Sunday, 18 May 2025
THE STATES TIMES TEAM

ตำรวจเมืองช้าง จับกุมพ่อค้าไม้พะยูงและไม้ประดู่ ฝ่าสถานการณ์โควิด-19

วันที่ 28 กรกฏาคม 2564 เวลา 17.30 น. ภายใต้การอำนวยการของ พ.ต.อ. สรกฤช พันธ์ศรี ผกก.สืบสวน ภ.จว. สุรินทร์ ได้สั่งการให้ พ.ต.ท. วิชิตเวช ต๊ะผัด รอง ผกก. สืบสวน พ.ต.ต. สาโรจ ตระกูลโศภิษฐ์  สว.กก.สืบสวน ได้สั่งการให้ชุด ปทส.กก.สืบสวน ภ.จว.สุรินทร์ โดยมี ร.ต.อ.ปราโมทย์ เที่ยงธรรม ร.ต.อ.เฉลิมพล สายรัตน์ รองสว.กก.สืบสวน ดต.ธวัช เจนรอบ ส.ต.อ.ประสาน ราษีทอง ส.ต.ต.นุชา เหล่าพุทธา ผบ.หมู่ กก.สืบสวนร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พนมดงรัก เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่สร.3 จนท.ตร.ชุด ปทส. ภาค 3 และ จนท.ชุดปฎิบัติการพิเศษป่าไม้สุรินทร์ ได้ทำการตรวจสอบไม้ดังกล่าวพร้อมได้ทำการจับกุมตัว

1.นายรวย ธรรมธร อายุ 58 ปี บ้านเลขที่ 167หมู่ 1 ต.ทุ่งสว่าง อ.วังหิน จ.ศรีสะเกษ

2. นาง สุรวิภา สีดำ อายุ 45 ปี บ้านเลขที่ 132 ม. 7 ต.ดู่ อ.ราษีไศล จ.ศรีสะเกษ

พร้อมของกลาง

1.ไม้ประดู่ จำนวน 16 ท่อน ปริมาตร 7.45 ลบม.

2. ไม้พะยูง จำนวน 13 ท่อน ปริมาตร 3.09 ลบม.

3. รถยนต์บรรทุกสิบล้อ เทรลเลอร์ ยี่ห้ออีชูซุ สีขาว เลขทะเบียน 82-8352 ศรีสะเกษ จำนวน 1 คัน 

ช่วงเวลา 16.00 น.จนท.ตร.สภ.พนมดงรัก ได้ตั้งจุดตรวจบริเวณทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 224 หน้า อบต.ตาเมียง อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์และเวลา 17.30 น.พบรถยนต์คันดังกล่าวบรรทุกไม้ผ่านมาจึงได้เรียกเพื่อทำการตรวจสอบพบว่าไม่มีเอกสารการได้มาของไม้มาแสดงต่อ จนท.จึงได้บันทึกจับกุมพร้อมของกลางส่ง พงส.สภ.พนมดงรัก เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป


ภาพ/ข่าว  ปุรุศักดิ์ แสนกล้า

สุรินทร์ - พาณิชย์จังหวัดสุรินทร์ จัดโครงการ ‘รถ Mobile…พาณิซย์ลดราคา!’ ช่วยประชาชน กระตุ้นเศรษฐกิจจังหวัดสุรินทร์

วันที่ 29 กรกฎาคม 2564 นายสุวพงศ์ กิติภัทย์พิบูล ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เป็นประธานปล่อยขบวนรถ โครงการรถ Mobile...พาณิซย์ลดราคา! ช่วยประชาชน กระตุ้นเศรษฐกิจ จังหวัดสุรินทร์ โดยมี พันเอกชินวิช  เจริญพิบูลย์ รองผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 25 หัวหน้าส่วนราชการ ร่วมกิจกรรม และมี นายสิทธิศักดิ์  พรหมบุตร พาณิชย์จังหวัดสุรินทร์ กล่าวรายงาน  จากสถานการณ์การระบาดระลอกใหม่ของโรคไวรัสโควิด-19 ได้ขยายระบาดโรคออกเป็นวงกว้างกระจายไปในหลายพื้นที่ ส่งผลให้ภาคธุรกิจบางส่วนปิดตัวลง ทำให้เกิดการว่างงาน การบริโภคครัวเรือนหยุดชะงัก เนื่องจากประชาชนเกิดความหวาดระแวงในการออกนอกพื้นที่ และให้ความร่วมมือกับรัฐบาลในการอยู่บ้านหยุดเชื้อเพื่อชาติ โดยงดออกนอกเคหะสถาน และมาตรการ Work from Home

ซึ่งการแพร่ระบาดของโรคดังกล่าวได้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ รองรัฐนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์) จึงได้สั่งการให้กระทรวงพาณิชย์ดำเนินโครงการ รถ Mobile...พณิชย์ลดราคา! ช่วยประชาชน กระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก และเมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2564 คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบและอนุมัติงบประมาณ จำนวน 161.3240 ล้านบาทจากงบประมาณเงินกู้ ให้กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมการค้าภายใน ดำเนินโครงการรถ Mobile พาณิชย์...ลดราคา! ช่วยประชาชน กระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากขึ้น  เพื่อช่วยประชาชนในพื้นที่ของทุกจังหวัด ระยะเวลาดำเนินการ 1 เดือน

