วน แม้ว่าอาวุธปืนที่สูญหายจะไม่ได้ใช้ในราชการแล้ว  แต่หากพบว่ามีข้าราชการนายใดที่เกี่ยวข้องกับการสูญหายของอาวุธปืน กองทัพเรือจะดำเนินการลงโทษทั้งทางวินัยและทางอาญาอย่างเด็ดขาดต่อไป

‘หลักสูตรเสริมสร้างสันติสุข สถาบันพระปกเกล้า’ ห่วงใยคนเมืองกรุง...จับมือพันธมิตรจิตอาสา ปันน้ำใจสร้างรอยยิ้มสู่ “ชุมชนประเสริฐเปรมประชา” ก้าวผ่านวิกฤติโควิดไปด้วย

พันธมิตรจิตอาสาลงพื้นที่ช่วยเหลือต่อเนื่อง วันที่ 1 กันยายน ที่ชุมชนประเสริฐเปรมประชา เขตดอนเมือง กรุงเทพมหานคร นายนัธที พีรวัส ประธานชุมชน พร้อมกรรมการ และชาวบ้าน ร่วมรับมอบข้าวกล่องพร้อมทานจาก "ครัวปันอิ่ม ร้อยเรียงใจสู้ภัยโควิด-19" พร้อมเครื่องตรวจออกซิเจนจากปลายนิ้ว และน้ำดื่ม เพื่อบรรเทาทุกข์แก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19

โดยมี นายสมชาย จรรยา อุปนายก สมาคมผู้สื่อข่าวและช่างภาพอาชญากรรมแห่งประเทศไทย พร้อมด้วย นายสุมิตร หิรัญวงศ์ ประธานสภาเทศบาลตำบลบางตะบูน และนางสาวพรทิพย์ เตชะสมบูรณากิจ กรรมการผู้จัดการ กลุ่มบริษัทในเครือ เวิลด์เมดิคอลซัพพลาย จำกัด ซึ่งเป็นตัวแทนนักศึกษาหลักสูตร เสริมสร้างสันติสุข (สสสส.) รุ่น 11-12 และหลักสูตรสิทธิมนุษยชนสำหรับนักบริหารระดับสูง (ปสม.)รุ่น 1 (ปสม.1) สถาบันพระปกเกล้า ร่วมกับพันธมิตรจิตอาสาจากองค์กรต่าง ๆ ประกอบด้วย มูลนิธิสหชาติ สำนักข่าว News Online Thailand เว็ปไซต์ข่าวจั่นเจา Canchaonews.com หนังสือพิมพ์ดีดีโพสต์ นิวส์ นำอาหาร และสิ่งของบรรเทาทุกข์ ส่งมอบถึงมือได้ปันอิ่มสร้างรอยยิ้มในยามวิกฤติการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโคโรนา

นายสมชาย จรรยา เปิดเผยว่า การช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากพิษโควิด ที่ส่งผลให้หลายครัวเรือนไม่สามารถออกไปทำงานหาเลี้ยงตัวเองและครอบครัว และยังรอคอย ความช่วยเหลืออย่างมีความหวัง จากทุกภาคส่วนในสังคมไทย พันธมิตรจิตอาสาเป็นกลุ่มคนเล็ก ๆ ที่อาสาตัวเข้ามาเป็นสะพานบุญ รับมอบเพื่อส่งต่อข้าวกล่องพร้อมทานโครงการ "ครัวปันอิ่ม ร้อยเรียงใจสู้ภัยโควิด-19" ของบริษัทในเครือซีพี  และ น้องเทนนิส พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ นักเทควันโดเหรียญทองโอลิมปิก 2020 ร่วมส่งกำลังใจถึงพี่น้องประชาชนผ่าน “ข้าวกล่องปันอิ่ม” และจากพันธมิตรจิตอาสา รวบรวมนไปำส่งมอบตามชุมชนต่างๆ ทั้งในกรุงเทพ ปริมณฑล และพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากแพร่ระบาดเชื้อโควิด เพื่อช่วยเหลือให้ทุกคนก้าวผ่านวิกฤติไปด้วยกัน

