Sunday, 4 May 2025
THE STATES TIMES TEAM

กรมปศุสัตว์ ร่วมกับ สัตวแพทย์ มช. จัดงานประชุมนานาชาติ GASL โดย FAO ต้อนรับผู้ร่วมงานกว่า 200 คนจาก 50 ประเทศทั่วโลก

กรมปศุสัตว์ ร่วมกับ คณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้รับเกียรติจาก องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) จัดการประชุมนานาชาติ Multi-stakeholder collaboration to strengthen sustainability and resilience of livestock systems in response to drivers of change: 13th Global Agenda for Sustainable Livestock (GASL) Multistakeholder Partnership Meeting and the Regional Conference on Sustainable Livestock Transformation ครั้งที่ 13 ระหว่างวันที่ 30 ตุลาคม - 3 พฤศจิกายน 2566 ณ โรงแรมเซ็นทารา ริเวอร์ไซด์ จังหวัดเชียงใหม่ 

โดยมี นายไชยา พรหมา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ Ms. Shirley Tarawali ประธานของกลุ่ม Global Agenda for Sustainable Livestock (GASL) ดร. นายสัตวแพทย์ธนวรรษ เทียนสิน Director of Animal Production and Health Division องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) Mr. Robert Simpson, Senior Adviser to the Assistant Director - General / Regional Representative ผู้แทนประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) นายสัตวแพทย์โสภัชย์ ชวาลกุล รองอธิบดีกรมปศุสัตว์ นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ และ ศาสตราจารย์ ดร. นายแพทย์พงษ์รักษ์ ศรีบัณฑิตมงคล อธิการบดีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ร่วมกันกล่าวให้การต้อนรับผู้ร่วมประชุม

ในการนี้ ศ.ดร.น.สพ.กรกฎ งานวงศ์พานิชย์ คณบดีคณะสัตวแพทยศาสตร์ พร้อมด้วย ผศ.ดร.สพ.ญ.วรางคณา ไชยซาววงษ์ ผู้อำนวยการศูนย์สัตวแพทย์สาธารณสุขและอาหารปลอดภัยเอเชียแปซิฟิก คณาจารย์ และบุคลากร คณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ร่วมพิธีเปิดงานประชุมนานาชาติฯ

สำหรับการประชุมที่จัดขึ้นในประเทศไทยครั้งนี้ จะมุ่งเน้นหารือในประเด็นด้านการเสริมสร้างให้เกิดการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงที่ส่งผลกระทบต่อระบบปศุสัตว์และการแก้ไขปัญหาในรูปแบบนวัตกรรม 4 มิติสำคัญ ประกอบไปด้วย

ความมั่นคงด้านอาหารและโภชนาการ หารือแนวทางการสร้างความมั่นคง เพื่อให้ประชากรโลกสามารถเข้าถึงอาหารที่มีคุณค่าและโภชนาการสูง สนับสนุนการเจริญเติบโตและการพัฒนาที่ยั่งยืน

การพิจารณาทางเศรษฐกิจและสังคม มุ่งพิจารณาแนวทางการสร้างความร่วมมือเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมสุขภาพ เสริมสร้างความยั่งยืนในการผลิตปศุสัตว์ ตลอดจนการสร้างรายได้ที่ยั่งยืนอย่างเท่าเทียม

ด้านสุขภาพ ร่วมวิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงของแนวทางการดูแลสุขภาพ อันจะเป็นประโยชน์สำคัญต่อการดำเนินงานและพัฒนาระบบปศุสัตว์อย่างยั่งยืน

ปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม สร้างความร่วมมือในการวางแนวทางเพื่อการรักษาสิ่งแวดล้อมและการใช้ทรัพยากรการเกษตรอย่างยั่งยืน เพื่อลดผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมและสนับสนุนการเกษตรที่เป็นมิตรกับธรรมชาติ

Global Agenda for Sustainable Livestock (GASL) คือ คณะทำงานด้านวาระระดับโลกที่มีเป้าหมายสำคัญเพื่อเสริมสร้างความยั่งยืนของระบบปศุสัตว์ ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2554 โดย องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) ดำเนินงานผ่านความร่วมมือระหว่างผู้มีส่วนได้ส่วนเสียหลายฝ่าย ทั้งรัฐบาล องค์กรพัฒนาเอกชน ภาคเอกชน การเคลื่อนไหวทางสังคม และสถาบันการศึกษาองค์กรระหว่างประเทศ 

เป็นการรวมตัวของผู้ที่มีส่วนสำคัญด้านการพัฒนาระบบปศุสัตว์กว่า 200 คนจาก 50 ทั่วโลก มาร่วมแบ่งปันแนวปฏิบัติและนโยบายเพื่อการผลิตปศุสัตว์ที่ยั่งยืน ส่งเสริมและสนับสนุนให้เกิดการเปลี่ยนแปลงนโยบายที่มีจุดมุ่งหมายให้เกิดการผลักดันการดำเนินงานของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียหรือผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการปรับปรุงการใช้ทรัพยากรธรรมชาติของภาคปศุสัตว์ โดยคำนึงถึงความเป็นอยู่ที่ดีของมนุษย์ สัตว์ และระบบนิเวศ