สำหรับโครงการดังกล่าว เป็นการจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นต่อการครองชีพ และสินค้าเกษตร/ชุมชนที่ได้รับกระทบจากโรคระบาดไวรัสโควิด-19 ผ่านรถ Mobile เคลื่อนที่ ซึ่งเป็นกลไกหนึ่งที่สำหรับบรรเทาความเดือดร้อนและลดค่าครองชีพ ตลอดจนเป็นการลดความเสี่ยงจากการเดินทางไป จับจ่ายสินค้าให้แก่ประชาชนในช่วงเกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 รวมทั้งยังเป็นการกระจายผลผลิตให้แก่เกษตรกร เกิดการจ้างงานให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 สำหรับจังหวัดสุรินทร์ มีเป้าหมาย จำนวนรถ Mobile จำนวน 12 คัน ครอบคลุมทั้ง 17 อำเภอ 159 ตำบล รวมทั้งหมด 720 จุด (คันละ 2 จุดต่อวัน) ในการนำสินค้าอุปโภคบริโภคไป จำหน่ายให้กับประชาชนในราคาประหยัดที่ต่ำกว่าท้องตลาดทั่วไป ประมาณ 10-40 % อาทิเช่น ไข่ไก่ น้ำมันพืช ปลากระปอง น้ำตาลทราย บะหมี่ถึงสำเร็จรูป

โดยเริ่มวิ่งไปแล้วเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2564 และจะสิ้นสุดในวันที่ 26 สิงหาคม 2564 สำหรับโครงการนี้ ได้รับความ ร่วมมือจากภาครัฐ ภาคเอกชนอย่างดี โดยเฉพาะท่านนายอำเภอทุกอำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกแห่ง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ที่อำนวยความสะดวกในการกำหนดจุดจำหน่าย การประชาสัมพันธ์ การจัดส่งเจ้าหน้าไปอำนวยความสะดวก และการกำกับดูแลตามมาคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสุรินทร์อย่างเคร่งครัด


ภาพ/ข่าว  ปุรุศักดิ์  แสนกล้า

อดีตพ่อค้าออนไลน์ธุรกิจเจ๊ง ผันตัวเข้าสู่ขบวนการค้ารถหรูเถื่อนสวมทะเบียน

อดีตพ่อค้าเครื่องสำอางออนไลน์ในตลาดโรงเกลือ จังหวัดสระแก้ว ธุรกิจพังจากสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด 19 หันไปเอาดีทางด้านมืด โดยผันตัวเองเข้าไปสู่ขบวนการค้ารถหรูเถื่อน พร้อมสวมทะเบียนปลอม

ตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว บุกเข้าควบคุมตัวนายธนธรณ์ กิจสมัย อายุ 39 ปี ชาวบ้านในอำเภออรัญประเทศ ขณะขับรถเก๋งยี่ห้อ มินิคูเปอร์ สีครีม-แดง ทะเบียน 1 กฌ 3332 กรุงเทพฯ จอดอยู่ภายในปั้มน้ำมัน ปตท.เพชรรัตน์ บนถนนธนะวิถี ตำบลหนองสังข์ อำเภออรัญประเทศ หลังจากตำรวจพบข้อมูลว่า นายธนธรณ์ฯ ได้ใช้รถหรูคันนี้โดยสวมทะเบียนปลอม จากการสอบสวนนายธนธรณ์ฯ ยอมรับว่า รถเก๋งมินิคูเปอร์คันนี้ ซื้อมาในราคา 290,000 บาท จากเฟสบุ๊กที่ใช้ชื่อว่า รถหลุดจำนำจากนายทุน พร้อมทั้งทะเบียนปลอม 1 กฌ -3332 กรุงเทพฯ อีก 2 แผ่นป้าย ในราคา 2,500 บาท โดยทางเพจเฟสบุ๊กดังกล่าว จัดหามาให้ทั้งหมด

โดยนายธนธรณ์ฯ ยังยอมรับอีกว่า ก่อนหน้านี้ เคยประกอบธุรกิจจำหน่ายเครื่องสำอางค์ผ่านช่องทางออนไลน์ อยู่ภายในตลาดโรงเกลือ แต่จากสภาพเศรษฐกิจในช่วงการแพร่ระบาดโควิด 19 จึงทำให้ธุรกิจไปไม่รอด ก่อนจะหันมาจับธุรกิจ ซื้อขายรถหรูในราคาถูกก่อนจะขายต่อทำกำไร เช่นเดียวกับรถเก๋งมินิคูเปอร์คันนี้ ซื้อมาไม่ถึง 300,000 บาท จะประกาศขายต่อในราคาๆเกือบๆ 400,000 บาท จากนั้น เจ้าหน้าที่แจ้งข้อกล่าวหา ปลอมหรือใช้เอกสารสิทธิ์หรือเอกสาราชการปลอม ก่อนถูกนำตัวส่งสถานีตำรวจภูธรอรัญประเทศ ดำเนินคดี

