Thursday, 15 May 2025
NEWS FEED

“กรมอนามัย” เผยเด็กเล็ก 0-5 ปี ติดเชื้อโควิด-19 สะสม 31,811 คน พบติดจากคนใกล้ชิด แนะศูนย์เด็กยกระดับป้องกันด้วย ATK เพื่อลดการติดและแพร่เชื้อในครอบครัว

30 สิงหาคม 2564 นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า หลังจากพบการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเทศบาลตำบลขึ่ง อำเภอเวียงสา จังหวัดน่าน โดยการติดและแพร่ระบาดครั้งนี้มาจากผู้ดูแลเด็ก เบื้องต้นพบเด็กในศูนย์พัฒนาเด็กปฐมวัยเข้าข่ายกลุ่มเสี่ยงกว่า 70 คน พบผู้ป่วยเป็นเด็กเล็กจำนวน 11 คน อายุต่ำสุด 4 เดือนนั้น จากกรณีดังกล่าวจะเห็นได้ว่าเคยเกิดการระบาดในลักษณะกลุ่มก้อนเช่นนี้มาก่อน และกลุ่มเด็กเล็กเป็นกลุ่มสำคัญที่ต้องเฝ้าระวังหลังพบแนวโน้มระบาดในกลุ่มนี้เพิ่มมากขึ้น

ทั้งนี้ จากรายงานสถานการณ์โควิด-19 เด็กปฐมวัย (0-5 ปี) พบเด็กติดเชื้อตั้งแต่ 1 เมษายน - 14 สิงหาคม 2564 จำนวน 26,513 คน เป็นคนไทย 22,982 คน ต่างชาติ 3,531 คน เสียชีวิตสะสม 5 คน และจากข้อมูลล่าสุด 21 สิงหาคม 2564 พบจำนวนเด็กติดเชื้อเพิ่มขึ้น 5,298 คน เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อน คิดเป็นร้อยละ 3.7 เป็นคนไทย 4,773 คน ต่างชาติ 525 คน และเสียชีวิตเพิ่ม 4 คน เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อน คิดเป็นร้อยละ 33 ส่งผลให้มียอดรวมเด็กติดเชื้อสะสม ณ วันที่ 21 สิงหาคม 2564 จำนวน 31,811 คน เป็นคนไทย 27,755 คน ต่างชาติ 4,056 คน เสียชีวิตรวม 9 คน

โดยกรุงเทพมหานครพบมีการติดเชื้อสูงสุด 5,806 คน รองลงมาคือ จังหวัดสมุทรสาคร 2,324 คน และ จังหวัดชลบุรี 1,993 คน สาเหตุที่ติดเชื้อมากที่สุดคือสัมผัสกับคนใกล้ชิดที่เป็นผู้ป่วยยืนยันมากที่สุด 18,807 คน

นายแพทย์สุวรรณชัย ระบุว่า การติดและแพร่เชื้อในเด็กเล็กที่ผ่านมามักไม่ต่างไปจากการติดเชื้อในผู้ใหญ่ แต่เด็กอาจจะมีแนวโน้มที่จะเกิดอาการรุนแรงหรือมีภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงได้ หากผู้ป่วยเด็กคนนั้นมีภาวะอ้วน เป็นโรคพันธุกรรมเมตาบอลิก เบาหวาน หอบหืด หัวใจพิการแต่กำเนิด หรือภาวะผิดปกติทางระบบประสาทในบางรายส่งผลให้อันตรายถึงชีวิตได้

นายแพทย์สุวรรณชัย กล่าวต่อไปว่า ขอให้ศูนย์พัฒนาเด็กปฐมวัยที่ยังเปิดให้บริการอยู่เข้าประเมินตนเองผ่าน Thai Stop COVID Plus พร้อมยกระดับการคุมเข้มขั้นสูงสุดโดยมีการทำความสะอาดสถานที่ สิ่งของเครื่องใช้ จุดสัมผัสต่าง ๆ รวมถึงยานพาหนะที่ใช้รับส่งให้สะอาด ปลอดภัย มีการกำหนดจุดรับ-ส่งเข้าออกเฉพาะจุดเท่านั้น และไม่อนุญาตให้บุคคลภายนอกเข้ามาบริเวณพื้นที่ภายในของศูนย์พัฒนาเด็กปฐมวัย มีการกำหนด จุดคัดกรอง วัดไข้ จุดล้างมือ ล้างเท้าชัดเจน ด้านครูผู้ดูแลเด็กจะต้องสังเกตอาการตนเองหรือคนใกล้ชิดอยู่เสมอ หากมีไข้ ไอ เหนื่อยหอบ หรืออาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยง ให้หยุดงานทันที รวมทั้งควรเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนปฏิบัติงานทุกครั้ง สวมหน้ากากอนามัย

ในส่วนของการจัดกิจกรรมควรให้เด็กอยู่ภายในกลุ่มตัวเองหรือแยกเป็นรายบุคคล ไม่ให้ข้ามกลุ่มไปมา เพื่อลดความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดโรค รวมทั้งการกินอาหารและการนอน ต้องเว้นระยะห่าง 1-2 เมตร หรือมีฉากกั้นระหว่างบุคคล และหากพบว่าเป็นผู้ที่มีความเสี่ยงสูง ต้องยกระดับการป้องกันโควิด-19 ด้วยการคัดกรองครูผู้ดูแลเด็กด้วยการตรวจ ATK

