Tuesday, 1 July 2025
NEWS FEED

'รัสเซีย' กร้าว!! เตรียมผูกค่าเงินรูเบิลเข้ากับทองคำ ลั่น ไม่ขอผูกติดอยู่ใต้อำนาจของดอลลาร์อีกต่อไป

รัสเซียได้มีการประกาศครั้งใหญ่อย่างเป็นทางการแล้ว โดยเตรียมนำค่าเงินรูเบิลเข้าสู่ Gold Standard อีกครั้ง ซึ่งการประกาศเช่นนี้หมายความว่าในอนาคตจะมีการผูกค่าเงินรูเบิลเข้ากับทองคำอย่างแน่นอน

สำนักข่าว RT เปิดเผยว่าผู้เชี่ยวชาญของรัสเซียกำลังเร่งพัฒนาโครงการต่างๆ เพื่อสร้างระบบการเงินและการคลังแบบ Two-loop โดยที่ยังไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดเชิงลึกออกมาว่า Two-loop นี้จะออกมาในรูปแบบไหนบ้าง 

ในเบื้องต้นมีการกล่าวกันว่าโครงการนี้เกี่ยวข้องกับการจัดหาสกุลเงินของรัสเซียเพื่อแลกเปลี่ยนกับทองคำที่มีอยู่ในตลาดโลก ซึ่งจะเป็นการเชื่อมระหว่าง

1.) การค้าสินค้าต่างๆ ด้วยสกุลเงินรูเบิล
2.) การแลกเปลี่ยนรูเบิลกับทองคำในตลาด

ทั้งหมดนี้จะทำให้ในระยะยาวสกุลเงินรูเบิลของรัสเซียสามารถสะท้อนมูลค่าที่แท้จริงไปพร้อมๆ กับราคาทองคำในตลาดโลกนั่นเอง โดยรัสเซียเน้นย้ำไว้อย่างชัดเจนว่าการทำเช่นนี้ จะทำให้สกุลเงินรูเบิล "ไม่ตกอยู่ใต้อำนาจของดอลลาร์อีกต่อไป" และยังสามารถเป็น Real Value (มูลค่าที่แท้จริง) ไปพร้อมๆ กับการรักษาเสถียรภาพของค่าเงิน

เลขาธิการสภากาชาดไทย เปิดโครงการรถคลินิกจักษุศัลยกรรมเคลื่อนที่ สภากาชาดไทยฯ จังหวัดลพบุรี

วันที่ 27 เมษายน 2565 นายเตช บุนนาค เลขาธิการสภากาชาดไทย เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการรถคลินิกจักษุศัลยกรรมเคลื่อนที่สภากาชาดไทย ในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ       สยามบรมราชกุมารี  โดยมีนายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี พร้อมด้วยนางวัชราภรณ์ รุ่งสาคร นายกเหล่ากาชาดจังหวัดลพบุรี และพลโท นายแพทย์อำนาจ บาลี ผู้อำนวยการสำนักงานบรรเทาทุกข์และประชานามัยพิทักษ์ สภากาชาดไทย ร่วมเป็นเกียรติในพิธีเปิด โครงการรถคลินิกจักษุศัลยกรรมเคลื่อนที่สภากาชาดไทยฯ ในครั้งนี้จัดขึ้น เพื่อทำการตรวจรักษาและผ่าตัดตาให้แก่ประชาชนผู้ด้อยโอกาสโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ระหว่างวันที่ 25-29 เมษายน 2565 ณ โรงเรียนบ้านวังเพลิง ตำบลวังเพลิง อำเภอโคกสำโรง จังหวัดลพบุรี

​นายเตช บุนนาค กล่าวว่า หน่วยแพทย์จักษุศัลยกรรมสภากาชาดไทย ในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้ดำเนินการมาเป็นเวลากว่า 27 ปีแล้ว โดยเริ่มปฏิบัติงานเมื่อวันที่ 1 เมษายน พ.ศ.2538 เพื่อเฉลิมพระเกียรติเนื่องในโอกาสที่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า     กรมสมเด็จเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเจริญพระชนมายุครบ 40 พรรษา ปัจจุบันปฏิบัติงานทุกสัปดาห์ที่ 3 ของเดือน เป็นประจำที่สถานีกาชาดที่ 6 อรัญประเทศเฉลิมพระเกียรติฯ จังหวัดสระแก้ว โครงการนี้ได้รับการปรับปรุงและพัฒนางานมาเป็นลำดับ โดยปฏิบัติงานเชิงรุกด้วยการออกให้บริการสัญจร โดยออกปฏิบัติงานที่โรงพยาบาลอำเภอในพื้นที่ห่างไกลและไม่มีจักษุแพทย์ เริ่มดำเนินการตั้งแต่ปี 2545 เป็นต้นมา

