Friday, 9 May 2025
THE STATES TIMES TEAM

“มนัส โกศล” หัวหน้าพรรคแรงงานสร้างชาติ ปักธง เปิดประชุมใหญ่พร้อมสู้ศึกเลือกตั้ง

           ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ภายในห้องจัดเลี้ยงราชพฤกษ์  ร้านอาหารครัวบุญเลิศ ต.บางปูใหม่ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ พรรคแรงงานสร้างชาติได้มีการนำคณะสมาชิกพรรค เปิดประชุมใหญ่วิสามัญ ครั้งที่ 1 เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนลงสู้ศึกเลือกตั้ง โดยมีนโยบายคือ “มุ่งมั่นพัฒนา  สร้างชาติอย่างยั่งยืน” 

      ด้าน นายมนัส โกศล หัวหน้าพรรคแรงงานสร้างชาติ เปิดเผยว่า ในวันนี้ทางพรรคแรงงานสร้างชาติ ได้เปิดประชุมใหญ่วิสามัญ ครั้งที่ 1 โดยการประชุมครั้งนี้มีคณะสมาชิกพรรคได้เดินทางมาเข้าร่วมการประชุมครบทั้ง 4 ภาค ได้แก่ ภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคอีสาน และภาคใต้ จำนวนกว่า 300 คน ประกอบกับ พรรคแรงงานสร้างชาติมีความพร้อมทุกด้าน โดยเฉพาะการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์และนโยบายพรรค พร้อมขับเคลื่อนสวัสดิการพื้นฐานอย่างทั่วถึง ปฏิรูปประกันสังคม ปรับปรุงกฎหมายแรงงาน ส่งเสริมการศึกษา การสร้างอาชีพ การส่งเสริมการจ้างงาน และหัวใจสำคัญประชาชนต้องได้รับการจ้างงานที่เป็นธรรม


        อีกทั้ง สมาชิกพรรคแรงงานสร้างชาติล้วนเป็นบุคลากรที่มีความรู้ มีความสามารถ พร้อมที่จะช่วยบริหารขับเคลื่อนเพื่อให้เกิดประโยชน์แก่พี่น้องประชาชนอย่างสูงสุดในทุกภาคส่วน ซึ่งทางพรรคแรงงานสร้างชาติมีนโยบาย 4 ด้านที่สำคัญและตนเองมองว่านโยบายทั้ง 4 ข้อนี้ ประชาชนสามารถจับต้องได้

        คือ 1.การปฎิรูปประกันสังคม 2.ปฎิรูปการเกษตร 3.พัฒนาแหล่งน้ำให้ครอบคลุมทั่วประเทศ และ 4.ปฎิรูปสิทธิประโยชน์ด้านสังคมและสุขภาพ โดยหัวใจสำคัญ ผู้ใช้แรงงานต้องมีธนาคารแรงงานและโรงพยาบาลประกันสังคมเกษตรกรต้องมีแหล่งน้ำเพื่อการเกษตรอย่างทั่วถึง       

‘อรุณี’ รองเลขาฯ เพื่อไทย เรียกร้อง ‘พล.อ.ประวิตร’ ผอ.กอ.รมน.สั่งตรวจสอบระบบการฝากกำลังพลใน กอ.รมน. หลังเกิดกรณี ‘ส.ต.ท.หญิง’ ไม่ใช่แก้ไขรายกรณี ชี้ 8 ปี ‘พล.อ.ประยุทธ์’ สร้างระบบเผด็จการ แผ่อำนาจ กอ.รมน.

น.ส.อรุณี กาสยานนท์ รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึง กรณี ผลการสอบของคณะกรรมการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร หรือ กอ.รมน. เรื่องการมาช่วยราชการของ ส.ต.ท.หญิง เป็นการขอมาช่วยราชการเอง พิจารณาแล้วเหมาะสม และได้มีคำสั่งให้พ้นหน้าที่โดยมีผลย้อนหลังนั้น การกระทำดังกล่าวถือว่าจบ แต่คำถามที่สังคมสงสัย คือกรณีแบบนี้มีอีกกี่คน และใครควรต้องรับผิดชอบ กอ.รมน.เองใช้จ่ายเงินภาษีของประชาชนอย่างคุ้มค่าหรือไม่ เพราะทุกวันนี้ประชาชนทุกข์ยากลำบากจากสภาวะเศรษฐกิจแค่ไหน แต่ก็ยังต้องจ่ายภาษีทุกวัน เพื่อให้ผู้มีอำนาจบางคนถลุงเงินภาษีไปในทางที่ไม่เหมาะสม

