Thursday, 8 May 2025
THE STATES TIMES TEAM

‘ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ’ เป็นประธานปล่อยเรือตรวจการณ์ 1301 เสริมศักยภาพดูแลความมั่นคง ตามแนวชายฝั่งทะเล

พล.ต.ต. ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า วันอังคาร ที่ 5 ต.ค. 64 เวลา 10.00 น. พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นประธานในพิธีปล่อยเรือตรวจการณ์ขนาด 130 ฟุต (เรือตรวจการณ์ 1301) ลงน้ำ ณ บริษัท ซีเครสท์ มารีน จำกัด ต.ท้ายบ้าน อ.เมือง จ.สมุทรปราการ โดยมี คุณรัตนาภรณ์ สีวลีพันธ์ นายกสมาคมแม่บ้านตำรวจ ในฐานะภริยาผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเป็นสตรี

ผู้ประกอบพิธีปล่อยเรือลงน้ำ พร้อมกล่าวเชิญมิ่งขวัญและมงคลสู่เรือ โดยมีผู้บังคับบัญชาระดับสูงของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และคณะสมาคมแม่บ้านตำรวจเข้าร่วมพิธีฯ

สำหรับ เรือตรวจการณ์ 1301 เป็นเรือที่มีขนาดความยาวตลอดลำ 42 เมตร (137.76 ฟุต) ความกว้างกลางลำ 7.9 เมตร (25.91 ฟุต) กินน้ำลึก 1.5 เมตร (4.92 ฟุต) ความเร็วสูงสุดไม่ต่ำกว่า 30 นอต กำลังพลประจำเรือ 23 นาย มีวัตถุประสงค์เพื่อใช้ในภารกิจของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพิ่มศักยภาพและประสิทธิภาพในการปฏิบัติหน้าที่ดูแลรักษาความมั่นคงตามแนวชายฝั่งทะเล การป้องกันและปราบปรามแก้ไขปัญหาอาชญากรรมต่าง ๆ รวมถึงการให้ความช่วยเหลืออำนวยความสะดวกแก่พี่น้องประชาชนและนักท่องเที่ยวที่สัญจรทางน้ำ เป็นต้น

ปทุมธานี - ‘บิ๊กแจ๊ส’ เดินลุยน้ำพา นร.อาชีวะ ลงพื้นที่ตลาดเก่าแก่อิงน้ำ ช่วยปชช.ริมเจ้าพระยา เลื่อนปลั๊กไฟเตรียมป้องกันโบราณสถาน

เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2564 เวลา 08:30 น. ที่ท่าเรือหน้าวิทยาลัยเทคนิคปทุมานี ตำบลบ้านกลาง อำเภอเมือง จังหวัดปทุมานี พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายก อบจ.ปทุมธานี ได้ขับเรือยนต์ พร้อม เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดปทุมธานี เพื่อมารับนักเรียนอาชีวศึกษาสาขาช่างไฟฟ้าวิทยาลัยเทคนิคปทุมานี เพื่อพาล่องเรือตรวจระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาและช่วยย้ายสายไฟ ปลั๊กไฟและ มิเตอร์ไฟฟ้าให้กับบ้านริมน้ำตลอดเส้นทางจากนั้นได้ลงพื้นที่ตลาดอิงน้ำ ซึ่งเป็นตลาดเก่าแก่ ตำบลบางเตย อำเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานี เพื่อตรวจเยี่ยมประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากระดับน้ำพร้อมช่วยย้ายปลั๊กไฟและสิ่งของขึ้นที่สูง

โดยมี นายสิระพงษ์ สิริโพธินันท์ รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี , ร.ต.อ.ดร.ตรีลุพธ์ ธูปกระจ่าง นายกเทศมนตรีนครรังสิต , นายกฤษดา พงษ์เสริม ผู้จัดการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดปทุมธานี พร้อมทีมงาน, นายระเด่น ดวงแก้ว อาจารย์สาขาช่างไฟฟ้ากำลังพร้อมอาจารย์อีก 5 คน และนักเรียนอาชีวศึกษาสาขาช่างไฟฟ้า จิตอาสาอีกจำนวน 6 คน ร่วมลงพื้นที่ย้ายปลั๊กไฟและหม้อแปลงไฟฟ้าที่อยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาในจุดที่ใกล้ระดับน้ำ

