Tuesday, 6 May 2025
THE STATES TIMES TEAM

“พระเกี้ยว” ความจริงแห่งความเท่าเทียมทางการศึกษา | MEET THE STATES TIMES EP.33

???? “พระเกี้ยว” ความจริงแห่งความเท่าเทียมทางการศึกษา !!
????สวนกระแสดราม่า!! รู้จัก “พระเกี้ยว” ความเท่าเทียมที่แท้จริง!!

ในรายการ MEET THE STATES TIMES

ดำเนินรายการโดย หยก THE STATES TIMES

“บิ๊กโอ๋” แถลงจับแก๊งเด็กเพชร ยกพวกยิงถล่มคู่อริบาดเจ็บ

วันที่ 30 ต.ค. ที่ สภ.เมืองเพชรบุรี พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 พร้อมด้วย พล.ต.ต.บุญฤทธิ์ รอดมา รอง ผบช.ภ.7 (สส.) พล.ต.ต.ประสพชัย มัตสยะวนิชกุล ผบก.สส.ภ.7 พ.ต.อ.กานต์ ธรรมเกษม รอง ผบก.ภ.จ.เพชรบุรี พ.ต.อ.วันชัย ขาวรัมย์ ผกก.สภ.เมืองเพชรบุรี และชุดสืบสวนร่วมกันแถลงข่าวจับกุม 4 ผู้ต้องหา มี นายภานุวัฒน์ หรือเกมส์ น้อยคง อายุ 24 ปี อยู่หมู่ 7 ต.ท่าช้าง อ.บ้านลาด จ.เพชรบุรี นายชินาธิปหรือใส ศักดิ์ปรีชา อายุ 22 ปี อยู่หมู่ 8 ต.ท่าช้าง อ.บ้านลาด นายธนกฤต หรือปอน โชคพินอุดม อายุ 23 ปี อยู่หมู่ 4 ต.ต้นมะม่วง อ.เมืองเพชรบุรี และนายณธภณ หรือกาย โพธิ์ศิริ อายุ 24 ปี อยู่หมู่ 5 ต.ท่าช้าง อ.บ้านลาด จ.เพชรบุรี 

ตามหมายจับศาลจังหวัดเพชรบุรี ในข้อหาร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครอง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน พาอาวุธปืนติดตัวไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว และโดยไม่มีความจำเป็นเร่งด่วนตามสมควร พาอาวุธปืนติดตัวไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุสมควร

พล.ต.ท.ธนายุตม์ กล่าวว่าเมื่อกลางดึกวันที่ 27 ตุลาคม 64 ศูนย์วิทยุ 191 ภ.จว.เพชรบุรี ได้รับแจ้งเหตุว่ามีคนถูกอาวุธปืนได้รับบาดเจ็บบริเวณถนนเลียบคลองชลประทาน ตรงข้ามนาซ่าผับ บ้านนาแค ม.5 ต.ต้นมะม่วง อ.เมืองเพชรบุรี จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนปืน ขนาด.38 ขนาด.380 ขนาด .45 ตกอยู่เกลื่อนหลายปลอกและพบรถยนต์กระบะอีซูซุ ดีแม๊ก หมายเลขทะเบียน 6 กฐ 4972 กทม. จอดทิ้งไว้จึงยึดไว้เป็นหลักฐาน ส่วนผู้ก่อเหตุแยกย้ายหลบหนี ผู้ได้รับบาดเจ็บเข้ารักษาตัวโรงพยาบาลพระจอมเกล้าฯ เพชรบุรี และโรงพยาบาลกรุงเทพ-ธนบุรี จึงเดินทางไปสอบปากคำผู้บาดเจ็บทราบว่าผู้ที่ร่วมกันก่อเหตุมีด้วยกัน 2 กลุ่ม 

เผย 3 สัญญาณลับ !! สงครามโลกรอวันปะทุ!! | Knowledge Times EP.31

???? รอบรู้แบบรู้ลึก ในรายการ ‘Knowledge Times’
????เผย 3 สัญญาณลับ !! สงครามโลกรอวันปะทุ!!

เชื่อหรือไม่ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า สงครามโลกอาจปะทุขึ้นอีกครั้ง !! 

