Saturday, 17 May 2025
THE STATES TIMES TEAM

คาร์ม็อบระยองครั้งที่ 2 ทวงถามวัคซีคซีนให้แรงงานและคนระยอง กับรมช.สาธิต ติดป้าย ”SAVE เขายายดา ผืนป่าระยอง”

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 1 สิงหาคม นายภาณุพงศ์ จาดนอกหรือไมค์ระยอง พร้อมกลุ่มแนวร่วมตะวันออกเพื่อประชาธิปไตย โดยมีรถยนต์ 50 คันเข้าร่วมขบวนริมถนนสุขุมวิท หน้าวัดเขาสำเภาทอง หมู่ 7 ต.เพ อ.เมืองระยอง พร้อมติดป้ายผ้าบริเวณทางขึ้นเขายายดา” SAVE เขายายดา ผืนป่าชาวระยอง” เนื่องจากมีกลุ่มคนมีอำนาจขึ้นไปตัดต้นไม้ใหญ่บริเวณจุดชมวิว เขายายดา

นายภาณุพงศ์ หรือไมค์ระยอง กล่าวว่าวันนี้มาจัดคาร์ม็อบระยองครั้งที่ 2 เพื่อทวงถามเรื่องวัคซีนจากนายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ว่าจัดวัคซีนให้กับชาวระยองและภาคตะวันออกจำนวนเท่าไหร่ วันนี้จะมีการประกาศยกระดับการประท้วงเรียกร้องวัคซีนให้กับคนระยองและแรงงานภาคตะวันออก ซึ่งเป็นเมืองเศรษฐกิจ เมืองอุตสาหกรรม สร้างรายได้ให้กับประเทศ ทำไมแรงงานภาคอุตสาหกรรมยังไม่ได้ฉีดวัดซีน รวมถึงบุคลากรทางการแพทย์ และเจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความความมั่นคงของมนุษย์(พม.)ที่เป็นด่านหน้า สิ่งที่พวกเราเรียกร้องเป็นผลประโยชน์กับประชาชนทั้งสิ้นไม่ได้ต้องการสร้างความวุ่นวาย พร้อมติดป้ายทางขึ้นเขายายดา “SAVE เขายายดา ผืนป่าระยอง เนื่องจากมีกลุ่มคนมีอำนาจขึ้นไปตัดต้นไม้ใหญ่จุดชมวิวเขายายดาเมื่อเร็ว ๆ นี้

ไมค์ระยอง กล่าวต่อว่าได้เปิดบ้านบูรพาช่วยเหลือพี่น้องที่ป่วยโควิด ได้รับข้อมูลว่า เกิดคลัสเตอร์ใหม่จำนวนมากในเขตห้วยโป่ง มาบตาพุด ปลวกแดงและ เขตชลบุรี ดังนั้นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็น ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ เขต 1 ระยอง ควรเร่งหาวัคซีนให้กับแรงานภาคอุตสาหกรรมและคนระยอง เพื่อจะได้เปิดสถานที่ท่องเที่ยว เปิดการผลิตภาคอุตสาหกรรมให้มากที่สุดและเป็นการพยุงเศรษฐกิจให้กับประเทศด้วย

คาร์ม็อบวันนี้จะเคลื่อนขบวนไปที่หน้าศูนย์ราชการจังหวัดระยอง ต.เนินพระ อ.เมืองระยองโดยมีแรลลี่แรงงานสัมพันธ์ภาคตะวันออกประกาศเข้าร่วม ขบวนจะเคลื่อนมาจากบ่อวินปลวกแดง นิคมพัฒนา พบรวมที่ศูนย์ราชการและจะประกาศยกระดับกับแนวร่วมต่อไป


ภาพ/ข่าว  ราชัญ กองทองผู้สื่อข่าว จ.ระยอง

ทหารหน่วยเฉพาะกิจที่ 3 กองกำลังสุรนารี สนธิกำลังปราบปรามขบวนการส่งออกไม้พะยุงข้ามชาติ

เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2564 พันเอก นิสิต สมานมิตร ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจที่ 3 กองกำลังสุรนารี ได้จัดชุดเฉพาะกิจ ร่วมกับจนท.ฝ่ายปกครอง อำเภอขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยศาลา และหน่วยป้องกันและพัฒนาป่าไม้ อ.ขุนหาญ ร่วมกันเข้าจับกุมขบวนการลักลอบขนไม้พะยุง เพื่อนำส่งออกไปยังประเทศลาว 