ในส่วนของเทศบาลนครรังสิต ได้ระดมสูบน้ำจนสถานการณ์เป็นปกติ โดยสถานีสูบน้ำกึ่งถาวรปากคลองรังสิตฯ เดินเครื่องสูบน้ำ 6 ลบ.ม./วินาที จำนวน 8 เครื่อง ระดับน้ำด้านเหนือน้ำ(คลองรังสิต) +1.65 ม.รทก. ระดับน้ำด้านท้ายน้ำ(แม่น้ำเจ้าพระยา) +2.05 ม.รทก. , สถานีสูบน้ำเปรมใต้ เดินเครื่องสูบน้ำ 3 ลบ.ม./วินาที จำนวน 1 เครื่อง ระดับน้ำเปรมใต้(คลองเปรมประชากร) +0.60 ม.รทก. ระดับน้ำคลองรังสิต +1.80 ม.รทก. , สถานีสูบน้ำจุฬาฯ1 เดินเครื่องสูบน้ำ 6 ลบ.ม./วินาที จำนวน 1 เครื่อง , สถานีสูบน้ำจุฬาฯ2 เดินเครื่องสูบน้ำ 6 ลบ.ม./วินาที จำนวน 4 เครื่อง , สถานีสูบน้ำจุฬาฯ3 เดินเครื่องสูบน้ำ 3 ลบ.ม./วินาที จำนวน 4 เครื่อง ระดับน้ำด้านเหนือน้ำ(ด้านในคลองรังสิต) +1.08 ม. รทก. ระดับน้ำด้านท้ายน้ำ(ด้านซ่อมสร้าง) +1.82 ม. รทก. ซึ่งระดับภายในเขตรังสติอยู่ในระดับสภาวะปกติ

พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายก อบจ.ปทุมธานี กล่าวว่า สิ่งที่เราห่วงคืออุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าที่อยู่ต่ำแล้วกลัวว่าน้ำจะท่วมแล้วประชาชนจะได้รับอันตราย เมื่อเราลงพื้นที่สำรวจพบว่ามีบางบ้านที่จำเป็นต้องปิดไฟหมด เพราะว่ากลัวกระแสไฟฟ้าดูด ต้องขอขอบคุณทางท่านผู้จัดการไฟฟ้าจังหวัดปทุมธานี และวิทยาลัยเทคนิคปทุมธานี ได้จัดอาจารย์และนักศึกษไฟฟ้ากำลังมาร่วมแก้ไขปัญหาให้ประชาชนและสามารถเข้าไปช่วยเหลือประชาชนได้จริง ๆ ทางเราจะดำเนินการต่อไปและถ้าประชาชนต้องการความช่วยเหลือก็สามารถแจ้งมาที่ทางการไฟฟ้า เบอร์ด่วน 1129 เพื่อช่วยแก้ไขความเดือดร้อนเรื่องไฟฟ้า

นอกจากนี้ ตนเองยังจัดอุปกรณ์ตรวจสอบกระแสไฟรั่วในน้ำให้กับทางการไฟฟ้าและทางคณะของเทคนิคปทุมเพื่อให้ไปใช้ตรวจสอบกระแสไฟในน้ำ หากในน้ำมีกระแสไฟฟ้า อุปกรณ์ตัวนี้จะสั่น เราจึงนำมามอบให้พี่น้องประชาชนบางส่วนก่อน เพื่อเอาไว้ใช้ตามหมู่บ้านต่าง ๆ เพื่อความปลอดภัย และเราได้ประเมินสถานการณ์น้ำวันต่อวันโดยให้ นายชัยวัฒน์ อินทร์เลิศ และนายสมร แตงอ่อน สมาชิกสภาองค์หารบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี ไปเกาะติดที่เขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท เมื่อเขื่อนเจ้าพระยาปล่อยน้ำมาจนมาที่ อ.บางไทร ปล่อยน้ำเท่าไร ซึ่งตอนนี้ปล่อยน้ำเกิน 3,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ถือว่ายังอยู่ในสถานการณ์วิกฤต พี่น้องประชาชนต้องเฝ้าระวัง และวันที่ 15 ตุลาคม 2564 จะมีพายุใหญ่เข้ามาอีก จึงต้องมาดูเตรียมความพร้อมเพื่อระมัดระวังกันต่อไป

 

ภาคไหน ๆ ก็ไทยด้วยกัน!! “นายมานิตย์ ภาวสุทธิ์” อดีต สส.ชลบุรี ร่วมปันน้ำใจช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม จ.ชัยภูมิ

