Friday, 4 July 2025
NEWS FEED

ทัวร์ลง!! 'นักเตะเมลเบิร์น ซิตี้' หลังเหยียด 'สารัช-วรชิต' ด้านกองเชียร์ 'ออสซี่' ชี้!! มันก็แค่มุกตลก

หลังการแข่งขันฟุตบอลเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มจี นัดที่ 5 ระหว่าง บีจี ปทุม ยูไนเต็ด พบ เมลเบิร์น ซิตี้ จากออสเตรเลีย จะจบลงด้วยสกอร์ 0-0 เมื่อวันพุธที่ 27 เมษายน ที่ผ่านมา

แต่เรื่องดูท่าจะยังไม่จบ โดยโลกโซเชียลได้เกิดประเด็นดรามาจากเหตุช่วงท้ายเกม เมื่อ รอสติน กริฟฟินส์ ปราการหลังของ เมลเบิร์น ซิตี้ เจ้าของส่วนสูง 187 เซนติเมตร แสดงท่าทางเหยียดความสูงของนักเตะไทยอย่าง วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ และ สารัช อยู่เย็น ที่เกิดการกระทบกระทั่งกัน

ส่งผลให้เกิดความไม่พอใจจากแฟนบอลชาวไทย ต่อพฤติกรรมของนักเตะวัย 34 ปี รายนี้ ถึงขนาดเข้าไปโจมตี และตำหนิสโมสร เมลเบิร์น ซิตี้ เป็นจำนวนมาก อาทิ...

- รักคุณ เมลเบิร์น ... วิคตอรี่
- บูลลี่ ซิตี้ ฟุตบอล คลับ
- ไหนเขาบอกประเทศว่าออสเตรเลียเจริญแล้วไง แต่ทำไมยังมีคนบางคนทำตัวต่ำๆ อยู่เลย จิตใจไม่ได้พัฒนาสินะ
- ความสูงของคุณไม่สามารถช่วยให้ทีมคุณชนะเราได้ นี่มันน่าอายขนาดไหนทีมจ่าฝูงลีกออสเตรเลีย?
- บีจี ปทุม ยูไนเต็ด vs สโมสร นักโทษ
- อย่าดูที่ความสูง ให้ดูที่ตารางคะแนน
- ไม่น่าเชื่อว่าทีม เมลเบิร์น จะยอมรับกับพฤติกรรมการเหยียดชาติพันธุ์ของผู้เล่นรายนี้ ทัศนคติของนักเตะทีมนี้ ที่มีต่อชาวเอเชียนั้นชัดเจนมาก
- ผู้เล่นของคุณไร้ซึ่งมารยาท ไม่มีน้ำใจนักกีฬา หยาบคาย สโมสรควรถูกลงโทษ

"อุตตม" เสนอทำมาตรการสร้างรายได้ควบคู่เยียวยา เพิ่มประสิทธิภาพการดูแลประชาชนและพยุงเศรษฐกิจท่ามกลางความเสี่ยงในอนาคต พร้อมยกแนวคิดให้หน่วยงานรัฐในท้องถิ่นจัดซื้อพัสดุโดยตรง เพื่อเร่งกระจายเม็ดเงินลงเศรษฐกิจฐานรากได้อย่างรวดเร็ว

นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคสร้างอนาคตไทย  โพสต์เฟซบุ๊ก ถึงแนวทางการดูแลประชาชนคนไทย ที่กำลังได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก จากภาวะต้นทุนราคาพลังงานสูง วัตถุดิบและสินค้าบริการต่างๆ ปรับราคาแพงขึ้น และมีแนวโน้มจะแพงขึ้นต่อไป แต่ขณะเดียวกันกลับต้องเผชิญกับปัญหารายได้ที่ถดถอย เนื่องจากกำลังซื้อในประเทศยังไม่ฟื้น ว่าเรื่องนี้เป็นความท้าทายทางเศรษฐกิจของประเทศอย่างมาก โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 27 เม.ย. ที่ผ่านมา กระทรวงการคลังก็ได้ลดคาดการณ์อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจปีนี้ลงเหลือร้อยละ 3.5 จากเดิมที่ร้อยละ 4 และคาดการณ์เงินเฟ้อทั้งปีไว้ที่ร้อยละ 5 ซึ่งเกินกรอบเงินเฟ้อเดิมของประเทศที่กำหนดไว้ร้อยละ 1-3 ไปมาก รวมทั้งยังระบุว่าสถานการณ์อนาคตเศรษฐกิจประเทศ มีความเสี่ยงและความไม่แน่นอนหลายประการ 

