Saturday, 17 May 2025
THE STATES TIMES TEAM

ชลบุรี - เจ้าอาวาสลั่น!! เราต้องสู้...ร่วมศิษย์ยานุศิษย์ แจกอาหารช่วยเหลือชาวบ้านเดือดร้อนโควิด-19

วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2564 วัดสามัคคีบรรพต ต.บางเสร่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี โดยพระครูเกษมกิตติโสภณ (อาจารย์จ่อย) ร่วมคณะลูกศิษย์ ทั้งชาวสัตหีบและพัทยา แจกข้าวสารอาหารแห้ง และข้าวกล่อง ช่วยเหลือผู้มีผลกระทบจากโควิด-19 โดยในครั้งนี้วัดสามัคคีบรรพต ได้จัดข้าวสาร-ไข่ไก่ จำนวน 200 ชุด นอกจากนี้ยังมีคณะลูกศิษย์ ร้านเมี่ยงปลาเผาแยกเจสัตหีบ ร้านลาบอุบลบางเสร่ และกลุ่มลูกศิษย์จากพัทยา นำอาหารข้าวกล่อง ขนม หน้ากากอนามัย มาร่วมแจกให้กับพี่น้องชาวบ้างเสร่อีกด้วย

พระครูเกษมกิตติโสภณ แจ้งว่าได้รับการสนับสนุนจาก บริษัท CP มอบข้าวกล่อง จำนวน 2,000 กล่อง และมอบหมายให้ร้านปรีชาซีฟู้ดบางเสร่เป็นผู้ดำเนินการจัดทำ ซึ่งจะนำมาแจกช่วยเหลือชาวบ้านบางเสร่แบบนี้อีกแต่จะเป็นวันไหนจะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง


ภาพ/ข่าว  สมนึก เชื้อสนุก

ผช.ผบ.ตร.ชื่นชมตำรวจภาค 3 ดำเนินการโครงการชุมชนยั่งยืนได้ดีเยี่ยม ขณะที่ รอง ผบช.ภาค 3 แถลงข่าวผลการจับกุมคดียาเสพติดพบผู้ต้องหา และของกลางจำนวนมาก

เมื่อวันที่ 11 ส.ค.64 ที่ สภ.กันทรลักษ์  จ.ศรีสะเกษ  พล.ต.ท.ชินภัทร สารสิน ผช.ผบ.ตร.(ปป 6) พร้อมด้วย พล.ต.ต.คีรีศักดิ์ ตันตินวะชัย รอง ผบ.ภาค 3 (หน.ปส.) และคณะนายตำรวจ ได้เดินทางไปติดตามผลการดำเนินการตามโครงการชุมชนยั่งยืนของ สภ.กันทรลักษ์ นำโดย พ.ต.อ.นรินทร์ บุพตา ผกก.สภ.กันทรลักษ์ ซึ่งได้ร่วมกับทุกส่วนราชการที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันดำเนินงานเพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างยั่งยืนในเขต อ.กันทรลักษ์ ผลการดำเนินงานตามโครงการพบว่า สามารถดำเนินการบรรลุตามวัตถุประสงค์ของโครงการได้อย่างดีเยี่ยม

โดย พล.ต.ต.คีรีศักดิ์ ตันตินวะชัย รอง ผบ.ภาค 3 (หน.ปส.) ได้แถลงข่าวผลการจับกุมคดียาเสพติด ซึ่งสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้จำนวน 10 คน ของกลางยาบ้า 13,997 เม็ด โดยมี พล.ต.ต.สันติ เหล่าประทาย ผบก.ภ.จว.ศรีสะเกษ พล.ต.ต.ชัยวัฒน์ หัดกล้า ผู้ทรงคุณวุฒิ สตช. พ.ต.อ.ศุภชัย  ศักรินพานิชกุล รอง ผบก.ภ.จว.ศรีสะเกษ คณะนายตำรวจ สภ.กันทรลักษ์ และคณะนายทหารหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 23  มาร่วมในการแถลงข่าวและให้การต้อนรับ

พล.ต.ท.ชินภัทร สารสิน  ผช.ผบ.ตร.(ปป 6) กล่าวว่า ท่าน ผบ.ตร.มีความห่วงใยเรื่องการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่กำลังระบาด จึงได้มอบหมายให้ตนลงมาเยี่ยมให้ขวัญกำลังใจเจ้าหน้าที่ ตร.ทุกนาย โดยได้มอบหน้ากากอนามัยและถุงมือให้กับ ผกก.สภ.กันทรลักษ์  เพื่อใช้ในการปฏิบัติราชการให้ความช่วยเหลือดูแลประชาชนชาว อ.กันทรลักษ์

ประกอบกับในเรื่องของยาเสพติดและเรื่องชุมชนยั่งยืนซึ่งเป็นนโยบายของ ฯพณฯนายกรัฐมนตรีและเป็นยุทธศาสตร์ชาติด้วย โดยให้มาดูความคืบหน้าและปัญหาความขัดข้องมีอะไรบ้างที่จะต้องดำเนินการต่อไป ตนจึงได้มาเป็นขวัญและกำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ ตร.ทุกนาย 

