Sunday, 18 May 2025
THE STATES TIMES TEAM

ขอนแก่น - งานเข้า นักโทษเรือนจำขอนแก่นติดโควิด 315 คน สนธิกำลังร่วมทุกฝ่ายคุมสถานการณ์อย่างเข้มงวด

ผู้ต้องขังชายคุกขอนแก่นติดโควิดสั่งปิดแดนต้องขัง 1-2  ขณะที่ สสจ.สนธิกำลังร่วมทุกฝ่ายคุมสถานการณ์อย่างเข้มงวด เร่งตรวจหาเชื้ออีกกว่า 3,000 เตรียมย้ายผู้ต้องขังหญิงไปอยู่เรือนจำพล เพื่อปรับแดนหญิงเป็น รพ.สนาม ควบคุมการระบาด

เมื่อเวลา 11.30 น.วันที่ 21 ก.ค. 2564 ที่สำนักงานสาธารณสุข จังหวัดขอนแก่น นพ.สมชายโชติ ปิยวัชร์เวลา นายแพทย์สาธารณสุข จ.ขอนแก่น พร้อมด้วย นายสมมาตย์ สุราช ผู้บัญชาการเรือนจำกลางขอนแก่น ร่วมกันแถลงข่าวการพบผู้ต้องขังติดเชื้อในเรือนจำกลางขอนแก่น พร้อมทั้งมาตรการควบคุมและป้องกันโรคภายในเรือนจำ ตามมาตรฐานความปลอดภัยด้านสาธารณสุขที่กระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงยุติธรรมกำหนด โดยมีหน่วยงานที่รับผิดชอบเข้าร่วมรับฟังการแถลงข่าวและรับมอบนโยบายการดำเนินงานตามคำสั่งอย่างพร้อมเพรียงกัน

นพ.สมชายโชติ ปิยวัชร์เวลา นายแพทย์สาธารณสุข จ.ขอนแก่น กล่าวว่าเรือนจำขอนแก่นมีผู้ต้องขังทั้งหมด 4,458 คน โดยเมื่อวันที่ 18 ก.ค.ที่ผ่านมา ได้รับแจ้งจากทางเรือนจำฯว่าพบกลุ่มผู้ต้องขังมีอาการป่วย เป็นไข้ ไอ และมีน้ำมูก

จึงได้ประสานไปยังเจ้าหน้าที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดขอนแก่น ,สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 7 และเรือนจำจังหวัดขอนแก่น ให้ดำเนินการตรวจคัดกรองผู้ต้องขังที่เป็นกลุ่มเสี่ยงสูงจำนวน 15 คน ซึ่งพบว่าผู้ต้องขังชาย 3 คนติดเชื้อโควิด-19  จากนั้นคณะทำงานจึงได้ขยายผลตรวจผู้ต้องขังกลุ่มเสี่ยง 1,620 คน โดยขณะนี้พบผู้ต้องขังยืนยันติดเชื้อโควิดแล้ว 315 คน

นพ.สมชายโชติ กล่าวด้วยว่าในส่วนของคลัสเตอร์เรือนจำกลางขอนแก่นนั้น มีการวางแผนควบคุมโรคในรูปแบบบับเบิลแอนด์ซีล ห้ามการเข้า-ออก เด็ดขาดและไม่รับผู้ต้องขังรายใหม่ และเร่งตรวจกลุ่มผู้ต้องขังหญิงทั้งหมด 329 คน เพื่อเคลื่อนย้ายผู้ต้องขังแดนหญิงไปที่เรือนจำพล อ.พล จ.ขอนแก่น เพื่อปรับพื้นที่ให้แดนหญิงเป็นโรงพยาบาลสนามในเรือนจำ รักษากลุ่มผู้ที่ติดเชื้อแต่ไม่แสดงอาการ หากผู้ป่วยมีอาการหนักจะถูกส่งตัวต่อไปรักษาที่ รพ.ขอนแก่น ในส่วนของผู้ต้องขังอีกกว่า 3,000 คน ที่ไม่ได้ตรวจหาเชื้อ ได้วางแผนเชิงรุกโดยการเอกซเรย์ปอดผู้ต้องขังทุกคน หากพบติดเชื้อแม้จะไม่แสดงอาการก็จะถูกส่งต่อการรักษาที่ รพ.สนาม ภายในเรือนจำทันที

