Friday, 18 July 2025
COLUMNIST

‘สรรเพชญ บุญญามณี’ ยืนเด่นเขต 1 สงขลา การหลีกทางให้หลานได้แจ้งเกิดทางการเมือง

เขต 1 สงขลา เป็นเขตคาดหวังของพรรคประชาธิปัตย์ โดยส่ง ‘สรรเพชญ บุญญามณี’ ลูกชายของ ‘นิพนธ์ บุญญามณี’ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย

การเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา ปี 2562 สรรเพรช พ่ายให้กับ ‘วันชัย ปริญญาศิริ’ จากพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งวันชัยก็ไม่ใช่คนอื่นไกล เป็นเพื่อนรุ่นน้องของนิพนธ์นั้นเอง เป็นรุ่นน้องจากมหาวชิราวุธ สงขลา โดยนิพนธ์เป็นรุ่นพี่ของวันชัย 1 ปี

มาถึงวันนี้ ‘วันชัย’ เปิดทางให้สรรเพชญ โดยลาออกจาก ส.ส.ไปลงชิงเก้าอี้นายกเทศมนตรีนครสงขลา เท่ากับเป็นการหลีกทางให้หลานได้แจ้งเกิดทางการเมือง

กล่าวถึงสนามเลือกตั้งเขต 1 สงขลา เมื่อวันชัยลาออกไปลงเล่นการเมืองท้องถิ่น ในส่วนของพรรคพลังประชารัฐยังไม่เห็นขยับว่าจะส่งใครลงแทน เดิมมีผู้การฯ ชาติ พ.อ.สุชาติ จันทรโชติกุล อดีต ส.ส.สงขลา เป็นคนคุมทีมพลังประชารัฐอยู่ แต่เมื่อผู้การฯ ชาติก้าวออกไปจากพลังประชารัฐ ไปร่วมหัวจมท้ายกับพรรคสร้างอนาคตไทย ของอุตตม สาวนายน และ สนธิรัตน์ สนธิจิรวงค์ ทำให้พรรคพลังประชารัฐไม่มีหัวเรือใหญ่ 

พรรคพลังประชารัฐสงขลาจึงเหลือ ส.ส.อยู่สองคน คือ ร.ต.อ.อรุณ สวัสดี เขต 4 ศาสตรา ศรีปาน เขต 2 และพยม พรหมเพชร ซึ่งศักยภาพในการคุมทีมยังไม่เพียงพอ หรือการจะควานหาคนมาแทนวันชัยก็ยังไม่มีบารมีพอ ทำให้สนามเลือกตั้งเขต 1 สงขลา ของพลังประชารัฐยังว่างอยู่

กล่าวเฉพาะที่เห็นเวลานี้ก็จะมี ‘สรรเพชญ บุญญามณี’ เป็นตัวยืนในนามประชาธิปัตย์ และมีประสงค์ บุรีรักษ์ นายกฯ แบน อดีตนายกเทศมนตรีเมืองเขารูปช้าง ที่การเลือกตั้งครั้งที่แล้วหลุดจากเก้าอี้ มาเปิดตัวลงชิง ส.ส.เขต 1 ในนามพรรคภูมิใจไทย ฟัดกับเด็ก ๆ น่าจะมีพลังมากกว่า และยังมีพ่อเป็นลมใต้ปีกอยู่อีกด้วย ‘นิพนธ์’ พยายามไม่เข้าไปยุ่งมากกับการหาเสียง ปล่อยให้น้องเพรชจัดการไป ไม่งั้นเขาจะไม่โตสักที

แต่เขต 1 สงขลา นอกจากนายกฯแบน และน้องเพชญ แล้ว ให้จับตาว่า ‘เจือ ราชสีห์’ ส.ส.บัญชีรายชื่อใหม่ ๆ สด ๆ ของพรรคประชาธิปัตย์ จะตัดสินใจอย่างไร แน่นอนว่าจะลงเขตในนามประชาธิปัตย์ไม่ได้แล้ว เพราะพรรคประชาธิปัตย์ได้เปิดตัวน้องเพรชไปแล้ว ถ้าเจือยังยืนยันอยู่ประชาธิปัตย์ก็ต้องขึ้นไปอยู่ระบบบัญชีรายชื่อ และลำดับต้องดีกว่าเดิม ถ้ายังประชาสงค์จะลงเขต 1 ก็ต้องย้ายพรรค หาพรรคใหม่สังกัด โอกาสจึงน่าจะเป็นพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่มีพีระพันธ์ สาลีรัฐวิภาค คนเก่าจากประชาธิปัตย์ เป็นหัวหน้าพรรคอยู่ และมีเครือข่ายประชาธิปัตย์อยู่ไม่น้อย หรือไม่ก็พรรคพลังประชารัฐที่พื้นที่ว่างอยู่ แต่เวลานี้เจือคงยังพูดอะไรมากไม่ได้ เพราะยังเป็น ส.ส.ประชาธิปัตย์อยู่

แค่ทฤษฎีสมคบคิด?? รู้จัก 'Dulce Base' ในมลรัฐ New Mexico พื้นที่ที่หลายคนเชื่อว่าเป็น 'ฐานของมนุษย์ต่างดาว'

วันนี้ขอเปลี่ยนบรรยากาศรับอากาศเย็นด้วยเรื่องราวที่ดูเหมือนเป็นทฤษฎีสมคบคิด (Conspiracy theory) หรือเรื่องราวที่อ่านแล้วรู้สึกว่า 'เหลือเชื่อ' กันครับ เรื่องของ Dulce Base อันเป็นประเด็นหนึ่งของทฤษฎีสมคบคิดที่อ้างว่า มีสถานที่ใต้ดินที่มนุษย์และมนุษย์ต่างดาวทำงานร่วมกันภายใต้แนวเขา Archuleta Mesa บนชายแดนระหว่างสองมลรัฐคือ Colorado กับ New Mexico ใกล้ ๆ กับเมือง Dulce มลรัฐ New Mexico ในสหรัฐอเมริกา เมือง Dulce เป็นเมืองหลักของเขตสงวน Jicarilla Apache ทางตอนเหนือของมลรัฐ New Mexico และส่วนใหญ่เป็นที่อยู่อาศัยของชนพื้นเมือง แม้จะมีประชากรเพียงเล็กน้อย ซึ่งจำนวนน้อยกว่า ๓,๐๐๐ คน 

หมู่บ้านเล็ก ๆ ในทะเลทรายที่แปลกตา ไม่มีแม้กระทั่งสัญญาณไฟจราจรเสียด้วยซ้ำ แต่ชุมชนเล็ก ๆ ที่เงียบสงบนี้เป็นจุดที่นักจานบินวิทยาและนักทฤษฎีสมคบคิดเกี่ยวกับเรื่องราวของมนุษย์ต่างดาวทุกคนเชื่อว่า ใต้เมืองนี้เป็นฐานลับ ๗ ชั้น อยู่ลึกลงไปสองไมล์ใต้พื้นดิน เป็นสถานที่ซึ่งมนุษย์และมนุษย์ต่างดาวทำงานร่วมกัน อันเป็นที่รู้จักกันในชื่อว่า Dulce Base

อันที่จริงแล้วมลรัฐ New Mexico เป็นรัฐที่มีเรื่องราวเกี่ยวกับจานบินและมนุษย์ต่างดาวมาหลายสิบปีแล้ว จากกรณีของ เหตุการณ์จานบิน (Unidentified Flying Object) ตกที่ Roswell เกิดขึ้นในสหรัฐอเมริกาในปี ค.ศ. 1947 เมื่อมีวัตถุบินตกใส่ไร่แห่งหนึ่งใกล้กับเมือง Roswell มลรัฐ New Mexico ในวันที่ 7 กรกฎาคม ค.ศ. 1947 มีคำอธิบายเหตุการณ์หลากหลายมากมาย ทั้งที่เป็นทางการและไม่เป็นทางการ แม้รัฐบาลสหรัฐฯ จะประกาศว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นเพียงบอลลูนเฝ้าตรวจทางทหารของกองทัพสหรัฐฯ ตก แต่คำอธิบายที่มีผู้เชื่อถือมากที่สุดคือ วัตถุดังกล่าวเป็นยานอวกาศที่มีสิ่งมีชีวิตนอกโลกอยู่ด้วย ตั้งแต่ปลายคริสต์ทศวรรษ 1970 เหตุการณ์ที่ Roswell ได้กลายเป็นหัวข้อถกเถียงกันอย่างกว้างขวาง จนเกิดเป็นเกิดเรื่องราวต่าง ๆ กระทั่งทฤษฎีสมคบคิดมากมายเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้

Gabriel Valdez ตำรวจทางหลวงของมลรัฐ New Mexico ได้จัดทำเอกสารเกี่ยวกับตำนาน Dulce Base โดยรอบเป็นอย่างดี เรื่องราวเกิดขึ้นในช่วงกลางทศวรรษ 1970 โดยเขารายงานการตายของวัวหลายตัว โดย Valdez อ้างว่าได้เห็น 'ยานอวกาศที่มีรูปร่างที่แปลกประหลาดและซับซ้อน' ในเมือง Dulce บนท้องฟ้าใกล้กับตำแหน่งซึ่งเชื่อว่าเป็นที่ตั้งของ Dulce Base และได้พบวัวที่ถูกสังหารพร้อมกับลูกในครรภ์ 