ส่วนกรณีที่มีการแอบลักลอบนำเอายาเสพติดเข้ามาในเขตพื้นที่ประเทศไทยนั้น พวกที่ทำผิดกฎหมายก็พยายามที่จะหาช่องทางที่อ้างในเรื่องการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 คงคิดว่าตำรวจจะไม่ทำงาน แต่ว่าตำรวจของเราทุกนายทำงานกันอย่างเต็มที่อยู่แล้วและทำงานมากยิ่งขึ้นกว่าเดิมด้วย

โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของตำรวจภูธรภาค 3 ได้ดำเนินการอย่างดีเยี่ยมในเรื่องชุมชนยั่งยืนมีการร่วมมือร่วมใจกันทั้งฝ่ายปกครอง อสม. ผู้นำชุมชน ซึ่งในวันนี้ก็มีเกษตรมาช่วยแนะนำในเรื่องอาชีพที่จะต้องทำด้วย และเราจะได้ช่วยกันพลิกกวิกฤติให้เป็นโอกาสในการดำเนินการในช่วงนี้

พล.ต.ต.คีรีศักดิ์  ตันตินวะชัย รอง ผบช.ภาค 3 (หน.ปส.) กล่าวว่า ตามแนวชายแดนของภาค 3 ตนเชื่อว่า ยาเสพติดเข้ามาน้อยลงมากในช่วงนี้ อาจจะเป็นเพราะว่าเป็นเรื่องการแพร่ระบาดของโควิด-19 ด้วย ที่จับได้ในช่วงเดือนที่ผ่านมาระดับหลักหมื่นที่ข้ามแนวลำน้ำโขงเข้ามา เพราะว่าเรามีการใช้แผนพิทักษ์ลำน้ำโขง ก็มีการวางกำลังตามจุดที่ อ.เขมราฐกับ อ.ชานุมาน รวมกันจำนวน 33 จุด และมีการซักซ้อมแผนเผชิญเหตุการณ์ปิดหัวท้ายถนนไว้พร้อม

เพราะฉะนั้นการจับกุมในช่วงนี้รวมทั้งในเรื่องของการป้องกันสกัดกั้นตามแนวชายแดนของเราได้ผลดี รวมทั้งการข่าวที่เราได้รับตอนนี้เริ่มจะเบาบางลงแล้ว แต่ว่าก็ยังไม่ทิ้งเพราะว่าถ้าเราหย่อนเมื่อไหร่การลักลอบขนยาเสพติดก็จะเข้ามาอีก ส่วนยาบ้าที่ระบาดในช่วงนี้ไม่เยอะจะน้อยลง ส่วนมากแล้วจะเป็นรายย่อยเยอะมาก ตามชุมชนหมู่บ้านยังมีอยู่ ตนคิดว่ายาบ้าขาดตลาด เพราะว่าช่วงไตรมาสที่ผ่านมา มียาบ้าจากทางส่วนกลางย้อนกลับเข้ามาในเขตภาคอีสานจำนวนหนึ่ง ซึ่งเจ้าหน้าที่ ตร.ได้เฝ้าติดตามเพื่อจับกุมอย่างเต็มที่

พ.ต.อ.ศุภชัย  ศักรินพานิชกุล รอง ผบก.ภ.จว.ศรีสะเกษ กล่าวว่า ถ้าเราไปจะเป็นจับกุมทีละ 50,000 เม็ด ถึง 100,000 เม็ดค่อนข้างจะยาก เราจะขยายทำลายเครือข่ายทีละชุดเริ่มจาก เสพครอบครองจับกุมได้ทีละ 2,000 เม็ด ไต่เพดานขึ้นไปชุดละ 3,000 เม็ด 4,000 เม็ด 5,000 เม็ด ไล่ขยายผลไปถึงตัวการใหญ่ไปเรื่อย ๆ

ซึ่งที่ผ่านมาได้รับความร่วมมือในการขยายผลจากทุกฝ่ายเป็นอย่างดี ของกลางครั้งนี้ดูเหมือนว่าจะน้อย แต่ว่าผู้บังคับบัญชาจะเน้นในการทำลายเครือข่ายยาบ้าระดับล่างระดับรากหญ้าเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของยาเสพติดทุกประเภทอย่างยั่งยืนต่อไป


ภาพ/ข่าว  ศิริเกษ หมายสุข ผู้สื่อข่าวประจำ จ. ศรีสะเกษ

“สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี” ทรงกรุณาโปรดฯพระราชทานผ้าไตร เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2564

เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2564 สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงกรุณาโปรดฯพระราชทานผ้าไตร จำนวน ๓๙ไตร ถวายพระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์เจริญพระพุทธมนต์โพชฌังคปริตร ๑๐๘ จบ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่ "สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง" ในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2564 เวลา 17.07 น. ณ.วัดคลองใหม่ แขวงช่องนนทรี เขตยานนาวา กรุงเทพมหานครนับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้

