Friday, 9 May 2025
NEWS FEED

ไทยเอาด้วย!! เสียงโหวตท่วมท้นหนุน ยูเอ็น ประณามรัสเซีย พร้อมเรียกร้องให้ถอนทหารจากยูเครนทันที

ที่ประชุมสมัชชาสหประชาชาติสมัยพิเศษ (ยูเอ็นจีเอ) ที่ได้มีการหารือกันถึงกรณีที่รัสเซียรุกรานยูเครนมาตั้งแต่วันที่ 28 กุมภาพันธ์ ได้ลงมติประณามการกระทำดังกล่าวของรัสเซียแล้ว ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงท่าทีของโลกที่ไม่เห็นด้วยกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ชาติสมาชิกยูเอ็นได้ลงมติสนับสนุนการประณามรัสเซีย 141 ชาติ มี 5 ชาติที่โหวตคัดค้าน และงดออกเสียง 35 ชาติ ขณะที่ผู้สื่อข่าวรายงานว่าประเทศไทยก็ลงมติสนับสนุนมติประณามดังกล่าวเช่นกัน

หลังจากผลการลงคะแนนดังกล่าวปรากฏขึ้นบนหน้าจอในที่ประชุม ทำให้ผู้แทนชาติสมาชิกบางประเทศลุกขึ้นยืน เพื่อแสดงความยินดีต่อมติที่ออกมา ซึ่งถือเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นไม่บ่อยนัก

ข้อมติดังกล่าวยังเรียกร้องให้รัสเซียทำการถอนทหารทั้งหมดออกจากดินแดนของยูเครน ภายใต้พรมแดนที่ได้รับการรับรองโดยประชาคมระหว่างประเทศทันที ให้มีการถอนทหารออกทั้งหมด และโดยปราศจากเงื่อนไข

ถึงแม้ข้อมติดังกล่าวจะไม่มีผลผูกพันชาติสมาชิกในทางกฎหมาย แต่ถือว่ามีน้ำหนักในทางการเมืองเพราะสะท้อนถึงจุดยืนร่วมของประเทศส่วนใหญ่ แม้จะยังคงมีข้อสงสัยว่าจะช่วยเปลี่ยนแปลงการรุกรานทางทหารของรัสเซียในยูเครนได้หรือไม่ก็ตาม

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ส่งผู้แทนเข้าร่วมการประชุมหัวหน้าตำรวจอาเซียน ครั้งที่ 40 (40th ASEANAPOL Conference) ณ กรุงพนมเปญ ราชอาณาจักรกัมพูชา

พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ จเรตำรวจแห่งชาติ , พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผู้ช่วย ผบ.ตร. และ คณะ เดินทางไปเข้าร่วมการประชุมในฐานะผู้แทนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อเข้าร่วมการประชุมหัวหน้าตำรวจอาเซียน ครั้งที่ 40  (40th ASEANAPOL Conference) ณ กรุงพนมเปญ ราชอาณาจักรกัมพูชา ซึ่งจัดขึ้น ระหว่างวันที่ 1 – 5 มี.ค.65 

พล.ต.ต.เขมรินทร์ หัสศิริ ผบก.ตท./รองโฆษก ตร. เปิดเผยว่า  การประชุมดังกล่าว เป็นการประชุมระดับพหุภาคีระหว่างหน่วยงานตำรวจในภูมิภาคอาเซียนทั้ง 10 ประเทศ ประเทศคู่เจรจาและผู้สังเกตการณ์ขององค์การตำรวจอาเซียน ซึ่งการประชุมครั้งนี้ จัดขึ้นเพื่อเปิดโอกาสให้หัวหน้าหน่วยงานตำรวจของอาเซียนหรือผู้แทนระดับสูง พร้อมด้วยหัวหน้าตำรวจประเทศคู่เจรจาของอาเซียน เสริมสร้างความร่วมมือ แสวงหาแนวร่วม แลกเปลี่ยนข้อมูลและขั้นตอนการปฏิบัติที่ดีที่สุดระหว่างกันในการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติในรูปแบบต่าง ๆ อาทิ  การก่อการร้าย การค้ายาเสพติด  การค้ามนุษย์  การลักลอบเข้าเมือง อาชญากรรมคอมพิวเตอร์ อาชญากรรมทางเศรษฐกิจ  การฉ้อโกงข้ามชาติ  การลักลอบค้าสัตว์ป่าและพันธุ์พืชใกล้สูญพันธุ์ และอาชญากรรมที่มีผลกระทบต่อความมั่นคงทางทะเล รวมไปถึงความร่วมมือต่าง ๆ  