จนถึงปัจจุบัน และต่อมาในปี 2551 ได้เริ่มโครงการรถคลินิกจักษุศัลยกรรมเคลื่อนที่ฯ ปฏิบัติงานในรูปแบบการนำรถผ่าตัดเคลื่อนที่ ลงไปปฏิบัติงานเชิงลึกระดับตำบล ที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ปีละ 6 ครั้ง และอีกทั้ง เมื่อปี 2554 ยังได้จัดทำโครงการที่ตรวจรักษาและผ่าตัดตา ให้แก่พระภิกษุ แม่ชี และนักบวชทุกศาสนาอีกด้วย ตั้งแต่ปี 2538 เป็นต้นมา หน่วยแพทย์จักษุฯ ให้การรักษาโดยไม่คิด ค่าใช้จ่ายไปแล้วกว่า 265,000 ราย ทำการผ่าตัดไปแล้วกว่า 67,000 ราย

สำหรับการดำเนินงานโครงการรถคลินิกจักษุศัลยกรรมเคลื่อนที่ สภากาชาดไทยฯ ครั้งนี้ จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 73 โดยสำนักงานบรรเทาทุกข์และประชานามัยพิทักษ์ สภากาชาดไทย ร่วมกับจังหวัดลพบุรี สำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดลพบุรี โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดลพบุรี ส่วนราชการทุกภาคส่วน ตลอดจนภาคเอกชน มีเป้าหมายในการดำเนินงานให้บริการตรวจรักษาโรคตา ผ่าตัดโรคต้อกระจก และทำผ่าตัดโรคตาอื่นๆ เช่น ต้อเนื้อ ต้อหิน โรคของเปลือกตาในผู้ป่วยทุกรายที่จำเป็นต้องรักษา จำนวน 250 ราย เพื่อให้ผู้ป่วยโรคตาในท้องถิ่นทุรกันดารและมีฐานะยากจนได้รับบริการที่ดีเท่าเทียมกับผู้ป่วยในเมืองโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายและไม่เสียเวลาในการเดินทางมารับการรักษาในเมือง และผู้สูงอายุที่ยากไร้ในชนบทได้รับการตรวจรักษาอย่างถูกต้อง สามารถมองเห็นและช่วยเหลือตัวเองได้ ทำให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
 
ในโอกาสเดียวกันนี้ สภากาชาดไทย มีศูนย์ความเป็นเลิศทางด้านการแพทย์โรคพาร์กินสันและกลุ่มโรคความเคลื่อนไหวผิดปกติ แห่งโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ได้พัฒนาไม้เท้าเพื่อช่วยในการแก้ไขอาการเดินติดขัดของผู้ป่วยโรคพาร์กินสันหรือโรคทางระบบประสาท ที่มีปัญหาทางด้านการเดินหรือสูญเสียการทรงตัวส่งผลต่อการเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย โดยศูนย์พาร์กินสัน ได้จัดทำโครงการไม้เท้าเลเซอร์ช่วยเดินพระราชทาน เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวงเพื่อให้ผู้ป่วยใช้อุปกรณ์ช่วยเพิ่มความมั่นคงในการก้าวเดินและใช้แสงเลเซอร์ช่วยกระตุ้นให้ผู้ป่วยก้าวเดินได้ง่ายขึ้น

ศาลฯ ส่งคืนแล้ว บ้านพักป่าแหว่ง 45 หลัง ปลดล็อกเปิดทางปลูกป่าฟื้นฟูดอยสุเทพ

อธิบดีกรมธนารักษ์ รับมอบคืนพื้นที่บ้านพักข้าราชการตุลาการศาลอุทธรณ์ภาค 5 เบื้องต้นในส่วนของบ้านพัก 45 หลัง ปลดล็อกเปิดทางให้ภาคประชาชนปลูกป่าฟื้นฟูผืนป่าดอยสุเทพ ส่วนอาคารชุดอีก 9 หลังรอดำเนินการลำดับต่อไป 