แน่นอนว่าการเกิดสงครามไม่สามารถเกิดขึ้นได้ภายในไม่กี่วัน แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าโอกาสที่จะเกิดสงครามโลกในเวลานี้มีสูงมาก 

หากประเมินระยะเวลาแบบช้าที่สุด สงครามโลกนั้นมีโอกาสปะทุขึ้นภายใน 4 - 10 ปีนี้ และแน่นอนว่าก่อนทำการใหญ่ต้องมีการเตรียมการอย่างรัดกุมและแน่นหนา ซึ่งต้องใช้เวลาอย่างน้อย 4 - 5 ปี เพื่อให้เกิดความพร้อมที่สุด

แล้วอะไรคือสัญญาณการเกิดสงครามโลกขึ้นอีกครั้ง?

ประการที่ 1 จุดยุทธศาสตร์ที่จะเกิดสงครามได้ คือ บริเวณทะเลจีนใต้ อย่างที่รู้กัน กลุ่มชาติตะวันตกไม่ต้องการให้จีนขึ้นมามีอำนาจ เพราะจะทำให้ระบบการเงิน การค้า ทรัพยากร เสียระบบ อันจะเห็นได้จากสัญญาณที่เริ่มปรากฏจาก บริษัท ไต้หวัน เซมิคอนดักเตอร์ หรือ (TSMC) ซึ่งเป็นบริษัทผลิต ชิป นาโนชิป ที่ครองส่วนแบ่งตลาดชิปทั่วโลก กว่า 55.6% 

ที่ปัจจุบันเริ่มมีการย้ายฐานการผลิตมาที่ญี่ปุ่น เนื่องจากไต้หวันนั้นเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญ ที่เป็นชนวนขัดแย้ง จึงมีการถอนบริษัทยักษ์ใหญ่ที่สำคัญจำนวนมากในไต้หวัน ย้ายฐานการผลิตออกมาทีละนิด เนื่องจากต่างรู้กันดีว่า หากยังคงอยู่ที่ไต้หวันต่อไป อาจเกิดความเสียหายต่อบริษัทได้

ประการที่ 2 สหรัฐอเมริกา เริ่มถอนกำลังทหารสำคัญออกมา เช่น ในอัฟกานิสถาน เป็นต้น แม้ว่าการถอนกำลังในครั้งนี้ ดูเหมือนสหรัฐฯ นั้นได้รับความพ่ายแพ้ แต่แท้จริงแล้วนี่คือกลยุทธ์ ที่สหรัฐฯ ถอนกองกำลังทหารออกมาจากภูมิภาคที่ไม่จำเป็น หรือ จุดที่ไม่ใช่ยุทธศาสตร์ เพื่อกลับมารวบอำนาจไว้กับตนเองก่อน

ประการที่ 3 เริ่มมีการกักตุนเชื้อเพลิง ในจุดต่าง ๆ ทั่วโลกเพิ่มมากขึ้น เพราะสิ่งที่สำคัญที่สุดในการทำสงคราม นั่นก็คือ ‘น้ำมัน’ ซึ่งมีความสำคัญขนาดที่สามารถชี้ชะตาสงครามโลกครั้งที่ 2 มาแล้ว และเมื่อย้อนกลับไป ในสมัยนาซีเยอรมันเอง ก็เคยทำลายจุดยุทธศาสตร์ของรัสเซียมาแล้ว นั่นก็คือ สตาลินกราด ที่มีความสำคัญเพราะเป็นทางผ่านไปสู่ เมืองบากู ของประเทศอาเซอร์ไบจานปัจจุบัน 

ซึ่งเป็นแหล่งน้ำมันในทะเลสาบแคสเปียน อีกทั้งการสูญเสียยุทธศาสตร์ในตะวันออกกลางและแถบแอฟริกาเหนือก็นำมาสู่การแพ้สงครามของนาซีเยอรมัน ดังนั้น น้ำมัน จึงเป็นเสมือนปัจจัยชี้ขาด ทั้งกำลัง อาวุธ พาหนะ อุปกรณ์ในสงคราม รวมไปถึงเครื่องบิน ล้วนแต่ต้องพึ่งพาน้ำมันทั้งสิ้น