กรุงเทพฯ - กองทัพเรือ และสภากาชาดไทย เชิญชมกาชาดคอนเสิร์ต ครั้งที่ 47 แบบ New normol media และขอเชิญชวนประชาชนทั่วประเทศบริจาค ผ่านระบบออนไลน์ ได้ตามกำลังศรัทธา

กองทัพเรือ และสภากาชาดไทย ร่วมต้านภัยโควิด-19 เชิญชมกาชาดคอนเสิร์ต ครั้งที่ 47 แบบ New normal ในวันอังคารที่ 3 สิงหาคม นี้ เวลา 14.00 น.ถ่ายทอดสดผ่าน social media  และขอเชิญชวนประชาชนทั่วประเทศบริจาคเงิน เพียง สแกน QR code ผ่านระบบออนไลน์ ได้ตามกำลังศรัทธา

วันนี้ ( 21 กรกฎาคม 2564) พลเรือโท ประชาชาติ ศิริสวัสดิ์ รองเสนาธิการทหารเรือ ในฐานะประธานกรรมการเตรียมการจัดแสดงกาชาดคอนเสิร์ต ครั้งที่ 47 เปิดเผยว่า กองทัพเรือและสภากาชาดไทย ร่วมต้านภัยโควิด-19 โดยกำหนดจัดการแสดงกาชาดคอนเสิร์ตครั้งที่ 47 แบบ New Normal ย้อนรำลึกความสัมพันธ์ 60 ปี ที่ร่วมกันสนองพระราชปณิธาน องค์สภานายิกาสภากาชาดไทย จัดแสดงดนตรีคลาสสิค มาตั้งแต่ ปี พ.ศ.2504

สำหรับการแสดงในปีนี้ จะมีทั้งเพลงคลาสสิค และเพลงร่วมสมัย ที่นำมาร้อยเรียงรำลึกถึงความผูกพัน ความร่วมมือ และพลังแห่งความสามัคคี  เปิดกว้างให้รับชมการแสดงได้พร้อมกันทั่วประเทศ พร้อมเพิ่มช่องทางการร่วมบริจาคเงินให้แก่ประชาชนผู้มีจิตศรัทธาทั่วไป ก็สามารถร่วมสนับสนุนได้โดยง่ายเพียง สแกน QR code ทางระบบออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ปันบุญ (www.punboon.org)โดยบัตรเครดิต,เดบิต,สแกน QR Code (e-donation)ผ่านแอปพลิเคชันทีทีบี( ttb touch) ,โมบายล์แบงก์กิ้งได้ทุกธนาคารหรือ Rabbit Line Pay รวมทั้งโอนเงินผ่านบัญชี

ธนาคารทหารไทยธนชาต เลขที่ 115-2-50386-6 และธนาคารกรุงไทย เลขที่ 660-4-17792-0 ชื่อบัญชี กาชาดคอนเสิร์ตครั้งที่47 โดยกองทัพเรือจะนำเงินบริจาคทั้งหมดโดยไม่หักค่าใช้จ่ายทูลเกล้าถวายสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง สภานายิกาสภากาชาดไทย โดยเสด็จพระราชกุศลบำรุงสภากาชาดไทย  เพื่อภารกิจช่วยเหลือประชาชนที่ทุกข์ยาก และโดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์แพร่ระบาดของ ไวรัสโควิด-19 ซึ่งทำให้สภากาชาดไทยต้องมีภารกิจมากขึ้นกว่าปกติ

