Sunday, 18 May 2025
THE STATES TIMES TEAM

ตราด - กองทัพเรือ จัดกิจกรรม “กปช.จต. หมอเดินเท้า..เข้าหาชุมชน” และให้ความรู้เกี่ยวกับการป้องกันการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เพื่อเป็นการช่วยเหลือและสนับสนุนเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์

กองทัพเรือ โดยกองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด (กปช.จต.) จัดกิจกรรม “กปช.จต. หมอเดินเท้า..เข้าหาชุมชน” โดยจัดกำลังพล จำนวน 6 นาย (ประกอบด้วย จนท. กพร.กปช.จต. จำนวน 3 นาย จนท. ร้อย.รยบ.ฯ จำนวน 2 นาย และ จนท. มว.ปจว.กจต. จำนวน 1 นาย) เข้าเยี่ยมเยียนประชาชน ผู้สูงอายุ และผู้ป่วยติดเตียง ในพื้นที่ ชุมชนที่ 8 อ.เมืองจันทบุรี จังหวัดจันทบุรี รวมจำนวน 5 ครอบครัว

กิจกรรมในครั้งนี้ คุณสายพิน ทองลา ประธานชุมชนที่ 8 และ จนท.อสม. รวม 2 คน ร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ ประกอบด้วย  การมอบหน้ากากอนามัย ข้าวสาร ปลากระป๋อง มาม่า น้ำดื่ม และผลไม้ และให้ความรู้เกี่ยวกับการป้องกันการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (Covid-19) เพื่อเป็นการช่วยเหลือและสนับสนุนเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ของกระทรวงสาธารณสุข ที่ให้การบริการพี่น้องประชาชน ณ สถานพยาบาลต่าง ๆ ที่มีผู้เข้ารับบริการเป็นจำนวนมาก จนอาจทำให้ไม่สามารถดูแลได้ทั่วถึง


ภาพ/ข่าว สนง.โฆษกกองทัพเรือ

นิราช / นันทพล ทิพย์ศรี รายงาน

ลำพูน - ร่วมส่งกำลังใจ "นักรบชุดขาว" จังหวัดลำพูน ชุดที่ 5 เพื่อเดินทางไปร่วมปฏิบัติงานดูแลผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ณ โรงพยาบาลสนามบุษราคัม เมืองทองธานี จังหวัดนนทบุรี

วันนี้(25 ก.ค. 64) ที่โรงพยาบาลลำพูน ตำบลในเมือง อำเภอเมืองลำพูน จังหวัดลำพูน นายวรยุทธ เนาวรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน พร้อมด้วย นายแพทย์ สุผล ตติยนันทพร นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด(สสจ.)ลำพูน , แพทย์หญิงภาวิณี เอี่ยมจันทน์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลลำพูน , นางปนัดดา เนาวรัตน์ ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดลำพูน , หัวหน้าส่วนราชการจังหวัด , คณะผู้บริหารและบุคลากรทางการแพทย์  และเจ้าหน้าที่ฯ ร่วมส่งกำลังใจให้นักรบชุดขาว ชุดที่ 5 จำนวน 3 คน ประกอบด้วย

1. นางสาว จารุวรรณ คงภักดี พยาบาลวิชาชีพปฏิบัติการ

2. นางสาว ธีราภรณ์ สุทธกุล พยาบาลวิชาชีพปฏิบัติการ

3. นางสาว วรณัน ไชยพรหม พยาบาลวิชาชีพ

เพื่อเดินทางไปร่วมปฏิบัติงานดูแลผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ณ โรงพยาบาลสนามบุษราคัม เมืองทองธานี จังหวัดนนทบุรี ระหว่างวันที่ 25 กรกฎาคม 2564 ถึง 8 สิงหาคม 2564

โอกาสนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน พร้อมด้วย ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดลำพูน , นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดฯ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลลำพูน , หัวหน้าส่วนราชการจังหวัด ผู้บริหารบุคลากรทางการแพทย์ ได้มอบกระเป๋าสัมภาระให้แก่คณะบุคลากรการแพทย์ (นักรบชุดขาว ชุดที่ 5) และพยาบาล เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลลำพูน เจ้าหน้าที่สาธารณสุข ร่วมมอบดอกไม้ และของใช้ที่จำเป็น เพื่อเป็นขวัญกำลังใจแก่คณะอีกด้วย


ภาพ/ข่าว  กรรณิการ์  วิจิตรสกลการ ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จังหวัดลำพูน

ปทุมธานี - เผาศพโควิดทั้งวัน ทรุดโทรมหนักเตาเผาวัดชินฯ บิ๊กแจ๊สตั้งกองทุนสร้างเพิ่ม 6 เตา

เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2564 เวลา 13:30 น. ที่วัดชินวรารามวรวิหาร ตำบลบางขะแยง อำเภอเมืองปทุมธานี จังหวัดปทุมธานี พระมงคลวโรปการ (หลวงพ่อชำนาญ) เจ้าอาวาสวัดชินวรารามวรวิหาร , พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายก อบจ.ปทุมธานี ร่วมตั้งกองทุนสร้างเตาเผาศพและน้ำมันสำหรับเผาศพผู้ที่เสียชีวิตจากการติดเชื้อโควิด-19 ด้าน พระมงคลวโรปการ (หลวงพ่อชำนาญ) เจ้าอาวาสวัดชินวรารามวรวิหาร กล่าวว่า วัดชินวรารามวรวิหารมีเตาเผาหลักจำนวน 2 เตา และมีเตาสำรองอีก 1 เตา เนื่องจากปัจจุบันศพที่เสียชีวิตจากเชื้อโควิด-19 มีจำนวนมากขึ้น และก็เผาทุกวันเตาสำรองก็มีสภาพที่ชำรุดมาก เตาหลักก็เริ่มชำรุดแล้ว เพราะว่ามีศพให้เผาทุกวันวันละไม่ต่ำกว่า 6 ศพ มากที่สุดคือวันละ 9 ศพ อาตมาจึงได้ปรึกษา พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี เรื่องการเพิ่มเตาเผาศพจำนวน 4 เตา งบประมาณเตาละ 500,000 บาท

เมื่อคุยกันแล้วท่านนายก อบจ.ปทุมธานี เห็นว่าควรเพิ่มอีก 2 เตา เป็น 6 เตา เพื่อรองรับการเผาศพสำหรับผู้ที่เสียชีวิตด้วยเชื้อโควิด-19 โดยเผาให้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ มาตอนไหนเผาตอนนั้น ในส่วนของเตาที่สร้างขึ้นมาให้นั้นเป็นห้องเผาศพและเผามลภาวะ เป็นเตาเผาไร้ควัน ความสามารถของแต่ละเตาจะสามารถเผาศพได้จำนวน 4 ศพต่อ 1 วัน เพื่อช่วยเหลือญาติโยมที่มีญาติติดเชื้อโควิด-19 แล้วเสียชีวิต ส่วน นางสาวฐิต์ณัฐ สมบัติศิริ หัวหน้าสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดปทุมธานี กล่าวว่า ทางสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดปทุมธานีได้สนับสนุนชุด PPE และอุปกรณ์เกี่ยวกับการป้องกันความปลอดภัยของพระที่ทำหน้าที่เป็นสัปเหร่อ โดยวันนี้ได้ถวายน้ำมันดีเซล จำนวน 20 ถัง ถังละ 200 ลิตร เนื่องจากพระมงคลวโรปการ (หลวงพ่อชำนาญ) เจ้าอาวาสวัดชินวรารามวรวิหาร มีความต้องการสำรองปริมาณน้ำมันให้เพียงพอ ไว้สำหรับเตรียมเผาศพผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่มีปริมาณมากขึ้น เนื่องจากทุกวันนี้จะมีศพมาให้เผาอย่างน้อย 6 ศพต่อวัน โดยน้ำมันปริมาณถังละ 200 ลิตรจะเผาได้เพียง 3 ศพ อย่างน้อยในหนึ่งวันทางวัดต้องใช้น้ำมัน 2 ถังเพื่อเผาศพแล้ว ซึ่งทางสำนักงาน วัฒนธรรมจังหวัดปทุมธานีจะประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น พลังงานจังหวัด อุตสาหกรรมจังหวัด เพื่อสนับสนุนช่วยเหลือทางวัด เนื่องจากทุกวันนี้ พระมงคลวโรปการ (หลวงพ่อชำนาญ) เจ้าอาวาสวัดชินวรารามวรวิหาร ต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมดเกี่ยวกับการเผาศพ

ทางด้าน พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายก อบจ.ปทุมธานี กล่าวว่า ผู้ที่อยากร่วมบุญสมทบทุนสร้างเตาเผาศพ สามารถเข้ามาติดต่อที่วัดชินวรารามวรวิหาร นอกจากนี้ทาง อบจ.ปทุมธานีได้ประชาสัมพันธ์เชิญชวนให้ประชาชนร่วมบุญสมทบทุนเงินบริจาคกัน โดยมีเจ้าหน้าที่ อบจ.และพระเลขาฯของ พระมงคลวโรปการ เป็นกรรมการฯ ผมเชื่อว่าจำนวน 4 เตาจะไม่เพียงพอกับสถานการณ์ในปัจจุบันที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 มากขึ้น จึงต้องเพิ่มอีก 2 เตาเป็น 6 เตา ผมเชื่อว่าคนปทุมเราไม่ทิ้งกันอยู่แล้ว นอกจากนี้ยังมีการตั้งกองทุนน้ำมันขึ้นมา เพื่อรองรับการเผาศพในแต่ละวันก็ใช้น้ำมันเยอะ สามารถร่วมสมทบทุนสร้างเตาเผาศพ ธนาคารกรุงเทพ เลขที่บัญชี 9123002777 ชื่อบัญชี พระมงคลวโรปการ