ด้านนายนัธที พีรวัส กล่าวว่า สภาพโดยทั่วไปชุมชนของเราอาศัยอยู่ตามแนวชายคลองเปรมประชากร กึ่งในน้ำและกึ่งบนบก ส่วนมากชาวชุมชนแห่งนี้จะมีอาชีพรับจ้าง และยากจนยากไร้เป็นส่วนมาก และเป็นอีกหนึ่งชุมชนที่แออัด ในสถานการณ์การแพร่เชื้อไวรัสโคโรนา มีผู้ติดเชื้อไปแล้ว 5 หลังคาเรือน ส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลแล้ว 10 คน และกลับมากักตัวอยู่ที่ชุมชนเพื่อทำการกักตัว 12 คนและไม่ติดโควิดแต่ยังอยู่กับผู้ป่วยอีก 10 คนรวมแล้วอยู่ในชุมชนประมาณ 30 คนที่เราดูแลกันอยู่ เพื่อไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดต่อไป และขอขอบคุณพันธมิตรจิตอาสาที่รวมกันหลายองค์กร โดยเฉพาะเครือซีพี ที่สนับสนุนข้าวพร้อมทานมามอบให้ได้ปันอิ่ม

องค์การอนามัยโลกกำลังจับตา Covid-19 สายพันธุ์ใหม่ที่ชื่อว่า 'มิว' ซึ่งเสี่ยงที่จะดื้อวัคซีน

จดหมายข่าวรายสัปดาห์เกี่ยวกับการระบาดของ Covid-19 ขององค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุว่า ขณะนี้องค์การอนามัยโลกกำลังเฝ้าจับตาเชื้อโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ที่เรียกว่า ‘มิว (Mu)’ หรือสายพันธุ์ B.1.621 ซึ่งพบครั้งแรกในประเทศโคลอมเบียเมื่อเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา

องค์การอนามัยโลกระบุว่า สายพันธุ์มิวซึ่งถูกจัดให้อยู่ในสายพันธุ์ที่น่าจับตามอง (variant of interest) มีการกลายพันธุ์ที่บ่งชี้ว่ามีความเสี่ยงที่จะดื้อต่อวัคซีน และย้ำว่ายังต้องศึกษาสายพันธุ์นี้เพิ่มเติมเพื่อทำความเข้าใจ

‘สายพันธุ์มิวมีกลุ่มของการกลายพันธุ์ที่บ่งชี้ว่ามีแนวโน้มที่จะมีคุณสมบัติในการหลบเลี่ยงภูมิคุ้มกัน’ จดหมายข่าวระบุ

ขณะนี้มีความกังวลอย่างกว้างขวางเกี่ยวกับการเกิดขึ้นของสายพันธุ์กลายพันธุ์ใหม่ ๆ เนื่องจากตัวเลขผู้ติดเชื้อทั่วโลกกลับมาเพิ่มขึ้นอีกครั้ง โดยมีสายพันธุ์เดลตาซึ่งแพร่กระจายได้ง่ายเป็นสายพันธุ์หลัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มคนที่ยังไม่ฉีดวัคซีน และในภูมิภาคที่มีการผ่อนคลายมาตรการป้องกันการแพร่ระบาด

ไวรัสทุกชนิด รวมทั้งเชื้อโคโรนาไวรัส SARS-CoV-2 ที่ก่อให้เกิดโรค Covid-19 กลายพันธุ์ตลอดเวลา และการกลายพันธุ์ส่วนใหญ่มีผลกระทบเล็กน้อยหรือไม่มีเลยกับคุณสมบัติของไวรัส