การจัดแสดงฯ แบบ New Normal  จะจัดให้มีขึ้นในวันที่ 3 สิงหาคม 2564  เวลา 14.00 น. ผ่านการถ่ายทอดสด(Live สด)ทาง Facebook Fan page "กองทัพเรือ Royal Thai Navy " และ "The Thai Red Cross Society" รวมทั้ง YouTube Live "กาชาดคอนเสิร์ต Royal Thai Navy " 

ในโอกาสนี้ขอเชิญชวนประชาชนทั่วประเทศติดตามชมการแสดงกาชาดคอนเสิร์ตครั้งที่47 และร่วมบริจาคเงินโดยเสด็จพระราชกุศลบำรุงสภากาชาดไทยผ่านระบบออนไลน์หรือโอนเงินผ่านบัญชีธนาคาร ดังกล่าวข้างต้น ได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ กรมกิจการพลเรือนทหารเรือ โทร. 0 2475 3081 และ 08 0664 4891

ลำปาง - กฟผ. มอบหมวกป้องกันเชื้อ PAPR สนับสนุนบุคลากรทางการแพทย์สู้โควิด-19

วันนี้ 21 ก.ค.64 นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง พร้อมด้วย นายแพทย์ประเสริฐ กิจสุวรรณรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดลำปาง นายแพทย์นพรัตน์ วัชรขจรกุล รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดลำปาง รับมอบหมวกป้องกันเชื้อ PAPR (Powered Air Purifying Respirator) จำนวน 20 ชุด ซึ่งผลิตโดยทีมช่างอาสา กฟผ. หลังพบปัญหาบุคลากรทางการแพทย์ต้องเผชิญความลำบากในการปฏิบัติการดูแลผู้ป่วยทาง กฟผ. จึงได้เริ่มพัฒนาการผลิตหมวกป้องกันเชื้อ PAPR ขึ้น และส่งมอบให้แก่โรงพยาบาลต่าง ๆ โดยมีนายอดิศักดิ์ กิจเจริญธนารักษ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการผลิตไฟฟ้า 2 พร้อมด้วยผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ เป็นผู้มอบฯ ณ บริเวณหน้ามุข ชั้น 1 ด้านหน้าอาคารศาลากลางจังหวัดลำปาง 

โอกาสนี้ ทาง กฟผ.แม่เมาะ ได้มอบเงินสนับสนุนค่าอาหาร จำนวน 200,000 บาท และน้ำดื่ม จำนวน 7,200 ขวด เพื่อสนับสนุนเจ้าหน้าที่ ณ ศูนย์บริการฉีดวัคซีนโควิด-19 จังหวัดลำปาง

ทั้งนี้ กฟผ. ดำเนินการผลิตหมวกป้องกันเชื้อ PAPR  โดยผลิตในห้อง Clean Room เพื่อควบคุมความสะอาดตลอดขั้นตอนการผลิต มีการทดสอบให้ได้มาตรฐาน พร้อมบรรจุลงกล่องแยกชิ้นก่อนส่งมอบ จึงมั่นใจได้ว่าหมวกทุกใบสะอาดปราศจากสิ่งปนเปื้อน 100% สำหรับตัวหมวกมีน้ำหนักเบา ใช้งานได้คล่องตัว


ภาพ/ข่าว  ภาวินันท์ บุตรหล้า รายงาน

ทหารจิตอาสา ร.15 พัน.1 จัดชุดช่างซ่อมแซมบ้านผู้ยากไร้ ตามโครงการ "ซ่อมบ้านทั่วไทย ซ่อมแซมที่อยู่อาศัยให้กับผู้ยากไร้และด้อยโอกาส"