สถานการณ์ดังกล่าว ควรได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง เพราะเราไม่สามารถคาดเดาได้เลยว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต โดยเฉพาะราคาพลังงานนั้นเป็นปัญหาจากปัจจัยภายนอก ซึ่งเราควบคุมไม่ได้ ดังนั้นจึงควรให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการภายในประเทศเอง ด้วยการดำเนินนโยบายและมาตรการที่ครอบคลุมเหมาะสม เพื่อดูแลประชาชนและผู้ประกอบการ ขณะเดียวกันก็เพื่อพยุงสถานการณ์เศรษฐกิจภาพรวมไม่ให้ทรุดหนักลงไป และมีความพร้อมรับมือกับความไม่แน่นอน รวมทั้งปัจจัยความเสี่ยงในปัจจุบัน

สำหรับการดูแลช่วยเหลือเยียวยาค่าครองชีพประชาชนเป็นเรื่องจำเป็น โดยเฉพาะในกลุ่มเปราะบาง ที่ได้รับผลกระทบมาก แต่ตามที่ตนกล่าวไว้ข้างต้นว่า วันนี้นอกจากประชาชนมีปัญหาเรื่องต้นทุนพลังงานและค่าครองชีพแล้ว ยังมีปัญหาเรื่องรายได้อีกด้านหนึ่งด้วย ในภาวะเช่นนี้จำเป็นต้องใช้ชุดมาตรการที่จะสามารช่วยเหลือดูแลประชาชนได้ครบวงจร เพราะเพียงมาตรการด้านใดด้านหนึ่ง จะไม่สามารถบรรลุเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพแท้จริง

นับตั้งแต่การระบาดของโควิด รัฐบาลได้ออกมาตรการบรรเทาด้านค่าครองชีพ รวมถึงมาตรการกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยมาอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ดี สภาพการปัจจุบันแตกต่างจากในอดีต มีเหตุแทรกซ้อน โดยเฉพาะสงครามยูเครน ทำให้การดูแลเศรษฐกิจและปัญหาของประชาชนมีความซับซ้อนและอ่อนไหวเพิ่มขึ้นมาก เช่น การกระตุ้นกำลังซื้อเพื่อเสริมรายได้ให้กับผู้ประกอบการนั้น จะส่งผลได้ในช่วงเวลาหนึ่งก่อนเศรษฐกิจโดยรวมจะฟื้นตัว แต่ทว่าหากเศรษฐกิจยังไม่เริ่มฟื้นตัวอย่างชัดเจน และรายได้ของผู้บริโภคและผู้ประกอบการกลับถดถอย รวมทั้งมีต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้น มาตรการเดิมเพียงเท่านั้นจึงอาจไม่มีผลได้เช่นดังก่อน 
 
ดังนั้นเราจำเป็นต้องแก้ไขปัญหาเร่งด่วนเฉพาะหน้า ซึ่งตนเห็นว่ามีความจำเป็นต้องมีชุดมาตรการที่ครอบคลุม โดยเพิ่มมาตรการใหม่ที่จะช่วยเพิ่มความสามรถในการสร้างรายได้ของผู้ประกอบการโดยตรงและต่อเนื่อง ตนจึงขอแชร์แนวคิดดังต่อไปนี้ 

1.การสร้างรายได้ให้เกิดขึ้นในวงกว้างและต่อเนื่อง เพื่อกระตุ้นกำลังซื้อและเกิดเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ รวมถึงฟื้นฟูเงินทุนให้ผู้ประกอบการ 

2.การช่วยให้ผู้ประกอบการรายกลางรายเล็ก ที่ขณะนี้มีปัญหาการเข้าถึงเงินกู้สินเชื่อ ให้มีเงินหมุนเวียนเพียงพอในช่วงเวลาปัจจุบัน เพื่อสามารถทำการค้าต่อไปได้ 

3.การเพิ่มปริมาณการค้าโดยใช้ประโยชน์จากตลาดแนวชายแดนให้มากขึ้น

สำหรับวันนี้ตนจะขอกล่าวถึงแนวคิดข้อแรกก่อนว่า เมื่อเม็ดเงินในระบบเศรษฐกิจปัจจุบันหดหาย จึงมีความจำเป็นต้องสร้างแหล่งรายได้ใหม่ขึ้นมา และแหล่งรายได้ใหม่นั้นสมควรพุ่งเป้าไปที่กลุ่มเปราะบาง รวมถึงกลุ่มคนตัวเล็กทั้งพ่อค้าแม่ขาย และเอสเอ็มอี ที่สำคัญเน้นการกระจายแหล่งรายได้นั้นให้ทั่วถึงในพื้นที่ต่างๆของประเทศ เพื่อช่วยเศรษฐกิจฐานรากให้หมุนเวียนคล่องตัวขึ้น
 