อย่างไรก็ดี แม้สหรัฐฯ ได้ถอนกองกำลังออกจากจุดยุทธศาสตร์ที่ไม่จำเป็น แต่ล่าสุดกลับมีการเพิ่มกองกำลังบริเวณฟิลิปปินส์ ซึ่งเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญ บริเวณเกาะลูซอน และเกาะกวม โดยเกาะกวมนั้นมีความสำคัญ เพราะเป็นดินแดนสุดท้าย ที่สหรัฐฯ มีอิทธิพล และจุดยุทธศาสตร์นี้เองจะเป็นจุดที่สหรัฐฯ ใช้ในการส่งกำลังบำรุง 

อีกทั้งเกาะกวมยังเป็นทางผ่านไปจนถึงเกาะลูซอน ในประเทศฟิลิปปินส์ และโอกินาวา ในประเทศญี่ปุ่น ดังนั้น หากคิดว่าการถอนกองกำลังของสหรัฐฯ คือ ความพ่ายแพ้ แต่แท้จริงแล้วนี่เป็นเพียงการย้ายฐานกองกำลังมาที่ เกาะลูซอน เกาะกวม และเสริมทัพที่โอกินาวา  

และอย่างที่ทราบกันดีว่า ญี่ปุ่นนั้นเป็นเสมือนไม้เบื่อไม้เมากับจีน ซึ่งสหรัฐฯ เชื่อว่า ญี่ปุ่นจะเป็นพันธมิตรที่สำคัญในการร่วมรบ เนื่องจากสหรัฐฯ มีบทบาทสำคัญในการดูแลด้านความมั่นคงให้กับญี่ปุ่น นับตั้งแต่หลังสงครามโลกครั้งที่สอง

นอกจากนี้หากสงครามโลกปะทุขึ้น อุปกรณ์เซมิคอนดักเตอร์ จะเข้ามามีบทบาทเป็นอย่างมาก และแน่นอนว่าตามจุดยุทธศาสตร์ต่าง ๆ ก็จะขาดแคลนอุปกรณ์เหล่านี้มากขึ้นไปอีก

ดังนั้นอาณัติสัญญาณที่เกิดขึ้น อันเปรียบเสมือนคลื่นใต้น้ำที่กำลังก่อเคลื่อนตัวไปอย่างเงียบ ๆ ตั้งแต่การเคลื่อนย้ายของบรรดาบริษัทเอกชนต่าง ๆ หรือการถอนกองกำลังของสหรัฐฯ สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ ล้วนเป็นสัญญาณ ที่แสดงให้เห็นถึงสงครามที่กำลังก่อตัวและรอวันปะทุในอีกไม่ช้า...

กรุงเทพฯ - "ลุงป้อม" ห่วงน้ำท่วมขังเสีย สั่งเตรียมรับมือฤดูฝนภาคใต้ เร่งวางแผนแก้น้ำเค็ม - น้ำท่วม - น้ำแล้งซ้ำซาก

พล.อ.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ เปิดเผยว่า เมื่อ  พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีได้เรียกประชุม คณะอนุกรรมการอำนวยการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ครั้งที่ 2/64 ณ ห้องประชุม สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ เพื่อเตรียมรับมือฤดูฝนภาคใต้ รวมทั้งติดตามบริหารจัดการสถานการณ์ท่วมและน้ำแล้งในภาพรวม

ที่ประชุมรับทราบสถานการณ์สภาพอากาศ รวมทั้งการบริหารจัดการน้ำปัจจุบัน ในพื้นที่ลุ่มต่ำ แหล่งน้ำขนาดใหญ่ - กลาง และเขื่อนระบายน้ำ ซึ่งในภาพรวมยังสามารถควบคุม โดยมีแหล่งน้ำขนาดใหญ่ 38 แห่งที่ต้องเฝ้าระวัง สำหรับการคาดการณ์พื้นที่เสี่ยงอุทกภัยในพื้นที่สำคัญทั่วประเทศ ระหว่าง ต.ค.- ธ.ค.64 มีแนวโน้มลดลง เว้นภาคใต้ มีพื้นที่เสี่ยงเพิ่มขึ้นจากฤดูฝนที่กำลังมาถึง โดยมีโอกาสสูงในการเกิดพายุเคลื่อนผ่านภาคใต้ มีพื้นที่เสี่ยง 725 ตำบล 43,495 หมู่บ้านใน 16 จว. ทุกหน่วยงานได้เตรียมความพร้อมรับมือกับอุทกภัย โดยได้ขุดลอกคูคลอง กำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำ ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ ทำพนังกั้นน้ำและก่อสร้างทางระบายน้ำไปยังพื้นที่รับน้ำ เพื่อลดความเสี่ยงและความเสียหายที่จะเกิดขึ้น

