Thursday, 15 May 2025
THE STATES TIMES TEAM

อุดรธานี - กองทัพอากาศสิงคโปร์ ร่วมกับ กองบิน 23 มอบชุด PPE จำนวน 1,000 ชุด ให้กับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอุดรธานี สนับสนุนการทำงานของบุคลากรทางการแพทย์

วันที่ 9 กันยายน 2564 นาวาอากาศเอก กษิดิ์เดช แม้นสงวน รองผู้บังคับการกองบิน 23 นาวาอากาศโท รักพงศ์ เถื่อนนาดี หัวหน้าแผนกยุทธการ กองบิน 23 พร้อมด้วย นาวาอากาศโท เดเร็ก ชาน หัวหน้าหน่วยบินแยกกองทัพอากาศสิงคโปร์ และคณะข้าราชการกองบิน 23 ข้าราชการกองทัพอากาศสิงคโปร์ ร่วมมอบชุด PPE จำนวน 1,000 ชุด ให้กับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอุดรธานี ด้วยความห่วงใย และสนับสนุนการทำงานของบุคลากรทางการแพทย์ ในการดูแลรักษาผู้ป่วยโรคติดเชื้อโควิด -19

ในการนี้ นายแพทย์ทวีรัชต์ ศรีกุลวงศ์ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดอุดรธานี เป็นผู้รับมอบ โดยมี เจ้าหน้าที่สาธารณสุข และบุคลากรทางการแพทย์ เข้าร่วมรับมอบ และได้กล่าวขอบคุณทางกองทัพอากาศสิงคโปร์และกองบิน 23 ที่นำชุด PPE มามอบให้ในครั้งนี้ ซึ่งหมอ พยาบาลและบุคลากรทางการแพทย์ต้องทำงานกันอย่างหนัก ก็เพื่อความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนชาวอุดรธานี ถึงแม้ว่าทุกภาคส่วนจะให้การสนับสนุนด้านวัสดุอุปกรณ์มาอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามมีสำรองไว้ถือว่าเป็นการดีที่สุด เป็นการสร้างความอุ่นใจในการปฏิบัติหน้าที่ของบุคลากรทางการแพทย์

ปทุมธานี - ผู้ว่าฯปทุมธานี ให้เกียรติเป็นประธาน กิจกรรมปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำเนื่องในวันประมงแห่งชาติ ประจำปี 2564 ณ วัดสะแก ตำบลสามโคก อำเภอสามโคก

วันที่ 9 กันยายน 2564 เมื่อเวลา 10.00 น นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี เป็นประธาน ปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ เนื่องในวันประมงแห่งชาติ ประจำปี 2564 โดยมีพระอธิการเริงชัย ฐานุตตฺโร เจ้าอาวาสวัดสะแก พร้อมด้วย ประมงจังหวัดปทุมธานี นายอำเภอสามโคก / ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืดปทุมธานี นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลสามโคก หัวหน้าส่วนราชการ / ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดสะแก และแขกผู้มีเกียรติเข้าร่วมงาน

เนื่องในวันประมงแห่งชาติประจำปี 2564 ตามมติครมเมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2549 อนุมัติให้ในวันที่ 21 กันยายนของทุกปีเป็นวันประมงแห่งชาติ ทั้งนี้เพื่อได้รำลึกถึงพระกรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 ที่ทรงมีพระบรมราชโองการ ให้ตั้งกรมรักษาสัตว์น้ำขึ้นมาเมื่อวันที่ 21 กันยายน 2469 ต่อมาได้มีการเปลี่ยนชื่อเป็นกรมการประมงและเป็นกรมประมงในปัจจุบัน วัตถุประสงค์ในการจัดงานมีดังนี้

1.เพื่อเป็นการสร้างจิตสำนึกให้พี่น้องประชาชนให้เกิดความรักและหวงแหนทรัพยากรสัตว์น้ำ รวมทั้งสิ่งแวดล้อมในแหล่งน้ำธรรมชาติ

 2.เพื่อเพิ่มพูนผลผลิตสัตว์น้ำในแหล่งน้ำธรรมชาติและรณรงค์ให้ชุมชนมีส่วนร่วมและตระหนักถึงคุณค่าของทรัพยากรสัตว์น้ำ ตลอดจนการมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ฟื้นฟูและร่วมกันบริหารจัดการใช้ประโยชน์ทรัพยากรสัตว์น้ำให้เกิดประโยชน์สูงสุดอย่างยั่งยืนและ

3.เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างหน่วยงานต่าง ๆ ของภาครัฐองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ชุมชนชาวประมงและประชาชนในการบูรณาการด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรสัตว์น้ำ ในการจัดพิธีปล่อยพันธุ์ปลา

ในการจัดพิธีปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำในครั้งนี้ ได้รับการสนับสนุนพันธุ์น้ำจืดจากศูนย์วิจัยและพัฒนา เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืดปทุมธานีจำนวน 500,000 ตัว ชนิดพันธุ์ ของปลาประกอบด้วย

1.ปลาตะเพียนทอง 100,000 ตัว

 2.ปลาตะเพียนขาว 300,000 ตัว

 3.ปลาสร้อยขาว 50,000 ตัว

และ 4.ปลาหมอ 50,000 ตัว


ภาพ/ข่าว  สหรัฐ แก้วตา

อุดรธานี - “โจ๊ก” ที่ปรึกษา สบ.9 ชมโรงพักอุดรฯ ขับเคลื่อน SMART SAFTY ZONE ตรงจุดดึงท้องถิ่นร่วมมือได้ดีทำให้อาชญากรรมลดลง

