Wednesday, 14 May 2025
ECONBIZ NEWS

คลังเร่งจ่ายเงินยังชีพผู้สูงอายุที่ถือบัตรสวัสดิการ ตกเบิก 

นางแก้วกาญจน์ วสุพรพงศ์ รองอธิบดีกรมบัญชีกลาง ในฐานะโฆษกกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า กรมบัญชีกลาง ได้เริ่มจ่ายเงินเข้าบัตรสวัสดิการแห่งรัฐของผู้มีสิทธิ ตามอัตราการจ่ายเดิม (ผู้สูงอายุที่มีรายได้ไม่เกิน 30,000 บาทต่อปี จะได้รับความช่วยเหลือ 100 บาทต่อเดือน และผู้สูงอายุที่มีรายได้เกิน 30,000 บาทต่อปี แต่ไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี จะได้รับความช่วยเหลือ 50 บาทต่อเดือน) ให้เป็นไปตามมติของ คณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติ มีมติเมื่อวันที่ 30 ก.ค. 2564 เห็นชอบการจ่ายเงินสงเคราะห์เพื่อการยังชีพแก่ผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อยที่ได้รับสิทธิในโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐจากกองทุนผู้สูงอายุ

 

ทั้งนี้ได้กำหนดจะจ่ายย้อนหลัง คือ ปีงบบประมาณ พ.ศ. 2563 จ่าย 4 เดือน (มิถุนายน - กันยายน 2563) และปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 จ่าย 6 เดือน แบบเดือนเว้นเดือน (ตุลาคม และธันวาคม 2563 กุมภาพันธ์ เมษายน มิถุนายนและสิงหาคม 2564) 

 

สำหรับเงื่อนไขของผู้มีสิทธิ จะต้องเป็นผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่มีอายุครบ 60 ปีขึ้นไป ก่อนเดือนที่ได้รับสิทธิเงินสงเคราะห์ฯ โดยกรมบัญชีกลางจะจ่ายเงินเข้ากระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Money) ในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐของผู้มีสิทธิในวันที่ 3 ก.ย.64 ซึ่งวงเงินนี้ สามารถใช้ชำระค่าสินค้าหรือบริการผ่านเครื่อง รับชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ หรือแอปพลิเคชั่น ถุงเงินประชารัฐ ที่ร้านธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น หรือร้านค้าประชารัฐของกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง รวมทั้งสามารถถอนเป็นเงินสดได้ที่ตู้ ATM ของ บมจ. ธนาคารกรุงไทย หรือสาขาของ บมจ.ธนาคารกรุงไทย

รถไฟฟ้าบีทีเอส สิ้นสุดการขายโปรโมชั่นเที่ยวเดินทาง 30 วันทุกประเภท 30 ก.ย.นี้ สอดรับพฤติกรรมผู้โดยสารเปลี่ยนแปลง ยันค่าโดยสารคงกรอบ 16 - 44 บาท

นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ บีทีเอสซี ขอแจ้งให้ทราบว่า บริษัทฯ จะสิ้นสุดการจำหน่ายโปรโมชั่นเที่ยวเดินทาง 30 วัน ทุกประเภท ผู้โดยสารสามารถซื้อ/เติมเที่ยวเดินทาง ได้จนถึงวันที่ 30 กันยายน 2564 เป็นวันสุดท้าย ทั้งนี้ บัตรโดยสารที่มีเที่ยวเดินทางคงเหลือ สามารถใช้เดินทางได้จนกว่าเที่ยวเดินทางจะหมด หรือเที่ยวเดินทางหมดอายุการใช้งานอย่างใดอย่างหนึ่ง

นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กล่าวว่า ณ ปัจจุบัน พฤติกรรมการเดินทางของผู้โดยสารมีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม และมีรูปแบบการเดินทางที่หลากหลายมากขึ้น ประกอบกับความไม่แน่นอนอันเนื่องมาจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ทำให้ผู้โดยสารไม่สามารถวางแผนการเดินทางล่วงหน้าได้นานแบบเมื่อก่อน อีกทั้งเรื่องการชำระค่าโดยสารล่วงหน้าก็ดูจะเป็นทางเลือกที่ไม่ตอบโจทย์อีกต่อไป ด้วยพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปนี้ บริษัทฯ ได้พิจารณา และเห็นว่าโปรโมชั่นเที่ยวเดินทาง 30 วัน สามารถตอบโจทย์ลูกค้าได้เฉพาะกลุ่มเท่านั้น ทางบริษัทฯ จึงจะยุติการจำหน่ายโปรโมชั่นดังกล่าว โดยจะจำหน่ายในวันที่ 30 กันยายน 2564 เป็นวันสุดท้าย