'ปลดเป้ วางปืน คืนสู่สามัญ' 'ทหารปลดประจำการ เป็นทหารกองหนุน'

มณฑลทหารบกที่ 36 จัดพิธีส่งทหารซึ่งรับราชการครบกำหนดและจะปลดจากกองประจำการ

วันอังคารที่ 31 ตุลาคม 2566 พลตรี วัชรพงศ์  แก้วแจ้ง ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 36 เป็นประธานพิธี มอบประกาศเกียรติคุณ และให้โอวาทแก่ทหารกองประจำการ เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจแก่ทหารกองประจำการ ผลัดที่ 2/62, 2/64, 2/65 และ 1/66 ซึ่งรับราชการจนครบกำหนดตาม พ.ร.บ. รับราชการทหาร ในวันที่ 31 ต.ค. 66 และจะต้องดำเนินการปลดเป็นทหารกองหนุนกลับภูมิลำเนา ในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2566 มีทหารกองประจำการเข้ากระทำพิธี จำนวน 155 นาย โดยมี ผู้บังคับบัญชาภายในกองบัญชาการมณฑลทหารบกที่ 36 เข้าร่วมพิธี พร้อมมอบประกาศเกียรติคุณ และวุฒิการศึกษาจากศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้อำเภอเมืองเพชรบูรณ์ ให้แก่ทหารกองประจำการ ดังกล่าว ณ อาคารอเนกประสงค์ มณฑลทหารบกที่ 36 ค่ายพ่อขุนผาเมือง จังหวัดเพชรบูรณ์

ปลัดแรงงาน เปิดงานวันนิคม จันทรวิทุร พร้อมปาฐกถาพิเศษ 30 ปี กระทรวงแรงงานกับการพัฒนาที่ยั่งยืน

วันที่ 31 ตุลาคม 2566 นายไพโรจน์ โชติกเสถียร ปลัดกระทรวงแรงงาน เป็นประธานกล่าวเปิดงานเนื่องในวันนิคม จันทรวิทุร ครั้งที่ 21 ประจำปี 2566 และกล่าวปาฐกถาพิเศษหัวข้อ “30 ปี กระทรวงแรงงานกับการพัฒนาที่ยั่งยืน : เป้าหมายของสหประชาชาติกับความพยายาม ผลงานที่ผ่านมา และนโยบายของกระทรวงแรงงานในรัฐบาลชุดใหม่” โดยมี นายฐาปบุตร ชมเสวี ประธานคณะกรรมการบริหารมูลนิธินิคม จันทรวิทุร กล่าวรายงานวัตถุประสงค์การจัดงาน นายวรรณรัตน์ ศรีสุขใส รองปลัดกระทรวงแรงงาน นายสมาสภ์ ปัทมะสุคนธ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงแรงงาน นายนันทชัย ปัญญาสุรฤทธิ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงแรงงาน นางสาวกรจิรัฏฐ์ พงจันทร์ศธร ผู้ช่วยปลัดกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูงกระทรวงแรงงาน เข้าร่วม ณ ห้องประชุมกระทรวงแรงงาน ชั้น 5 อาคารกระทรวงแรงงาน    

นายไพโรจน์ กล่าวว่า ท่านพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้เน้นย้ำเป็นพิเศษถึงนโยบายของรัฐบาลและนโยบายของกระทรวงแรงงาน ซึ่งนโยบายของรัฐบาลมีกรอบนโยบายในการบริหารและพัฒนาประเทศตามกรอบความเร่งด่วน ได้แก่ กรอบระยะสั้น เป็นการกระตุ้นการใช้จ่าย จุดประกายให้เครื่องยนต์ทางเศรษฐกิจกลับมาเติบโต ประกอบกับการเร่งแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าของประชาชนอย่างเร่งด่วนและรวดเร็ว กรอบระยะกลางและระยะยาว ด้านการเสริมขีดความสามารถให้กับประชาชน ผ่านการสร้างรายได้ ลดรายจ่าย สร้างโอกาส ลดความเหลื่อมล้ำ และสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นให้กับประชาชนทุกคน ในส่วนนโยบายของกระทรวงแรงงาน โดยท่านพิพัฒน์ รัชกิจประการ ได้มีนโยบายเพื่อขับเคลื่อนภารกิจกระทรวงแรงงาน 3 ด้าน 8 นโยบาย เพื่อมุ่งยกระดับคุณภาพชีวิตแรงงานภายใต้แนวคิด “ทักษะดี มีงานทำ หลักประกันทางสังคมเด่น เน้นขับเคลื่อนเศรษฐกิจ”  