น.ส.อรุณี กล่าวว่าที่ผ่านมา ในขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ บริหารประเทศ ได้มีการออกคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 312/2562 แบ่งโครงสร้าง กอ.รมน.ใหม่ 17 หน่วยงาน ให้หน้าที่ อำนาจส่วนงาน ศูนย์ประสานการปฏิบัติ กอ.รมน.ภาค จังหวัด ขึ้นตรงกับ ผอ.กอ.รมน. ส่วนอัตรากำลังให้ ผอ.กอ.รมน. จัดสรรจำนวนตามที่ ครม.กำหนดให้เพียงพอกับความจำเป็นและยังให้หน่วยงานของรัฐให้การสนับสนุนตามที่ได้รับการประสานและร้องขอ

กองทัพบก ส่งทหาร ร่วมกรมเจ้าท่า , กทม. เร่งกำจัดผักตบในคูคลองพื้นที่ กทม. ปริมณฑล เปิดทางไหลของน้ำ เตรียมพร้อมรับมือมวลน้ำจากเหนือ

เมื่อวันที่ 4 ก.ย.2565 จากการติดตามสถานการณ์น้ำและการแจ้งเตือนสภาพอากาศช่วงต้นเดือนกันยายน อย่างใกล้ชิด ล่าสุด พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ได้สั่งการให้ทุกหน่วยทหารของกองทัพบก ได้ประสานกับทุกภาคส่วน เร่งปฏิบัติตามบัญชาของ รมว.กลาโหม ที่ให้เตรียมการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมจากภาวะฝนตกหนักต่อเนื่อง น้ำหลากและเตรียมการรับมวลน้ำเหนือที่กำลังไหลลงสู่พื้นที่ภาคกลาง ลุ่มเจ้าพระยาโดยด่วน  เพื่อให้ทันต่อการป้องกันอุทกภัยและลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับประชาชน โดยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพมหานครซึ่งมีคู คลองและมีผักตบชวาจำนวนมาก อาจเป็นอุปสรรคและทำให้ประสิทธิภาพการระบายน้ำของคูคลองลดลง จะส่งผลให้เกิดปัญหาน้ำท่วมในแต่ละพื้นที่ได้

โดยขณะนี้ ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพบก ได้อำนวยการและขับเคลื่อนตามนโยบายเร่งด่วนดังกล่าว โดยมอบให้กองทัพภาคที่ 1 และหน่วยทหารที่รับผิดชอบพื้นที่บริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยา ประสานการปฏิบัติกับทุกหน่วยงานในจังหวัดเสี่ยงและ กทม.  ที่มีเรือเก็บขยะวัชพืชทางน้ำขนาดใหญ่ โดยกองทัพบกจะส่งกำลังพลและยุทโธปกรณ์ทางการช่างเข้าร่วมสนับสนุน เพื่อปฏิบัติการเก็บผักตบชวาเก็บวัชพืช เศษขยะในแม่น้ำ ลำคลองสายหลักในพื้นที่กทม., ปริมณฑล และจังหวัดริมเจ้าพระยา เพื่อทำให้แม่น้ำ ลำคลองสาขาต่างๆสามารถรองรับปริมาณน้ำจำนวนมากและเปิดทางไหลของน้ำในแม่น้ำให้สะดวกรวดเร็ว สอดคล้องกับปริมาณน้ำที่จะเพิ่มขึ้นในช่วงฤดูฝนนี้ 

‘บิ๊กป้อม’ ฟิตจัด วางคิวตจว.ทุกวันจันทร์ ตลอดเดือน ก.ย. ‘กระบี่-ตาก-นราธิวาส’ ดูบริหารจัดการน้ำ-ที่ดินทำกิน