ทีมงานสร้างอนาคตไทยได้ประมวลภาพกำลังซื้อในปัจจุบัน พบว่า แม้ในภาพรวมกำลังซื้อจะหดหาย แต่ในความเป็นจริงยังมีผู้มีกำลังซื้อรายใหญ่อยู่ ประกอบด้วย 1.หน่วยงานราชการ 2.รัฐวิสาหกิจ 3.เอกชนรายใหญ่ ซึ่งยังมีความจำเป็นต้องจัดซื้อพัสดุครุภัณฑ์และอื่นๆต่อเนื่อง โดยจากการประเมินคาดว่ามีมูลค่ารวมกันสูงถึงปีละ 3 ล้านล้านบาท 

แนวทางที่เราเสนอคือ จากเดิมที่โดยปกติถือปฏิบัติ หน่วยงานดังกล่าวจะดำเนินการจัดซื้อพัสดุครุภัณฑ์ ฯลฯ ในส่วนกลาง แล้วจึงจัดส่งสิ่งที่จัดซื้อไปให้หน่วยงานของตนในพื้นที่ต่างๆเพื่อใช้งาน เม็ดเงินที่เกิดจากการจัดซื้อจึงอยู่ในส่วนกลางเป็นจำนวนมาก โดยต้องใช้เวลานานจึงจะหมุนเวียนไปสู่พื้นที่อื่นๆของประเทศ ดังนั้น หากเราทำให้เม็ดเงินจากการจัดซื้อดังกล่าว กระจายลงสู่พื้นที่ในจังหวัดต่างๆได้เร็วยิ่งขึ้น ก็จะเกิดประโยชน์ครอบคลุมเศรษฐกิจตั้งแต่ระดับฐานรากได้มากขึ้น ซึ่งรัฐบาลและหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง สามารถพิจารณาดำเนินการการจัดซื้อในพื้นที่โดยตรง เพื่อให้ธุรกรรมการซื้อขายเกิดขึ้นในพื้นที่ ก็จะเป็นการส่งเสริมให้ผู้ประกอบการโดยเฉพาะรายกลางรายเล็กที่มีความพร้อม เข้าถึงการเสนอขายครุภัณฑ์และอื่นๆดังกล่าวได้ ซึ่งจะเป็นการสร้างรายได้และกระตุ้นกำลังซื้อให้เกิดการหมุนเวียนของเศรษฐกิจในหลากหลายพื้นที่ของประเทศได้โดยตรง
 
ทั้งนี้เราอาจมีข้อกังวลว่า การจัดซื้อในท้องถิ่นมีโอกาสที่งบประมาณจะรั่วไหลมากนั้น ผมคิดว่า หากภาครัฐมีนโยบายทำเรื่องนี้อย่างชัดเจน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถหารือร่วมกันกำหนดวิธีบริหารจัดการที่รัดกุมและโปร่งใสให้มีประสิทธิภาพและคล่องตัว เพื่อให้ดำเนินการสำเร็จตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้

บก.ทท. ทำพิธีรับกำลังพล กองร้อยทหารช่างเฉพาะกิจ ไทย/เซาท์ซูดาน ผลัดที่ 2 ชุดที่ 2 กลับประเทศไทย

กองบัญชาการกองทัพไทย จัดพิธีรับกำลังพล กองร้อยทหารช่างเฉพาะกิจ ไทย/เซาท์ซูดาน ผลัดที่ 2 ชุดที่ 2 จำนวน 135 นาย ที่เสร็จสิ้นการปฏิบัติภารกิจรักษาสันติภาพ ณ สาธารณรัฐเซาท์ซูดาน (UNMISS) และเดินทางถึงประเทศไทยโดยเครื่องบินเช่าเหมาลำขององค์การสหประชาชาติ โดย พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.)  มอบหมายให้ พล.ท.ชิดชนก  นุชฉายา เจ้ากรมยุทธการทหาร เป็นผู้แทนอ่านสารต้อนรับกำลังพล ของผู้บัญชาการทหารสูงสุด ในพิธีรับกำลังพล ผลัดที่ 2 กลับประเทศไทยหลังเสร็จสิ้นการปฏิบัติภารกิจรักษาสันติภาพของสหประชาชาติในสาธารณรัฐเซาท์ซูดาน (UNMISS) ณ สนามบินนานาชาติดอนเมือง กรุงเทพฯ จากนั้นจะเข้ากักกันตนเป็นระยะเวลา 5 วัน ตามมาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุขในการป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID 19) ณ โรงแรมนนทบุรี พาเลซ จ.นนทบุรี