ในการนี้ "หม่อมราชวงศ์ปณิธาน จรูญโรจน์" ร่วมเป็นเกียรติในพิธีฯ พร้อมทั้งพุทธศาสนิกชน ประชาชน ทุกหมู่เหล่า น้อมเกล้า "ถวายพระพรชัยมงคล ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน" อีกทั้งยังเป็นการร่วมกันแสดงออกถึงความจงรักภักดีและเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์

จันทบุรี - ประกอบพิธีถวายพระพรชัยมงคล เฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา วันที่ 12 สิงหาคม อย่างเรียบง่าย และสมพระเกียรติภายใต้มาตรการป้องกันโควิด-19

 วันนี้ ( 12 ส.ค.64 ) ที่บริเวณห้องโถง ชั้น 1 ศาลากลางจังหวัดจันทบุรี นายสุธี ทองแย้ม ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี ได้นำ รองผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี นายกเหล่ากาชาดจังหวัดจันทบุรี แม่บ้านมหาดไทย หัวหน้าส่วนราชการรวมจำนวน 18 หน่วยงาน / องค์กร เป็นตัวแทนของพสกนิกรชาวจังหวัดจันทบุรี ร่วมในพิธีลงนามถวายพระพรชัยมงคลเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา วันที่ 12 สิงหาคม 2564 เพื่อแสดงความจงรักภักดี และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ด้วยความเรียบง่าย และสมพระเกียรติภายใต้มาตรการด้านสาธารณสุขในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 เว้นระยะห่างบุคคล มีการตรวจวัดอุณหภูมิ ล้างมือด้วยแอลกอฮอล์ และสวมใส่หน้ากากอนามัย หน้ากากผ้าสีขาวตลอดเวลาที่ร่วมพิธี


ภาพ/ข่าว  จรัล บรรยงคเสนา จ.จันทบุรี

พรเทพ เขม้นเขตวิทย์ รายงานจากศูนย์ข่าวภาคตะวันออก

ชลบุรี - วัดบางเสร่คงคาราม มอบถุงยังชีพช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 และร่วมเทศบาลตำบลบางเสร่ ตั้งครัวสนามทำอาหารแจกประชาชน

วันนี้ (12 ส.ค.64) ที่วัดบางเสร่คงคาราม ต.บางเสร่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี พระครูวิธานธรรมานุยุต (พระอาจารย์บรรยาย) เจ้าคณะตำบลบางเสร่ เจ้าอาวาสวัดบางเสร่คงคาราม มอบถุงยังชีพ จำนวน 250 ชุด เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องในโอกาสวันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2564 และเพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ซึ่งภายในบรรจุสิ่งของ อาทิ ข้าวสาร บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ปลากระป๋อง น้ำมันพืช น้ำปลา ให้แก่อำเภอสัตหีบ โดยมี นายกิตติพงษ์ กิติคุณ นายอำเภอสัตหีบ เป็นผู้รับมอบ เพื่อจะนำไปมอบให้กับผู้นำชุมชนของแต่ละพื้นที่ในเขตตำบลบางเสร่ และแจกให้กับผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ในช่วงที่ไม่สามารถประกอบอาชีพได้ตามปกติ

และในวันนี้ เทศบาลตำบลบางเสร่ โดย นายชัยวัฒน์ อินอนงค์ นายกเทศมนตรีตำบลบางเสร่  ร่วมกับวัดบางเสร่คงคาราม วัดสามัคคีบรรพต กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ห้างร้านและประชาชนชาวบางเสร่ ได้ร่วมจัดตั้งครัวสนามและจุดรับบริจาคครัวสนามบางเสร่ โดยมี นายกิตติพงษ์ กิติคุณ นายอำเภอสัตหีบ เป็นประธานเปิดครัวสนาม และลงมือทำอาหารบรรจุลงกล่อง พร้อมนำไปแจกให้กับประชาชนในมือกลางวันนี้ เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนในช่วงโควิด-19 ซึ่งครัวสนามนี้จะตั้งไปจนถึงวันที่ 26 ส.ค.64 และจะทำอาหารแจกให้กับประชาชนทุกวัน โดยได้รับความร่วมมือและสนับสนุนจากผู้นำชุมชน บริษัท ห้างร้านต่างๆ และประชาชนที่มีจิตอันกุศล ร่วมกันบริจาคสิ่งของและมาร่วมกันทำอาหารในแต่ละวัน

สำหรับท่านใดมีความประสงค์จะร่วมบริจาคสมทบครัวสนามบางเสร่ สามารถร่วมบริจาค ได้ที่จุดรับบริจาคครัวสนามบางเสร่ บริเวณหน้ากุฎิเจ้าอาวาสวัดบางเสร่คงคาราม ต.บางเสร่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ได้ทุกวัน


ภาพ/ข่าว  สมนึก เชื้อสนุก

“เฮียเอี๋ยว” ผู้บริหาร บริษัท โคมอส จับมือร่วมกุศล มอบ 100,000 บาท พร้อมอาหารปรุงสุก 300 กล่อง ถวายพระครูแจ้ เทิดพระเกียรติ 12 สิงหา