ขณะที่ตำรวจชุดจับกุม ให้ข้อมูลว่า รถเก๋งมินิคูเปอร์คันนี้ เป็นรถหลบหนีไฟแนนซ์มา โดยผู้ต้องหาใช้อยู่ในเขตอำเภออรัญประเทศ ก่อนเจ้าหน้าที่จะพบพิรุธจากรถคันนี้หลายจุด และเมื่อตรวจสอบในระบบฐานข้อมูลของกรมการขนส่งทางบก ปรากฏว่า ทั้งเลขตัวถังรถ แผ่นป้ายทะเบียน พบว่าข้อมูลไม่ตรงกัน นอกจากนั้น เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมยังพบอีกว่า ทะเบียน 1 กฌ 3332 กรุงเทพฯ ได้มีการใช้เลขทะเบียนนี้ ที่กรุงเทพฯ 1 คัน ภาคอีสาน 1 คันและจังหวัดสระแก้ว 1 คัน โดยผู้ต้องหาคนนี้ ยอมรับ หลังเลิกจากธุรกิจค้าเครื่องสำอางออนไลน์ ได้หันไปเข้าสู่ขบวนการซื้อขายรถหรูราคาถูก ลักษณะซื้อถูกขายแพง โดยอาศัยส่วนต่าง เพื่อให้อยู่ได้ในช่วงสถานการณ์โรคระบาดแบบนี้


ภาพ/ข่าว  สมสัณห์ เอี่ยมศิลป์ / บูรพาทีวีออนไลน์ รายงาน

นักแสดงช่อง 3 สนับสนุนโครงการ “BLOOD CHALLENGE” ของสภากาชาดไทย ร่วมแชร์ผ่านโซเชียล และชวนคนไทยบริจาคโลหิต

จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ส่งผลกระทบอย่างต่อเนื่องไปทุกภาคส่วน ล่าสุดทำให้การบริจาคโลหิตของประชาชนมีจำนวนลดน้อยลง ในขณะที่ปัจจุบันจำนวนโลหิตที่จำเป็นต้องใช้รักษาผู้ป่วยมีจำนวนไม่เพียงพอจนเข้าขั้นวิกฤต ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย จึงได้จัดทำโครงการภายใต้ชื่อ Blood Challenge “ได้เวลากลับมาช่วยเพื่อน บริจาคโลหิต ฝ่าวิกฤติ COVID-19” ชวนคนไทยส่งต่อบุญผ่านสังคมออนไลน์ และเชิญชวนเหล่าศิลปินนักแสดงทั่วประเทศร่วมกัน Challenge ส่งความตั้งใจดี ๆ สู่กัน สถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 ได้ให้การสนับสนุนโครงการ Blood Challenge ครั้งนี้

โดยเชิญชวนนักแสดงร่วมประชาสัมพันธ์สร้างกระแสให้คนไทยร่วมบริจาคโลหิตมากขึ้น โดยการถ่ายภาพถือป้ายรณรงค์ เขียนข้อความเชิญชวนสั้น ๆ โพสต์ลง Social Media ส่วนตัว ทั้ง Facebook, Instagram, Twitter และ TikTok พร้อมติด #BloodChallenge ซึ่งได้รับการตอบรับจากเหล่านักแสดงช่อง 3 เป็นอย่างดี รวมถึงนักแสดงหลายท่านยังได้เดินทางไปบริจาคโลหิตที่ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทยด้วยตัวเอง อาทิ แอน ทองประสม, หมาก ปริญ สุภารัตน์, คิมเบอร์ลี แอน โวลเทมัส, อาเล็ก ธีรเดช เมธาวรายุทธ, ภณ ณวัสน์ ภู่พันธัชสีห์, เต้ย พงศกร เมตตาริกานนท์, หมอก้อง สรวิชญ์ สุบุญ, อาร์ม พิพัฒน์ วิทยาปัญญานนท์, เต้ย จรินทร์พร จุนเกียรติ, พรีม รณิดา เตชสิทธิ์, เกรท วรินทร ปัญหกาญจน์, โยเกิร์ต ณัฐฐชาช์ บุญประชม, เจมส์ จิรายุ ตั้งศรีสุข, มิ้นต์ ชาลิดา วิจิตรวงศ์ทอง และ น็อต วรฤทธิ์ เฟื่องอารมย์ นอกจากนี้แพลตฟอร์มออนไลน์ของช่อง 3 และ รายการข่าวของสถานีข่าวช่อง 3 ยังได้ร่วมประชาสัมพันธ์ให้กับโครงการเช่นกัน

 