วันที่ 9 กันยายน 2564 เวลา 09.30 น.  พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ที่ปรึกษา (สบ. 9) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เดินทางมาตรวจเยี่ยมสถานีตำรวจ ตามโครงการ SMART SAFTY ZONE  “เมืองอัจฉริยะ” อันจะนำไปสู่ความปลอดภัยจากอาชญากรรมอย่างยั่งยืน  สภ.เมืองอุดรธานี ซึ่งเป็นสถานีหนึ่งนำร่องใน 15 สถานีตำรวจทั่วประเทศ โดยมี นายสยาม ศิริมงคล ผวจ.อุดรธานี ,นายวิเชียร ขาวขำ นายก อบจ.อุดรธานี, นายธนดร พุทธรักษ์ นายกเทศมนตรีเทศบาลนครอุดรธานี ,พล.ต.ต.วรัตน์ชัย ศรีรัตนวุฑฒิ รอง ผบช.ภ.4 ,พล.ต.ต.พิษณุ อุณหเสรี ผบก.ภ.จ.อุดรธานี ,พ.ต.อ.อารี สินธุรา ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี, พ.ต.ท.พัฒนวงศ์ จันทร์พล รอง ผกก.ป.สภ.เมืองอุดรธานี และตัวแทนจาก มทบ.24 กอ.รมน. และนักธุรกิจ ผู้ประกอบการ เข้าร่วมประชุมที่ศูนย์ประชุมมลฑาทิพย์ฮอลล์ เทศบาลนครอุดรธานี

พ.ต.อ.อารี สินธุรา ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี กล่าวว่า สภ.เมืองอุดรธานี ได้รับคัดเลือกจากตำรวจภูธรภาค 4 ให้เป็นสถานีนำร่องตามโครงการ  SMART SAFTY ZONE  ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งได้เลือกพื้นที่ย่านศูนย์การค้าให้เป็นพื้นที่ “อุดรเซฟตี้โซ” มีพื้นที่ 4.3 ตร.กม. ทิศเหนือจดกับ ถนนวัฒนานุวงศ์ ทิศใต้จดกับถนนโพศรี ทิศตะวันออกจดกับ ถนนทองใหญ่ ถนนเลียบทางรถไฟ และทิศตะวันตกจดกับถนนฑีฆธนานนท์ และถนนประจักษ์ศิลปาคม  ซึ่งเป็นพื้นที่จุดเสี่ยงภัยอาชญากรรม มีตลาดยูดีทาวน์, เซ็นทรัล, ตลาดเซ็นเตอร์พ้อยท์, ตลาดนัดรถไฟ, ตลาด ปรีชา, สถานีรถไฟ, รพ.กรุงเทพ, ซอยสัมพันธมิตร และ โรงเรียน เทศบาล 7 ถนนประจักษ์ศิลปาคม

โดยสร้างเครือข่ายป้องกันอาชญากรรม มีการดำเนินการร่วมกันทั้งภาครัฐ เอกชน ท้องถิ่น รวมทั้งฝ่ายความมั่นคง สร้างเครือข่ายป้องกันอาชญากรรม วิเคราะห์พื้นที่เสี่ยงภัยอาชญากรรม การปรับปรุงสภาพแวดล้อม กำหนดแผนป้องกันอาชญากรรมเชิงรุก การตรวจพื้นที่ และการนำเทคโนโลยีมาใช้ในโครงการ เพื่อยกระดับการป้องกันอาชญากรรมในพื้นที่สาธารณะ ยกระดับการทำงานของตำรวจตามกรอบความคิดเรื่องราชการ 4.0 และก้าวเข้าสู่ยุคดิจิตอล  ซึ่งมีกล้องวงจรปิดของภาครัฐและเอกชนตามเส้นทาง และที่สาธารณะ 83 ตัว  เพื่อเชื่อมโยงสัญญาณไปยังหน่วยงานต่าง ๆ ไปยังสถานีตำรวจ  ติดเสาไฟฟ้าส่องสว่างตามเส้นทางหลัก 128 ต้น และปรับภูมิทัศน์จุดเลี่ยง ติดตั้งไฟฟ้าส่องสว่าง กล้องวงจรปิดเพิ่ม และตัดกิ่งต้นไม้ให้โล่งโปร่งมองเห็นได้

โดยได้ทำการทาสีตีเส้นจราจรให้เห็นเด่นชัดบนถนน ปิดอาคารร้างไม่ให้เป็นแหล่งซ่องสุมของอาชญากร ซึ่งได้สร้างความเข้าใจ และสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน  ด้วยการติดตั้งตู้แจ้งเหตุ ปล่อยแถวสายตรวจรถจักรยานยนต์ 191 และสายตรวจเดินเท้า บริเวณหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซ่า ศูนย์การค้ายูดีทาวน์ ตลาดรถไฟ เมื่อได้รับแจ้งเหตุต้องเข้าตรวจสอบพื้นที่ทันท่วงที ใช้เครื่องมือพร้อมตรวจสอบด้วยเทคโนโลยีจากกล้องวงจรปิดควบคู่กันไป มีอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน บินหาคนร้ายที่ก่อเหตุ ทำให้ประชาชนอุ่นใจ รับรู้ เข้าใจ และให้ความร่วมมือ มากยิ่งขึ้น หลังจากทำโครงการได้ 3 เดือน จากสถิติพบว่าการแจ้งเหตุอาชญากรรมลดลง อย่างเห็นได้ชัด

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ที่ปรึกษา (สบ.9)  กล่าวว่า โครงการ SMART SAFETY ZONE  มีเป้าหมายเพื่อการพัฒนารูปแบบวิธีการป้องกันอาชญากรรมเชิงรุก การสร้างพื้นที่ปลอดภัยจากอาชญากรรม จัดระบบการป้องกันอาชญากรรมในรูปแบบบูรณาการทุกภาคส่วน โดยใช้นวัตกรรมและยึดประชาชนเป็นศูนย์กลางตามแนวคิดเรื่อง “เมืองอัจฉริยะ” อันจะนำไปสู่ความปลอดภัยจากอาชญากรรมอย่างยั่งยืน ขอชื่นชมตำรวจ สภ.เมืองอุดรธานี  ได้ขับเคลื่อน โครงการ SMART SAFETY ZONE ได้เป็นอย่างดีในอันดับต้น ที่ได้รับความร่วมมือจากเครือข่าย ทั้งองค์การส่วนท้องถิ่น และภาคเอกชน เข้ามามีส่วนร่วมและสนับสนุนในการป้องกันอาชญากรรมได้เป็นอย่างดี เป็นการป้องกันมากกว่าการปราบปราม ซึ่งเป็นการตอบโจษและถูกใจประชาชนที่สุด