ทว่า การกลายพันธุ์บางอย่างส่งผลกระทบต่อคุณสมบัติของไวรัสและมีอิทธิพลกับความยากง่ายของการแพร่กระจาย ความรุนแรงของโรค และการดื้อต่อวัคซีน ยา หรือมาตรการรับมืออื่น

ปัจจุบันองค์การอนามัยโลกระบุให้ 4 สายพันธุ์ รวมทั้งอัลฟาซึ่งพบใน 193 ประเทศ และเดลตาซึ่งพบใน 170 ประเทศเป็นสายพันธุ์ที่น่ากัวล (variant of concern) และอีก 5 สายพันธุ์ รวมทั้งมิวเป็นสายพันธุ์ที่น่าจับตามอง

ทั้งนี้ หลังจากพบครั้งแรกในประเทศโคลอมเบีย มีการพบสายพันธุ์มิวแพร่ระบาดในอเมริกาใต้และยุโรป โดยมีอัตราความชุกของโรคทั่วโลกลดลงต่ำกว่า 0.1% ในจำนวนเคสที่ทำการตรวจสอบพันธุกรรม อย่างไรก็ดีในโคลอมเบียมีความชุกอยู่ที่ 39%


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!
A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!! 
>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท
>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ
>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต
>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย
***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก???? https://lin.ee/vfTXud9

'นพ.มนูญ' โพสต์ข้อความ ชี้ ผู้ป่วยที่หายจากโควิด-19 มีโอกาสผมร่วงวันละ 300 เส้น นาน 6 เดือน

วันนี้ (1 ก.ย. 64)  นพ.มนูญ ลีเชวงวงศ์ แพทย์เฉพาะทางด้านโรคระบบการหายใจ โรงพยาบาลวิชัยยุทธ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว เกี่ยวกับผู้ป่วยโควิด ทำให้ผมร่วงได้ โดยระบุว่า 

ผู้ป่วยโรคโควิด-19 หลาย ๆ คนมีปัญหาผมร่วงหลังจากที่หายป่วยไปแล้ว 2-3 เดือน ปัญหาที่เกิดขึ้นนี้ไม่ได้เกิดขึ้นจากไวรัสโดยตรง แต่เป็นผลพวงจากการเจ็บป่วยที่เกิดขึ้นกับร่างกายจากเชื้อไวรัส เช่น ไข้สูง ความเครียด ความวิดกกังวล ที่เป็นอาการที่พบได้จากการติดเชื้อไวรัสโควิด-19

โดยปกติแล้วเส้นผมคนเราจะร่วงวันละประมาณ 100 เส้น หลังจากหายป่วยจากโรคโควิด 2-3 เดือน ผมอาจร่วงได้ถึงวันละ 300 เส้น ตลอดระยะเวลา 6 เดือนเลยทีเดียว ส่วนใหญ่ผมที่ร่วงไปก็จะค่อย ๆ งอกกลับมาใหม่อีกครั้ง และกลับมามีผมเหมือนก่อนป่วยในเวลา 6-9 เดือน

ผู้ป่วยหญิงไทยอายุ 65 ปี ป่วยเป็นโรคโควิด-19 เมื่อวันที่ 16 เมษายน 2564 มีไข้สูง ไอ เหนื่อย เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเป็นเวลา 2 สัปดาห์ ขณะนี้หายดีเป็นปกติ ไม่ไอ ไม่เหนื่อย ผมเริ่มร่วงหลังจากหายป่วย 2 เดือนครึ่ง เวลาหวีผม ผมหลุดออกมาเป็นกระจุกหลายร้อยเส้นต่อวัน ผมร่วงต่อเนื่อง 2 เดือนผมบางลงมากทั้งศีรษะ ลูกสาวที่ป่วยพร้อมกัน ผมก็ร่วงเหมือนกันแต่น้อยกว่า

แนะนำผู้ป่วยไม่ต้องทำอะไร ไม่ต้องวิตกกังวล อีกประมาณ 4 เดือนผมก็จะหยุดร่วงและจะงอกขึ้นมาใหม่เหมือนเดิม