จากข้อมูลด้านการข่าว สืบทราบว่า ได้มีรถบรรทุก หมายเลขทะเบียน 70-4120 มหาสารคาม ได้ขับรถเข้ามาในพื้นที่ บ้านขุนหาญ ต.โพธิ์กะสังข์ อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ เพื่อมารับไม้พะยุง ไปส่งให้กับนายทุนชาวลาว โดยใช้รถบรรทุกขนาดใหญ่ เพื่อตบตาเจ้าหน้าที่ในการเคลื่อนย้ายออกนอกพื้นที่ ผลการปฏิบัติงาน สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 1 ราย คือนายอุทัย เทียบหนู อายุ 50 ปี ชาว ตำบลโนนแดง อ.บรบือ จ.มหาสารคาม พร้อมด้วยของกลางเป็นไม้พะยุง จำนวน 66 ท่อน/เหลี่ยม จึงได้แจ้งข้อหา มีไม้หวงห้ามไม้พะยูงไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย จับกุมจึงได้นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางทั้งหมดส่งเจ้าพนักงานสอบสวน สภ.กันทรอม อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ และนำไม้ของกลางไปเก็บไว้ที่ หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ศก.1 อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ


ภาพ/ข่าว  บุญทัน ธุศรีวรรณ ศรีสะเกษ

ร่วมแสดงความยินดี ผู้บริหาร "มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี" รับรางวัลอันทรงเกียรติ ประจำปี 2564

วันที่ 2 สิงหาคม 2564 ณ ศูนย์ศิลปวัฒนธรรมกาญจนาภิเษก มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี "ดร.พนธ์พันธ์ เลิศจันทรางกูร" ผู้อำนวยการสถาบันสปีดี้การเดินเรือ เเละ กลุ่มโรงเรียนเซ็นทรัลบริรักษ์อินเตอร์ / ที่ปรึกษาสมเด็จพระสังฆราช ราชอานาจักรกัมพูชา และตำแหน่งผู้ช่วยเลขานุการในองค์หม่อมเจ้าอุทัยกัญญา ภาณุพันธ์ เดินทางเข้าพบ "ผศ.วรางคณา วุฒิช่วย" ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยราชภัฎอุบลราชธานี เพื่อร่วมแสดงความยินดีที่ท่านได้เกียรติรับ รางวัล "นักบริการวิชาการดีเด่น" ประจำปี 2564 ในงานประชุมวิชาการระดับชาติ มนุษยศาสตร์ เเละสังคมศาสตร์ ครั้งที่ 9

อีกทั้งยังได้ร่วมเเสดงความยินดีกับ "ผศ.ดร.สุปิยา ทาปทา" ผู้อำนวยการสำนักศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยราชภัฎอุบลราชธานี ที่ท่านได้เกียรติรับคัดเลือกรางวัล "เเม่ดีเด่น ราชภัฎ" ประจำปี 2564 ซึ่งถือได้ว่าบุคคลทั้ง 2 ท่าน สร้างความภาคภูมิใจ และเป็นแบบอย่างที่ดี พร้อมทั้งเป็นการสร้างแรงบันดาลใจให้ประชาชนชาวจังหวัดอุบลราชธานี นำไปเป็นแบบอย่างที่ดี สืบไป

 

สะพานบุญสายใย คนไทยไม่ทิ้งกัน "อิมพิเรียลเวิลด์" (สำโรง) มอบชุด PPE 30 ชุด และน้ำดื่ม 5,000 ขวด ให้สภากาชาดไทย

เมื่อวันจันทร์ที่ 2 สิงหาคม 2564 ณ สภากาชาดไทย ถนนอังรีดูนังต์ แขวงปทุมวัน เขตปทุมวัน กรุงทพฯ "นาย ภิญโญ กิจเลิศไพโรจน์" เลขานุการคณะกรรมาธิการกระทรวงการต่างประเทศ , นาย กรศรัณย์ สิ้นเคราะห์รติกร ผู้อำนวยการศูนย์ประสานงานพรรคเพื่อไทย เขต2 , คุณสุรพงษ์ ปิ่นสุวรรณ , คุณ ทัศณี อุตะเสนา ผู้ประสานงานศูนย์ประสานงาน , นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ (สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร)