Valdez อ้างต่อว่า ไม่ใช่ลูกวัวที่ยังไม่เกิด แต่ดูเหมือนจะเป็นลูกผสมที่แปลกประหลาดระหว่าง 'มนุษย์ ลิง และกบ' เศษซากที่อยู่รอบ ๆ ทำให้ Valdez เชื่อว่า รัฐบาลมีส่วนเกี่ยวข้อง และสัตว์ที่ตายไม่ได้ถูกสังหารโดยสัตว์ป่า 

เขากล่าวว่า “หลักฐานที่ถูกทิ้งไว้ที่นั่น คุณรู้ไหมว่า ผู้ล่าจะไม่ทิ้งหน้ากากป้องกันแก๊สพิษ แท่งเรืองแสง เรดาร์ Chaff (อุปกรณ์พรางสัญญาณเรดาร์)”

Valdez สรุปว่า 'พวกเขาไม่ทิ้งของพวกนี้' การตายของวัว-ควาย ปศุสัตว์ มักจะเชื่อมโยงกับการพบเห็นจานบินในบริเวณใกล้เคียง บริเวณชายแดนระหว่างสองมลรัฐคือ Colorado กับ New Mexico กลายเป็นหนึ่งในสถานที่ที่โดดเด่นที่สุดในประเทศสำหรับรายงานสองประเภททั้งจานบินและมนุษย์ต่างดาวตั้งแต่ต้นทศวรรษ 1980

การกล่าวอ้างถึงกิจกรรมของมนุษย์ต่างดาวเกิดขึ้นครั้งแรกจาก Paul Bennewitz นักธุรกิจชาวเมือง Albuquerque เริ่มต้นขึ้นในปี ค.ศ. 1979 เมื่อ Bennewitz เชื่อว่า เขากำลังสกัดกั้นการสื่อสารทางอิเล็กทรอนิกส์จากยานอวกาศของมนุษย์ต่างดาวและฐานลับบนพื้นโลกซึ่งอยู่นอกนอกเมือง Albuquerque ในช่วงทศวรรษ 1980 

เขาเชื่อว่า เขาได้ค้นพบฐานลับใต้ดินใกล้กับเมือง Dulce ซึ่งเต็มไปด้วยมนุษย์ต่างดาวสีเทา ในปี ค.ศ. 1983 คำกล่าวอ้างของ Bennewitz ถูกเผยแพร่ในสื่อยอดนิยมหลายครั้ง เรื่องราวแพร่กระจายอย่างรวดเร็วภายในชุมชนผู้สนใจเรื่องราวเกี่ยวกับจานบินและมนุษย์ต่างดาว เขายังตีพิมพ์บทความเรื่อง 'Project Beta' ในปี ค.ศ. 1988 และในปี ค.ศ. 1987 John Lear นักจานบินวิทยาอ้างว่า เขาได้รับการยืนยันเกี่ยวกับการมีอยู่ของฐานจานบินและมนุษย์ต่างดาว 

ต่อมาในปี ค.ศ. 1986 George Clinton Andrews ได้เล่าถึงตำนานของ Dulce Base ในหนังสือของเขาชื่อ Extra-Terrestrials Among Us และในปี ค.ศ. 1988 หนังสือพิมพ์ Weekly World News ตีพิมพ์เรื่อง 'ฐานจานบินที่พบในมลรัฐ New Mexico' อ้างว่า "ผู้บุกรุกที่ชั่วร้ายจากระบบสุริยะอื่นได้มาตั้งฐานใต้ดินลับในภูเขาที่ขรุขระทางตอนเหนือของมลรัฐ New Mexico เพื่อให้พวกเขาสามารถใช้มนุษย์สำหรับการทดลองทางพันธุกรรมที่แปลกประหลาด" 

เรื่องราวของ Weekly World News อ้างอิงจากคำพูดจาก Leonard Stringfield นักจานบินวิทยา แต่เมื่อ Stringfield ทราบเรื่องนี้ เขาก็ประท้วงทันทีว่า "ข้อเท็จจริงคือ ในชีวิตผมไม่เคยอ่านเรื่องอะไรที่บิดเบือนเช่นนี้มาก่อนเลย" ในปี ค.ศ. 1990 'Paul Snyder' เขียนเกี่ยวกับแผนการสมคบคิดของ Dulce Base

นโยบายศก.ล้มเหลว ชนวนเหตุนายกฯ อังกฤษลาออก บทเรียนราคาแพง ที่ไทยต้อง 'เรียนรู้-เฝ้าระวัง'

3 วันก่อน ผมได้แสดงความเห็นว่านายกรัฐมนตรีอังกฤษท่าจะอยู่ยาก เพราะหนีความรับผิดชอบความผิดพลาดในนโยบายเศรษฐกิจที่ประกาศออกไปไม่ได้ 

วันนี้นายกฯ อังกฤษได้ประกาศลาออกแล้ว! ไม่สามารถทนต่อกระแสความไม่พอใจทั้งในพรรค และในสังคมได้ หลังจากที่อยู่ในตำแหน่งเพียง 45 วัน 

มองในมุมหนึ่งคือ ความเละเทะต่อเนื่องในการเมือง และเศรษฐกิจอังกฤษ นับแต่การลงคะแนน Brexit เมื่อ 6 ปีก่อน

แต่มองอีกมุมหนึ่ง อังกฤษยังมีวัฒนธรรมการเมืองที่ยืดหยุ่น และพร้อมปรับตัวต่อกระแสความรู้สึกของประชาชน

ประเทศไทยเรา ก็เคยมีการตัดสินใจลักษณะนี้เช่นกัน ตอน นายกฯ ชวลิต ลาออกเพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อวิกฤตต้มยำกุ้ง ซึ่งเป็นกรณีเดียวในประวัติศาสตร์การเมืองไทย

ถือได้ว่าการเสียสละโดยผู้มีอำนาจ คือการให้โอกาสบ้านเมือง

มีคนขอให้อธิบายสั้น ๆ ว่า...นโยบายอะไรที่ Liz Truss ประกาศออกมาที่ทำให้ต้องลาออกหลังเป็นนายกฯ เพียง 45 วัน?

สะพรึง!! 'โรคไข้ฉี่หนู' ภัยเงียบที่มาพร้อมกับน้ำท่วม แต่วัคซีนป้องกันเฉพาะทาง ยังไม่มีจำหน่ายในไทย

ในขณะที่น้ำท่วมกำลังเยือนคนไทยอย่างถ้วนหน้ากันตามลำดับนั้น วันนี้ผมจึงอยากจะนำโรคที่มากับน้ำท่วมให้ทุกคนได้รู้จักกัน

โรคน้ำกัดเท้า หรือ ฮ่องกงฟุต เป็นโรคผิวหนังที่บริเวณเท้าติดเชื้อรา พบได้ทุกเพศ และทุกวัย แต่พบบ่อยกว่าในผู้ชายโดยเฉพาะในช่วงวัยรุ่น แต่จะพบได้น้อยในเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี และเนื่องจากเป็นโรคพบบ่อยจากเท้าเปียกน้ำหรือจากการลุยน้ำ บ้านเราจึงเรียกว่า 'โรคน้ำกัดเท้า' ขณะเดียวกันยังพบได้บ่อยในนักกีฬาผ่านรองเท้าที่เปียกชื้นจากเหงื่อ จึงได้ชื่อว่า 'โรคเท้านักกีฬา' (Athlete’s foot) 

(***โรคนี้มีตำนานมาจากกองทัพอังกฤษที่ประจำอยู่ในฮ่องกงในช่วงสงครามฝิ่น เมื่อทหารอังกฤษเจอภูมิอากาศร้อนชื้นและฝนตกในฮ่องกงส่งผลให้ทหารอังกฤษเป็นโรคผิวหนังที่ไม่รู้จัก ซึ่งเป็นตุ่มเล็ก ๆมากมาย บ้างบวมแดง มีเป็นหนอง และคัน โดยแพทย์ยุโรปไม่เคยเจอโรคแบบนี้ จึงคิดว่ามันเป็นโรคระบาดในฮ่องกง และเรียกมันว่า 'ฮ่องกงฟุต')

โรคต่อมาเป็นโรคที่มาจากการรับประทานน้ำที่มีการปนเปื้นเชื้อโรค ซึ่งมีหลายโรคที่มีโอกาสติดเชื้อได้ในช่วงน้ำท่วมอย่างนี้ เช่น โรคไวรัสตับอักเสบเอ, ไข้รากสาดน้อยหรือไทฟอยด์ เป็นต้น ซึ่งโรคเหล่านี้เป็นโรคที่มีวัคซีนที่สามารถป้องกันการเกิดโรคได้

อีกโรคหนึ่งที่น่าสะพรึงกลัวกว่าที่คิด ซึ่งมักมาพร้อมกับภัยน้ำท่วมเช่นนี้ และปัจจุบันในไทยก็ยังไม่มีวัคซีนป้องกันด้วย นั่นก็คือ 'โรคไข้ฉี่หนู'

โรคไข้ฉี่หนูเกิดจากเชื้อเลปโตสไปรา (Leptospira) ที่ถูกขับออกมาจากปัสสาวะของสัตว์ที่ติดเชื้อ การติดเชื้อในคนมีสาเหตุมาจากการสัมผัสดินหรือน้ำที่ท่วมขังหรืออาหารที่ปนเปื้อนปัสสาวะ, เลือด หรือเนื้อเยื่อของของสัตว์ที่มีเชื้อ เช่น สุนัข, วัว, ควาย, หนู, สุกร, ม้า หรือแม้กระทั่งสัตว์ป่าต่างๆ ได้ โดยผู้ที่ได้รับเชื้อโรคฉี่หนูส่วนใหญ่จะไม่มีอาการหรือมีอาการน้อย มีเพียงประมาณ 10-15% ที่จะมีอาการรุนแรง