สำหรับการบริหารจัดการน้ำฤดูแล้ง ได้พิจารณาวางแผนจากการคาดการณ์น้ำต้นทุน ปริมาณการใช้น้ำและพื้นที่เสี่ยงน้ำแล้ง พบความเสี่ยงขาดแคลนน้ำอุปโภค บริโภคใน 5 จว. 9 อำเภอ 25 ตำบล มีพื้นที่เฝ้าระวังเสี่ยงน้ำแล้งด้านการเกษตร นอกเขตชลประทาน 11 จว. ซึ่งอยู่ระหว่างเร่งกำหนดมาตรการรองรับ ทั้งการเก็บกักน้ำ จัดหาแหล่งน้ำสำรองในพื้นที่เสี่ยง การเติมน้ำ การจัดสรรน้ำฤดูแล้ง การวางแผนเพาะปลูกพืช การเตรียมน้ำสำรองในพื้นที่ลุ่มต่ำ การเฝ้าระวังคุณภาพน้ำ รวมทั้งการติดตามประเมินผล

พล.อ.ประวิตร ได้ย้ำแสดงความห่วงใยถึงประชาชนที่ยังได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในพื้นที่ทั่วประเทศ โดยกำชับ สทนช.บูรณาการทำงานร่วมกับทุกหน่วยงาน ยังคงต้องติดตามสถานการณ์สภาพอากาศที่อาจพัฒนาก่อตัวเป็นพายุซ้ำเติมพื้นที่น้ำท่วมเดิม พร้อมทั้งให้เร่งระบายน้ำในพื้นที่น้ำท่วมขังเข้าแหล่งน้ำขนาดใหญ่และลำน้ำสายหลักตามแผนและสถานการณ์ ทั้งนี้ให้นำจุลินทรีย์มาใช้ปรับปรุงคุณภาพน้ำในพื้นที่ท่วมขังนานและเกิดการเน่าเสียหวั่นกระทบสร้างปัญหาโรคระบาด โดยเฉพาะพื้นที่ภาคใต้ ขอให้ทบทวนปรับปรุงและซักซ้อมแผนเผชิญเหตุร่วมกัน และให้ตรวจสอบระบบเตือนภัยให้สามารถแจ้งเตือนภัยล่วงหน้าในพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมที่เคยเกิดปัญหา เพื่อลดผลกระทบและความเสียหายที่เกิดขึ้น

 

ตร.แปดริ้ว รวบแล้ว!! ‘มือปืนโหดยิงสาว 16 เสียชีวิต’ อ้างระบายเครียด หลังทะเลาะกับแฟนทางมือถือ

เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 29 ต.ค. ที่บริเวณหน้า สภ.เมืองฉะเชิงเทรา พล.ต.ต.อิทธิพร โพธิ์ทอง รอง ผบช.ภ.2 พร้อมด้วย พล.ต.ต.นันทวุฒิ สุวรรณละออง ผบก.ภ.จว.ฉะเชิงเทรา พ.ต.อ.นเรวิช สุคนธวิท พ.ต.อ.ชาตรี สุขศิริ รอง ผบก. พ.ต.อ.ณัฐจักร จันลา ผกก.สภ.เมืองฉะเชิงเทรา พ.ต.ท.เตชทัต เนตรุวงศ์ รอง ผกก. ป.เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ร่วมกันแถลงข่าว การจับกุม นายวงศ์วรัณ หรือ เอิร์ท วิเขตกิจ อายุ24ปี อยู่บ้านเลขที่ 136/31 หมู่3 ต.ลาดใหญ่ อ.เมือง จ.สมุทรสงคราม ผู้ต้องหาใช้อาวุธปืนยิง น.ส.ประภาศร ฉวีวรรณ  หรือ อิ้ง อายุ 16 ปี อยู่บ้านเลขที่ 36/63 ถ.มหาจักรพรรดิ์ ซ.3 ต.หน้าเมือง อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา ถึงแก่ความตายโดยเจตนา พร้อมด้วยของกลางที่ใช้ก่อเหตุ ของกลาง อาวุธปืนกึ่งอัตโนมัติ ซีแซด รุ่นรามี่ ขนาด 9 มม. จยย.ยามาฮ่า N-MAX สีดำแดง ทะเบียน 1กฒ-9418 พระนครศรีอยุธยา เหตุเกิดที่ หน้าร้านซ่อมรถ จยย. หน้าพิสิษฐ์แมนชั่น หมู่6 ต.โสธร 