โดยเฉพาะในช่วงที่ทุกประเทศทั่วโลกได้เผชิญกับความท้าทายในการต่อสู้กับการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (Covid-19) อาชญากรได้ปรับเปลี่ยนรูปแบบในการกระทำความผิดและแสวงหาผลประโยชน์จากวิกฤตครั้งนี้  ซึ่งส่งผลกระทบต่อความมั่นคงและความสงบสุขของพี่น้องประชาชนในภูมิภาคอาเซียน

พม่า ปล่อยตัวนายแบบดัง ‘ไป่ ทาคน’ แล้ว หลังถูกตัดสินจำคุก จากเหตุเรียกร้องประชาธิปไตย

ไป่ ทาคน นักแสดง นักร้องและนายแบบชื่อดังชาวเมียนมา วัย 25 ปี ที่ถูกตัดสินจำคุกจากการสนับสนุนการประท้วงเพื่อเรียกร้องประชาธิปไตย ได้รับการปล่อยตัวออกจากเรือนจำแล้ว

ทนายความของไป่ ทาคน เผยวันนี้ว่า ไป่ ทาคน ได้รับการปล่อยตัวออกจากเรือนจำและเดินทางถึงบ้านพักแล้ว แต่ไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติม ขณะที่รัฐบาลทหารเมียนมาระบุในแถลงการณ์ยืนยันว่า ไป่ ทาคน ได้รับการปล่อยตัวออกจากเรือนจำ พร้อมกับนักแสดงชาวเมียนมารายอื่นๆ ได้แก่ ลู มิน, ปเย ติ อู และเอ็งดรา จอ ซิน เพื่อให้บุคคลเหล่านี้ออกไปมีส่วนร่วมในการสร้างชาติด้วยศิลปะการแสดง

แห่ชื่นชม ‘คำตอบของพ่อ’ ที่ไม่ทำลายความฝันเด็ก หลังลูกสาวบอกโตขึ้นอยากเป็น ‘พนักงานทำความสะอาด’

คลิปวิดีโอ เผยบทสนทนาสุดประทับใจของพ่อและลูกสาว หลังลูกสาววัย 4 ขวบ ของคุณพ่อท่านหนึ่งในนครกว่างโจว เมืองเอกของมณฑลกว่างตง (กวางตุ้ง) ทางตอนใต้ของจีน บอกกับพ่อว่า โตขึ้นเธออยากเป็นพนักงานทำความสะอาด จนกลายเป็นไวรัลบนโลกออนไลน์

ในขณะคุณพ่อ แซ่เฉิน กำลังก้มหน้าป้อนข้าวลูกสาวคนเล็กวัย 9 เดือนอยู่นั้น ลูกสาวคนโตวัย 4 ขวบที่กำลังนั่งอ่านหนังสือเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมกลับพูดขึ้นมาว่า 

“พ่อคะ โตขึ้นหนูอยากเป็นพนักงานทำความสะอาดค่ะ” ด้านนายเฉิน ได้ยินประโยคดังกล่าวถึงกับชะงัก 

เงยหน้าขึ้นมาถามลูกสาวด้วยความสงสัยว่า “ทำไมหนูถึงอยากเป็นพนักงานทำความสะอาดหล่ะ?”