พ.อ.ธนพล นุ้ยสุข ผบ.ร.15 พัน.1 จัดกำลังพลชุดช่างของหน่วย ร่วมกับ กอ.รมน.จว.กระบี่ สำนักงานสัสดีจังหวัดกระบี่ และบ้านพักเด็ก พร้อมครอบครัวจังหวัดกระบี่ เข้าดำเนินการซ่อมแซมบ้านให้กับนายโสม ชูกุล อายุ 84 ปี บ้านเลขที่ 150 ม.6 ต.เขาทอง อ.เมือง จ.กระบี่ ซึ่งเป็นผู้ยากไร้ ตามโครงการ "ซ่อมบ้านทั่วไทย ซ่อมแซมที่อยู่อาศัยให้กับผู้ยากไร้และด้อยโอกาส"  โดยได้ดำเนินการปรับปรุงบ้านดังนี้

1.ปรับปรุงโถส้วมแบบนั่งยอง เป็นแบบชักโครก

2.เปลี่ยนหลังคาสังกะสีที่รั่วและทรุดโทรม

3.เปลี่ยนพื้นชานบ้าน จากไม้เป็นแผ่นยิปซัม

โดยวัตถุประสงค์ของโครงการนี้เพื่อให้ความสำคัญของผู้ยากไร้และด้อยโอกาส และเป็นการพัฒนา ยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนกลุ่มเหล่านี้ในเรื่องที่อยู่อาศัยให้ดีขึ้นต่อไป


ภาพ/ข่าว  มโนธรรม ใจหาญ จ.กระบี่ รายงาน

ลพบุรี – เมรุร้าง สัปเหร่อหนีโควิด เจ้าคณะอำเภอขอรักษาการสัปเหร่ออีกตำแหน่ง

สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งปัจจุบันยังคงมีความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง และไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่าจะยุติลงเมื่อใด ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตพุ่งขึ้นในแต่ละวัน แต่สถานการณ์เช่นนี้ยังมีเรื่องราวของพระผู้เสียสละพระผู้เป็นที่พึ่งยอมเป็นทุกอย่างให้ญาติโยม จากเจ้าคณะอำเภอ เจ้าอาวาส วันนี้ขอรักษาการสัปเหร่ออีกตำแหน่ง

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 21 ก.ค. 2564 ที่วัดพุน้อย อ.บ้านหมี่ จ.ลพบุรี พระโสภณ พัฒนคุณ (เศรษฐีเรือทอง) เจ้าอาวาสวัดพุน้อย เจ้าคณะอำเภอหนองม่วง จ.ลพบุรี พร้อมด้วยพระลูกวัด แต่งกายด้วยชุด PPE จำนวน 4 รูป ยืนรอรับศพแม่ชีวัย 81 ปี ชาวจังหวัดนนทบุรี ที่มารักษาอาการป่วยจากการติดเชื้อโควิด-19 ที่ รพ.บ้านหมี่ เมื่อวันที่ 19 ก.ค.2564 และได้เสียชีวิตเมื่อช่วงสายของวันนี้ โดยมูลนิธิสว่างอริโยธรรมสถานนำศพมาเพื่อให้ทางวัดบำเพ็ญกุศลศพและทำการฌาปนกิจศพ โดยมีญาติของผู้เสียชีวิตร่วมพิธีเพียงคนเดียว รอเก็บกระดูกกลับบ้าน

เจ้าคณะอำเภอหนองม่วง ยังกล่าวอีกว่า สัปเหร่อที่วัดพุน้อย ไม่กล้ามาประกอบพิธี กลัวเชื้อโควิด ซึ่งหลวงพ่อเองก็ไม่ได้ว่าอะไรเขา ตัวอาตมาเองก็กลัว แต่เรามีการป้องกันอย่างรัดกุม และศพที่บรรจุมาจาก รพ.ก็ผ่านการฆ่าเชื้อมาแล้ว ขึ้นรถ ลงรถจากรถกู้ภัยฯ ก็ผ่านการฆ่าเชื้อมาแล้วเช่นกัน และเผอิญว่าโยมปู่ โยมพ่อ เคยเป็นสัปเหร่อมาก่อน หลวงพ่อเคยได้ช่วยงานมาบ้าง ก็สามารถทำได้ ซึ่งในวันนี้ถือว่าเป็นการทำบุญใหญ่ให้กับแม่ชีที่ล่วงลับ ฝากบอกญาติโยมผ่านสื่อด้วยว่าหากญาติโยมท่านใดที่เดือดร้อนเรื่องการจัดการศพเชื้อโควิด สามารถนำมาประกอบพิธีที่วัดพุน้อยแห่งนี้ได้ โดยทางวัดจะดำเนินการตามขั้นตอนของประเพณีโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น