จากนั้นได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมศูนย์ปฎิบัติการส่วนหน้า สถานีตำรวจภูธรเมืองอุดรธานี ที่ชั้นล่างศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซ่า อุดรธานี  จากนั้นเดินทางไปประชาสัมพันธ์โครงการพร้อมกับแจกหน้ากากอนามัยผู้ประกอบการ และประชาชนที่ศูนย์อาหาร ภายในศูนย์การค้ายูดีทาวน์  เสร็จแล้วเดินทางดูศูนย์ควบคุมสั่งการอุดรเซฟซี้โซน งานสืบสวน สภ.เมืองอุดรธานี ซึ่งเป็นศูนย์รวมกล้องวงจรปิดภายในเขตเทศบาลนครอุดรธานี

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล  กล่าวต่อว่า โครงการ SMART SAFETY ZONE เป็นโครงการของ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. เป็นผู้ริเริ่ม และนำร่อง ใน 15 สถานีตำรวจ หนึ่งในนั้นคือ สภ.เมืองอุดรธานี จ.อุดรธานี วันนี้ได้รับมอบหมายให้มาตรวจเยี่ยม ติดตามผล จะเห็นได้ว่าในพื้นที่ SMART SAFETY ZONE อาชญกรรมลดลงอย่างเห็นได้ชัด ทั้งลัก วิ่ง ชิง ปล้น และเหตุอุกฉกรรจ์ สะเทือนขวัญ  ตัวเลขเหล่านี้เป็นสถิติชี้วัดความเดือดร้อนของประชาชน ความต้องการของประชาชน โครงการ SMART SAFETY ZONE เป็นการป้องกันนำการปราบปราม ป้องกันไม่ให้เหตุเกิด ซึ่งตรงใจประชาชนมาก ความเสียหายไม่เกิด ประชาชนไม่ล้นคุก เป็นการแก้ปัญหาได้อย่างท่องแท้

ที่ปรึกษา (สบ. 9)  กล่าวว่า ภาพจากกล้องวงจรปิด เป็นนวัตกรรมที่เข้ามาทุกส่วนในจังหวัดแล้ว โดยเฉพาะในใจกลางเมือง จะเห็นภาพทุกจุด และยังเชื่อมโยงกับกล้องวงจรปิดของเอกชนด้วย มีการดึงกล้องจากบ้านเรือนประชาชนมาที่สถานีตำรวจ ตำรวจกำลังมีน้อย จึงต้องร่วมกับประชาชนทำให้ตำรวจมีกำลังมาก นายก อบจ. ศูนย์การค้ายูดีทาวน์ ยังเพิ่มกล้องให้อีก นับวันยิ่งมีความปลอดภัยมากขึ้น  ผบ.ตร.จะนำการอย่างต่อเนื่อง และจะขยายโครงการออกไปอีก ผลประโยชน์จะตกอยู่กับประชาชนทั้งสิ้น

จากลงพื้นที่อุดรธานี รู้สึกพึงพอใจ ซึ่งจะได้นำเรียนท่าน ผบ.ตร. เพื่อให้รับทราบความก้าวหน้าของโครงการ ซึ่งอนาคตข้างหน้าจะเพิ่มอีก 15 จังหวัด เพราะมีงบประมาณจำกัด แต่ได้ความร่วมมือจากองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น หากตำรวจทำจริงก็ยิ่งอยากจะให้งบประมาณ กำลังอยู่ที่ตำรวจ ให้ตำรวจไปทำงาน ท้องถิ่นจะได้ปลอดภัยดังกล่าว


ภาพ/ข่าว  นายกฤษดา จันทร์ดวง ผู้สื่อข่าว จ.อุดรธานี

'แซม แบงก์แมน-ฟรายด์'​ มหาเศรษฐีแสนล้านในวัย 29 ผู้สะเทือนวงการโลกการเงินดิจิทัล! | Knowledge Times EP.18

????Knowledge Times BizView
????'แซม แบงก์แมน-ฟรายด์'​ มหาเศรษฐีแสนล้านในวัย 29 ผู้สะเทือนวงการโลกการเงินดิจิทัล!

หนทางพิสูจน์ม้า​ กาลเวลาพิสูจน์คน​ อาจจะใช้ไม่ได้กับ​ มหาเศรษฐี​แสนล้าน วัย​ 29​ อย่าง​ “แซม แบงก์แมน-ฟรายด์” ผู้ทรงอิทธิพล แห่งวงการคริปโตเคอร์เรนซี ที่ใช้เวลาเพียงไม่กี่ปี​ สะสมประสบการณ์และสร้างความมั่งคั่งจากช่องโหว่ของวงการเงินดิจิทัล

แซม เป็นเด็กหนุ่มชาวอเมริกันผู้มีความสนใจในคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ เขาสามารถเข้าศึกษาในมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลกอย่าง MIT ในสาขาวิชาฟิสิกส์ 

เขาได้มีโอกาสฝึกงานเป็นนักพัฒนาโมเดลทางคณิตศาสตร์เพื่อสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนในสินทรัพย์ หรือ “Quantitative Trading”

และดูเหมือนการฝึกงานในครั้งนี้​ จะพาเขาก้าวเข้ามาสู่โลกแห่งการเงินแบบถอนตัวไม่ออก... 