เมื่อวันที่ 3 - 4 ตุลาคม 2564 ที่ผ่านมา นายมานิตย์ ภาวสุทธิ์ และเพื่อนพ้อง - น้อง – พี่ ผู้ใจบุญร่วมศรัทธาปันน้ำใจบริจาคสิ่งของ ข้าวสาร อาหารแห้ง น้ำดื่ม สิ่งของจำเป็น เพื่อส่งมอบให้กับผู้ประสบภัยน้ำท่วม จ.นครราชสีมา และจ.ชัยภูมิ ที่ได้รับผลกระทบจากพายุ "เตี้ยนหมู่"

เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจจากผู้ใจบุญ เราไม่ทิ้งกันจากจ.ชลบุรีช่วยบรรเทาทุกข์ความเดือดร้อนเสียหาย ดังกล่าวในครั้งนี้อดีต สส.มานิตย์ ได้กล่าวขอขอบพระคุณ เพื่อน พี่ น้องทุก ๆ ภาคส่วนที่นำสิ่งของต่าง ๆ ที่นำมาร่วมบุญด้วยกันในครั้งนี้

'รองปลัดหญิงกระทรวงแรงงาน' ถือฤกษ์ 09.00 น. เข้าสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวงแรงงาน ในโอกาสรับตำแหน่งรองปลัดกระทรวงแรงงาน

วันที่ 5 ตุลาคม 2564 เวลา 09.00 น. นางสาวบุปผา เรืองสุด รองปลัดกระทรวงแรงงาน เข้าสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวงแรงงาน ประกอบด้วย ประกอบด้วย พระพุทธสุทธิธรรมบพิตร พระพุทธชินราช ศาลพ่อปู่ชัยมงคล ศาลท้าวมหาพรหมเทวฤทธิ์ และศาลพ่อปู่สุชินพรหมมา ในโอกาสรับตำแหน่งรองปลัดกระทรวงแรงงาน ณ บริเวณกระทรวงแรงงาน

สำหรับ นางสาวบุปผา เรืองสุด สำเร็จการศึกษาปริญญาตรี สาขารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง ปริญญาโท สาขาสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เคยดำรงตำแหน่ง ได้แก่ นักวิชาการแรงงานชำนาญการพิเศษ หัวหน้าสำนักงานรัฐมนตรี ผู้ตรวจราชการกรมสำนักงานประกันสังคม รองเลขาธิการสำนักงานประกันสังคม ผู้ตรวจราชการกระทรวงแรงงาน

 

สมุทรสาคร - Kick Off สร้างเกราะป้องกันด้วยวัคซีน (Pfizer) ในเด็กนักเรียน ส่วนผู้ติดเชื้อรายวัน 145 ราย

เมื่อเวลา 08.30 น. ของวันที่ 4 ตุลาคม 2564 ที่โรงเรียนเทศบาลบ้านมหาชัย (อนุกูลราษฎร์) หรือโรงเรียนเทศบาล 8 ต.มหาชัย อ.เมือง จ.สมุทรสาคร นายณรงค์ รักร้อย ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร เป็นประธานเปิดโครงการ Kick Off การสร้างเกราะป้องกันด้วยวัคซีนในเด็กนักเรียน โดยการฉีดวัคซีน Pfizer ให้กับนักเรียนที่มีอายุ 12 – 17 ปี มีนายประกิจ สาระเทพ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาคร นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรสาคร นายกเทศมนตรีเทศบาลนครสมุทรสาครและคณะ ศึกษาธิการจังหวัด บุคลากรทางด้านสาธารณสุข  ผู้มีเกียรติ คณะครู และผู้ปกครองที่ได้นำเด็กนักเรียนของโรงเรียนเทศบาลบ้านมหาชัยจำนวน 909 คน มาเข้ารับการฉีดวัคซีนเข็มแรกในวันแรก และเป็นโรงเรียนำร่องแห่งแรกของจังหวัดสมุทรสาครที่มีการฉีดวัคซีนให้กับนักเรียน

นายประกิจ สาระเทพ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาคร ได้รายงานว่า เนื่องจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด-19 ได้ส่งผลกระทบในวงกว้างอย่างรวดเร็ว ซึ่งมาตรการการให้วัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ วัคซีนโควิด-19 นั้น เป็นมาตรการในการป้องกันการเจ็บป่วยรุนแรงและเสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ได้ และที่ผ่านมาจังหวัดสมุทรสาคร ได้ฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้กับกลุ่มประชาชน จำนวนทั้งสิ้น 585,601 คน ครอบคลุมประชากรร้อยละ 61.44  ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่มประชากรที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป ทั้งนี้เพื่อให้การได้รับวัคซีนโควิด 19 ครอบคลุมทุกกลุ่มประชากร โดยเฉพาะเด็กนักเรียนที่มีอายุ 12-17 ปี ลดความเจ็บป่วยรุนแรงและเสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ประเทศไทยจึงมีนโยบายให้วัคซีนโควิด-19 ยี่ห้อไฟเซอร์ (Pfizer) สำหรับกลุ่มเด็กนักเรียนที่มีอายุ 12 - 17 ปี