นายสุดใจ จิรยาภากร กรรมการบริหาร บริษัท โคมอส คอร์ปอเรชั่น จำกัด และประธานที่ปรึกษา กต.ตร.สภ.เมืองสมุทรปราการ พร้อมด้วย นายเอนกพงศ์ คูณทรัพย์สิน ประธานมูลนิธิร่วมกุศลสมุทรปราการ คณะเจ้าหน้าที่ร่วมกุศลสมุทรปราการ / นายธงชัย อัศวสุขี กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็กซ์ตร้า สตีลไพล์ แอนด์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด และนางสุภานัน นันต์ธนะ นายกสโมสรโรตารี่สำโรง และสมาชิกสโมสรโรตารี่สำโรง ร่วมมอบเงินสด จำนวน 100,000 บาท  พร้อมอาหารปรุงสุก จำนวน 300 กล่อง และน้ำดื่มจำนวน 100 แพค

โดยทางสโมสรโรตารี่ นำมาถวายให้กับทางศูนย์ฉีดวัคซีนวัดบางพลีใหญ่กลาง โดยมีท่านพระครูปลัดสุวัฒนศีลคุณ (พระครูแจ้) เจ้าอาวาสวัดบางพลีใหญ่กลาง เป็นตัวแทนรับมอบ พร้อมด้วย นายธวัชชัย นามสมุทร เลขา ศอ.บต. ร่วมรับมอบเพื่อร่วมเทิดพระเกียรติเนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม

นายสุดใจ จิรยาภากร กรรมการบริหาร บริษัท โคมอส คอร์ปอเรชั่น จำกัด และประธานที่ปรึกษา กต.ตร.สภ.เมืองสมุทรปราการ กล่าวว่า ในวันนี้ในฐานะกรรมการบริหาร บริษัท โคมอส คอร์ปอเรชั่น จำกัด และประธานที่ปรึกษา กต.ตร.สภ.เมืองสมุทรปราการ ได้ร่วมกับทางมูลนิธิร่วมกุศลสมุทรปราการ มอบเงินสดจำนวน 100,000 บาท เพื่อจัดซื้อน้ำมันเชื้อเพลิงและโรงศพ ไว้เผาศพเหยื่อโควิด-19 พร้อมทั้งมอบอาหารปรุงสุกจำนวน 300 กล่อง รวม 5 วัน วันละ 300 กล่อง และน้ำดื่ม นำมาถวายให้กับทางวัดบางพลีใหญ่กลาง 

โดยมี ท่านพระครูปลัดสุวัฒนศีลคุณ เจ้าอาวาสวัดบางพลีใหญ่กลางเป็นผู้รับมอบ เพื่อแทนความห่วงใยที่มีต่อบุคลากรทางการแพทย์เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2564 

อีกทั้ง ได้มีความห่วงใยคณะเจ้าหน้าที่บุคลากรทางการแพทย์ที่ปฎิบัติหน้าที่อย่างเหน็ดเหนื่อย และคอยให้บริการฉีดวัคซีนให้กับประชาชน ประกอบกับสถานการณ์ในปัจจุบันมีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง จึงขอแสดงความห่วงใยไปถึงประชาชนในจังหวัดสมุทรปราการ อย่าประมาทและดูแลตัวเองสวมใส่หน้ากากอนามัย เว้นระยะห่าง เพื่อความปลอดภัย


ภาพ/ข่าว  คิว-ข่าวสมุทรปราการ รายงาน

ศาลอาญาทุจริตฯ สั่งเดินหน้าคดี ‘วัชระ’ ฟ้อง ‘ชัชวาลย์’ มาตรา 137 และ 157 จากมหากาพย์ก่อสร้างอาคารรัฐสภาล่าช้า

วันนี้ 12 ส.ค. 64 นายวัชระ เพชรทอง อดีตส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ตนเป็นโจทก์ฟ้องนายชัชวาลย์ อภิบาลศรี อดีตประธานคณะกรรมาธิการติดตามเร่งรัดการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ จำเลย คดีอาญาหมายเลขคดีดำที่ อท 23/2563 คดีอาญาหมายเลขคดีแดงที่ อท 34/2564 ซึ่งศาลอุทธรณ์แผนกคดีทุจริตฯมีคำพิพากษาแก้เป็นว่า ให้ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องในความผิดตามป.อาญา ม.137 และ 157 โดยนัดพร้อมที่ห้อง 702 ศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลางเมื่อวันที่ 11 ส.ค.64 เวลา 9.30 น.ปรากฏว่านายชัชวาลย์  จำเลยได้ส่งผู้รับมอบอำนาจมาขอเลื่อนคดีโดยอ้างว่ายังหาทนายความไม่ได้ แต่ศาลสั่งไม่ให้เลื่อนคดีและให้พิจารณาตามกำหนดนัด โดยนัดตรวจสอบและรวบรวมพยานหลักฐานของเจ้าพนักงานคดีวันจันทร์ที่ 14 ก.ย.64 นัดตรวจสอบพยานหลักฐานของศาลวันที่ 12 ต.ค. 64 เวลา 9.30 น.และวันที่ 11 พ.ย. 64 เวลา 9.00-16.00 น.นัดไต่สวนมูลฟ้อง 5 ปาก