ทั้งนี้ กำลังพล กองร้อยทหารช่างเฉพาะกิจ ไทย/เซาท์ซูดาน ผลัดที่ 2 ชุดที่ 2 จำนวน 135 นาย ได้จบการปฏิบัติภารกิจรักษาสันติภาพ United Nations Mission in South Sudan:UNMISS โดยได้เดินทางจากเมืองจูบา สาธารณรัฐเซาท์ซูดาน  กลับสู่ประเทศไทย

สำหรับ กองร้อยทหารช่างของไทย ได้รับการยอมรับจากสหประชาชาติและองค์การต่าง ๆ ในความเป็นมืออาชีพ โดยเฉพาะคุณสมบัติพิเศษที่ไม่สามารถหาได้จากชาติใด ๆ ได้แก่ การปฏิบัติงานทางการช่างที่มีประสิทธิภาพ ที่ได้รับการมอบหมายจากฝ่ายวิศวกรรมประจำภารกิจ ตลอดจนการน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง มาพัฒนาเพื่อความมั่นคงอย่างยั่งยืน ให้แก่ประชาชนชาวสาธารณรัฐเซาท์ซูดาน ควบคู่ไปกับการปฏิบัติภารกิจทางยุทธวิธี 

ทั้งนี้ กองร้อยทหารช่างเฉพาะกิจ ไทย/เซาท์ซูดาน ผลัดที่ 2 จัดกำลังพลและยุทโธปกรณ์สนับสนุนการซ่อมบำรุงอากาศยานปีกหมุน (เฮลิคอปเตอร์) ให้กับหน่วยบินรวันดา (Rwanda Aviation Unit, RWAN AVN​) ซึ่งเป็นภารกิจสุดท้าย ก่อนที่จะส่งมอบการปฏิบัติภารกิจให้กับกองร้อยทหารช่างเฉพาะกิจ ไทย/เซาท์ซูดาน ผลัดที่ 3 เพื่อสนับสนุนภารกิจรักษาสันติภาพของสหประชาชาติ ณ สาธารณรัฐเซาท์ซูดาน (UNMISS) 

'รสนา' จี้!! 'ม.ศิลปากร' ตั้งกก.สอบสวน 'อธิการบดี' หลังโพสต์ 'ภาพแอร์โอสเตส-ข้อความ' ไม่เหมาะสม

น.ส.รสนา โตสิตระกูล ผู้สมัครผู้ว่ากรุงเทพมหานคร ได้โพสต์เฟซบุ๊กเกี่ยวกับ อธิการบดี ม.ศิลปากร ที่ส่อแสดงถึงพฤติกรรมการล่วงละเมิดทางเพศ ระบุว่า...

สภามหาวิทยาลัยศิลปากรต้องรับผิดชอบอย่างไร? ต่อกรณีอธิการบดี มศก.แสดงพฤติกรรมล่วงละเมิดทางเพศ !!??

กรณีอธิการบดีมหาวิทยาลัยศิลปากรแอบถ่ายรูปแอร์โฮสเตส อ้างเอาไปอวดเพื่อนให้น้ำลายไหล ตามที่ปรากฏเป็นข่าวนั้น ทำให้ที่ปรึกษานโยบายของดิฉันที่เคยเป็นอดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยเดียวกันแสดงความละอายใจแทน เห็นว่าการกระทำเช่นนี้เป็น sexual harassment ชัดเจน แต่เจ้าตัวยังไม่เข้าใจ ซ้ำกล่าวปัดความรับผิดชอบ ซึ่งเท่ากับเป็นการประจานให้สาธารณชนทั่วไปอาจเข้าใจผิดว่า บรรดาคนในมหาวิทยาลัยศิลปากรที่เป็นพรรคพวกเพื่อนฝูงของอธิการบดีคนนี้ เป็นคนมักมากในกามคุณ ขนาดเห็นรูปถ่ายผู้หญิงสวยๆ ก็น้ำลายไหลแล้ว นับเป็นการดูถูกคนในมหาวิทยาลัยศิลปากรมากทีเดียว แต่ที่สำคัญคือการถ่ายภาพพนักงานบนเครื่องบินขณะปฏิบัติหน้าที่ น่าจะเป็นความผิดทางกฎหมายหรือความผิดทางอาญาด้วยหรือไม่