วันนี้ (27 เม.ย.) ที่โครงการบ้านพักข้าราชการตุลาการศาลอุทธรณ์ภาค 5 บนพื้นที่ราชพัสดุ 147 ไร่ เชิงดอยสุเทพ ตำบลดอนแก้ว อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ นายประภาศ คงเอียด อธิบดีกรมธนารักษ์ และผู้บริหารศาลอุทธรณ์ภาค 5 เป็นตัวแทนทั้งสองหน่วยงาน ในการส่งมอบพื้นที่ในส่วนของบ้านพัก 45 หลัง พื้นที่ประมาณ 85 ไร่ พร้อมด้วยครุภัณฑ์ต่างๆ จากศาลอุทธรณ์ภาค 5 คืนให้กับกรมธนารักษ์ โดยมีตัวแทนเครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ นำโดยนายธีระศักดิ์ รูปสุวรรณ ผู้ประสานงานเครือข่ายฯ ร่วมเป็นสักขีพยานและร่วมกันตรวจสอบพื้นที่ในส่วนของบ้านพัก 45 หลังและครุภัณฑ์ ก่อนที่จะมีการส่งมอบพื้นที่ด้วย ขณะที่ในส่วนของอาคารชุดที่เหลืออีก 9 หลัง จะมีการดำเนินการต่อไปตามลำดับ

นายประภาศ คงเอียด อธิบดีกรมธนารักษ์ กล่าวว่า การรับมอบพื้นที่คืนในครั้งนี้เบื้องต้นเพื่อเป็นการปลดล็อคให้สามารถดำเนินการบริหารจัดการพื้นที่และแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้ต่อไปตามลำดับ โดยจากนี้ทางคณะกรรมการระดับจังหวัดที่มีผู้แทนเครือข่ายฯ ร่วมอยู่ด้วย จะไปพิจารณาหารือร่วมกันเพื่อกำหนดรายละเอียดการดำเนินการต่างๆ ต่อไป ให้สอดคล้องตรงความต้องการของประชาชนในพื้นที่ที่เรียกร้อง และเกิดประโยชน์สูงสุดต่อทุกฝ่าย 

ส่วนครุภัณฑ์ต่างๆ นั้น เมื่อรับมอบแล้วจากนี้มีการดำเนินการระเบียบ ทั้งตรวจสอบและตรวจนับ พร้อมส่งมอบให้ส่วนราชการต่างๆ ที่ต้องการนำไปใช้ประโยชน์ หรือหากไม่สามารถใช้ประโยชน์ได้ก็จำหน่ายออกไปตามระเบียบ สำหรับในส่วนของอาคารชุด 9 หลัง ที่เหลือนั้น จะดำเนินการในลำดับต่อไป

นายธีระศักดิ์ รูปสุวรรณ ผู้ประสานงานเครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ เปิดเผยว่า หลังจากที่ทางภาคประชาชนเรียกร้องมาเกือบ 4 ปี วันนี้รู้สึกดีใจที่ทางกรมธนารักษ์ได้ดำเนินการรับมอบคืนพื้นที่โครงการบ้านพักตุลาการศาลอุทธรณ์ภาค 5 แล้ว แม้เบื้องต้นจะเป็นในส่วนของบ้านพัก 45 หลัง พื้นที่ประมาณ 85 ไร่ ส่วนอาคารชุดอีก 9 หลัง จะดำเนินการต่อไป ซึ่งต้องขอบคุณทางศาลอุทธรณ์ภาค 5 ด้วย ที่ให้ความร่วมมือ ขณะที่ขั้นตอนจากนี้ทางเครือข่ายฯ วางแผนเบื้องต้นว่าอีกประมาณ 1 เดือน ประมาณช่วงต้นเดือน มิ.ย. 65 จะนำประชาชนชาวเชียงใหม่ร่วมกันทำพิธีฮ้องขวัญ (เรียกขวัญ) ดอยสุเทพ และทำการปลูกป่าพื้นฟูสภาพป่าพื้นที่เชิงดอยสุเทพบริเวณนี้ให้สมบูรณ์ดังเดิม