สำหรับอัตราค่าโดยสารที่เรียกเก็บในเส้นทางสัมปทาน 23.5 กิโลเมตร จากสถานีหมอชิตไป สถานีอ่อนนุช และจากสถานีสนามกีฬาแห่งชาติไปสถานีสะพานตากสิน รวมส่วนต่อขยายจากสถานีสะพานตากสิน ถึงสถานีวงเวียนใหญ่ ยังคงอยู่ในอัตรา 16 - 44 บาท ผู้โดยสารสามารถใช้บัตรโดยสารใบเดิมเพื่อเติมเงิน และเดินทางได้ตามปกติ ทั้งบัตรสำหรับบุคคลทั่วไป และบัตรสำหรับนักเรียน นักศึกษา ในส่วนของบัตรสำหรับผู้สูงอายุ ยังคงได้รับโปรโมชั่นส่วนลดครึ่งราคาจากอัตราค่าโดยสารที่เรียกเก็บใน อัตราเดิมสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์บีทีเอส โทรศัพท์ 02-617-6000 (ตั้งแต่เวลา 06.00-20.00 น.) Line Official : @btsskytrain (ตั้งแต่เวลา 06.00-21.00 น.) หรือตรวจสอบสถานะการเดินรถได้ที่ App ‘BTS SkyTrain’ แฟนเพจ Facebook : รถไฟฟ้าบีทีเอส

อย่างไรก็ตาม บีทีเอส เตรียมปรับรูปแบบการออกโปรโมชั่นใหม่ให้ยืดหยุ่นขึ้น โดยจะไม่มีข้อจำกัดของเวลา รวมถึงการสะสมคะแนนเพื่อแลกเที่ยวฟรี หรืออื่น ๆ เพิ่มเติมออกมาแทน


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!
A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!! 
>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท
>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ
>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต
>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย
***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก???? https://lin.ee/vfTXud9

กกร. แนะรัฐสร้างมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น-ยาว เสริมภาคธุรกิจฟื้นตัว ด้าน ปธ.หอการค้าฯ คาดหากรัฐ คุมการระบาดโควิด-19 ได้ เชื่อ ต.ค. เศรษฐกิจไทยเสียหายน้อยลง

นายผยง ศรีวณิช ประธานสมาคมธนาคารไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) เปิดเผยภายหลังการประชุม กกร. ว่า รัฐบาลควรมีมาตรการเข้ามากระตุ้นเศรษฐกิจทั้งระยะสั้นและระยะยาวที่มากขึ้น โดยมาตรการระยะสั้นต้องการให้ส่งเสริมการใช้จ่ายผ่านโครงการคนละครึ่ง โดยเพิ่มวงเงินจาก 3,000 บาท เป็น 6,000 บาท รวมทั้งนำโครงการช้อปดีมีคืนกลับคืนมา เพื่อกระตุ้นการใช้จ่าย และขอให้ไม่มีการใช้มาตรการล็อกดาวน์อีกต่อไป เนื่องจากกระทบเศรษฐกิจอย่างมาก

ขณะที่มาตรการระยะยาว รัฐต้องเร่งเสริมสร้างฐานการผลิตรับมือสงครามการค้า และผลักดันอุตสาหกรรมใหม่ๆ ควรทำต่อเนื่องผ่านการลงทุนกับเอกชน และดึงดูดลงทุนต่างประเทศ และเพิ่มงบประมาณช่วยเหลือเอสเอ็มอีผ่านการค้ำประกันสินเชื่อ

ทั้งนี้เพื่อส่งเสริมให้ธุรกิจฟื้นตัวกลับมายืนได้ด้วยตัวเองโดยเร็ว ภาครัฐควรกำหนดเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจในปีหน้า ที่ท้าทายขึ้นเป็น 6-8% โดยจำเป็นต้องใช้กระสุนทางการคลังจากการเพิ่มเพดานหนี้สาธารณะต่อจีดีพีจาก60% เป็น 70-80% สามารถกู้เงิน เพื่อให้มีเงินเข้าเพิ่มเติมเข้าอีก  7 แสนบาท-1.5 ล้านล้านบาท เน้นสนับสนุนการจ้างงาน และใช้ในมาตรการที่มีผลกับเศรษฐกิจสูง

นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า ภาครัฐต้องให้ความสำคัญจริงจังช่วยเหลือเรื่องค่าใช้จ่ายภาคเอกชนที่เป็นรูปธรรมอย่างชัดเจน เสนอไม่อยากให้มีการล็อกดาวน์อีก จะกระทบเศรษฐกิจมาก เพราะการล็อกดาวน์ จะต้องหยุด หมดไป และการเปิดประเทศจะทำได้ภาคอุตสาหกรรม รวมถึงช่วยเหลือมาตรการภาษี โดยพยายามประคองไม่ให้กระบวนการเศรษฐกิจประเทศหยุดชะงัก 

ขณะที่ นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ถ้าวัคซีนเข้ามาตามที่รัฐบาลสัญญาไว้ ในที่สุดน่าจะมีโอกาสเห็นการเปิดประเทศได้ ส่วนความเสียหายต่อเศรษฐกิจไทยในช่วงเดือนส.ค.เสียหายต่อเดือนถึง 3 แสนล้านบาท และคาดว่าเดือน ก.ย. ความเสียหายจะลดลงเหลือ 2 แสนล้าน และเดือน ต.ค. ก็น่าจะดีขึ้นถ้าสามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้ โดยแต่ละบริษัทจะมีการสร้างกิจกรรม เช่น เทศกาลปีใหม่ทำให้คึกคัก จะนี้จะส่งดีต่อเศรษฐกิจช่วงปลายปี

สภาเกษตรฯ ชงรัฐเยียวยาผู้เลี้ยงหมูหลังเจอโรคระบาดหนัก

นายประพัฒน์ ปัญญาชาติรักษ์ ประธานสภาเกษตรกรแห่งชาติ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะทำงานแก้ไขปัญหาเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคในสุกร ว่า ได้จัดทำข้อเสนอเชิงนโยบายโครงการฟื้นฟูเยียวยาและปรับโครงสร้างการเลี้ยงสุกรของเกษตรกรรายกลางถึงรายย่อยทั้งประเทศ โดยขอให้รัฐออกมาตรการเร่งด่วน ทั้ง การเร่งจ่ายเงินเยียวยาเพื่อชดเชยความเสียหายจากโรคระบาดกับเกษตรกร รายกลาง รายเล็ก รายย่อย ซึ่งทำลายซากสุกรไปแล้ว การจัดหาแหล่งเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำหรือปลอดดอกเบี้ย เพื่อฟื้นฟูอาชีพเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบ โดยรัฐบาลชดเชยดอกเบี้ยให้เพื่อให้เกษตรกรรายย่อยและรายกลาง

รวมทั้งเสนอให้นำนำระบบ Zoning มาใช้ในการควบคุมและป้องกันโรคระบาดสัตว์ การขึ้นทะเบียนคนกลางรับซื้อสุกรทุกรายทุกขนาด การปรับปรุงแก้ไข กฎหมาย ประกาศกระทรวง  และระเบียบที่เป็นอุปสรรคต่อพัฒนาวงการสุกรทุกระดับ พร้อมทั้งเสนอแนะให้จัดตั้งกองทุนสุกร ให้เป็นรูปธรรม เพื่อนำเงินกองทุนมาดูแลปัญหา ทั้งโรคระบาดรุนแรง การแทรกแซงราคาตลาด ได้อย่างทันท่วงทีผ่านกองทุนก่อนที่รัฐบาลจะเข้ามาช่วยเหลือ รวมทั้งขอให้นำระบบเศรษฐกิจใหม่ BCG Model มาใช้ในวงการปศุสัตว์ด้วย

นายประพัฒน์ กล่าวว่า หลังจากเกิดปัญหาโรคระบาดในสุกร ขึ้น ได้สร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจอย่างร้ายแรง เกษตรกรต้องสูญเสียสุกร ป่วยตายจากโรคถึง 30% และไม่สามารถเลี้ยงสุกรต่อไปได้ เนื่องจากเชื้อโรคยังสะสมอยู่ในพื้นที่ ทำให้เกิดโรคซ้ำในคอกหรือฟาร์มจนเกษตรกรรายย่อยหมดตัวไปแล้วหลายราย  อนาคตอาจถึงขั้นต้องสูญเสียอาชีพการเลี้ยงสุกร กระทบต่อภาคอุตสาหกรรมต่อเนื่อง คิดเป็นมูลค่าความเสียหายโดยรวมไม่ต่ำกว่า 150,000 ล้านบาท 