ผ่านสถาบันการศึกษาในรูปแบบวัคซีนนักเรียน (School-based vaccination) ซึ่งในส่วนของจังหวัดสมุทรสาคร จากการสำรวจความประสงค์ของผู้ปกครองผ่านสำนักศึกษาธิการจังหวัดสมุทรสาคร พบว่า ผู้ปกครองมีความประสงค์ให้บุตรหลานเข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด 19 จำนวนทั้งสิ้น 27,000 คน จากที่มีเด็กนักเรียนในกลุ่มอายุ 12 – 17 ปี อยู่ทั้งหมดประมาณ 33,000 คน ซึ่งภาพรวมหากฉีดได้ครบตามจำนวนที่แจ้งความประสงค์ไว้ ผนวกกับเด็กนักเรียนกลุ่มเปราะบางที่ได้รับการฉีดวัคซีนชนิดเดียวกันไปก่อนหน้านี้แล้ว ก็จะมีเด็กนักเรียนอายุ 12 – 17 ปี ได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 ชนิด Pfizer มากกว่าร้อยละ 80 ส่วนที่เหลือก็จะรณรงค์ให้ผู้ปกครองสมัครใจนำบุตรหลานมาเข้ารับการฉีดวัคซีนต่อไป

ด้านนายรณรงค์ รักร้อย ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร กล่าวว่า การฉีดวัคซีนในวันนี้เป็นวันแรกเริ่มของกลุ่มเด็กนักเรียน ซึ่งสมุทรสาครมีกลุ่มเป้าหมายอยู่ประมาณ 33,000 คน สมัครใจเข้ารับการฉีดวัคซีนแล้วจำนวน 27,000 คน สำหรับการฉีดวัคซีนในกลุ่มเด็กนักเรียนนี้จะทำให้จังหวัดสมุทรสาครพร้อมที่จะกลับมาเปิดเทอมกันอีกครั้งในรูปแบบออนไซด์ ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายนเป็นต้นไป ขณะที่ในภาพรวมของจังหวัดสมุทรสาครนั้น เรื่องของการให้บริการฉีดวัคซีน กับการเข้ารับบริการฉีดวัคซีนไม่ใช่ปัญหาหลัก ส่วนที่ต้องคำนึงถึงมากที่สุดคือ เรื่องของจำนวนและระยะเวลาของวัคซีนที่จะจัดส่งมายังจังหวัดสมุทรสาคร หากมาได้ครบและเป็นไปตามวันเวลาที่กำหนด ก็จะทำให้จังหวัดสมุทรสาครเดินแผนฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ได้ตามเป้าหมายอย่างแน่นอน

ด้านนายแพทย์อนุกูล ไทยถานันดร์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมุทรสาคร กล่าวด้วยว่า แผนเดินหน้าฉีดวัคซีนให้กับเด็กนักเรียนนั้น จะใช้รูปแบบวัคซีนนักเรียน หรือ School-based vaccination คือ การเข้าไปฉีดให้กับนักเรียนภายในรั้วโรงเรียนตามวันและเวลาที่ได้รับการนัดหมายไว้ โดยจะฉีดให้แล้วเสร็จภายใน 1 สัปดาห์ จากนั้นเข็ม 2 จะเริ่มฉีดอีก 3 สัปดาห์ภายหลังจากนี้ ส่วนคำแนะนำสำหรับผู้ปกครองและนักเรียนที่ฉีดวัคซีนไปแล้วคือ เรื่องของผลข้างเคียงมักจะเกิดภายใน 30 นาทีหลังการฉีดวัคซีนไปแล้ว แต่ทั้งนี้ก็ขอให้ยังเฝ้าสังเกตอาการต่อเนื่องอีกระยะหากมีอาการเจ็บหน้าอก หน้ามืดคล้ายจะเป็นลม ใจสั่น หรือมีอาการผิดปกติใด ๆ ที่สงสัยได้ว่าจะเป็นผลข้างเคียงจากการฉีดวัคซีน ก็ขอให้รีบแจ้งทางโรงพยาบาลที่อยู่ใกล้บ้านทันที และอีกส่วนหนึ่งคือการออกกำลังกายหนัก ในช่วง 1 สัปดาห์แรกนี้ขอให้ระงับไว้ก่อน

