Sunday, 18 May 2025
THE STATES TIMES TEAM

ชลบุรี - สวนสัตว์เปิดเขาเขียว ปิดให้บริการชั่วคราว ตามคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดชลบุรี และเตรียมไลฟ์สดชมชีวิตสัตว์นานาชนิดคลายเหงา ผ่าน Facebook

นายเทวินทร์ รัตนะวงศะวัต ผู้อำนวยการสวนสัตว์เปิดเขาเขียว อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี เปิดเผยว่า เนื่องจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในปัจจุบันทำให้พื้นที่ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี เป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวและประชาชน ทางสวนสัตว์เปิดเขาเขียว จึงขอประกาศปิด งดให้บริการเที่ยวชมสวนสัตว์ชั่วคราวตั้งแต่วันที่ 23 กรกฎาคม 2564 หรือจนกว่าจะมีคำสั่งการเปลี่ยนแปลง ตามคำสั่งคณะกรรมการควบคุมโรคจังหวัดชลบุรี

และด้วยเหตุนี้จึงทำให้ทางสวนสัตว์ต้องมีการปรับตัว ให้เข้ากับสถานการณ์  เพื่อให้นักท่องเที่ยวและผู้ที่ชื่นชอบธรรมชาติมาเที่ยวสวนสัตว์ไม่ได้ สวนสัตว์เปิดเขาเขียว จึงดึงไอเดียยกสวนสัตว์มาเสิร์ฟถึงหน้าจอมือถือกลับมาอีกครั้ง ซึ่งได้เคยเผยแพร่ไปในช่วงโควิดระลอกแรก ผ่านทาง Facebook live กลับมาถ่ายทอดให้ผู้ชมทางบ้าน ในชื่อรายการ Zoo To Home Comeback

สำหรับ Zoo to home Comeback เป็นรายการสด ที่จะพาผู้ชมไปดูความน่ารักของสัตว์แต่ละชนิดในสวนสัตว์เปิดเขาเขียวอย่างใกล้ชิด อาทิ ยีราฟ ม้าลาย เพนกวิน และครอบครัวฮิปโปโปเตมัส ราวกับเราได้ไปยืนดูด้วยตัวเอง พร้อมทั้งได้สาระความรู้ จากเจ้าหน้าที่อีกด้วย บอกได้เลยว่าดูไปยิ้มไป ช่วยให้คลายเหงาในช่วงที่ต้องกักตัวอยู่บ้านได้ไม่น้อยเลยทีเดียว ด้วยความน่ารักของเจ้าสัตว์โลกทำให้ความสุขถูกส่งผ่านหน้าจอมือถือได้อย่างง่ายดาย ทุกวันพุธ เวลา 11.00-11.30 น. ทาง Facebook สวนสัตว์เปิดเขาเขียว


ภาพ/ข่าว  นิราช / นันทพล ทิพย์ศรี ก012 ชลบุรี

ชลบุรี - เกาะล้านพัทยา ฉีดวัคซีน 70% แล้ว พร้อมเป็นพื้นที่ตัวอย่าง ป้องกันไวรัสมรณะ

เกาะล้านรุกคืบ พื้นที่แห่งความปลอดภัย นายกเมืองพัทยาเผย คนเกาะล้านได้รับวัคซีนแล้ว 70% สร้างระบบภูมิคุ้มกันหมู่ตามแนวทางสาธารณสุข พร้อมเป็นพื้นที่ตัวอย่างการป้องกันไวรัสมรณะ

ตามที่เมืองพัทยา ประสานงานการให้บริการวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 โดยได้รับการจัดสรรวัคซีน มาจากส่วนกลางเพื่อฉีดต่อให้กับประชาชน ในพื้นที่เขตเมืองพัทยาอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นการสานแนวทางสร้างระบบภูมิคุ้มกันหมู่ในพื้นที่ โดยประชาชนต้องได้รับวัคซีนร้อยละ 70 ที่ผ่านมาวัคซีนทยอยจัดสรรมายังเมืองพัทยา อย่างต่อเนื่องนั้น

นายสนธยา คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา เปิดเผยว่า ในส่วนของพื้นที่ชุมชนเกาะล้านนั้น เมืองพัทยาและการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยได้กำหนดให้เป็นพื้นที่ตัวอย่างในการนำร่องเป็นพื้นที่ป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งในขณะนี้เราสามารถกระจายวัคซีนให้กับชาวชุมชนเกาะล้านได้มากกว่า 70% แล้ว

ทั้งนี้ เมืองพัทยาได้ดำเนินโครงการ Pattaya Moves on นำร่องให้พื้นที่เกาะล้าน ซึ่งเป็นพื้นที่เกาะ เหมือนเกาะภูเก็ต เกาะสมุย และเกาะเต่า ที่มีแผนจะนำร่องให้ประชาชน ได้รับวัคซีนจนสามารถสร้างภูมิค้มกันหมู่ได้ ซึ่งขณะนี้ทั้งชาวบ้านและประธานชุมชน ประชาชนบนเกาะล้าน ได้เข้ารับฉีดวัคซีนจำนวนมากแล้ว และเป็นพื้นที่ที่มีระบบภูมิคุ้มกันหมู่แล้ว ด้วยเช่นกัน