แบงก์ชาติรอปรับตัวเลขเศรษฐกิจใหม่หลังโควิดยืดเยื้อ

น.ส.ชญาวดี ชัยอนันต์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายเศรษฐกิจมหภาค ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่าเศรษฐกิจไทยในเดือนก.ค. 2564 ได้รับผลกระทบมากขึ้นจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยเครื่องชี้การบริโภคภาคเอกชนลดลงตามกำลังซื้อที่อ่อนแอและมาตรการควบคุมการระบาดที่เข้มงวดขึ้น โดยในวันที่ 29 ก.ย.64 ธปท. ประเมินผลกระทบว่าเป็นอย่างไร จากนั้นจึงมาจะปรับประมาณการเศรษฐกิจอีกครั้ง จากเดิมที่คาดว่าเศรษฐกิจไทยในปีนี้จากขยายตัว 0.7% 

สำหรับเศรษฐกิจไทยในเดือนก.ค.ที่ผ่านมา พบว่า เครื่องชี้การบริโภคภาคเอกชนลดลงจากเดือนก่อนในทุกหมวดการใช้จ่าย จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่รุนแรงและมาตรการควบคุมการระบาดที่เข้มงวดขึ้น 
ส่งผลให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจโดยรวม รายได้ครัวเรือน และความเชื่อมั่นของผู้บริโภคปรับลดลง โดยมาตรการภาครัฐช่วยพยุงกำลังซื้อได้เพียงบางส่วน 

ขณะที่มูลค่าการส่งออกสินค้าที่ขจัดปัจจัยฤดูกาลแล้วลดลงเล็กน้อยจากเดือนก่อน โดยเป็นผลจาก อุปสงค์ประเทศคู่ค้าที่ชะลอตัวจากการแพร่ระบาดที่รุนแรงขึ้นในบางประเทศที่รุนแรงขึ้น และ  การขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์ ซึ่งกระทบต่อการส่งออกเครื่องใช้ไฟฟ้า และการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในโรงงาน ซึ่งกระทบต่อการส่งออกอาหารแปรรูป อย่างไรก็ดี การส่งออกสินค้าบางหมวดยังเพิ่มขึ้น อาทิ สินค้าเกษตร สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ และโลหะ 

อย่างไรก็ดีหากดูการใช้จ่ายภาครัฐ ถือว่า ขยายตัวเมื่อเทียบกับระยะเดียวกันปีก่อน แต่หากไม่รวมเงินโอน การใช้จ่ายภาครัฐทรงตัว โดยรายจ่ายประจำขยายตัวจากทั้งรายจ่ายค่าตอบแทนบุคลากร และรายจ่ายเพื่อซื้อสินค้าและบริการ ขณะที่รายจ่ายลงทุนหดตัว โดยเฉพาะการเบิกจ่ายของรัฐบาลกลาง จากผลของฐานสูงที่มีการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณในปีก่อน

ดีเดย์ 1 ก.ย.นี้ คลัง เก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากการขายออนไลน์

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง เปิดเผยว่า ขณะนี้กระทรวงการคลังได้ประกาศให้มีการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับการให้บริการทางอิเล็กทรอนิกส์จากต่างประเทศ (e – Service) ของกรมสรรพากร ซึ่งจะเริ่มมีผลบังคับใช้ทางกฎหมายในวันที่ 1 ก.ย.นี้ โดยกำหนดให้ผู้ประกอบการต่างประเทศที่ให้บริการทางอิเล็กทรอนิกส์แก่ผู้ใช้บริการที่ไม่ได้จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มในประเทศไทยและมีรายได้จากการให้บริการเกิน 1.8  ล้านบาท จะต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มผ่านระบบงานภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับการให้บริการทางอิเล็กทรอนิกส์จากต่างประเทศ บนเว็บไซต์ของกรมสรรพากร และยื่นแบบแสดงรายการภาษีมูลค่าเพิ่ม พร้อมชำระภาษีเป็นรายเดือน ภายในวันที่ 23 ในเดือนถัดไป

“ภาษี e – Service นี้ มีการดำเนินการในขั้นตอนของกฎหมายมากกว่า 2 ปี จนได้รับการอนุมัติเมื่อเดือนก.พ. 2564 และให้เริ่มมีผลบังคับใช้ในเดือนหน้านี้ โดยปัจจุบันมีผู้ประกอบการต่างประเทศลงทะเบียนเพื่อขอจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มบนเว็บไซต์ของกรมสรรพากรแล้วมากกว่า 50 ราย ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า ผู้ให้บริการต่างประเทศมีความตื่นตัวและพร้อมจะปฏิบัติตามกฎหมายภาษี e – Service ของไทยด้วยดี โดยไทยเป็นหนึ่งใน 60 กว่าประเทศทั่วโลกที่ได้เริ่มดำเนินการเก็บภาษีประเภทนี้”