นายไพโรจน์ กล่าวต่อว่า ตลอดห้วงระยะเวลา 30 ปี ของการดำเนินงานของกระทรวงแรงงานได้มีการขับเคลื่อนการพัฒนาแรงงานของประเทศให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี และช่วยเหลือตนเองและครอบครัวได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน ภายใต้เป้าหมาย “มุ่งขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ยกระดับคุณภาพชีวิตแรงงาน” และเป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ สอดคล้องกับแนวทางการพัฒนาประเทศตามยุทธศาสตร์ชาติและนโยบายรัฐบาลปัจจุบัน ตลอดจนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติที่กระทรวงแรงงานมีบทบาทเป็นหน่วยงานหลักด้านการพัฒนาแรงงานในเป้าหมายที่ 8 การส่งเสริมงานที่มีคุณค่า สำหรับทุกคน และการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ โดยในปี 2566 มีผลงานสำคัญในหลายด้าน อาทิ ส่งเสริมการมีงานทำให้ประชาชนทุกกลุ่มมีรายได้ที่เหมาะสมรฝึกอบรมเพื่อยกระดับทักษะฝีมือแรงงาน เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ป้องกันและแก้ไขการค้ามนุษย์ด้านแรงงาน รวมทั้งเพิ่มประสิทธิภาพระบบบริการทางการแพทย์ เพื่อให้ผู้ประกันตนได้สิทธิประโยชน์ตามกฎหมายประกันสังคม เป็นต้น กระทรวงแรงงานมีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาแรงงาน เพื่อให้ แรงงานมีคุณภาพชีวิตที่ดี และเป็นพลังในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศอย่างยั่งยืนต่อไป

ด้าน นายฐาปบุตร ชมเสวี ประธานคณะกรรมการบริหารมูลนิธินิคม จันทรวิทุร กล่าวว่า การจัดงานในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างผู้บริหารทุกระดับ ผู้ปฏิบัติงาน นักวิชาการ นักวิจัย ผู้ทรงคุณวุฒิจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับงานด้านแรงงาน ร่วมกันกำหนดทิศทางและเป้าหมายเพื่อขับเคลื่อนงานด้านแรงงานให้สอดคล้องกับความจำเป็นแห่งยุคสมัยและในอนาคต ตลอดจนสร้างข้อเสนอแนะร่วมกันทั้งในเชิงนโยบายและปฏิบัติเพื่อนำไปสู่การดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรมต่อไป

'คุณย่าขาลุย' บุกครัวคุณต๋อยเพลส เดอะคริสตัล เอกมัย - รามอินทรา แหล่งรวมความอร่อย ฟินได้ทุกวัย กินได้ทุกวัน

คุณย่าทั้งหลายจูงมือกันหาของอร่อยทาน ไม่รู้ติดใจอะไรอะไรนักหนากับครัวคุณต๋อยเพลส เดอะคริสตัล เอกมัย - รามอินทรา
พี่อ๋อยสินาภรณ์ พิไลลักษณ์
พี่แหม่มเทพยุดา ศรียาภัย
คุณสุพรรษา เนื่องภิรมย์
คุณตุ้มรสริน จันทรา
คุณตุ๋ยนวลปรางค์ ตรีชิต 
คุณจิระวดี อิศรางกูร ณ อยุธยา
คุณปิ๋วศากุน บุนนาค

ครัวคุณต๋อยเพลส เดอะคริสตัล เอกมัย - รามอินทรา แหล่งรวมความอร่อย ฟินได้ทุกวัย กินได้ทุกวัน เปิดทุกวัน เริ่ม 3 มิ.ย. 66 นี้

เตรียมปักหมุด…เช็คความฟินที่กินแห่งใหม่ “ครัวคุณต๋อยเพลส เดอะคริสตัล เอกมัย - รามอินทรา” แหล่งรวมความอร่อยทั่วฟ้าเมืองไทย ถูกใจสายกินตัวท็อป นักช้อปตัวแม่แน่นอนจ้า

พบกับ!!! ร้านเด็ด เมนูอร่อยกว่า 60 ร้านค้า การันตีความอร่อยโดยรายการครัวคุณต๋อยมารวมไว้ที่นี่ที่เดียว ทั้งเมนูคาว หวาน ของว่าง และเครื่องดื่มนานาชนิด พร้อมปรุงสด เสิร์ฟใหม่ถึงมือคุณทุกวัน

ขอแนะนำโซนเด็ด “KKT SHOP” ร้านของฝากที่คัดสรรของอร่อย ของดี คุณภาพเยี่ยมทั่วทุกภาค มาไว้บริการให้ลูกค้าเลือกซื้อติดไม้ติดมือกลับบ้านเป็นของฝากให้กับคนที่คุณรัก

พิเศษสุด!!! ในทุก ๆ สัปดาห์พบกับอีเว้นท์จากร้านเด็ด ของดี ของอร่อย มาในธีมรูปแบบต่าง ๆ เพื่อสร้างสีสันสนุกคึกคัก และร่วมส่งต่อความอร่อยสลับสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันตลอดทุกสัปดาห์

บรรยากาศภายในตกแต่งด้วยโทนไม้ดูอบอุ่น แอร์เย็นสบาย เหมาะกับกลุ่มลูกค้าทุกเพศ ทุกวัย มีโต๊ะและเก้าอี้ไว้บริการรองรับมากถึง 200 ที่ พร้อมให้เหล่านักกิน ได้มาสัมผัสความฟิน อิ่มเอมกับของอร่อย อย่างสุขใจ

ตั้งอยู่: เดอะคริสตัล เอกมัย - รามอินทรา เดินทางสะดวกสบาย มีที่จอดรถมากมายไว้บริการ เปิดบริการ: จันทร์ - อาทิตย์ เริ่มตั้งแต่ วันที่ 3 มิ.ย.66 เป็นต้นไป เวลา:10.00 – 20. 30 น.
#ครัวคุณต๋อยเพลส #ครัวคุณต๋อย #ไม่กินถือว่าผิด #เดอะคริสตัลเอกมัยรามอินทรา

ตำรวจท่องเที่ยวไอเดียเก๋ ออกคลิป 2 ภาษา แนะนำ 5 ข้อแนะนำ การท่องเที่ยวในวันฮาโลวีนให้ปลอดภัย

วันนี้ (31 ต.ค.66) พล.ต.ต.พงษ์สยาม มีขันทอง รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยวและโฆษกกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว เปิดเผยว่า ปี 2566 นั้น วันฮาโลวีน ตรงกับวันที่ 31 ตุลาคม ซึ่งในประเทศไทย นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ นิยมเที่ยวกันวันฮาโลวีนในลักษณะของงานปาร์ตี้ โดยสถานที่ที่มักนิยมไปเที่ยวกัน มักจะเป็นลักษณะของร้านที่มีการจำหน่ายสุรา ผับ บาร์ เช่น ถนนข้าวสาร เป็นต้น

ด้วยความห่วงใยความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว พล.ต.ต.ศักย์ศิรา เผือกอ่ำ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว จึงได้จัดทำคลิป 5 ข้อแนะนำ ในการเที่ยวฮาโลวีนให้ปลอดภัย ได้แก่ 

1. เตรียมแผนเดินทางล่วงหน้า เพื่อจะได้รู้จักเส้นทาง หากเป็นสถานที่ปิด ก็ควรรู้จักทางออกฉุกเฉิน เผื่อเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้น

2. ควรมีเพื่อนไปด้วย เพราะในวันฮาโลวีนบางสถานที่ผู้ที่ไปเที่ยวอาจแต่งหน้าแนวแฟนตาซี ทำให้ไม่รู้ว่าใครเป็นใครหากพบเจอเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ เพื่อนจะจำเราได้ และคอยช่วยเหลือกัน 

3. หลีกเลี่ยงสถานที่แออัด เพื่อป้องกันเรื่องการล้วงกระเป๋า รวมไปถึงการเบียดเสียดกับคนจำนวนมาก เพื่อเวลาฉุกเฉินจะได้เอาตัวเองออกมาจากสถานที่นั้นได้ง่าย

4. หากจำเป็นต้องดื่ม ให้ดื่มอย่างมีสติ และก็ต้องดื่มแล้วไม่ขับ 

5. ปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ หรือมาตรการการรักษาความปลอดภัยของสถาานที่นั้นๆ เช่น ไม่ทำให้เกิดประกายไฟ เป็นต้น

ทั้งนี้ คลิป 5 ข้อแนะนำ ในการเที่ยวฮาโลวีนให้ปลอดภัย กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยวได้จัดทำเป็นทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ โดยสามารถชมคลิปนี้ได้ที่เพจเฟซบุ๊ก Tourist Police Bureau กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว หรือ www.facebook.com/1155TPB

‘รองฯ กิตติ์รัฐ’ พร้อมคณะ เรียกประชุม ตัดวงจรผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ในปี 2567 เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล

เมื่อวานนี้ (30 ต.ค. 66) เวลา 13.30 น.ที่ กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงตลาดบางเขน เขตหลักสี่ กทม. พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร.(ปป) , พล.ต.ท.นิรันดร เหลื่อมศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร.(ปป 2), พล.ต.ท.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผู้ช่วย ผบ.ตร. (ปป 3), พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. (ปป 4) และพล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผบช.ภ.6 รรท.ผู้ช่วย ผบ.ตร.(ปป 5) ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยม รับฟัง และมอบนโยบายการดำเนินการป้องกันปราบปราม และสกัดกั้นการแพร่ระบาดยาเสพติด ตามภารกิจเร่งด่วน ตัดวงจรผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ในปี 2567 เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล และ ตร.  