4 ก.ย. 2565 – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เพจเฟซบุ๊ก ‘พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี General Prawit Wongsuwon’ที่ระบุ FC ทำขึ้น ได้โพสต์ข้อความว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะรักษาการนายกรัฐมนตรี มีการวางกำหนดการลงพื้นที่ตรวจราชการต่างจังหวัดทุกวันจันทร์ตลอดทั้งเดือน ก.ย. 2565
.
โดยในวันที่ 5 ก.ย. มีกำหนดการลงพื้นที่จ.กระบี่ วันที่ 12 ก.ย.ลงพื้นที่จ.ตาก และวันที่ 19 ก.ย.ลงพื้นที่จ.นราธิวาส ซึ่งการลงพื้นที่ดังกล่าวถือเป็นการลงพื้นที่เพื่อปฏิบัติภารกิจทั้งในฐานะรองนายกฯ และรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรีควบคู่ไปด้วย ทั้งในส่วนงานที่รับผิดชอบเรื่องปัญหาแรงงาน, ปัญหาเกษตรกรชาวสวนปาล์ม การบริหารจัดการน้ำ การบริหารจัดการที่ดิน, การแก้ปัญหาด้านที่ดินทำกินให้เกษตรกรและคนยากจน การคืนโฉนดอนุญาตทำประโยชน์ ส.ป.ก.4-01 เป็นต้น

แฉ 'ลุงวี' ขอทานหลังโก่ง เป็นคนกัมพูชาหนีเข้าเมือง เคยโดนจับมาแล้ว ทำงานเป็นทีม รายได้อู้ฟู้เดือนเป็นแสน แถมพาเด็ก 10 เดือนขอทานด้วย เตรียมส่งกลับประเทศ

4 กันยายน 2565 หลังจากโลกออนไลน์แชร์คลิปวิดีโอ ชายหลังโก่งตระเวนขอทานในตลาดวัดศรีอมตะนคร อ.พานทอง จ.ชลบุรี สภาพร่างกายดูน่าสงสารเพราะหลังโก่ง เวลาเดินหัวจะพับมาถึงขา ซึ่งมีผู้แชร์จำนวนมาก ต่อมาเพจ กัน จอมพลัง ได้โพสต์ข้อความด้วยว่า ได้ประสานกับ พม.จ.ชลบุรี เข้าไปช่วยเหลือชายคนดังกล่าว ทราบว่า ชื่อลุงวี และมีการนำสิ่งของเข้าไปช่วยเหลือ 

จากนั้น เพจ กัน จอมพลัง โพสต์ข้อความเพิ่มเติมว่า "ไอ้ลุงวี สรุปผมถูกหลอก ลุงวี หลังโก่ง คือ แก๊งขอทานข้ามชาติ ที่หนีเข้าประเทศไทยตามตะเข็บชายแดน เคยถูกส่งกลับมา 3 ครั้ง มีรายได้เดือนนึงกว่า 100,000 บาท ในแก๊งมีหลายคนมีพฤติกรรมเข้าข่ายค้ามนุษย์มี การเอาเด็กอายุ 10 เดือนมานั่งขอทานด้วยเรื่องนี้แดงขึ้นมาเพราะผมประสานพัฒนาสังคมเข้าไปช่วยเหลือ แต่เค้าจำได้ว่าเคยส่งแก๊งนี้กลับประเทศหลายครั้ง และด้วยความที่เวรกรรมติดจรวด หลังจากเอาความน่าสงสารมาหลอกผมน้องเอกบางแสน และคนไทยผู้ใจดี ตอนนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าควบคุมตัวแก๊งที่ทุกคน และพาไปควบคุมตัวไว้ที่ ตม. ตอนนี้ผมรู้สึกอิหยังวะ ช่วยคนมาเยอะสุดท้ายตกเป็นเหยื่อเพราะความใจดีของตัวเอง"

“วรวัจน์”ปิ๊งไอเดีย ‘ข้าวหลามตามสั่ง’ จับมือเชฟดัง จัดแข่งแปรรูปอาหารไทยใส่กระบอกข้าวหลามสร้างรายได้ปชช.