สำหรับธุรกิจที่ต้องมาจดทะเบียนและดำเนินการทางภาษี แบ่งออกเป็น 5 กลุ่มหลัก ประกอบด้วย ธุรกิจให้บริการแพลตฟอร์มสำหรับขายของออนไลน์ ธุรกิจให้บริการโฆษณาออนไลน์ ธุรกิจให้บริการจองโรงแรมที่พักและการเดินทาง ธุรกิจให้บริการเป็นตัวกลางระหว่างผู้ซื้อผู้ขาย ธุรกิจให้บริการสมาชิกดูหนังฟังเพลงออนไลน์ เกมส์ และแอปพลิเคชันต่าง ๆ

อย่างไรก็ตามการจัดเก็บภาษี e – Service นี้ นอกจากทำให้เกิดความเป็นธรรมในการแข่งขันแล้ว ภาษี e – Service จะเป็นการเพิ่มรายได้ทางหนึ่งให้กับประเทศ ซึ่งคาดว่าจะมีรายได้เพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 5,000 ล้านบาทในปีงบประมาณ 2565 และในอนาคตจะทำให้ประเทศไทยมีฐานข้อมูลรายได้ของผู้ให้บริการแพลตฟอร์มต่างชาติ ที่จะสามารถนำไปใช้ในการคำนวณเป็นฐานภาษีใหม่ที่น่าจะเป็นรายได้อีกทางหนึ่งของประเทศไทยในอนาคต

อานิสงส์วัคซีน-โควิดเริ่มคุมอยู่ ทำดัชนีอุตสาหกรรมขยับดีขึ้น

นายทองชัย ชวลิตพิเชฐ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เปิดเผยดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) เดือนก.ค. 2564 พบว่า อยู่ที่ระดับ 91.41 ขยายตัว 5.12% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันปีก่อน โดยมีอุตสาหกรรมสำคัญที่ขยายตัว คือ รถยนต์และเครื่องยนต์ ชิ้นส่วนและแผ่นวงจรอิเล็กทรอนิกส์ และผลิตภัณฑ์ยางอื่น ๆ หลังจากมีความต้องการตามคำสั่งซื้อที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง 

ส่วนการนำเข้าสินค้าทุน ขยายตัว 35.40% คือ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ รวมถึงการนำเข้าสินค้าวัตถุดิบและกึ่งสำเร็จรูป (ไม่รวมทองคำ) ขยายตัว 50.11% ทั้งเคมีภัณฑ์ เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ 

นายทองชัย กล่าวว่า สถานการณ์ปัจจุบัน ผู้ประกอบการยังมีแนวโน้มที่จะมีการผลิตเพิ่มขึ้นในเดือนถัดไป และมีปัจจัยสนับสนุน ได้แก่ การฟื้นตัวของเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าหลัก ส่งผลให้การส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมขยายตัวต่อเนื่อง มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ ทั้งด้านการเงินและการคลัง รวมถึงการเร่งกระจายการฉีดวัคซีนโควิด-19 และแผนการเปิดประเทศในครึ่งปีหลัง 

อย่างไรก็ตามยังมีประเด็นที่ควรให้ความสำคัญ ทั้ง การระบาดของโควิด-19 โดยเฉพาะคลัสเตอร์โรงงานอุตสาหกรรม ปัญหาการขาดแคลนชิปและตู้คอนเทนเนอร์ และจำนวนนักท่องเที่ยวที่น้อยกว่าคาดการณ์ ซึ่งจะต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดต่อไป  

สศช. แนะรัฐทบทวนมาตรการช่วยค่าไฟบ้านเช่า-หอพัก ไม่ถูกเอาเปรียบ 

นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เปิดเผยว่า ในช่วงที่เกิดการระบาดของไวรัสโควิด-19 พบว่ามีผู้บริโภคจำนวนมากที่พักอาศัยอยู่ในอะพาร์ตเมนต์ หอพัก ห้องเช่าและบ้านเช่า ได้ร้องเรียนผ่านสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ สคบ. ว่าถูกเรียกเก็บค่าไฟฟ้าและน้ำประปาในอัตราที่สูงเกินจริง ซึ่งสศช. เห็นว่า กรณีนี้ภาครัฐควรเข้ามาช่วยเหลือเร่งด่วน โดยทบทวนมาตรการช่วยเหลือผู้เช่าทั้งหมด เพื่อให้ได้รับประโยชน์เท่าเทียมกับกลุ่มที่อยู่อาศัยประเภทบ้านหรือคอนโดมิเนียม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรออกมาตรการมากำกับดูแล โดยเฉพาะกำหนดอัตราค่าไฟฟ้าของผู้เช่า อย่างจริงจัง