ภาพ/ข่าว  นิราช / นันทพล ทิพย์ศรี ก012 ชลบุรี

กาฬสินธุ์ – หวั่นโควิด ทำบุญวันพระใหญ่บางตา สวดรัตนสูตรคุ้มภัยป้องกันโควิด-19

พุทธศาสนิกชนในเขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ หวั่นโควิด-19 ระบาดหนักในช่วงวิกฤต เข้าวัดทำบุญบางตา แต่ยังร่วมกันสืบสานประเพณีทำบุญตักบาตร เนื่องในวันอาสาฬหบูชา สวดภาวนาพุทธมนต์รัตนสูตร เพื่อเสริมสร้างกำลังใจคุ้มภัย ป้องกันในสถานการณ์โรคติดเชื้อโรคโควิดระบาดหนัก

เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2564 ที่ศาลาพระพุทธสุจิตตสุวรรณรังษี วัดประชานิยม เทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ จ.กาฬสินธุ์ พระเทพสารเมธี เจ้าอาวาสวัดประชานิยม เจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์ (ธ) พร้อมด้วยทายกทายิกาวัดประชานิยมนำพุทธศาสนิกชนทำบุญตักบาตร สวดมนต์ฟังธรรมเนื่องในวันอาสาฬหบูชา ขึ้น 8 ค่ำ เดือน 8 ในปีนี้ ทั้งนี้สืบเนื่องจากการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้พุทธศาสนิกชนเข้าวัดทำบุญในวันอาสาฬหบูชาบางตากว่าภาวะปกติมาก 

อย่างไรก็ตาม ยังมีชาวพุทธที่ไม่หวั่นไหวที่กับโรคติดเชื้อโควิด-19 ที่ต้องการจรรโลงพระพุทธศาสนา และยึดมั่นในพระรัตนตรัย เชื่อในเส้นทางการความดี  ร่วมกันจัดกิจกรรมเพื่อสืบสานประเพณีอันดีงามของบรรพบุรุษต่อยอดทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ก่อนที่จะเข้าบริเวณด้านในศาลาหน้าประตูทางเข้า ยังได้ติดตั้งเครื่องวัดอุณหภูมิ เจลแอลกอฮอล์ เพื่อป้องกันไวรัสโรคติดเชื้อโควิด-19 เว้นระยะห่างทางสังคม ใส่หน้ากากอนามัย พร้อมกับทำตามมาตรการการประกาศของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด

พระเทพสารเมธี เจ้าอาวาสวัดประชานิยม เจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์ (ธ) กล่าวว่าวันอาสาฬหบูชา ตรงกับวันขึ้น 8 ค่ำ เดือน 8 เป็นวันที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงพระปฐมธรรมเทศนา หรือการประกาศพระศาสนาในวันแรกหลังจากทรงตรัสรู้ พระธรรมเทศนานี้เรียกว่าธัมมจักกัปปวัตตนสูตร หมายถึงพระสูตรที่กล่าวถึงการหมุนกงล้อแห่งธรรม พูดถึงการเวียนว่ายตายเกิด การดับทุกข์ การทำให้พ้นจากทุกข์ การประกอบความดีตามหลัก มรรค 8 ทาง แสดงหลักของการไม่ยึดมั่น แต่ให้ดำเนินในมัชฌิมาปฏิปทาหรือเส้นทางสายกลาง ไม่ตึงเกินไป ไม่หย่อนเกินไป ทรงแสดงให้กับเหล่าปัญจวัคคีย์ทั้ง 5 ที่ป่าอิสิปตนมฤคทายาวัน เมืองพาราณสี ในชมพูทวีปหรือประเทศอินเดียในปัจจุบัน  ทำให้พระโกณฑัญญะ ได้ดวงตาเห็นธรรม เข้าใจในหลักคำสอน ขอบวชในพระศาสนา ทำให้พระรัตนตรัยสมบูรณ์ มีพระพุทธเจ้าทรงประกาศพระศาสนา พระธรรมทำสอนนำไปปฏิบัติ และพระสงฆ์นำพระธรรมไปปฏิบัติ และประกาศคำสอนตามหลักพระพุทธศาสนา

ทั้งนี้ หลังจากทำบุญตักบาตร ฟังพระธรรมเทศนาแล้ว คณะสงฆ์และพุทธศาสนิกชน ยังได้ร่วมกันสวดภาวนาพุทธมนต์รตนสูตร เพื่อเสริมสร้างกำลังใจคุ้มภัย ป้องกันในสถานการณ์โรคติดเชื้อโควิดที่กำลังระบาดอีกด้วย อย่างไรก็ตาม สำหรับสถานการณ์ผู้ป่วยด้วยโรคติดเชื้อโควิด-19 ที่ จ.กาฬสินธุ์ ล่าสุดวันนี้ พบผู้ติดเชื้อ 200 ราย ทำให้มียอดผู้ป่วยยืนยัน 1,779 ราย กำลังรักษา 1,240 ราย หายป่วยแล้ว 533 ราย และมียอดผู้เสียชีวิตสะสม 6 ราย


ภาพ/ข่าว  ณัฐพงษ์ ประชากูล จ.กาฬสินธุ์

มุกดาหาร - เหล่ากาชาดจังหวัดมุกดาหาร ต้มน้ำสมุนไพรให้ผู้ป่วยโควิด-19 กลุ่มไม่มีอาการ