ภาพ/ข่าว  สนใจ ลพบุรี

ชุมพร - จิตอาสาพัฒนา "ปลูกป่า" เนื่องในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม

นายพิศิษฐ์ ฤทธิพิชัยสงคราม นายอำเภอท่าแซะ/ ผอ.ศอ.จอส.พระราชทานอำเภอท่าแซะ จังหวัดชุมพร พร้อมด้วย หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และประชาชนจิตอาสาในพื้นที่ ร่วมกิจกรรมจิตอาสาพัฒนา "ปลูกป่า" เนื่องในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ในหลวงรัชกาลที่ 10 ณ ป่าหนองหอยขม ตำบลสองพี่น้อง หมู่ที่ 7 เนื้อที่ 4.35 ไร่ และหมู่ที่ 4 เนื้อที่ 14.95 ไร่ รวม 19.3 ไร่

ทั้งนี้ ได้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา (COVID-19) อย่างเคร่งครัด จำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรม 50 คน ส่วนราชการระดับอำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้นำอุปกรณ์ที่ได้รับสนับสนุน จอบ เสียม ต้นไม้ เข้าร่วมกิจกรรม


ภาพ/ข่าว  ธนากร โกศลเมธี รายงานศูนย์ข่าวสารจังหวัดชุมพร

สมุทรสาคร - ศรชล.ร่วมหน่วยงานและเจ้าของเรือ เป็นสักขีพยานและกำลังใจให้แรงงานประมง ฉีดวัคซีนเข็มแรก

ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ภาค 1 (ศรชล.ภาค 1) โดย น.อ.เอกภาพ สายโสภา รอง ผอ.ศรชล.จว.สมุทรสาคร น.อ. สุรศักดิ์ กิ่มบางยาง หน.ศคท.จว.สมุทรสาคร พร้อมกำลังพล ศรชล.จว.สมุทรสาคร/ศคท.จว.สมุทรสาคร นายกสมาคมการประมง จว.สมุทรสาคร/สมาชิกสมาคมประมง จว.สมุทรสาคร และตัวแทน/เจ้าของเรือประมงพาณิชย์ จว.สมุทรสาคร ร่วมเป็นสักขีพยานและร่วมให้กำลังใจแรงงานภาคประมงทะเล จำนวน 51 ราย (แรงงานต่างด้าว 34 ราย แรงงานไทย 17 ราย) ที่เข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ตราอักษรซิโนฟาร์ม (วัคซีนทางเลือก) เข็มแรก ณ รพ.นครท่าฉลอม อ.เมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร

การรับวัคซีนโควิด-19 (วัคซีนทางเลือก) ของแรงงานภาคเรือประมงพาณิชย์ จังหวัดสมุทรสาครในวันนี้ ถือว่าเป็นการรับวัคซีนของแรงงานภาคประมงทะเล จังหวัดแรก ๆ ในประเทศไทย เป็นการช่วยแก้ไขปัญหาในเรื่องการเข้าถึงวัคซีนโควิด-19 ของแรงงานภาคเรือประมงทะเล นอกเหนือจากการขอรับการฉีดวัคซีนโควิด-19 (วัคซีนหลัก) เป็นกลุ่ม/องค์กร ซึ่งทาง สมาคมการประมง จังหวัดสมุทรสาคร ได้ทำหนังสือเสนอขอความอนุเคราะห์จาก สธ.จว.สมุทรสาคร ซึ่งคาดว่าจะได้รับการฉีดวัคซีนเข็มแรก ในช่วง ส.ค. - ก.ย. 64