“ด้านพ่อแม่ ผู้ปกครอง เมื่อมารับเด็กกลับบ้าน ไม่ควรแวะตามสถานที่เสี่ยงต่าง ๆ ขอให้รีบกลับบ้าน และให้เด็กอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าทันทีเมื่อถึงบ้าน อีกทั้งเพื่อเป็นการจำกัดการแพร่ระบาดของโควิด-19 สู่ครอบครัว ขณะอยู่บ้านขอให้สมาชิกในครอบครัวปฏิบัติ ดังนี้ 

1.) เว้นระยะห่างระหว่างกัน จำกัดการเดินทางเท่าที่จำเป็น และไม่ไปในที่มีคนหนาแน่น 
2.) สวมหน้ากากตลอดเวลา ยกเว้นเฉพาะเวลากินอาหาร และไม่กินอาหารร่วมกัน หากจำเป็นต้องดูแลให้เด็กกินอาหาร ผู้ปกครองควรแยกหรือเหลื่อมเวลาการกิน 
3.) หมั่นล้างมือด้วยสบู่และน้ำ หรือเจลแอลกอฮอล์บ่อย ๆ และ 
4.) ผู้ปกครองควรทำงานที่บ้าน และประเมินความเสี่ยงตนเองผ่าน "ไทยเซฟไทย” ทุกวัน หากสังเกตอาการมีไข้สูงกว่า 37.8 องศาเซลเซียส ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก คัดจมูกหายใจไม่สะดวก อาจมีปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ท้องเสีย และถ้ามีประวัติสัมผัสกับผู้ป่วยที่ยืนยันว่าติดเชื้อควรตรวจและคัดกรองตนเองด้วย ATK เช่นกัน” อธิบดีกรมอนามัย กล่าว


ที่มา : https://www.naewna.com/local/598561


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!
A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!! 
>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท
>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ
>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต
>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย
***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก???? https://lin.ee/vfTXud9

'เอ๋'​ พิชชานันท์ มหาโชติ นักวิ่งสาวจอมอึดยอดกตัญญู สร้างประวัติศาสตร์เป็นหญิงไทยคนแรก พิชิตเทรลระดับโลก 'อัลตร้า เทรล ดู มองบลังค์'​ หรือ​ UTMB ระยะ 100 ไมล์

สุดยอด! 'เอ๋'​ พิชชานันท์ มหาโชติ นักวิ่งสาวจอมอึดยอดกตัญญู สร้างประวัติศาสตร์เป็นหญิงไทยคนแรก พิชิตเทรลระดับโลก 'อัลตร้า เทรล ดู มองบลังค์'​ หรือ​ UTMB ระยะ 100 ไมล์ ด้วยเวลา 42:10:56 ชม. ทั้งที่ก่อนแข่งขันต้องพบข่าวร้ายคุณแม่เสียชีวิตจากโควิด-19 โดยเจ้าตัวอยู่ฝรั่งเศสไม่ได้ดูใจ

จากเฟซบุ๊ก​ Doctor Runner -​ วิ่งดิหมอ​ ได้โพสต์ข้อความระบุว่า... 

พี่เอ๋ทำได้ ! พี่เอ๋ทำได้ ! คนไทยทำได้ !!!

หญิงไทยคนแรกผู้พิชิต UTMB !!!

คุณเอ๋ พิชชานันท์ มหาโชติ ????‍♀️????????

เวลา 42:10:56 ชม. (ความเร็ว 4.1 กม./ชม.)

ระยะทาง 172.12 กม. ความชันสะสม 10,055 เมตร (cut-off time 46 ชั่วโมง 30 นาที)

ไม่แกร่งจริง ไม่มาถึงจุดนี้ ???????? วิ่งไม่นอนตลอดกว่า 42 ชม. ผ่านคืนอันหนาวเหน็บถึง 2 คืนต่อเนื่องกัน ... ยอดมนุษย์ หญิงเหล็ก !

วินาทีที่พี่เอ๋เข้าเส้นชัย พี่เอ๋อยู่ในอันดับ

- Overall 806/2,347
- หญิงอันดับที่ 65/187 !!! สุดยอด !!!

(จากผู้เข้าร่วม ณ หน้าเส้นสตาร์ท 2,347 ราย DNF ระหว่างทางไปแล้ว 807 ราย คิดเป็นกว่า 34% คาดการณ์ว่า Finishers UTMB ปีนี้ จะอยู่ที่ประมาณ 1,530+ ราย)

พี่เอ๋ คุมแรงและความเร็วได้อย่างคงที่ ตลอดระยะทาง 170 กว่ากิโลเมตร ผ่านยอดเขานับสิบลูก ไม่มีหยุด พร้อมกับกำลังใจอันล้นหลามจากทีมงาน และชาวไทย

ในที่สุด ความมุ่งมั่นทั้งหมดนั้น ก็ได้แสดงให้เห็นแล้ว ที่หน้าเส้นชัยของสนามเทรลระดับโลก อย่าง UTMB

คนไทยทำได้ !!!