เมื่อวันที่ 3 กันยายน นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล คณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรคเพื่อไทย และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าวว่า ตน ร่วมกับนายชุมพล แจ้งไพร เชฟมิชลินสตาร์ 2 ดาว คิดพัฒนาแปรรูปอาหารไทยโดยเฉพาะอาหารสตรีทฟู๊ดให้ออกมาในรูปแบบของข้าวหลามกระบอกเล็กๆ เพราะทำให้สามารถพกพาง่าย นำขึ้นเครื่องบินได้ง่าย ติดตัวเดินทางได้สะดวก และสามารถนำมาอุ่นรับประทานได้ทุกที่ ทุกเวลา ซึ่งการคิดพัฒนาแปรรูปอาหารไทยครั้งนี้สืบเนื่องจากการสำรวจความต้องการของตลาดทั้งไทย และต่างประเทศ พบว่าปัจจุบันประชากรที่อาศัยอยู่ในเมืองใหญ่ทั่วโลกจำนวนมากอาศัยอยู่บนอาคาร ตึกแถว และคอนโดมิเนียมที่มีกฏห้ามใช้เตาแก๊สในการประกอบอาหาร หรือที่อยู่อาศัยไม่เอื้ออำนวยต่อทำอาหารที่มีกลิ่นรับประทาน ทำให้เกิดความต้องการอาหารสำเร็จรูปอย่างมาก ซึ่งตนเห็นว่า นี่เป็นทางหนึ่งในการเพิ่มรายได้ และเพิ่มช่องทางในการทำเงินให้กับพี่น้องประชาชน นอกจากนี้ เรามีแนวคิดที่จะใช้นวัตกรรม “ไนโตรเฟรช” ซึ่งเป็นการใช้ไนโตรเจนเหลวคงความสดใหม่ของอาหารให้อร่อยเหมือนเพิ่งปรุงเสร็จใหม่ และเก็บได้ยาวนานกว่า 2 ปี เข้ามาแก้ปัญหาเรื่องการเก็บรักษาอาหาร เพื่อให้ประชาชนสามารถนำข้าวหลามไนโตรเฟรชส่งออกไปขายทั่วโลกได้ในอนาคตด้วย

'หมอเหรียญทอง' เปิดวิธีการตบทรัพย์ 'เกรียนคีย์บอร์ด' อย่างถูกต้องตามกฎหมาย หารายได้พิเศษแบบ ‘งานอดิเรกลาภ’

4 ก.ย.2565 – พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กว่า

“การตบทรัพย์พวกเกรียนคีย์บอร์ดอย่างถูกต้องตามกฎหมาย” คือ ‘งานอดิเรกลาภ’ สำหรับผู้ที่มีความประสงค์ต้องการหารายได้จากผู้แชร์เฟคนิวส์หรือหมิ่นประมาท พลตรี เหรียญทอง แน่นหนา มีขั้นตอนและวิธีการปฏิบัติดังนี้

1] ขอให้ท่านเลือกเฉพาะคนที่ปรากฎชื่อ-นามสกุล มีตัวตนชัดเจน พวกอวตารอย่าไปเสียเวลา

2] จากนั้นดูโปรไฟล์ หากเป็นคนที่มีการงาน มีการศึกษา มีอนาคต คนกลุ่มนี้จะสามารถจ่ายเงินเจรจายอมความ ยิ่งถ้ามีวิชาชีพ มีตำแหน่งหน้าที่ราชการ หรือเป็นเจ้าของกิจการด้วยแล้ว ยิ่งดี เพราะจะเจรจายอมความด้วยเงินจำนวนมาก ทีมงานของผมเคยกดหมอ 2 คนจนได้รับเงินเจรจายอมความมากถึง 50,000 บาทต่อคน จากกรณีแพทย์หมิ่นประมาทผม

3] เมื่อดำเนินการตามข้อ 1] และ 2] แล้ว ผมขอให้ท่านไปศึกษาข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความผิด พ.ร.บ.คอมฯ ว่าบุคคลที่ท่านจะดำเนินการนั้นเข้าข่ายมาตราใดเสียก่อน จากนั้นค่อยดูต่อว่าเข้าข่ายหมิ่นประมาทอีกหรือไม่ หากเข้าข่ายแค่ พ.ร.บ.คอมฯ จากแชร์เฟคนิวส์ ก็ดำเนินการแค่นั้น (แค่นี้ก็หนักหนาต้องติดคุกแล้ว) การที่ผมขอให้ท่านศึกษาข้อกฎหมายจะทำให้ท่านมีความเข้าใจเป็นพื้นฐาน ท่านสามารถศึกษาได้จากกูเกิ้ล ไม่ต้องถึงกับเรียนนิติศาสตร์กันจนจบหรอกครับ หากินง่ายๆอย่างนี้แหละ ลูกน้องผมคนหนึ่งเลิกรับจ้างทวงหนี้ เปลี่ยนมาหารายได้พิเศษจากการไล่ล่าอย่างนี้ดีกว่า ทั้งยังถูกต้องตามกฎหมายด้วย

