Tuesday, 6 May 2025
THE STATES TIMES TEAM

แผ่นดินไหว ภัยธรรมชาติ ที่พยากรณ์ได้ยากที่สุด! | THE STATES TIMES Y WORLD EP.41

แผ่นดินไหวภัยพิบัติธรรมชาติที่นับว่ามีความรุนแรงมากที่สุด 

.

ติดตามได้ใน THE STATES TIMES Y World X THE STUDY TIMES

.

#THESTATESTIMES

#THESTATESTIMESYWORLD

#THESTUDYTIMES

#แผ่นดินไหว

#ภัยธรรมชาติ

#ป้องกันตัว

ซื้อตอนนี้ดีหรือไม่? Checklist ก่อนซื้อ 'รถยนต์ไฟฟ้า (EV)' | TIME TO KNOW EP.6

TIME TO KNOW EP.6

ซื้อตอนนี้ดีหรือไม่ ? Checklist ก่อนซื้อ 'รถยนต์ไฟฟ้า (EV)'

.

ดำเนินรายการโดย วสันต์ มนต์ประเสริฐ Content Manager

.

🎥 ช่องทางรับชม

Facebook: THE STATES TIMES PODCAST

YouTube: THE STATES TIMES PODCAST

TikTok: THE STATES TIMES PODCAST

‘SAWASDEE by AOT’ แอปฯ เดียวจบ ครบทุกเรื่อง สำหรับนักเดินทาง | THE STATES TIMES Y WORLD EP.39

แอปพลิเคชัน ‘SAWASDEE by AOT’
พร้อมใช้ทุกฟังก์ชัน ม.ค.นี้ ตัวช่วยนักท่องเที่ยว

.

ติดตามได้ใน THE STATES TIMES Y World X The Stucture

.

#THESTATESTIMES

#THESTATESTIMESYWORLD

#แอปสวัสดี

#AOT

#ท่องเที่ยว

‘รมว.สุชาติ’ ดัน ‘มวยไทย’ สู่อาชีพที่มีมาตรฐานระดับสากล สร้างซอฟต์พาวเวอร์มวยไทย สู่สายตาชาวโลก

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน สนับสนุนการจัดกิจกรรม Thai Fight Tournament in Geneva ซึ่งจัดโดย Chiangmai Muaythai Club โดยมีนางสุพัตรา ศรีไมตรีพิทักษ์ เอกอัครราชทูต และนางสาวอังคณา เตชะโกเมนท์ อัคราชทูตที่ปรึกษา ฝ่ายแรงงาน คณะผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ ณ นครเจนีวา เข้าร่วมพิธีเปิด ณ ศูนย์ประชุม Palexpo นครเจนีวา

นายสุชาติ กล่าวว่า รัฐบาลภายใต้การนำของพลเอกประยทุธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีปและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีนโยบายผลักดันกิจกรรมซอฟต์พาวเวอร์ และได้ส่งเสริมและสนับสนุนอย่างจริงจังให้มวยไทยเป็นที่ยอมรับในระดับสากลบรรจุในการแข่งขันกีฬาระดับเอเชี่ยนเกมส์-โอลิมปิก และผลักดันมวยไทยให้เป็นซอฟต์พาวเวอร์ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ซึ่งในส่วนของกระทรวงแรงงานอยู่ระหว่างการจัดมาตรฐานฝีมือแรงงานสาขาผู้ฝึกสอนมวยไทย เพื่อส่งเสริมให้อาชีพครูฝึกมวยไทยได้รับการยอมรับในระดับสากลอย่างเป็นมาตรฐานและในการการจัด Thai Fight Tournament in Geneva ครั้งนี้ จะเป็นการส่งเสริมการอาชีพการชกมวยไทย ส่งเสริมอาชีพผู้ฝึกสอนมวยไทย และประชาสัมพันธ์เรื่องการจัดทำมาตรฐานฝีมือแรงงานสาขาผู้ฝึกสอนมวยไทยของกระทรวงแรงงานอีกด้วย