ภาพ/ข่าว สนง.ศรชล.ภาค 1

นิราช / นันทพล ทิพย์ศรี รายงาน

พิจิตร – แม่น้ำยมพิจิตร รอดพ้นวิกฤต กรมชลประทานส่งน้ำช่วยชาวนาแล้ว

วันที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2564 ความคืบหน้าจากการที่ นายนราพัฒน์ แก้วทอง ผู้ช่วย รมต.เกษตรฯ และ นายเกรียงไกร ภาคพิเศษ ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 3 ได้ร่วมกันลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำในแม่น้ำยมในเขตพื้นที่จังหวัดพิษณุโลกและจังหวัดพิจิตรเพื่อหาแนวทางส่งน้ำช่วยเหลือเกษตรกรที่อยู่ในพื้นที่สองฝั่งของแม่น้ำยม

ล่าสุด นายเอกฉัตร เอี่ยมตาล ผอ.โครงการชลประทานดงเศรษฐี และ นายวัชรินทร์ แทนจำรัส เลขาฯส่วนตัว ของ นายนราพัฒน์ แก้วทอง ผู้ช่วย รมต.เกษตรฯ , สจ.สมชาย บุญผ่อง สจ.เขต อ.สามง่าม ซึ่งเป็นตัวแทนภาคประชาชนได้ลงพื้นที่ดูปริมาณและระดับน้ำในแม่น้ำยมที่ประตูระบายน้ำสามง่าม หรือที่ชาวบ้านเรียกว่าฝายไฮดรอลิกพับได้ ซึ่งพบว่าระดับน้ำในแม่น้ำยมมีปริมาตรเพิ่มขึ้นระดับน้ำด้านเหนือ ปตร.สามง่าม มีปริมาณน้ำสูงเกือบครึ่งตลิ่งของแม่น้ำยมแล้ว ดังนั้นจึงมีการเปิดประตูระบายน้ำสองบานเพื่อจ่ายน้ำไปยัง ต.รังนก ต.วังจิก ต.โพธิประทับช้าง และอีกหลายตำบลที่อยู่ด้านใต้ของแม่น้ำยม ทำให้ได้รับน้ำอย่างทั่วถึงแล้ว

โดย นายเอกฉัตร เอี่ยมตาล ผอ.โครงการชลประทานดงเศรษฐี กล่าวว่า การส่งน้ำเข้าสู่แม่น้ำยมในช่วง 7-10 วันที่ผ่านมานั้นน้ำที่ส่งให้เกษตรกรลุ่มน้ำยมเป็นการส่งน้ำมาจากโครงการส่งน้ำ ยม-น่าน ซึ่งตั้งอยู่ที่ อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก ส่งน้ำมาให้เพื่อรักษาระบบนิเวศให้ได้ใช้น้ำเพื่อการอุปโภค-บริโภค และทำการเกษตร รวมถึงทำให้ความอุดมสมบูรณ์เกิดขึ้นในแม่น้ำยม ทำให้ผู้ที่มีอาชีพหาปลาและทำประมงสามารถดำเนินชีวิตและทำมาหากินได้ทำให้แม่น้ำยมในเขตพื้นที่จังหวัดพิจิตรกลับฟื้นคืนชีพขึ้นมาอีกครั้ง

ในส่วนของ สจ.สมชาย บุญผ่อง สจ.เขต อ.สามง่าม ซึ่งเป็นตัวแทนภาคประชาชน กล่าวขอบคุณกรมชลประทานที่ดูแลใส่ใจเกษตรกรในลุ่มน้ำยม ซึ่งขณะนี้ได้อานิสงส์จากการส่งน้ำในครั้งนี้ทำให้นาข้าวนับหมื่นไร่ได้รอดพ้นจากวิกฤตฝนทิ้งช่วง โดยได้น้ำไปหล่อเลี้ยงต้นข้าวและทำให้เกิดน้ำซึมน้ำซับหรือน้ำบาดาลใต้ดินมีระดับเพิ่มขึ้นเป็นวงกว้าง ทำให้ชาวนาสามารถสูบน้ำเข้านาข้าวจนได้เก็บเกี่ยวผลผลิตอยู่ในขณะนี้อีกด้วย