ภาพ/ข่าว  ประภาพรรณ ขาวขำ รายงาน

ตราด - สลด! โลมาอิรวดีขนาดใหญ่ ตายลอยเกยหาดบ้านตาหนึก

ชาวประมงพื้นบ้านออกมาลากปลาที่ชายหาดพบโลมาขนาดใหญ่ ตายเกยหาดสภาพเน่าเปื่อยเกยบริเวณชายหาดบ้านตาหนึกหมู่ 5 ต.คลองใหญ่ อ.คลองใหญ่ จ.ตราด เมื่อเวลา 15.30 น. ของวันที่ 24 กรกฎาคม 2564 เจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างบุญช่วยเหลือธรรมสถานตราดเขตอําเภอคลองใหญ่ได้รับแจ้งจากนายประพันธ์ จรุงศิลป์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 5 บ้านตาหนึก ต.คลองใหญ่ อ.คลองใหญ่ จ.ตราด เข้าตรวจสอบที่ชายหาดบ้านตาหนึก หลังรับแจ้งพบซากโลมาตายถูกคลื่นซัดมาเกยชายหาด เข้าตรวจสอบพบซากโลมาสายพันธุ์อิรวดี หรือโลมาหัวบาตร ตายอยู่ในสภาพเน่าเปื่อย ส่งกลิ่นเหม็นเน่า มีร่องลอยที่ศรีษะมีบาดแผลอยู่ 1 แผล ส่วนลําตัวไม่มีรองลอยบาดแผล คาดว่าตายมาแล้วไม่ตํ่ากว่า 7 วัน เป็นเพศเมีย มีความยาวประมาณ 2.50 เซนติเมตร น้ำหนักประมาณกว่า 100 กิโลกรัม ไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าโลมาอิรวดีตัวนี้ที่ตายเพราะสาเหตุอะไรเนื่องจากอยู่ในสภาพเน่าเปื่อย และไม่มีเครื่องมือการผ่าพิสูจน์ ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างบุญช่วยเหลือธรรมสถานตราดเขตอําเภอคลองใหญ่ได้ร่วมกับชาวบ้านแถวชายหาดช่วยกันลากขึ้นมาจากชายหาดด้วยความยากลําบาก เนื่องจากโลมามีขนาดลำตัวใหญ่มาก จึงต้องใช้เชือกมัดลำตัวของโลมา และใช้ไม้กลม ๆ ยาวประมาณ 1 เมตร วางกับพื้น จากนั้นช่วยกันดึงเชือกให้ตัวของโลมาอยู่บนไม้ เพื่อเป็นการลดแรงดึง ก่อนจะทําการฝังกบที่บริเวณชายหาดต่อไป

ชาวบ้านที่อาศัยอยู่บริเวณดังกล่าวเล่าให้ฟังว่า นับตั้งแต่ต้นปี 2564 เป็นต้นมา พบว่ามีโลมาตายลอยมาเกยชายหาดบ้านตาหนึกจำนวนหลายตัวแล้ว จึงอยากฝากถึงชาวประมงถ้ามีโลมาว่ายเข้าไปติดอวนหาปลาแล้วอย่าไปทำร้าย เพราะปัจจุบันโลมาในอ่าวไทยยังคงมีให้เห็นกันอยู่ประจําในช่วงคลื่นลมดี ๆ จะมีปลาโลมา มาว่ายนํ้าให้เห็นเป็นประจําที่บริเวณสถานที่ต่าง ๆ ในอ่าวไทยปัจจุบันโลมามีจำนวนลดปริมาณลงไปมาก โลมาถือว่าเป็นจุดขายของแหล่งท่องเที่ยวในท้องทะเลตราด จึงอยากให้ช่วยกันดูแลและอนุรักษ์โลมากันต่อไป