ตำรวจ บุกรวบ CEO บริษัทขายฉลากกินแบ่งรัฐบาลทิพย์ ชี้ ไม่มีฉบับจริง พบเงินหมุนเวียนกว่า 30 ล้าน 

เมื่อวันที่ 18 ธ.ค. พล.ต.ต.พุฒิเดช บุญกระพือ ผบก.ปอศ. สั่งการ พ.ต.อ.ไกรวิศท์ แสนทวีสุข ผกก.1 บก.ปอศ. นำกำลังจับกุม นายณัฐ การัณยภาส อายุ 32 ปี ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 2745/2565 ลง 6 ธ.ค.2565 ในความผิดฐาน "ทุจริตหรือหลอกลวงโดย นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จ,ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน” ได้ที่ บริเวณหน้าวัดพระธาตุซ่อนแก้ว ต.แคมป์สน อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 29 พ.ย.2565 ที่ผ่านมา นายพันธ์ธวัช นาควิสุทธิ์ หรือ นอท กองสลากพลัส ได้เข้าพบพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ปคบ. เพื่อแจ้งความเอาผิด บริษัท ดีโชติช่วง จากกรณีขายสลากกินแบ่งรัฐบาลซ้ำ ไม่มีสลากต้นฉบับ เจ้าหน้าที่จึงจัดกำลังลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง ก่อนพบว่ามีการกระทำในลักษณะดังกล่าวจริง ในลักษณะการขายผ่านแม่ทีม ซึ่งผู้ซื้อจะต้องซื้อสลากผ่านแม่ทีมที่มีคนแนะนำเท่านั้นถึงจะซื้อได้ 

‘ภูมิใจไทย’ ขอบคุณ ‘ส.ว.วันชัย’ อวย ‘อนุทิน’ มีสิทธิ์นั่งนายกฯ ชี้ สุดท้ายอยู่ที่ปชช.ให้โอกาส กั๊กบอกจำนวนส.ส.ล็อตใหม่ย้ายเข้าบ้าน

เมื่อวันที่ 18 ธ.ค. นายภราดร ปริศนานันทกุล ส.ส.อ่างทอง และโฆษกพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่จะมีส.ส. อีกหนึ่งล็อตลาออกจากพรรคอื่นมาอยู่กับพรรคภูมิใจไทยว่า ขณะนี้น่าจะอยู่ในกระบวนการการเตรียมการคิดว่าคงมีอีกจำนวนหนึ่ง แต่อย่าพึ่งบอกตัวเลขเลยดีกว่า ซึ่งเป็นส.ส.ที่มาจากหลากหลายพรรค 

ทั้งนี้ หากถามว่าเรามีความพร้อมในการเลือกตั้งมากน้อยแค่ไหนนั้น เราตั้งเป้าว่าจะส่งผู้สมัครครบทั้ง 400 เขต แต่ล่าสุดเรามีผู้สมัครยังไม่ครบทั้ง 400 เขต ฉะนั้นความพร้อมในด้านนี้ยังไม่สมบูรณ์เต็มที่ แต่เราจะพยายามทำให้ครบทั้ง 400 เขต ส่วนความพร้อมด้านนโยบายเราก็จะพยายามทยอยออกมา และคิดว่าจะเป็นนโยบายที่โดนใจประชาชน อย่างไรก็ตาม สำหรับตัวแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคนั้น เราจะเสนอนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคเพียงรายชื่อเดียว

‘แพทองธาร’ จับเข่าคุยผู้ประกอบการท่องเที่ยว แบ่งปันวิสัยทัศน์ท่องเที่ยวปี 2570 ปั้นประเทศไทยจะเป็นแลนด์มาร์คการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพของโลก

นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม พรรคเพื่อไทย โพสต์เฟซบุ๊กกล่าวถึงการเสวนาแลกเปลี่ยนความเห็นกับผู้ประกอบการท่องเที่ยวเมื่อวันศุกร์ที่ 16 ธันวาคม 2565 ที่พรรคเพื่อไทย โดยร่วมแสดงความเห็นแลกเปลี่ยนวิสัยทัศน์ด้านการท่องเที่ยวของประเทศไทยในปี 2570 โดยตั้งเป้าหมายประเทศไทยเป็นเมืองท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ โดยมีข้อความดังนี้  