พร้อมด้วยสะพานบุญ "นายชีวานนท์ พรรัตน์ธนิกกุล" ที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการคุ้มครองผู้บริโภค สภาผู้แทนราษฎร / นายโกสินธ์ จินาอ่อน บรรณาธิการบริหารหนังสือพิมพ์สยามโฟกัสไทม์ ที่ปรึกษาสมาคมสื่อมวลชนเพื่อสังคม รวมพลังศรัทธา สร้างสรรค์ความดีตอบแทนคุณแผ่นดิน บริจาคชุด PPE 30 ชุด / น้ำดื่ม 5,000 ขวด ให้กับทาง "สภากาชาดไทย" เพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้กับทุกภาคส่วนนำไปช่วยเหลือพี่น้องประชาชนคนไทย คนพิการ คนยากไร้ คนด้อยโอกาส หน่วยงานของรัฐ  ที่มีความจำเป็นต้องการชุด PPE และน้ำดื่มเพื่อการบริโภคเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงสถานการณ์ เชื้อไวรัส covid-19 ที่กำลังแพร่ระบาดอยู่ในขณะนี้ ซึ่งต้องใช้ความร่วมมือร่วมใจ ของภาครัฐ ภาคสังคม ภาคเอกชน และภาคประชาชน รวมเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ฝ่าฟันปัญหาและอุปสรรค ที่เกิดขึ้นกับเราประชาชนคนไทยทั้งชาติ ให้ผ่านพ้นวิกฤติอันยากลำบากนี้ไปด้วยกัน เพื่อนำความสุข และรอยยิ้มของคนไทยกลับมาดังเดิม

ในการนี้ "เภสัชกรหญิงจิราวรรณ สันติพิทักษ์" ผู้ช่วยผู้อำนวยการสำนักงานบรรเทาทุกข์และประชานามัยพิทักษ์ สภากาชาดไทย ได้กล่าวขอบคุณ ที่ทุกท่าน เห็นความสำคัญกับคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชนคนไทยในเรื่อง "น้ำดื่ม" เพื่อการบริโภค ซึ่งในสถานการณ์ในปัจจุบัน "น้ำดื่ม" ถือเป็นสิ่งสำคัญ และเป็นหัวใจหลักในการดำรงชีวิตที่จะขาดมิได้ ส่วน ชุด "PPE" และ "น้ำดื่ม" ที่ได้รับมอบมา จะนำไปจัดสรรให้เกิดประโยชน์อย่างสูงสุด ในการต่อไป

ม็อบคาร์ขอนแก่น เผาหุ่น 36 รัฐมนตรีแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ขับไล่รัฐบาลบริหารประเทศล้มเหลว

เมื่อเวลา 19.30 น. วันที่ 1 ส.ค. 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายหลังจากกลุ่มราษฎรขอนแก่น ได้กำหนดจัดกิจกรรมม็อบคาร์เพื่อเน้นย้ำ 3 ข้อเรียกร้อง ประกอบด้วยการให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีพร้อมคณะรัฐมนตรี ลาออกจากตำแหน่ง การร่างรัฐธรรมนูญใหม่ฉบับที่มาจากประชาชนและปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ ด้วยการนำรถยนต์และรถจักรยานยนต์เข้าร่วมกิจกรรมนับพันคัน ขับขี่มาตามเส้นทางที่แกนนำกำหนดระยะทาง 12 กม. ตั้งแต่ช่วงเย็นที่ผ่านมา โดยทุก ๆ คัน จะบีบแตรและชูสามนิ้วเป็นการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์มาตลอดเส้นทางจนมาถึงจุดหมายหน้าศาลากลางจังหวัดขอนแก่น กลุ่มผู้ชุมนุมได้ตั้งเวทีปราศรัยอยู่กลางถนน พร้อมทั้งปิดเส้นทางไม่ให้รถสามารถสัญจรไป-มาได้ ขณะที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองขอนแก่น พร้อมด้วยฝ่ายปกครอง และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอ ได้เฝ้าสังเกตการณ์รักษาความสงบเรียบร้อยและความปลอดภัยในกิจกรรมดังกล่าว