4] เมื่อชัดเจนตามข้อ 1] 2] และ 3] แล้วให้ติดต่อ 02-574-5000 ต่อ 8800 สนง.ผอ.รพ.มงกุฎวัฒนะ

5] ทีมงานของผมจะตรวจสอบความสมบูรณ์ถูกต้องแล้วจะแจ้งให้ทราบภายใน 7 วัน

6] หากตรวจสอบแล้วอยู่ในหลักเกณฑ์แจ้งความดำเนินคดีได้ ทีมงานของผมจะส่ง’หนังสือมอบอำนาจ’ ไปให้ท่านทางไปรษณีย์ โดยทีมงานของผมจะระบุวิธีการปฏิบัติ เช่น ให้ใช้การแจ้งความกับ ตร.ที่ สน. หรือหากท่านเป็นทนายความเองก็ให้ฟ้องศาล เป็นต้น ทั้งนี้ทีมงานของผมจะระบุรายละเอียดอื่นๆให้ท่านสามารถปฏิบัติได้

7] เมื่อท่านได้รับ’หนังสือมอบอำนาจ’ จากผมแล้ว ท่านก็ดำเนินการตามข้อ 6]

8] เมื่อตำรวจมีหมายถึงผู้ต้องหาแล้ว หากผู้ต้องหาไม่ไกล่เกลี่ย ก็จะส่งอัยการ ดังนั้นการไกล่เกลี่ยในขั้นตอนนี้ ท่านสามารถรับการเจรจายอมความ อัตราเงินที่ส่วนใหญ่จะยอมไม่ต่ำกว่า 5,000-6,000 บาท หากเลยชั้นตำรวจไปยังอัยการกอัตราเงินยอมความก็จะสูงขึ้น 7,000-8,000 บาท และเมื่อส่งตัวฟ้องศาล ซึ่งผู้ต้องหาหรือ/จำเลยจะต้องประกันตัวโดยใช้เงินมากถึง 10,000 บาท เมื่อถึงขั้นตอนนี้จำเลยก็มักจะยอมจ่ายเงิน 8,000-9,000 บาท เพื่อยอมความ เพราะดีกว่าต้องเสียเงินประกันตัวศาล 10,000 บาทแถมยังต้องจ้างทนายความสู้คดีในชั้นศาลอีก ยังไม่นับรวมหากศาลพิพากษาจำคุกก็ยิ่งลากยาวไปอีกนาน

9] เงินที่ผู้ต้องหาหรือจำเลยเจรจายอมความ ให้ท่านรับไปทั้งหมด ไม่ต้องเสียภาษีเงินได้ประจำปี

10] ในกรณีที่ท่านเป็นทนายความและต้องการฟ้องตรง ก็ขอให้ดำเนินการตามข้อ 2] ให้เลือกรายที่มีฐานะดีๆ ท่านจะได้ลาภลอยครับ

ท่ามกลางวิกฤติราคาพลังงานที่แผ่ขยายไปทั้่วโลก หลากหลายมาตรการถูกงัดมาใช้รับมืออย่างเต็มที่ ประเทศไหนทำอะไรบ้าง ไปดูกัน

จากสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน ตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา ทางสหภาพยุโรปได้ประกาศคว่ำบาตรรัสเซีย ขณะที่รัสเซียได้ตอบโต้โดยการไม่ส่งก๊าซธรรรมชาติและน้ำมันไปให้ในหลายประเทศยุโรป ส่งผลให้เกิดวิกฤติพลังงานในยุโรปและส่งผลกระทบไปทั่วโลกในขณะนี้ 

แม้กระทั่งประเทศในภูมิภาคเอเชีย ต่างก็เผชิญกับความท้าทายจากวิกฤติการณ์พลังงานครั้งร้ายแรงที่สุดในรอบหลายสิบปี ในบางประเทศราคาพลังงานพุ่งสูงเป็นประวัติการ รวมถึงขาดแคลนพลังงาน โดยเฉพาะน้ำมันอย่างหนัก ยกตัวอย่าง เช่น ศรีลังกา เป็นต้น

แน่นอนว่า วิกฤติราคาพลังงานที่พุ่งสูงขึ้น เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ หลายๆ ประเทศ จึงมีมาตรการประหยัดพลังงานออกมาช่วยบรรเทาสถานการณ์ที่เกิดขึ้น

ไทย – รณรงค์ประหยัดพลังงานผ่านแนวทาง 4ป. 3ช.