เมื่อเชื้อโรคฉี่หนูเข้าสู่ร่างกาย เชื้อจะเข้าสู่กระแสเลือดและกระจายไปยังอวัยวะต่าง ๆ ของร่างกาย มีระยะฟักตัวก่อนเกิดอาการเร็วหรือช้าในแต่ละคนจะไม่เท่ากัน บางรายมีอาการเร็วภายใน 2 วัน บางรายนานหลายสัปดาห์หรืออาจจะถึง 1 เดือน แต่โดยส่วนใหญ่แล้วจะเริ่มมีอาการประมาณ 1-2 สัปดาห์หลังจากรับเชื้อ

สำหรับผู้ที่เป็นโรคฉี่หนูมักมีอาการที่เป็นลักษณะเด่น ๆ 2 ระยะ คือ ระยะแรกผู้ป่วยจะมีอาการ อาการไข้สูง, หนาวสั่น, ปวดศีรษะ, ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ, เจ็บคอ, เจ็บหน้าอก, ไอ, คลื่นไส้, อาเจียน, ตาแดง, เยื่อบุตาบวม, มีผื่น, ต่อมน้ำเหลืองโต, ตับโต, ม้ามโต โดยอาการมักเป็นหลาย ๆ อย่างร่วมกันไม่เฉพาะเจาะจงกับอวัยวะใดอวัยวะหนึ่ง คล้าย ๆ กับอาการของโรคไข้หวัดใหญ่, ไข้เลือดออก, มาลาเรีย, ไข้รากสาดใหญ่ ซึ่งอาการระยะแรกนี้มักจะเป็นอยู่ประมาณ 1 สัปดาห์ แล้วอาการจะดีขึ้น

รัฐมนตรีคลังอังกฤษ ถูกปลดหลังทำงานได้ 38 วัน เหตุออกนโยบายเศรษฐกิจที่ประชาชนไม่ยอมรับ

เมื่อวานมีประเด็นร้อนในสหราชอาณาจักร เมื่อรัฐมนตรีคลังอังกฤษ ถูกปลดออก หลังจากทำงานได้ เพียง 38 วันเท่านั้น!!

ส่วนชนวนเหตุสำคัญ คือ การออกนโยบายเศรษฐกิจที่ไม่เป็นที่ยอมรับ

อย่างไรงั้นหรือครับ?

ปัญหา คือ นโยบายนี้เป็นนโยบายที่นายกรัฐมนตรีมีส่วนร่วม 100% ในการคิดและนำเสนอ 

ดังนั้นการปลดรัฐมนตรีคลัง อาจไม่พอ!! ในการปกป้องตำแหน่งตนเอง เพราะตลาดเงินไม่ได้ไม่พอใจตัวบุคคล แต่ไม่พอใจนโยบาย และถึงแม้นายกฯ อังกฤษ จะได้เพิ่งประกาศกลับลำนโยบายบางส่วน ก็อาจจะไม่ช่วยให้เธออยู่ต่อได้ 

2 เหตุผลใหญ่ ทำไมการประชุม APEC ปี 2022 ที่ไทย คนทั่วทั้งโลกต้อง ‘ทบทวน-พิจารณา’

ปี 2022 ที่ประเทศไทยได้รับเกียรติให้เป็นประธานและเจ้าภาพการประชุมสุดยอดผู้นำ APEC และการประชุมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องตลอดทั้งปี มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง และถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของระบบเศรษฐกิจโลก 

ทำไม? เราถึงสามารถกล่าวเช่นนี้ได้ ผู้เขียนคิดว่าเป็นเพราะอย่างน้อย 2 เหตุผลด้วยกัน...

>> เหตุผลส่วนแรก
APEC คือ ความร่วมมือของ 21 เขตเศรษฐกิจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ประชากรของทั้ง 21 เขตเศรษฐกิจรวมกันครอบคลุมประชากรมากกว่า 3 พันล้านคน หรือคิดเป็น 38% ของประชากรของทั้งโลก และนี่คือกลุ่มประชากรที่มีความน่าสนใจมากที่สุด เพราะตลอด 3 ทศวรรษที่ผ่านมา กำลังซื้อของประชากรกลุ่มนี้ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง 

พิจารณาได้จากสัดส่วนของประชากรของ 21 เขตเศรษฐกิจที่ดำเนินชีวิตอยู่ใต้เส้นขีดความยากจนที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ จากที่มีสัดส่วนของคนจนสูงถึง 41.7% ของประชากรในปี 1990 โดยปัจจุบันตัวเลขนี้ลดต่ำลงเหลือเพียง 1.8% ของประชากร APEC เท่านั้นที่ยังอยู่ในสถานะยากจน 

นอกจากนี้ APEC ยังเป็นตลาดขนาดใหญ่ที่มีขนาดเศรษฐกิจรวมกันราว 2 ใน 3 ของมูลค่าผลผลิตมวลรวมของทั้งโลก หรือคิดเป็นตัวเงินกว่า 50 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ และมูลค่าการค้าระหว่าง 21 เขตเศรษฐกิจ ยังเทียบเท่ากับครึ่งหนึ่งของมูลค่าการค้าระหว่างประเทศของทั้งโลก

ยิ่งไปกว่านั้นตลอดช่วงเวลากว่า 3 ทศวรรษที่ผ่านมา จากปี 1990 ถึง 2020 มูลค่าการลงทุนระหว่างประเทศภายในกลุ่มสมาชิก APEC เพิ่มขึ้นจาก 45.2% เป็น 67.9% นั่นแปลว่า 21 เขตเศรษฐกิจนี้คือผู้ลงทุนรายสำคัญที่ต่างก็ลงทุนภายกลุ่ม APEC ด้วยกันเอง ซึ่งการลงทุนที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่องนี้ เป็นผลมาจากการที่ความร่วมมือทางเศรษฐกิจอย่าง APEC ที่เน้นสร้างความร่วมมือในการพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกทางการค้า (Trade Facilitations: TFs) อาทิ การลด ละ เลิก มาตรการทางการค้าที่มิใช่มาตรการทางภาษี, การสร้างความร่วมมือเพื่อให้พิธีการทางศุลกากรมีความสะดวกมากยิ่งขึ้น, ลดความซับซ้อนลง หรือ การอำนวยความสะดวกให้นักธุรกิจ APEC ได้ทำให้ดัชนีความยากง่ายในการทำธุรกิจ (Ease of Doing Business: EoDB Index) เฉลี่ยของทั้งกลุ่มปรับตัวสูงขึ้นกว่า 11.3% 

‘Lockheed’ ติดสินบนผู้มีอำนาจหลายชาติ เพื่อปิดดีลซื้อ-ขายเครื่องบิน

ไม่ใช่เฉพาะบ้านเราที่มีข่าวการติดสินบนทั้งในหมู่นักการเมืองและหน่วยราชการต่าง ๆ ในประเทศที่ได้ชื่อว่าเป็น ‘อารยประเทศ’ ก็เคยมีเรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นเช่นกัน การติดสินบนอื้อฉาวดังกล่าวทำให้เกิดความขัดแย้งทางการเมืองอย่างมากใน เยอรมนีตะวันตก อิตาลี เนเธอร์แลนด์ และญี่ปุ่น ส่วนในสหรัฐอเมริกาเรื่องอื้อฉาวเกือบจะนำไปสู่ความหายนะของบริษัท Lockheed เนื่องจากต้องดิ้นรนให้พ้นจากความล้มเหลวทางการค้าในการผลิตเครื่องบินโดยสารแบบ Lockheed L-1011 TriStar 

กรณีสินบนจากผลงานที่ทำโดยพนักงานของ บริษัท Lockheed ตั้งแต่ปลายทศวรรษ 1950 จนถึงกลางทศวรรษ 1970 ในขั้นตอนของการเจรจาต่อรองในการเสนอขายเครื่องบินแบบต่างๆ ของบริษัท Lockheed

Clarence ‘Kelly’ Johnson หัวหน้าคนแรกของทีมออกแบบ Skunk Works ของบริษัท Lockheed

ผู้บริหารของบริษัท Lockheed ยอมรับว่า มีการจ่ายเงินสินบนหลายล้านดอลลาร์เป็นเวลากว่าทศวรรษให้กับผู้มีอำนาจใน เยอรมนีตะวันตก อิตาลี เนเธอร์แลนด์ และญี่ปุ่น รวมทั้งซาอุดีอาระเบียเพื่อให้พวกเขาซื้อเครื่องบินของเรา 

‘Kelly’ หมายถึง Clarence ‘Kelly’ Johnson หัวหน้าคนแรกของทีมออกแบบ Skunk Works ของบริษัท Lockheed เองก็ยังรู้สึกเบื่อหน่ายกับการเปิดเผยเรื่องทุจริตเหล่านี้จนเกือบจะลาออก และมีผู้บริหารระดับสูงของบริษัท Lockheed ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องอื้อฉาวจะลาออกด้วยความอับอายขายหน้ากันหลายคน