“ใครๆ ก็บอกว่าการท่องเที่ยวเป็น engine สำคัญที่สร้างเศรษฐกิจให้กับประเทศไทย แต่พอถึงวิกฤตโรคระบาคโควิด-19 การท่องเที่ยวไทยก็ล้มลงทันที จนทุกวันนี้แม้โควิด-19 จะซาลง รัฐบาลลดมาตรการควบคุมโรคระบาด นักท่องเที่ยวทยอยเข้ามาเที่ยวกันแล้ว แต่ปัญหาหลายอย่างก็ยังคงอยู่ อนาคตการท่องเที่ยวไทยจะไปทางไหนก็ยังไม่มีทิศทางชัดเจน

คือเสียงสะท้อนจากวงแลกเปลี่ยนความคิดจากภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยว เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ที่ทำให้กลับมาคิดตกตะกอนอะไรได้หลายอย่างมากเลยค่ะ  

พูดกันตามจริง ในฐานะผู้ประกอบการเหมือนกัน การท่องเที่ยวบ้านเรายังไม่ฟื้นค่ะ ส่วนหนึ่งน่าจะเป็นเพราะตั้งแต่ก่อน โควิด-19 การท่องเที่ยวของบ้านเราไม่มีรากฐานที่แข็งแรงมากพอ เมื่อเจอ worst case scenario จึงล้มลงและยากที่จะฟื้นฟูให้เป็นเหมือนเดิม 



จะดีกว่าหรือเปล่านะ ถ้ารัฐบาลในสมัยหน้ามองการณ์ไกลหรือรับมือกับสถานการณ์เลวร้ายที่เกิดขึ้นได้อย่างทันท่วงที จนไม่ทำให้ engine ที่สำคัญของ GDP ไทยต้องตกหลุมตกบ่อ ชะงักงันขนาดนี้ และจากการพูดคุยในวงนี้ทำให้รู้เลยค่ะ การพาให้การท่องเที่ยวไทยเติบโตมากกว่าก่อนโควิด-19  มี 4 เรื่องที่ต้องทำดังนี้ค่ะ

1) อ่านเทรนด์โลกให้ขาด แต่เดิม ภาพรวมตลาดการท่องเที่ยวไทยพึ่งตลาดจีนกว่า 60% แต่พอมีนโยบาย Zero-Covid ก็ทำให้นักท่องเที่ยวจีนไม่สามารถมาเที่ยวเมืองไทยได้ การท่องเที่ยวไทยก็ล้มลงทันที การท่องเที่ยวบ้านเราจะทำแบบนั้นไม่ได้แล้วค่ะ เราควรมองเทรนด์ผู้บริโภคให้ขาด ทุกวันนี้คนเราหันมาสนใจดูแลตัวเองกันมากขึ้น ธุรกิจการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพมีการเติบโตสูงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2020 ตัวเลขจาก Global Wellness Institute ประเมินว่า ตลาดการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพของโลกมีแนวโน้มเติบโตจาก 4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2020 เป็น 11 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2025 ขณะที่ประเทศไทยถูกจัดให้อยู่ในอันดับที่ 15 ของตลาดการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพของโลกในปี 2020 และมีแนวโน้มว่าจะเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ เห็นตัวเลขอย่างนี้แล้วก็น่าสนใจนะคะ เพราะตลาดนี้ผู้บริโภคส่วนใหญ่แล้วเป็นกลุ่มที่มีกำลังทรัพย์และอิสระทางเวลา ถ้าประเทศไทยสามารถปักหมุดเรื่องนี้ เท่ากับเราสามารถกำลังดึงนักท่องเที่ยวคุณภาพสูงเข้ามา 