สืบเนื่องจากเมื่อคืนวันที่ 24 ต.ค. ที่ผ่านมา เกิดเหตุการณ์คนร้าย ขับขี่รถจยย. ยามาฮ่า N-MAX สีดำแดง ไม่ทราบทะเบียน ขึ้นไปจอดบนสะพานต่างระดับ บริเวณตรงข้ามธนาคาร ธอส. หน้าหอพักพิศิษฐ์แมนชั่น ถ.สิริโสธร ต.หน้าเมือง ใช้อาวุธปืนขนาด 9มม. ยิงสาดลงมาด้านล่าง ใส่กลุ่มคนที่นั่งคุยกันอยู่บริเวณหน้าร้านซ่อมรถจักรยานยนต์ จำนวน 6นัด ก่อนหลบหนีไป โดยกระสุนปืน 1นัดถูก น.ส.ประภาศร ฉวีวรรณ หรือ อิ้ง อายุ 16 ปี กระสุนถูกบริเวณลำตัว สีข้างด้านซ้าย เพื่อนนำตัวส่ง รพ.เกษมราษฏร์ ฉะเชิงเทรา แต่ทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในเวลาต่อมา

 

สมุทรปราการ - ‘ตู่ นันทิดา' อบจ.สมุทรปราการ มอบชุดตรวจเชื้อโควิด-19 (ATK) แก่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสมุทรปราการ

ที่ห้องประชุมชั้น 2 ศาลาประชาคม อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ นางสาวนันทิดา แก้วบัวสาย นายก อบจ.สมุทรปราการ เป็นประธานมอบชุดตรวจเชื้อโควิด-19 (ATK) ให้กับ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสมุทรปราการ โดยมี นพ.นเรศฤทธิ์ ขัดธะสีมา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสมุทรปราการ เป็นตัวแทนรับมอบ เพื่อดำเนินการตรวจหาเชื้อโควิด-19 เชิงรุกด้วยชุดตรวจ ATK ให้กับประชาชน 150,000 ชุด และ พิธีมอบเสื้อสนับสนุนกิจการ อสม.จังหวัดสมุทรปราการ

โดย น.ส.นันทิดา แก้วบัวสาย นายกอบจ. เป็นตัวแทนนายชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม ประธานหอการค้าจังหวัดสมุทรปราการ ที่ใช้เงินส่วนตัว เพื่อนำเสื้อและหมวกเพื่อสนับสนุน อสม.ของจังหวัดสมุทรปราการ จำนวน 8,000 ชุด โดยมี ดร.พิริยะ โตสกุลวงศ์ นายสมลักษณ์ ควรสงวน รองนายก อบจ.สมุทรปราการ นางสาวชนม์ทิดา อัศวเหม ดร.รัชชานนท์ ทองอร่าม เลขานุการนายก อบจ.สมุทรปราการ และสมาชิกสภา อบจ.สมุทรปราการ พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสมุทรปราการ และเจ้าหน้าที่อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) จังหวัดสมุทรปราการ เข้าร่วมพิธี

 

เชียงใหม่ - สร้างสีสันวัฒนธรรมม หกรรมวิถีล้านนา “งานประเพณีปอยออกหว่า โคมไฟแม่วาง”

กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 ประกอบด้วย เชียงใหม่ ลำพูน ลำปางและแม่ฮ่องสอน โดยสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกับเทศบาลตำบลแม่วาง วัดจำลอง ตลอดจนพุทธศาสนิกชน คณะศรัทธาวัดจำลอง  จัดกิจกรรม“งานประเพณีปอยออกหว่า โคมไฟแม่วาง”กิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวประเพณีท้องถิ่นวิถีล้านนา ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 โดยมีนายพีระศักดิ์ ธีรบดี นายอำเภอแม่วาง จังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานพิธีเปิด พร้อมด้วย ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเชียงใหม่ ,ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดลำพูน แขกผู้มีเกียรติร่วมงาน ณ วัดจำลอง อ.แม่วาง จ.เชียงใหม่