ภาพ/ข่าว  วิเชียร ม่วงสี จ.ตราด

พรเทพ เขม้นเขตวิทย์ รายงานจากศูนย์ข่าวภาคตะวันออก

ยโสธร – หมอทวีศิลป์ เยี่ยมศูนย์พักคอยพร้อมให้กำลังใจผู้ปฏิบัติงาน

วันที่ 25 กรกฎาคม 2564 เวลา 11.20 น. นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 10 และโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) พร้อมด้วยคณะผู้บริหารเขตสุขภาพที่ 10 เดินทางมาเพื่อตรวจเยี่ยม ศูนย์พักคอย อ.เมืองยโสธร ซึ่งตั้งอยู่ที่ ค่ายลูกเสือจังหวัดยโสธร (เมืองยศ) บ้านเดิด หมู่ 1 ถนนแจ้งสนิท ตำบลเดิด อำเภอเมือง จังหวัดยโสธร โดยมีนายอภิรัตน์ ป้องกัน นายอำเภอเมืองยโสธร พร้อมด้วยนายวิทยา เพชรรัตน์ สาธารณสุขอำเภอเมืองยโสธร นายเสน่ห์ แสนจันทร์ นายกเทศมนตรีตำบลเดิด อสม. ปลัดอำเภอ เจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลเดิดกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ให้การต้อนรับ

สำหรับศูนย์พักคอย CI ( Community Isolation ) อ.เมืองยโสธร ซึ่งจะใช้รับผู้ป่วยโควิดตามมาตรการดูแลผู้ป่วยโควิดด้วยระบบชุมชน เพื่อรองรับผู้ป่วยที่มีผลตรวจรับรองว่าติดเชื้อโควิด-19 กลับมารักษาตัวยังภูมิลำเนาของอำเภอเมืองยโสธร โดยจะรับผู้ป่วยที่กลับจากพื้นที่สีแดงเข้มที่อยากกลับบ้านและมีภูมิลำเนาในเขตอำเภอเมืองยโสธร มาพักคอยเพื่อรอส่งต่อโรงพยาบาลหลักหรือโรงพยาบาลสนามต่อไป

ภายหลังการตรวจเยี่ยม นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน ได้กล่าวชื่นชมความพร้อมของสถานที่ ขอบคุณความร่วมมือของพลังท้องถิ่นทุกภาคส่วนที่ทุ่มเทจัดเตรียมรับพี่น้องกลับบ้าน ถือเป็นกำลังใจที่สำคัญที่จะช่วยให้เราผ่านวิกฤตินี้ไปได้ จากนั้นได้เดินทางต่อไปยังโรงพยาบาลยโสธรเพื่อบรรยายสรุปการเดินทางมาตรวจเยี่ยมจังหวัดยโสธรในวันนี้

พังงา – ด่วน !! ใช้รถทหารรับผู้ป่วยโควิดจากคลัสเตอร์ใหม่กลุ่มค้าสะตอบ้านบางคลี พบผู้ป่วยแล้วกว่า 40 ราย ยอดรวมจังหวัดทะลุ 500 ราย ผู้ว่าสั่งปิดหมู่บ้านทันที

เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านบางคลี ม.8 ต.นาเตย อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา เจ้าหน้าที่สำนักงานสาธารณสุขอำเภอท้ายเหมือง นำรถขนส่งทางทหารเข้ารับผู้ป่วยยืนยัน 20 รายในพื้นที่ซึ่งเป็นพื้นที่ระบาดคลัสเตอร์ใหม่ของจังหวัดพังงาไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลตะกั่วป่า ซึ่งมีผู้ป่วยบางรายที่เป็นเด็กน้อยที่ต้องขึ้นรถไปกับคุณแม่ และบางครอบครัวต้องขึ้นรถไปรักษาตัวทั้งบ้าน ขณะคนที่ผลตรวจไม่พบเชื้อต้องกักตัวเองที่บ้าน และบางส่วนต้องเข้ากักตัวที่สถานที่กักตัวของอำเภอท้ายเหมือง สำหรับผู้ป่วยในคลัสเตอร์บ้านบางคลีพบผู้ป่วยครั้งแรกในวันที่ 22 กรกฎาคม จำนวน 3 รายและล่าสุดพบผู้ป่วยแล้วรวมกว่ า40 ราย ซึ่งมีผู้ป่วยชุดแรกได้ปกปิดข้อมูลทำให้บุคลากรทางการแพทย์ ในคลินิกเอกชน ในโรงพยาบาลตะกั่วทุ่ง โรงพยาบาลท้ายเหมืองและโรงพยาบาลพังงา ต้องถูกกักตัวเป็นจำนวนมาก ซึ่งล่าสุดผู้ว่าราชการจังหวัดพังงาได้ออกประกาศปิดพื้นที่ ห้ามคนเข้า-ออกป้องกันการแพร่ระบาดแล้ว