ภาพ/ข่าว  สิทธิพจน์  พิจิตร

กาฬสินธุ์ - ปิดโรงเรียนไม่มีกำหนด ยอดติดเชื้อโควิดยังนิวไฮวันเดียวพุ่ง 157 ราย

กาฬสินธุ์ยกระดับคุมเข้มมาตรการโควิด-19 หลังปรับเป็นพื้นที่สีแดงหรือพื้นที่ควบคุมสูงสุด ปิดโรงเรียน-งดเรียนออนไซด์ไม่มีกำหนด ร้านอาหารนั่งได้ไม่เกิน 5 ทุ่ม งดเว้นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และงดการรวมกลุ่มสังสรรค์ ขณะที่สถานการณ์ยังพบผู้ป่วยติดเชื้อนิวไฮวันเดียว 157 ราย ทุบสถิติสูงสุด ส่งผลให้มีผู้ป่วยสะสมพุ่ง 1,315 ราย ขณะที่หน่วยกู้ภัยเมตตาธรรม ทยอยส่งผู้ป่วยพาคนอีสานกลับภูมิลำเนา

เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศูนย์อำนวยการต้านโรคติดชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 จ.กาฬสินธุ์ รายงานสถานการณ์โรคโควิด-19 ซึ่งยังคงพบผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงต่อเนื่องรายวัน โดยล่าสุดวันนี้ (21 ก.ค.64) พบผู้ติดเชื้อนิวไฮ เป็นผู้ป่วยรายใหม่มากถึง 157 ราย ทุบสถิติสูงสุด โดยเป็นผู้ป่วยติดเชื้อขอกลับมารักษาในภูมิลำเนา 40 ราย เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยงอยู่ระหว่างการกักกันตัว 83 ราย สัมผัสผู้ป่วยยืนยัน 27 ราย และตรวจพบจากระบบเฝ้าระวังอื่น ๆ อีก 7 ราย ทำให้มียอดผู้ติดเชื้อสะสมทะลุถึง 1,315  ราย และมียอดผู้เสียชีวิตสะสม 6 ราย

ทั้งนี้ จากสถานการณ์ล่าสุดคณะกรรมการโรคติดต่อ จ.กาฬสินธุ์ ได้มีการประชุมเมื่อวันที่ 20 กรกฎาคมที่ผ่านมา โดยมีนายทรงพล ใจกริ่ม ผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ เป็นประธาน และทางจังหวัดได้ออกประกาศคำสั่งมาตรการยกระดับการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 ในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ หลังปรับเป็นพื้นที่สีแดง หรือพื้นที่ควบคุมสูงสุด โดยให้ปิดการเรียนการสอนแบบ on-site รวมไปถึงศูนย์เด็กเล็ก จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง ร้านอาหารสามารถนั่งรับประทานในร้านได้ไม่เกินเวลา 23.00 น. งดเว้นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ สนามกีฬา ยิม สถานที่ออกกำลังกายเปิดได้ไม่เกิน 21.00 น. งดการรวมกลุ่มสังสรรค์ จำกัดจำนวนผู้โดยสารในระบบขนส่งสาธารณะไม่เกินร้อยละ 50 และผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่ 13 จังหวัดเสี่ยง ต้องกักตัวเป็นเวลา 14 วัน