สำหรับ 'เอ๋'​ พิชชานันท์ เป็นชาว จ.ราชบุรี ถือเป็นนักวิ่งหญิงแกร่งสู้ชีวิตยอดกตัญญูตัวจริง ก่อนหน้านี้ช่วง พ.ศ.2558 เคยทำงานโรงงานก่อนลาออกมาเพื่อดูแลคุณแม่ที่ป่วยติดเตียง และเป็นจุดเริ่มต้นในการเริ่มวิ่ง ใช้เวลาว่างหลังจากดูแลคุณแม่มาฝึกซ้อมด้วยตนเอง รองเท้าวิ่งคู่แรกซื้อจากตลาดนัดราคา 99 บาท ด้วยความมานะมุ่งมั่นและย่อท้อต่อชะตาชีวิตของทำให้กลายเป็นนักวิ่งแถวหน้าของไทยได้อย่างรวดเร็ว 

อย่างไรก็ตาม ก่อนการแข่งขัน พิชชานันท์ ต้องพบกับข่าวร้ายคุณแม่เสียชีวิตจากโควิด-19 ระหว่างที่อยู่ฝรั่งเศส ซึ่งเจ้าตัวต้องพกสภาพจิตใจที่บอบช้ำกับความฝันอันยิ่งใหญ่ลงแข่งขัน รวมทั้งในช่วงที่ฝึกซ้อมเจอเด็กมาขโมย เจ้าตัวจึงวิ่งตามจักรยานจนทัน ทำให้ได้เอกสารและสิ่งของสำคัญคืนทั้งหมด

หลังแข่งขัน พิชชานันท์ กล่าวว่า ตลอดระยะทางไม่ล้มเลยสักครั้งเดียว วิ่งอย่างระมัดระวัง อิ่มใจน้ำตาไหลตั้งแต่ก่อนถึงเส้นชัย คิดถึงแม่อยากให้แม่รับรู้ อยากให้แม่ไม่ต้องเป็นห่วง จะดูแลตัวเองให้ดี ทำความฝันสำเร็จแล้ว อยากให้แม่เป็นกำลังใจให้ตลอดไป


ที่มา : https://www.facebook.com/story.php?story_fbid=386826179480743&id=100044600910170
https://www.dailynews.co.th/news/213844/


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!
A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!! 
>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท
>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ
>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต
>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย
***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก???? https://lin.ee/vfTXud9

'บี พีระพัฒน์' โพสต์ข้อความฟาดชาวเน็ตตรรกะพัง หลังมีคนทวิตแซะ 'ได้กลิ่นกะทิบูด'

หลังถูกชาวเน็ตรายหนึ่งทวิตข้อความถึงทำนองได้กลิ่นกะทิบูด ฟังเพลงไม่ลง ทำเอานักร้องดัง “บี พีระพัฒน์ เถรว่อง” ออกมาสับแหลกทันทีในเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยเจ้าตัวระบุว่า...

“ไปเจอมาในทวิต คงมีอีกหลายคนที่คิดแบบนี้ ถ้าไม่ใช่สามกีบต้องเป็นสลิ่ม หรือ ถ้าไม่ใช่สลิ่มคือสามกีบ ตรรกะพังมาก โลกมีความหลากหลายนะครับ ฝาแฝดยังคิดไม่เหมือนกันเลย มันคือเรื่องธรรมชาติที่สุดแล้ว"

"แล้วการรังเกียจคนอื่นเพราะความเห็นที่แตกต่างนี่ เคยมีตัวอย่างจากสมัยฮิตเลอร์โน้มน้าวให้คนเกลียดยิว เดินผ่านคือถุยน้ำลายใส่หน้าเลย สุดท้ายฆ่ายิวไปสองล้านคน เราจะเอาแบบนั้นใช่ไหมครับ?"

"ส่วนตัวผมไม่เกลียดคนที่มีความเห็นเรื่องการเมืองไม่เหมือนผมหรอกครับ แต่ถ้าเป็นนักการเมืองที่คอยปั่นหัวให้ผู้คนเกลียดกันละก็ หึหึ...#คอมเมนต์ได้อย่าหยาบคาย #ใช้เหตุผลอย่าใช้อารมณ์"

"ประเด็นคือ อย่าเกลียดกันเลย อย่าใช้ความเกลียดเป็นสารตั้งต้น มันจะทำให้เราฆ่ากัน ผมสรุปให้สั้น ๆ นะ อย่าตีความไปไกลเลยขอร้อง”


ที่มา : https://mgronline.com/entertainment/detail/9640000085521
https://www.facebook.com/bepeerapat/photos/a.10151378471043587/10158272134413587/


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!
A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!! 
>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท
>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ
>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต
>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย
***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก???? https://lin.ee/vfTXud9

กรุงเทพฯ ครองแชมป์เมือง workation เหมาะทำงานไป-พักผ่อนไปที่สุดในโลก เหตุค่าครองชีพถูก สิ่งอำนวยความสะดวกครบ ที่เที่ยวหลากหลาย

กรุงเทพฯ ครองแชมป์เมือง workation เหมาะทำงานไป-พักผ่อนไป ที่สุดในโลก เหตุค่าครองชีพถูก สิ่งอำนวยความสะดวกครบ ที่เที่ยวหลากหลาย

เพราะเทคโนโลยีการสื่อสารที่พัฒนา และได้รับการพิสูจน์แล้วว่าใช้งานได้เป็นอย่างดีในช่วงการระบาดครั้งใหญ่ ทำให้พนักงานทั่วโลกเริ่มมีแนวคิดที่ว่า “ทำไมถึงต้องทำงานเฉพาะที่บ้านเท่านั้น ในเมื่อจริง ๆ แล้วเราสามารถไปนั่งทำงานริมชายหาด หรือที่ไหนก็ได้?”