ทั้งนี้กลุ่มผู้ชุมนุมมาพร้อมกันที่หน้าเวทีก็ได้นำหุ่นจำลองเป็นศพ 36 หุ่นรัฐมนตรีมากองไว้ที่หน้าเวที ก่อนจะราดน้ำมันและจุดไฟเผา เพื่อแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ว่าการบริหารประเทศของคณะรัฐบาลทั้ง 36 คน บริหารได้ล้มเหลวทุกด้าน และเพื่อเป็นการไว้อาลัยให้กับผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อโควิด-19 กว่า 4,000 คน ก่อนที่แกนนำจะสับเปลี่ยนกันขึ้นปราศรัยแสดงออกทางการเมือง ขณะเดียวกันยังคงมีกลุ่มนักดนตรีที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 และตกงาน ได้มาร่วมบรรเลงเพลงสะท้อนความล้มเหลว

นครนายก - แทนความห่วงใย จากใจเกรียงไกร กิตติธเนศวร นักบริหารยุคใหม่ จัดหาวัคซีนซิโนฟาร์ม (เข็มที่2) ให้พนักงานและประชาชน

แทนความห่วงใย จากใจเกรียงไกร กิตติธเนศวร และดร.เกยูร โชคล้ำเลิศ นักบริหารยุคใหม่ จัดหาวัคซีนชิโนฟาร์ม(เข็มที่2ให้พนักงาน ครอบครัวพักงาน องค์กรลูกค้าและประชาชน เมื่อเวลา 08.30 น. ของวันที่ 1 สิงหาคม 2564 ที่โรงแรมจันทรา รีสอร์ท อำเภอเมือง จังหวัดนครนายก ดร. เกยูร โชคล้ำเลิศ และ นายเกรียงไกร กิตติธเนศวร กรรมการบริษัท ยู้ ฟิชบอล จำกัด และ หจก นครนายกการโยธา อาหารเสริม ยูเอ็นซี แคลเซียม (UNC Calcium) บริการวัคซีนทางเลือก ชิโนฟาร์ม  ได้ประสานกับราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ เพื่อขอรับวัคซีนทางเลือก “ซิโนฟาร์ม” ให้กับ พนักงานและครอบครัวพนักงาน ในองค์กร ลูกค้าและประชาชนที่อยู่ในชุมชนเสี่ยงนครนายก

ด้วยความห่วงใยพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดนครนายก ดร.เกยูร โชคล้ำเลิศกรรมการ ยู้ ฟิซบอล จำกัดและนาย เกรียงไกร กิตติธเนศวร  หจก.นครนายกการโยธา ได้ประสานกับราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ เพื่อขอรับวัคซีนทางเลือก ชิโนฟาร์ม พร้อมนำบุคลากรทางการแพทย์มาฉีดวัคซีนทางเลือก ชิโนฟาร์ม ให้กับพนักงาน ครอบครัวพนักงานในองค์กร ลูกค้าและประชาชนที่อยู่ในชุมชนเสี่ยงของจังหวัดนครนายก

นายเกรียงไกร กิตติธเนศวร  หจก.นครนายกการโยธา เสริมว่า ทางเราพยายามหามาตรการป้องกันมาตลอด และคิดว่า วัคซีน คือ คำตอบของการสร้างภูมิคุ้มกันหมู่  ในเดือน มิถุนายน - สิงหาคม เราบริจาคข้าวสารมากกว่า 10000 กิโลกรัม แมสมากกว่า 2000 ลัง เจลแอลกอฮอล์ รวมทั้งอาหารสด อาหารแห้ง ทุกวันนี้ เราให้ทุกวัน  เพราะคิดว่า การให้ คือ ให้ไม่ต้องรอ ไม่ต้องคิด หากมีโอกาสเราจะนำวัคซีน หรืออะไรที่เราตัวเล็ก ๆ พอจะช่วยได้ เราจะนำมาแจกให้กับประชาชนอีกครั้ง  และเราจะทำอีกเรื่อยๆ เพราะว่า เราคือคนไทยด้วยกัน “เพราะความสำเร็จนั้นจะ เยี่ยมยอดที่สุด เมื่อมันถูกแบ่งปัน“


ภาพ/ข่าว  สมบัติ เนินใหม่ / รัชชานนท์ เนินใหม่ / ผู้สื่อข่าวจังหวัดนครนายก

รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แจ้งเตือนข้อมูลข่าวสารที่บิดเบือนหรือเป็นเท็จในลักษณะ ‘ข่าวปลอม’ (Fake News) 2 กรณี หมอประสิทธิ์ และสินเชื่อธนาคารกรุงไทย