สำหรับกิจกรรม Blood Challenge “ได้เวลากลับมาช่วยเพื่อน บริจาคโลหิต ฝ่าวิกฤติ COVID-19” ครั้งนี้ประชาชนทั่วไปสามารถให้การสนับสนุนด้วยเช่นกัน โดยนอกจากการร่วมบริจาคโลหิตที่ศูนย์บริหารโลหิตแห่งชาติ และศูนย์บริจาคทั่วประเทศแล้ว ยังสามารถช่วยโดยการโพสต์ข้อความเชิญชวนลง Social Media ส่วนตัว ติด #BloodChallenge และตั้งค่าเป็นสาธารณะ พร้อม Tag ไปชวนครอบครัว เพื่อน หรือคนรู้จัก ร่วมแคมเปญต่ออีก 3 คน เป็นการกระตุ้นการร่วมบริจาคโลหิตในสภาวะวิกฤต เพื่อให้โรงพยาบาลทั่วประเทศจะได้มีโลหิตสำรองที่เพียงพอที่จะใช้ดูแลรักษาผู้ป่วยต่อไป ติดต่อสอบถามได้ที่หมายเลข 0 2256 4300

 

 

 

เพชรบูรณ์ - “เหมืองทองอัครา” มอบอุปกรณ์ทางการแพทย์ให้กับโรงพยาบาลในเพชรบูรณ์ เพื่อร่วมฝ่าวิกฤติ COVID-19

เพื่อให้การบริหารจัดการในการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคไวรัส COVID-19 ในจังหวัดเพชรบูรณ์เป็นไปอย่างคล่องตัวและมีประสิทธิภาพ นายกฤษณ์ คงเมือง ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์  และสำนักงานสาธารณสุขประจำจังหวัด จึงเร่งลงพื้นที่ตรวจเชิกรุก เตรียมความพร้อมของสถานที่ เครื่องมือและอุปกรณ์ในการรักษา พร้อมทั้งให้กำลังใจบุคคลากรทางการแพทย์ ซึ่งเป็นนักรบด่านหน้าในการก้าวผ่านวิกฤกติโควิดครั้งนี้

ในโอกาสนี้ บริษัท อัครา รีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน) ขอเป็นส่วนหนึ่งในการจัดหาอุปกรณ์ทางการแพทย์มูลค่า 150,000 บาท ให้กับโรงพยาบาลวังโป่งและโรงพยาบาลชนแดน เพื่อให้นักรบด่านหน้าของเรามีอุปกรณ์เพียงพอในการต่อสู้กับโควิด โดยได้รับเกียรติจากนายสมศักดิ์ เกี้ยวเกิด นายอำเภอวังโป่ง นายนาวิน สังฆมาตร นายอำเภอชนแดน นายณัฐพัชร์ ภัทรพิศิษฐ์ ปลัดอาวุโสอำเภอวังโป่ง พร้อมด้วยคณะแพทย์พยาบาลของโรงพยาบาลทั้ง 2 แห่งเป็นผู้รับมอบเมื่อวันที่  22 กรกฎาคมที่ผ่านมา #เพราะเราต้องรอดไปด้วยกัน


ภาพ/ข่าว  ยุทธ ศรีทองสุข / มนสิชา คล้ายแก้ว

นครศรีธรรมราช - นิพนธ์ ยัน พร้อมช่วยเหลือเกษตรกรราคามังคุดภาคใต้ตกต่ำ สั่งการใช้กลไกมหาดไทย อำนวยความสะดวกเดินทางมารับซื้อผลผลิตให้เพิ่มมากขึ้น ประสาน 3 กระทรวง

เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 29 กรกฎาคม 2564 ที่ห้องประชุมศรีวิชัย ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดนครศรีธรรมราช นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายสินิตย์ เลิศไกร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์และคณะ ลงพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อติดตามการแก้ไขปัญหาราคาไม้ผลตกต่ำ(มังคุด) โดยมีนายไกรศร วิศิษฎ์วงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช หัวหน้าส่วนราชการและผู้แทนภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งส.ส.พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดนครศรีธรรมราช ในฐานะตัวแทนเกษตรกรเข้าร่วมประชุมหารือแนวทางแก้ไขปัญหา

นายนิพนธ์ กล่าวว่า "เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้เกษตรกรชาวสวนมังคุดภาคใต้และภาคตะวันออก ได้รับผลกระทบไม่สามารถส่งผลผลิตไปขายยังพื้นที่ต่าง ๆ ได้ โดยมังคุดออกสู่ท้องตลาดเป็นจำนวนมากในช่วงเดือนกรกฎาคม-สิงหาคมของทุกปี  ทำให้ผลผลิตล้นตลาดและราคาตกต่ำ ด้วยกลไกของกระทรวงมหาดไทยยินดีสนับสนุนและให้ความร่วมมือช่วยเหลือพี่น้องชาวเกษตรกร  ส่วนปัญหาการขาดแคลนจุดรับซื้อและกระจาย(ล้ง)และแรงงานที่จะลงไปรับซื้อและคัดแยกมังคุดในพื้นที่จุดรวบรวมใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช ได้หารือกับผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี นครศรีธรรมราช และชุมพร โดยผู้ว่าฯ ทั้ง 3 จังหวัดรับทราบปัญหาและช่วยผ่อนผันให้ล้งและแรงงานเคลื่อนย้ายไปซื้อมังคุดที่นครศรีธรรมราช ชุมพร และจังหวัดอื่น ๆ ในภาคใต้ได้ โดยทำงานร่วมกันระหว่างแรงงานจังหวัดและสาธารณสุขจังหวัดในการปฏิบัติตามมาตรการควบคุมโควิด-19 สำหรับสถานการณ์ของการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) นั้น จังหวัดนครศรีธรรมราช ได้ผ่อนปรนมาตรการดังกล่าวแล้ว

