เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) เป็นประธานในพิธีเปิดงานสัมมนาและนิทรรศการเศรษฐกิจดิจิทัล ในหัวข้อ “Visionary Innovation 2023” พร้อมกล่าวว่า ตนตระหนักดีถึงความท้าทายที่ประเทศไทยกำลังเผชิญ ทั้งจากสถานการณ์ภายนอก และภายในประเทศ ทั้งความผันผวนของเศรษฐกิจและการเมืองโลก ซึ่งส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ชีวิตความเป็นอยู่ รวมไปถึงผลิตผลทางการเกษตร โดยมีเทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัลเป็นปัจจัยเสริมให้เกิดความเปลี่ยนแปลงรวดเร็วทั่วโลก การผลักดันการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัลเพื่อเปลี่ยนผ่านไปสู่ประเทศไทย 4.0 เป็นวิสัยทัศน์ของกระทรวงดิจิทัลฯ มุ่งเน้นให้ทุกภาคส่วนมีความเท่าเทียมในการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัล ใช้อย่างมีคุณค่า ใช้ให้เกิดประโยชน์ในทางบวก ใช้เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต และสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันให้กับประเทศ สอดคล้องกับแนวนโยบายและแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับ 13 และแผนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ระยะ 20 ปี (2560-2580) โดยได้เร่งดำเนินการเพื่อเตรียมความพร้อมของประเทศในมิติต่าง ๆ ให้เห็นเป็นรูปธรรม
ทั้งนี้ หากพูดถึงสถานการณ์ด้านดิจิทัลในประเทศไทยในปัจจุบัน จะเห็นว่าอัตราส่วนการใช้งานด้านดิจิทัลของประชาชนมีอัตราส่วนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตในประเทศไทยมีมากกว่า 56 ล้านคน ผู้ใช้งานโทรศัพท์มือถือมีมากกว่า 62 ล้านคน และประมาณร้อยละ 90 ของครัวเรือนในประเทศไทย มีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต จากข้อมูลข้างต้นจะเห็นว่าภาคประชาชนของประเทศไทย มีความพร้อม และความตื่นตัวด้านดิจิทัลเป็นอย่างมาก
ขณะที่มูลค่าของอุตสาหกรรมดิจิทัลในปี 2021 ใน 4 อุตสาหกรรม คือ อุตสาหกรรมฮาร์ดแวร์และอุปกรณ์อัจฉริยะ อุตสาหกรรมบริการดิจิทัล อุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ และอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์ อยู่ที่ ราว 1.6 ล้านล้านบาท และในส่วนของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศอันเป็นผลจากเทคโนโลยีดิจิทัล อยู่ที่ประมาณ 13% หรือ ประมาณ 2 ล้านล้านบาทและจากการจัดอันดับความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลในปี 2022 ของ IMD World Competitiveness Center ประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 40 จากทั้งหมด 63 อันดับ โดยได้รับคะแนนอยู่ที่ 68.19 อยู่ในกลุ่มใกล้เคียงกับอิตาลีและชิลี (อันดับตกลงมา จากอันดับที่ 38 จากทั้งหมด 64 อันดับ ในปี 2021 แต่มีคะแนนเพิ่มขึ้น โดยปี 2021 ได้รับคะแนนอยู่ที่ 63.159) สามประเทศที่ได้อันดับสูงสุดคือ Denmark, USA และ Sweden ประเทศในกลุ่มอาเซียนที่อยู่ก่อนหน้าไทย คือ สิงคโปร์ในลำดับ 4 และ มาเลเซีย ลำดับ 31
ส่วนเทคโนโลยีที่มีบทบาทสำคัญของประเทศไทยมีอยู่ 7 เทคโนโลยี ได้แก่ อินเทอร์เน็ตแห่งสรรพสิ่ง (IoT) ปัญญาประดิษฐ์ (AI) การวิเคราะห์ข้อมูล โทรคมนาคมยุคใหม่ เช่น 5G 6G เป็นต้น Distributed ledger technology (DLT) เช่น Blockchain และสกุลเงินดิจิทัลต่างๆ ต่อมาคือ Quantum Computing และระบบอัตโนมัติ (Automation)
อย่างไรก็ดี การที่ประเทศไทยจะสามารถเดินไปถึง Digital Thailand อย่างเต็มรูปแบบ จำเป็นต้องแก้ไขปัญหาเรื่องความเปราะบางของเศรษฐกิจ โดยใช้แนวคิดการสร้างข้อได้เปรียบในการแข่งขันด้านดิจิทัลอย่างยั่งยืน (Digital Competitive Advantage) ซึ่งประกอบด้วย 4 เรื่อง ได้แก่
1. Digital Access: การเข้าถึงเทคโนโลยี content และ Data เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี cloud computing การเก็บข้อมูล Nano chip การส่งข้อมูลผ่าน IoT
2. Digital Connectivity: การเชื่อมโยง เทคโนโลยี คน ธุรกิจ สังคม ให้ถึงกัน มีเรื่อง New Wave Digital Content หรือ Metaverse AR VR ทำให้ทุกอย่างเชื่อมโยงกันในโลกกึ่งเสมือนและโลกเสมือน หรือสองโลกทำงานร่วมกัน
3. Digital Data: การที่จะทำให้ทุกอย่างดำเนินการได้อย่างสะดวก ต้องมีการเก็บข้อมูลและการประมวลผลข้อมูล
4. Digital automation: ทั้ง 3 มิติที่กล่าวมา จะก่อให้เกิด Automatic World ซึ่งอุตสาหกรรม/ภาคการผลิต/การค้าและบริการ และการอยู่อาศัยของภาคประชาชน กำลังเข้าสู่ยุคอัตโนมัติ มีเทคโนโลยีเกี่ยวข้องคือ robotics/simulation/Integrated system สิ่งเหล่านี้ที่เกี่ยวกับระบบอัตโนมัติทั้งสิ้น การเข้าสู่โลกอัตโนมัติจำเป็นต้องเตรียม Digital data สำหรับประเทศ เพื่อไม่ขาดดุลชำระเงินทางเทคโนโลยี และความมั่นคงด้านข้อมูล
รัฐบาลได้ตระหนักถึงความสำคัญและความจำเป็นเร่งด่วนในการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลมาเป็นเครื่องมือสำคัญในการปฏิรูปประเทศไทยไปสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน โดย กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้จัดทำนโยบายและแผนระดับชาติว่าด้วยการพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เพื่อเป็นกรอบแนวทางการดำเนินการตามนโยบายเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัลของรัฐบาล ให้เกิดการนำเทคโนโลยีดิจิทัลที่ทันสมัยและหลากหลาย มาเปลี่ยนแปลงวิธีการดำเนินธุรกิจ การดำเนินชีวิตของประชาชน และการดำเนินงานของภาครัฐ ซึ่งจะส่งผลให้เกิดความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจที่แข่งขันได้ในเวทีโลก และความมั่นคงทางสังคมของประเทศภายใต้วิสัยทัศน์ คือ “ปฏิรูปประเทศไทยสู่ ดิจิทัลไทยแลนด์”