 

ขอนแก่น - เปิดประตูระบายน้ำ 3 บาน หวั่นมวลน้ำตีกลับ หลังหัวน้ำก้อนแรกจากแม่น้ำชี-พอง ชนกันวันนี้ ขณะที่เขื่อนอุบลรัตน์ระดับน้ำเก็บกักทะลุ 85% และจุดกลับรถสะพานข้ามแม่น้ำชี บนถ.มิตรภาพ ท่วมสูงต้องปิดการจราจรเด็ดขาด

เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 5 ต.ค. 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าประชาชนในเขต บ.กุดกว้าง ต.เมืองเก่า อ.เมือง จ.ขอนแก่น ยังคงเร่งเก็บสิ่งของขึ้นสู่ที่สูง และอพยพออกจากพื้นที่จุดเสี่ยงมาพักคอยในจุดที่เทศบาลเมืองเก่าได้กำหนดไว้ในการเป็นสถานที่รองรับและพักคอยผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วม หลังระดับน้ำในแม่น้ำชีได้เพิ่มระดับสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว สูงถึงนาทีละประมาณ 5 ซม. หลังหัวน้ำก้อนแรกจาก จ.ชัยภูมิ ได้ไหลมาตามแม่น้ำชีและเข้าเขตพื้นที่ อ.เมือง จ.ขอนแก่น แล้ว ซึ่งชาวบ้านได้ร่วมกันตั้งจุดตรวจชุมชน ร่วมระหว่าง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อสม.และสมาชิกสภาเทศบาลฯในการตั้งโต๊ะวัดระดับน้ำตลอดแนวแม่น้ำชี รวมกว่า 10 จุดเพื่อเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

ขณะที่จุดกลับรถใต้สะพานข้ามแม่น้ำชี ตามเส้นทาง ถ.มิตรภาพ ช่วงรอยต่อ ต.เมืองเก่าและ ต.ท่าพระ อ.เมือง เจ้าหน้าที่จากกรมทางหลวง และ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ปิดการจราจรและจุดกลับรถในจุดตัดดังกล่าวทั้งหมดเพื่อความปลอดภัย หลังระดับน้ำท่วมผิวการจราจรแล้ว ระดับความสูงกว่า 50 ซม. โดยให้รถทุกคันที่ต้องการกลับรถหรือเลี้ยวเข้าเขตตัวเมืองขอนแก่นต้องเลยไปใช้จุดกลับรถ ในจุดที่ใกล้กันหรือจุดตัดถนนเลี่ยงเมืองายขอนแก่น-กาฬสินธุ์แทนเพื่อความปลอดภัย

ด้านนายพงศ์ธร พิศาพิทักษ์กุล นายกเทศมนตรีเทศบาล ต.พระลับ อ.เมือง จ.ขอนแก่น ลงพื้นที่ตรวจสอบสถานการณ์น้ำในเจต ต.พระลับ ที่ประตูระบายน้ำ D 8 บ.ท่าประทาย และ ประตูระบายน้ำห้วยซัน จุดตัดที่สำคัญของมวลน้ำ จากแม่น้ำพองและแม่น้ำชี ที่หัวน้ำก้อนแรกจากทั้ง 2 สายจะมาบรรจบกันในช่วงบ่ายของวันนี้และไหลลงสู่แม่น้ำชี ตามการระบายน้ำของกรมชลประทานในการผลักดันมวลน้ำดังกล่าวไหลจากเขต ขอนแก่น ไปตามแม่น้ำชี เข้าเขต จ.มหาสารคาม ร้อยเอ็ดและลงสู่แม่น้ำมูลที่ จ.ยโสธร และ ลงสู่แม่น้ำโขงที่ จ.อุบลราชธานี โดยที่คณะทำงานเทศบาล ต.พระลับ ได้นำโดรนขึ้นบินสำรวจระดับปริมาณน้ำในแม่น้ำชีที่พบว่าขณะนี้มวลน้ำก้อนใหญ่ของแม่น้ำชี ได้ไหลเข้าสู่พื้นที่อำเภอเมืองขอนแก่นแล้ว โดยมวลน้ำบางส่วนได้ล้นพนังกั้นน้ำไหลเข้าท่วมพื้นที่ทางการเกษตรบริเวณบ้านกุดกว้าง, บ้านสะอาด, บ้านดอนบม ,บ้านโนนตุ่น ต.เมืองเก่า  ในส่วนพื้นที่ของตำบลพระลับสถานการณ์ปริมาณน้ำยังไม่มีการล้นตลิ่งและไหลเข้าท่วมในพื้นที่