แนวคิดที่ว่าจึงเกิดเป็นเทรนด์ Workation ซึ่งก็คือคำว่า work + vacation หรือหมายถึงการทำงานพร้อม ๆ กับการพักผ่อนไปด้วย ซึ่งอาจจะเป็นที่นิยมมากขึ้น และแพร่หลายมากกว่าที่เคย

Holidu.co.uk เสิร์ชเอนจิ้นสำหรับค้นหาสถานที่พักผ่อนสัญชาติอังกฤษ ได้จัดอันดับ 150 เมืองสำหรับการทำงานไปพักผ่อนไป โดยวัดจากปัจจัยต่าง ๆ ตั้งแต่ ค่าเช่ารายเดือนของอพาร์ตเมนต์แบบ 1 ห้องนอน, ค่าเครื่องดื่มหลังเลิกงาน

ไปจนถึงค่าเฉลี่ยจำนวนชั่วโมงที่แดดออกต่อวัน, ความเร็ว Wi-Fi และกิจกรรมน่าสนใจ โดยใช้ข้อมูล 8 แหล่งซึ่งรวมถึงเว็บไซต์ BestCities.org และ Tripadvisor.co.uk ด้วย

ซึ่งผลปรากฏว่า กรุงเทพฯ ครองอันดับ 1 เมืองเหมาะแก่การทำงานไปพักผ่อนไปประจำปีนี้ ตามมาด้วยนิวเดลี ประเทศอินเดีย, ลิสบอน ประเทศโปรตุเกส, บาร์เซโลนา ประเทศสเปน

ตามมาด้วยอันดับ 5 ร่วม ได้แก่ กรุงบัวโนสไอเรส อาร์เจนตินา และกรุงบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี ขณะที่ภูเก็ตติดอันดับที่ 10

Holidu ระบุว่า สำหรับกรุงเทพฯ ที่ได้อันดับ 1 นั้น เนื่องจากมีค่าครองชีพไม่แพง, ความสามารถทางภาษาอังกฤษอยู่ในระดับสูง, สถานที่ท่องเที่ยวหลากหลาย, มีสิ่งอำนวยความสะดวกระดับโลกมากมาย และมีสำนักงานของบริษัทข้ามชาติหลายบริษัท

“ทุกเมืองในอันดับต้น ๆ ส่วนใหญ่มีค่าครองชีพไม่แพงมาก เหนือสิ่งอื่นใด เมืองเหล่านี้ยังเป็นแหล่งรวมวัฒนธรรมของตนเอง และมีสิ่งน่าทึ่งให้ดูและทำมากมาย” ซาราห์ ซิดเดิล ผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์และการตลาดของ Holidu กล่าว

ซิดเดิลยังกล่าวอีกว่า การแพร่ระบาดกว่า 1 ปีครึ่งที่ผ่านมาได้เปลี่ยนวิธีการทำงานของคนโดยสิ้นเชิง ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเราไม่จำเป็นต้องนั่งอยู่ในออฟฟิศ 5 วันต่อสัปดาห์เพื่อทำงานเสมอไป

“workation กลายเป็นวิธีที่สมบูรณ์แบบในการใช้เวลาสำรวจจุดหมายปลายทางที่ต้องการได้นานขึ้น โดยไม่มีข้อจำกัดเรื่องการเข้าพักเท่าที่ลาพักร้อนได้อีกต่อไป”

ซิดเดิลยังระบุอีกว่า คาดว่าจะเห็นแนวโน้มการทำงานแบบนี้เพิ่มขึ้นในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า เนื่องจากปัจจุบันบริษัทจำนวนมากเริ่มให้ความยืดหยุ่นในการทำงานกับพนักงานมากขึ้น

โดยให้พนักงานเดินทางไปต่างประเทศเป็นเวลานานในช่วงที่ทำงานได้ ซึ่งส่งผลให้พนักงานมีความสมดุลในชีวิตและการทำงานมากขึ้น


ที่มา : https://www.cnbc.com/2021/08/29/here-are-the-worlds-top-spots-for-working-vacations.html
https://www.facebook.com/109785344593658/posts/174311551474370/?d=n


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!
A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!! 
>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท
>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ
>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต
>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย
***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก???? https://lin.ee/vfTXud9

ตำรวจบุกรวบเจ้าอาวาสวัดดังเชียงใหม่นำพระและฆราวาสตั้งวงปาร์ตี้หมูกระทะ และดื่มเบียร์หน้าองค์พระประธาน

เชียงใหม่ - เจ้าอาวาสวัดดังเชียงใหม่นำพระและฆราวาสตั้งวงปาร์ตี้หมูกระทะ และดื่มเบียร์หน้าองค์พระพุทธรูป ชาวบ้านแฉจัดสังสรรค์สนุกสนานเป็นประจำจนสุดทนพฤติกรรมแจ้งตำรวจตรวจสอบ จับได้คาหนังคาเขา พบประวัติเป็นพระนักพัฒนาชื่อดัง เคยโชว์อิทธิฤทธิ์พรมน้ำมนต์เป็นพระธาตุ และเปิดร้านกาแฟในวัดให้พระเป็นบาริสตาจนออกข่าวดัง

(30 ส.ค. 64) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.อ.รณชัย ลอดลอย ผกก.สภ.ภูพิงค์เชียงใหม่ ได้เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สภ.ภูพิงค์เชียงใหม่ได้รับการร้องเรียนว่าวัดปันเสา วัดดังของเชียงใหม่ บริเวณคูเมืองเชียงใหม่ คณะสงฆ์ในวัดนำทีมโดยเจ้าอาวาส ล้อมวงกันดื่มเหล้าเบียร์ ทั้งพูดคุยกันเป็นทั้งภาษาพูดภาษาสวดแบบไม่เกรงกลัวกฎหมาย ขอให้ตำรวจมาดำเนินการตรวจสอบจับกุม