ทั้งนี้รัฐบาลในการประชุมคณะรัฐมนตรีที่ผ่านมา โดยนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ยังได้ขอความร่วมมือไปยังเรือนจำ กรมราชทัณฑ์ให้จัดมังคุดเข้าไปในเมนูอาหารของกรมราชทัณฑ์ด้วย จึงขอให้มั่นใจว่าทุกมาตรการรัฐบาลดูแลอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงมหาดไทยที่ยืนยันสนับสนุนการดูแลแก้ปัญหาให้กับพี่น้องชาวเกษตรกรอย่างเต็มที่เร่งด่วนและรวดเร็วที่สุด ส่วนปัญหาเรื่องตู้บรรทุกสินค้า ขาดช่วง ตู้กลับไม่ทัน จังหวัดนครศรีธรรมราชได้ประสานงานเพื่อแก้ไขปัญหากรณีด่านตรวจประเทศเพื่อนบ้านใช้เวลาในการตรวจตู้สินค้าเป็นเวลานาน เพื่อให้รถบรรทุกสินค้ากลับมารับผลไม้ของจังหวัดนครศรีธรรมราชได้ทัน ไม่มีผลผลิตตกค้างในพื้นที่

นครพนม - ทบ.นำเครื่องบินลำเลียง 295 ส่งผู้ป่วยโควิด ถึงภูมิลำเนาอย่างปลอดภัย

วันที่ 29 กรกฎาคม 2564 ที่จังหวัดนครพนม พลตรี สามารถ จินตสมิทธิ์ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 210 พร้อมด้วย นายสุวิทย์ จันทร์หวร รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม นายสมชัย นำโชคประเสริฐ นักวิชาการขนส่งชำนาญการ รักษาราชการแทนผู้อำนวยการท่าอากาศยานนครพนม นายแพทย์ขวัญชัย ประเสริฐยิ่ง รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครพนม และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมกันจัดเตรียมสถานที่บริเวณท่าอากาศยานนครพนมและศูนย์พักคอยเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการรับช่วงต่อจากกองทัพบกที่ได้ให้การสนับสนุนเครื่องบินลำเลียง 295 ส่งผู้ป่วยโควิด – 19 กลับบ้านที่นครพนม ซึ่งในวันนี้เป็นเที่ยวบินแรกที่นำส่งผู้ป่วยที่นครพนม

พลตรี สามารถ จินตสมิทธิ์ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 210 เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ที่มีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้ทีมแพทย์ต้องรับมือและแก้ไขปัญหาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งค่อนข้างที่จะมีข้อจำกัดในด้านจำนวนบุคลากร ดังนั้นจึงได้มีการส่งต่อผู้ป่วยไปตามพื้นที่ต่าง ๆ ของในแต่ละจังหวัดเพื่อแบ่งเบาภาระ ซึ่งทางรัฐบาลและกองทัพบก ได้มีความตระหนักและเห็นถึงความสำคัญในการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยกลับสู่ภูมิลำเนา และที่ผ่านมาก็มีทั้งการเตรียมการในการจัดขบวนยานพาหนะนับ 100 คัน ไว้ที่กองทัพภาคที่ 2 และมีการขนย้ายมาบ้างแล้วในทางรถยนต์ ส่วนทางรถไฟในปัจจุบันก็มีการเตรียมแผนเช่นเดียวกัน แม้จะมีการเลื่อนไปเมื่อในเมื่อวานแต่วันนี้ก็ดำเนินการแล้วเหมือนกัน

ในส่วนของจังหวัดนครพนมซึ่งมีระยะทางที่ไกลและผู้ป่วยมีความจำเป็นเร่งด่วนทางกองทัพบก ก็ได้มีการสนับสนุนเครื่องบินลำเลียงแบบ 295 ซึ่งเป็นเครื่องบินที่ใช้งานทั่วไป เพื่อขนย้ายพี่น้องประชาชนที่พบเชื้อโควิดกลับภูมิลำเนา ซึ่งเดิมทีจะมาตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว แต่เนื่องจากสภาพอากาศที่ปิดทำให้เป็นอุปสรรคต่อการบิน เกิดความไม่ปลอดภัย จึงยังไม่ได้นำส่งผู้ป่วย แต่ในวันนี้ที่สภาพอากาศพร้อมจึงได้นำผู้ป่วยบินกลับภูมิลำเนา จำนวน 2 เที่ยวบิน โดยเที่ยวแรกในเวลา 11:30 น จำนวน 18 คน เที่ยวบินที่ 2 เวลา 15.30 น. อีก 20 คน