นายพงศ์ธร พิศาพิทักษ์กุล นายกเทศมนตรีตำบลพระลับ กล่าวว่า  ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ ฯ นำกระสอบทรายปิดกั้นตามประตูระบายน้ำเพื่อป้องกันไม่ให้น้ำในแม่น้ำชีไหลเข้ามาในพื้นที่ พร้อมทั้งติดตั้งเครื่องสูบน้ำและทำการสูบน้ำที่อยู่ด้านในที่ไหลมาจากในเมืองขอนแก่นเพื่อเร่งระบายน้ำออก เพื่อป้องกันน้ำเอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่การเกษตรและบ้านเรือนประชาชน พร้อมกันนี้ได้ประสานงานร่วมกรมชลประทานเปิดประตูระบาย D8 บ.ท่าประทาย 3 บาน คือประตูที่ 11-12 และ 13  เพื่อผลักดันน้ำจากเขตเมืองลงสู่แม่น้ำชีและกันมวลน้ำหนุนตีกลับเข้าเมืองจากการบรรจบของหัวน้ำก้อนจากแม่น้ำพองและแม่น้ำชีเพื่อผ่านเข้าเขตพื้นที่ ต.พระลับ รวมทั้ง  ติดตั้งเครื่องสูบน้ำและเร่งดำเนินการสูบน้ำ ประตู D9 จำนวน 4 เครื่อง ประตูD10 จำนวน 3 เครื่อง และวางแผนติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพิ่มอีก 1 เครื่องเพื่อเร่งระบายน้ำภายในรองรับน้ำ น้ำจากเขื่อนอุบลรัตน์ และน้ำจากอำเภอเมืองขอนแก่น ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบและทำความเสียหายกับพืชผลการเกษตร

ชาวแดนใต้นราฯ ภาคภูมิใจ ‘ผู้การตร.น้ำดีคนใหม่’ ลูกพื้นที่เป็นชาวมุสลิม เข้าใจพื้นที่ - พร้อมเดินหน้าแก้ปัญหาเพื่อประชาชน

เนื่องในโอกาสที่ท่าน พล.ต.ต.แวสาแม สาและ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส คนใหม่มารับตำแหน่ง ในวันที่ 1 ต.ค./2564  ชาวจังหวัดนราธิวาส เมื่อได้ยินชื่อ และนามสกุล ต่างร้องเป็นเสียงเดียวกัน ด้วยความปิติยินดี และภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากนายพลตำรวจมุสลิมท่านนี้มีน้ำใจ เป็นที่รู้จัก ที่ถูกล่าวขานเป็นตำรวจน้ำดีอีกคนหนึ่ง ที่ตั้งใจมารับใช้ประชาชน

โดยตลอดระยะเวลา หลายปีในช่วงรับราชการตำรวจ ตั้งแต่ยศน้อย ๆ ก่อนเป็นนายพลตำรวจ จะวนเวียนรับราชการ ทำหน้าที่ ในพื้นที่ชายแดนภาคใต้เป็นหลัก ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส ตลอดมา ถือเป็นคนพื้นเพจังหวัดชายแดนภาคใต้แท้ ๆ อนึ่งจะแสดงให้เห็นว่า ความข้าราชการ เป็นมุสลิมก็สามารถเติบโตในเส้นทางราชการได้

โดยรัฐไม่ได้มีการแบ่งแยกแต่อย่างใด และมองความสำคัญของประชาชนและข้าราชการทุกคน ล้วนเป็นคนไทยแม้จะนับถือศาสนาใด ขอเพียงตั้งใจศึกษา เมื่อเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ หรือข้าราชการ ทำหน้าที่เพื่อประชาชนและบ้านเมือง ทุกคนก็สามารถที่จะเติบโตในหน้าที่ ข้าราชการได้เสมอ

นรข.บึงกาฬ ยึดกัญชาเกรดพรีเมียม 540 กิโล พบทิ้งริมน้ำโขงบึงกาฬ รวมมูลค่ากว่า 16 ล้านบาท

เมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 4 ต.ค.ที่หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง หรือสถานีเรือ นรข.บึงกาฬ อ.เมืองบึงกาฬ จ.บึงกาฬ พล.ร.ต.สมบัติ จูถนอม ผบ.นรข.นายนายธาตรี บุญมาก รอง ผวจ.บึงกาฬ พล.ต.ต.ธรรมจักร คงมงคล ผบก.ภ.จว.บึงกาฬ และน.อ.ราฆพ เทวะประทีป ผบ.นรข.เขตหนองคาย พ.อ.ศิวดล ยาคล้าย รอง ผบ.ควบคุมที่ 2 กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี พ.อ.อำนาจ กระโทกนอก ตัวแทนรอง.ผอ.รมน.พ.ต.ท.พลสันติ์ คมขาว ผบ.ร้อย 244 นายสมบัติ ฆ้อนทอง รักษาการนายด่านศุลกากรบึงกาฬ นายชัยณรงค์ สุระดะนัย ป้องกันจังหวัดบึงกาฬ พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันแถลงข่าวผลการตรวจยึดรถยนต์นั่งอเนกประสงค์ยี่ห้อโตโยต้า รุ่น อินโนวา สีขาว ทะเบียน ฆล 7982 กรุงเทพมหานคร บรรทุกกัญชาแห้งอัดแท่งจำนวน 540 แท่งน้ำหนักประมาณ 540 กิโลกรัมมูลค่ากว่า 16 ล้านบาท ห่อหุ้มด้วยกระดาษฟอยล์สีทองแดง ระดับเกรดพรีเมี่ยม ติดโลโก้รูปใบกัญชาในวงกลมสีเขียว พร้อมตัวหนังสือภาษอังกฤษ MADE IN LAO และสัญลักษณ์รูปคล้ายธงชาติ ของ สปป.ลาว

ทั้งนี้สืบเนื่องจาก น.อ.ราฆพ เทวะประทีป ผบ.นรข.เขตหนองคาย สืบทราบว่าจะมีการลักลอบลำเลียงยาเสพติดข้ามน้ำโขงมาส่งมอบให้กับกลุ่มผู้ชาวไทย บริเวณพื้นที่บ้านสะง้อ หมู่ที่ 2 ต.หอคำ อ.เมืองบึงกาฬ จึงได้สั่งการให้ น.ต.การันต์ มินวงษ์ หน.สน.เรือบึงกาฬ ร.ท.อุดม บัวสุข ผู้ควบคุมเรือ 111 ว่าที่ ร.ท.ไขยา เนียมแสง ผู้ควบคุมเรือลาดตระเวน 179 พร้อมชุดสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติดร่วมกับ พ.ต.ท.ปิยะณัฐ ปะโสทะกัง สว ตร.น้ำบึงกาฬ พ.ต.ท.ธนพล โพธิดา สว.ตม.บึงกาฬ ร.ต.อ.สมพงษ์ พบวันดี รอง ผบ.ร้อย ตชด.244 หน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ร่วมบูรณาการวางแผนในการสกัดกั้นและจับกุม

โดยวางกำลังตามพื้นที่บริเวณใกล้เคียงจนกระทั่งเวลาประมาณ 02.00 น. ชุดชุ่มเฝ้าตรวจบริเวณจุดชมวิว บ้านสะง้อ ต.หอคำ ได้ตรวจพบรถยนต์ต้องสงสัย จำนวน 1 คันขับเข้ามาจอดบริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขง ในขณะเดียวกันได้มีเรือติดเครื่องยนต์ 1 ลำแล่นเข้ามาจอดเทียบบันไดทางขึ้น-ลงแม่น้ำโขง บริเวณจุดที่รถยนต์ต้องสงสัยคันดังกล่าวจอดอยู่

นครนายก - เทศบาลเมืองนครนายก จัดโครงการฉีดวัคซีนชิโนฟาร์มให้ประชาชน รอบที่ 3 (เข็มที่ 1) จำนวน 1500 คน

เมื่อเวลา 09.00 น.ของวันที่ 4 ตุลาคม 2564 ที่โรงพยาบาลนครนายก อำเภอเมือง จังหวัดนครนายก นายศุภกฤษณ์ จัยสิทธิ์ นายกเทศมนตรีเมืองนครนายก พร้อมคณะเทศมนตรี  และสมาชิกเทศบาลเทศบาลเมืองนครนายก เข้าตรวจเยี่ยมให้คำปรึกษาประชาชนที่เข้ารับบริการซีดวัคซีนชิโนฟาร์ม รอบที่ 3 (เข็มที่1)จำนวน 1500 คน โดยมีประชาชนที่ลงทะเบียนไว้แล้วได้เข้ามารับการฉีดวัคซีน เพื่อเป็นการป้องกันและควบคุมโรคติดต่อเชื้อไวรัสโคโรนา 2019