ส่วนประเด็นเกี่ยวกับการรื้อถอนบ้านพักทั้งหมดนั้น นายธีระศักดิ์ กล่าวว่า ข้อเรียกร้องที่ผ่านมาของเครือข่าย ยืนยันให้ทำการรื้อถอน แต่ติดขั้นตอนและข้อกฎหมาย ซึ่งจะมีการหารือร่วมกันต่อไป ทั้งนี้ในที่สุดแล้วหากไม่สามารถรื้อถอนได้ ทางเครือข่ายฯ จะพิจารณาฟ้องศาลปกครองต่อไป เพื่อให้ปฏิบัติตามมติของคณะกรรมการที่นายกรัฐมนตรีแต่งตั้ง ซึ่งมีมติให้รื้อถอนทั้งบ้านพัก 45 หลัง และอาคารชุด 9 หลัง ออกไป 

สำหรับอาคารชุด 9 หลัง ที่ยังไม่มีการส่งมอบคืนนั้น จะให้เวลาอีกประมาณ 4 เดือน ถึงวันที่ 7 ก.ย. 65 ที่เป็นกำหนดที่ว่าจะย้ายออกไปหลังจากที่ศาลอุทธรณ์ภาค 5 ที่จังหวัดเชียงราย ก่อสร้างเสร็จ ตามมติ ครม.ที่จังหวัดลำปาง ซึ่งแม้ในความเป็นจริงเวลานี้ศาลอุทธรณ์ภาค 5 ที่จังหวัดเชียงรายเพิ่งจะมีความคืบหน้าก่อสร้างไป 10% เท่านั้น และไม่น่าเสร็จทัน แต่ทางเครือข่ายฯ จะขอยึดกำหนดเวลาดังกล่าว

ทั้งนี้ผู้ประสานงานเครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ ระบุด้วยว่า เบื้องต้นทางเครือข่ายฯ กำหนดด้วยว่าอาจจะนัดเคลื่อนไหวใหญ่ในวันที่ 7 ก.ย. 65 เพื่อทวงสัญญาและเรียกร้องให้ผู้ที่อยู่อาศัยในอาคารชุดทั้ง 9 หลัง ทยอยย้ายออกไป และส่งมอบพื้นที่ดังกล่าวคืนเพื่อปลูกป่าฟื้นฟูผืนป่าเชิงดอยสุเทพที่ถือเป็นภูเขาศักดิ์สิทธิ์ของเชียงใหม่ให้กลับมาอุดมสมบูรณ์เหมือนเดิมและลบร่องรอยป่าแหว่งออกไป

กิจกรรมพัฒนาและฟื้นฟูคลองพระพิมล โดยหลักสูตรพัฒนาสัมพันธ์ระดับผู้บริหาร รุ่นที่ 28

กิจกรรมพัฒนาและฟื้นฟูคลองพระพิมล โดยหลักสูตรพัฒนาสัมพันธ์ระดับผู้บริหาร รุ่นที่ 28ร่วมกับ หน่วยทหารพัฒนา, ชมรมพัฒนาสัมพันธ์ระดับผู้บริหาร กองบัญชาการกองทัพไทย รุ่นที่ 13, ชมรมพัฒนาสัมพันธ์ระดับผู้บริหารกองทัพบก, เทศบาลตำบลไทรน้อย และชุมชนคลองพระพิมล
วันพุธที่ 27 เมษายน 2565 เวลา 08:00 - 18:30 น. ณ ชุมชนคลองพระพิมล อำเภอไทรน้อย จังหวัดนนทบุรี