ซึ่งก็ต้องขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่ได้ร่วมบูรณาการในครั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็น ท่าอากาศยานนครพนมที่ได้สนับสนุนพื้นที่ในการลงจอดของเครื่องบิน หน่วยงานสาธารณสุขที่สนับสนุนบุคลากรในการตรวจคัดกรองและรักษาผู้ป่วย โดยทางมณฑลทหารบกที่ 210 จะดำเนินการลำเลียงผู้ป่วยจากสนามบินไปยังจุดพักคอยเพื่อคัดกรองผู้ป่วยก่อนนำส่งต่อไปยังจุดรักษาต่าง ๆ ตามอาการ ไม่ว่าจะเป็นโรงพยาบาลหลักและโรงพยาบาลสนาม ในส่วนของค่ายพระยอดเมืองขวางก็ได้มีการเตรียมความพร้อมในการจัดสถานที่เพื่อรองรับเป็นลักษณะของโรงพยาบาลสนามเช่นเดียวกันหากโรงพยาบาลฝ่ายพลเรือนมีเตียงไม่เพียงพอ ซึ่งก็อยากฝากถึงพี่น้องประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงกับโรงพยาบาลค่ายพระยอดเมืองขวาง ที่เมื่อมีผู้ป่วยเข้าไปในค่ายแล้วทางค่ายจะมีมาตรการที่เข้มงวดและเข้มข้นในการที่จะไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดไปสู่ชุมชนและพื้นที่

ขอให้ทุกคนมีความมั่นใจในแนวทางการปฏิบัติว่าทางค่ายพระยอดเมืองขวางมีความพร้อมที่จะเป็นอีกหนึ่งหน่วยที่จะช่วยแบ่งเบาภาระและพร้อมในการแก้ไขปัญหาอย่างเต็มที่และเต็มประสิทธิภาพ


ภาพ/ข่าว  สุเทพ หันจรัส ผู้สื่อข่าวนครพนม

ปทุมธานี – นครรังสิต เตรียมเปิดรพ.สนาม อาคารหอประชุม 100 ปี เมืองธัญบุรี ต้นเดือนนี้พร้อมรับ 300 เตียง

เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2564 ที่อาคารหอประชุม 100 ปี เมืองธัญญบุรี ถนนรังสิต-นครนายก ตำบลประชาธิปัตย์ อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี ร.ต.อ.ดร.ตรีลุพธ์ ธูปกระจ่าง นายกเทศมนตรีนครรังสิต กล่าวว่า วันนี้ ทน.รังสิตได้เตรียมเปิดโรงพยาบาลสนามที่หอประชุม 100 ปี เมืองธัญบุรี ของเทศบาลนครรังสิต โดยเฟสแรกมีเตียง 128 เตียง รวมแล้วจะทยอยเพิ่มเตียงให้ได้จำนวน 300 เตียง โดยจะเปิดได้ช่วงต้นเดือนนี้

ซึ่งปัจจุบันในพื้นที่เทศบาลนครรังสิตได้มีผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 และได้กักตัวเองอยู่ที่บ้าน Home isolation จำนวน 236 คน และทางเทศบาลนครรังสิตได้เปิดโรงครัว เพื่อส่งอาหารให้ผู้ที่กักตัวที่บ้านทั้ง 3 มื้อจำนวนวันละเกือบ 1,000 กล่อง ขณะนี้มีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นทุกวัน ในส่วนของวัคซีน ชิโนฟาร์มนั้นทางราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ได้อนุมัติวัคซีนให้ จำนวน 1,130 โดส ซึ่งคาดว่าจะมาถึงเราประมาณต้นเดือนนี้ โดยจะรีบจัดสรรให้กับพี่น้องประชาชนที่ลงทะเบียนไว้ให้เร็วที่สุด ฝากถึงพี่น้องประชาชนเราต้องดูแลตัวเราเอง โดยป้องกันทุกอย่าง เพราะว่าขณะนี้สถานการณ์รุนแรงเพิ่มมากขึ้น มีจำนวนผู้ป่วยเพิ่มมากขึ้น เราต้องระมัดระวัง ต้องรักษาความสะอาด สวมใส่แมส ยิ่งหากเรายังไม่ได้รับวัคซีนต้องยิ่งระมัดระวังมากขึ้น แต่เมื่อได้รับวัคซีนแล้วก็ยังต้องระมัดระวัง สถานการณ์แบบนี้เราต้องช่วยกัน ทางเทศบาลนครรังสิตจะได้รีบจัดสรรวัคซีน การจัดถุงยังชีพต้องทั่วถึง อาจจะช้าต้องขออภัยด้วย และขอเป็นกำลังใจให้ทุก ๆ ท่าน


ภาพ/ข่าว ประภาพรรณ ขาวขำ รายงาน

"IWRM" นำน้ำดื่ม 2,400 ขวด พร้อมกับจิตอาสาทำดี นำต้นกล้า "ฟ้าทะลายโจร" ถวาย "หม่อมเจ้าอุทัยกัญญา ภาณุพันธุ์" เพื่อช่วยเหลือประชาชนในช่วงสถานการณ์โควิด-19

เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2564  ณ ที่ทำการผู้ใหญ่บ้านหมู่ 16 ต.คลองสาม อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี "นายยุทธพงษ์ เอี้ยงอ้าย" เลขานุการในหม่อมเจ้าอุทัยกัญญา ภาณุพันธุ์  เป็นผู้แทน รับมอบน้ำดื่มจำนวน 2,400 ขวด จาก "นายธนวัฒน์ สันตินรนนท์" กรรมการผู้จัดการ บ.อินดัสเตรียล วอเตอร์ รีซอร์ท แมนเนจเม้นท์ จำกัด (IWRM) / นายวิเชษฐ์ เกตุแก้ว ผู้ประสานงานพื้นที่และชุมชน เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีชี), พร้อมด้วย สะพานบุญ นายโกสินธ์ จินาอ่อน บรรณาธิการบริหาร นสพ.สยามโฟกัสไทม์ ที่ปรึกษา สมาคมสื่อมวลชนเพื่อสังคม/ นายชีวานนท์ พรรัตน์ธนิกกุล นายกสมาคมสหพันธ์แรงงานคนพิการไทย / นายณัฐวุฒิ เหมือนเพชร ผอ.จังหวัดสมุทรปราการ (นสพ.สยามโฟกัสไทม์)เพื่อนำไปมอบส่งต่อยัง "นางสาวรุ่งนภา แก้วธรรม" ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 16 ต.คลองสาม อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี นำไปช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่อาศัยอยู่ในเขตพื้นที่รับผิดชอบ เนื่องด้วยในปัจจุบันมีประชาชนที่ต้องกักตัว และผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสโควิค-19 เป็นจำนวนมากที่ขาดแคลนน้ำดื่มบริโภค และเครื่องอุปโภค เพราะไม่สามารถออกนอกบ้านไปทำงานประกอบอาชีพได้ตามปกติ 

การได้รับน้ำดื่มในครั้งนี้ยังเป็นขวัญกำลังใจให้บุคลากรทุกภาคส่วน นำไปช่วยเหลือพี่น้องประชาชนคนไทย คนพิการ คนยากไร้ คนด้อยโอกาส หน่วยงานของรัฐ และแรงงานต่างด้าว ที่มีความจำเป็นต้องการน้ำดื่มบริโภค โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงสถานการณ์ เชื้อไวรัส covid-19 ที่กำลังแพร่ระบาดอยู่ในขณะนี้

ในท้ายนี้ "นางสาวรุ่งนภา แก้วธรรม" ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 16 ได้กล่าว สำนึกในพระเมตตากรุณา ของ "หม่อมเจ้าอุทัยกัญญา ภาณุพันธุ์" ที่ทรงห่วงใยพสกนิกร ทรงเล็งเห็นปัญหาที่เกิดขึ้นแก่พสกนิกรชุมชนเล็ก ๆ ที่ต้องการความช่วยเหลือ ทั้งนี้ได้กล่าวขอบคุณคณะผู้ประกอบการ และสะพานบุญทุกท่าน ที่เล็งเห็นความสำคัญของคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชนในเรื่อง "น้ำดื่ม" เพื่อการบริโภค ซึ่งสถานการณ์ในปัจจุบัน "น้ำดื่ม" ถือเป็นสิ่งสำคัญและหัวใจหลักในการดำรงชีวิตที่จะขาดมิได้ และจะนำ "น้ำดื่ม" ที่รับมอบมานี้ นำไปจัดสรรให้เกิดประโยชน์อย่างสูงสุด ต่อไป

หลังจากนั้น "นายยุทธพงษ์ เอี้ยงอ้าย" เลขานุการในหม่อมเจ้าอุทัยกัญญา ภาณุพันธุ์ เป็นผู้แทน รับมอบถวาย "ต้นกล้าฟ้าทะลายโจร" จาก "อ.นลินรัตน์ ไตรยศ" เพาะปลูกใน"ศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง" โครงการในอุปถัมภ์ฯสมาคมสหพันธ์แรงงานคนพิการไทย เพื่อขยายพันธุ์ต่อยอด และ มอบให้กับพสกนิกรนำไปใช้เป็นยารักษาโรคเชื้อไวรัสโควิด-19 ต่อไปในภายหน้า

ชัยภูมิ – อินทผาลัมดั้มราคาสุด ๆ จากโลละ 400 เหลือ 200 บาท สู้ภัยโควิดเราต้องรอด

เกษตรกรชาวสวนอินทผาลัม ต.ห้วยแย้ อ.หนองบัวระเหว จ.ชัยภูมิ ประสบปัญหาผลผลิตอินทผาลัมในไร่ที่กำลังแก่จัดออกสู่ผู้บริโภค ผู้บริโภคน้อยลง ยอมดั้มราคาลงสุด ๆ จากทุกปีขายกิโลกรัมละ 400 บาท เหลือขายในราคากิโลกรัมละเพียง 200 บาท รับประกันสดจากสวนระดับพรีเมี่ยม สู้ภัยโควิด-19 เราต้องรอดไปกัน