เมื่อวันที่ 1ส.ค.2564 พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ตามนโยบายของรัฐบาล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมในการสร้างการรับรู้ข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้องให้กับพี่น้องประชาชน เพื่อป้องกันการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารที่บิดเบือนหรือเป็นเท็จในลักษณะข่าวปลอม(Fake News) จากผู้ไม่หวังดีที่พยายามบิดเบือนข้อมูลข่าวสารโดยเฉพาะในสื่อสังคมออนไลน์ นั้น โดยในวันนี้ ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมประเทศไทย ตรวจพบข่าวปลอม อีก 2 กรณี คือ

1. จากที่มีการแชร์ข้อมูลที่ระบุว่าหมอประสิทธิ์ ซึ่งเป็นคณบดีศิริราช ได้ออกประกาศขอความร่วมมือให้ประชาชนล็อกดาวน์ตัวเอง และครอบครัว เพราะตอนนี้พบสายพันธุ์แลมบ์ดา กำลังระบาดในเขตมีนบุรี และขอให้ประชาชนล็อกดาวน์ตัวเองนั้น ทางคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาลได้ชี้แจงว่า เรื่องดังกล่าวเป็นข้อมูลเท็จ ซึ่งเรื่องดังกล่าวเคยมีการส่งคลิปเสียงในประเด็นเดียวกันหลายครั้งแล้ว โดยขอยืนยันว่าข้อมูลดังกล่าวทั้งในรูปแบบข้อความ และคลิปเสียง ไม่ได้เป็นข้อมูลที่มาจาก ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาลแต่อย่างใด

ซึ่งหากมีการแนะนำหรือข้อพึงระวังเกี่ยวกับสถานการณ์วิกฤตโควิด-19 คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล จะทำการแถลงผ่านสื่อออนไลน์เป็นวิดีโอที่จะปรากฏทั้งใบหน้าและเสียง โดยไม่มีการเผยแพร่ข้อความหรือคลิปเสียงเพียงอย่างเดียว เพื่อป้องกันการแอบอ้าง

2. จากกรณีการโพสต์ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการขอสินเชื่อกับธนาคารกรุงไทย ผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตังนั้น ทางธนาคารกรุงไทยได้ตรวจสอบเรื่องดังกล่าวและชี้แจงว่า ปัจจุบันยังไม่มีบริการให้สินเชื่อผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ซึ่งแอปพลิเคชันเป๋าตัง เป็นแพลตฟอร์มด้านการเงินระบบเปิด สามารถใช้บริการแม้ไม่มีบัญชีเงินฝากของธนาคารกรุงไทย ให้บริการครอบคลุมทั้งบริการกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (E-wallet) รองรับการทำธุรกรรมโอนเงิน เติมเงิน และชำระค่าสินค้าและบริการ รวมถึงบริการกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ของภาครัฐ (G-wallet) รองรับการทำนโยบายของภาครัฐ บริการกระเป๋าสุขภาพ (Health Wallet) ตรวจเช็กสิทธิด้านสุขภาพผ่านเป๋าตัง บริการด้านการลงทุนพันธบัตรของรัฐผ่านวอลเล็ต สบม.รวมถึงบริการเกี่ยวกับกองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ที่ช่วยให้การจัดการบัญชีกยศ. สะดวก และรวดเร็ว

ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อ และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ  และเพื่อมิให้เกิดความสับสนและตื่นตระหนก

ซึ่งการกระทำของผู้เผยแพร่ข่าวปลอม อาจเข้าข่ายความผิดตาม  พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ มาตรา 14(1),(2),(5) มีอัตราโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือ ปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามพฤติการณ์ที่ได้กระทำความผิดโดย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะบังคับใช้กฎหมายกับผู้กระทำความผิดต่อไป

ทั้งนี้ หากพี่น้องประชาชนพบข้อมูลการกระทำผิด สามารถแจ้งเบาะแสผ่าน 4 ช่องทาง ได้แก่ เว็บไซต์ https://www.antifakenewscenter.com ,เฟซบุ๊ก ANTI-FAKE NEWS CENTER, ทวิตเตอร์ @AFNCThailand, ไลน์ @antifakenewscenter และช่องทางโทรศัพท์โทรสายด่วน GCC 1111 ต่อ 87