สำหรับคดีนี้นายชัชวาลย์ อภิบาลศรี อดีตประธานคณะกรรมาธิการติดตามเร่งรัดการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ถูกนายวัชระ เพชรทอง อดีตส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ตรวจสอบและชี้ข้อพิรุธของโครงการ เป็นเหตุให้นายชัชวาลย์ ไม่พอใจจึงไปฟ้องคดีที่ศาลอาญากับนายวัชระ ในข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา และเรียกค่าเสียหายจำนวนเงิน 100 ล้านบาท ซึ่งนายวัชระได้ขอให้นายชวน หลีกภัย  อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ มาเป็นคนกลางไกล่เกลี่ย แต่นายชัชวาลย์ แจ้งว่า ไม่ประสงค์จะเจรจา   ซึ่งมาทราบภายหลังว่า นายชัชวาลย์เป็นเพื่อนสนิทกับนายชวนตั้งแต่สมัยเรียน อนึ่ง นายชัชวาลย์ เป็นสมาชิกวุฒิสภาที่มาจากการแต่งตั้งของคณะทหารถึง 6 สมัย กว่า 24 ปี แต่ไม่ได้รับการแต่งตั้งเป็นสมาชิกวุฒิสภาครั้งล่าสุด.                                  

ต่อมานายวัชระ ได้ฟ้องนายชัชวาลย์ ในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ม. 137 ,157 จงใจแจ้งความเท็จว่า ไม่มีการจดบันทึกการประชุมของคณะกรรมการเร่งรัดและติดตามโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ เพื่อจะได้ไม่ต้องส่งแถบเสียง ชวเลข หรือรายงานการประชุมดังกล่าวต่อศาล ตามที่โจทก์ร้องขอเพื่อให้เป็นหลักฐานในการต่อสู้คดีดังกล่าว ซึ่งในการแจ้งข้อความเท็จนี้เป็นการปฏิบัติหรือละเว้นหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์ ผู้อื่นหรือประชาชน หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต

ซึ่งหากศาลพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตาม ม.137 ผู้ใดแจ้งข้อความอันเป็นเท็จแก่เจ้าพนักงานซึ่งอาจทำให้ผู้อื่นหรือประชาชนเสียหาย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนม.157 บัญญัติว่า "ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 2,000 -20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ชุมพร - 1 ล้านตัว! ปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 89 พรรษาา

วันที่ 12 สิงหาคม 2564 เวลา 08.30 น. ณ โครงการป้องกัน และบรรเทาอุทกภัยเมืองชุมพร (คลองต้นน้ำลุ่มน้ำคลองชุมพร) นายนักรบ ณ ถลางนายอำเภอเมืองชุมพร ให้เกียรติมาเป็นประธานพิธีปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 89 พรรษา  ปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำเฉลิมพระเกียรติ จำนวน 1 ล้านตัว พร้อมด้วย นายปิยะพงษ์ รอดศิริ นายกเทศมนตรี เทศบาลตำบลขุนกระทิง นายสุชาติ จุลอดุง ผอ.ศูนย์วิจัยและพัฒนาพันธุกรรมสัตว์น้ำชุมพร หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้ใหญ่บ้าน กำนัน ชาวบ้านตำบลขุงกระทิงเข้าร่วมกิจกรรมในวันนี้

นายปิยะพงษ์ รอดศิริ กล่าว่า ร่วมกิจกรรม “1 ล้านตัว ปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำเฉลิมพระเกียรติ” เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง 12 สิงหาคม 2564 ณ โครงการป้องกัน และบรรเทาอุทกภัยเมืองชุมพร (คลองต้นน้ำลุ่มน้ำคลองชุมพร)วันนี้ได้รับเกียรติจากนายนักรบ ณ ถลางนายอำเภอเมืองชุมพร นายสุชาติ จุลอดุง ผอ.ศูนย์วิจัยและพัฒนาพันธุกรรมสัตว์น้ำชุมพรเข้าร่วม “1ล้านตัวปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำเฉลิมพระเกียรติ” และที่โครงการป้องกัน และบรรเทาอุทกภัยเมืองชุมพร (คลองต้นน้ำลุ่มน้ำคลองชุมพร) ช่วยบรรเทาอุทกภัยแล้วยังเป็น แหล่งหาปลาของคนในพื้นที่ ได้ต่อไป