ลูกสาวตอบอย่างมั่นใจว่า “เพราะพนักงานทำความสะอาดต้องกวาดพื้น ดังนั้น หนูหวังว่าจะได้ใช้ความสามารถที่มี ทำให้โลกใบนี้สะอาดมากขึ้น” นายเฉินได้ยินคำตอบดังกล่าวก็ชื่นใจเป็นอย่างมาก

นายเฉิน ได้แนะนำลูกสาว ถึงคุณสมบัติของการเป็นพนักงานทำความสะอาดที่ดี และยังสอนลูกอีกว่า

“อาชีพพนักงานทำความสะอาดเป็นอาชีพที่ต้องทำงานหนัก ดังนั้นลูกจะต้องฝึกทำงานหนัก ค่อยๆ ฝึกฝนไป และกินอาหารให้เยอะๆ จะได้โตไวๆ ลูกจะได้โตขึ้นเป็นพนักงานทำความสะอาดที่ดีอย่างที่ลูกตั้งใจในอนาคต”

10 เทคนิคสร้างสุขให้ชีวิต หลัง 'เกษียณ' สไตล์ ‘สมคิด จิรานันตรัตน์’

1.) ดูแลสุขภาพให้แข็งแรง ลดเกลือ น้ำตาล ไขมัน ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ทุกวันนี้ผมออกกำลังอย่างน้อยวันละ 30 นาที เน้นสร้างกล้ามเนื้อ การเคลื่อนไหวที่ยืดหยุ่น และ cardio

2.) หางานอดิเรกที่ชอบ และท้าทายตัวเอง จะได้มีเรื่องสนุกๆ ทำ ผมเริ่มกลับมาตีกอล์ฟ และตั้งเป้าว่าจะลด score ลง 10 stroke (จาก 92 เหลือ 82) ในปีนี้ (555 ลองดู ไม่ได้ก็ไม่เสียหลาย)

3.) สร้างสัมพันธ์ที่ดีขึ้นในครอบครัว คิดถึงคนอื่นมากขึ้น เห็นใจคนมากขึ้น (เมื่อก่อนตอนทำงาน คิดแต่เรื่องตัวเองกับเรื่องงานเป็นหลัก ใช้ไม่ได้เลย)

4.) เลิกทำงานแบบเต็มเวลา หาเวลาสนุกสนาน ท่องเที่ยวบ้าง (ช่วงนี้ติดโควิด ก็เลือกสถานที่ไปหน่อย)

5.) เป็นที่ปรึกษา ที่ไม่ใช่งานเต็มเวลา จะได้มีเรื่องให้คิดบ้าง ลดโอกาสเป็นอัลไซเมอร์

ทัพเรือภาคที่ 1 จัดกิจกรรมบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ เนื่องในวันคล้ายวันสถาปนา กระทรวงกลาโหม และทัพเรือภาคที่ 1

ในวันที่ 1 มีนาคม 2565 ทัพเรือภาคที่ 1 เชิญชวนกำลังพลจิตอาสาจาก กองบัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 เรือในกองเรือปฏิบัติการ ทัพเรือภาคที่ 1 กองพันต่อสู้อากาศยานที่ 21 โรงเรียนชุมพลทหารเรือ สนธิกำลังกับ กำลังพลจิตอาสาเทศบาลตำบลบางเสร่ เทศบาลตำบลเกล็ดแก้ว เทศบาลตำบลพลูตาหลวง พร้อมด้วยประชาชนในชุมชนบางเสร่ รวมทั้งสิ้น 100 นาย ร่วมกันทำกิจกรรมบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ ณ วัดบางเสร่คงคาราม เนื่องในโอกาสก่อนวันคล้ายวันสถาปนาทัพเรือภาคที่ 1 และเนื่องในวันคล้ายวันสถาปนากระทรวงกลาโหม ซึ่งกิจกรรมดังกล่าวประกอบด้วย 

กิจกรรมทำความสะอาด ได้แก่ เก็บขยะ กวาดลานวัด ล้างห้องน้ำ ทำความสะอาดสถานที่ภายในวัดบางเสร่คงคาราม กิจกรรมบริจาคโลหิต โดยได้รับการสนับสนุนรถรับบริจาคโลหิตจาก ภาคบริการโลหิตแห่งชาติที่ 3 จว.ชลบุรี สภากาชาดไทย เดินทางมารับบริจาคโลหิต ณ ศาลาอเนกประสงค์วัดบางเสร่คงคาราม มีกำลังพลจิตอาสา พร้อมด้วยประชาชนในชุมชนบางเสร่ ร่วมบริจาคโลหิตจำนวน 40 คน รวมปริมาณโลหิตที่รับบริจาคจำนวน 16,000 มิลลิลิตร