นายพีระศักดิ์ ธีรบดี นายอำเภอแม่วาง กล่าวว่า งานสีสันวัฒนธรรมมหกรรมวิถีล้านนา “งานประเพณีปอยออกหว่า โคมไฟแม่วาง” ประจำปี 2564 คณะศรัทธาพุทธศาสนิกชน ที่เข้าร่วมในการจัดงาน ร่วมแสดงตนเป็นชาวพุทธศาสนิกชน  ผู้มีความเลื่อมใส  ในองค์สมเด็จ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า การที่ทุกท่านได้มาร่วมกระทำกิจกรรมงานบุญออกหว่าในวันนี้ ถือว่าเป็นสิ่งที่ชาวพุทธ ควรจะต้องยึดถือและปฏิบัติให้เป็นแบบอย่างที่ดีแก่อนุชนรุ่นหลัง ถือเป็นโอกาสที่ดียิ่ง ที่จะได้แสดงตนให้เข้าถึงแก่นแท้ของพระพุทธศาสนา

พระพุทธศาสนาเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ หากชาวพุทธทุกคนได้มีโอกาสทำกิจกรรมทางศาสนาร่วมกันแล้ว ก็ถือได้ว่า เป็นการแสดงตน เพื่อเป็นชาวพุทธมามกะที่ดี จึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่า พุทธศาสนิกชนที่เข้าร่วมกิจกรรม จะได้รับผลบุญอานิสงส์ในการกระทำของตนเอง ส่งผลให้มีความเจริญผาสุข ต่อตนเอง ต่อครอบครัว ต่อสังคมและประเทศชาติ อย่างเจริญมั่นคงสืบไป

นางประทุม ปิยะพันธ์โอภาส นายกเทศมนตรีตำบลแม่วาง กล่าวว่าเทศบาลตำบลแม่วาง ร่วมกับวัดจำลอง ตลอดจนพุทธศาสนิกชน คณะศรัทธาวัดจำลอง  นอกจากนี้ยังได้รับความร่วมมือจากสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬา กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 อันประกอบด้วยจังหวัดเชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ลำปางและลำพูน หน่วยงานภาครัฐและเอกชน เข้าร่วมจัดกิจกรรมงานสีสันวัฒนธรรมมหกรรมวิถีล้านนา “งานประเพณีปอยออกหว่า โคมไฟแม่วาง” โดยได้กำหนดจัดกิจกรรมขึ้น ระหว่างวันที่ 22 - 24  ตุลาคม 2564 โดยมีวัตถุประสงค์

1. เพื่อเป็นการอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีท้องถิ่น ทางพระพุทธ ศาสนาให้คงอยู่สืบไป

2. เพื่อเป็นการส่งเสริมให้พุทธศาสนิกชนทุกหมู่เหล่าได้ยึดถือ ปฏิบัติตามศีลธรรมจารีตประเพณีอันดีงาม 

3. เพื่อให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการเผยแพร่วัฒนธรรมประเพณีอันดีงามของชาวไทยใหญ่

4. เพื่อให้หน่วยงานองค์กรต่าง ๆ ได้ตระหนักถึงความสำคัญและร่วมกันส่งเสริมอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีของท้องถิ่น

‘สำนักงานตำรวจแห่งชาติ’ จัดการประชุมบริหาร ตร. ครั้งที่ 9/2564 และพิธีมอบโล่ประกาศเกียรติคุณ และเครื่องหมายเชิดชูเกียรติกิตติมศักดิ์

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กำหนดจัดการประชุมบริหาร ตร. ครั้งที่ 9/2564 ผ่านระบบวิดีโอทางไกล (Video Conference) พร้อมกำหนดจัดพิธีมอบโล่ประกาศเกียรติคุณให้แก่ผู้บริจาค และข้าราชการตำรวจผู้ประพฤติปฏิบัติดีเยี่ยมตามประมวลจริยธรรม และจรรยาบรรณของตำรวจ เนื่องในโอกาสวันตำรวจ ประจำปี 2564 และพิธีมอบเข็มแม่นปืนกิตติมศักดิ์