ขอตั้งคำถามว่าระบบของมหาวิทยาลัยมีสิ่งที่เรียกว่าประมวลจริยธรรมของเจ้าพนักงานที่ดำรงตำแหน่งเป็นผู้บริหารระดับสูงหรือไม่ และผู้ที่มีหน้าที่รับผิดชอบต่ออธิการบดีมหาวิทยาลัยศิลปากรโดยตรงก็คือ สภามหาวิทยาลัยศิลปากร ซึ่งเป็นผู้พิจารณาแต่งตั้งบุคคลผู้จะมาดำรงตำแหน่งอธิการบดี และกฎหมายระบุไว้ชัดเจนว่า สภามหาวิทยาลัยเป็นผู้บังคับบัญชาของอธิการบดี มีหน้าที่ติดตามตรวจสอบและประเมินอธิการบดี ทั้งการพิจารณาให้ความดีความชอบและลงโทษได้ถึงขั้นถอดถอนออกจากตำแหน่งอธิการบดี ซึ่งในอดีตเคยมีตัวอย่างที่อดีตอธิการบดีบางท่านถูกถอดถอนออกจากตำแหน่ง เพียงเพราะทำงานกับคณบดีไม่ได้ โดยที่ไม่ปรากฏความผิดในตำแหน่งหน้าที่ของอธิการบดีแต่อย่างใด 

ดิฉันในฐานะผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่งขอเรียกร้องให้สภามหาวิทยาลัยศิลปากรอันเป็นสภาของสถาบันอุดมศึกษาที่เป็นหลักแห่งความดี ความงาม และความจริงของประเทศไทย โปรดได้พิจารณาสอบสวนกรณีการล่วงละเมิดทางเพศของผู้ดำรงตำแหน่งอธิการบดีดังกล่าว ให้เป็นที่กระจ่างชัดแก่สาธารณชนโดยไม่ชักช้า เพราะกรณีอื้อฉาวเช่นนี้จะปล่อยเลยตามเลยไม่ได้โดยเด็ดขาด !? ด้วยเหตุผลดังนี้...

1.) ตำแหน่งอธิการบดี เป็นตำแหน่งบริหารสูงสุดของสถาบันการศึกษา จึงควรทำตัวเป็นแบบอย่างที่ดี แต่กลับมีพฤติกรรมที่ขาดจริยธรรม

2.) พฤติกรรมแบบนี้บ่งบอกถึง การไม่ให้เกียรติผู้หญิง และมีแนวคิดไปปลุกเร้าเพื่อนร่วมงานให้มีพฤติกรรมคุกคามทางเพศ ซึ่งความคิดแบบแสวงหาประโยชน์ทางเพศเช่นนี้ หากมีช่องจังหวะไหนเป็นโอกาสแสวงหาประโยชน์ได้ ก็จะกระทำเฉกเช่นบุคคลนี้ที่ถือโอกาสล่วงละเมิดสิทธิส่วนตัวของผู้หญิง เช่น การแอบถ่ายภาพ บางราย ก็อาจ ก้าวล่วงไปถึง การลวนลาม อนาจาร หรือ กระทำชำเราเด็กและผู้หญิงเมื่อมีโอกาส ถือเป็นบุคคลอันตรายที่สถาบันการศึกษาต้องเข้มงวดเอาจริงเอาจังในการเอาผิด

Meta เจ๊งยับกับ Reality Labs สูญ 2.9 พันล้านเหรียญฯ หลังกระแส metaverse ไม่ปังตามเป้า

Meta Platforms Inc. ซึ่งเดิมเรียกว่า Facebook ได้เปิดเผยผลประกอบการไตรมาสแรกปี 2022 เมื่อวันพุธ โดยรายงานว่า หน่วยงาน Reality Labs ซึ่งมุ่งเน้นไปที่ metaverse ของบริษัท ขาดทุนยับเยินกว่า 2.9 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาสที่ 1 ของปี 2565 ซึ่งตัวเลขการหดตัวของรายได้ในครั้งนี้มากกว่า 1.8 พันล้านดอลลาร์ ในไตรมาสที่ 1 ปี 2564

theblockcrypto เปิดเผยถึงรายได้ของ Meta Platforms Inc. หรือ Facebook เดิมว่า บริษัทได้ทุ่มเทให้ส่วนงาน R&D ซึ่งเป็นแผนกในการรับผิดชอบของ Reality Labs ซึ่งทำเงินได้ 695 ล้านดอลลาร์ในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ หรือเพิ่มขึ้นจาก 534 ล้านดอลลาร์เทียบกับในไตรมาสที่ 1 ปี 2564 แต่โดยรวมแล้วบริษัทยังขาดทุนกว่า 2.9 พันล้านดอลลาร์