สำหรับประเทศไทยเอง มีมาตรการด้านการประหยัดพลังงานออกมาอย่างต่อเนื่อง อาทิ การกำหนดมาตรฐานเครื่องใช้ไฟฟ้า เบอร์ 5 

ล่าสุด ภายใต้แคมเปญ 'ทราบแล้วเปลี่ยน' เป็นการรณรงค์ให้ทุกคนประหยัดพลังงาน ผ่านภาพยนตร์โฆษณาที่สื่อสารออกมาตรงๆ เลยว่า “ไม่ต้องประหยัดพลังงานเพื่อใคร ให้ประหยัดพลังงานเพื่อตนเอง” 

โดยแนะนำเคล็ดลับประหยัดพลังงานที่เรียกว่า 4 ป. 3 ช. ซึ่งเป็นการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้พลังงานที่ทุกคนสามารถทำตามได้ง่ายๆ แต่จะช่วยประหยัดพลังงานได้อย่างมหาศาล ดังนี้...

>> 4 ป. ได้แก่ ปิดไฟ ปรับแอร์ ปลดปลั๊ก เปลี่ยนเป็นเบอร์ 5 
>> และ 3 ช. ได้แก่ เช็กรถ ชัวร์เส้นทาง ใช้รถสาธารณะ

แคนาดา-จัดเก็บภาษีรถยนต์ที่ไม่ประหยัดพลังงาน

รัฐบาลแคนาดา ได้จัดทำข้อตกลงระหว่างรัฐต่าง ๆ ให้ออกมาตรการประหยัดพลังงานของอาคาร และอุปกรณ์พลังงานต่าง ๆ เพื่อสนับสนุนเป้าหมายการอนุรักษ์พลังงานของประเทศ 

ขณะที่ในภาคขนส่งได้ออกกฎหมาย (Green Lavy) เพื่อจัดเก็บภาษีรถยนต์ที่ไม่ประหยัดพลังงาน เช่น รถประเภท Station Wagons รถเอสยูวี เป็นต้น โดยการคำนวณภาษีจะขึ้นอยู่กับอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันของรถดังกล่าว

ฝรั่งเศส-ห้ามเปิดไฟป้ายโฆษณาช่วงตี 1 ถึง 6 โมงเช้า

เนื่องจากฝรั่งเศสพึ่งพาก๊าซจากรัสเซียถึง 1 ใน 5 ดังนั้นเมื่อช่วงกลางเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา รัฐบาลได้ประกาศแผนพลังงาน energy sobriety โดยอยู่ระหว่างการดำเนินการร่างแผนงานที่เกี่ยวข้องเพื่อผลักดันให้เกิดมาตรการประหยัดพลังงานในฝรั่งเศส โดยตั้งเป้าหมายลดการใช้พลังงานลงร้อยละ 10 เมื่อเทียบกับปี 2019 ภายในปี 2024

นอกจากนี้ รัฐบาลยังออกมาตรการประหยัดพลังงานโดยให้ห้างร้านต่างๆ ร่วมมือกันปิดประตูเข้าออก ในขณะเปิดเครื่องปรับอากาศและเครื่องทำความร้อน และห้ามเปิดใช้ป้ายโฆษณาที่ใช้ไฟส่องสว่างในทุกเมืองระหว่างช่วงเวลา 1.00 น. ถึง 6.00 น. ซึ่งเป็นมาตรการที่บังคับใช้กับเมืองที่มีประชากรน้อยกว่า 800,000 คน 