เมื่อแซมจบการศึกษา เขาก็มุ่งหน้าเอาดีทางด้านนี้ โดยเข้าทำงานที่ Jane Street Capital ซึ่งเป็นบริษัทที่ทำธุรกิจ Quantitative Trading โดยเฉพาะ 

นอกจากนี้​ บริษัทดังกล่าว​ ก็ยังมีอีกธุรกิจ นั่นก็คือ “Liquidity Provider” หรือผู้ให้บริการเสริมสภาพคล่องของหลักทรัพย์หรือสินทรัพย์ทางการเงินต่าง ๆ เพื่อควบคุม Bid Offer หรือราคาซื้อขายสินทรัพย์ให้มีเสถียรภาพ

3​ ปีในบริษัทแห่งนี้​ ช่วยทำให้เขาเข้าใจโลกแห่งสินทรัพย์ดิจิทัลในระดับสูง

สูงเสียจน​ ประสบการณ์ที่ได้มาจากการทำงานนั้น​ แซมเข้าใจถึงไส้ในของคริปโตฯ​ โดยในปี 2017 ซึ่งเป็นปีที่คริปโตฯ​ กำลังเป็นที่จับตามองของคนทั่วโลกนั้น เขาได้เข้าไปหาโอกาสโดยทันที

แซมทำยังไง? 
แซมเห็นช่องโหว่จากพื้นฐานและระบบที่รองรับนักลงทุน

เขามองเห็นว่าโครงสร้างพื้นฐานหรือระบบที่จะมารองรับนักลงทุนในตลาดแห่งนี้ ยังไม่มีศักยภาพมากพอ

โดยเฉพาะเมื่อมีนักลงทุนให้ความสนใจในคริปโตฯ​ เกินกว่าสภาพคล่องทั้งระบบจะรับไหว 

มักจะเกิด​ 'ส่วนต่าง'​ ระหว่าง​ 'ราคารับซื้อ'​ และ 'ราคาเสนอขาย' หรือที่เรียกว่า​ Spread อย่างมาก

ทันทีที่เขาเห็นภาพของส่วนต่างด้านราคานี้​ จึงคาดการณ์ว่าธุรกิจให้บริการเสริมสภาพคล่องรวมถึงโมเดลการซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลนี่แหละจะเติบโตไปได้อีกมากในอนาคต

เขาจึงได้ก่อตั้งบริษัท Alameda Research ขึ้นทันที ในปี 2017

Alameda Research เรียกได้ว่าถอดแบบมาจากประสบการณ์การทำงานของแซม

ที่บอกแบบนี้ก็เพราะว่าบริษัทดำเนินธุรกิจเหมือนกับสิ่งที่เขาเคยทำแทบจะทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาโมเดลคณิตศาสตร์เพื่อสร้างผลตอบแทนให้กับลูกค้าหรือการให้บริการเสริมสภาพคล่อง

โดยสิ่งที่แตกต่างกันเพียงอย่างเดียว ก็คือ Alameda Research จะโฟกัสไปที่สินทรัพย์ดิจิทัลและคริปโทเคอร์เรนซีโดยเฉพาะ

และสิ่งที่แซมคาดการณ์ไว้ก็เป็นไปตามนั้น เพราะในเวลาต่อมา คริปโตฯ​ ได้กลายมาเป็นสินทรัพย์ที่ได้รับความสนใจสูงมากในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา

ขณะเดียวกัน​ ผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนและให้บริการด้านสภาพคล่องในตลาดแห่งนี้​ ยังหาได้ยาก!! 

ทำให้ Alameda Research ของแซม​ ที่นาทีนี้เริ่มมีความพร้อมทั้งด้านการลงทุนและให้บริการสภาพคล่อง​ จึงเติบโตได้อย่างรวดเร็ว

ปัจจุบันบริษัทแห่งนี้ มีสินทรัพย์ดิจิทัลภายใต้การจัดการ สูงถึง 3.3 หมื่นล้านบาท

หลังจาก Alameda Research สำเร็จ ด้วยความที่เป็นนักเทรดอยู่แล้ว แซมจึงได้มองไปที่การต่อยอดธุรกิจ Exchange เพื่อซื้อขายคริปโทเคอร์เรนซีที่เป็นของตัวเองอีกด้วย

โดย แซม ได้ร่วมมือกับ แกรี่ หวัง ก่อตั้งบริษัท “FTX” ธุรกิจ Exchange ซื้อขายคริปโทเคอร์เรนซี

และแน่นอนว่า​ ด้วยความที่เขาคลุกคลีกับการลงทุนตั้งแต่สมัยฝึกงาน จึงทำให้เขาออกแบบผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายและเรียกได้ว่าซับซ้อน ลงบนแพลตฟอร์มแห่งนี้ได้ ไม่ว่าจะเป็น... 

- Options สิทธิ์ในการซื้อหรือขายคริปโทเคอร์เรนซี
- Leveraged Token โทเคนแบบมีอัตราทด ที่อ้างอิงตามมูลค่าของสินทรัพย์ดิจิทัล
- Volatility Products อนุพันธ์ที่อิงตามความผันผวนของตลาด

ส่งผลให้ ปัจจุบัน​ FTX มีมูลค่าการซื้อขายถึงราว 4.6 แสนล้านบาทต่อวัน

แซมยังไม่หยุด​ เขาได้สร้างเหรียญเป็นของตัวเอง ชื่อว่า FTX Token หรือ FTT ที่พัฒนาขึ้นให้เป็นเหรียญประจำ Exchange คล้ายกับ Binance Coin บน Binance หรือ Bitkub Coin บน Bitkub ซึ่งผู้ถือครอง FTT ก็จะได้รับสิทธิประโยชน์ต่างๆ​ อาทิ จ่ายเป็นค่าธรรมเนียมในการซื้อขายหรือนำไปฝากไว้กับระบบเพื่อรับผลตอบแทน 

ปัจจุบัน FTX ได้รับการประเมินมูลค่ากิจการอยู่ที่ 1.8 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 5.9 แสนล้านบาท 

โดยแซม ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งและเจ้าของ มีทรัพย์สินอยู่กับตัวมากถึง 2.8 แสนล้านบาท​ ส่งเจ้าตัวเข้าสู่มหาเศรษฐีอันดับที่ 274 ของโลก​ และถูกยกให้เป็นผู้ทรงอิทธิพลในวงการคริปโทเคอร์เรนซี 

ทั้งหมดนี้คือเรื่องราวของ​ แซม​ ที่ปัจจุบันมีอายุ 29 ปี...

.

.