ดังนั้นจึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สภ.ภูพิงค์เชียงใหม่เข้าดำเนินการตรวจสอบ พอเปิดประตูเข้าไปพบคณะสงฆ์ 6 รูป และฆราวาส 1 คน กำลังนั่งล้อมวงกินหมูกระทะ และเหล้าเบียร์อย่างสนุกสนาน แต่เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกคนต่างแสดงอาการสำรวม และยอมรับว่าดื่มเหล้าเบียร์กันจริง โดยมีเจ้าอาวาสวัดเป็นหัวโจก โดยมีทั้งเหล้า เบียร์กระป๋อง และกับแกล้มเพียบ

เบื้องต้นทั้งหมดยอมรับสารภาพว่าได้ดื่มสุราเบียร์กันจริง เป็นความผิดแค่ปาจิตตีย์ ทางตำรวจจึงได้เชิญทั้งหมดไปสอบสวนที่สถานีตำรวจ โดยพระสงฆ์ดังกล่าวได้พยายามโทรศัพท์ติดต่อพูดคุยกับผู้หลักผู้ใหญ่ที่เป็นศิษย์เพื่อขอความช่วยเหลือ อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งข้อหากระทำผิด พ.ร.บ.การควบคุมโรค และทำการดื่มสุราเกินเวลาที่กฎหมายกำหนดแล้วในเบื้องต้น ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างสอบปากคำ

สำหรับเจ้าอาวาสวัดแห่งนี้โด่งดังจากการพรมน้ำมนต์กลายเป็นพระธาตุ มีลูกศิษย์มากมาย เป็นพระนักพัฒนา และเปิดร้านกาแฟที่วัดโดยให้พระเณรเป็นบาริสตาจนเป็นที่โด่งดังของเชียงใหม่ โดยตามรายงานข่าวระบุด้วยว่าพระสงฆ์ที่ถูกจับกุมพร้อมกันนั้นมีพระจากวัดอื่นในตัวเมืองเชียงใหม่เข้าร่วมวงด้วยและหนึ่งในนั้นเป็นเจ้าอาวาสวัดชื่อดังในตำบลหายยา อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่


ที่มา : https://mgronline.com/local/detail/9640000085484


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!
A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!! 
>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท
>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ
>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต
>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย
***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก???? https://lin.ee/vfTXud9

'จีน' เข้มงวด! ตัดแต้มทางสังคม คนฝืนกฎจราจรโดนประจานผ่านจอยักษ์ ขึ้นภาพแสดงข้อมูลส่วนตัว

เพจอ้ายจง เล่าเรื่องเมืองจีน โพสต์ข้อความเกี่ยวกับการใช้มาตรการทางสังคมประจานคนฝ่าฝืนกฎจราจรในประเทศจีน โดยระบุว่า ย้อนรอย บทลงโทษคนทำผิดกฎจราจรในจีน "ถ่ายรูปประจานขึ้นหน้าจอขนาดใหญ่ พร้อมโชว์ข้อมูลส่วนตัว และตัดคะแนนเครดิตทางสังคม"

ปัญหา “ข้ามถนนแบบไม่เคารพกฎจราจร” รวมถึงพฤติกรรมอื่น ๆ ที่ฝ่าฝืนการใช้ถนน เช่น เดินลงไปบนเลนถนนใหญ่ ไม่สนใจรถที่กำลังใช้ถนนและไม่ใช่ทางข้าม หรือ รถยนต์ไม่หยุดให้คนข้ามถนนที่กำลังข้ามทางม้าลาย ถือเป็นปัญหาการทำผิดกฎจราจรที่พบได้บ่อยมากในประเทศจีน

ทำให้ 4-5 ปีก่อน ตำรวจจราจรในจีนหลายเมือง นำมาตรการ "เก็บภาพด้วยกล้องวงจรปิดและนำขึ้นจอขนาดใหญ่พร้อมโชว์ข้อมูลส่วนบุคคลโดยอัตโนมัติบนจอ” ติดตั้งตามสี่แยก ตามถนนต่าง ๆ อย่างตอนอ้ายจงใช้ชีวิตอยู่ที่เมืองซีอาน มณฑลส่านซี ก็มีใช้มาตรการนี้ และเท่าที่ทราบ ในเมืองอื่น ๆ ก็มีแบบนี้เช่นกัน เช่น เมืองหนานจิง มณฑลเจียงซูและกรุงปักกิ่ง เมืองหลวงของจีน

ลองดูจากภาพที่อ้ายจงโพสต์ได้เลยครับ

แต่แม้จะมีมาตรการข้างต้น ปัญหาทำผิดกฎจราจรของคนเดินถนน รวมถึงผู้ใช้รถ ก็ยังมีให้เห็นเยอะสำหรับปัญหาซ้ำเดิม ทางจีนจึงต้องกำหนดมาตรการที่เข้มงวดกว่าเดิม