เมื่อมีการผ่านรัฐบัญญัติการค้ำประกันเงินกู้ในกรณีฉุกเฉิน ปี ค.ศ. 1971 ซึ่งโครงการค้ำประกันนี้จะทำให้รัฐบาลสหรัฐรับภาระหนี้ของบริษัท Lockheed หากผิดนัดชำระหนี้ ในปี ค.ศ. 1975 ในเดือนสิงหาคมปี ค.ศ. 1975 คณะกรรมาธิการของรัฐสภาสหรัฐฯ ได้ตรวจสอบว่า บริษัท Lockheed อาจละเมิดภาระหน้าที่หรือไม่ โดยไม่แจ้งให้คณะกรรมาธิการฯ ทราบเกี่ยวกับการชำระเงินในต่างประเทศของบริษัท Lockheed เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม ค.ศ. 1977 บริษัท Lockheed และธนาคารผู้ให้กู้ยืม ๒๔ แห่งได้ทำข้อตกลงด้านสินเชื่อโดยให้วงเงินสินเชื่อหมุนเวียน US$100,000,000 เพื่อทดแทนข้อผูกพันในการค้ำประกันของรัฐบาล สิ่งนี้ถูกใช้เพื่อปลดหนี้ของบริษัท Lockheed มูลค่า US$60,000,000 คณะกรรมาธิการการค้ำประกันเงินกู้ฉุกเฉินได้อนุมัติข้อตกลงสินเชื่อฉบับใหม่เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม ค.ศ. 1977 ผ่านข้อตกลงการยกเลิกโดยคณะกรรมาธิการค้ำประกันเงินกู้ฉุกเฉินของรัฐบาลฯ หลังจากออกรายงานฉบับสุดท้ายในวันที่ 30 กันยายน ค.ศ. 1977 ค่าธรรมเนียมที่บริษัท Lockheed และธนาคารจ่ายให้แก่คณะกรรมาธิการการฯ สำหรับการบริหารเงินกู้โปรแกรมสุทธิประมาณ US$30,000,000 ซึ่งถูกส่งไปยังกระทรวงการคลังของสหรัฐฯ โดยตรง และไม่เคยมีการมอบเงินภาษีของพลเมืองอเมริกันแก่บริษัท Lockheed เลย

เครื่องบินขับไล่แบบ Lockheed F-104 Starfighter ของกองทัพอากาศเยอรมันตะวันตก

ในช่วงปลายปี ค.ศ. 1975 และต้นปี ค.ศ. 1976 คณะอนุกรรมาธิการของวุฒิสภาสหรัฐ ซึ่งนำโดยวุฒิสมาชิก Frank Church สรุปว่า สมาชิกของคณะกรรมการบริหารของบริษัท Lockheed ได้จ่ายเงินให้สมาชิกของรัฐบาลที่เป็นมิตรเพื่อรับประกันสัญญาสำหรับเครื่องบินรบ ในปี ค.ศ. 1976 มีการเปิดเผยต่อสาธารณะว่า บริษัท Lockheed ได้จ่ายสินบนให้กับเจ้าหน้าที่ต่างชาติจำนวน US$22,000,000 ในกระบวนการเจรจาการขายเครื่องบินซึ่งรวมถึงเครื่องบินขับไล่แบบ F-104 Starfighter ซึ่งถูกเรียกว่า ‘ข้อตกลงแห่งศตวรรษ’ (Deal of the Century)

>> เยอรมนีตะวันตก 
Ernest Hauser อดีต Lobbyist ของบริษัท Lockheed บอกกับคณะอนุกรรมาธิการของวุฒิสภาสหรัฐ ว่า Franz Josef Strauss รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเยอรมันตะวันตกและพรรค Christian Social Union ของเขาได้รับเงินอย่างน้อย US$10,000,000 สำหรับการซื้อเครื่องบินขับไล่แบบ F-104G จำนวน ๙๐๐ เครื่องในปี ค.ศ. 1961 แต่พรรค Christian Social Union และผู้นำพรรคปฏิเสธข้อกล่าวหา และ Strauss ยื่นฟ้อง Hauser ว่าใส่ความ เนื่องจากคำฟ้องดังกล่าวไม่ได้รับการยืนยันปัญหาจึงหลุดไป 

Manfred Wörner สมาชิกของ Bundestag และสมาชิกสภากลาโหม เยอรมันตะวันตก

ในเดือนกันยายน ค.ศ. 1976 ช่วงสุดท้ายของการเลือกตั้งสหพันธรัฐเยอรมันตะวันตก กรณีดังกล่าวได้ถูกหยิบยกขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อมีการถามคำถามเกี่ยวกับ ‘เอกสารของ Lockheed’ กระทรวงกลาโหมของรัฐบาลเยอรมันตะวันตกเก็บไว้ ทั้งยังมีแหล่งข่าวนิรนามได้แจกจ่ายเอกสารหลายฉบับให้สื่อมวลชนรับทราบ 

ตามเอกสารเหล่านี้ Manfred Wörner สมาชิกของ Bundestag และสมาชิกสภากลาโหม เยอรมันตะวันตก ได้ตอบรับคำเชิญจากบริษัท Lockheed ให้ไปเยี่ยมชมโรงงานผลิตเครื่องบินของพวกเขาในสหรัฐอเมริกาโดยที่บริษัท Lockheed เป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายให้ตลอดการเดินทาง และในระหว่างการสืบสวนยังพบว่า เอกสารส่วนใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับการซื้อเครื่องบินขับไล่แบบ Lockheed F-104 Starfighter ถูกทำลายในปี ค.ศ. 1962 เบาะแสของเอกสารได้ถูกนำขึ้นมาหารืออีกครั้งในการประชุมคณะกรรมาธิการสอบสวนของ Bundestag ระหว่างเดือนมกราคม ค.ศ. 1978 ถึงเดือนพฤษภาคม ปี ค.ศ. 1979 และการสืบสวนของทางการสหรัฐฯ เปิดเผยว่าการเดินทางไปสหรัฐฯ Wörner รับทุนจาก Bundestag และเกี่ยวข้องกับการทดสอบการบินกับเครื่องปราบเครื่องดำน้ำแบบ S-3 Viking และเที่ยวบินของ Wörner ที่เดินทางกลับจากสหรัฐอเมริกากลับไปยังเยอรมนีได้รับการชำระโดยบริษัท Lockheed ซึ่ง Wörner เดินทางพร้อมกับเลขานุการของเขา และบริษัท Lockheed ก็ออกค่าใช้จ่ายในการเดินทางส่วนหนึ่งให้เธอ ยิ่งไปกว่านั้น Wörner ยัง ‘เสีย’ ตั๋วเดินทางที่รัฐบาลเยอรมันตะวันตกขากลับไปเยอรมนี และบริษัท Lockheed ‘รับรอง’ เขาด้วยการให้ตั๋วเดินทางกลับอีกใบแก่เขา 

เครื่องบินขนส่งแบบ Lockheed C-130 Hercules ของกองทัพอากาศอิตาลี

>> อิตาลี
เรื่องอื้อฉาวของบริษัท Lockheed ในอิตาลีเกี่ยวข้องกับการติดสินบนนักการเมืองสังกัดพรรค Christian Democrat และพรรคสังคมนิยมเพื่อให้สนับสนุนการจัดซื้อเครื่องบินขนส่งแบบ Lockheed C-130 Hercules ของกองทัพอากาศอิตาลี 

ข้อกล่าวหาเรื่องการติดสินบนได้รับการสนับสนุนจาก L'Espresso นิตยสารทางการเมือง และมีเป้าหมายที่อดีตรัฐมนตรี ๒ คน คือ Luigi Gui และ Mario Tanassi (อดีตรัฐมนตรีอิตาลีคนแรกที่รับโทษจำคุก และเป็นนักการเมืองคนแรกที่ถูกตัดสินว่ามีความผิด ก่อนเกิดเรื่องอื้อฉาวเกี่ยวกับการทุจริตทั่วประเทศในทศวรรษ 1990) อดีตนายกรัฐมนตรี Mariano Rumor และจากนั้น ประธานาธิบดี Giovanni Leone ได้กดดันให้เขาลาออกจากตำแหน่งเมื่อวันที่ 15 มิถุนายน ค.ศ. 1978

โทรเลขรายงานข้อมูลที่เกี่ยวกับการติดสินบนของบริษัท Lockheed จากเอกอัครราชทูตสหรัฐฯประจำเนเธอร์แลนด์มายังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ (Henry Kissinger)

เจ้าชาย Bernhard พระสวามีในสมเด็จพระราชินีจูเลียนา ถูกกล่าวหาว่า ได้รับสินบน US$1,100,000 จากบริษัท Lockheed เพื่อให้แน่ใจว่า เครื่องบินขับไล่แบบ Lockheed F-104 Starfighter จะชนะเครื่องบินขับไล่แบบ Dassault Mirage 5 ในการสั่งซื้อโดยกองทัพอากาศเนเธอร์แลนด์ พระองค์เคยทรงดำรงตำแหน่งในคณะกรรมการบริษัท หรือคณะกรรมาธิการต่าง ๆ มากกว่า 300 แห่งทั่วโลก และได้รับการยกย่องอย่างมากในเนเธอร์แลนด์สำหรับความพยายามในการส่งเสริมความเป็นอยู่ทางเศรษฐกิจที่ดีของประเทศเนเธอร์แลนด์