วันนี้(29ก.ค.64) นายสุริยา มาทน  (โจ)อายุ 43 ปี เกษตรกรชาวสวนอินทผาลัม ไร่แม่ถวิล บ้านเลขที่ 19 หมู่6 บ้านแจ้งใหญ่ ต.ห้วยแย้ อ.หนองบัวระเหว จ.ชัยภูมิ ได้นำชมสวนอินทผาลัมในไร่ของตนเองจำนวน 65 ต้น หลังจากกลับจากทำงานที่ต่างประเทศ ได้กลับมาประเทศไทย ได้ทำการเกษตรปลูกอินทผาลัม สายพันธุ์ต่าง ๆ เมื่อ 4 ปีก่อน และเมื่อปี 2563 ที่ผ่านมา ผลผลิตอินทผาลัมที่ปลูกเริ่มให้ผลผลิตได้ประมาณ 3 ตัน นำออกขายกิโลกรัมละ 400 บาท มีรายได้หักค่าใช้จ่ายจากการขายอินทผาลัมหลักแสนบาท 

ในปีนี้อินทผาลัม คาดว่าจะให้ผลผลิตประมาณ 3 ตันเช่นเดิม แต่หลังการแพร่ระบาดของโควิด-19 แต่ยังดียังพอมีรายได้จากการขายอินทผาลัม มีรายได้พอเลี้ยงชีพครอบครัวได้บ้าง แต่ต้องยอมรับจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ผลอินทผาลัมในไร่มียอดขายลดลงมากกว่าจะมีการระบาดของโควิด-19 เมื่อผลผลิตทางการเกษตรออกมาจำนวนมาก ในไร่สวนอินทผาลัมของตนเอง จะขายทั้งผลอินทผาลัมกินสด และน้ำสกัดอินทผาลัมแช่เย็น ส่วนไร่อินทผาลัมที่นี่จะใช้ปุ๋ยขี่ไก่บำรุงดิน ทำให้ผลอินทผาลัมที่นี่ได้ผลลูกมีขนาดใหญ่ เปลือกบาง ฉ่ำน้ำ และเปลือกไม่แข็ง ส่วนน้ำสกัดอินทผาลัมแช่เย็น ไม่มีการใส่น้ำตาล แต่จะมีความหอมหวานตามธรรมชาติผลอินทผาลัม คลายผลละมุดแต่มีเอกลักษณ์ของผลอินทผาลัม หลังโควิด-19ระบาดลูกค้าน้อยลงหายไปมากกว่าครึ่ง เพื่อให้ผู้บริโภคได้รับประทานอินผาลัมได้รับประทานผลไม้ที่มีคุณค่าทางโภชนาการมากมาก ทั้งยังมีคุณค่าทางอาหารมากมาย ไม่ว่าจะช่วยบำรุงร่างกาย เพิ่มกำลัง ขจัดความเมื่อยล้า ช่วยดับความหนาวเย็นแล้ว เมื่อร่างกายมีอาการอ่อนเปลี้ยเพลียแรง หากรับประทานอินทผาลัมภายในครึ่งชั่วโมงก็จะทำให้ร่างกายกลับมามีกำลังเหมือนเดิม และอื่น ๆ มากมาย

นายสุริยา มาทน (โจ) อายุ 43 ปี เกษตรกรชาวสวนอินทผาลัม แม่ถวิล บอกว่าขณะนี้ผลอินทผาลัมในไร่กำลังออกผลแก่ พร้อมออกสู่ตลาด หลังโควิด-19ระบาด ขณะนี้ยอมลดราคาลงแบบสุด ๆ จากกิโลกรัมละ 400 บาท เหลือเพียงกิโลกรัมละ 200 บาท และที่สำคัญต้องยอมลดราคาจากกำไร มาเป็นราคาต้นทุน เพื่อให้คนทั่วไปที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19ได้รับประทานผลไม้ที่มีคุณค่าทางอาหารด้วย

นอกจากนั้น อินทผาลัมในไร่ช่วงนี้ได้เปิดร้านขายผลอินทผาลัมที่ถนนหมายเลข 201 ถนนชัยภูมิ- สีคิ้ว ทางออกไปยัง กทม. เลยปั้ม ปตท.ประมาณ 500 เมตร โดยจำหน่ายอินทผาลัมสดจากสวนของตนในราคากิโลละ 200 บาทเท่านั้น รวมทั้งสินค้าทางการเกษตรอื่น ๆ ตามฤดูกาลด้วย มีผลผลิตทางการเกษตร ไร่แม่ถวิล อินทผาลัม สดจากสวนระดับพรีเมี่ยม ราคาถูกสุด ๆ ราคาต้นทุนได้ทุกวัน และสามารถติดต่อสอบถามหรือสั่งจองได้ที่ คุณโจ เบอร์โทรศัพท์ 06 3929 9223 หรือ เฟซบุ๊ก “คุณโจ มาทน” https://www.facebook.com/jo.mathon ระยะทางห่างจากตัวอำเภอหนองบัวระเหว ประมาณ 14 กม. รับรองไม่ผิดหวัง


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top