สำหรับแนวทางการช่วยเหลือ อาจกำหนดให้ผู้ให้เช่าสามารถเรียกเก็บค่าไฟฟ้าได้ในอัตราที่ไม่เกินกว่าที่ผู้ให้เช่าจ่ายจริงให้กับผู้ให้บริการ ไฟฟ้า และแยกเก็บค่าส่วนกลางหรือค่าสาธารณูปโภคอื่น ๆ เพื่อไม่ให้เป็นการคำนวณเพิ่มตามระดับการใช้ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น โดยทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องต้องหารือกัน เพื่อให้มีข้อกฎหมายที่บังคับใช้ได้จริง สามารถให้ความเป็นธรรมกับผู้เช่าได้โดยที่ไม่กระทบกับผู้ให้เช่ามากนัก รวมถึงจะต้องมีกลไกตรวจสอบความเหมาะสมของค่าสาธารณูปโภคให้สอดคล้องกับความเป็นจริงเพื่อความเป็นธรรมต่อผู้เช่า 

ขณะเดียวกัน ผู้เช่าเองยังสามารถตรวจสอบและรักษาประโยชน์ของตัวเองได้ในเบื้องต้น โดยการตรวจสอบเลขใช้ไฟฟ้าที่มีการจดครั้งก่อน และเลขใช้ไฟฟ้าจดครั้งหลังในใบแจ้งหนี้กับเลขบนมิเตอร์ไฟฟ้าว่าตัวเลขนั้นมีความสอดคล้องกันหรือไม่ รวมถึงหากพบผู้ให้เช่ากำหนดอัตราค่าสาธารณูปโภคที่สูงเกินไป ก็สามารถร้องเรียนไปยังสคบ. ได้ทันที 

รฟม. ล้มประมูลรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ 8.23 หมื่นล.

การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) แจ้งว่า ขณะนี้ได้มีการยกเลิกประกาศประกวดราคาจ้างก่อสร้างงานโยธา โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ (วงแหวนกาญจนาภิเษก) โดยการประกวดราคานานาชาติ เนื่องจากเพื่อให้เกิดการมีส่วนร่วมของภาคประชาชน โดยออกออกเป็นหนังสือชี้แจงลงนามโดยนายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการ รฟม.

สำหรับ โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ (วงแหวนกาญจนาภิเษก) มีมูลค่าการลงทุน 8.23 หมื่นล้านบาท มีระยะทาง 23.6 กิโลเมตร (กม.) เป็นทางวิ่งใต้ดิน 13.6 กม. 10 สถานี และทางวิ่งยกระดับ 10 กม. 7 สถานี เป็นโครงการรถไฟฟ้าลอดใต้แม่น้ำเจ้าพระยาเชื่อมโยงการเดินทางระหว่างนนทบุรี กับ กทม. ฝั่งพระนครและฝั่งธนบุรี รวมถึงสมุทรปราการเข้าด้วยกัน 

เดิม รฟม. มีกำหนดจำหน่ายเอกสารการประกวดราคา (ประมูล) ตั้งแต่วันที่ 5 ก.ค.-7 ต.ค.64 และกำหนดยื่นข้อเสนอ วันที่ 8 ต.ค.64 จากนั้นจะใช้เวลาพิจารณาข้อเสนอทั้ง 3 ซองให้แล้วเสร็จภายในเดือน ธ.ค.64 และคาดว่าจะได้ผู้ชนะการประมูลทั้ง 6 สัญญาภายในเดือน ม.ค.65 มีแผนเริ่มก่อสร้างปี 65 และเปิดบริการปี 70 โดยจากการเปิดจำหน่ายเอกสารการประมูล ตั้งแต่วันที่ 5 ก.ค. ถึงวันที่ 19 ส.ค.64 พบว่า มีผู้สนใจซื้อเอกสารการประมูลแล้ว 8 ราย แบ่งเป็น บริษัทสัญชาติไทย 6 ราย และต่างชาติ 2 ราย

ค้าชายแดน-ผ่านแดนรุ่ง ต่อเนื่อง! จุรินทร์ "ดันส่งออก" เดือน ก.ค. ทะลุ 90,101 ล้านบาท +41.70% 

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายกีรติ รัชโน อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ แถลงข่าวการค้าชายแดนและการค้าผ่านแดนของไทยเดือน กรกฎาคม 2564 ที่ห้องบุรฉัตรไชยากร ช้ัน 4 สำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์ แถลงตัวแลขการค้าชายแดนผ่านแดน