เจ้าชาย Bernhard พระสวามีในสมเด็จพระราชินีจูเลียนา

นายกรัฐมนตรี Joop den Uyl สั่งให้มีการสอบสวนเรื่องนี้ ในขณะที่เจ้าชาย Bernhard ทรงปฏิเสธที่จะตอบคำถามของผู้สื่อข่าวโดยระบุว่า ‘ข้าพเจ้าอยู่เหนือเรื่องนั้น’ ผลของการไต่สวนนำไปสู่วิกฤตรัฐธรรมนูญซึ่งสมเด็จพระราชินีจูเลียนาทรงขู่ว่า จะทรงสละราชสมบัติหากเจ้าชาย Bernhard ทรงถูกดำเนินคดี เจ้าชาย Bernhard ทรงได้รับยกเว้นการดำเนินคดี แต่ทรงต้องลงจากตำแหน่งสาธารณะหลายตำแหน่ง และถูกห้ามไม่ให้ทรงเครื่องแบบทหารอีก 

เจ้าชาย Bernhard ทรงปฏิเสธข้อกล่าวหามาโดยตลอด แต่หลังจากการสิ้นพระชนม์ชีวิตในวันที่ 1 ธันวาคม ค.ศ. 2004 มีการเผยแพร่บทสัมภาษณ์ที่แสดงให้เห็นว่า พระองค์ทรงยอมรับว่า ทรงรับเงิน พระองค์ตรัสว่า "ข้าพเจ้ายอมรับว่าคำว่า Lockheed จะถูกสลักไว้บนหลุมฝังศพของข้าพเจ้า" 

Adnan Khashoggi ตัวแทนจำหน่ายของบริษัท Lockheed ในซาอุดีอาระเบีย

>> ซาอุดิอาระเบีย
ระหว่างปี ค.ศ. 1970 และค.ศ. 1975 บริษัท Lockheed จ่ายค่า Commissions ราว US$106,000,000 ให้กับ Adnan Khashoggi ตัวแทนจำหน่ายในซาอุดีอาระเบีย เริ่มต้นที่ 2.5% + และในที่สุดก็เพิ่มขึ้นเป็น 15% 

เครื่องบินขับไล่แบบ Lockheed F-104 Starfighter กองกำลังป้องกันตนเองทางอากาศของญี่ปุ่น

>> ญี่ปุ่น
เรื่องอื้อฉาวที่เกี่ยวข้องกับ Marubeni Corporation และอีกสมาชิกระดับสูงทางการเมือง ธุรกิจ และวงการมาเฟียของญี่ปุ่น รวมทั้ง Eisaku Satō รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และ Minoru Genda ประธานคณะเสนาธิการ กองกำลังป้องกันตนเองญี่ปุ่น (JASDF) ในปี ค.ศ. 1957 กองกำลังป้องกันตนเองทางอากาศของญี่ปุ่นต้องการซื้อเครื่องบินขับไล่แบบ Grumman F11F-1F Super Tiger เพื่อแทนที่เครื่องบินขับไล่แบบ F-86 Saber ที่ประจำการอยู่ในขณะนั้น แต่การล็อบบี้อย่างหนักโดยบริษัท Lockheed โดยแกนนำคนสำคัญของพรรค Liberal Democratic Party ทำให้มีการซื้อเครื่องบินขับไล่แบบ Lockheed F-104 Starfighter แทน

Yoshio Kodama

ต่อมาบริษัท Lockheed ได้ทำการว่าจ้าง Yoshio Kodama ซึ่งเป็นผู้มีบทบาทและอิทธิพลต่อหลายสายการบินของญี่ปุ่น เป็นที่ปรึกษา ซึ่งทำให้ All Nippon Airways (ANA) สั่งซื้อเครื่องบินโดยสารแบบ Lockheed L-1011 TriStar แทนเครื่องบินโดยสารแบบ McDonnell Douglas DC-10 โดยวันที่ 6 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1976 รองประธานของบริษัท Lockheed กล่าวกับคณะอนุกรรมาธิการของวุฒิสภาว่า บริษัท Lockheed ได้จ่ายสินบนประมาณ US$3,000,000 ให้กับสำนักงานของ Kakuei Tanaka นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น เพื่อขอความช่วยเหลือในเรื่องนี้ 

ชัดแล้ว…. ‘ชินวรณ์ บุณยเกียรติ’ ยืนยัน ลง ส.ส.เขต ในนามประชาธิปัตย์เหมือนเดิม ส่งลูกสาวคนเล็ก ‘น้องบีท’ ลงเขตช้างกลาง 

นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ได้โพสต์ข้อความในเฟสบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า วันนี้มีข่าวประชุม ส.ส. และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.จังหวัดนครศรีธรรมราช ของพรรคประชาธิปัตย์  ที่พรรคให้ความเห็นชอบแล้ว 8 เขต จากทั้งหมด 9 เขต ซึ่งจะเปิดตัวเป็นทางการและดำเนินการตามพรป.พรรคการเมือง และ พรป.การเลือกตั้งต่อไป

นายชินวรณ์ โพสต์ ยืนยันว่า สำหรับผมยังลงเลือกตั้งในระบบเขต ซึ่งเป็นเขตเดิมที่มีอำเภอทุ่งใหญ่เป็นหลัก  ส่วนลูกสาวคนสุดท้อง น้องบีท นางสาวปุณณ์สิริ บุณยเกียรติ พรรคเห็นชอบให้ลงเขตเลือกตั้งบ้านเกิดที่มีอำเภอช้างกลางเป็นหลัก เพื่อร่วมกันสืบสานอุดมการณ์ และสร้างคนรุ่นใหม่เป็นส.ส.ที่มีคุณภาพของพี่น้องชาวจังหวัดนครศรีธรรมราชต่อไป 

สำหรับว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. 8 ราย ประกอบด้วย ส.ส.ปัจจุบัน 4 ราย คือ 
-นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ 
-นายประกอบ รัตนพันธุ์ 
-นางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล
-นายชัยชนะ เดชเดโช 

‘นริศ’ เต็งจ๋า คั่ว รมช.มหาดไทย ปรับครม.รอบใหม่ โควตาภาคใต้ ปชป.

ประชาธิปัตย์นัดถกวันนี้ปรับคณะรัฐมนตรีในส่วนของพรรค แทน ‘นิพนธ์ บุญญามณี’ ในตำแหน่งรัฐมนตรีช่วย กระทรวงมหาดไทย แม้พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะไม่อยากให้มีการปรับคณะรัฐมนตรีก็ตาม เพราะเกรงว่าจะมีแรงกระเพื่อมภายในพรรคร่วมรัฐบาล และลามถึงพรรคพลังประชารัฐด้วย

แต่ถึงตอนนี้ พลเอกประยุทธ์ ยื้อ ต่อไปไม่ได้อีกแล้วเนื่องจากพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ยอมที่จะเสียเวลา เสียที่นั่งปล่อยให้โควตาเก้าอี้รัฐมนตรีของพรรคว่างลงไปเปล่าๆ นานๆ หลังที่นิพนธ์ บูญญามณี ลาออกจากรมช.มหาดไทย (มท. 2) ตั้งแต่เมื่อ 5 กันยายน ที่ผ่านมา ทำให้จุรินทร์ ลักษณวิศิษฐ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ต้องการให้มีการปรับครม.เร็วที่สุด และหยิบยกขึ้นหารือกับนายกรัฐมนตรีเมื่อวานนี้ ซึ่งนายกรัฐมนตรีก็ไม่ขัดข้อง

แค่จะปรับตำแหน่งเดียว ในพรรคประชาธิปัตย์ก็มีกระแสเคลื่อนไหว มีส.ส.ในพรรคบางส่วนที่ลุ้นอยากขึ้นรถไฟเที่ยวสุดท้ายได้เป็นรัฐมนตรีกับเขาบ้าง มีการเคลื่อนไหวกันภายใน เพื่อสร้างกระแสว่าไหนๆ ก็ปรับครม.รอบสุดท้าย ควรปรับตำแหน่งอื่นด้วย ไม่ใช่อยู่กันยาวครบสี่ปี ไม่ให้คนอื่นเป็นบ้าง

มีกระแสข่าวว่า มี ส.ส.-แกนนำประชาธิปัตย์บางส่วน อยากให้พรรค มีการปรับอย่างน้อยอีก 2 ตำแหน่งคือ รัฐมนตรีพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ของจุติ ไกรฤกษ์ และเก้าอี้ รมช.ศึกษาธิการ ของคุณหญิงกัลยา โสภณพานิช ด้วย

แต่กลุ่มของจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรค ที่กุมอำนาจในประชาธิปัตย์อยู่ยืนกรานว่า ให้ปรับแค่ตำแหน่งเดียว คือเสนอชื่อคนไปเป็นรมช.มหาดไทย และต้องให้จบภายในวันนี้ เพื่อปิดเกมเร็ว สกัดความขัดแย้งภายในพรรค

โควตารัฐมนตรีช่วยมหาดไทย เป็นโควตาของภาคใต้ ภาคอื่นไม่เกี่ยวด้วย

โดยสิบโมงเช้า มีการประชุมส.ส.ภาคใต้ทั้งหมดของประชาธิปัตย์ เพื่อหารือและตกลงกันว่า จะเสนอชื่อใครบ้าง และคนที่มีชื่อ พร้อมจะเข้าชิง หรือไม่ ซึ่งก็จะมีชื่อ ‘นริศ ขำนุรักษ์’ ส.ส.5 สมัย จังหวัดพัทลุง กันตวรรณ ตันเถียร ส.ส.5 สมัย จังหวัดพังงา และชินวรณ์ บุณยเกียรติ์ ส.ส.หลายสมัยของนครศรีธรรมราช อยู่ในข่ายพิจารณา