นายนักรบ ณ ถลาง เปิดเผยว่า กิจกรรมในวันนี้ ได้รับความรวมมือจาก เทศบาลตำบลขุนกระทิง กรมชลปะทาน ศูนย์วิจัยและพัฒนาพันธุกรรมสัตว์น้ำชุมพร ได้นำพันธุ์ปลาจำนวน 1ล้านตัวมาปล่อยในคลองโครงการป้องกัน และบรรเทาอุทกภัยเมืองชุมพร (คลองต้นน้ำลุ่มน้ำคลองชุมพร) โดยมี พันธุ์ "ปลาสุลต่าน" หรือปลาบ้า และก็ปลาตะเพียน เพื่อเป็นอาหารให้กับชาวบ้านและจะจังให้เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจให้กับประชานต่อไป


ภาพ/ข่าว  ธนากร โกศลเมธี รายงานศูนย์ข่าวสารจังหวัดชุมพร

สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ เดินหน้าปลุกเศรษฐกิจ จัด +BLOOMS FESTIVAL 2021 (พลัส บลูมส์ เฟสติวัล) สร้างแรงจูงใจเลือกจังหวัดเชียงใหม่เป็นจุดหมายในการจัดงานประชุมและนิทรรศการ

สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ สสปน. จัด Plus Blooms Festival 2021 ซึ่งเป็นโครงการขยายผลของ Chiang Mai Blooms 2021 ซึ่งจัดไปเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2564 ที่ผ่านมา งาน Plus Blooms Festival 2021 ในเดือนสิงหาคมนี้ จัดเพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจ สร้างแรงจูงใจในการเลือกจังหวัดเชียงใหม่ให้เป็นจุดหมายของการจัดงานประชุมและนิทรรศการ การท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล และการจัดกิจกรรมองค์กรต่าง ๆ ดึงดูดนักท่องเที่ยวและนักเดินทางธุรกิจ จึงได้ส่งเสริมสนับสนุนให้เกิดเทศกาลที่จะเป็นเทศกาลท้องถิ่น ให้เป็นเทศกาลในระดับประเทศและระดับนานาชาติ ขอเชิญร่วมงาน +BLOOMS FESTIVAL 2021 (พลัส บลูมส์ เฟสติวัล) ตั้งแต่วันที่ 18 สิงหาคม 2564 เป็นต้นไป ณ จังหวัดเชียงใหม่

วันนี้ (11 ส.ค. 64) คุณจุฑา ธาราไชย ผู้อำนวยการ สำนักส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ ภาคเหนือ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) พร้อมทั้งผู้แทนหน่วยงานความร่วมมือในจังหวัดเชียงใหม่ คุณมรกต ยศธำรงค์ ที่ปรึกษาสมาคมผู้ผลิตและผู้ส่งออกสินค้าหัตถกรรม ภาคเหนือ (NOHMEX) คุณรามาริน บุญสม ผู้แทนเครือข่ายงานคราฟท์ อ.ชัชวาลย์ ทองดีเลิศ ประธานมูลนิธิสืบสานล้านนา และคุณดวงรัตน์ ญานะ เจ้าหน้าที่ส่งเสริมการเกษตร สหกรณ์เกษตรอินทรีย์เชียงใหม่ จำกัด ร่วมแถลงข่าวการจัดงาน Plus Blooms Festival 2021 ณ โฮงเฮียนสืบสานภูมิปัญญาล้านนา จังหวัดเชียงใหม่

เพื่อขับเคลื่อนจากชุมชนในพื้นที่ ดำเนินการโดยเครือข่ายในพื้นที่ ที่จะนำไปสู่การกระตุ้นเศรษฐกิจ การจ้างงาน การแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ การประสานงานร่วมกันระหว่างชุมชน องค์กรเอกชน ผู้ประกอบการท้องถิ่น ไปจนถึงระดับจังหวัด ซึ่งอยู่ในห่วงโซ่คุณค่าของอุตสาหกรรมไมซ์ สร้างกระบวนการพัฒนาศักยภาพของทุนในพื้นที่สำหรับนักเดินทางไมซ์ ทั้งทางด้านวิถีชีวิตที่เอกลักษณ์ การเชื่อมโยง ช่างฝีมือและศิลปินพื้นบ้านเข้ากับผู้ประกอบการโรงแรมร้านอาหาร สร้างจุดขายใหม่ ๆ ให้กับไมซ์

โดย Chiang Mai Blooms : Plus Blooms Festival 2021 ประกอบไปด้วยกิจกรรม 4 โครงการ ได้แก่
1. เทศกาลคราฟท์ บลูมส์ 2021 (Crafts Blooms Festival 2021) ระหว่างวันที่ 18-22 สิงหาคม 2564
2. โครงการวิถีราชดำเนิน ตั้งแต่วันที่ 18 สิงหาคมเป็นต้นไป
3. โครงการการเดินทางของดอกไม้ ตั้งแต่วันที่ 18 สิงหาคมเป็นต้นไป
4. การประชุมวิชาการงานหัตถกรรมของเครือข่ายช่างฝีมือจากเมืองหัตถกรรมสร้างสรรค์ขององค์การยูเนสโก (UNESCO Creative City of Craft and Folk Art Network) ในวันที่ 18 สิงหาคม 2564