วันที่ 28 ต.ค. 64 เวลา 13.30 น. พล.ต.อ.สุวัฒน์  แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นประธานการประชุมบริหาร ตร. ครั้งที่ 9/2564 ผ่านระบบวิดีโอทางไกล (Video Conference) ณ ห้องศรียานนท์ ชั้น 2 อาคาร 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยมีผู้บังคับบัญชาระดับสูงของสำนักงานตำรวจแห่งชาติเข้าร่วมกาประชุมฯ

 

ทั้งนี้ ก่อนเริ่มการประชุมฯ ได้กำหนดให้มีการจัดพิธีมอบโล่ประกาศเกียรติคุณแก่หน่วยงานและองค์กรผู้บริจาคทุนทรัพย์ และสิ่งของ ในการสนับสนุนภารกิจของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จำนวน 7 ราย 

และหน่วยงาน/ข้าราชการตำรวจที่ประพฤติปฏิบัติดีเยี่ยมตามประมวลจริยธรรม และจรรยาบรรณของตำรวจ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 จำนวน 2 ราย และพิธีมอบเข็มแม่นปืนกิตติมศักดิ์ให้แก่ระดับรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติจำนวน 2 นาย ซึ่งมีรายละเอียด ดังนี้

• หน่วยงานและองค์กรผู้บริจาคทุนทรัพย์ และสิ่งของ ในการสนับสนุนภารกิจ

ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

1. มูลนิธิโรงพยาบาลตำรวจ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ 

ผู้รับโล่ : พล.ต.ท.โสภณรัชต์ สิงหจารุ นายแพทย์ใหญ่ (สบ 8) 

2. สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกา ประจำประเทศไทย โดยฝ่ายความร่วมมือด้านการบังคับใช้กฎหมายและยาเสพติด (International Narotics and Law Enforcement Section- INL กรุงเทพฯ)

ผู้รับโล่ : คุณเกรกอร์ ชอว์ (Mr. Gregory  Shaw) ตำแหน่ง ผู้อำนวยการฝ่ายความร่วมมือด้านการบังคับใช้กฎหมายและยาเสพติด (INL) สถานทูตสหรัฐอเมริกา ประจำประเทศไทย

3. มูลนิธิคนไทยเก่งขึ้น 

ผู้รับโล่ : คุณสวรรย์ พิภูษณานนท์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดองค์กร 

บริษัท ซี-เอ็ด ยูเคชั่น จำกัด มหาชน

4. บริษัท ทีโอเอเพ้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)

ผู้รับโล่ : คุณประจักษ์ ตั้งคารวคุณ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ทีโอเอเพ้นท์ 

(ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)

5. ธนาคารออมสิน

ผู้รับโล่ : คุณเสกสรร ทวีกสิกรรม ผู้ช่วยผู้อำนวยการ ธนาคารออมสิน สายงานกิจการ สาขา 1

6. ธนาคารอาคารสงเคราะห์

ผู้รับโล่ : คุณสุดจิตตรา คำดี ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการสายงานสื่อสารและภาพลักษณ์

7. มูลนิธิจำนง ภิรมย์ภักดี

ผู้รับโล่ : นางสาวจิตภัสร์  กฤดากร

ชลบุรี - รพ.สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ จัดกิจกรรม ‘วันพยาบาลแห่งชาติ ปี 2564’

โรงพยาบาล สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ(รพ.สก.พร.) จัดกิจกรรมวันพยาบาลแห่งชาติ ปี 2564 และมอบรางวัล คนดี ศรีดอกปีบ เพื่อเป็นแรงบันดาลใจและแบบอย่างที่ดี ให้กับบุคลากรในโรงพยาบาล พร้อมให้บริการฉีดวัคซีน โควิด-19

ในวันนี้ 28 ต.ค.64 พล.ร.ต.อานัน นิ่มนวล ผู้อำนวยการ โรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ เป็นประธานในพิธีถวายราชสักการะ และกล่าวอาเศียรวาทราชสดุดี สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพ 21 ตุลาคม เพื่อน้อมรำลึกถึงพระกรุณาธิคุณของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ที่ได้ทรงอุทิศพระองค์ปฏิบัติพระราชกรณียกิจ ในการพัฒนาสุขภาพอนามัยและคุณภาพชีวิตของประชาชน ในทุกกลุ่มให้มีสุขภาพดีถ้วนหน้า