ระดับโลกยอมรับ ฟ้าทะลายโจร สมุนไพรที่มีการยอมรับ ในการรักษาโควิด-19 ระดับโลก

ไม่ใช่แค่เพียงในไทยเท่านั้นที่มีการใช้ สารสกัด Andrographolide หรือในไทยเรารู้จักกันว่า สารสกัดฟ้าทะลายโจรในการรักษาผู้ป่วยโควิดที่มีอาการไม่รุนแรง เพราะในฟากฝั่งยุโรปก็มีการนำ Andrographolide มาใช้ในการรักษาเช่นกันเพราะ 

มีการศึกษาที่ตีพิมพ์ลงใน วารสารทางการแพทย์ Journal of Traditional and Complementary Medicine ในปี 2021 โดยกล่าวถึงยาสมุนไพรตัวหนึ่งที่มีชื่อการค้าว่า Kan Jang® สามารถใช้ในการรักษาอาการติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนบนและล่าสุดในปี 2022 มีการตีพิมพ์บทความลงในวารสาร Pharmaceuticals ว่า Kan Jang® สามารถรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ที่มีอาการไม่รุนแรงได้  

วันนี้ผมจึงอยากให้พวกเรามาทำความรู้จัก Kan Jang® กัน 

เอกชนสำคัญ!! รู้จัก ABAC ‘สภาที่ปรึกษาธุรกิจเอเปค’ กลไกสำคัญขับเคลื่อน APEC

หลังจากการกำหนดเป้าหมาย ‘โบกอร์’ (Bogor Goals) ในปี 1994 ที่สมาชิก APEC ต้องการเดินหน้าไปสู่การเปิดเสรีการค้าและการลงทุนในระหว่างสมาชิกทั้ง 21 เขตเศรษฐกิจ ต่อมาในปี 1995 กับการประชุมสุดยอดผู้นำ APEC ณ ประเทศญี่ปุ่น ผู้นำ APEC ก็ได้มีมติร่วมกันที่จะจัดตั้ง ‘สภาที่ปรึกษาธุรกิจเอเปก’ (APEC Business Advisory Council) หรือที่นิยมเรียกกันในชื่อย่อว่า ABAC (อ่านว่า เอ-แบค) เพื่อให้ภาคธุรกิจ, ภาคเอกชน ซึ่งเป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียโดยตรงจากการเปิดเสรีการค้าและการลงทุน เข้ามามีส่วนร่วมในการรวบรวมข้อเสนอแนะ ศึกษา ตลอดจนสร้างกลไกในการร่วมกันกำหนดนโยบายการขับเคลื่อนความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่าง 21 เขตเศรษฐกิจ

กลไกการทำงานของ ABAC ประกอบขึ้นจากตัวแทนของแต่ละเขตเศรษฐกิจจำนวน 3 ท่าน ที่ได้รับการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการจากผู้นำของแต่ละเขตเศรษฐกิจ ซึ่งทำให้มีคณะที่ปรึกษาธุรกิจเอเปคจำนวนทั้งสิ้น 63 ท่าน

โดยในกรณีของประเทศไทย ตัวแทน 3 ท่านจะมาจาก หอการค้าไทย, สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และสมาคมธนาคารไทย 

ทั้งนี้ 63 ท่านจาก 21 เขตเศรษฐกิจ จะประชุมร่วมกันอย่างน้อยปีละ 4 ครั้ง พร้อมทั้งมีการจัดงาน APEC CEO Summit จำนวน 1 ครั้ง เพื่อร่วมหารือและแลกเปลี่ยนมุมมองด้านธุรกิจและความท้าทายทางเศรษฐกิจที่สำคัญ เพื่อพัฒนาบทสรุปคำแนะนำประจำปีที่จะยื่นเสนอต่อผู้นำเขตเศรษฐกิจ APEC ในการประชุมสุดยอดผู้นำในแต่ละปี โดยในปี 2022 ‘คุณเกรียงไกร เธียรนุกุล’ รับหน้าที่ประธานสภาที่ปรึกษาทางธุรกิจเอเปก เพื่อนำข้อเสนอไปหารือกับคณะผู้นำของทั้ง 21 เขตเศรษฐกิจ 

จากการเตรียมงานอย่างทุ่มเทของภาคเอกชนไทยอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ก่อนปี 2022 ... ABAC ก็ได้มีการกำหนด theme ของการประชุมภาคเอกชนในปีนี้ไว้ว่า Embrace. Engage. Enable

- Embrace หมายถึงการกลับมาใกล้ชิดพร้อมหน้ากันอีกครั้งในการร่วมประชุม หลังจากที่ต้องไปประชุมทางไกลมาตลอดช่วงการระบาดของโควิด-19
- Engage หมายถึง การลงมือทำงานร่วมกันอย่างจริงจัง...
- เพื่อให้ Enable นั่นคือ สามารถผลักดันกลไก APEC ให้เดินหน้าไปได้อย่างแท้จริง

ตลอดปี 2022 ที่ผ่านมา ภาคเอกชนทำงานอย่างหนักและต่อเนื่องร่วมกันกับทุกเขตเศรษฐกิจสมาชิก โดยแบ่งมิติการทำงานร่วมกันออกเป็น 5 คณะทำงานเพื่อขับเคลื่อนกลยุทธ์ 5 ด้าน เพื่อนำไปสู่ ‘การเร่งฟื้นตัวทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค และการกระตุ้นให้เกิดการพลิกฟื้นสู่การเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน ครอบคลุม และมีความยืดหยุ่นในระยะยาว’ โดยทั้ง 5 คณะทำงาน และ 5 กลยุทธ์เพื่อบรรลุเป้าหมาย ได้แก่...

1.) Regional Economic Integration: เส้นทางสู่เขตการค้าเสรีของเอเชียแปซิฟิก (FTAAP) และการเสริมสร้างความแข็งแกร่งของการค้าภาคบริการ สภาที่ปรึกษาทางธุรกิจเอเปคเห็นว่า FTAAP ควรตอบสนองต่อสภาพแวดล้อมทางธุรกิจระดับโลกที่ค่อยๆ พัฒนาและเปลี่ยนแปลงไป จึงเห็นควรในการพัฒนาแผนงานนี้ต่อไปเพื่อให้วาระนี้เกิดขึ้นจริงอย่างเป็นรูปธรรม  และในขณะเดียวกัน นวัตกรรมจะเป็นตัวขับเคลื่อนหลักของการเติบโตในภูมิภาคโดยเฉพาะในภาคบริการผ่านการผนึกกำลังระหว่างภาครัฐและเอกชนในการส่งเสริมนวัตกรรม โดยเฉพาะเกี่ยวกับบริการดิจิทัลที่สนับสนุนอีคอมเมิร์ซ, บริการทางโลจิสติกส์, บริการด้านสุขภาพ และบริการด้านสิ่งแวดล้อม

2.) Digital – การสร้างโครงสร้างพื้นฐานทางดิจิทัล เพื่อความปลอดภัยทางไซเบอร์และดิจิทัล แนวทางการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่สอดคล้องและบูรณาการ นับเป็นสิ่งสำคัญสำหรับโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็น และนับเป็นความสามารถในการปกป้องความก้าวหน้าและนวัตกรรมต่างๆ คณะทำงานจึงขอเรียกร้องให้เอเปคสร้างแพลตฟอร์มในการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ระดับภูมิภาค ที่จะประสานการดำเนินการและการลงทุนด้านความปลอดภัยในโลกไซเบอร์ร่วมกัน  

ตัวอย่างของคนสร้างป่า!! ‘สามี-ภรรยาชาวบราซิล’ เสกผืนป่าจากทุ่งทะเลทราย สรรค์สร้างธรรมชาติขึ้นใหม่บนพื้นที่กว่า ๓,๗๕๐ ไร่

ช่วงต้นทศวรรษ 2000 Sebastião Salgado ช่างภาพชื่อดังชาวบราซิล และ Lélia Wanick Salgado ภรรยาของเขาตัดสินใจพัฒนาระบบนิเวศในพื้นที่ทะเลทรายขนาด ๖๐๐ เฮกตาร์ขึ้น (ราว ๓,๗๕๐ ไร่) ขึ้นมาใหม่ใน Aimorés โดยพวกเขาได้ปลูกต้นกล้าพืชพรรณชนิดต่าง ๆ กว่า ๒ ล้านต้น โดยคนงานกับอาสาสมัครเป็นเวลา ๑๘ ปี แล้วพวกเขาก็ได้รับผลลัพธ์ที่น่าทึ่ง! พวกเขาสามารถสร้างป่าใหม่ขึ้น และตอนนี้พื้นที่ป่านี้ มีพืช ๒๙๓ สายพันธุ์ นกอีก ๑๗๒ สายพันธุ์ และสัตว์ต่าง ๆ อีก ๓๓ สายพันธุ์ ซึ่งบางสายพันธุ์กำลังใกล้ที่จะสูญพันธุ์แล้ว