“เทศกาลคราฟท์ บลูมส์ 2021” (Crafts Blooms Festival 2021) เทศกาลที่จะรวบรวมคนทำงานคราฟท์ทุกประเภทและเครือข่าย มาร่วมรังสรรค์บรรยากาศงานคราฟท์ให้มีสีสันมากกว่าที่เคย ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 18 – 22 สิงหาคม 2564 เวลา 12.00 – 18.00 น. ด้วยกิจกรรมหลากหลาย ได้แก่ กิจกรรมเสวนา 5 หัวข้อ ได้แก่ The Taste of Craft, The Taste of the City, City of Craft and Folk Art, Go wide, Go online, Creative District และ Craft Local to Global โดยวิทยากรจากหลากหลายวิชาชีพ กิจกรรมเวิร์คช็อป 15 งานคราฟท์ เช่น การทำผ้าอุ๊ก เพ้นท์เซรามิก การทำผ้ามัดย้อม ถักทอผลิตภัณฑ์จากวัสดุเหลือทิ้ง, นิทรรศการเชื่อมโยงเส้นทางการท่องเที่ยวและกิจกรรมสร้างสรรค์, กิจกรรมแนะนำร้านค้า สินค้างานคราฟท์จากผู้ผลิต อีกทั้งกิจกรรมย่อยอื่นๆ เช่น นิทรรศการเชิดชูผลงานศิลปินเอก (Lanna Wisdom Masterpiece), เซียมซีดอกไม้, Flower Kinetic Installation, และดนตรี ในรูปแบบ ONSITE (รับจำนวนจำกัด) ณ Weave Gallery (Weave Artisan Society) หรือร่วมกิจกรรมในรูปแบบONLINE โดยรับชมการถ่ายทอดสดผ่าน Facebook live ได้ที่ page : www.facebook.com/PlusBlooms รวมถึง นำเสนอร้านค้าจากเครือข่ายเทศกาลคราฟท์กว่า 80 ร้านที่ https://www.plusblooms.com

“วิถีราชดำเนิน” (Rachadamnoen Model) เป็นกิจกรรมที่หอศิลปวัฒนธรรมเมืองเชียงใหม่ร่วมกับภาคีเครือข่ายชุมชนเมืองรักษ์เชียงใหม่ โรงแรมแทมมาริน วิลเลจ และผู้ประกอบการ ผู้อยู่อาศัยในชุมชนราชดำเนิน ร่วมกันปรับปรุงย่านถนนราชดำเนินให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น มีการจัดแยกขยะ ปรับทัศนียภาพ เพิ่มพื้นที่สีเขียว และทำให้เป็นต้นแบบของเมืองน่าเดิน (Walkable City) โดยสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) ได้ร่วมเชื่อมโยงชุมชนช่างศิลป์สู่งานเชิงฟังก์ชั่น From Community to Function จับคู่สถานประกอบการ 10 แห่ง และ 10 พ่อครูแม่ครูและชุมชนช่างศิลป์ สร้างงานศิลปะเพื่อให้เป็นจุดสนใจ (Landmark) สำหรับประชาชนได้เดินชื่นชมและถ่ายรูปบนถนนราชดำเนิน ส่งผลให้เกิดมิติใหม่แห่งการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม จุดที่มีการติดตั้งงานศิลปะแลนด์มาร์ค 10 แห่ง ตลอดถนนราชดำเนิน ได้แก่ แอดราชดำเนินพลาซ่า, โรงแรมอักษราเฮอริเทจ, กาดกลางเวียง, โรงแรมแทมมาริน วิลเลจ, พิพิธภัณฑ์ธนารักษ์จังหวัดเชียงใหม่, ร้านกาแฟอาข่าอาม่า, บุรีแกลลอรี่, ศูนย์สถาปัตยกรรมล้านนา คุ้มเจ้าบุรีรัตน์, คราม สปา และโรงแรมเดอ ลานนา

“การเดินทางของดอกไม้” (Flowers journey) โครงการรวบรวมเมล็ดพันธุ์ กล้าดอกไม้พันธุ์พื้นเมือง จากภาคีเครือข่ายในเชียงใหม่ อาทิ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ สหกรณ์เกษตรอินทรีย์เชียงใหม่ เครือข่ายเชียงใหม่เขียว สวย หอม เพื่อทำการเพาะปลูกในพื้นที่ต้นแบบ เชื่อมโยงเครือข่ายต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำของการรณรงค์การปลูกและประชาสัมพันธ์ดอกไม้พันธุ์พื้นเมือง สร้างเศรษฐกิจท้องถิ่นกระจายรายได้สู่ชุมชน โดยโครงการได้รวบรวมเมล็ดพันธุ์กล้าดอกไม้พันธุ์พื้นเมือง 20 ชนิด จากภาคีเครือข่ายในเชียงใหม่ อาทิ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ สหกรณ์เกษตรอินทรีย์เชียงใหม่ เครือข่ายเชียงใหม่เขียว สวย หอม เพื่อนำไปเพาะปลูกในพื้นที่ต้นแบบ 5 พื้นที่ ได้แก่ พื้นที่ภายในหอศิลปวัฒนธรรมเมืองเชียงใหม่ พื้นที่ในสวนผักคนเมือง ถ.ช้างคลาน พื้นที่สวนหลวงล้านนา ร.9 (พื้นที่ริมคลองแม่ข่า) พื้นที่ในสวนสาธารณะหนองบวกหาด และพื้นที่หน้าสำนักงานยาสูบเชียงใหม่