นายสมคิด ปาทาน ผู้ใหญ่บ้านบางคลี เปิดเผยว่า ตอนนี้มีแนวโน้มว่าจะมีผู้ติดเชื้อหลายรายแต่ส่วนใหญ่ไม่แสดงอาการ สหหรับการระบาดเกิดขึ้นจากชุมชนพรุวังช้าง เป็นกลุ่มชาวบ้านที่ซื้อสะตอมารวบรวมแกะเมล็ดนำไปขายต่างจังหวัด ซึ่งคาดว่าติดเชื้อมาจากต่างจังหวัดแล้วมาแพร่เชื้อในชุมชน ซึ่งบางรายยังไปร่วมกิจกรรมทางศาสนาในมัสยิด และล่าสุดพบว่าผู้ป่วยในวันนี้บางคนเปิดร้านค้าในหมู่บ้าน บางรายขายอาหารในโรงเรียนและออกเร่ขายอาหารในหลายหมู่บ้าน ซึ่งคาดว่าน่าจะมีกลุ่มเสี่ยงอีกเป็นจำนวนมาก ล่าสุดตนเองได้ใช้เสียงตามสายประชาสัมพันธ์ไม่ให้ชาวบ้านตกใจ ขณะที่จุดที่เกิดการระบาดนั้นจะสามารถควบคุมได้ ตอนนี้ได้ปิดทางให้เข้า-ออกได้ทางเดียวเท่านั้น พร้อมประกาศคนในห้ามออก คนนอกห้ามเข้า

ด้านนายปรารถนา สมบัติปิยะ กำนันตำบลนาเตย กล่าวว่า หลังจากเกิดเหตุการณ์ได้ร่วมกับอำเภอท้ายเหมือง ผู้นำท้องที่ รพ.สต. อสม. ลงพื้นที่คัดกรองกลุ่มเสี่ยงสูงไปตรวจซึ่งพบว่าติดเชื้อ 8 ราย จึงจัดตั้งด่านปิดทางเข้า-ออกหมู่บ้าน และมีบางคนที่ติดเชื้อไปแล้วยังไปเร่ขายของ ร่วมพิธีกรรมทางศาสนา พบปะเพื่อนบ้าน ซึ่งตอนนี้ขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนในพื้นที่ถ้าไม่จำเป็นอย่าออกจากบ้าน เพราะพบผู้ป่วยในพื้นที่แล้วกว่า 40 ราย ขณะที่การปิดหมู่บ้านนั้น ทางตนเองและผู้นำท้องที่และผู้มีจิตกุศลได้นำข้าวสารอาหารที่จำเป็นมาสำรองไว้ที่ด่านตรวจเพื่อเป็นเสบียงให้กับคนในชุมชนประมาณ 50 ครัวเรือน จำนวนกว่า 200 คน

ขณะที่ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019 จังหวัดพังงา (ศบค.พง) รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 ประจำวันที่ 25 กรกฎาคม 2564 เวลา 16.00 น.ว่าพบผู้ป่วยรายใหม่ 29 ราย อำเภอท้ายเหมืองคลัสเตอร์บ้านบางคลี 20 ราย อำเภอตะกั่วทุ่ง 1 ราย รับผู้ป่วยจากกรุงเทพฯ 7 ราย จากอยุธยา 1 ราย รวมผู้ป่วยสะสมระลอกใหม่ 501 ราย


ภาพ/ข่าว  อโนทัย งานดี / พังงา

สุรินทร์ - กองกำลังสุรนารี ร่วมกับมณฑลทหารบกที่ 25 เข้มกำลังพล พร้อมรับ-ส่งผู้ป่วยโควิด ที่ต้องการเดินทางกลับมารักษาตัวที่บ้านเกิด เพื่อเป็นการช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องชาวสุรินทร์ ตามนโยบายกองทัพบก

วันที่ 25 กรกฏาคม 2564 ที่ศูนย์ปฏิบัติติการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด และค่ายฝึกมวลชนสัมพันธ์ กองกำลังสุรนารี กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 2 ส่วนแยก 2 พลตรีอดุลย์ บุญธรรมเจริญ ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี จัดเจ้าหน้าแพทย์พยาบาล ร่วมให้ความรู้การป้องกันการติดเชื้อกำลังพลจากกองพันเสนารักษ์ ที่ 6 ,หน่วยเฉพาะกิจที่ 2,มณฑลทหารบกที่ 25 ร.23.พัน 3ในภารกิจช่วยเหลือผู้ป่วยติดเชื้อโควิด -19 ที่ต้องการเดินทางกลับบ้าน โดยจัดแบ่งเป็นชุด รับ-ส่ง จากกรุงเทพมหานคร สู่ภูมิลำเนาจังหวัดสุรินทร์ ตามนโยบายกองทัพบก