2)สร้างแรงงานให้พร้อม ไทยเรามีแรงงานด้านการท่องเที่ยวประมาณ 1.4 ล้านคน แต่ช่วงโควิด-19 ทำให้ต้องลดพนักงานลง พอประเทศเปิด ธุรกิจท่องเที่ยวเริ่มเข้าที่เข้าทาง แรงงานไทยเราก็กลับเข้าสู่ระบบไม่ทัน ตั้งแต่กลุ่มอาชีพสายบริการ การโรงแรม จนไปถึงธุรกิจการบิน ถ้าไทยจะปักหมุดเรื่องการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพให้อยู่ในใจคนทั่วโลก การส่งเสริมและสนับสนุนภาคการศึกษาเพื่อเตรียมแรงงานให้พร้อมสำหรับธุรกิจนี้ หรือจะเป็นการเจรจากับประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อให้แรงงานต่างชาติเข้ามาทำงานในประเทศเพิ่มขึ้นในบางสาขางานของอุตสาหกรรมนี้ที่หาแรงงานได้ยากจริงๆค่ะ ก็น่าจะนับเป็นอีกหนึ่งยุทธศาสตร์การท่องเที่ยวที่น่าสนใจค่ะ 

3)กิโยตินกฎหมาย กฎหมายไทยเราซับซ้อนมากเกินไป แต่ละหน่วยงานมีระเบียบของตัวเอง บางระเบียบก็ขัดแย้งกัน เช่น เรามี พ.ร.บ.โรงแรมที่ดูแลเรื่องมาตรฐาน แต่ พ.ร.บ. นี้กลับอยู่ในอำนาจมหาดไทย ขณะที่เรื่องโฮมสเตย์ กลับอยู่ในอำนาจของกรมการท่องเที่ยว ส่วนเรื่องการทำแพ เป็นเรื่องของกรมเจ้าท่า การอนุญาตให้ตั้งที่พักในอุทยานแห่งชาติ ก็เป็นอำนาจของกรมอุทยานฯ ฉะนั้นแล้ว กฎหมายอะไรที่ล้าสมัย ไม่ตอบโจทย์ยุคสมัย ควรยกเลิก/แก้ไขได้แล้วค่ะ เพราะว่าไปแล้ว กฎหมายนอกจากทำหน้าที่ควบคุมระเบียบสังคมแล้ว ก็ควรเอื้ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนในการทำธุรกิจด้วยหรือเปล่าคะ?

4)สุดท้ายคือ สร้างการตลาดทำให้คนทั่วโลกเชื่อมั่นและมั่นใจอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย แต่เดิม Sea Sand Sun ของบ้านเราเป็นที่นิยมชมชอบอยู่แล้ว แต่ถ้าเราเพิ่มมูลค่าของการท่องเที่ยวให้มากกว่าแค่เรื่องธรรมชาติ แต่เป็น ‘ธรรมชาติ+สุขภาพ+วิทยาศาสตร์’ แล้วใส่ความคิดสร้างสรรค์ในการเพิ่มความรับรู้ของนักท่องเที่ยวผ่านหลายช่องทางของการสื่อสาร จะสร้างมูลค่าได้เพิ่มอีกมากเลยค่ะ 

ของใครลอยมา "ยึดไอซ์25กก.ขณะลาดตระเวนริมฝั่งแม่น้ำโขงเชียงแสน"

ในห้วงเช้าของวันที่ 18 ธันวาคม 2565 ที่ผ่านมาหน่วยเฉพาะกิจทัพเจ้าตากโดยกองร้อยทหารพรานที่3102หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่31จัดกำลังพล1ชุดปฏิบัติการทำการลาดตระเวนเฝ้าตรวจ ตามริมฝั่งแม่น้ำโขงหลังจากได้รับแจ้งจากแหล่งข่าวว่าจะมีการลักลอบลำเลียงยาเสพติดข้ามแม่น้ำโขงในห้วงวันที่15 – 20ธันวคม 2565 ซึ่งขณะทำการลาดตระเวนมาถึงบริเวณบ้านสบคำ ตำบลเวียง อำเภอเชียงแสนจังหวัดเชียงรายตรวจพบถุงพลาสติกสีดำ จำนวน1ถุงอยู่ริมฝั่งแม่น้ำโขงจึงได้เข้าทำการตรวจสอบพบว่าภายในเป็นกระสอบบรรจุยาเสพติดให้โทษประเภท 1(ไอซ์)จำนวน 25 ถุงน้ำหนักรวมประมาณ 25 กิโลกรัม