นายจุรินทร์ กล่าวว่า ตัวเลขการส่งออก ผ่านการค้าชายแดนและการค้าผ่านแดน ซึ่งมี 7 ประเทศ และการส่งออกผ่านการค้าชายแดนมี 4 ประเทศ คือมาเลเซีย เมียนมา ลาวและกัมพูชา ส่วนการส่งออกผ่านการค้าผ่านแดน คือ จีนเวียดนามและสิงคโปร์ รวมแล้วเป็น 7 ประเทศ โดยตัวเลขการส่งออกผ่านการค้าชายแดนและการค้าผ่านแดนเดือนกรกฎาคม 2564 เป็นบวกทุกตลาดทั้ง 7 ประเทศ โดยประเทศที่เป็นบวกสูงสุดคือจีน  +126.44% สินค้าส่งออกผ่านแดนไปจีนที่บวกมากที่สุดคือผลไม้สดและผลไม้แห้ง +348% มูลค่ารวม 15,000 ล้านบาท โดยเฉพาะทุเรียนมีมูลค่า 10,600 ล้านบาท มังคุด 4,700 ล้านบาท และลำไย 370 ล้านบาท เป็นต้น ตัวเลขภาพรวมการส่งออกผ่านการค้าชายแดนและการค้าข้ามแดนรวมกันในเดือนกรกฎาคม 2564 มีมูลค่า 90,101 ล้านบาทเป็น +41.70% และภาพรวมการส่งออกผ่านการค้าชายแดนและผ่านแดน 7 เดือนรวม 591,051 ล้านบาทเป็น +37.88% สำหรับการส่งออกผ่านการค้าชายแดน 4 ประเทศรวมกันมีมูลค่า 40,416 ล้านบาท +10.55% การส่งออกผ่านการค้าผ่านแดนใน 3 ประเทศที่เหลือคือ จีน เวียดนามและสิงคโปร์รวมกันมีมูลค่า 49,685 ล้านบาท +83.84%โดยมาเลเซีย +17.95% เมียนมา +10.65% สปป.ลาว +8.08% กัมพูชา +5.12% จีน +126.64% เวียดนาม +1.63% และสิงคโปร์ +59.85%

" ปัจจัยที่ส่งผลให้เป็นบวกถึง 41.70% คือ  1.การทำงานร่วมกันอย่างหนักและต่อเนื่องของกรอ.พาณิชย์ที่ประกอบด้วย กระทรวงพาณิชย์และภาคเอกชน ที่เป็นรูปธรรมที่สุดคือการเร่งเปิดจุดผ่านแดน ด่านทั้งหมดมี 97 ด่าน สามารถเปิดแล้วถึง 44 ด่าน จากปิดตัวไปเยอะตอนเจอโควิดใหม่ๆ 2.การจับมือกับเอกชนแก้ปัญหาทันทีเชิงรุกทั้งด่านรอบบ้านเราและด่านการค้าผ่านแดน เช่น ที่ด่านใหญ่สุดที่เราแก้ปัญหาก่อนเข้าจีนคือด่านโหย่วอี้กวน การส่งออกทุเรียน มังคุดแก้ไขหน้างานได้ทันทีเกือบทุกครั้ง นอกจากนั้นประสานทางการจีนโดยทูตพาณิชย์และทูตเกษตรฯ การช่วยเพิ่มช่องทางที่ด่านตงซิงช่วยให้ระบบการขนส่งผลไม้ของไทยคล่องตัวขึ้น และบางช่วงมีข่าวจีนจะระงับการนำเข้าผลไม้ไทย เช่น จะระงับการนำเข้าทุเรียนเพราะตรวจพบโควิดในตลาดจีนสุดท้ายผ่านการเจรจาของทูตพาณิชย์และทูตเกษตรฯของเรา จีนยกเลิกความคิดที่จะระงับการนำเข้าทุเรียนไทย ลำไยแม้ปรากฏข่าวว่าเจอเพลี้ยแป้ง จากการประสานงานใกล้ชิดระหว่างทูตพาณิชย์ ทูตเกษตรฯปัจจุบันจีนไม่ได้ระงับการนำเข้าและทั้งทุเรียน ลำไย 3.กระทรวงพาณิชย์มีนโยบายช่วยต่อลมหายใจให้กับ SMEs ส่งออกซึ่งมีส่วนสำคัญในการทำตัวเลขการส่งออกสินค้าข้ามแดนและชายแดนคือโครงการ “จับคู่กู้เงิน”สถาบันการเงินกับ SMEs ส่งออก โดยวันที่ 26 สิงหาคม EXIM Bank อนุมัติเงินกู้เงื่อนไขพิเศษให้ SMEs ส่งออกแล้ว 151 รายเป็นเงิน 618 ล้านบาท ช่วยให้เกิดสภาพคล่องในการทำตัวเลขส่งออกผ่านการค้าชายแดนและผ่านแดนเพิ่มขึ้น 4.การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้า และความต้องการสินค้าบางประเภทเพิ่มขึ้นเช่น สินค้า Work from Home 5.ค่าเงินบาทเริ่มอ่อนค่าลงโดยเฉลี่ย 10% ช่วยให้เราสามารถแข่งขันในตลาดเพื่อนบ้านหรือตลาดจีนได้ดีขึ้น " นายจุรินทร์ 