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!
A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!! 
>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท
>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ
>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต
>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย
***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก???? https://lin.ee/vfTXud9

อิสราเอลเจอเดลตาแผลงฤทธิ์ ยอดติดเชื้อและเสียชีวิตพุ่งสูง ทั้งที่ฉีดวัคซีนในผู้ใหญ่แล้ว 80%

อิสราเอลเมื่อวันอังคาร (31 ส.ค.) พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ใหม่รายวันเกือบ 11,000 คน สูงสุดนับตั้งแต่ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่เริ่มต้นขึ้น ท่ามกลางระลอกการแพร่ระบาดที่มีต้นตอจากตัวกลายพันธุ์เดลตา หนึ่งวันหลังจากยอดผู้เสียชีวิตสะสมทั่วประเทศทะลุ 7,000 ราย

สถิติพบผู้ติดเชื้อรายวันสูงสุดก่อนหน้านี้ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 18 มกราคม คราวนั้นพบผู้ติดเชื้อใหม่รายวัน 10,118 คน

แม้เคสผู้ติดเชื้อที่ได้รับการยืนยันในวันอังคาร (31 ส.ค.) จะสูงถึง 10,947 ราย แต่อิสราเอลยังคงเดินหน้าแผนกลับมาเปิดระบบการศึกษาเต็มรูปแบบในวันพุธ (1 ก.ย.) ขณะเดียวกัน ก็พยายามยกระดับอัตราการฉีดวัคซีนแก่ประชาชน

นายกรัฐมนตรีนาฟตาลี เบนเนตต์ ยืนกรานว่าสามารถควบคุมระลอกการแพร่ระบาดได้ผ่านการฉีดวัคซีนและมาตรการป้องกันต่าง ๆ ในนั้นรวมถึงสวมหน้ากาก หลังจากก่อนหน้านี้รัฐบาลของเขาสนับสนุนให้ประชาชนทุกคนที่มีอายุ 12 ปีขึ้นไป เข้ารับวัคซีนไฟเซอร์/ไบออนเทค เข็มที่ 3

จากประชากรทั้งหมด 9.3 ล้านคนของอิสราเอล จนถึงตอนนี้มีผู้เข้ารับวัคซีนครบ 2 เข็มแล้ว คิดเป็นราว ๆ 60% แต่หากนับเฉพาะประชากรวัยผู้ใหญ่ จะมีอัตราส่วนผู้ฉีดวัคซีนสูงถึง 80%

ในเดือนธันวาคมปีก่อน อิสราเอลเป็นหนึ่งในประเทศแรก ๆ ของโลกที่เริ่มโครงการฉีดวัคซีนแก่ประชาชน ช่วยฉุดให้จำนวนผู้ติดเชื้อรายวันลดลงอย่างมาก และเปิดทางให้พวกเขายกเลิกข้อจำกัดสกัดโรคระบาดใหญ่เกือบทั้งหมดในเดือนมิถุนายน

อย่างไรก็ตาม นับตั้งแต่นั้น อิสราเอลได้กลับมาบังคับใช้มาตรการต่าง ๆ หลายมาตรการอีกรอบ ในนั้นรวมถึงบังคับสวมหน้ากากยามอยู่ในร่ม จำกัดการรวมตัวทางสังคม และจำเป็นต้องแสดงเอกสารรับรองการฉีดวัคซีนหากต้องการเข้าไปในสถานที่สาธารณะบางแห่ง

เบนเนตต์ ระบุว่า โครงการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นกำลังแสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพในการสกัดไม่ให้มีผู้ติดเชื้ออาการหนักถึงขั้นเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลเพิ่มมากขึ้น

กระนั้นก็ตามหนึ่งวันก่อนหน้านี้ กระทรวงสาธารณสุขเผยแพร่รายงานระบุว่า ยอดผู้เสียชีวิตสะสมจากโควิด-19 ในอิสราเอล พุ่งเกิน 7,000 คนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลักหมายอันน่าเศร้าท่ามกลางการแพร่ระบาดระลอกแล้วระลอกเล่าของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่