วันที่ 23 ก.ค.64 เวลา 14.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายวีระชัย นาคมาศ ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร นายกเหล่ากาชาดจังหวัดมุกดาหาร พร้อมด้วยกรรมการและสมาชิกเหล่ากาชาดจังหวัดมุกดาหาร ได้ช่วยกันต้มน้ำสมุนไพรให้ผู้ป่วยโควิด-19 กลุ่มสีเขียว (ไม่มีอาการ) ที่เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลสนาม ”ศูนย์ฮักแพงชาวมุกดาหาร” ได้ดื่ม เนื่องจากผู้ป่วยที่รักษาที่โรงพยาบาลสนามเป็นผู้ป่วยกลุ่มสีเขียวที่มีอาการเล็กน้อย เช่น มีไข้ ไอ น้ำมูก เจ็บคอ การใช้สมุนไพรจะสามารถช่วยบรรเทาอาการเหล่านี้ได้

นายวีระชัย นาคมาศ ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร กล่าวว่า ที่ผ่านมาผู้ป่วยโควิด-19 ที่โรงพยาบาลสนาม ”ศูนย์ฮักแพงชาวมุกดาหาร” ที่ดื่มน้ำต้มสมุนไพรนี้ช่วยบรรเทาอาการเจ็บคอและไอน้อยลง หายใจได้โล่งขึ้น หายป่วยกลับบ้านแล้ว 94 คน เกี่ยวกับการรักษา คงต้องช่วยกันทุกทาง นอกจากนี้จะขยายผลไปสอนการทำน้ำต้มสมุนไพรในให้กับทั้ง 7 อำเภอ เพื่อส่งให้ผู้ป่วยโควิด-19 ที่โรงพยาบาลสนามแต่ละอำเภอ

นางสาวหทัยรัตน์ ฟองชล รองนายกเหล่ากาชาดจังหวัดมุกดาหาร กล่าวว่า สูตรน้ำต้มสมุนไพรนี้ ประกอบด้วย น้ำ 40 ลิตร ขิงแก่ง 2 กิโล กระชาย 1 กิโลกรัม หอมแดง 1 กิโลกรัม กระเทียม 1 กิโลกรัม เกลือไอโอดีน 1 ช้อนโต๊ะ น้ำผึ้ง 200 ซีซี ซึ่งน้ำผึ้งจะตัดรสเผ็ด และน้ำตาลอ้อย  ขั้นตอนล้างวัตถุดิบให้สะอาดทุบพอหยาบ ๆ ใช้หม้อต้มเบอร์ 50 ต้มน้ำให้เดือด นำส่วนผสมทั้งหมดลงไปต้มอีก 30-40 นาที เป็นอันเสร็จเรียบร้อย ส่งให้ผู้ป่วยโควิด-19 ที่โรงพยาบาลสนาม ”ศูนย์ฮักแพงชาวมุกดาหาร”

ส่วนสถานการณ์โควิด-19 ในจังหวัดมุกดาหาร ประจำวันที่ 23 ก.ค. 2564 พบผู้ป่วยรายใหม่ 35 คน แยกเป็นติดเชื้อนอกจังหวัด 34 คน และติดเชื้อในจังหวัด 1 คน ยอดผู้ป่วยสะสมระลอกใหม่ 464 คน รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 208 คน รักษาอยู่ในโรงพยาบาลสนาม 100 คน ผู้ป่วยรักษาหายแล้ว 154 คน และเสียชีวิตสะสม 2 คน คงเหลือกำลังรักษา 308 คน


ภาพ/ข่าว  พวงเพชร / เดวิท โชคชัย ชุด ฉก.พญาอินทรีย์มุกดาหาร

สุโขทัย - นายกมนู ห่วงคนสุโขทัยไม่วางใจสถานการณ์ รุดสั่งจองวัคซีนโมเดอร์นา จากสภากาชาดไทย

อบจ.สุโขทัย โดยนายมนู พุกประเสริฐ นายก อบจ.สุโขทัย สั่งจองวัคซีนป้องกันโรคโควิด - 19 (โมเดอร์นา) จากสภากาชาดไทย เพื่อนำมาฉีดให้กับประชาชนกลุ่มเปราะบางและกลุ่มต่าง ๆ ในพื้นที่ จ.สุโขทัย ไม่คิดค่าใช้จ่าย โดยได้จัดทำแผนดำเนินการฉีดวัคซีน ตามที่สภากาชาดไทยกำหนด ในกลุ่มประชาชนเป้าหมาย 5 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มคนพิการ ผู้ป่วยติดเตียง สตรีมีครรภ์ ที่ยังไม่เคยได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 มาก่อน ผู้สูงอายุ 70 ปีขึ้นไป ที่ยังไม่เคยได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด - 19 มาก่อน  บุคลากรทางการแพทย์และพยาบาล ในถิ่นทุรกันดาร ผู้ที่ทำงานประจำอยู่ในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ครูผู้สอนในโรงเรียนอนุบาล หรือครู อาจารย์ ผู้ที่ทำหน้าที่สอนหนังสือในโรงเรียน ที่ยังไม่เคยได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด - 19 มาก่อน บุคลากรที่ต้องออกปฏิบัติงานสัมผัสประชาชน ตามโครงการฉีดวัคซีนของ อบจ. ที่ยังไม่เคยได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด - 19 มาก่อน และบุคคลที่ยังไม่สามารถรับการฉีดวัคซีนได้ เนื่องจากติดขัดระเบียบหรือกฎหมาย และเสนอต่อสภากาชาดไทย เพื่อให้ชาวสุโขทัยได้รับวัคซีนอย่างทั่วถึง ในการสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ และสร้างความเชื่อมั่น ในการป้องกันโรคโควิด – 19 ในพื้นที่ และลดติดเชื้อของประเทศ