โดยมี พล.ต.ท.คีรีศักดิ์ ตันตินวะชัย ผบช.ประจำ สง.ผบ.ตร. รรท.ผบช.ปส. พร้อมด้วย รอง ผบช.ปส. , ผบก.,รองผบก.และ ผกก.ในสังกัด บช.ปส.เข้าร่วมประชุมและบรรยายสรุปผลการปฏิบัติงานสำคัญที่ผ่านมาและแผนที่จะดำเนินการต่อไป ตลอดจนปัญหาข้อขัดข้อง ในการดำเนินมาตรการลดจำนวนผู้เสพยาเสพติด ,มาตรการจับกุมผู้ค้ายาเสพติด และมาตรการสกัดกั้นยาเสพติด อย่างเป็นรูปธรรมและเกิดผลสัมฤทธิ์ต่อไปโดยเสร็จสิ้นการประชุม เวลา 15.30 น.

ไทยสมายล์ กรุ๊ป ร่วมกับนิคมอุตสาหกรรมบลูเทคซิตี้และบริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน ผุดไอเดีย “สถานีตรวจคุณภาพสิ่งแวดล้อมมีชีวิต” แห่งแรกในประเทศไทย เพื่อสร้างสรรค์นวัตกรรมสังคม Low Carbon

วันนี้ (28 ต.ค2566) ที่ทุ่งสมุนไพรป่าชายเลนนิคมอุสาหกรรมฉะเชิงเทรา บลูเทค ซิตี้ นางสาวกุลพรภัสร์ วงศ์มาจารภิญญา ประธานผู้บริหารนิคมอุตสาหกรรม ฉะเชิงเทรา บลูเทค ซิตี้ นำคณะผู้บริหาเจ้าหน้าทีพนักงานไทยสมายล์ กรุ๊ปและบริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) ร่วมกิจกรรมโครงการ ปลูกต้นไม้ป่าชายเลน

จากการต่อยอด ทุ่งสมุนไพรป่าชายเลนเมื่อปี 2565 สู่การเป็นสถานีตรวจคุณภาพสิ่งแวดล้อมมีชีวิต ในปี 2566 เป็นตัวชี้วัดที่ชาวบ้านสามารถพิสูจน์ด้วยตาเปล่าและจับต้องได้อย่างเป็นรูปธรรมทั้งด้านสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ สังคม สุขภาพและการศึกษานวัตกรรมเทคโนโลยี 

กลิ่นไอความเจริญ เกิดขึ้นแล้ว ณ ฉะเชิงเทรา ในพื้นที่ตะวันออก EEC เมื่อกลุ่มไทยสมายล์ กรุ๊ป ผู้นำรถขนส่งสาธารณะ Low Carbon ร่วมกับ บลูเทคซิตี้ ฉะเชิงเทรา และบริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน)ผู้นำนวัตกรรมพลังงานบริสุทธิ์ ได้นำพนักงานร่วมกับชาวบ้านบางปะกงกว่า 100 ชีวิต สานพลังบริสุทธิ์ช่วยกันปลูกป่าชายเลน เช่น ต้นถั่วขาวทะเล ต้นฝาดดอกขาว-แดง รวมจำนวน 1,000 ต้น เทียบเท่าการกักเก็บคาร์บอนได้ 100 ตัน ใน 10 ปี และใช้เป็นแหล่งอนุบาลสัตว์น้ำวัยเยาว์ สร้างความมั่นคงทางอาหารให้แก่โลก

รวมทั้ง การผุดไอเดียพัฒนา“สถานีตรวจคุณภาพสิ่งแวดล้อมมีชีวิต” โดยมีแนวคิดจัดทำโครงการบ้านปลาธนาคารปู ที่เบื้องต้น ได้ทำความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยราชภัฏราชนครินทร์ฉะเชิงเทราศึกษาวิจัยเพาะพันธุ์ลูกปูทะเล ที่มีเป้าหมายจะปล่อยลูกปูคืนสู่ธรรมชาติปีละ 1,000,000 ตัว โดยวางแผนปรับปัจจัยแวดล้อมให้ลูกปูสามารถเติบโตเต็มวัย จนประชาชนสามารถจับขายได้ ซึ่งมีราคาโดยเฉลี่ยตัวละ 100 บาท คิดเป็นกระตุ้นเศรษฐกิจในท้องถิ่น ได้ไม่น้อยกว่าปีละ 100 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นตัวชี้วัดการประเมิน สถานีตรวจคุณภาพสิ่งแวดล้อมมีชีวิตได้อย่างดี ที่มีทั้งดินดี น้ำดี มีคุณภาพชีวิตดี มีงาน มีอาชีพ มีรายได้ ส่งผลให้อุตสาหกรรมอยู่ร่วมกับชุมชนอย่างมีความสุขได้อย่างยั่งยืน

'มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ห่วงใย สุขภาพชุมชน' เสริมสร้างประชาชนให้เข้มแข็งด้วยการมีสุขภาพที่ดี จัดทีมหน่วยแพทย์สงเคราะห์ชุมชน ให้บริการตรวจ-รักษา แจกจ่ายแว่นสายตา ตัดผม ฯลฯ แก่ประชาชน ฟรี ณ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง พลับพลาไชย กรุงเทพฯ

วันนี้ (วันเสาร์ที่ 28 ตุลาคม 2566) มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำโดย นายวิชิต ชินวงศ์วรกุล รองประธานกรรมการ เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย นางศิริกุล โอภาสวงศ์ กรรมการและเลขาธิการ นายจารุรัตน์ คุณัตถานนท์ กรรมการและเหรัญญิก นางจินดา บุญลาภทวีโชค กรรมการตรวจสอบ และ ผู้ช่วยกรรมการมูลนิธิฯ ร่วมในพิธีเปิดโครงการ “ป่อเต็กตึ๊ง ห่วงใย สุขภาพชุมชน” ให้บริการด้านสุขภาพแก่ประชาชนฟรี ... ประกอบด้วย ตรวจสุขภาพเบื้องต้น พร้อมการจ่ายยา คัดกรองเบาหวานเบื้องต้น บริการตรวจและแจกแว่นสายตา บริการทันตกรรม บริการตัดผม และจัดกิจกรรมนันทนาการสำหรับเด็ก เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล และสนับสนุนให้ประชาชนใส่ใจในคุณภาพ โดยมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง กำหนดให้บริการประชาชนทุกวันเสาร์ที่สามของเดือน ระหว่างเวลา 09.00 – 14.00 น. ณ บริเวณลานสำนักงาน มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง พลับพลาไชย กรุงเทพฯ [รายละเอียดอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามความเหมาะสม] โดยมีนายขวัญเมือง บุญประสงค์ ผู้อำนวยการเขตป้อมปราบศัตรูพ่าย นายศิลปชัย พันธุ์สุริยานนท์ รองผู้อำนวยการด้านพัฒนาองค์กร คลินิกการประกอบโรคศิลปะ สาขาการแพทย์แผนจีนหัวเฉียว พร้อมด้วย แขกผู้มีเกียรติ และประชาชน ร่วมในพิธี ณ บริเวณลานสำนักงาน มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง พลับพลาไชย กรุงเทพฯ

การออกหน่วยแพทย์สงเคราะห์ชุมชน มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง มีกำหนดลงพื้นที่ให้บริการประชาชนทั้งที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง พลับพลาไชย รวมถึงตามชุมชนต่างๆ ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ประชาชนท่านใดสนใจเข้ารับบริการ สามารถติดต่อสอบถาม และติดตามข่าวสาร ตารางการออกหน่วยลงพื้นที่หน่วยแพทย์สงเคราะห์ชุมชน รวมถึงกิจกรรมช่วยเหลือของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ที่เฟซบุ๊ก แฟนเพจ www.facebook.com/atpohtecktung 

กว่า 46 ปี ที่หน่วยแพทย์สงเคราะห์ชุมชน มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ออกหน่วยบริการทางการแพทย์เคลื่อนที่แก่ประชาชนในพื้นที่ต่าง ๆ ทั้งในพื้นที่ชุมชนแออัด และพื้นที่ห่างไกลทั่วประเทศ เพื่อให้ประชาชนได้รับการบริการทางการแพทย์อย่างทั่วถึง ซึ่งตลอดระยะเวลากว่า 113 ปี มูลนิธิฯ ได้ขยายขอบข่ายโครงการต่าง ๆ ออกไปอย่างกว้างขวาง ไม่เพียงแต่บำบัดทุกข์ บำรุงสุข แก่ผู้ตกทุกข์ได้ยากโดยไม่จำกัดเชื้อชาติ ศาสนา เท่านั้น แต่ยังได้พัฒนาคุณภาพชีวิตอีกในหลาย ๆ ทาง เพื่อเป็นองค์กรสาธารณกุศลที่ช่วยเหลือประชาชนครบวงจรในทุก ๆ ด้าน ต่อไป ดังปณิธาน “มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต”

มทบ.25 จัดพิธีอำลาธงชัยเฉลิมพล และพิธีอำลาผู้บังคับบัญชาของทหารกองประจำการ รุ่นปี 2564 ผลัดที่ 2

เมื่อวานนี้ (27 ต.ค.66) เวลา 09.30 น.พลตรี ชินวิช เจริญพิบูลย์ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 25 ประธานในพิธี พร้อมคณะผู้บังคับบัญชา กำลังพล มณฑลทหารบกที่ 25 และ กองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 23 ร่วมพิธีอำลาธงชัยเฉลิมพล และพิธีอำลาผู้บังคับบัญชา ซึ่งกำลังพลที่ปลดจากกองประจำการ ประกอบด้วย กำลังพลในส่วนบังคับบัญชา ร้อยมณฑลทหารบกที่ 25 ร้อยสารวัตรทหาร มณฑลทหารบกที่ 25 หน่วยฝึกนักศึกษาวิชาทหาร มณฑลทหารบกที่ 25 โรงพยาบาลค่ายวีรวัฒน์โยธิน และ กองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 23 รวมทั้งสิ้น 227นาย 