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!
A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!! 
- ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท
- รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ
- สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต
- แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย
***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก???? https://lin.ee/vfTXud9

ลำพูน - ผู้ว่าฯ ลงพื้นที่ติดตามการดำเนินการตามมาตรการ Bubble and Seal ของ "แพนดอร่าฯ" พร้อมเตรียมจัดสถานที่พักโรงแรมเป็น Local Quarantine เพื่อรองรับพนักงานที่มีความเสี่ยงต่ำ และลดการติดเชื้อเพิ่ม

วันที่ (7 ก.ย. 64)  นายวรยุทธ เนาวรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน พร้อมด้วย นายแพทย์สุผล ตติยนันทพร นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดลำพูน , นายชาตรี กิติธนดิตถ์ ปลัดจังหวัดลำพูน , นายโยธิน ประสงค์ความดี นายอำเภอเมืองลำพูน , นายแพทย์โภคิน ศักรินทร์กุล นายแพทย์ชำนาญการพิเศษโรงพยาบาลลำพูน , ฝ่ายปกครองจังหวัด  ตลอดจนเจ้าหน้าที่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง  ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการดำเนินการ ตามมาตรการ Bubble and Seal   ณ ลานสนามบิน สวนอุตสาหกรรมเครือสหพัฒน์  ตำบลป่าสัก อำเภอเมืองลำพูน จังหวัดลำพูน ถูกจัดให้เป็นสถานที่ Bubble and Seal ของบริษัท แพนดอร่าโพรดักชั่น จำกัด  มีพนักงานที่เข้ารับการสังเกตุอาการ จำนวน 700 คน                  

นายวรยุทธ เนาวรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน กล่าวว่า จากสถานการณ์ ของสถานประกอบการ บริษัท แพนดอร่า มีพบผู้ติดเชื้อภายในสถานประกอบการและได้มีการดำเนินการตามมาตรการ Bubble and Seal นั้น  ทางคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดฯ ได้รวบรวมข้อมูล และมีการวิเคราะห์ รวมถึงมีการติดตามสถานการณ์ อย่างต่อเนื่อง ตามลำดับ ในช่วงเวลานี้พนักงานบริษัท จำนวน 700 คน เดิมทีเป็นกะ 08  กะที่เวลาทำงานในช่วงกลางวันของทาง บริษัท แพนดอร่าฯ จำกัด นั้น ได้ย้ายออกมา และไม่ได้มีการปฏิบัติงานในช่วงเวลานี้  การทำ Bubble and Seal ต้องมีการปรับเปลี่ยน ประกอบกับการรวมพนักงานอยู่ ถึง 700 คน โดยไม่ได้มีการทำงานนั้น ก็อาจจะทำให้มีการเพิ่มยอดของผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้นได้   

   

ทางจังหวัดลำพูน โดยคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด ได้มีการปรับกระบวนการดำเนินงานเพิ่มเติม คือ ในส่วนของผู้ที่มีการติดเชื้อโควิด-19 ของพนักงาน บริษัท แพนดอร่าฯ ช่วงเวลานี้ จะมีการดำเนินการย้ายไปรักษาตัวที่ โรงพยาบาลสนาม หรือ โรงพยาบาลสนามของทาง บริษัท แพนดอร่าฯ เอง ส่วนที่ไม่เป็นผู้ป่วยแต่เป็นผู้ที่มีความเสี่ยง จะดำเนินการนำแยกออกไปสังเกตอาการ ที่โรงแรม ที่พักต่างๆ ที่เป็น Local Quarantine ในพื้นที่จังหวัดลำพูน

ทั้งนี้  เพื่อเป็นการบริหารการป้องกันการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในหมู่พนักงานเอง และในส่วนของพี่น้องประชาชนในภาพรวมของจังหวัดลำพูนจะได้มีความปลอดภัยต่อการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 การบริหารจัดการนั้นเป็นไปตามขั้นตอน ได้มีการคัดแยก กลุ่มคน และมีการนำพนักงาน เข้าสู่ที่พักในโรงแรม ที่ทางจังหวัดจัดเตรียมไว้ ตามมาตรการของทางสาธารณสุข ขอให้เชื่อมั่นในความปลอดภัย และมาตรการต่าง ๆ ที่ทางจังหวัด ได้มีการประชุมเตรียมพร้อม โดยทางผู้บริหาร บริษัท แพนดอร่าฯ เอง ได้ให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ในการดำเนินการไปพร้อม ๆ กัน ที่สำคัญคือพี่น้องพนักงาน บริษัท แพนดอร่าฯ ได้มีความเข้าใจและได้มีการเตรียมตัว เข้าสู่ จุดต่าง ๆ ที่ทางจังหวัดลำพูน และทาง บริษัท แพนดอร่าฯ ได้เตรียมพร้อมในช่วงเวลา ต่อไป


ภาพ/ข่าว  กรรณิการ์ วิจิตรสกลการ / ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จังหวัดลำพูน

ปทุมธานี - บิ๊กแจ๊ส อนุมัติงบ 25 ล้านให้กับพุทธศาสนา สร้างอาคารปฏิบัติธรรมและอุโบสถ ปลูกฝังเยาวชนประชาชนเป็นดี

เมื่อวันที่ 8 กันยายน 2564 ที่วัดโบสถ์ ตำบลบางกระบือ อำเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานี พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายก อบจ.ปทุมธานีพร้อมด้วยคณะบริหาร และเจ้าหน้าที่ อบจ.ปทุมธานี ร่วมมอบเงินอุดหนุนวัดโบสถ์เพื่อสมทบการก่อสร้างอาคารอเนกประสงค์สำหรับผู้ปฏิบัติธรรมจังหวัดปทุมธานี เป็นจำนวนเงิน 15,000,000 บาท โดยมี พระราชวรเมธาอาจารย์ เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี เจ้าอาวาสวัดโบสถ์ (ฝ่ายธรรมยุต) รับถวายเพื่อดำเนินการก่อสร้างอาคารปฏิบัติธรรม ส่วนวัดเทพสรธรรมาราม ตำบลบ้านใหม่ อำเภอเมือง จังหวัดปทุมธานี  พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายก อบจ.ปทุมธานีพร้อมด้วยคณะบริหาร และเจ้าหน้าที่ อบจ.ปทุมธานี ได้มอบเงินสมทบการก่อสร้างอุโบสถวัดเทพสรธรรมาราม เป็นเงินจำนวน 10,000,000 บาท