นอกจากนี้นายมนู พุกประเสริฐ นายก อบจ.สุโขทัย ได้ชี้แจงข้อสงสัยเรื่องวัคซีนที่หลายคนต้องการทราบ ของการสั่งจองวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของอบจ.สุโขทัย โดยได้สั่งจองวัคซีนซิโนฟาร์มจากราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ที่เปิดให้สั่งจองในลำดับแรกจำนวน 100,000 โดส โดยใช้งบประมาณทั้งสิ้น 88,800,000 บาท บวกค่าทำการฉีดพร้อมอุปกรณ์ที่ทางสาธารณสุข จ.สุโขทัยแจ้งมา เข็มละ 90 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 97,800,000 บาท

ต่อมาทางสภากาชาดไทยเปิดให้จองวัคซีนโมเดอร์นา ทางอบจ.สุโขทัย เห็นว่าใช้งบประมาณจองซิโนฟาร์มไปค่อนข้างเยอะแล้ว จึงจองโมเดอร์นาไปอีก 10,000 โดส ใช้งบ 11,000,000 บาท รวมวัคซีนทั้งสองชนิดจำนวน 110,000 โดส ซึ่งจะสามารถดูแลทั่วถึงทุกกลุ่ม ส่วนกลุ่มเป้าหมายที่จะได้รับการฉีดต้น ๆ ทั้ง 2 สถาบันเป็นผู้กำหนดมาทั้งสิ้น อบจ. มิได้เป็นผู้กำหนด

อบจ.สุโขทัย ขอยืนยันว่า ได้จัดเตรียมงบประมาณไว้พร้อมแล้ว หากทั้งสองสถาบันจัดสรรวัคซีนมาให้ครับ ทั้งนี้วัคซีนจะมาได้เมื่อไหร่ขึ้นอยู่กับทาง 2 สถาบันจะหาวัคซีนได้ แต่ก็คอยติดตาม แต่ด้วยสถานการณ์เช่นนี้ก็ได้ติดต่อ ติดตาม สอบถามไปอย่างต่อเนื่องทั้ง 2 สถาบัน และจะรีบแจ้งถึงประชาชนในพื้นที่ทันทีที่ได้รับความชัดเจนจากทั้ง 2 สถาบัน ที่เราได้ขอสั่งจองไว้


ภาพ/ข่าว  สุริยา ด้วงมา จ.สุโขทัย

ชลบุรี - กองเรือยุทธการ มอบรายได้ส่วนหนึ่งจากการจำหน่ายวัตถุมงคล เหรียญกรมหลวงชุมพรฯ รุ่นเรือของพ่อ “เรือ ต.91” ให้กองทัพเรือ เพื่อนำไปใช้ในงานสาธารณกุศล ร่วมฝ่าวิกฤตโควิด-19

วันที่ 23 ก.ค. 64 พล.ร.อ.ชาติชาย ศรีวรขาน ผู้บัญชาการทหารเรือ รับมอบรายได้ส่วนหนึ่งจากการจำหน่ายวัตถุมงคล เหรียญกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ รุ่นเรือของพ่อ “เรือ ต.91” จาก พล.ร.อ.สุทธินันท์ สมานรักษ์ ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ เพื่อนำไปใช้ในงานสาธารณกุศล ในการป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 ของกองทัพเรือ ณ ห้องรับรอง ชั้น 2 กองบัญชาการกองทัพเรือ พระราชวังเดิม เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร

กองเรือยุทธการจัดสร้างวัตถุมงคล เหรียญกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ รุ่นเรือของพ่อ “เรือ ต.91” ขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ

             - จัดตั้งกองทุนในการบำรุงรักษาอุทยานประวัติศาสตร์เรือของพ่อ “เรือ ต.91”

             - ใช้ในกิจกรรมสาธารณกุศลของกองทัพเรือ

             - เป็นสวัสดิการในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของกำลังพลกองเรือยุทธการ

จากวัตถุประสงค์ของการจัดสร้างวัตวัตถุมงคลฯ ส่วนหนึ่งได้สอดรับกับเจตนารมณ์ของผู้บัญชาการทหารเรือที่มอบหมายให้หน่วยต่าง ๆ ของกองทัพเรือดำเนินการร่วมแก้ปัญหาการแพร่ระบาดโควิด-19 เพื่อประชาชน และกำลังพลของกองทัพเรือ ที่อยู่ในสถานการณ์วิกฤตอย่างเร่งด่วนอีกด้วย