โดยในรายงานผลประกอบการระบุว่า “เราคาดว่าค่าใช้จ่ายทั้งหมดในปี 2022 จะอยู่ในช่วงประมาณ 87-92 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งลดลงจากแนวโน้มก่อนหน้าของเราที่ 90-95 พันล้านดอลลาร์ โดยในปีนี้ เรามองว่าการเติบโตของค่าใช้จ่ายจะถูกขับเคลื่อนโดยกลุ่ม Family of Apps เป็นหลักตามด้วย Reality Labs”

'ดร.นิว' ซัดแรง!! แก๊งสหายใต้กระโปรงเด็ก ปลุกเร้าคนรุ่นใหม่ 'ออกหน้า - ติดคุกแทน'

ดร.ศุภณัฐ อภิญญาณ หรือ ดร.นิว นักวิจัยภายใต้สถาบันวิจัย MAST Center และคณะวิศวกรรมชีวการแพทย์ University of Arkansas ประเทศสหรัฐอเมริกา โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กในหัวข้อ “ความเหมือนที่แตกต่างของลัทธิ 3 นิ้ว 3 รุ่น 3 ชนชั้น” ระบุว่า...

จรัล ดิษฐาอภิชัย อายุ 74 ปี
จรัลหนีคดีอยู่ที่ประเทศฝรั่งเศส เก่งแต่มุดหัวอยู่ใต้กระโปรงคนรุ่นใหม่ แล้วคอยชักใยอยู่เบื้องหลัง ยุยงปลุกปั่นสร้างความแตกแยก แก่จนอายุปูนนี้ แต่ก็ยังทำตัวเป็นคนรกโลก แถมยังหาความเป็นลูกผู้ชายไม่เจออีกต่างหาก สมเป็นต้นแบบของนักปฏิวัติใต้กระโปรงอย่างแท้จริง อีกอย่างจะเรียกว่า "นักปฏิวัติใต้กระโปรง" ก็ดูจะเป็นการให้เกียรติกันมากเกินไปเสียด้วยซ้ำ เพราะจรัลเหมาะแก่การถูกขนานนามว่าเป็น "เห็บใต้กระโปรง" หรือ "ปรสิตใต้กระโปรง" เสียมากกว่า

ปิยบุตร แสงกนกกุล อายุ 42 ปี
ปิยบุตรวางตัวราวกับเป็นศาสดาใหญ่ แต่ที่ไหนได้ ที่แท้ก็สืบทอดวิชาปฏิวัติฉบับมุดหัวอยู่ใต้กระโปรงต่อมาจากจรัลนี่เอง เป็นได้แค่หมากตัวหนึ่งให้จรัลสนตะพายอีกที จนกลายเป็นทายาทนักสู้ใต้กระโปรงหมายเลขหนึ่งของจรัล แล้วปิยบุตรก็คอยชี้นำทางความคิดหลอกใช้คนอื่นต่ออีกเป็นทอดๆ แถมปิยบุตรยังเป็นซ้ายคาเวียร์ที่ไร้อุดมการณ์ มือข้างหนึ่งถือตำราคาร์ลมาร์กซ์-เลนิน ส่วนมืออีกข้างก็จิบไวน์ ใช้ชีวิตหรูอยู่สุขสบาย เคลื่อนไหวโดยอาศัยบารมีของนายทุนอย่างนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ

เจ๊เขียว หรือ มิ้นท์ อายุ 29 ปี
มิ้นท์เป็นตัวอย่างของผลผลิตแห่งความย้อนแย้งขั้นสุด อ้างประชาธิปไตย แต่กลับติด #เยาวชนหญิงแดงรายงาน ตีตราให้ตัวเองราวกับว่าเป็นคอมมี่หลงยุคตามรอยของจรัลกับปิยบุตร อีกอย่างมิ้นท์อายุจะ 30 ปีแล้ว ไม่ใช่เยาวชนแล้วนะ อ้างความเท่าเทียม แต่กลับยอมออกหน้าชนแทนผู้ใหญ่สามนิ้วที่คอยหลบอยู่ข้างหลังอย่างเอารัดเอาเปรียบ สุดท้ายตัวมิ้นท์เองหรือเปล่าที่จะเดือดร้อนอย่างเดียวดาย อ้างอยากรับเสด็จ แต่กลับโพสต์ภาพกิโยตินแสดงถึงความอาฆาตมาดร้ายอย่างดุเดือด อ้างจะปฏิวัติโดยการประกาศแบบกร่างสุดๆ แต่กลับรีบลบโพสต์รูปกิโยตินหนีความผิดแบบปอดแหกสุดๆ เช่นกัน