โดยมี พระอาจารย์เทียนชัย ชัยทีโป เป็นเจ้าอาวาสวัดเทพสรธรรมาราม รับถวาย ซึ่งขณะนี้ทางวัดอยู่ระหว่างการก่อสร้างอุโบสถเพื่อใช้เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรม และทำกิจกรรมของสงฆ์ทางพระพุทธศาสนาต่อไป ทางด้าน พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายก อบจ.ปทุมธานี กล่าวว่า เนื่องจากวัดโบสถ์เป็นวัดสายธรรมยุติมีการปฏิบัติธรรม แต่ยังขาดอาคารที่ใช้ปฏิบัติธรรม ทางวัดได้ของบประมาณส่วนหนึ่งมาทาง อบจ.จึงได้สนับสนุนเป็นงบประมาณ 15 ล้านบาท โดยทางวัดก็จะเดินหน้าก่อสร้างอาคารปฏิบัติธรรม ต่อไป ประชาชนและเยาวชนของเราจะได้เข้ามาร่วมกิจกรรมปฏิบัติธรรมภายในวัดแห่งนี้ ถือว่าโครงนี้เป็นการปลูกฝังให้เด็กเยาวชนของเราให้มีความเข้าใจเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา รวมถึงเป็นการฟื้นฟูศาสนาของเราต่อไป

ในส่วนของการฉีดวัคซีนตนมีความมั่นใจว่าวัดทุกวัดในจังหวัดปทุมธานีทาง อบจ.ได้ดำเนินการฉีดพ่นฆ่าเชื้อทั้งภายในอาคารและภายนอกอาคาร รวมถึงพระสงฆ์ทุกองค์ในจังหวัดปทุมธานี ทั้งธรรมยุติและมหานิกาย ได้ฉีดวัคซีนทางเลือกซิโนฟาร์มให้พระสงฆ์ทุกรูปในจังหวัดปทุมธานี ทั้ง 2 เข็มเรียบร้อยแล้ว   ซึ่งทาง อบจ.ได้สร้างความมั่นใจให้กับพุทธศาสนิกชนที่มาทำบุญกับวัดทุกวัดในจังหวัดปทุมธานี อย่างปลอดภัย  ตนเองอยากจะทำกำไลริสแบนด์เป็นสัญลักษณ์ให้ทราบว่าฉีดครบ 2 เข็มแล้ว


ภาพ/ข่าว  ประภาพรรณ ขาวขำ/รายงาน

ตราด - ผบ.ทร. ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยม ฐานส่งกำลังบำรุงทหารเรือตราด ทัพเรือภาคที่ 1

วันที่ 8 กันยายน 2564 เวลา 10.30 น. พลเรือเอก ชาติชาย ศรีวรขาน ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) พร้อม นางจุฬารัตน์ ศรีวรขาน นายกสมาคมภริยาทหารเรือและคณะ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมฐานส่งกำลังบำรุงทหารเรือตราด ทัพเรือภาคที่ 1 อ.แหลมงอบ จ.ตราด โดยมี พลเรือโท โกวิท อินทร์พรหม ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 นางนุชนภา อินทร์พรหม ประธานชมรมภริยาทหารเรือ ทัพเรือภาคที่ 1 และ นาวาเอก ปฏิรูป อยู่พรหม ผู้บังคับการฐานส่งกำลังบำรุงทหารเรือตราด ทัพเรือภาคที่ 1 ให้การต้อนรับ

การตรวจเยี่ยมฐานส่งกำลังบำรุงทหารเรือตราด ทัพเรือภาคที่ 1 ในครั้งนี้ เป็นไปตามแผนการเดินทางตรวจเยี่ยมหน่วยในพื้นที่ชายแดน จังหวัดจันทบุรีและตราด เพื่อเป็นการขอบคุณกำลังพลที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ห่างไกล ด้วยความวิริยะอุตสาหะ ตลอดปีที่ผ่านมาอย่างเต็มกำลังความสามารถ

ในโอกาสนี้ ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้ลงนามในสมุดตรวจเยี่ยม พร้อมมอบเครื่องอุปโภค บริโภค เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้กับกำลังพล รวมถึงกล่าวให้โอวาท โดยมีใจความตอนหนึ่งว่า “ขอแสดงความชื่นชมการปฏิบัติหน้าที่ในทุกภารกิจที่ได้รับมอบหมายอย่างเต็มกำลังความสามารถในรอบปีที่ผ่านมา จนมีผลงานเป็นที่ประจักษ์ และได้รับการยอมรับจากหน่วยงานและประชาชนในพื้นที่เป็นอย่างดี ตลอดระยะเวลาที่ผมปฏิบัติราชการในกองทัพเรือมากกว่า 37 ปี มีความเชื่อมั่นอยู่เสมอว่า ทุกหน่วยงานของกองทัพเรือ ไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานขนาดใหญ่หรือขนาดเล็ก ล้วนเป็นเครื่องมือที่มีความสำคัญเท่าเทียมกัน เพราะทุกหน่วยงานเป็นกลไกอันสำคัญยิ่ง ในการช่วยกันขับเคลื่อนกองทัพเรือให้เจริญก้าวหน้ามาถึงทุกวันนี้”

“พลังสามัคคี พลังราชนาวี”


ภาพ/ข่าว  ฐานส่งกำลังบำรุงทหารเรือตราด ทัพเรือภาคที่ 1 / กองกิจการพลเรือน ทัพเรือภาคที่ 1

นิราช / นันทพล ทิพย์ศรี รายงาน

ก.แรงงาน เร่งระดมสมองวางแผนพัฒนากำลังคนรองรับอุตสาหกรรมเป้าหมาย S-curve

วันที่ 9 กันยายน 2564 พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการพัฒนาแรงงานและประสานงานการฝึกอาชีพแห่งชาติ (กพร.ปช.) ครั้งที่ 4/2564 ณ ห้องประชุม 301 ชั้น 3 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล และผ่านระบบ Video Conference โดยมี นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ศาสตราจารย์ นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงแรงงาน ปลัดกระทรวงแรงงาน อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ผู้แทนสภาองค์การนายจ้าง ผู้แทนสภาองค์การลูกจ้าง ผู้ทรงคุณวุฒิ และคณะกรรมการจากทุกภาคส่วนร่วมประชุม