กองทัพบก โดย โรงเรียนกิจการพลเรือน กรมกิจการพลเรือนทหารบก ภายใต้การนำของ พันเอก พิพัฒน์ จงวัฒนาไพศาล รองผู้บัญชาการ โรงเรียนกิจการพลเรือน กรมกิจการพลเรือนทหารบก ร่วมกับ หลักสูตรพัฒนาสัมพันธ์ระดับผู้บริหาร รุ่นที่ 28 (พสบ.28), ชมรมพัฒนาสัมพันธ์ระดับผู้บริหารกองทัพบก (ชมรม พสบ.), ชมรมพัฒนาสัมพันธ์ระดับผู้บริหารกองบัญชาการกองทัพไทย รุ่นที่ 13 (ชมรม พสบ.ทท.13), กองกิจการพลเรือน หน่วยทหารพัฒนา (กกร.นทพ.) ,ประธานรุ่น พสบ.28 นาย สกนธ์ นันท์ปิติพงศ์ นายธวัชชัย กิตติรัตนวิวัฒน์(นายกสมาคมสื่อมวลชนเพื่อสังคม) เทศบาลตำบลไทรน้อยโดยมีรองผู้ว่าราชการจังหวัด นนทบุรี (นางสาว อโรชา นันทมนตรี)มาเป็นประธานและผู้อำนวยการ โรงเรียนไทรน้อย, ผู้อำนวยการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ และผู้นำชุมชนคลองพระพิมล ได้จัดกิจกรรมพัฒนาและฟื้นฟูคลองพระพิมลในวันพุธที่ 27 เมษายน 2565 เวลา 08:00 - 18:30 น. ณ ชุมชนคลองพระพิมล อำเภอไทรน้อย จังหวัดนนทบุรี

คลองพระพิมลเป็นคลองที่มีความสำคัญทั้งด้านเศรษฐกิจ ด้านการเกษตรและการสัญจรทางน้ำ ด้านวัฒนธรรมที่มีเสน่ห์แห่งวิถีชีวิตคูคลอง และด้านสิ่งแวดล้อม เป็นการรักษาระบบนิเวศน์ของชุมชน 2 ฝั่งคลอง ซึ่งตลอดคลองมีความยาว 31.5 กิโลเมตร เชื่อมโยงอำเภอบางบัวทอง อำเภอไทรน้อย จังหวัดนนทบุรี และอำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม โดยกำหนดแนวทางการพัฒนาและฟื้นฟูคลองพระพิมล ครอบคลุม 4 มิติ ได้แก่ (1) การเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการน้ำ (2) การพัฒนาสิ่งแวดล้อม (3) การพัฒนาส่งเสริมความเข้มแข็งของชุมชน (4) การส่งเสริมการท่องเที่ยว

หลักสูตรพัฒนาสัมพันธ์ระดับผู้บริหารรุ่นที่ 28 (พสบ.28) ได้จัดกิจกรรม “พสบ.28 ร่วมใจพัฒนา คลองพระพิมล” ซึ่งมีกิจกรรมดังนี้

(1) มีการตรวจคัดกรองหาผู้ที่ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ด้วยชุดตรวจ ATK ตามมาตรการป้องกัน และควบคุม
โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนดไว้
(2) การบรรยายสรุปโครงการพัฒนาและฟื้นฟูคลองพระพิมล โดยเทศบาลตำบลไทรน้อย
(3) การบรรยายสรุปภารกิจของหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา โดยกองบัญชาการกองทัพไทย
(4) กิจกรรมเทน้ำยาจุลินทรีย์ การสาธิตการกำจัดน้ำเสีย เพื่อปรับความสมดุลรักษาสภาพน้ำคลองพระพิมล เป็นการอนุรักษ์แหล่งน้ำให้กลับมาสะอาดอย่างยั่งยืน เพื่อส่งต่อให้กับอนุชนและคนรุ่นหลังต่อไป
(5) กิจกรรมสาธารณประโยชน์ มอบถุงยังชีพให้แก่ผู้ยากไร้
(6) กิจกรรมพัฒนาสองฝั่งคลอง มีการกำจัดวัชพืช
(7) กิจกรรมการมอบเครื่องอุปโภคบริโภคให้กับผู้ป่วยติดเตียงในชุมชน ทั้งทางบกและทางน้ำ ที่อาศัยอยู่ภายในชุมชนและที่อยู่บริเวณสองฝั่งคลองพระพิมล

พสบ.28 สนับสนุน ถุงยังชีพ ให้ผู้ป่วยติดเตียง จำนวน 40 ชุด , ถุงยังชีพ ให้ประชาชน จำนวน 500 แพค , น้ำดื่ม 500 แพค , อุปกรณ์กำจัดวัชพืช

 

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ร่วมเป็นเจ้าภาพในพิธีบำเพ็ญกุศลสวดพระอภิธรรมศพ เจ้าประคุณสมเด็จพระวันรัต (จุนท์ พฺรหฺมคุตฺโต ป.ธ.9)