อย่างเมื่อปี 2019 หรือ 2 ปีก่อน ทางจีนได้ประกาศบทลงโทษใหม่สำหรับผู้ที่ชอบข้ามถนนโดยไม่เคารพกฎจราจร ลงโทษด้วยการ "หักคะแนน-เครดิตทางสังคม" เป็นการต่อยอดจากบทลงโทษ "เก็บภาพด้วยกล้องวงจรปิดและนำขึ้นจอขนาดใหญ่พร้อมโชว์ข้อมูลส่วนบุคคลโดยอัตโนมัติบนจอ"

เมืองที่เริ่มนำการกระทำข้ามถนนฝ่าฝืนกฎจราจรไปตัดเครดิตทางสังคม คือเมืองหนานจิง มณฑลเจียงซู โดยระบุว่า "หากทำผิดข้ามถนนแบบไม่เคารพกฎจราจร มากกว่า 5 ครั้ง ภายใน 1 ปี จะโดนหักแต้มเครดิตทางสังคมโดยทันที"

ในเมืองจีนหากใครที่มีคะแนนเครดิตทางสังคมไม่ดี จะถูกจำกัดสิทธิต่าง ๆ เช่น ห้ามขึ้นเครื่องบิน-รถไฟความสูง โดนปฏิเสธการกู้เงินธนาคาร รวมถึงมีผลต่อการคัดเลือกเวลาสมัครงาน เป็นต้น

ต้องยอมรับว่า จีนพยายามหามาตรการใหม่ ๆ ที่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นมาแก้ปัญหาเหล่านี้อยู่ตลอดเวลา อย่างสองปีมานี้ เริ่มมีการใช้ระบบรู้จำใบหน้าด้วยปัญญาประดิษฐ์ มาตรวจจับผู้กระทำผิดกฎจราจรโดยอัตโนมัติ และจีนก็เพิ่มพฤติกรรมที่ผิดกฎจราจรให้เป็นไปตามยุคสมัยด้วย เช่น เมืองเจียซิง มณฑลเจ้อเจียง ออกกฎหมายห้ามก้มหน้าเล่นมือถือขณะเดินข้ามถนน เป็นต้น

#อ้ายจง #เล่าเรื่องเมืองจีน #ชีวิตในจีน


ที่มา : https://www.facebook.com/348166825314887/posts/2318597441605139/


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!
A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!! 
>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท
>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ
>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต
>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย
***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก???? https://lin.ee/vfTXud9

มูลนิธิหัวใจบริสุทธิ์มอบแคปซูลเพื่อใช้บรรจุยาสมุนไพรฟ้าทะลายโจร 1,000,000 แคปซูล ให้จังหวัดฉะเชิงเทรา ต้านภัยโควิด-19

ที่ศาลากลางจังหวัดฉะเชิงเทรา นายไมตรี ไตรติลานันท์  ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรารับมอบแคปซูลเพื่อใช้บรรจุยาสมุนไพรฟ้าทะลายโจรจำนวน 1,000 ,000 แคปซูล  โดยนายสมโภชน์  อาหุนัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท พลังงานบริสุทธิ์  และนางสาวกุลพรภัสร์ วงศ์มาจารภิญญา ประธานผู้บริหารโครงการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมฉะเชิงเทราบลูเทคซิตี้  ในฐานะประธานที่ปรึกษามูลนิธิหัวใจบริสุทธิ์ มอบให้ทีมงาน CSR นิคมอุตสาหกรรม ฉะเชิงเทรา บลูเทค ซิตี้ เป็นผู้แทนมอบ 

โดยทางจังหวัดจะกระจายส่งมอบต่อให้ศูนย์ศึกษาการพัฒนาเขาหินซ้อนอันเนื่องมาจากพระราชดำริ อ.พนมสารคาม และหน่วยงานต่างๆ รวมทั้งวัดในจังหวัดฉะเชิงเทรา ที่ผลิตสมุนไพรฟ้าทะลายโจรนำไปบรรจุ และจัดสรรให้แก่ผู้ป่วยโควิด-19 ที่กำลังรักษาตัวและแจกจ่ายประชาชนในพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทรา

สำหรับการใช้สมุนไพรฟ้าทะลายโจรเป็นทางเลือกในการรักษาผู้ป่วยโควิด -19 เป็นไปตามแนวทางที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุขได้ให้การรับรองว่า สมุนไพรฟ้าทะลายโจรสามารถใช้รักษาผู้ป่วยโรคโควิด -19 ที่มีความรุนแรงน้อยได้

ทั้งนี้ ภาคเอกชนโดย EA  ร่วมกับ บลูเทคซิตี้ และมูลนิธิหัวใจบริสุทธิ์ ขอร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนภารกิจโควิด-19 และช่วยเหลือสังคม เพื่อแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายผู้ได้รับผลกระทบ พร้อมส่งกำลังใจให้พี่น้องชาวไทยทุกคน ทุกภาคส่วน ผ่านวิกฤตนี้ไปด้วยกัน

เกิดเหตุระเบิดแยกเหล่ดาน กรุงย่างกุ้ง คาดเป็นกลุ่ม NUG ออกมาป่วนเมือง

เช้ามืดวันนี้ (30 ส.ค.) เวลาประมาณ 05.00 น. เวลาเมียนมา หรือ 05.30 น.ตามเวลาประเทศไทย ได้เกิดเหตุระเบิดขึ้นที่แยกเหล่ดาน กรุงย่างกุ้ง เสียงระเบิดดังสนั่น ควันคละคลุ้งมองเห็นได้ในระยะไกล แต่ยังไม่มีรายงานความเสียหาย จำนวนผู้ได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิต ถูกเผยแพร่ออกมา 

อย่างไรก็ตามจากเหตุการณ์ระเบิดกลางใจเมืองใหม่ในย่าน Hledan ของย่างกุ้งนั้น ทางเพจ Look Myanmar ได้โพสต์ข้อความถึงความสอดคล้องกับกลุ่ม NUG อย่างชัดเจน ว่า... 