โดยกรมพัฒนาฝีมือแรงงานเสนอ 4 เรื่องให้ที่ประชุมพิจารณา ได้แก่

การเสนอรายชื่อบุคคลเพื่อแต่งตั้งเป็นอนุกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิใน กพร.ปจ. แทนตำแหน่งที่ว่างลง

การแก้ไขเพิ่มเติมรายชื่ออนุกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิใน กพร.ปจ. (ร่าง) แ

ผนพัฒนาแรงงานและประสานงานการฝึกอาชีพในอุตสาหกรรมเป้าหมาย S-Curve (พ.ศ.2565-2570)

และ (ร่าง) แผนปฏิบัติการด้านพัฒนาทักษะฝีมือคนพิการเพื่อรองรับการประกอบอาชีพ (พ.ศ.2564-2570) 

นายธวัช เบญจาทิกุล อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน (กพร.) เปิดเผยว่า คณะกรรมการพัฒนาแรงงานและประสานงานการฝึกอาชีพแห่งชาติ (กพร.ปช.) มีหน้าที่ในการกำหนดนโยบายและแนวทางในการพัฒนาแรงงานและประสานงานการฝึกอาชีพของกำลังแรงงานให้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐ ยุทธศาสตร์ชาติ และแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ประสานแผนการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ระหว่างระบบการศึกษากับระบบการพัฒนากำลังแรงงาน ประสานนโยบายแผนการพัฒนาฝีมือแรงงาน และแผนการฝึกอาชีพของ ทุกหน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชน เพื่อความเป็นเอกภาพในการพัฒนาแรงงาน ขจัดปัญหาความซ้ำซ้อนและความสิ้นเปลือง รวมถึงติดตามและประเมินผลการดำเนินงานการพัฒนาแรงงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนเสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาและอุปสรรคเกี่ยวกับการพัฒนาแรงงานและประสานงานการฝึกอาชีพ โดยมีคณะอนุกรรมการพัฒนาแรงงานและประสานงานการฝึกอาชีพจังหวัด (กพร.ปจ.) เป็นกลไกระดับจังหวัดในการขับเคลื่อนติดตามและดำเนินงานตามแผนการพัฒนากำลังแรงงานในพื้นที่จังหวัด

การประชุมในวันนี้ นอกจากเรื่องที่เสนอให้ที่ประชุมพิจารณาซึ่งที่ประชุมมีมติเห็นชอบตามที่ฝ่ายเลขานุการเสนอแล้ว กพร. ได้รายงานถึงระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัฒนาแรงงานและประสานงานการฝึกอาชีพแห่งชาติ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2564 ได้ปรับปรุงคำสั่งให้เป็นปัจจุบัน เพิ่มองค์ประกอบของ กพร.ปช. และปรับปรุงอำนาจหน้าที่แล้ว

การดำเนินงานของคณะอนุกรรมการพัฒนาแรงงานและประสานงานการฝึกอาชีพในอุตสาหกรรมเป้าหมาย (S-Curve) ขณะนี้ กลุ่มอุตสาหกรรมหุ่นยนต์เพื่อการอุตสาหกรรม และอุตสาหกรรมการบินและโลจิสติกส์ จัดทำแผนพัฒนาแรงงานและประสานงานการฝึกอาชีพแล้วเสร็จ กลุ่มอุตสาหกรรมดิจิทัลและอุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่ อยู่ระหว่างรับฟังความคิดเห็น ส่วนอุตสาหกรรมอื่นๆ นั้น อยู่ระหว่างการประชุมร่วมกับภาคอุตสาหกรรมและผู้เกี่ยวข้อง เพื่อยกร่างแผนผังตำแหน่งงานและแนวโน้มการจ้างงานใน แต่ละอุตสาหกรรมเป้าหมายในรูปแบบการระดมความคิดเห็นผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์

การดำเนินงานของคณะอนุกรรมการพัฒนาทักษะฝีมือคนพิการเพื่อรองรับการประกอบอาชีพ สรุปการจัดงานสัมมนาออนไลน์ “ให้กลไกตลาดทุน เกื้อหนุนผู้พิการ สร้างงานสร้างอาชีพ” เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2564 ผ่านระบบไมโครซอฟท์ทีม และถ่ายทอดสดผ่านเฟสบุ๊ค ของ กลต. กระทรวงแรงงาน และกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน  ผู้เข้าร่วมงานสัมมนาประกอบด้วยผู้บริหาร ผู้แทนบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ องค์กร สมาคมคนพิการ หน่วยงานภาครัฐและเอกชน จำนวน 524 คน โดยมีบริษัทในตลาดหลักทรัพย์สนใจทำ CSR ด้านคนพิการ จำนวน 75 แห่ง ซึ่ง กพร. จะติดตามความคืบหน้าการดำเนินงานต่อไป และการสนับสนุนซิมการ์ดพัฒนาฝีมือแรงงานออนไลน์ 500 ซิม จาก บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด ในการนี้ กรมพัฒนาฝีมือแรงงานได้จัดพิธีแถลงข่าวและรับมอบซิมการ์ด จำนวน 500 ชุด เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2564 ณ กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน โดย กพร. ร่วมกับสภาคนพิการทุกประเภทแห่งประเทศไทย ดำเนินการแจกจ่ายซิมการ์ดให้แก่กลุ่มแรงงานคนพิการและกลุ่มเปราะบางเพื่อเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงระบบอินเทอร์เน็ตได้ง่ายขึ้น ยกระดับศักยภาพด้านดิจิทัล ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี

และการดำเนินงานของคณะอนุกรรมการพัฒนาทักษะฝีมือผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ผลการช่วยเหลือแรงงานกลุ่มเปราะบาง ประจำปี 2564 กระทรวงแรงงานเป้าหมาย 72,150 แห่ง ผลการสำรวจแล้ว 22,370 แห่ง และการเตรียมรองรับการพัฒนาผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 อีกด้วย