จากข้อมูลจนถึงวันจันทร์ (30 ส.ค.) ระบุว่ามีชาวอิสราเอลเสียชีวิตจากโควิด-19 จำนวน 7,043 รายนับตั้งแต่โรคระบาดใหญ่เริ่มต้นขึ้น โดยอิสราเอลพบผู้เสียชีวิตรายแรกของประเทศในเดือนมีนาคม 2020 และจากนั้นหนึ่งปีต่อมา ยอดผู้เสียชีวิตสะสมแตะระดับ 6,000 คน

อิสราเอลเคยมีหลายสัปดาห์ที่ไม่มีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 เลยในช่วงเดือนพฤษภาคม หลังวัคซีนช่วยยับยั้งการแพร่กระจายเชื้อ แต่ไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ตัวเลขผู้เสียชีวิตกลับมาพุ่งขึ้นอีกครั้ง มีคนเสียชีวิตจากโควิด-19 มากกว่า 550 รายในเดือนสิงหาคม ในนั้น 100 คนเกิดขึ้นในช่วง 5 วันหลังสุด

รวมแล้วค่าเฉลี่ยผู้เสียชีวิตในเดือนสิงหาคม อยู่ที่ราว ๆ 18 คนต่อวัน สวนทางกับตลอดทั้งเดือนมิถุนายน ซึ่งพบผู้เสียชีวิตแค่เพียง 7 รายเท่านั้น


(ที่มา : เอเอฟพี/ไทม์สออฟอิสราเอล)
https://mgronline.com/around/detail/9640000086336


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!
A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!! 
>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท
>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ
>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต
>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย
***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก???? https://lin.ee/vfTXud9

'หมอยง' โพสต์ข้อความ ยก 'คำสาบานของแพทย์จบใหม่' เน้นคุณธรรม จริยธรรม ที่อยู่สูงกว่ากฎหมาย เชื่อ แพทย์ทุกคนเข้าใจในคำสาบาน

นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทาง ด้านไวรัสวิทยาคลินิก คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว 'Yong Poovorawan' ระบุว่า... 

โควิด-19 วัคซีน
ยง ภู่วรวรรณ 1 กันยายน 2564 
Hippocratic Oath คำปฏิญาณหรือคำสาบานของแพทย์ (ที่จบใหม่) ที่จะรักษาจรรยาบรรณแพทย์

แพทย์ทุกคนจะถูกสอนให้เน้นคุณธรรม จริยธรรม ที่อยู่สูงกว่ากฎหมาย และทุกคนจะต้องยึดมั่น สืบเนื่องมาตั้งแต่ 'ฮิปโปเครติส'

แพทย์สภาจะมีการแจกเอกสารดังกล่าว

โดยในคำสาบานนั้น จะเน้นถึงความกตัญญู และเน้นในคุณธรรม จริยธรรม ศีลธรรมของแพทย์ ต่อครูบาอาจารย์

ผู้ป่วย การปฏิบัติในการช่วยเหลือผู้ป่วย แต่ในปัจจุบันนี้ เชื่อว่าทุกคนที่เป็นแพทย์จะเข้าใจในคำสาบาน คงไม่ถึงกับต้องใช้กฎหมายกัน


ที่มา : https://www.facebook.com/story.php?story_fbid=6218418824867349&id=100000978797641


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!
A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!! 
>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท
>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ
>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต
>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย
***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก???? https://lin.ee/vfTXud9

นักวิจัยของบราซิลค้นพบโมเลกุลในพิษงูจาราราคุสซู สามารถยับยั้งเชื้อโควิดได้

นักวิจัยของบราซิล ค้นพบโมเลกุลในพิษของงูชนิดหนึ่งช่วยยับยั้งการแพร่พันธุ์ของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ในเซลล์ของลิงได้ ซึ่งอาจเป็นก้าวแรกที่นำไปสู่การพัฒนายาต้านเชื้อโควิดในอนาคต