ส่วนในวันที่ 8 ตุลาคม 2564 จะเป็นรอบที่ 4 (เข็มที่ 1)รอบเก็บตกของประชาชนที่ยังคงตกค้างคงเหลืออีกประมาณกว่า 300 คน

ด้วยเทศบาลเมืองนครนายก มีความห่วงใยพี่น้องประชาชนทุกท่าน จึงได้ประสานกับราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ เพื่อขอรับวัคซีนชิโนฟาร์มจำวนวน 7000 โดส มาบริการฉีดวัคซีนชิโนฟาร์มให้กับพี่น้องประชาชนทั่วไป เพื่อเป็นการป้องกันและควบคุมโรคติดต่อของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 และลดการรวมกลุ่มกันเป็นจำนวนมากซึ่งเสี่ยงต่อการติดเชื้อ

 

สตูล - เปิด “ศูนย์ผู้นำจิตอาสาพัฒนาชุมชน” เฉลิมพระเกียรติและถวายเป็นพระราชกุศล พระบาทสมเด็จพระปรเมทร รามาธิบดี ศรีสินทรมหาวชิราลงกรณพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10

วันนี้ 4 ตุลาคม 2564 ที่ศูนย์เรียนรู้ชุมชน (ศูนย์สารภี) ตำบลละงู อำเภอละงู จังหวัดสตูล นายเอกรัฐ หลีเส็น ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล ร่วมรับชมพิธีเปิด “ศูนย์ผู้นำจิตอาสาพัฒนาชุมชน กรมการพัฒนาชุมชน” ผ่านระบบ Zoom Cloud Meeting โดยมี นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานในพิธีเปิด จากนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูลเป็นประธานในพิธีเปิดป้าย“ศูนย์ผู้นำจิตอาสาพัฒนาชุมชน” เฉลิมพระเกียรติและถวายเป็นพระราชกุศล พระบาทสมเด็จพระปรเมทร รามาธิบดี ศรีสินทรมหาวชิราลงกรณพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 เพื่อเป็นศูนย์ดำเนินงานผู้นำจิตอาสาพัฒนาชุมชนจังหวัดสตูล และปล่อยปลา ปลูกต้นไม้ และโอกาสนี้ผู้ว่าราชการสตูล ได้มอบสิ่งของอุปโภค-บริโภคให้แก่กลุ่มเปราะบางในพื้นที่อำเภอละงู ผ่านนายธานี หะยีมะสาและ นายอำเภอละงู จำนวน 22 ชุด อีกด้วย

กรมการพัฒนาชุมชน ได้จัดให้มีโครงการส่งเสริมการขับเคลื่อนการดำเนินงานผู้นำจิตอาสาพัฒนาชุมชน จำนวน 76 แห่งทั่วประเทศ เพื่อเฉลิมพระเกียรติและถวายเป็นพระราชกุศล “พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว” รัชกาลที่ 10 เนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 71 พรรษา ในวันที่ 28 กรกฎาคม 2565 และจัดตั้งเป็นสถานที่บ่มเพาะภาวะผู้นำ ทักษะชีวิต ทักษะอาชีพ การพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชน และการบริหารจัดการชุมชน เพื่อการพึ่งตนเองอย่างยั่งยืน รวมทั้งเป็นศูนย์ประสานงานภาคีเครือข่ายจิตอาสาพัฒนาชุมชน ระหว่างภาครัฐ ภาคประชาชนและภาคีการพัฒนาในพื้นที่ทั้ง 7 ภาคส่วน โดยมีชุมชนเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ สร้างเสริมอุดมการณ์ การทำงานเพื่อสาธารณะ ในรูปแบบผู้นำจิตอาสาพัฒนาชุมชน ที่มีจิตสำนึกรับผิดชอบต่อชุมชน มีบทบาท มีส่วนร่วมในการพัฒนาและเสริมสร้างชุมชนให้เข้มแข็งอย่างยั่งยืนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และกรมการพัฒนาชุมชน กำหนดให้มีการจัดกิจกรรมการเปิดป้าย “ศูนย์ผู้นำจิตอาสาพัฒนาชุมชน” ในส่วนภูมิภาคพร้อมกันทั่วประเทศ

 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top