“คณะกรรมการพัฒนาแรงงานและประสานงานการฝึกอาชีพแห่งชาติ (กพร.ปช.) มีองค์ประกอบมาจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยร่วมกันบูรณาการและวางแผนการพัฒนากำลังแรงงานของประเทศให้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐ ยุทธศาสตร์ชาติ และแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เพื่อความเป็นเอกภาพในการพัฒนาแรงงาน เพื่อให้แรงงานมีความรู้และทักษะตรงตามความต้องการของตลาดแรงงาน ให้แรงงานไทยสามารถสร้างงาน สร้างอาชีพ ขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมไทยต่อไป ภายใต้ชีวิตวิถีใหม่ และเทคโนโลยีที่มีการเปลี่ยนแปลง” อธิบดี กพร. กล่าวทิ้งท้าย

‘พันธมิตรจิตอาสา’ ลุยช่วยผู้ป่วยกักตัวโควิด ที่ชุมชนประชานิเวศน์ 2 ระยะ 3 โรยเชือกรับ "ข้าวปันอิ่ม" มอบด้วยใจห่วงใยในยามที่ลำบาก

ข้าวกล่องปันอิ่มห่วงใยคนในสังคม วันที่  8 กันยายน  2564 ที่ศาลาประชาคม ชุมชนประชานิเวศน์ 2 ระยะ 3 อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี นายสมชาย จรรยา อุปนายก สมาคมผู้สื่อข่าวและช่างภาพอาชญากรรม พร้อมตัวแทนพันธมิตรจิตอาสา มูลนิธิสหชาติ นักศึกษาหลักสูตรประกาศนียบัตรสิทธิมนุษยชนสำหรับนักบริหารระดับสูง รุ่น 1 (ปสม.1) หลักสูตรเสริมสร้างสังคมสันติสุข รุ่นที่ 12 (สสสส.) เว็ปไซต์ข่าวจั่นเจา Canchaonews.com หนังสือพิมพ์ดีดีโพสต์ นิวส์

ส่งมอบข้าวกล่องอุ่นร้อนพร้อมทาน ที่รับจากจุดส่งมอบอาหารโลตัสบางกะปิ ภายใต้โครงการ "ครัวปันอิ่ม ร้อยเรียงใจสู้ภัยโควิด-19" ของบริษัทในเครือซีพี ซึ่งเป็นการส่งมอบข้าวระยะที่ 2 ที่จะมีไปจนถึงในที่ 26 กันยายนนี้  ซึ่งพันธมิตรจิตอาสา เป็นสะพานบุญรับมอบแก่ชาวชุมชนประชานิเวศน์ 2 ระยะ 3 โดยมีนางสุขศรี เดชฤดี ประธานกรรมการชุมชน พร้อมคณะกรรมการหมู่บ้าน และ อสม. ร่วมนรับมอบเพื่อนำส่งต่อชาวบ้าน ที่ต้องกักตัวอยู่ภายในบ้าน หลังกลับมาจากรักษาตัวจากโรงพยาบาลจนหายแล้ว

นางสุขศรี เดชฤดี เปิดเผยว่า ชุมชนแห่งนี้ มีผู้ที่ยากจนขาดรายได้ ทั้งผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียง โดยทางกรรมการชุมชนและอสม. มีระบบบริหารจัดการทำรายชื่อผู้ที่ประสบผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโนรนาไว้ เพื่อนำอาหารส่งแจกจ่ายแก่ผู้ที่เดือดร้อนและมีความจำเป็นก่อน โดยภายในชุมชนมีผู้อาศัยอยู่ 648 ครัวเรือน ประชากรมากกว่า 3,000 คน มีผู้ที่ติดเชื้อโควิดและรักษาหายแล้ว 27 ครอบครัว จำนวน 214 คน และยังมีผู้ที่ต้องกักตัวจำนวน 1 ครอบครัว  ซึ่งจำนวนผู้ป่วยติดโควิด-19 นี้มีหญิงท้องใกล้คลอดติดโควิด 1 ราย ชาวชุมชนต้องช่วยกันดูแลเป็นอย่างดีตามขั้นตอนจนได้รักษาตัวในโรงพยาบาล และกลับมาอยู่บ้านได้แล้ว ขณะนี้ไปนอนรอคลอดอยู่ที่โรงพยาบาล

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากนี้ได้นำข้าวกล่องส่งมอบให้กับคณะกรรมการ และชาวบ้านที่มารอบรับในศาลาประชาคมแล้ว ทางประธานชุมชน และ อสม. ยังร่วมตระเวนส่งให้ลูกบ้านตามซอยต่าง ๆ เพื่อให้ได้รับประทาน ส่วนบางรายที่ต้องกักตัวอยู่บนอพาร์ตเม้นชั้นสูง ๆ ต้องใช้วิธีโรยเชือกลงมารับข้าวกล่องปันอิ่ม 

นอกจากนี้ หลังมอบอาหารแก่ทางชุมชนแล้ว ทีมงานพันธมิตรจิตอาสา ยังนำข้าวกล่องพร้อมทานมอบให้กับ นักข่าวภาคสนาม พนักงานรักษาความปลอดภัย เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระ ในยามลำบากได้ในระดับหนึ่ง

นราธิวาส - สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานพระราชวโรกาสให้ คณะบุคคลต่าง ๆ เฝ้าทูลละอองพระบาท

วันนี้ 7 กันยายน 2564 เวลา 09.00 น. นายเจษฎา  จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส  นางดาเรศ จิตรัตน์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดนราธิวาส พร้อมด้วยนายวารินทร์ บุษบรรณ ที่ปรึกษาอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร นายกัส ยะมาแล เกษตรจังหวัดนราธิวาสและคณะข้าราชการจังหวัดนราธิวาส และกรรมการมูลนิธิพัฒนาเกษตรอนามัยในพระบรมราชูปถัมภ์

เฝ้าทูลละอองพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อม ถวายผลไม้และของดีจังหวัดนราธิวาส จำนวน 114 กล่อง แด่ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี และทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเงิน โดยเสด็จพระราชกุศลตาม  พระราชอัธยาศัย ณ วังสระปทุม กรุงเทพมหานคร


ภาพ/ข่าว  แวดาโอ๊ะ​ หะไร​ จ.นราธิวาส


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top