เพื่อสนับสนุนให้แก่สภากาชาดไทย สำรองไว้ช่วยแก้ไขปัญหาวิกฤติขาดแคลนโลหิตในช่วงของการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส COVID-19 และใช้ในยามฉุกเฉิน  นิมนต์พระภิกษุสงฆ์จำนวน 15 รูป ในพิธีเจริญพระพุทธมนต์ พร้อมด้วยถวายภัตตาหารเพล โดยเรียนเชิญผู้บังคับบัญชาในทัพเรือภาคที่ 1 พร้อมด้วยผู้แทนหน่วยงาน และผู้นำชุมชนบางเสร่ ร่วมพิธี

‘แพทย์ทหารเรือ’ เปิดบริการตรวจโควิดแบบOne Stop Service

พลเรือตรี ณัฐ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า กรมแพทย์ทหารเรือ, นาวาเอก ปิยะวัฒน์ วงษ์วานิช รอง ผอ.รพ.ฯ ฝ่ายบริหาร และ นาวาเอกหญิง วรัญญา คุ้มผาติ รอง ผอ.รพ.ฯ ฝ่ายการพยาบาล รับมอบงานโครงการอาคารชั่วคราว ห้องตรวจโรคแรงดันบวก ARI./PUI. Clinic จากบริษัท เอสซีจี ดิสทริบิวชั่น จำกัด ร่วมกับ บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย (ท่าหลวง) จำกัด โดยมี คุณดุสิต ศุทธกิจ Co creation and operation development director, คุณธวัชชัย ศรีพนมธนากร CSC Director Metro และคุณดุสิต อนุกูลมีชัย Project Owner Manager เป็นผู้แทนส่งมอบงานฯ ณ อาคารชั่วคราว ห้องตรวจ ARI PUI Clinic เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2565

ไทย เคยทดลองใช้รถเมล์สองชั้น เมื่อ 34 ปีก่อน วอน ผู้ว่าฯ กทม. คนใหม่ พิจารณา นำกลับมาใช้อีกครั้ง

เพจเฟซบุ๊ก รถเมล์ไทยแฟนคลับ Rotmaethai แชร์เรื่องราวของรถเมล์สองชั้น ที่เคยวิ่งในกรุงเทพฯ เมื่อ 34 ปีก่อน เนื้อหาระบุว่า...

26 กุมภาพันธ์ 2531 
ขสมก. เปิดการทดลองเดินรถเมล์สองชั้นยี่ห้อเลย์แลนด์ ในสาย 29 52 95 138 เป็นเวลา 6 เดือน

===ออมนิบัส 2 ชั้น ชั้นละ 2 ล้าน===
นับตั้งแต่ต้นปี 2531 ขสมก. มีความเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจหลายประการ ที่ได้รับการกล่าวถึงมากที่สุดคือรถใหม่สีขาวคาดแดงจำนวน 900 คัน เก็บค่าโดยสารระบบหยอดเหรียญ อัตราค่าโดยสาร 3 บาท แพงกว่ารถแบบเก่า 1 บาท โดย ขสมก. ให้เหตุผลว่ารถใหม่ให้บริการดีกว่ารถเก่า ซึ่งถึงทุกวันนี้ก็คงรู้ซึ้งกันดีแล้วว่าบริการดีกว่ากันขนาดไหน

ความเคลื่อนไหวอีกประการหนึ่ง ที่ได้รับความสนใจมากพอสมควรเหมือนกันคือ การนำรถเมล์ 2 ชั้นมาทดลองวิ่งให้บริการประชาชน

รถเมล์สองชั้นชนิดนี้ ผลิตโดยบริษัทเลย์แลนด์แห่งประเทศอังกฤษ ทาง ขสมก. ได้ทำข้อตกลงกับบริษัทเลย์แลนด์ว่า ขอนำรถโดยสารสองชั้นนี้มาทดลองวิ่งบริการประชาชนในกรุงเทพมหานครเป็นเวลา 6 เดือนแบบฟรีๆ หากเป็นที่นิยมของประชาชน หรือสามารถแก้ไขปัญหาการขาดทุนของ ขสมก. ได้ ก็จะเปิดให้เอกชนมาเป็นผู้ลงทุนซื้อรถโดยสารสองชั้นนี้ วิ่งในเส้นทางของ ขสมก.