อย่างไรก็ดี ถ้าให้เปรียบเทียบในเรื่องของความกล้าแล้ว นับว่ามิ้นท์มีความกล้ามากกว่าผู้ใหญ่สามนิ้วอย่างจรัลกับปิยบุตรอย่างเทียบกันไม่ได้ มิ้นท์กล้าออกมาชนอย่างทุ่มเท ในขณะที่จรัลกับปิยบุตรเอาแต่มุดหัวอยู่ใต้กระโปรงไปวันๆ ทำตัวเป็นเห็บหรือปรสิตใต้กระโปรง ที่ไม่มีแม้แต่ความรับผิดชอบต่อความคิดของตัวเอง คอยแต่ทำนาบนสมองคนอื่น เก่งแต่ปลุกเร้าให้คนอื่นออกหน้าทำผิดติดคุกติดตะรางแทนตัวเองอย่างน่ารังเกียจ

'ดร.สมเกียรติ' วิเคราะห์ตอนจบสงครามรัสเซีย-ยูเครน ฟันธงจะไม่มียุโรปชาติใดอยากยุ่งกับยูเครน

'ดร.สมเกียรติ' วิเคราะห์ตอนจบของสงครามรัสเซีย-ยูเครน ฟันธงรัสเซียจะสถาปนารัฐใหม่ขึ้นมาสี่รัฐ โปแลนด์-โมาเนีย จะเข้ามาแบ่งยูเครน ไม่มียุโรปชาติใดอยากยุ่งกับยูเครนเพราะแพง เสี่ยง กลัวรัสเซียตบ ตัดแก๊สเดี๋ยวก็ไล่อเมริกันไป

29 เม.ย. 65 - ดร.สมเกียรติ โอสถสภา อดีตอาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาฯ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กถึงสถานการณ์สงครามรัสเซีย-ยูเครน ว่า...

สงครามจะจบ

เมื่อเริ่มสงครามยูเครนให้กุมารทองไปสืบข่าวมา แล้วบอกว่าตอนจบของยูเครนจะเป็นแบบนี้

1.) รัสเซีย จะสถาปนารัฐใหม่ขึ้นมาสี่รัฐ ชายฝั่งตะวันออกถึงตอนใต้ รวมทะเลดำ ยึดทางออกทะเลทั้งหมดของยูเครน

2.) โปแลนด์จะเข้ามาแบ่งยูเครน เอาส่วนที่เป็นชาติพันธ์โปแลนด์ไป แถวเมืองสวิฟท์ ที่ผมเรียกเมืองละโว้ของโปแลนด์ สถาปนารัฐกันชนระหว่างโปแลนด์กับรัสเซียขึ้น เป็นพื้นที่ประวัติศาสตร์แนวสุโขทัยอเมริกาตกลงกับโปแลนด์แล้ว เดี๋ยวจะแบ่ง

3.) โรมาเนียจะมาแบ่งยูเครนด้วย คาดว่าจะเอาส่วนของมอลโดว่า ทำเป็นรัฐกันชน
.
4.) ท้ายสุด เบลารุสจะสร้างรัฐกันชนของตนด้วย ลากเส้นจะเห็นสงครามจะจบแบบนี้นี่คือวิถีจัดสรรดินแดนแบบยุโรป

ผู้บริหารฯบลูเทค ซิตี้เข้าร่วมโครงการฝึกอบรมระยะสั้นเพื่อยกระดับทักษะบุคลากรภาคการท่องเที่ยว และการท่องเที่ยวชุมชนในพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทรา

เมื่อวันที่  28 เม.ย 65 ที่ ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดฉะเชิงเทรา คุณกุลพรภัสร์ วงศ์มาจารภิญญา ประธานผู้บริหารนิคมอุตสาหกรรมฉะเชิงเทราบลูเทคซิตี้ เข้าร่วมโครงการฝึกอบรมระยะสั้นเพื่อยกระดับทักษะบุคลากรภาคการท่องเที่ยว และการท่องเที่ยวชุมชน โดยมีนายไมตรี ไตรติลานันท์ ผวจ.ฉะเชิงเทรา เป็นประธานประชุมคณะกรรมการและที่ปรึกษาคณะกรรมการบริหารสภาอุตสหกรรมจังหวัดฉะเชิงเทรา

เนื่องจากฉะเชิงเทรา เป็นจังหวัดที่อยู่ในโครงการ EEC ของรัฐบาล และการท่าเรือแห่งประเทศไทย มีความประสงค์จะสร้างท่าเรือบกที่จังหวัดฉะเชิงเทรา เพื่อเป็นจุดกระจายสินค้าภายในประเทศและประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งต้องการที่ดินประมาณ 700 กว่าไร่ และต้องอยู่ใกล้กับสถานีรถไฟ และถนนด้วย หากฉะเชิงเทรามีท่าเรือบก จะเป็นศูนย์กลางในการกระจายสินค้าในภาคตะวันออก 