โดยกองเรือยุทธการดำเนินการจัดพิธีมังคลาภิเษก 5 วาระ 4 ทิศ ทั่วประเทศไทย ซึ่งได้จัดให้มีพิธีมังคลาภิเษกใหญ่ วาระที่ 5 เมื่อวันอาทิตย์ที่ 18 ก.ค. 64 ณ อุทยานประวัติศาสตร์เรือของพ่อ “เรือ ต.91” อ่าวดงตาล อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ทั้งนี้ได้รับความเมตตาจากพระเกจิเถราจารย์ ที่ประชาชนเคารพศรัทธาร่วมประกอบพิธีอย่างเรียบง่าย แต่เข้มขลัง ภายใต้มาตรการป้องกันโควิด-19 ที่ ศบค. และ สสจ.ชลบุรี กำหนดอย่างเคร่งครัด

เหรียญชนิดต่าง ๆ ได้รับความสนใจจากผู้มีจิตศรัทธาเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้ยังสามารถร่วมบูชาวัตถุมงคลฯ ได้ที่เบอร์โทรศัพท์ น.ต.ศิรภพ ภักดี 0969359163 หรือ น.ต.สายชล ผลาสิงห์ 0882141393


ภาพ/ข่าว  สมนึก เชื้อสนุก

ยะลา – ประชาชนแน่น รพ.เบตง รอคิวฉีดวัคซีนโควิด บ่นพรึบ !! คิวจองยังไม่ได้ฉีด ดันเปิด walk in แบบนี้ไม่ต้องเว้นระยะห่าง

ประชาชนในอำเภอเบตง จังหวัดยะลา แน่นโรงพยาบาลเบตง แห่เข้าคิวรอรับการฉีดวัคซีนโควิดเข็มแรกและเข็มสองกลุ่มผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป หญิงตั้งครรภ์ 12 สัปดาห์ขึ้นไป และผู้มีน้ำหนักตัว 100 กก.ขึ้นไป จำนวน 1,060 โดส โดยมี ประชาชนมารอรับการฉีดจำนวนมาก ขณะที่ประชาชนบางส่วน บ่นกันว่า คิวจองรอฉีดวัคซีนยังไม่ได้ฉีดดันเปิด walk in ทำให้ ประชาชนเดินทางมาเป็นจำนวนมากซึ่งเสี่ยงต่อการติดเชื้อ

วันนี้ (22 ก.ค. 2564) ที่โรงพยาบาลเบตง อ.เบตง จ.ยะลา ประชาชนในพื้นที่อำเภอเบตง จังหวัดยะลา ต่างเดินทางมาเพื่อเข้าฉีดวัคซีนโควิด-19 ในช่วงเช้าจำนวนมาก มีการต่อแถวยาวตลอดทางเข้าจนถึงหน้าสหกรณ์โรงพยาบาลฯ ซึ่งวันนี้เป็นวันแรกที่เปิดให้ประชาชน สามารถวอล์คอิน เข้ามาฉีดวัคซีนได้ที่โรงพยาบาลเบตงได้ เพื่อให้บริการฉีดวัคซีน โควิด-19 แก่ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป หญิงตั้งครรภ์ 12 สัปดาห์ขึ้นไป และผู้มีน้ำหนักตัว 100 กก.ขึ้นไป และที่มีนัด เนื่องจากปัจจุบันปัญหาผู้ติดเชื้อโควิค-19 ที่เพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก หากกลุ่มดังกล่าวได้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 จะสามารถลดการติดเชื้อ ลดป่วยรุนแรง และลดการเสียชีวิต จึงเปิดให้บริการฉีดวัคซีนโควิด-19 (เข็มที่ 1) ให้แก่ผู้สูงอายุที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป ผู้ที่ตั้งครรภ์มีอายุครรภ์ตั้งแต่ 12 สัปดาห์ขึ้นไป โดยจะต้องแสดงเอกสารการตั้งครรภ์ที่ได้รับการรับรองจากแพทย์ และผู้ที่มีน้ำหนัก 100 กิโลกรัมขึ้นไป

ขณะที่ในวันนี้ ประชาชนส่วนใหญ่เดินทางมาตามนัดแต่ต้องต่อรอคิวนานเนื่องจากทาง รพ.เบตง ได้เปิดรับบริการฉีดวัคซีนโควิด ทุกกลุ่มที่ walk in ทั้งที่มีนัดและไม่ได้นัด โดยเริ่มตั้งแต่ เวลา 08.30-16.00 น. ขณะที่ประชาชนในพื้นที่อำเภอเบตงส่วนใหญ่ได้เริ่มฉีดไปแล้วเข็มที่ 1 คือ วัคซีนซิโนแวค และเข็มที่ 2 คือ วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า และในวันนี้ประชาชนที่ลงทะเบียนฉีดวัคซีน รวม 1,060 โดส

อย่างไรก็ตาม จากการเปิด walk in ทำให้ประชาชนบางส่วนไม่พอใจต่างบอกว่า ”ทำไมไม่แบ่งเป็นวันครับ คนลงทะเบียนยังฉีดไม่ครบเลย เปิด walk in แล้วแบบนี้จะลงทะเบียนเพื่ออะไร ผมว่าทาง รพ.ต้องจัดแบ่งวันเวลาใหม่แล้ว ไม่ใช่เรียกมาพร้อมกันหมด ถ้าในนั้นมีคนติดสักคน จะเป็นยังไง คนเยอะขนาดนี้จะมาบอกให้เค้าเว้นระยะ ก็คงทำยาก”