หากเราเข้าไปดูในเพจเฟซบุ๊ก National Unity Government of Myanmar (NUG) จะเห็นว่าเมื่อวานมีการโพสต์ข้อมูลเตือนประชาชนไม่ว่าจะเป็นการปฏิบัติตัวหากได้ยินเสียงปืนหรือระเบิดก็ดีนี่เป็นการบ่งชี้ว่าผู้กระทำนั้นไม่ใช่กลุ่มอื่นใดเลยแต่เป็นกลุ่ม NUG ชัดเจน

ในขณะที่รัฐบาลทหารพยายามอย่างมากที่จะสร้างความสงบให้กลับมาไม่ว่าจะเรื่องการแจกจ่ายวัคซีนไปยังที่ต่าง ๆ ที่มีการระบาดสูงตามแผนยุทธศาสตร์ของเขา รวมถึงการอภัยโทษต่าง ๆ ก็บ่งชี้ว่ารัฐบาลทหารไม่ได้มีเจตนาที่จะห้ำหั่นคนเหล่านั้นไปจนตายไปข้างถึงแม้ว่าจะทำได้ก็ตาม

การที่มีภาพประชาชนออกมาต่อคิวรับวัคซีนกันจนแน่นในบางศูนย์เป็นภาพบาดตาที่กลุ่ม NUG น่าจะรู้สึกทนไม่ได้ เหมือนตนได้ศูนย์เสียมวลชนไปให้แก่ฝั่งรัฐบาลทหาร

และนั่นนำไปสู่การก่อเหตุที่รุนแรงมากขึ้นเพื่อจะดึงมวลชนกลับมาหาตัวเพราะแม้ว่าจะย้ำเตือนทุกวันว่าตนนั้นสูญเสียประชาธิปไตยมากี่วันแล้ว แต่มวลชนกลับลดลงอย่างต่อเนื่อง

จุดหนึ่งที่เป็นข้อสังเกตว่าทำไมมวลชนลดลงอย่างต่อเนื่องนั่นคือ ประชาชนทั่วไปแม้จะไม่ชอบทหารแค่ไหนก็ตาม แต่สิ่งที่ประชาชนไม่ชอบยิ่งกว่าคือความรุนแรง การที่คนถูกยิงตามข้างทางหรือในร้านน้ำชาหรือระเบิดตามที่ต่าง ๆ นั้นมันสร้างความกลัวและเป็นตัวที่ทำให้เศรษฐกิจในเมียนมาขับเคลื่อนลำบากขึ้น

ทุกวันนี้ประชาชนโดยเฉพาะคนทำงานทั่วไปโหยหาเงินทองมากกว่าประชาธิปไตยเพราะอย่างน้อย แม้ประชาธิปไตยจะยังมองไม่เห็นว่าจะได้มาเมื่อไร แต่เขามีเงินในกระเป๋าพอที่จะประทังชีวิตเขา นำพาเขาไปให้เห็นประชาธิปไตยในอนาคตได้

คนเมียนมาทั่วไปในวันนี้ไม่ได้สนับสนุนความรุนแรง แต่เขาต้องการความสงบเพื่อให้เขาทำมาหากินได้ ดูได้จากในข่าวหลายครั้งที่ฝ่ายทหารเข้าไปบุกจับถึงในที่พักหากประชาชนโหยหาประชาธิปไตยอย่างแท้จริงคงไม่สามารถเข้าไปจับถึงที่พักกันได้แบบนี้

ณ วันนี้เป็นเหมือนจุดเริ่มต้นของ Civil War ของเมียนมาคงต้องมองว่าประชาชนชาวเมียนมาในย่างกุ้งจะเห็นด้วยกับการกระทำของ NUG หรือไม่ น่าจะไม่นานเกินรอ


ที่มา : https://www.facebook.com/621374414597386/posts/4266366200098171/
https://www.blockdit.com/posts/612c59cf24e44e0c8fbb3bc1


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!
A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!! 
>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท
>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ
>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต
>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย
***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก???? https://lin.ee/vfTXud

IWRM. - โรงเรียนโกศลวิทยา เร่งส่งมอบน้ำดื่มสภากาชาดไทย และศูนย์พักคอย ในพื้นที่ อ.พานทอง จ.ชลบุรี เพื่อผู้ติดเชื้อโควิด-19

โรงเรียน​โกศล​วิทยา​ และคณะครูอาจารย์ ร่วมมอบน้ำดื่มขนาด 600 มล. จำนวน 12,000 ขวด ให้สภากาชาดไทย ส่งมอบน้ำดื่มเพื่อผู้ติดเชื้อโควิด-19

คุณธนวัฒน์ สันตินรนนท์ ผู้แทนกลุ่มตนรักษ์น้ำ องค์กรผู้ใช้น้ำ (สทนช.) และกรรมการบริหาร บ.อินดัส เตรียล วอเตอร์ รีซอร์ส แมนเนจเมนท์ จก.(IWRM) ร่วมแบ่งปันน้ำใจมอบน้ำดื่มให้ รพ.สนาม และศูนย์พักคอย รองรับผู้ติดเชื้อโควิด-19 วันอังคารที่ 30 สิงหาคม 64 