Sebastião Ribeiro Salgado Júnior เป็นช่างภาพสารคดีทางสังคมและช่างภาพชาวบราซิล เกิดเมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1944 ในเมืองไอโมเรส รัฐมีนัสเชไรส์ ประเทศบราซิล หลังจากการเดินทางท่องเที่ยวในวัยเด็ก Salgado ได้รับการศึกษาเพื่อเป็นนักเศรษฐศาสตร์ โดยได้รับปริญญาตรีจาก UFES ปริญญาโทจากมหาวิทยาลัยเซาเปาโลในบราซิล และปริญญาเอกจากมหาวิทยาลัยปารีส

เขาเริ่มทำงานเป็นนักเศรษฐศาสตร์ขององค์การกาแฟนานาชาติ (หน่วยงานภายใต้สหประชาชาติ (UN)) ซึ่งจะต้องเดินทางไปทวีปแอฟริกาเพื่อปฏิบัติภารกิจ ในการเดินทางไปทวีปแอฟริกาเป็นครั้งแรกที่เขาเริ่มถ่ายภาพอย่างจริงจัง ที่สุดแล้วในปี ค.ศ. 1973 เขาก็เลือกที่จะทิ้งอาชีพนักเศรษฐศาสตร์แล้วเปลี่ยนมาทำงานด้านการถ่ายภาพ  โดยเริ่มจากงานที่ได้รับมอบหมายด้านภาพสำหรับข่าวก่อนที่จะหันไปทำงานประเภทภาพสำหรับสารคดีมากขึ้น ในตอนแรก Salgado ทำงานร่วมกับบริษัทถ่ายภาพ Sygma และ Gamma ในปารีส แต่ในปี ค.ศ. 1979 เขาได้เข้าร่วมกับ Magnum Photos ซึ่งเป็นความร่วมมือระดับนานาชาติของช่างภาพ แล้วเขาก็ลาออกจาก Magnum ในปี ค.ศ. 1994 เพื่อร่วมกับภรรยาของเขา Lélia Wanick Salgado ก่อตั้งบริษัท Amazonas Images ขึ้นในกรุงปารีส เพื่อเป็นบริษัทตัวแทนของเขา เขามีชื่อเสียงในด้านการถ่ายภาพสารคดีทางสังคม โดยเฉพาะภาพชีวิตของคนงานในประเทศกำลังพัฒนา

เขาได้เดินทางไปในกว่า ๑๒๐ ประเทศสำหรับโครงการถ่ายภาพของเขา สิ่งเหล่านี้ส่วนใหญ่ปรากฏในสื่อสิ่งพิมพ์และหนังสือหลายเล่ม นิทรรศการการท่องเที่ยวผลงานของเขาได้รับการตีพิมพ์นำเสนอไปทั่วโลก นอกจากนั้นแล้ว Salgado ได้รับรางวัล W. Eugene Smith Memorial Fund Grant ในปี ค.ศ. 1982 เป็นสมาชิกกิตติมศักดิ์ชาวต่างประเทศของ American Academy of Arts and Sciences ในปี ค.ศ. 1992 และเหรียญ Centenary Medal and Honorary Fellowship ของ Royal Photographic Society (HonFRPS) ในปี ค.ศ. 1993 เขาเป็นสมาชิกของ Académie des Beaux-Arts ที่ Institut de France ตั้งแต่เดือนเมษายน ค.ศ. 2016

Salgado ทำงานในโครงการระยะยาวที่ตัวเขาริเริ่ม ซึ่งหลายโครงการได้รับการตีพิมพ์เป็นหนังสืออาทิ : The Other Americas, Sahel, Workers, Migrations และ Genesis เป็นหนังสือที่รวบรวมรูปภาพหลายร้อยรูปจากทั่วทุกมุมโลก ภาพที่มีชื่อเสียงที่สุดของเขาคือ เหมืองทองคำในบราซิลที่เรียกว่า Serra Pelada เขายังเป็นทูตสันถวไมตรีของยูนิเซฟตั้งแต่ปี ค.ศ. 2001 ด้วย 

ระหว่างปี ค.ศ. 2006 ถึง ค.ศ. 2011 Salgado ทำงานโดยมุ่งเป้าไปที่การนำเสนอภาพที่ปราศจากตำหนิของธรรมชาติและมนุษยชาติ ประกอบด้วยชุดภาพถ่ายทิวทัศน์และสัตว์ป่า ตลอดจนชุมชนมนุษย์ที่ยังคงดำเนินชีวิตตามประเพณีและวัฒนธรรมตามวิถีของบรรพบุรุษ งานนี้ถูกมองว่าเป็นเส้นทางที่มีศักยภาพในการค้นพบตัวเองตามธรรมชาติของมนุษยชาติ

'บิ๊กตู่' เดอะแบก!! ไม่ปรับ ครม. เกรงใจพี่เห็นใจน้อง หวั่น!! รอยร้าวสะเทือน 'สุข-ทุกข์' ประชาชนยามนี้

มีอะไรซ่อนอยู่? หลัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวยืนยันแล้วว่า “ยังไม่มีการปรับ ครม.” ในวันแรกของการประชุม ครม.ที่ พล.อ.ประยุทธ์ กลับมานั่งหัวโต๊ะเหมือนเดิม และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีลาป่วยกะทันหัน

ขณะที่ นายกฯ ชาย 'เดชอิศม์ ขาวทอง' รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเข้ามารับตำแหน่งรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์เมื่อปีที่ผ่านมา และนำพาพรรคประชาธิปัตย์คว้าชัยชนะในการเลือกตั้งซ่อมเขต 6 สงขลา แทน 'ถาวร เสนเนียม' ซึ่งเป็นชัยชนะที่นายกฯ ชายสามารถคว้ามาให้ 'สุภาพร กำเนิดผล' หรือ คุณน้ำหอม ผู้เป็นภรรยานั้น ก็ได้กล่าวยืนยันในวงสัมมนาใหญ่ของพรรคประชาธิปัตย์ ว่า “ถ้ามีการปรับ ครม.ก็จะไม่รับตำแหน่งบริหาร เพราะตั้งแต่รับตำแหน่งรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ภาคใต้ ยังไม่ได้พิสูจน์ฝีมืออะไร” 

การที่ พล.อ.ประยุทธ์ ส่งสัญญาณว่ายังไม่ปรับ ครม.ไม่ได้หมายความว่า ช่วงเวลาที่เหลืออยู่ 6 เดือนจะไม่มีการปรับ ครม.เพียงแต่บอกว่าเวลานี้ สถานการณ์ยังไม่ถึงขั้นปรับ ครม.เท่านั้นเอง เพราะเวลาเปลี่ยน สถานการณ์เปลี่ยน อาจจะมีการปรับ ครม.เกิดขึ้นก็ได้

สถานการณ์เปลี่ยนที่ว่า ก็เช่น พรรคประชาธิปัตย์, พรรคภูมิใจไทย กดดันให้ปรับ ครม. หรือแม้แต่ในพรรคพลังประชารัฐเอง ก็อาจจะกดดันให้แต่งตั้งรัฐมนตรีแทนตำแหน่งที่ว่างอยู่สองตำแหน่ง หรือกดดันให้ปรับรัฐมนตรีที่ไม่เวิร์กออกไป เอาคนใหม่เข้ามาแทน 

แม้กระทั่งความขัดแย้งระหว่างพรรคประชาธิปัตย์กับพรรคภูมิใจไทย ก็เป็นแปรที่จะเดินไปถึงจุดที่กระทบต่อเสถียรภาพรัฐบาล ส่งผลให้การปรับ ครม.อาจจะเกิดขึ้นได้แม้จะมีช่วงเวลาในการบริหารราชการแผ่นดินเพียงสั้น ๆ ก็ตาม 

ทว่า เรื่องของงานบริหาร การตัดสินใจ ไม่ควรจะขาดช่วงขาดตอน เพราะนั่นคือ 'สุข-ทุกข์' ของประชาชน

มองไปที่พรรคประชาธิปัตย์ หากมีการปรับ ครม.เมื่อนายกฯ ชายประกาศชัดว่าไม่รับตำแหน่ง ถ้าโควต้าของ 'นิพนธ์ บุญญามณี' เป็นโควต้าของภาคใต้ โอกาสก็จะเป็นของ 'นริศ ขำนุรักษ์' ส.ส.หลายสมัยของประชาธิปัตย์พัทลุง และในการเลือกครั้งปี 2562 เขาเพียงหนึ่งเดียวที่รักษาหน้าประชาธิปัตย์ไว้ได้ เพราะ 'นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ' ที่ว่าแน่ยังสอบตกเลย

โอกาสเป็นของ 'นริศ' ถ้า 'ชินวรณ์ บุณยเกียรติ์' ผู้อาวุโสแห่งเมืองนครศรีธรรมราช ไม่ลดตัวไปนับตำแหน่งรัฐมนตรีช่วย ที่เคยนั่งเป็นรัฐมนตรีว่าการมาก่อนแล้ว จึงไม่เสียหายอะไรถ้าจะเปิดทางให้คนใหม่ ๆ อย่าง 'นริศ' เข้ามาทำหน้าที่บริหาร แถมจะเป็นผลดีต่อการเลือกตั้งของจังหวัดพัทลุงด้วยเสียอีก

สำหรับพรรคภูมิใจไทย ถ้ามีการปรับ ครม.ก็มีการสะกิดให้ 'บุญลือ ประเสริฐโสภา' ส.ส.ราชบุรี ปัดแป้งแต่งหน้ารอไว้แล้ว เข้ามาแทน 'กนกวรรณ วิลาวัณย์' รัฐมนตรีช่วยศึกษาธิการ ที่เวลานี้ศาลสั่งพักงานอยู่ หลังโดนคดีบุกรุกป่าเขาใหญ่