ส่วนทางด้านบริษัทเลย์แลนด์ก็เสนอเงื่อนไขให้ว่า หากมีการซื้อรถเมล์สองชั้นจำนวน 740 คัน ทางรัฐบาลอังกฤษซึ่งสนับสนุนโครงการผลิตรถสองชั้นอยู่ ก็จะสนับสนุนด้านการเงินให้กับ ขสมก. ฟรีๆ ทันที 900 ล้านบาท

รถที่บริษัทเลย์แลนด์จัดหามาให้ ขสมก. ใช้ฟรีนี้ มีจำนวน 1 คัน เมื่อแรก ขสมก. ตั้งใจจะให้บริการย่านชุมชน แต่ปรากฏว่ามีอุปสรรคในการเดินรถมาก เช่น ลักษณะถนนในกรุงเทพมหานครไม่ราบเรียบเสมอกัน บางช่วงโค้งเป็นหลังเต่า บางช่วงมีสะพานที่สูงชัน บางถนนมีสายโทรศัพท์พาดข้ามถนน บางถนนมีต้นไม้ที่อาจจะทำให้ละกับหน้าต่างรถชั้นบนได้ 

ขสมก. จึงตกลงใจให้นำมาวิ่งในสาย 29 (รังสิต-อนุสาวรีย์ชัยฯ) โดยมีเส้นทางจากรังสิต ผ่านมาตาม ถ.วิภาวดีตลอดสาย เลี้ยวเข้าสามเหลี่ยมดินแดง เข้าอนุสาวรีย์ชัยฯ จอดด้านห้างโรบินสัน (เกาะดินแดง) สลับกับเส้นทางสาย 95 จากรังสิต ดอนเมือง วิภาวดี หลักสี่ รามอินทรา บางกะปิ สุดทางที่ ม.รามคำแหง เก็บค่าโดยสาร 2 บาทตลอดสาย ขสมก. เป็นผู้จ่ายค่าน้ำมันเชื้อเพลิง ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับพนักงานขับรถและพนักงานเก็บค่าโดยสาร

เมื่อทดลองครบ 6 เดือนแล้ว จะนำรายได้มาหักค่าใช้จ่าย เงินที่เหลือจากรายได้ จะนำขึ้นทูลเกล้าถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 5 รอบ

ลักษณะของรถ ตัวถังสีขาว มีแถบสีน้ำเงินพาดเฉียงๆ ที่ข้างรถ ขนาด 2 เพลา ความยาว 10 เมตร สูง 4.5 เมตร สามารถบรรทุกผู้โดยสารได้ 140 คน มีประตูเปิดปิดอัตโนมัติ ขึ้นทางประตูหน้า ลงทางประตูกลาง มีเครื่องยนต์อยู่ท้ายรถ จึงไม่มีเสียงรบกวนผู้โดยสาร

ห้องโดยสารชั้นล่างมีเก้าอี้นั่งน้อย (ให้ยืนชั้นล่าง) เพราะออกแบบมาเพื่อให้สะดวกต่อผู้โดยสารที่จะขึ้นชั้นบน โดยมีบันไดเวียนอยู่ซีกขวาตรงกลางตัวรถ ออกแบบมิดชิดให้ผู้โดยสารที่เป็นสุภาพสตรีเดินขึ้นได้อย่างสะดวกใจ หน้าต่างเป็นแบบบานเลื่อน จำนวนไม่มากนัก เพราะเป็นรถที่ออกแบบไว้ใช้ในประเทศหนาวอย่างอังกฤษ ชั้นบนมีเก้าอี้ที่นั่งมากกว่า จำนวนหน้าต่างมากกว่า เหมาะสำหรับนั่งชมวิวทิวทัศน์สองข้างทางเป็นอย่างยิ่ง

ราคาตกคันละ 4 ล้านบาท และถ้าติดแอร์ ราคาจะเพิ่มเป็น 6 ล้านบาท เท่ากับซื้อรถธรรมดาได้ 6 คัน ดูจากข้อมูลและตัวเลขต่างๆ ที่กล่าวมา ก็คงพอจะสรุปได้ว่า หลังจากทดลองครบกำหนดเวลา ผลจะออกมาอย่างไร