“เพื่อไทย” เห็นด้วย สภาอุตสาหกรรมฯ หยุดการขึ้นค่าไฟฟ้า ชี้ ความสามารถแข่งขันไทยจะลด เวียดนามหน่วย 2.88 บาท แนะ 4 แนวทางลดค่าไฟฟ้าในระยะสั้นและระยะยาว

นางสาวจุฑาพร เกตุราทร ว่าที่ผู้สมัคร สส. กทม. เขต บางรัก สาทร ปทุมวัน และ โฆษกคณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตามที่รัฐบาลประกาศขึ้นราคาไฟฟ้าสำหรับธุรกิจและอุตสาหกรรมจากหน่วยละ 4.72 บาท เป็น หน่วยละ 5.69 บาท สร้างความเดือดร้อนให้กับภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมอย่างมาก จนสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยต้องออกเรียกร้องขอให้หยุดการขึ้นค่าไฟฟ้าไว้ก่อน เพราะภาคธุรกิจคงแบกกันไม่ไหว เนื่องจากตอนต้นปียังอยู่ที่หน่วยละ 3.70 บาทเลย หรือขึ้นราคาถึง 53% ซึ่งหนักมาก อีกทั้ง ประเทศเวียดนามที่เป็นประเทศคู่แข่งของไทยคิดค่าไฟฟ้าเพียงหน่วยละ 2.88 บาทเท่านั้น ซึ่งแตกต่างกันเกือบเท่าตัว นอกจากนี้การขึ้นค่าไฟฟ้าจะทำให้ต้นทุนการผลิตสินค้าสูงขึ้น ผู้ผลิตก็ต้องขึ้นราคาสินค้าทำให้เงินเฟ้อสูงขึ้น และประชาชนจะยิ่งเดือดร้อนจากค่าครองชีพที่สูงอยู่แล้ว เหมือนซ้ำเติมความลำบาก 

ดังนั้นหากรัฐบาลยังยืนยันจะขึ้นค่าไฟฟ้าในระดับนั้นจะทำให้การแข่งขันของไทยลดลง นักลงทุนต่างประเทศจะไม่มาลงทุนในประเทศไทย แต่จะหันไปลงทุนในประเทศเวียดนามหมด ซึ่งที่ผ่านมาก็เป็นแบบนี้อยู่แล้ว โดยล่าสุดความสามารถแข่งขันของประเทศไทยหล่นลงมาถึง 5 อันดับจากอันดับที่ 28 ลงมาอันดับที่ 33 ซึ่งย่ำแย่อยู่แล้ว  ทั้งนี้การที่ประเทศไทยต้องขึ้นราคาไฟฟ้าในระดับสูง เกิดจากการบริหารพลังงานที่ผิดพลาดของรัฐบาลเอง ทำให้ต้นทุนการผลิตไฟฟ้าพุ่งขึ้นสูงและต้องนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ที่มีราคาสูงเข้ามาใช้ในการผลิตไฟฟ้าเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะปัญหาการส่งมอบสัมปทานการขุดก๊าซในพื้นที่อ่าวไทย ปริมาณก๊าซจากเมียนมาร์ที่ลดลง อีกทั้งยังปล่อยให้มีการผลิตไฟฟ้าเกินความต้องการเป็นจำนวนมาก ทำให้ต้องจ่ายค่าความพร้อมสำหรับโรงงานไฟ้ฟ้าที่สร้างเกินความต้องการใช้เป็นจำนวนมากกว่า 50% 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top