ตร. เตือนประชาชน ระวัง! “ฟ้าทะลายโจรปลอม” ผู้ขายระวังโทษหนัก

เมื่อวันที่ 1 ส.ค.2564  พ.ต.อ.ศิริวัฒน์  ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติมีความเป็นห่วงใยพี่น้องประชาชนในช่วงที่มีการระบาดของโรคโควิด-19 มีประชาชนเป็นจำนวนมากหาซื้อผลิตภัณฑ์สมุนไพรฟ้าทะลายโจร ทำให้เกิดความต้องการในท้องตลาดสูง จึงมีมิจฉาชีพหรือผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ปลอม ฉวยโอกาสโดยการโฆษณาขายผ่านสื่อสังคมออนไลน์ ขายผลิตภัณฑ์ฟ้าทะลายโจรปลอม หรือใช้หมายเลข อย.ปลอม หรือ โฆษณาแสดงสรรพคุณอันเป็นเท็จ เกินความจริง ทำให้เข้าใจผิดในสรรพคุณ หรือ ทำให้เข้าใจว่ามีวัตถุใดเป็นส่วนประกอบ ซึ่งความจริงไม่มีวัตถุหรือส่วนประกอบน้ัน ในผลิตภัณฑ์สมุนไพร หรือมีแต่มีไม่เท่าที่ทำให้เข้าใจตามที่โฆษณา ฯลฯ

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงขอประชาสัมพันธ์ เพื่อเตือนให้พี่น้องประชาชนระมัดระวังในการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ฟ้าทะลายโจร โดยให้เลือกซื้อจากร้านค้าที่มีมาตรฐาน มีความน่าเชื่อถือ และควรตรวจสอบข้อมูลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น การอนุญาตผลิตภัณฑ์ จากเว็บไซต์ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา www.fda.moph.go.th หรือ Oryor Smart Application และตรวจสอบข้อมูลจาก เว็บไซต์ ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ประเทศไทย www.antifakenewscenter.com เป็นต้น

สำหรับผู้ที่กระทำความผิดในการขายผลิตภัณฑ์ฟ้าทะลายโจรปลอมหรือโฆษณาขายในลักษณะผิดกฎหมายในสื่อสังคมออนไลน์ จะมีความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 343 มีอัตราโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท ฯ และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14(1) นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหาย แก่ประชาชน มีอัตราโทษจำคุกไม่เกินห้าปี ปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท

นอกจากนี้ยังมีความผิด ตาม พ.ร.บ.ผลิตภัณฑ์สมุนไพร พ.ศ.2562 ตามแต่พฤติการณ์ที่ได้กระทำ เช่น มาตรา 58 (1)ผลิต หรือขายผลิตภัณฑ์สมุนไพรปลอมฯ ประกอบมาตรา 102 มีอัตราโทษจำคุกไม่เกินสามปี และปรับไม่เกินสามแสนบาทบาท มาตรา 70 โฆษณาผลิตภัณฑ์สมุนไพรโดยไม่ได้รับอนุญาตฯและ มาตรา 74 โฆษณาผลิตภัณฑ์สมุนไพรในลักษณะผิดกฎหมายฯ ประกอบมาตรา 114 มีอัตราโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบังคับใช้กฎหมายกับผู้กระทำความผิดต่อไป ทั้งนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอความร่วมมือมายังพี่น้องประชาชน หากพบเห็นการกระทำผิดกฎหมายดังกล่าว กรุณาแจ้งเบาะแสไปยังสายด่วน 191 และสายด่วนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 1599 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

"ผู้นำคนพิการ ด้ามขวานไทย" ผนึกกำลังภาครัฐ และมูลนิธิฯ บรรเทาทุกข์ช่วงโควิด-19

วันที่ 1 สิงหาคม 2564 คุณสือนะ ดีสะเอะ อุปนายก "สมาคมคนพิการภาคใต้" ร่วมภารกิจเยี่ยมเยือน มอบขวัญกำลังใจให้แก่ กลุ่มเปราะบาง / คนยากไร้ / คนพิการ และ ครอบครัวที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิค-19 ใน จ.นราธิวาส ดังนี้