ขณะที่ประชาชนที่ได้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 แล้ว ยังคงต้องปฏิบัติตนเพื่อป้องกันการติดเชื้อ อย่างเคร่งครัด โดยการรักษาระยะห่างทางสังคม ล้างมือบ่อย ๆ และสวมหน้ากากอนามัย เพื่อป้องกันการติดเชื้อโควิด-19


ภาพ/ข่าว  ธานินทร์  โพธิทัพพะ / ปื๊ด เบตง

กาฬสินธุ์ - อบจ.กาฬสินธุ์ทุ่ม 20 ล้าน ซื้อวัคซีน ‘โมเดอร์นา’ ฉีด ช่วยประชาชน 5 กลุ่ม เปราะบาง

อบจ.กาฬสินธุ์จัดเต็มทุ่ม 20 ล้านบาท จัดซื้อวัคซีน “โมเดอร์นา” จากสภากาชาดไทย ฉีดสร้างภูมิคุ้มกันให้กับประชาชน 5 กลุ่มเป้าหมายฟรี พร้อมเตรียมงบอีก 10 ล้านบาทสนับสนุนโรงพยาบาลสนามและสถานที่กักกันตัว

เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2564 ที่ประชุมชั้น 5 องค์การบริหารส่วน จ.กาฬสินธุ์ นายชานุวัฒน์ วรามิตร นายกอบจ.กาฬสินธุ์ นายวรากรณ์ ภูอาภรณ์ ประธานสภาอบจ.กาฬสินธุ์ นายนพกุล ปัญญาแก้ว รองปลัด อบจ.กาฬสินธุ์ นายมานพ เวฬุวณารักษ์ รองปลัด อบจ.กาฬสินธุ์ พร้อมคณะผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่ ร่วมกันแถลงแผนการจัดซื้อวัคซีน “โมเดอร์นา” จากสภากาชาดไทย เพื่อกระจายไปยังโรงพยาบาลหลักและโรงพยาบาลของรัฐทั้ง 18 อำเภอ ดำเนินการฉีดให้กับประชาชนกลุ่มเปราะบางและกลุ่มต่าง ๆ 5 กลุ่มเป้าหมายฟรี  เป็นการสร้างภูมิคุ้มกัน และให้ประชาชนมีความปลอดภัยในชีวิต พร้อมแถลงการจัดเตรียมงบอีก 10 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนโรงพยาบาลสนาม สถานที่กักกันตัว และศูนย์พักคอยต่าง ๆในช่วงสถานการณ์โรคโควิด-19 แพร่ระบาด และพบผู้ป่วยจำนวนมาก หลังก่อนหน้านี้ได้สนับสนุนงบประมาณจำนวน 4 ล้านบาทในการสร้างโรงพยาบาลสนามไปแล้ว 2 แห่ง

นายชานุวัฒน์ วรามิตร นายกอบจ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ ล่าสุดได้แพร่ระบาดในวงกว้าง ส่งผลกระทบต่อชีวิตของประชาชนทั้งจังหวัด ประกอบกับปัจจุบันจำนวนวัคซีนที่ได้รับจัดสรร ยังมีไม่เพียงพอต่อความต้องการของประชาชน ซึ่งทาง อบจ.กาฬสินธุ์ มีความห่วงใยในชีวิตของพี่น้องประชาชน ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกัน ลดการแพร่ระบาด และลดความรุนแรงของโรค จึงได้อนุมัติงบประมาณจำนวน 20 ล้านบาท จัดซื้อวัคซีน โมเดอร์น่า (Moderna) จากสภากาชาดไทย โดยผ่านความเห็นชอบของสภา เพื่อกระจายฉีดวัคซีนไปยังโรงพยาบาลหลักและโรงพยาบาลของรัฐทั้ง 18 อำเภอ ฉีดให้กับประชาชนกลุ่มเปราะบางและกลุ่มต่าง ๆจำนวน 5 กลุ่มเป้าหมายในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ ฟรี   ซึ่งเป็นการสร้างภูมิคุ้มกัน และสร้างความปลอดภัยในชีวิต ให้กับประชาชนชาวกาฬสินธุ์

โดย 5 กลุ่มเป้าหมายที่จะได้รับการฉีดประกอบด้วยกลุ่มที่ 1 คนพิการ ผู้ป่วยติดเตียง สตรีมีครรภ์ ที่ยังไม่เคยได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 มาก่อน, กลุ่มที่ 2 ผู้สูงอายุ 70 ปีขึ้นไปที่ยังไม่เคยได้รับวัคซีนป้องกันโรค โควิด-19  มาก่อน, กลุ่มที่ 3 บุคลากรทางการแพทย์และพยาบาล ในถิ่นทุรกันดาร, กลุ่มที่ 4 ผู้ที่ทำงานประจำอยู่ในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ครูผู้สอนในโรงเรียนอนุบาล หรือครูอาจารย์ผู้ทำหน้าที่สอนหนังสือในโรงเรียน ที่ยังไม่เคยได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 มาก่อน และกลุ่มที่ 5 บุคลากรที่ออกปฏิบัติงานสัมผัสประชาชน ตามโครงการฉีดวัคซีนขององค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ที่ยังไม่เคยได้รับวัคซีนป้องกันโรค โควิด -19 มาก่อน ซึ่งบุคคลที่มีคุณสมบัติเข้าตามเกณฑ์ใน 5 กลุ่มดังกล่าว ที่มีความประสงค์จะรับการฉีดวัคซีนจากอบจ.กาฬสินธุ์ สามารถลงทะเบียนยืนยันตัวตนผ่านแอป “วัคซีน อบจ.กาฬสินธุ์” สำหรับรายละเอียดและขั้นตอนการลงทะเบียน จะได้ประชาสัมพันธ์ให้ได้รับทราบอีกครั้งหนึ่ง และสำหรับการสั่งจองผ่านสภากาชาดไทยจะได้รับวัคซีนมาในช่วงเดือนตุลาคม 2564 นี้