โดยในพิธี มีพระสงฆ์ปะพรมน้ำพระพุทธมนต์ เพื่อเป็นสิริมงคลแก่กำลังพล ผู้แทนทหารกองประจำการที่จะปลดจากกองประจำการกล่าวอำลาผู้บังคับบัญชา และพิธีสวนสนามอำลาธงชัยเฉลิมพล และผู้บังคับบัญชา ซึ่งเป็นพิธีอันทรงเกียรติ ที่ทรงคุณค่าสร้างภาคภูมิใจแก่เหล่ากำลังพลน้องๆ ทหารที่จะปลดจากกองประจำการ ซึ่งทำให้ทหารกองประจำการทุกนายเกิดความภาคภูมิใจว่าเป็นส่วนหนึ่งของความมั่นคงของประเทศที่ได้ปฏิบัติงานช่วยเหลือหน่วย และประเทศชาติ ในหลังจากนั้น พลตรี ชินวิช เจริญพิบูลย์ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 25 พร้อม คุณอุไรวรรณ เจริญพิบูลย์ ประธานสมาคมแม่บ้านทหารบก สาขามณฑลทหารบกที่ 25 และคณะแม่บ้าน ได้เลี้ยงอาหารพิเศษให้กับทหารที่ปลดจากกองประจำการ ณ โรงเลี้ยง ร้อยมณฑลทหารบกที่ 25 สร้างความปลาบปลื้มใจให้กับน้องๆทหารที่จะปลดประจำการในครั้งนี้เป็นอย่างมาก 

ชาวบ้านเกาะสาหร่าย ร้องศรชล.แก้ปัญหาลักลอบใช้เครื่องมือผิดกฎหมายคราดปลิงทะเลลูกบอล ส่งจีน-เวียดนาม

วันนี้ 27 ต.ค. 2566 ที่ท่าเทียบเรือเจ้าท่า สาขาสตูล ตำบลตำมะลัง อำเภอเมือง จังหวัดสตูล ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค 3 โดยพลเรือโทสุชาติ ธรรมพิทักษ์เวช มอบนโยบายนาวาเอก แสนย์ไท บัวเนียม ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจพื้นที่ตอนใต้ จว.สตูล ศรชล.ภาค 3/รองผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลจังหวัดสตูล,นาวาเอก รัฐพล  แก้วกระจาย หัวหน้าศูนย์ควบคุมความมั่นคงท่าเรือจังหวัดสตูล ศรชล.ภาค 3 , นายสุขเกษม ศรีงาม เจ้าพนักงานประมงชำนาญงาน  หน่วยป้องกันและปราบปรามประมงทะเลเกาะหลีเป๊ะ (สตูล)ประมงจังหวัดและประมงอำเภอเมืองสตูล  บูรณาการกำลังจากหน่วยงานใน ศรชล.จังหวัดสตูล ประกอบด้วย ศูนย์ควบคุมความมั่นคงท่าเรือจังหวัดสตูล ศรชล.ภาค 3 สำนักงานประมงจังหวัดสตูล ด่านศุลกากรสตูล ศูนย์บริหารจัดการด่านตรวจประมงเขต 9 (สตูล) สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาสตูล ตำรวจน้ำสตูล ศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลจังหวัดสตูล หน่วยป้องกันและปราบปรามประมงทะเลเกาะหลีเป๊ะ (สตูล) และ ชุดปฏิบัติการพิเศษ หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ จำนวน 30 นาย นำเรือ ศรชล.2906 และ เรือ เจ้าท่า 188 ออกตรวจสอบและแสดงกำลังในการป้องกันและป้องปรามการกระทำผิดกฎหมายทางทะเลบริเวณพื้นที่ตำมะลัง - ตันหยงโป - เกาะสาหร่าย และได้พบปะพูดคุยสร้างความรับรู้ในการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลให้กับผู้นำชุมชนบ้านเกาะสาหร่าย ต.เกาะสาหร่าย อ.เมืองสตูล จว.สตูล

เกี่ยวกับข้อมูลเรือพื้นบ้านใช้เครื่องมือทำประมงผิดกฎหมาย (คราดปลิงทะเลลูกบอล ) หลังได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านเกาะสาหร่าย ว่ามีการลักลอบใช้เครื่องมือผิดกฎหมายคราดปลิงทะเลลูกบอล สร้างความเสียหายให้ทรัพยากรธรรมชาติและเครื่องมือประมงของชาวบ้าน ซึ่งการออกลาดตระเวนพร้อมเพิ่มความถี่ในการตรวจตรารอบเกาะสาหร่ายในครั้งนี้ แม้จะไม่พบการกระทำผิดกฎหมายดังกล่าว   