กล่าวคือรถเมล์สองชั้นแบบนี้มีข้อดีที่ค่าใช้จ่ายต่างๆ เช่น ค่าจ้างพนักงานขับรถ กระเป๋า ค่าน้ำมัน ค่าบำรุงรักษา อยู่ในระดับใกล้เคียงกับรถธรรมดาทั่วไป แต่มีความสามารถในการบรรทุกผู้โดยสารได้เป็นสองเท่าของรถธรรมดา ซึ่งหมายความว่า ถ้านำรถชนิดนี้มาใช้ ขสมก. จะสามารถทำกำไรได้มากขึ้น เป็นการลดภาวะขาดทุนลง

ททท. ชูโครงการ ‘Thailand Holideals’ บุกตลาดออนไลน์ และออฟไลน์ครั้งยิ่งใหญ่ พร้อมกระตุ้นการขายให้กับผู้ประกอบการ

(2 ..65) การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) โดยนางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ ททท. เป็นประธานในงานแถลงข่าว เปิดตัวโครงการ Thailand Holideals ตอบรับเทรนด์แห่งโลกอนาคตก้าวเข้าสู่ยุคดิจิทัล ผ่านเทคโนโลยีบล็อกเชน (Blockchain) ใช้เหรียญดิจิทัลแลกเปลี่ยนสินค้าและบริการท่องเที่ยว กระตุ้นตลาดด้านการท่องเที่ยวในประเทศ พร้อมบุกตลาดออนไลน์ และออฟไลน์ครั้งยิ่งใหญ่ เพื่อกระตุ้นการส่งเสริมการขายให้กับผู้ประกอบการในทุกช่องทางที่ตอบโจทย์นักท่องเที่ยว และผู้เดินทาง ณ ศูนย์ปฏิบัติการศิลปกรรมดิจิทัล FAAMAI Digital Arts Hub เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร

ด้วยความก้าวหน้าของเทคโนโลยีบล็อกเชนที่เข้ามามีบทบาทในระบบเศรษฐกิจและมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ก่อให้เกิดนวัตกรรมใหม่ๆ ส่งผลให้รูปแบบการใช้ชีวิตของผู้คนในปัจจุบันเปลี่ยนแปลงไป รวมไปถึงการเปิดมิติของการทำธุรกิจและการตลาดที่จะช่วยอำนวยความสะดวกสบาย รวดเร็ว และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างชัดเจน

โดยเฉพาะการเข้ามาของสกุลเงินดิจิทัลต่างๆ ททท. ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของการผสานเทคโนโลยีเข้ากับการส่งเสริมตลาดการท่องเที่ยว จึงได้ร่วมมือกับบริษัท กู๊ด มู๊ด จำกัด พร้อมจับมือกับ พันธมิตรด้านการท่องเที่ยว อาทิ MVP, KLOOK และ Ascend Travel จัดทำโครงการ “Thailand Holideals” รวบรวมแพ็กเกจ และ Voucher ท่องเที่ยวในราคาสุดพิเศษ จากผู้ประกอบการท่องเที่ยวชั้นนำทั่วเมืองไทยมาให้นักท่องเที่ยวได้เลือกสรร บนเว็บไซต์ www.tourismthailand.org/holideals โดยครอบคลุมทุกหมวดหมู่ของการท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็น โรงแรม ร้านอาหาร สปา นันทนาการ และบริษัทนำเที่ยว พร้อมทั้งสามารถเลือกชำระด้วยระบบโทเคนดิจิทัลได้ด้วย นับเป็นครั้งแรกของเมืองไทยกับการใช้เหรียญดิจิทัลเพื่อการจับจ่ายสินค้าท่องเที่ยวของโครงการ ตอบโจทย์การท่องเที่ยวในไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่เจาะกลุ่มนักท่องเที่ยว Free Individual Traveller และ Group Individual Traveller ซึ่งต้องการประสบการณ์ท่องเที่ยวใหม่ๆ และเพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศให้เดินหน้าอย่างต่อเนื่อง