เยอรมนี-อาคารสาธารณะ ห้ามเปิดฮีตเตอร์เกิน 19 องศา

ภายหลังสหภาพยุโรปคว่ำบาตรรัสเซีย ทำให้เยอรมนีปรับลดการนำเข้าก๊าซจากรัสเซียลงเหลือเพียง 35% จากเดิมที่พึ่งพาการนำเข้ามากถึง 55% พร้อมทั้งให้คำมั่นว่าจะยุติการนำเข้าทั้งหมด แน่นอนว่า ย่อมส่งผลกระทบต่อพลังงานภายในประเทศอย่างหนัก และรัฐบาลได้ออกมาตรการประหยัดพลังงานสำหรับช่วงฤดูหนาว โดยจะจำกัดการใช้ไฟฟ้าภายในอาคารสาธารณะและอาคารสำนักงานต่างๆ ให้ปิดเครื่องทำความร้อนในห้องที่ไม่คนใช้งาน 

และนับตั้งแต่เดือนกันยายนเป็นต้นไป อาคารสาธารณะนอกเหนือจากโรงพยาบาล จะต้องจำกัดอุณหภูมิเครื่องทำความร้อนอยู่ที่ 19 องศาเซลเซียส

สเปน-แนะเอกชนเลิกผูกเนกไทไปทำงาน ช่วยประหยัดพลังงาน 

นายเปโดร ซานเชซ นายกรัฐมนตรีของประเทศสเปน เรียกร้องให้รัฐมนตรี เจ้าหน้าที่ของรัฐ และพนักงานบริษัทเอกชนเลิกผูกเนกไทไปทำงานเพื่อช่วยประหยัดพลังงาน รวมถึงการรณรงค์ให้บริษัทต่าง ๆ ปิดประตูเพื่อกันความร้อนจากอากาศด้านนอกเข้ามาภายในอาคาร ช่วยลดการทำงานของเครื่องปรับอากาศ

อินเดีย-สิ่งปลูกสร้างใหม่ ต้องเป็นไปตามข้อกำหนดด้านประสิทธิภาพการใช้พลังงาน
.
รัฐบาลอินเดีย ได้ออกมาตรการสำหรับการปลูกสร้างอาคารที่พักอาศัยใหม่ โดยจะกำหนดให้ อาคารที่พักอาศัยปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านประสิทธิภาพการใช้พลังงาน ซึ่งคาดว่าจะประหยัดไฟฟฟ้าได้ราว 120,000 ล้านรูปี ภายในยปี 2573 เพื่อลดการผลิตไฟฟ้า 3 แสนล้านหน่วย

‘สันติธาร เสถียรไทย’ โพสต์ 3 ข้อคิดความต่างระหว่างเจน ชี้ ความแตกต่างระหว่างวัยมีมากกว่าที่คิด ต้องฝึกฝนความเข้าใจคนต่างรุ่น เพื่อไม่ให้เกิดความขัดแย้ง

สืบเนื่องจากกรณีประเด็นดราม่าที่เกิดขึ้น ภายหลังจาก ‘หนุ่ย - พงศ์สุข หิรัญพฤกษ์’ พิธีกรด้านไอทีชื่อดัง ได้โพสต์ข้อความเฟซบุ๊กถึงพฤติกรรมของนักศึกษาฝึกงานในบริษัท พร้อมติดแฮชแท็ก #ฝึกงานแบไต๋ ว่ามีน้องสองคนที่มาฝึกงานไม่ทักทาย ไม่มีปฏิสัมพันธ์กับใครในบริษัทตลอด 3 เดือน แม้จะทำงานที่ได้รับมอบหมายได้ดี แต่ดูเหมือนตั้งใจจะไม่สื่อสาร และไม่ใส่ใจกับคนอื่น จนประเด็นดังกล่าวถูกแชร์ต่อ และมี ดราม่า ถกเถียงในโลกออนไลน์ สุดท้าย ทำให้สุดท้าย หนุ่ย พงศ์สุข ต้องออกมาขอโทษ ที่ทำการสื่อสารเรื่องราวนี้อย่างไม่สมควรด้วยประการทั้งปวง

ล่าสุด นายสันติธาร เสถียรไทย กรรมการผู้จัดการใหญ่ Sea Grou บุตรชาย นายสุรเกียรติ์ เสถียรไทย อดีตนักการเมืองชื่อดัง โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ‘สันติธาร เสถียรไทย – Dr Santitarn Sathirathai’ เรื่องความต่างระหว่างรุ่น (Gen-เจน) โดยได้เสนอ 3 ข้อคิดที่น่าสนใจว่า..