รายงานจากเซาเปาโล ของสำนักข่าวรอยเตอร์ ระบุถึงแสงสว่างอีกครั้งบนโลกมนุษย์ เมื่อนักวิจัยชาวบราซิลพบว่าโมเลกุลในพิษของงูชนิดหนึ่ง มีประสิทธิยับยั้งการแพร่พันธุ์ของโคโรนาไวรัส ในเซลล์ลิง ซึ่งเป็นก้าวแรกที่เป็นไปได้สู่การใช้ยาเพื่อต่อสู้กับไวรัสที่ก่อให้เกิดโควิด-19

ผลการศึกษาที่ตีพิมพ์ในวารสารวิทยาศาสตร์ Molecules ในเดือนนี้ พบว่าโมเลกุลที่ผลิตโดยงูพิษชนิดหนึ่งคือ จาราราคุสซู (jararacussu) มีพลังในการยับยั้งความสามารถของไวรัสในการทวีคูณในเซลล์ลิง ได้ถึง 75%

ราฟาเอล กุยโด ศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัยเซาเปาโลและผู้เขียนผลการศึกษากล่าวว่า เราสามารถแสดงให้เห็นว่าพิษงูของส่วนประกอบนี้สามารถยับยั้งโปรตีนที่สำคัญมากจากไวรัสได้

โมเลกุลนี้เป็น "เปปไทด์" หรือสายโซ่ของกรดอะมิโน ที่สามารถเชื่อมต่อกับเอนไซม์ของโคโรนาไวรัส ที่เรียกว่า PLPro ซึ่งมีความสำคัญต่อการสืบพันธุ์ของไวรัสโดยไม่ทำอันตรายต่อเซลล์อื่น

กุยโด กล่าวต่อไปว่า เปปไทด์เป็นที่รู้จักในด้านคุณสมบัติต้านเชื้อแบคทีเรีย จึงสามารถสังเคราะห์เปปไทด์ได้ ทำให้ไม่จำเป็นต้องจับหรือเลี้ยงงู

“เราระมัดระวังเกี่ยวกับผู้คนที่ออกไปล่าจาราราคุสซูที่อาศัยรอบ ๆ บราซิล โดยคิดว่าพวกเขาจะกอบกู้โลกใบนี้คืนมา แต่ไม่ต้องทำแบบนั้น!”

ซึ่ง จูเซปเป้ ปูออร์โต้ นักสัตววิทยาที่ดูแลการรวบรวมทางชีววิทยาของสถาบันบูตันตัน ในเซาเปาโลกล่าวว่า ไม่ใช่พิษที่จะรักษาโคโรนาไวรัส

จากนี้ นักวิจัยจะใช้การประเมินประสิทธิภาพของปริมาณโมเลกุลที่แตกต่างกันและสามารถป้องกันไม่ให้ไวรัสเข้าสู่เซลล์ตั้งแต่แรกได้หรือไม่ ตามคำแถลงของมหาวิทยาลัยแห่งรัฐเซาเปาโล (Unesp) ซึ่งเกี่ยวข้องกับการวิจัยทั้งหมด

พวกเขาหวังว่าจะทดสอบสารในเซลล์ของมนุษย์ในเร็ววันนี้

สำหรับ จาราราคุสซู เป็นงูพิษขนาดใหญ่ในบราซิล โดยมีความยาวไม่ต่ำกว่า 2 เมตร มันอาศัยอยู่ในป่าแอตแลนติกชายฝั่งและยังพบในโบลิเวีย, ปารากวัย และอาร์เจนตินา อีกด้วย


ที่มา : https://www.naewna.com/inter/598961


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!
A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!! 
>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท
>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ
>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต
>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย
***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก???? https://lin.ee/vfTXud9


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top