กกท. ร่วม สถาบันอนุญาโตตุลาการ เปิดศูนย์ระงับข้อพิพาททางการกีฬาแห่งแรกของไทย มุ่งยกระดับวงการกีฬาสู่มาตรฐานสากล

การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ร่วมกับ สถาบันอนุญาโตตุลาการ (THAC) เปิดตัวศูนย์ระงับข้อพิพาททางการกีฬา (Thailand Center of ADR for Sport: TCAS) แห่งแรกของประเทศไทย เพื่อส่งเสริมการใช้กลไกการระงับข้อพิพาทด้วยวิธีการประนอมข้อพิพาท และการอนุญาโตตุลาการ มุ่งหวังยกระดับวงการกีฬาไทยให้มีประสิทธิภาพ และทัดเทียมกับมาตรฐานสากล

นายธนวัชร นิติกาญจนา ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วย นายเขมพล อุ้ยตยะกุล เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานในการแถลงข่าวเปิดตัวศูนย์ระงับข้อพิพาททางการกีฬา (Thailand Center of ADR for Sport: TCAS) โดยมี นายพสิษฐ์ อัศววัฒนาพร ผู้อำนวยการสถาบันอนุญาโตตุลาการ (THAC) และนายวิษณุ ไล่ชะพิษ รองผู้ว่าการ ฝ่ายบริหาร ร่วมแถลง ณ บริเวณด้านหน้า อาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา กกท. เมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2565 ที่ผ่านมา

นายธนวัชร นิติกาญจนา ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า กระทรวงยุติธรรม มีความเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าการร่วมมือของทั้งสองหน่วยงานในครั้งนี้ จะนำไปสู่การพัฒนาที่สำคัญของการระงับข้อพิพาททางเลือกด้านการกีฬาของประเทศไทยให้มีประสิทธิภาพ เป็นไปตามมาตรฐานระดับสากล และจะเป็นการดึงดูดให้บุคลากรทางการกีฬา อาทิ นักกีฬา สมาคมกีฬา สมาพันธ์ทางการกีฬาต่างๆ เล็งเห็นถึงความสำคัญและเลือกใช้กระบวนการระงับข้อพิพาททางเลือกเมื่อมีข้อพิพาททางการกีฬากันมากยิ่งขึ้น

นายเขมพล อุ้ยตยะกุล เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า การจัดตั้งศูนย์ระงับข้อพิพาทฯ ในครั้งนี้ จะเป็นประโยชน์ในด้านการพัฒนากีฬาในประเทศไทย ทั้งการให้ความเป็นธรรม ความเท่าเทียมของนักกีฬา หรือผู้ที่เกี่ยวข้อง เช่น ผู้ฝึกสอน ตลอดจนสโมสรต่างๆ รวมทั้งยังเป็นการสร้างมาตรฐานทางการกีฬาที่มีความโปร่งใส ซึ่งจะส่งผลโดยรวมให้กับประเทศ รวมถึงการแข่งขันในระดับชาติ ต่อไป

นายพสิษฐ์ อัศววัฒนาพร ผู้อำนวยการสถาบันอนุญาโตตุลาการ (THAC) กล่าวว่า ในปัจจุบันวงการกีฬาไทยมีความก้าวหน้า และเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง เห็นได้จากความสำเร็จของนักกีฬาทีมชาติไทย รวมถึงกฎเกณฑ์การแข่งขัน หรือการตัดสินผลแพ้ - ชนะในกีฬาสมัครเล่น และกีฬาอาชีพ ที่จัดการแข่งขันขึ้นในประเทศ และในเวทีระดับโลกที่มาตรฐานของการแข่งขันมีความก้าวหน้า และปรับเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว สิ่งเหล่านี้อาจนำมาซึ่งข้อพิพาทในประเด็นต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับวงการกีฬาทุกแขนง เช่น สัญญานักกีฬาอาชีพ การตัดสินชี้ขาดผลการแข่งขัน หรือแม้กระทั่งกฎการควบคุมสารต้องห้าม เป็นต้น สิ่งเหล่านี้คือที่มาของการจัดตั้งศูนย์ฯ เพื่อยกระดับวงการกีฬาไทยสู่มาตรฐานสากล


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top