นายชานุวัฒน์ กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมา อบจ.กาฬสินธุ์ได้สนับสนุนงบประมาณจำนวน 4 ล้านบาท ในการสร้างโรงพยาบาลสนามแห่งที่ 1 โรงพยาบาลฆ้องชัย และโรงพยาบาลสนามแห่งที่ 2 ด้านหลังศูนย์ราชการจังหวัด และขณะนี้ได้จัดเตรียมงบประมาณไว้อีกจำนวน 10 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนโรงพยาบาลสนาม สถานที่กักกันตัว และศูนย์พักคอยจุดต่างๆในช่วงสถานการณ์โรคโควิด-19 แพร่ระบาดและพบผู้ป่วยจำนวนมากอีกด้วย


ภาพ/ข่าว  ณัฐพงษ์ ประชากูล จ.กาฬสินธุ์

ชัยภูมิ – ผู้ว่าฯ และคุณหมอ ห่วงใยสุขภาพ ชวนงดเหล้าเข้าพรรษาหลีกเลี่ยงสังสรรค์เป็นกลุ่ม ช่วยห่างไกลการติดเชื้อ ลดค่าใช้จ่าย ได้สุขภาพที่ดี และยังช่วยตัดวงจรโควิด-19 เน้นมาตรการงดการรวมกลุ่มเฮฮา

จากสถานการณ์การแพร่ระบาดและพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่ จังหวัดชัยภูมิ ทั้งหมด 16 อำเภอ ตัวเลข ยอด ที่ป่วยสะสมระลอกเดือนเมษายน วันที่ 22 กรกฎาคมนี้ 1,800 กว่าราย โดยแบ่งเป็น ป่วยที่ทางจังหวัดได้รับการติดต่อจากผู้ป่วยจังหวัดกลุ่มเสี่ยง กลับรักษาตัวพื้นที่จังหวัดชัยภูมิ ในโครงการส่งรถรับพี่น้องกลับบ้านรักษาตัวกว่า 900 ราย ทั้งยังมียอด ผู้เสียชีวิตแล้ว 21 ราย

ทางคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดชัยภูมิ ได้มีมาตรการเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ชะลอและงดการจัดกิจกรรมทางสังคมที่มีการรวมกลุ่มกันจำนวนมาก เพื่องดการสังสรรค์ และขอความร่วมมืองดการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพื่อความปลอดภัยและป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 มาอย่างต่อเนื่องนั้น 

นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ ในฐานะประธานคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดชัยภูมิ กล่าวว่า ปี 2564 เป็นอีกปีที่คนชัยภูมิและสังคมกำลังเผชิญกับสภาวะวิกฤติและสูญเสียคนที่เรารักจากโรคโควิด-19 จึงอยากใช้โอกาสเทศกาสงดเหล้าเข้าพรรษาปี 2564 นี้ ขอร้องและเชิญชวนพี่น้องชาวจังหวัดชัยภูมิ “งดเหล้า งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ งดอบายมุขในช่วงเทศกาลเข้าพรรษา เพื่อดูแลตัวเองและตัดตอนการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งมีลูกหลานตกงานถูกเลิกจ้างจำนวนมาก การงดเหล้าเข้าพรรษาจะทำให้ประหยัดเงิน ดูแลคนในครอบครัว จึงเน้นมาตรการงดการรวมกลุ่มเพื่อเฮอาสังสรรค์ กำจัดเชื้อโควิด-19”  

ด้าน นายวชิระ บถวิบูลย์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดชัยภูมิ รองประธานคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดชัยภูมิ กล่าวว่าจากสถานการณ์การแพร่ระบาดและพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดชัยภูมิ มีหลาย ๆ คลัสเตอร์ที่เกิดขึ้นโดยมีงานบุญประเพณี งานเลี้ยง สังสรรค์และมีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นต้นเหตุสำคัญในการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งตอนนี้บุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขรับภาระหนักมากกับจำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้น หากจะช่วยลดภาระนี้ อยากให้ชาวชัยภูมิและทุกคน  ใช้โอกาส “เข้าพรรษาปี 2564 นี้ ทำความดีเพื่อตนเอง ครอบครัวและสังคม ด้วยการงดเหล้าเข้าพรรษา ตับเราก็ได้พัก สื่อรักด้วยการพักเล้า คนที่รักของเราก็ปลอดภัยจากโรคโควิด-19” เชื่อว่าทุกคนทำได้และขอเป็นกำลังให้กับคนที่ตั้งใจบวชใจงดเหล้าเข้าพรรษา อีกด้วย