นิธิป่อเต็กตึ๊ง นำโดย นายวิเชียร เตชะไพบูลย์ ประธานกรรมการ ร่วมเป็นเจ้าภาพในพิธี พร้อมด้วย ดร.สุทัศน์ เตชะวิบูลย์ รองประธานกรรมการ นายสัก กอแสงเรือง รองประธานกรรมการ คณะกรรมการ ผู้บริหารของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง และหน่วยงานในเครือ ร่วมในพิธีบำเพ็ญกุศลสวดพระอภิธรรมศพ เจ้าประคุณสมเด็จพระวันรัต (จุนท์ พฺรหฺมคุตฺโต ป.ธ.9) อดีตเจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร  ณ ห้องบำเพ็ญกุศล ชั้น 2 อาคาร 100 ปี วัดบวรนิเวศวิหาร เขตพระนคร กรุงเทพฯ

เวียดนาม มั่น!! ‘จองทองบอลชาย - ครองเหรียญเจ้าซีเกมส์’ ฟากทัพไทยหงอย หวังแตะ 100 ทองยาก!! แต่จะทำให้ได้

สื่อเวียดนาม รายงานความเคลื่อนไหว มหกรรมกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 31 ‘ฮานอย 2021’ ที่กรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม ช่วงระหว่างวันที่ 12-23 พฤษภาคมนี้ ว่า... ‘ฝ่าม มิงห์ จิ๋งห์’ นายกรัฐมนตรีเวียดนาม ได้ไปตรวจเยี่ยมชม การฝึกซ้อม ตรวจความพร้อมของทัพนักกีฬาเวียดนาม ที่ศูนย์ฝึกกีฬาแห่งชาติเวียดนาม หรือ เนชั่นแนล สปอร์ต เทรนนิ่ง เซ็นเตอร์ พร้อมแสดงความพอใจในความพร้อมของนักกีฬาเวียดนาม ที่มีการเก็บตัวฟิตซ้อมอย่างดี แม้เจอปัญหาโควิด-19 ในรอบ 2 ปีที่ผ่านมา

ทั้งนี้ได้มีการรายงานว่า เวียดนาม ประกาศจองเหรียญทองฟุตบอลชาย-หญิง เนื่องจากทีมฟุตบอลชายมีผลงานดี ฟิตซ้อมดี ขณะที่ทีมหญิงก็ผ่านรอบคัดเลือกโซนเอเชียได้ไปเล่นฟุตบอลโลกหญิงด้วย นอกจากนั้นนักกีฬาทุกประเภทยังกระหายชัยชนะ มีสปิริตที่ดีที่จะสร้างผลงานเพื่อประเทศชาติ พร้อมทั้งสภาพร่างกายและจิตใจ ไม่มีแรงกดดันใดๆ ซึ่งทัพนักกีฬาเวียดนามและเจ้าหน้าที่ชุดซีเกมส์ครั้งนี้ มีทั้งหมด 1,359 คน โดยเป็นนักกีฬา 965 คน แบ่งเป็นนักกีฬาชาย 534 คน, นักกีฬาหญิง 431 คน และแพทย์ประจำทีม 26 คน

นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุม ก.ตร. ครั้งที่ 4/2565

พล...ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า วันพุธ ที่ 27 เม..65 พล..ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (.ตร.) ครั้งที่ 4/2565 ณ ห้องศรียานนท์ ชั้น 2 อาคาร 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งมีผู้บังคับบัญชาระดับสูงของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และคณะอนุกรรมการด้านต่างๆ เข้าร่วมประชุม

โดยคณะอนุกรรมการข้าราชการตำรวจด้านวินัย อุทธรณ์ ร้องทุกข์ และบริหารทรัพยากรบุคคล ได้รายงานข้อมูลการกระทำผิดวินัยร้ายแรง ของข้าราชการตำรวจ เดือน เม.. 65 มีข้าราชการตำรวจถูกลงโทษทั้งสิ้น จำนวน 25 นาย เป็นการไล่ออกจากราชการ จำนวน 19 นาย และปลดออกจากราชการ จำนวน 6 นาย