โดยฝ่ายการพยาบาล นำโดย น.อ.หญิงอุบลรัตน์ เชาว์สุโข รองผู้อำนวยการโรงพยาบาล ฝ่ายการพยาบาลฯ ได้กำหนดจัดกิจกรรมเทิดพระเกียรติฯ เนื่องใน "วันพยาบาลแห่งชาติ ประจำปี 2564" ประกอบด้วย กิจกรรมมอบรางวัล คนดี ศรีดอกปีบ รพ.สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ ให้กับพยาบาล และพนักงานช่วยเหลือผู้ป่วย ที่มีคุณธรรม จริยธรรม และจรรยาบรรณวิชาชีพ เพื่อเป็นแรงบันดาลใจ และแบบอย่างที่ดีให้กับบุคลากรในโรงพยาบาล และจัดกิจกรรมสนับสนุนการฉีดวัคซีนป้องกัน COVID -19 ให้กับประชาชน ในโอกาสเดียวกันนี้ด้วย  ทั้งนี้ มีผู้บริหารทางการพยาบาลและข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ รพ.สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ ฯ เข้าร่วมงานแบบ New normal ณ ห้องประชุมคลองไผ่ รพ. สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี

สระบุรี - ติดตามสถานการณ์ การช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย และสถานการณ์โควิด-19 พร้อมเร่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือ

วันนี้ 28 ตุลาคม 2564 ที่ห้องประชุมพระพุทธบาท ศาลากลางจังหวัดสระบุรี นายแมนรัตน์ รัตนสุคนธ์ ผวจ.สระบุรี ประชุมคณะกรมการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการและหัวหน้าหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ประจำเดือน ตุลาคม 2564 มอบนโยบายและติดตามการดำเนินงานด้านต่าง ๆ ที่ผ่านมาในรอบเดือนตุลาคม 2564

สถานการณ์อุทกภัยจากการรายงานเหตุด่วนของอำเภอ มีพื้นที่ประสบภัย จำนวน 13 อำเภอ 55 ตำบล 274 หมู่บ้าน 15 ชุมชน 8,127 ครั้วเรือน ขณะนี้จังหวัดได้ประกาศพื้นที่ประสบสาธารณภัย จำนวน 12 อำเภอ 52 ตำบล 301 หมู่บ้าน 15 ชุมชน และประกาศเขตให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินในพื้นที่ 11 อำเภอ 48 ตำบล 290 หมู่บ้าน 13 ชุมชน  ที่ผ่านมาได้บูรณาการทุกภาคส่วนให้การช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยมาอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน

ส่วนสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 นั้น นายแพทย์สาะรณสุขจังหวัดสระบุรี รายงานว่า สถานการณ์ในพื้นที่ดีขึ้นตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ต่ำกว่าร้อยต่อวัน และขณะนี้วัคซีนเพียงพอที่จะให้บริการกับประชาชนว่า ผู้ที่จะฉีดวัคซีนสามารถรับบริการได้ทั้งหมดทั้งชาวไทยและต่างประเทศตามสถานที่บริการฉีด ส่วนเด็กที่อายุต่ำกว่า 12 ปี จะรับวัคซีนได้เฉพาะ ไฟเซอร์ เท่านั้น ซึ่งเด็กต่ำกว่า 12 ปี ไม่จำเป็นต้องอยู่ในสถานศึกษา สามารถรับบริการได้ทุกคน

นายเอกพร จุ้ยสำราญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี เปิดเผยว่า จากที่ได้รับมอบหมายจากผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี ให้บริหารเรื่องวัคซีนโควิด-19 ในกรณีของ อบจ.สระบุรี ที่สั่งจองชิโนฟาร์ม จำนวน 3 หมื่นคน จังหวัดฯได้รับจัดสรรมาจำนวนประมาณ 1 หมื่นคน โดยจะทำการฉีดให้ประชาชนในวันที่ 29 ต.ค. 31 ต.ค. และ 1 พ.ย. 64 ณ อบจ.สระบุรี


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top