ส่วนภาคการศึกษา นายชัยวัฒน์ ตั้งพงษ์ ผอ.สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาชัยภูมิ (สพม.ชัยภูมิ) กล่าวว่า ด้านการศึกษาก็ได้มีนโยบาย งดเหล้าเข้าพรรษา งดอบายมุขในช่วงเทศกาลเข้าพรรษา โดยมีการประชาสัมพันธ์เชิญชวนผู้บริหาร ครูและบุคลากร เข้าร่วมโครงการด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อโรคไวรัสโคโรนา2019 (โควิด-19) ยิ่งไม่ควรออกนอกบ้านเพื่อไปร่วมกิจกรรมที่ไม่จำเป็น การปฏิบัติหน้าที่ราชการก็มีการลดเวลาและจำนวนผู้มาปฏิบัติงานในสำนักงาน เน้นการทำงานที่บ้าน การเรียนการสอนออนไลน์ตามมาตรการจังหวัดชัยภูมิ แต่กิจกรรมสำคัญเช่น การถวายต้นเทียนและปัจจัยไทยธรรมในช่วงเทศกาลเข้าพรรษาทางหน่วยงานก็ได้ให้ความสำคัญด้านวัฒนธรรมประเพณีอันดีของไทย แต่ก็ใช้มาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม ลดจำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรมลงให้มากที่สุดและปฏิบัติตามมาตการ D-M-H-T-T-A อย่างเคร่งครัด

"น้ำใจคนไทย ทุกภาคส่วนไม่เหือดแห้ง" ผู้ประกอบการด้านน้ำ อีอีซี โรงเรียน มอบน้ำดื่ม 24,000 ขวด ส่งต่อ "สภากาชาดไทย" เพื่อผู้ป่วยโควิด-19

วันศุกร์ที่ 23 กรกฎาคม 2564 ณ สภากาชาดไทย ถนนอังรีดูนังต์ แขวงปทุมวัน เขตปทุมวัน กรุงทพฯ "นางสุนิษฐิดา เพชรด้วง" ผู้ช่วยผู้อำนวยการสำนักงานบรรเทาทุกข์และประชานามัยพิทักษ์ สภากาชาดไทย ให้การต้อนรับ "อาจารย์นงลักษณ์ เดชดำเกิงชัย" คณะผู้อำนวยการ ครู อาจารย์ "โรงเรียนเผยอิง" ซึ่งเป็นหนึ่งในโรงเรียนสมาคมแต้จิ๋ว มอบหมายให้ ตัวแทนกรรมการผู้บริหาร และครูอาจารย์ พร้อมด้วย "นายธนวัฒน์ สันตินรนนท์" กรรมการผู้จัดการ บ.อินดัสเตรียล วอเตอร์ รีซอร์ท แมนเนจเม้นท์ จำกัด (IWRM) "นางสาวบุษบา อำพินธุ์" รองผู้อำนวยการสำนักพัฒนาเขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษ (สกพอ.) คุณวิเชษฐ์ เกตุแก้ว ผู้ประสานงานพื้นที่และชุมชนเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) "นายชีวานนท์ พรรัตน์ธนิกกุล" นายกสมาคมสหพันธ์แรงงานคนพิการไทย "นายโกสินธ์ จินาอ่อน" บรรณาธิการบริหารหนังสือพิมพ์สยามโฟกัสไทม์ / ที่ปรึกษาสมาคมสื่อมวลชนเพื่อสังคม

รวมพลังศรัทธา สร้างสรรค์ความดีตอบแทนคุณแผ่นดิน บริจาคน้ำดื่มจำนวน 24,000 ขวด ให้กับทาง "สภากาชาดไทย" เพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้กับทุกภาคส่วนนำไปช่วยเหลือพี่น้องประชาชนคนไทย คนพิการ คนยากไร้ คนด้อยโอกาส หน่วยงานของรัฐ และแรงงานต่างด้าว ที่มีความจำเป็นต้องการน้ำดื่มบริโภคเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงสถานการณ์ เชื้อไวรัสโควิด-19 ที่กำลังแพร่ระบาดอยู่ในขณะนี้ ซึ่งต้องใช้สรรพกำลังของภาครัฐ ภาคสังคม ภาคเอกชน และภาคประชาชน ที่จะต้องเข้าร่วมเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ฝ่าฟันปัญหาและอุปสรรค ที่เกิดขึ้นกับเราประชาชนคนไทยทั้งชาติ ให้ผ่านพ้นวิกฤติอันยากลำบากนี้ไปพร้อมกัน เพื่อนำความสุข และรอยยิ้มของชาวสยามกลับมาดังเดิม

ในท้ายนี้ "นางสาวสุนิษฐิดา เพชรด้วง" ผู้ช่วยผู้อำนวยการสำนักงานบรรเทาทุกข์และประชานามัยพิทักษ์ สภากาชาดไทย ได้กล่าวขอบคุณแทนพี่น้องประชาชน ที่ทางคณะผู้ประกอบการ ผู้แทนโรงเรียน และทุกท่าน เห็นความสำคัญกับคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชนในเรื่อง "น้ำดื่ม" เพื่อการบริโภค ซึ่งในสถานการณ์ในปัจจุบัน "น้ำดื่ม" ถือเป็นสิ่งสำคัญและหัวใจหลักในการดำรงชีวิตที่จะขาดมิได้ และจะนำ "น้ำดื่ม" ที่รับมอบมานี้ นำไปจัดสรรให้เกิดประโยชน์อย่างสูงสุด ต่อไป


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top