อย่างไรก็ตามยังมีปัจจัยลบที่เป็นตัวถ่วงตัวเลขการค้าชายแดนเช่นสถานการณ์โควิดซึ่งมาเลเซียเข้มงวดการนำเข้าสินค้าชายแดนผ่านไทยเพราะต้องควบคุมการแพร่ระบาดซึ่งส่งผลกระทบต่อการส่งออกน้ำยางและส่งผลต่อราคาน้ำยางในประเทศไทยอย่างไรก็ตามยางก้อนถ้วยยังราคาดีมากและดีกว่าหลายยุคที่ผ่านมา เพราะ 3-5 ปีที่ผ่านมากิโลกรัมละ 15 บาท แต่วันนี้ 24 บาทราคาอาจหย่อนลงไปบ้างและระบบการขนส่งโลจิสติกส์ทั้งการขนส่งข้ามจังหวัดที่มีอุปสรรคตอนข้ามจังหวัดบ้างและระบบการขนส่งข้ามประเทศที่ต้องแก้ปัญหาหน้างานตลอดทั้งจากไทยไปลาว ลาวไปเวียดนาม เป็นต้น หรือรวมทั้งข้ามฝั่งไปเมียนมาเพราะสถานการณ์การเมืองในเมียนมาเป็นปัจจัยตัวที่ทำให้การค้าชายแดนไม่คล่องตัวอย่างในภาวะปกติ

สำหรับด่านที่จะเร่งรัดเปิดต่อไปหลังจากเปิด 44 จาก 97 ด่าน 1.ตนมอบหมายให้อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศเจรจากับจับมือกับเอกชนและจังหวัด ขณะนี้คืบหน้าใน 5 จังหวัดคือ เชียงราย เลย หนองคาย นครพนมและมุกดาหาร วันที่ 30 กรกฎาคมที่ผ่านมาได้มีการประชุม 3 ฝ่ายมีข้อสรุปว่าจะทำแผนในการเปิดด่านกับฝั่งลาว เกือบเสร็จแล้วใน 5 จังหวัด 2.ด่านปากแซง นาตาล ที่อุบลราชธานี ที่ตนไปดูด่านด้วยตนเองประสานจังหวัดจัดงบประมาณทำทางลาดลงไป มีความคืบหน้าในการเจรจาอยู่ในขั้นตอนรายละเอียด คาดว่าน่าจะเป็นด่านแรกๆที่จะสามารถเปิดด่านได้ 3.ที่นราธิวาส ด่านตากใบ กับบูเก๊ะตาจะเร่งรัดต่อไปตนได้มอบอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศใช้โมเดลเดียวกับด่านชายแดนลาวประชุม 3 ฝ่ายคาดว่าสัปดาห์หน้าจะประชุมได้ เมื่อได้แผนเปิดงานแล้วจะเจรจากับมาเลเซียต่อไป ซึ่งต้องคุยทั้ง 3 ฝ่ายเศรษฐกิจโควิดและความมั่นคง ต้องคุยด้วยกันถึงจะเปิดด่านได้ เป้าหมายปี 64 ตัวเลขการค้าชายแดนและผ่านได้ตั้งเป้าว่าจะ +3-6% แต่ตอนนี้เกินเป้าแล้วเพราะตั้งแต่เดือนมกราคมถึงกรกฎาคม 2564 ตัวเลขเป็นบวกแล้ว 37.88%

ด้าน นายกีรติ รัชโน อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวว่า สำหรับสินค้าส่งออกสำคัญไปยังประเทศมาเลเซีย ได้แก่ เครื่องคอมพิวเตอร์และส่วนประกอบผลิตภัณฑ์ยางพารา ประเทศกัมพูชา สินค้าส่งออกสำคัญได้แก่ สินค้าอุปโภคบริโภคเครื่องจักรกลและส่วนประกอบ สำหรับ สปป.ลาว สินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ น้ำมันดีเซลน้ำมันสำเร็จรูปอื่นๆและรถยนต์นั่ง ประเทศเมียนมา สินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ น้ำมันดีเซล สินค้าอุปโภคบริโภค เป็นต้น


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top