>> 1. พื้นที่บ.ยานิง ม.2 ต.จวบ อ.เจาะไอร้องฯ ร่วมกับ "จ.ส.อ.รอซะ บือราหง" ชป.กร.ร้อย.ทพ.4803 และ "นายนิจิ นิเยะ" ผญบ.ม.2ฯ มอบถุงปัจจัยยังชีพฯ

>> 2. พื้นที่บ.โต๊ะเล็ง ม.3 ต.บูกิต อ.เจาะไอร้องฯ ร่วมกับ "นายอับดุลมูฮี สะอิ" ผญบ.ม.3ฯ มอบถุงปัจจัยยังชีพฯ

ในการนี้ "คุณสือนะ ดีสะเอะ" อุปนายกสมาคมคนพิการภาคใต้ ขอขอบพระคุณ "พ.อ.ชลัช ศรีวิเชียร" รอง ผอ.กิจการพิเศษ ศูนย์สันติวิธีฯ(สล.3) และ "มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง" ที่เล็งเห็นความสำคัญของพี่น้องประชาชนที่อาศัยอยู่ในเขตพื้นที่ และประสบปัญหา การดำรงชีวิตในช่วงสถานการณ์ covid-19 ที่ส่งผลกระทบในเรื่องของการใช้ชีวิตประจำวัน การประกอบสัมมาอาชีพ โดยไม่สะดวก แต่ด้วยน้ำหนึ่งน้ำใจเดียวของพี่น้องประชาชนคนไทย จึงได้รับความอนุเคราะห์ และให้การช่วยเหลือเป็นอย่างดี ในครั้งนี้

ผบ.ตร. ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจ พร้อมมอบอุปกรณ์การตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 พร้อมทั้งมอบอาหารและครื่องดื่ม ให้แก่ทีมแพทย์พยาบาล จิตอาสาและผู้เข้ารับการตรวจคัดกรอง

พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษก ตร. เปิดเผยว่า วันนี้ เวลา 11.00 น. พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.อ. ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์  รอง ผบ.ตร., พล.ต.อ.สุรพล อยู่นุช ที่ปรึกษาพิเศษ (สบ.10) พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. และ พล.ต.ท.โสภณรัชต์ สิงหจารุ แพทย์ใหญ่ รพ.ตร. ได้ไปตรวจเยี่ยมให้กำลังใจในการตรวจคัดกรองค้นหาผู้ติดเชื้อโควิด -19 โดยใช้สถานที่ของแฟลตตำรวจลือชา เป็นสถานที่ตรวจคัดกรอง มีประชาชนชุมชนซอยลือชา และข้าราชการตำรวจพร้อมครอบครัว เข้ารับการตรวจ 800 กว่าราย โดยมีทีมแพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่รพ.ตำรวจ และกำลังพลจิตอาสา ร่วมกันปฏิบัติหน้าที่

วัตถุประสงค์ของการตรวจคัดกรองครั้งนี้ เพื่อหยุดยั้งการเพิ่มจำนวน และการแพร่ระบาดของผู้ป่วยสีเขียวให้ทันท่วงที ก่อนที่จะพัฒนาไปเป็นผู้ป่วยสีส้ม-แดง รวมถึงยังเป็นการสร้างขวัญกำลังใจให้ข้าราชการตำรวจและครอบครัว เพื่อตำรวจจะได้มีความพร้อมในการปฏิบัติหน้าที่สนับสนุนการระงับ ยับยั้ง ชะลอการแพร่ระบาดของโรค ให้สถานการณ์การแพร่ระบาดได้คลี่คลายและควบคุมได้

โฆษก ตร. กล่าวเพิ่มเติมว่า ผบ.ตร. ได้ขอบคุณทีมงานทุกคน และประชาชนที่เข้าร่วมการตรวจคัดกรองในวันนี้ และได้มอบอุปกรณ์การตรวจให้กับทีม รพ.ตำรวจ พร้อมทั้งอาหาร และเครื่องดื่มให้กับผู้ปฏิบัติหน้าที่ ประชาชนและครอบครัวตำรวจ ต่อมา ผบ.ตร. และคณะได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมให้กำลังใจการตรวจคัดกรองหาเชื้อให้แก่ประชาชนในชุมชนสินทวี ย่านจอมทอง ท่าข้าม และข้าราชการตำรวจพร้อมครอบครัว พื้นที่ บก.น.9 เข้ารับการตรวจ 700 กว่าราย


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top