นอกจากนี้มติที่ประชุมยังเห็นชอบให้มีการขยายเตียงในโรงพยาบาลสนามเพิ่มขึ้น จากปัจจุบัน จ.กาฬสินธุ์มีโรงพยาบาลสนามรวม 19 แห่ง รองรับผู้ป่วยจำนวน 1,159 เตียง และในโรงพยาบาล สำหรับผู้ป่วยอาการหนัก และแสดงอาการ อีก 433 เตียง รวมทั้งหมด 1,592 เตียง เพื่อรองรับผู้ป่วยจำนวนมากที่เดินทางกลับมารักษายังภูมิลำเนา พร้อมวางแผนจัดตั้งศูนย์โควิดชุมชนหรือ Community Isolation โดยให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นผู้ดำเนินการ เน้นผู้ป่วยสีเขียวและให้มีบุคลากรจาก รพ. สต. อสม. เข้ามาดูแล

ขณะที่หน่วยกู้ภัยเมตตาธรรมกาฬสินธุ์ ได้ทยอยส่งตัวผู้ป่วยในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ และหลายจังหวัดในภาคอีสานตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา เพื่อเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล และบริเวณกักกันตัวตามภูมิลำเนา หลังจัดขบวนคาราวานตู้พยาบาล 8 คัน และเช่ารถบัสอีก 1 คัน รับผู้ป่วยจากโรงพยาบาลบุษราคัม จ.นนทบุรี และพื้นที่กรุงเทพฯ รวมทั้งจังหวัดปริมณฑล “พาคนอีสานกลับบ้านเฮา” ฟรีกว่า 100 คน


ภาพ/ข่าว  ณัฐพงษ์ ประชากูล จ.กาฬสินธุ์

สุโขทัย – เทศบาลเมืองสุโขทัย เปิดลงทะเบียนฉีดวัคซีน Sinopharm (ซิโนฟาร์ม) 5,000 โดสให้ประชาชน

วันที่ 21 กรกฎาคม 2564 เวลา 11.00 น. นายวิรุฬ พรรณเทวี ผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย ที่มาตรวจเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่เทศบาล และประชาชนในเขตเทศบาลเมืองสุโขทัยธานี ที่มาลงทะเบียนรับวัคซีน Sinopharm (ซิโนฟาร์ม) เป็นวันแรก โดยมีนายขรรค์ชัย ดอนพิมพา นายกเทศมนตรีเมืองสุโขทัยธานี พร้อมคณะผู้บริหารเทศบาลฯ พนักงานเทศบาล ให้การต้อนรับ

สำหรับประชาชนในเขตเทศบาลเมืองสุโขทัยธานี จะได้ลงทะเบียนเพื่อรับการฉีดวัคซีน Sinopharm (ซิโนฟาร์ม) อย่างทั่วถึงตามเป้าที่ตั้งไว้ของผู้บริหารเทศบาลฯ หลังที่ทางคณะผู้บริหารเทศบาลและสภาเทศบาลเมืองสุโขทัยธานี ได้ทำการขอรับการจัดสรรวัคซีนซิโนฟาร์มจากทางราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ จำนวน 5,000 โดส ซึ่งรอบแรกได้มา 400 โดส ซึ่งกลุ่มเป้าหมายจะให้กลุ่มเปราะบางก่อน และอายุ 18 ปีขึ้นไป ที่มีทะเบียนบ้านในเขตเทศบาลเมืองสุโขทัยธานี และจะทยอยจัดสรรมาจนครบ ตามที่ทางเทศบาลเมืองสุโขทัยธานีได้เร่งขอรับการจัดซื้อในครั้งนี้

ทำการเปิดจอง ตั้งแต่วันนี้ 21-25 กรกฏาคม 2564 เวลา 09.00 น.-16.00 น. บริเวณอาคารเฉลิมพระเกียรติ พระแม่ย่า(ตึกใหม่) และอาคารงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (อาคารดับเพลิง) เทศบาลเมืองสุโขทัยธานี โดยเทศบาลเมืองสุโขทัยธานี ได้กำหนดขั้นตอนการลงทะเบียนไว้อย่างชัดเจน ปฏิบัติตามมาตรการ D-M-H-T-T-A กระทรวงสาธารณสุขโดยเคร่งครัด


ภาพ/ข่าว  สุริยา ด้วงมา จ.สุโขทัย


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top