นอกจากเรื่องท่าเรือบก ที่ฝากเป็นการบ้านให้ช่วยกันหาคิดแล้ว ยังได้กล่าวอีกว่า ขณะนี้ ฉะเชิงเทรา ได้ร่วมมือกับ มหาวิทยาลัยราชภัฎราชนครินทร์ และมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เพื่อจัดอบรมบุคคลากรภาคอุตสาหกรรม ให้ปรับตัวเพื่อการนำ AI มาใช้ในกาคอุตสาหกรรม เป็นหลักสูตร ระยะสั้น ที่จะช่วยพัฒนาทรัพยากรบุคคลภาคอุตสาหกรรม เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน กับเทรนด์ของอุตสาหกรรมในอนาคต ซึ่งพยากรณ์ว่าจะนำ AI มาใช้ในระบบอุตสาหกรรมเพิ่มมากขึ้น

‘ดินแดง - ท่าเรือ’ ทางด่วนสายแรกของไทย ในวาระฉลองครบรอบ 200 ปี กรุงเทพฯ

ทางด่วนสายแรกของประเทศไทย
ดินแดง-ท่าเรือ เปิดใช้งานฉลอง 200 ปีกรุงเทพฯ
ช่วงสุขุมวิท-พระรามสี่อยู่บนพื้นราบ
สะพานลอยที่เห็นเชื่อมสวนลุมพินี และสวนเบญจกิติ


ที่มา : https://www.facebook.com/532544466865594/photos/a.532552690198105/4293086227478047/


👍 มาหลงกรุงไปด้วยกันได้ที่ : https://thestatestimes.com/tag/หลงกรุง

ตร. ขออภัยใช้ภาพบาดแผลตัว S เทียบคดีแตงโม หลังถูกชาวเน็ต ‘จับโป๊ะ’ ดึงภาพมาจากเว็บ The Sun

ตำรวจแถลงขออภัยกรณีใช้ภาพบาดแผลตัว S จากเคสต่างประเทศเทียบคดีแตงโม ไม่อ้างแหล่งที่มา ทำให้เข้าใจกำกวม ยืนยันไม่กระทบสาระสำคัญของคดี

จากกรณีการแถลงข่าวสรุปสำนวนคดีการเสียชีวิตของ น.ส.นิดา พัชรวีระพงษ์ หรือแตงโม ที่สรุปว่า บาดแผลที่โคนขวาด้านในเข้ากันได้กับใบพัดเรือสปีดโบต โดยได้นำภาพบาดแผลเคสที่เคยเกิดขึ้นในต่างประเทศ แต่ปรากฏว่าชาวโซเชียลมีการตรวจสอบภาพดังกล่าวที่รายงานในเว็บไซต์ The Sun ของอังกฤษ ยืนยันว่าไม่ใช่บาดแผลจากใบพัดเรือ

ล่าสุดเมื่อ 28 เม.ย. 65 เวลา 15.40 น. พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (ผบช.ภ.1) นำทีมแถลงข่าวกรณีภาพที่ปรากฏในวิดิทัศน์ที่สร้างความสับสนให้กับสังคมอยู่ในขณะนี้

โดย พ.ต.อ.วรชาติ แสนคำ รอง ผบก.สส.ภ.1 อ้างว่า เนื่องจากมีปัญหาทางข้อกฎหมาย ไม่สามารถนำบาดแผลจากศพมาเผยแพร่ได้ อีกทั้งบาดแผลจากศพที่ผ่านการเย็บแล้วจะมีลักษณะโค้งเว้ารูปตัว S จึงนำภาพจากต่างประเทศมาเทียบเคสที่เกิดขึ้น พร้อมอ้างถึงการนำเสนอข่าวภาพบาดแผลในสื่อทีวีช่องหนึ่ง อ้างเป็นแผลจากที่ถูกใบพัดเรือสปีดโบตฟัน และรอดชีวิตจากการว่ายน้ำเข้าฝั่ง แต่ระบุว่าเทียบบาดแผลจากใบพัดเรือ ซึ่งสื่อมวลชนก็สามารถค้นหาข้อมูลบาดแผลในลักษณะต่าง ๆ ได้ จาก Google โดยเสริจคำว่า propeller wound ก็จะขึ้นภาพลักษณะต่าง ๆ

นอกจากนี้ ยังได้ศึกษาข้อมูลต่างประเทศข้อมูลการวิจัยเทียบเคสจากต่างประเทศ ที่มีทั้งรูปแบบก้างปลา และรูปตัว S ได้


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top