จากนั้นที่หน้ากองบัญชาการมณฑลทหารบกที่ 25 พลตรีอดุลย์ บุญธรรมเจริญ ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี พร้อมด้วย พลตรีสาธิต เกิดโภค ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 25 นายพรชัย มุ่งเจริญพร องค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ ร่วมปล่อยขบวนรถบรรทุกทางทหารและรถพยาบาลทหารพร้อมอุปกรณ์กู้ชีพ ที่เตรียมพร้อมในการรับส่งผู้ป่วยตามโครงการ สุรินทร์แบ็คโฮม "SURIN BACK HOME" เพื่ออำนวยความสะดวกในการประสานงานหน่วยงานต่าง ๆ นำตัวพี่น้องคนสุรินทร์ที่ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 กลับมารักษาตัวที่บ้าน เพื่อเป็นการช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนคนสุรินทร์ อีกหนึ่งช่องทาง  ทั้งนี้ โครงการ สุรินทร์แบ็คโฮม "SURIN BACK HOME" เกิดจากการร่วมมือกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ทั้ง ฝ่ายทหาร ฝ่ายตำรวจ ฝ่ายปกครองจังหวัดสุรินทร์, สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสุรินทร์, โรงพยาบาลสุรินทร์ และ โรงพยาบาลประจำอำเภอ อีก 16 แห่ง ของจังหวัดสุรินทร์ จัดโครงการ "SURIN BACK HOME" เปิดสายด่วนและศูนย์ประสานงานรับ-ส่งต่อผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVI-19) ขึ้นมา จากพื้นที่สีแดงเข้มและเขตปริมณฑลให้กลับมารักษาตัวที่สุรินทร์ได้ทันท่วงที


ภาพ/ข่าว  ปุรุศักดิ์ แสนกล้า 

ตำรวจเตือนหนุ่มสาว !! ระวังแก๊ง Hybrid Scam หลอกรักออนไลน์ ลวงลงทุนเงินสกุลดิจิทัลจนหมดตัว

วันที่ 26 ก.ค.2564 พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า จากกรณี สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง(สตม.) แถลงข่าวจับกุมแก๊งไฮบริด สแกม (Hybrid Scam) ได้ผู้ต้องหาเป็นชาวจีนและคนไทยหลายราย นั้น ซึ่งกรณีดังกล่าวมีเหยื่อที่เป็นหนุ่มสาวหลายราย ตกเป็นผู้เสียหายถูกหลอกให้ลงทุนกับแอปพลิเคชันแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัล ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันปลอม โดยจะเริ่มต้นจากการถูกหลอกผ่านสื่อสังคมออนไลน์ หรือ แอปพลิเคชันหาคู่ โดยแก๊ง Hybrid Scam จะปลอมรูปกับชื่อโปรไฟล์ เป็นหนุ่มสาวเอเซียต่างชาติหน้าตาดี เข้ามาขอแอดเป็นเพื่อน จากนั้นจะพูดคุยในลักษณะชู้สาวผ่านการแชท หรือโทรศัพท์พูดคุยผ่านระบบออนไลน์ เช่น แอปพลิเคชันไลน์หรือเฟซบุ๊ก จนเหยื่อตกหลุมรักคนร้าย(ที่ไม่เคยเจอตัวจริง) จากนั้นคนร้ายจะชักชวนให้เหยื่อลงทุนแลกเปลี่ยนเงินสกุลดิจิทัล ผ่านแอปพลิเคชันปลอม อาจมีการส่งลิงก์มาให้เหยื่อสมัคร 

ในช่วงแรกคนร้ายจะหลอกให้เหยื่อตายใจได้กำไร แต่ในภายหลังเหยื่อมักจะขาดทุน หรือหากได้กำไร แล้วจะขอนำเงินออกจากระบบ ทางแอปพลิเคชัน จะอ้างว่าต้องโอนค่าธรรมเนียมหรือภาษีเข้าระบบ พอเหยื่อโอนเข้าไปแล้วก็ไม่สามารถนำเงินออกจากระบบได้เหยื่อจึงรู้ตัวว่าถูกหลอก ซึ่งมูลค่าความเสียหายมีตั้งแต่หลักหมื่นจนถึงหลายล้านบาท สำหรับวิธีการเลือกเหยื่อ คนร้าย จะเลือกเหยื่อหนุ่มสาวที่มีฐานะดีหรือมีอาชีพการงานที่มั่นคง เข้าถึงระบบการเงินออนไลน์ได้ เพราะจะต้องเข้าไปในแอปพลิเคชันที่หลอกลวง

พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ฯ กล่าวต่อไปอีกว่า แก๊ง Hybrid Scam เป็น การพัฒนารูปแบบจาก Romance Scam เดิมๆที่ส่วนใหญ่เป็นชาวผิวสี หลอกเหยื่อให้รักผ่านสื่อสังคมออนไลน์โดยปลอมโปรไฟล์เป็นชาวต่างชาติยุโรป, อเมริกัน, ตะวันออกกลาง ฯลฯ มีฐานะร่ำรวย จากนั้นคนร้ายจะอ้างว่า จะส่งทรัพย์สินมีค่ามาให้หยื่อ ต่อมาจะมีผู้ร่วมขบวนการอ้างว่าติดต่อมาจากกรมศุลกากรหรือบริษัทขนส่งฯ หลอกให้เหยื่อโอนค่าภาษีหรือค่าธรรมเนียม หรือ หลอกเหยื่อว่าได้มรดก/สัมปทานธุรกิจกับรัฐแล้วหลอกให้เหยื่อโอนค่าภาษีมรดกหรือภาษีสัมปทานมาให้คนร้าย หรือหลอกเหยื่อว่าป่วยเข้าโรงพยาบาลแต่ระบบประกันสุขภาพมีปัญหาขอให้เหยื่อโอนค่ารักษาพยาบาลมาให้ เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้แสดงความห่วงใย และได้มอบนโยบายในการสร้างความรับรู้ให้กับประชาชนในการป้องกันตัวเองมิให้ตกเป็นเหยื่อของอาชญากรในทุกรูปแบบ  นอกจากนั้นยังได้จัดตั้งศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (PCT) โดยมอบหมายให้ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. เป็นผู้อำนวยการศูนย์ฯ ขับเคลื่อนการสืบสวนปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีในทุกรูปแบบ และอย่างต่อเนื่องด้วย

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีความห่วงใยพี่น้องประชาชน ไม่อยากให้ตกเป็นเหยื่อของแก๊งคนร้าย ดังกล่าว  จึงฝากข้อควรระวัง ดังนี้

1.ไม่ควรรับแอดเพื่อนในสื่อสังคมออนไลน์ที่ไม่รู้จัก โดยเฉพาะบัญชีสื่อสังคมออนไลน์ที่เป็นชาวต่างชาติ ที่ใช้ภาพหนุ่มสาวหน้าตาดี หากจำเป็นหรือต้องการจะรับจริง ๆ ก็ขอให้ตรวจสอบข้อมูลในบัญชีให้ดี อาจตรวจสอบได้โดยขอนัดเจอตัวจริง หรือร้องขอให้เปิดกล้องวิดีโอคอล ให้เห็นหน้าเพื่อให้มั่นใจว่าเป็นบุคคลคนเดียวกับรูปในโปรไฟล์จริง ๆ (หน้าตรงปก) ซึ่งส่วนใหญ่ คนร้ายจะไม่ยอมวิดีโอคอล โดยอ้างเหตุขัดข้องต่าง ๆ

2.หากมีการชักชวนลงทุนในสกุลเงินดิจิทัล โดยเฉพาะจากเพื่อนหรือพัฒนาจากเพื่อนเป็นคนรักในสื่อสังคมออนไลน์ ที่เราไม่เคยเจอตัวจริง ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าเป็นมิจฉาชีพ และควรตรวจสอบความน่าเชื่อถือของการลงทุนตามที่มีการกล่าวอ้างว่าเป็นจริงหรือไม่อย่างไร

ทั้งนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอความร่วมมือมายังพี่น้องประชาชน หากพบเห็นการกระทำผิดกฎหมายดังกล่าว กรุณาแจ้งเบาะแสไปยังสายด่วน 191 และสายด่วนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 1599 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

EA บลูเทคซิตี้ และมูลนิธิหัวใจบริสุทธิ์ มอบชุดตรวจโควิด-19 หรือ Antigen Test Kit หรือ ATK พร้อมชุด PPE และหน้ากากอนามัย ให้โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลเขาดิน เพื่อใช้ในภารกิจโควิด-19 ในพื้นที่

วันนี้ (25 ก.ค.64) ที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลเขาดิน อำเภอบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา นางสาวกุลพรภัสร์ วงศ์มาจารภิญญา ผู้บริหารโครงการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมบลูเทคซิตี้ ในฐานะประธานที่ปรึกษามูลนิธิหัวใจบริสุทธิ์ พร้อมด้วย ดร.พัชรางสุ์ ชัยวรมุขกุล อัยการจังหวัด สำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดีจังหวัดสมุทรปราการ มอบชุดตรวจโควิด-19 หรือ Antigen Test Kit  หรือ ATK จำนวน 300 ชุด  พร้อมชุด PPE จำนวน 50 ชุด และหน้ากากอนามัย จำนวน 10,000 ชิ้น ให้โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลเขาดิน เพื่อใช้ในภารกิจโควิด-19 ในพื้นที่ โดยในวันนี้ทาง รพ.สต.เขาดิน ได้ดำเนินการตรวจเชิงรุกให้พระสงฆ์วัดเขาดิน คณะครู และประชาชนในพื้นที่ตำบลเขาดิน 