คุณทศพล เดชาติวงศ์ ณ อยุธยา ผจก.ฝ่ายบริหาร บ.อินดัสเตรียลวอเตอร์ รีซอร์สแมนเนจเม้นท์ จก. ร่วมแบ่งปันน้ำดื่มให้แก่ ศูนย์พักคอยต.หนองหงษ์ จำนวน 1,200 ขวด โดยมี นายพยน เจริญสุข นายกอบต.หนองหงษ์ และนางประไพพักตร์ คุ้มวงศ์ ผอ.กองสาธารณะสุข รับมอบ เพื่อรองรับผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่ ต.หนองหงษ์ อ.พานทอง จ.ชลบุรี

คุณวิเชษฐ์ เกตุแก้ว ผู้ประสานงานพื้นที่และชุมชนเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก(อีอีซี) และคุณศราวุฒิ​ เปลี่ยนอารมย์​  ผู้จัดการฝ่ายปฎิบัติการ บ.อินดัสเตรียล วอเตอร์ รีซอร์ส แมนเนจเมนท์ (IWRM) ผู้ผลิตน้ำประปาเพื่อบริโภคและเพื่ออุตสาหกรรม ในเขตพื้นที่ EEC ร่วมสนับสนุน น้ำดื่มขนาด 600 มล.จำนวน 1,200 ขวด ให้ศูนย์พักคอยต.เกาะลอย,ต.บางหัก อ.พานทอง จ.ชลบุรี

เพื่อรองรับผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่ โดยมีท่านพระครูวิสุทธิกิจจานุรักษ์ พระสังฆาธิการ เจ้าคณะตำบลเกาะลอย,นางสาวจงกมล ประสมสุข ปลัดอบต. ต.เกาะลอยบางหัก ,นายเรวัต ทองโต ประธานสภาฯ,นางวัลลีย์แก้วตา หัวหน้าสำนักปลัด อบต. ,ผอ.เอกพร รดมณี ,ผอ.อาทิตย์ ลิขิตธนกุล ผอ.รพสต.ต.เกาะลอย/ ต.บางหัก ร่วมรับมอบ ณ ศูนย์พักคอย วัดยุคลราษฎร์สามัคคี ม.4 ต.เกาะลอย อ.พานทองจ.ชลบุรี เราจะก้าวผ่าน โควิด-19 ไปด้วยกัน

ก.แรงงาน มอบใบประกาศขอบคุณภาคเอกชนเอื้อเฟื้อสถานที่ และ รพ.เครือข่ายประกันสังคม สนับสนุนการฉีดวัคซีนผู้ประกันตน ม.33 

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน มอบหมายให้นางธิวัลรัตน์ อังกินันทน์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วย นางสาวบุปผา เรืองสุด ผู้ตรวจราชการกระทรวงแรงงาน ลงพื้นที่มอบใบประกาศขอบคุณภาคเอกชนที่ร่วมให้การสนับสนุนสถานที่และโรงพยาบาลในเครือข่ายประกันสังคมที่สนับสนุนบุคลากรทางการแพทย์ในการฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้แก่ผู้ประกันตน มาตรา 33 ณ ศูนย์การค้าซีคอนบางแค ถนนเพชรเกษม, ศูนย์การค้า เอสซี พลาซ่า (สายใต้ใหม่) และศูนย์บัญชาการรักษาดินแดน กรุงเทพ  โดย นางธิวัลรัตน์ กล่าวว่า ตามที่รัฐบาลภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และ ท่าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งกำกับดูแลกระทรวงแรงงาน ได้มีความห่วงใยพี่น้องผู้ใช้แรงงาน และประชาชนทั่วไปจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และกำหนดให้การฉีดวัคซีนเป็นวาระแห่งชาตินั้น และท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้มอบหมายสำนักงานประกันสังคม บูรณาการร่วมกับกระทรวงมหาดไทยโดยกรุงเทพมหานคร กระทรวงสาธารณสุข โดยสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กระทรวงการคลัง โดยธนาคารกรุงไทย และสถานพยาบาลเครือข่ายประกันสังคม ทั้งภาครัฐและเอกชน ให้บริการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้กับผู้ประกันตน เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดทั้งในโรงงาน และสถานประกอบการ


รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ท่านสุชาติ ชมกลิ่น ได้มอบหมายให้ดิฉันและคณะลงพื้นที่จุดฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้แก่ผู้ประตน มาตรา 33 เพื่อมอบใบประกาศขอบคุณภาคเอกชนที่ร่วมให้การสนับสนุนสถานที่และโรงพยาบาลในเครือข่ายประกันสังคมที่สนับสนุนบุคลากรทางการแพทย์ในการฉีดวัคซีนโควิด-19ให้แก่ผู้ประกันตน มาตรา 33 สำหรับผู้ประกันตนในพื้นที่กรุงเทพมหานคร รวมทั้งให้กำลังใจแก่บุคลากรทางการแพทย์ ซึ่งการฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้กับผู้ประกันตนมาตรา 33 เป็นหนึ่งในมาตรการที่กระทรวงแรงงาน ให้การป้องกันรักษาโดยเร่งรัดการฉีดวัคซีนให้แก่ผู้ประกันตนตามนโยบายรัฐบาล เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 และสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ในกลุ่มแรงงาน เพื่อให้กิจการเดินหน้าต่อไปได้” นางธิวัลรัตน์ กล่าวในท้ายสุด


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top