ด้านนาวาเอกแสนย์ไท บัวเนียม รองผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลจังหวัดสตูล (ศรชล.สตูล) พร้อมคณะหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงรับฟังปัญหา  จากผู้นำชาวบ้านในพื้นที่และเชิญเจ้าของแพรับซื้อปลิงทะเลลูกบอล มาแจ้งถึงการรับซื้อปลิงทะเลลูกบอลจากกลุ่มเรือประมงที่ใช้เครื่องมือคราดในครั้งนี้มีความผิดทางกฎหมายจากการลงพื้นที่รับฟังข้อมูลข้อเท็จจริงจากชาวบ้าน ผู้นำชุมชน ได้เสนอแนะ 3 ประเด็นใหญ่คือ 1 ให้มีการรวมตัวกันผู้นำชุมชน ผู้นำหมู่บ้านและชาวบ้านรวมทั้งเจ้าหน้าที่ของรัฐเพื่อทำการแก้ไขปัญหาเบื้องต้น 2. หากเกินขีดความสามารถให้แจ้งมายัง ศรชล.หรือ ว่าสำนักงานประมงจังหวัด/หรือว่าหน่วยปราบปรามประมงทะเลเกาะหลีเป๊ะ 3 ศรชล.ได้เพิ่มความถี่ในการลาดตระเวน/เพื่อป้องกันแก้ไขปัญหาการกระทำความผิดประมงผิดกฎหมายเพื่อจำกัดเสรีในการกระทำความผิดกฎหมาย ควบคุมดำเนินคดีการกระทำความผิดต่อไป โดยลักษณะของการกระทำความผิดเป็นการใช้เครื่องมือคราดปลิงทะเล สร้างความเสียหายให้ทรัพยากรและเครื่องมือประมงอื่น เกิดความเสียหายต่อทรัพยากรสัตว์น้ำ สำหรับการแก้ไขปัญหาประมง และการกระทำความผิดประมง เป็นปัญหาซับซ้อนที่ต้องร่วมมือกัน ระหว่างเจ้าหน้าที่ของรัฐประชาชนและผู้ทำอาชีพประมง ในทุก ๆ เรื่องการสร้างความตระหนักรู้วินัย/ทุกคนต้องร่วมมือกันเชื่อว่าทุกอย่างจะคลี่คลาย

สำหรับปลิงทะเลลูกบอล การข่าวพบว่ามีการซื้อขายกิโลกรัมละ 60-70 บาทในตัวปลิงที่มีขนาดใหญ่ และขนาดเล็ก 35 บาท มีการจับเพื่อส่งขายไปเป็นยาบำรุงร่างกาย ในประเทศเวียนดนามและจีน ซึ่งชาวบ้านเกาะสาหร่ายหากเดินหาริมชายหาดหลังน้ำลดสามารถทำได้   

สำหรับคณะกรรมการประมงประจำจังหวัดสตูล ได้ประกาศ เรื่อง  กำหนดเครื่องมือทำการประมง วิธีการทำการประมง และพื้นที่ทำการประมง ที่ห้ามใช้ทำการประมงจับสัตว์น้ำ พ.ศ.2560 เครื่องมือประมงปประเภทคราดประกอบกับเรือยนต์ทำการประมงปลิงทะเล ทำให้เกิดการทำลายหน้าดิน หญ้าทะเล ปะการัง อันเป็นแหล่งวางไข่และเลี้ยงตัวอ่อนของสัตว์น้ำ ก่อให้เกิดความเดือดร้อนต่อชาวประมง อาศัยมาตรา 28 วรรคหนึ่ง (3) และวรรคสอง มาตรา 71 (1)แห่งพระราชกำหนดประมง พ.ศ.2558  (มีโทษปรับตั้งแต่หนึ่งหมื่นบาท  ถึงหนึ่งแสนบาท หรือปรับจำนวนห้าเท่าของมูลค่าสัตว์น้ำที่ได้จากการทำการประมง)

ด้านนายรอดาษ นากมา ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 5 ตำบลเกาะสาหร่าย ยอมรับว่า ปัญหาการลักลอบทำประมงด้วยการใช้เครื่องมือ คราดปลิงทะเลลูกบอล มีจริง โดยมีการใช้เรือประมาณ 10 ลำเป็นเรือหางพร้อมเครื่องมือคราดสร้างความเสียหายให้กับเครื่องมือประมงของชาวบ้าน ซึ่งปัญหานี้มีมาต่อเนื่องไม่น้อยกว่า 2 ปีแล้วที่ชาวบ้านเกาะสาหร่ายประสบปัญหา โดยกลุ่มเรือที่เข้ามาทำส่วนใหญ่มาจากต่างถิ่น จึงอยากให้ศรชล.เข้ามาช่วยเหลือ ตรวจตรา ป้องปรามการกระทำผิด  


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top