'พี่ศรี' ไล่เลียงคุณสมบัติ 'ทนายขยะ' ด่าคนอื่นหิวแสง แต่ชอบแย่งคดีมาทำ

'ศรีสุวรรณ' ไล่เลียงคุณสมบัติ 'ทนายขยะ' ชอบด่าคนอื่นว่าหิวแสง แต่ตนเองนั้นยิ่งกว่า ชอบไลฟ์สดอวดเก่ง ว่าแน่กว่าทนายคนอื่น ชอบแย่งคดีทนายอื่นมาทำ อย่างไม่ละอาย แถมชอบอ้างรู้จักตำรวจ/คนใหญ่คนโตไปทั่ว

นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก ระบุว่า…
คุณสมบัติของ ‘ทนายขยะ’ ขาดข้อใดข้อหนึ่งถือว่าไม่ใช่…

- ชอบด่าคนอื่นว่าหิวแสง แต่ตนเองนั้นยิ่งกว่า
- ชอบไลฟ์สดอวดเก่ง ว่าแน่กว่าทนายคนอื่น
- ชอบแย่งคดีทนายอื่นมาทำ อย่างไม่ละอาย
- ชอบตอบคำถามข้างๆ คูๆ เถียงคำไม่ตกฟาก
- ชอบอ้างรู้จักตำรวจ/คนใหญ่คนโตไปทั่ว
- ชอบเถียงฉันไม่แคร์เพราะมี FC เยอะเวลาถูกทัวร์ลง
- ชอบร้อง จุกกรูรรรรร์ๆๆ ๆๆ เป็นเนืองนิจ

ประชุม ‘คก.บห.’ พรรคสร้างอนาคตไทย นัดแรก!! รับทราบการแต่งตั้ง คกก.สรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้ง พร้อมตั้ง ‘บุญส่ง ชเลธร’ นั่งรองเลขาธิการพรรคคู่ ‘วัชระ กรรณิการ์’

(27 เม..65) ที่ทำการพรรคสร้างอนาคตไทย/พรรคสร้างอนาคตไทยจัดประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคครั้งแรก ภายหลังจากการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการในการปนะชุมใหญ่พรรค เมื่อวันที่ 20 เมษายน 2565 ที่ผ่านมา โดยมีคณะกรรมการบริหารพรรคเข้าประชุมอย่างพร้อมเพรียงกัน นำโดย นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค นายสันติ กีระนันท์ เหรัญญิกพรรค นายนิทัศน์ ประทักษ์ใจ นายทะเบียนพรรค นายวัชระ กรรณิการ์ รองเลขาธิการพรรค และกรรมการบริหารพรรค อาทิ นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ, นายวิเชียร ชวลิต, นายสุพล ฟองงาม และนายพินิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ เป็นต้น

ทั้งนี้ ที่ประชุมได้รับทราบวาระการตั้งคณะกรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้ง จำนวน 11 คน ในสัดส่วนต่างๆ ดังนี้

คณะกรรมการสรรหาสัดส่วนกรรมการบริหารพรรคสร้างอนาคตไทย จำนวน 5 คน ได้แก่

1. นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค

2. นายสุพล ฟองงาม รองหัวหน้าพรรค / กรรมการบริหารพรรค

3. นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรค / กรรมการบริหารพรรค

4. นายวัชระ กรรณิการ์ รองเลขาธิการพรรค / กรรมการบริหารพรรค

5. นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ รองหัวหน้าพรรค / กรรมการบริหารพรรค

คณะกรรมการสรรหาสัดส่วนหัวหน้าสาขาพรรคสร้างอนาคตไทย จำนวน 4 คน ได้แก่...

1. นายณรงค์ชัย แกหลวง หัวหน้าสาขาจังหวัดเชียงใหม่

2. นายจรงค์ หมื่นเมือง หัวหน้าสาขาจังหวัดนราธิวาส

3. นางสาวจินตนา กลั่นแก้ว หัวหน้าสาขาจังหวัดหวัดสุรินทร์

4. นายชัยพัฒน์ ตั้งแดนทอง หัวหน้าสาขาจังหวัดเพชรบุรี

คณะกรรมการสรรหาสัดส่วนตัวแทนพรรคสร้างอนาคตไทย จำนวน 2 คน ได้แก่...

1. นายแดงดี แสงโยธา ตัวแทนพรรคประจําจังหวัดสกลนคร เขตเลือกตั้งที่ 4

2. นายวิฑูรย์ กวางทอง ตัวแทนพรรคประจําจังหวัดอุดรธานี เขตเลือกตั้งที่ 4


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top