3 ข้อคิดเรื่องความต่างระหว่างรุ่น (Gen)

เมื่อปีก่อนผมได้มีโอกาสได้ทำงานกลุ่มศึกษาเรื่องความขัดแย้งระหว่างรุ่นในประเทศไทย โดยโปรเจ็คนี้เป็นการบ้านสำหรับโปรแกรมที่ผมเข้าไปเรียนชื่อ Rule of Law for Development (RoLD) จัดโดยสถาบันเพื่อการยุติธรรมประเทศไทย (TIJ)

การศึกษาครั้งนั้นทำให้ผมได้เปิดหูเปิดตาหลายประเด็นที่ไม่เคยรู้มาก่อนและคิดว่าอาจจะพอมีประโยชน์สำหรับการเข้าใจความต่างระหว่างรุ่นที่มีการพูดคุยกันในสังคมช่วงนี้ จึงอยากหยิบข้อคิดบางส่วนที่ได้มาแชร์ตรงนี้ 3 ข้อ

1.ความขัดแย้งระหว่างรุ่นไม่ได้มีแต่ในเรื่องการเมืองเท่านั้น

ในช่วงปีก่อนพอมีคนรู้ว่าทำการศึกษาเรื่องขัดแย้งระหว่างรุ่นบางคนจะถามทันทีว่า “ทำไมถึงคิดว่าความขัดแย้งทางการเมืองถึงเป็นเรื่องระหว่างรุ่น มันอาจจะเป็นเรื่องความต่างอื่นๆไม่เกี่ยวกับรุ่นก็ได้” ซึ่งสะท้อนแนวคิดของคนช่วงนั้นว่าหัวข้อเรื่องระหว่างรุ่นนั้นต้องเกี่ยวกับมิติการเมืองแน่ ๆ แต่เราพบว่ามันเป็นคนละเรื่องกัน เรื่องการเมืองอาจไม่เกี่ยวกับรุ่นเลยและเรื่องช่องว่างระหว่างรุ่นก็อาจไม่เกี่ยวกับการเมืองเลยเช่นกัน หรือพูดอีกอย่างก็คือต่อให้ไม่มีเรื่องการเมืองเลยความแตกต่างระหว่างรุ่นก็มีพอที่ในบางครั้งบางโอกาสอาจทำให้เกิดความเข้าใจผิด ขัดแย้งขึ้นได้ในองค์กรต่างๆ หรือในสังคม

กลุ่มเราศึกษาจึงเจาะเรื่องความต่างระหว่างรุ่นที่ไม่ได้เกี่ยวกับประเด็นทางการเมือง (ไม่งั้นกลัวยาวเรียนไม่จบ)

‘อนุชา’ เผย ก่อสร้างรถไฟฟ้า 3 สาย คืบ “สายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง -สายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี เล็งทดสอบเดินรถ ต.ค.นี้ ก่อนเปิดใช้ปี 66 

เมื่อวันที่ 4 ก.ย.ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความคืบหน้าการก่อสร้างรถไฟฟ้า 3 สาย ในกทม.และปริมณฑล ว่า โครงการรถไฟฟ้ารางเดี่ยว (โมโนเรล) สายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว - สำโรง ดำเนินงาน งานโยธา 94.99% งานระบบรถไฟฟ้า M&E มีความก้าวหน้า 93.99% ความก้าวหน้าโดยรวม 94.56% ส่วนโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย - มีนบุรี ดำเนินงาน งานโยธา 91.74% งานระบบรถไฟฟ้า M&E มีความก้าวหน้า 89.39% ความก้าวหน้าโดยรวม 90.55% 

โดยทั้งสองมีแผนสำหรับการทดสอบเดินรถเสมือนจริง ภายในเดือน ต.ค.นี้ ก่อนจะเปิดให้บริการเต็มรูปแบบทั้งสองเส้นทางในปี 2566  ขณะที่โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย – มีนบุรี (สุวินทวงศ์) มีความก้าวหน้าผลการดำเนินงาน 95.94% เร็วกว่าแผน 0.24%


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top