นางสาวกุลพรภัสร์ วงศ์มาจารภิญญา ผู้บริหารโครงการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมบลูเทคซิตี้ ในฐานะประธานที่ปรึกษามูลนิธิหัวใจบริสุทธิ์ กล่าวว่า EA บลูเทคซิตี้ และมูลนิธิหัวใจบริสุทธิ์ ขอร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือสังคม และสนับสนุนภารกิจโควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทรา โดยสนับสนุนชุด PPE และหน้ากากอนามัย ให้บุคลากรทางการแพทย์  และชุดตรวจโควิด-19 หรือ Antigen Test Kit หรือ ATK ซึ่งเป็นชุดตรวจที่สามารถทราบผลภายใน 10 นาที ซึ่งได้รับอนุญาตจาก อย.แล้ว ทั้งนี้ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยให้การควบคุมโรคระบาดเป็นไปโดยเร็วที่สุด เพราะยิ่งตรวจเชื้อได้มากและเร็วเท่าไร ยิ่งลดการเสี่ยงแพร่กระจายของเชื้อได้มากขึ้นเท่านั้น

ผบ.ตร.ห่วงใยประชาชนพื้นที่สีแดงเข้ม กำชับเจ้าหน้าที่กวดขันควบคุมการเดินทาง

วันที่ 24 ก.ค.64 เวลาประมาณ 20.45 - 23.00 น. พล.ต.อ.สุรพล  อยู่นุช ที่ปรึกษาพิเศษ ตร./รอง ผอ.ศปม.ตร. ได้เดินทางมาตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานประจำจุดตรวจควบคุมการเดินทาง และจุดตรวจฉุกเฉิน (Curfew) ตามมาตรการล็อคดาวน์ในห้วงประกาศข้อกำหนดฯ ฉบับที่ 28 ในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยมี พล.ต.ต.พนัญชัย  ชื่นใจธรรม รอง จตร.ปรก.รองผบช.ภ.1 พร้อมด้วย พล.ต.ต.นราเดช  ทิพย์รักษ์ ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยาร่วมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติภารกิจที่จุดตรวจในเส้นทางคมนาคมสายหลักจำนวน 3 จุดคือ

1. จุดตรวจบริเวณแยกเทศบาลตลาดเกรียบทางหลวง 347 (ขาขึ้น) อ.บางปะอิน จว.พระนครศรีอยุธยา
2. จุดตรวจทางหลวงหมายเลข 32 (เอเชีย) หน้าตู้ยามมหาราช อ.มหาราช จว.พระนครศรีอยุธยา
3. จุดตรวจบริเวณทางหลวงหมายเลข 1 (พหลโยธิน) ขาออก (คู่ขนาน) หน้า ธ.ไทยพาณิชย์ อ.วังน้อย จว.พระนครศรีอยุธยา

 พล.ต.อ.สุรพลฯ กล่าวว่า "อยุธยาเป็น 1 ในจังหวัดที่อยู่ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด หรือจังหวัดสีแดงเข้ม มีตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่วันนี้ สูงถึง 359 ราย และมีผู้เสียชีวิต 2 ราย ซึ่งเป็นอีกพื้นที่หนึ่งที่ พล.ต.อ.สุวัฒน์  แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. มีความห่วงใย จึงได้มอบหมายให้ผมลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติภารกิจทั้งตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง สาธารณสุข และอาสาสมัครภาคประชาชน ที่สนธิกำลังตั้งจุดตรวจจุดสกัดเพื่ออำนวยความสะดวกพี่น้องประชาชนในเส้นทาง"

พล.ต.อ.สุรพลฯ กล่าวต่อว่า "นับแต่ประกาศข้อกำหนดฉบับที่ 28 และเริ่มบังคับใช้ตั้งแต่ 20 ก.ค.64 เป็นต้นมา พบว่า อยุธยามีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นทุกวัน ดังนั้นจึงขอให้เจ้าหน้าที่ช่วยกันดูแล กวดขันไม่ให้ประชาชนฝ่าฝืนพระราชกำหนดฯ และหากพบการกระทำผิดให้ประชาสัมพันธ์ให้คำแนะนำ ยกเว้นกรณีที่ฝ่าฝืนและมีพฤติการณ์ที่เป็นความเสี่ยงต่อการแพร่กระจาย หรือท้าทายอำนาจรัฐ ก็ให้ดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด เพราะนอกจากจะไม่เคารพกฎหมายแล้วยังเป็นสาเหตุของการแพร่กระจายเชื้อไปสู่ประชาชนผู้บริสุทธิ์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้"

พร้อมนี้ ผบ.ตร.ได้ฝากอาหารและน้ำดื่มมามอบให้กับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติภารกิจประจำจุดตรวจดังกล่าว เพื่อเป็นขวัญกำลังใจต่อไป


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top