“การประชุมวิชาการนานาชาติของเครือข่ายช่างฝีมือจากเมืองหัตถกรรมสร้างสรรค์ขององค์การยูเนสโก” (UNESCO Creative City of Craft and Folk-Art Network) หัวข้อ “จากภูมิปัญญาพื้นบ้าน สู่เศรษฐกิจวัฒนธรรม” From Local Wisdom to Cultural Economy โดยมีการเชิญทั้งวิทยากรและผู้เข้าร่วมจากนานาชาติผ่านการประชุมแบบไฮบริดกับผู้เข้าร่วมที่อยู่ในประเทศไทย เป็นการเชื่อมเครือข่ายคนทำเทศกาล Craft และช่างฝีมือจากทุกมุมโลก เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ การแบ่งปันประสบการณ์และความคิดสร้างสรรค์ใหม่ ๆ เพื่อให้เกิดองค์ความรู้ให้ช่างฝีมือในงานเทศกาลฯ ตลอดจนช่างฝีมือที่อยู่ห่างไกลได้นำไปพัฒนา ต่อยอดสินค้าได้


ภาพ/ข่าว  นภาพร / เชียงใหม่

‘พลเอก เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์’ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด เป็นประธานการประชุมผู้บัญชาการเหล่าทัพ ครั้งที่ 5 ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2564 ณ ห้องศรียานนท์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

วันที่ 11 สิงหาคม 2564 เวลา 14.00 น. พลเอก เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด เป็นประธานการประชุมผู้บัญชาการเหล่าทัพ ครั้งที่ 5 ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2564 โดยมี ผู้บัญชาการเหล่าทัพ และผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เข้าร่วมประชุม ณ ห้องศรียานนท์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ได้กล่าวขอบคุณเหล่าทัพ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ให้การสนับสนุนรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ที่ผ่านมาอย่างเต็มขีดความสามารถ รวมทั้งได้เน้นย้ำให้ดำรงความพร้อมในการสนับสนุนศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) และกระทรวงสาธารณสุข โดยเฉพาะการสนับสนุนกำลังพล ยุทโธปกรณ์ และบุคลากรทางการแพทย์ในการจัดตั้งโรงพยาบาลสนาม และการเคลื่อนย้ายผู้ติดเชื้อ COVID-19

นอกจากนี้ ที่ประชุมได้รับทราบข้อมูลที่สำคัญของกองบัญชาการกองทัพไทย เหล่าทัพ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ดังนี้

- แนวทางการรองรับการสื่อสารของกองทัพไทยในการบูรณาการความร่วมมือระหว่างสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม กองบัญชาการกองทัพไทย และเหล่าทัพ เพื่อให้ระบบการสื่อสารของกองทัพไทย

มีความต่อเนื่อง และมีเสถียรภาพในการใช้งาน

- การรับทหารกองเกินเข้าประจำการผลัดที่ 1/64 และการฝึกทหารใหม่ในห้วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อ COVID-19 ของกองทัพบก เพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่ระบาดในหน่วยฝึกทหารใหม่

- การเตรียมความพร้อมของทีมค้นหาและกู้ภัยในเขตเมือง (USAR Team : Urban Search And Rescue Team) ในการบรรเทาสาธารณภัยของกองทัพเรือ

- การจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการทางอวกาศของกองทัพอากาศ เพื่อวิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงทางภูมิศาสตร์ จัดทำแผนงานป้องกันภัยธรรมชาติ และเป็นกำลังหลักที่จะดูแลความปลอดภัยทางอวกาศของประเทศ

- การเพิ่มประสิทธิภาพระบบฐานข้อมูล และการเชื่อมโยงข้อมูลด้านนิติวิทยาศาสตร์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อให้สามารถค้นหาและทราบตัวผู้กระทำความผิดจนสามารถจับกุมมาลงโทษได้อย่างรวดเร็ว โปร่งใส และมีมาตรฐานสากล

การประชุมผู้บัญชาการเหล่าทัพ เป็นกลไกที่สำคัญในการบูรณาการการปฏิบัติงานร่วมกันระหว่างกองบัญชาการกองทัพไทย กองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อรักษาอธิปไตยและความมั่นคงของชาติ รวมทั้งสนองตอบนโยบายของรัฐบาล และแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้ศักยภาพและทรัพยากรที่มีอยู่ในการสนับสนุนการแก้ไขปัญหาของภาครัฐ เพื่อยับยั้งการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ในปัจจุบัน


ภาพ/ข่าว  กองประชาสัมพันธ์ สำนักประชาสัมพันธ์ / กรมกิจการพลเรือนทหาร


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top