โดยสรุปที่นายกรัฐมนตรียืนยันไม่ปรับครม.ในเวลานี้อาจจะเกิดจากความลังเลใจในส่วนของพรรคพลังประชารัฐมากกว่า ว่าจะเกิดแรงกระเพื่อมขึ้นหรือไม่ กับสองตำแหน่งที่ว่างอยู่ คือ รัฐมนตรีช่วยเกษตรและสหกรณ์ แทน ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า และรัฐมนตรีช่วยแรงงานฯ แทน ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ ที่ถูกปลดไปเมื่อครั้งแผนล้มประยุทธ์รั่ว 

ไม่เพียงแค่นั้น สำหรับพรรคพลังประชารัฐแล้ว ยังมีรัฐมนตรีบางคนเริ่มขาลอยกับการปฎิบัติหน้าที่ที่ไม่เข้าตากรรมการ ไม่เอาใจใส่ ส.ส.ในพรรค และรัฐมนตรีบางคนก็ไม่ยึดโยงกับพรรค เพราะเป็นโควต้ากลางของ พล.อ.ประยุทธ์ 

ไหนจะเรื่องการทวงถามจาก ส.ส.กลุ่มปากน้ำ ที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคไปรับปากกับกลุ่มปากน้ำไว้ว่าจะยกตำแหน่งรัฐมนตรีให้ ถ้ามีการปรับ ครม. แต่สุดท้ายหายเงียบ จนเกิดปฏิกิริยา ไม่ยกมือสนับสนุน พล.อ.อนุพงศ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีมหาดไทย ในญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ

ไหนจะยังมี ส.ส.สายใต้ 14+1 ซึ่งก็มีสิทธิ์ที่จะทวงถามหาตำแหน่งรัฐมนตรีเช่นกัน ฉะนั้นระหว่าง 15 ที่นั่งของภาคใต้ กับ 7 ที่นั่งของปากน้ำ จะให้เก้าอี้รัฐมนตรีกับกลุ่มใด

ประธานส.ส.ภาค 8 พปชร.เชียร์ ตั้ง 'สายัณห์' เป็นรัฐมนตรี แต่เชื่อมั่น!! ส.ส.ใต้ทุกคนเป็นรัฐมนตรีได้หมด

นายนัทธี ถิ่นสาคู ส.ส.ภูเก็ต พรรคพลังประชารัฐ ประธาน ส.ส.ภาค 8 กล่าวถึงสถานการณ์ของพรรคพลังประชารัฐในภาคใต้ว่า สถานการณ์โดยทั่วไปยังไม่มีอะไรมาก แต่มีปัจจัยอยู่อย่างหนึ่ง คือการประกาศเขตเลือกตั้งที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่ยังไม่สามารถดำเนินการได้ เนื่องจากกฎหมายเลือกตั้งอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญว่า ขัดหรือแย้งกับรัฐธรรมนูญหรือไม่ ถ้า กกต.ประกาศเขตเลือกตั้งออกมา และไม่เป็นไปตามที่เราคาดคิดกันไว้ ตัวผู้สมัครบางคนอาจจะโยกย้ายเขตตามฐานคะแนนของตัวเอง

“ต้องยอมรับว่าในภาคใต้กระแสลุงตู่ยังโอเคอยู่ ยังไปได้ ส่วนตัวผู้สมัครส่วนใหญ่ก็ลงตัวเกือบหมดแล้ว อีกไม่นานคงจะเปิดตัวจริงออกมา วันนี้ที่เราคิดคือใครจะมาเป็นหัวหอกดูแลภาคใต้ ซึ่งก็มีความสำคัญ”

เมื่อถามถึงแนวโน้มการปรับ ครม.นายนัทธี กล่าวยืนยันว่า 80% มีการปรับ ครม.แน่นอน แต่ถามว่าปรับครม.โดยยึดพื้นฐานอะไร

“ถ้าปรับ ครม.บนพื้นฐานว่า ลุงตู่อยู่ต่อก็ปรับแบบหนึ่ง แต่ถ้าลุงตู่ไม่อยู่ต่อก็ปรับอีกแบบหนึ่ง เพื่อให้สอดรับกับภาวะทางการเมือง”

นายนัทธี กล่าวอีกว่า ในส่วนของ ส.ส.ภาคใต้ 14 คน เป็นรัฐมนตรีได้ทุกคน อยู่ที่ว่าจะให้อยู่กระทรวงไหน ต้องเอาบุคคลที่เหมาะสมเข้าไปทำงาน

'ประชาธิปัตย์-ภูมิใจไทย' สู้กันทุกเม็ดบนสนามกระบี่ จุดเริ่มเกมปั้นสถานะ 'พรรคใหญ่' ต้องได้เลือก ไม่ใช่ถูกเลือก

สนามเลือกตั้งฝั่งอันดามัน ดูจะกลายเป็นสนามเดือดในการช่วงชิง 14 ที่นั่งในสภา จาก 6 จังหวัด อันประกอบด้วย ระนอง 1 ภูเก็ต 2 พังงา 2 กระบี่ 3 ตรัง 4 และสตูล 2 ซึ่งจะเป็นการเชือดเฉือนกันของสองพรรคการเมืองหลัก คือ 'ประชาธิปัตย์' และ 'ภูมิใจไทย'

ทั้งสองพรรคประกาศยึดฝั่งอันดามัน จากเดิมที่มีประชาธิปัตย์, ภูมิใจไทย และพลังประชารัฐ แบ่งกันอยู่แล้ว อย่าวกระบี่ ในการเลือกตั้งครั้งปี 2562 พรรคภูมิใจไทยมีอยู่แล้ว 1 คือ สฤษดิ์พงษ์ เกี่ยวข้อง ประชาธิปัตย์มีอยู่แล้ว 1 เช่นกัน คือสาคร เกี่ยวข้อง คราวที่แล้ว 'ตระกูลเกี่ยวข้อง' ตกลงกันได้แบ่งกันพรรคละเขต เลือกตั้งครั้งใหม่กระบี่จำนวนประชากรเพิ่มขึ้น จำนวน ส.ส.จึงเพิ่มเป็น 3 คน

แน่นอนว่าทั้งประชาธิปัตย์ และภูมิใจไทย ต่างหมายมั่นปั้นมือรักษาของเก่า และเพิ่มของใหม่ โดยทั้งสองพรรคตั้งเป้ายึด 3 ที่นั่งของกระบี่ ซึ่งต่างเปิดตัวผู้สมัครกันไปหมดแล้ว เพื่อยืนยันความพร้อม

ย้อนไปเมื่อวันเสาร์ที่ (13 ส.ค. 2565) อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และโกเกี๊ยะ-พิพัฒน์ รัชกิจประการ แม่ทัพใต้ ได้ยกทีมไปเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.กระบี่ ทั้ง 3 เขต ที่ลานพระอาทิตย์ อบจ.กระบี่

พรรคภูมิใจไทย ได้วางตัวผู้สมัคร ส.ส.ไว้เรียบร้อยแล้วเขต 1 โกหนึ่ง-กิตติ กิตติธรกุล เลขานุการนายก อบจ.กระบี่ ถือเป็นตระกูลการเมืองใหญ่ของกระบี่ เขต 2 สจ.ม้อ-ถิรเดช ตั้งมั่นก่อกิจ อดีต ส.อบจ.กระบี่ เขต อ.อ่าวลึก และเขต 3 โกสุทธิ์-สฤษดิ์พงษ์ เกี่ยวข้อง ส.ส.กระบี่ 

พรรคประชาธิปัตย์ ก็ไม่ปล่อยให้ภูมิใจไทยเหยียบจมูกในฐานะเจ้าถิ่นเก่า โดยจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กรีฑาทัพหลวง ทั้งบัญญัติ บรรทัดฐาน, เฉลิมชัย ศรีอ่อน, นิพนธ์ บุญญามณี ไปจัดสัมมนาที่กระบี่ พร้อมเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.กระบี่ ทั้ง 3 เขต ประกาศความพร้อมสู้ศึกเลือกตั้ง 'จุรินทร์' มั่นใจว่า จะกลับมายึดกระบี่คืนได้ทั้ง 3 เขต

3 คนของพรรคประชาธิปัตย์ที่จะลงสู้ศึกครั้งหน้าชื่อเสียงเรียงนามไม่ธรรมดาเหมือนกัน เขต 1 โกเคี่ยง ธนวัช ภูเก้าล้วน ลูกชายกีรติศักดิ์ ภูเก้าล้วน อดีตนายกเทศมนตรีเมืองกระบี่ มีฐานะจัดอยู่ในระดับเศรษฐีเขต 2 สาคร เกี่ยวข้อง ส.ส.กระบี่ และเขต 3 พิมพ์รพี พันธุ์วิชาติกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ ลูกสาวพิเชษฐ์ พันธุ์วิชาติกุล นั่นเอง

แม่ทัพตัวจริงของภูมิใจไทย เมืองกระบี่คือ โกหงวน- สมศักดิ์ กิตติธรกุล นายก อบจ.กระบี่ 7 สมัย สหายร่วมรบของ 'เนวิน ชิดชอบ' แห่งเมืองบุรีรัมย์


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top