Friday, 9 May 2025
LITE TEAM

States TOON EP.19

‘สงครามโควิด’ น่ากลัวน้อยกว่า ‘สงครามการเมือง’

วันนี้เมื่อกว่า 104 ปีมาแล้ว เป็นวันที่พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ทรงตัดสินพระราชหฤทัย นำประเทศไทยเข้าร่วมในสงครามโลกครั้งที่ 1

สงครามโลกครั้งที่ 1 เกิดขึ้นในช่วงระหว่างปี พ.ศ. 2457-2461 โดยเป็นความขัดแย้งระหว่าง ฝ่ายสัมพันธมิตร ซึ่งมีประเทศอังกฤษ ฝรั่งเศส และรัสเซีย เป็นผู้นำ กับฝ่ายมหาอำนาจกลาง ซึ่งมีเยอรมนี และออสเตรีย-ฮังการี เป็นผู้นำ ในเหตุการณ์ครั้งนั้น ประเทศสยาม ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ดำเนินนโยบายรักษาความเป็นกลางอย่างเคร่งครัด

กระทั่งในปี พ.ศ. 2460 พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเห็นว่าฝ่ายมหาอำนาจกลางได้ละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ และปราศจากมนุษยธรรม ส่งผลให้เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2460 พระองค์ทรงตัดสินพระราชหฤทัยประกาศสงครามต่อฝ่ายมหาอำนาจกลาง และเข้าร่วมกับฝ่ายสัมพันธมิตร พร้อมทั้งส่งกองทหารอาสาไปร่วมรบ ณ สมรภูมิทวีปยุโรป

ภายหลังสงครามโลกครั้งที่ 1 สิ้นสุดลง เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2461 โดยฝ่ายสัมพันธมิตรได้รับชัยชนะ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชดำริให้สร้างถาวรวัตถุ เพื่อเป็นอนุสรณ์ถึงเหตุการณ์ดังกล่าว 

เป็นที่มาของการโปรดเกล้าฯ ให้สร้างวงเวียน ที่เป็นอนุสรณ์สถานแห่งแรกของประเทศไทยขึ้น โดยทำการสร้างบริเวณถนน 3 สาย (ปัจจุบันคือ ถนนไมตรีจิตต์ ถนนมิตรพันธ์ และถนนสันติภาพ) ซึ่งอยู่ในท้องที่อำเภอป้อมปราบศัตรูพ่าย ต่อมาได้พระราชทานนามวงเวียนว่า ’22 กรกฎาคม’

ปัจจุบัน วงเวียน 22 กรกฎาคม กลายเป็นแหล่งการค้าของกรุงเทพมหานครชั้นใน ทั้งนี้ที่บริเวณวงเวียน ยังปรากฎป้ายหินที่จารึกเป็นภาษาไทยและภาษาจีน มีใจความว่า...

อนุสรณ์แห่งนี้เป็นวงเวียนแห่งแรกของประเทศไทย สร้างเพื่อให้ประชาชนชาวไทยได้น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ผู้ทรงนำประเทศไทยเข้าสู่สงครามโลกครั้งที่ 1 ร่วมกับฝ่ายสัมพันธมิตร เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2460 ก่อนจะได้รับชัยชนะในเวลาต่อมา
.
ที่มา : https://th.wikipedia.org/wiki/วงเวียน_22_กรกฎาคม


โปรเด็ด! ถึง 31 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES 
คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

วันนี้เมื่อในอดีต ถือเป็นวันสำคัญในประวัติศาสตร์ชาติไทย เมื่อพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย พระมหากษัตริย์องค์ที่ 2 แห่งราชวงศ์จักรี เสด็จสวรรคต

พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย มีพระนามเดิมว่า ฉิม พระราชสมภพเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2310 เป็นพระราชโอรสพระองค์ที่ 4 ในพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ประสูติแต่ท่านผู้หญิงนาค (ภายหลังเฉลิมพระนามเป็นสมเด็จพระอมรินทราบรมราชินี) 

พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ทรงเสวยราชสมบัติเมื่อปี พ.ศ. 2352 ขณะมีพระชนมพรรษาได้ 42 พรรษา ตลอดรัชสมัยของพระองค์ ได้รับการยกย่องว่า เป็นยุคทองของวรรณคดี พระองค์ทรงพระราชนิพนธ์ผลงานด้านบทกลอนไว้มากมาย อาทิ รามเกียรติ์ อุณรุท อิเหนา ฯลฯ นอกจากนี้ยังมีบทละครนอกที่มีชื่อเสียงมาจนถึงทุกวันนี้ อาทิ ไกรทอง สังข์ทอง ไชยเชษฐ์ หลวิชัยคาวี ฯลฯ

พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ยังทรงมีพระปรีชาสามารถด้านดนตรี ทรงถนัดและโปรดปรานเครื่องดนตรีประเภทซอสามสาย โดยมีบทเพลงพระราชนิพนธ์ที่เป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดีคือ เพลงบุหลันลอยเลื่อน ซึ่งปัจจุบันยังเป็นเพลงที่ถูกนำมาบรรเลงและถ่ายทอดให้คนรุ่นหลังได้รู้จักอยู่เสมอ

ราวปี พ.ศ. 2367 พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ทรงพระประชวรด้วยโรคพิษไข้ เป็นเหตุให้ทรงไม่รู้สึกพระองค์เป็นเวลากว่า 8 วัน ต่อมาพระอาการประชวรได้ทรุดลงตามลำดับ และเสด็จสวรรคตเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2367 สิริพระชนมพรรษาได้ 56 พรรษา และครองราชย์สมบัติเป็นเวลา 15 ปี 


ที่มา : https://th.wikipedia.org/wiki/พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย


โปรเด็ด! ถึง 31 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES 
คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

วันนี้เมื่อ 52 ปีก่อน ถือเป็นอีกหนึ่งวันที่ต้องถูกบันทึกไว้ในหน้าประวัติศาสตร์ของโลก เมื่อยานอวกาศที่ชื่อ ‘อพอลโล 11’ ขององค์การนาซ่า สามารถทำการลงจอดบนพื้นผิวของดวงจันทร์ได้สำเร็จเป็นครั้งแรกของโลก

ยานอวกาศอพอลโล 11 เป็นยานอวกาศที่ถูกส่งขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศโดยจรวดแซทเทิร์น 5 ที่ฐานยิงจรวดแหลมเคเนดี้ มลรัฐฟลอริดา ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ.2512 กระทั่งอีก 4 วันต่อมา หรือเมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ.2512 ก็สามารถนำยานลงจอดได้ ณ บริเวณที่เรียกว่า ‘ทะเลแห่งความสงบ’ (Mare Tranquilitatis) บนดวงจันทร์

โดย นีล อาร์มสตรอง ผู้บังคับการของยานอวกาศ เป็นผู้ก้าวเท้าลงสัมผัสพื้นผิวของดวงจันทร์ ได้เป็นคนแรกในประวัติศาสตร์โลก ก่อนจะตามมาด้วย เอดวิน อัลดริน และ ไมเคิล คอลลินส์ สองนักบินอวกาศที่โดยสารมาด้วยกัน

ภารกิจของทั้งสามนักบินในครั้งนั้น คือการติดตั้งเครื่องวัดแผ่นดินไหว และเครื่องวัดลมสุริยะ รวมทั้งเก็บตัวอย่างหิน-ดินปริมาณราว ๆ 20.8 กิโลกรัม นำกลับไปยังโลก รวมเวลาอยู่บนดวงจันทร์ทั้งสิ้น 21 ชั่วโมง 36 นาที และใช้เวลานับตั้งแต่ออกเดินทางจนกลับถึงโลก 195 ชั่วโมง 18 นาที 35 วินาที โดยทั้งหมดกลับถึงโลกเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ.2512

ในเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ดังกล่าว มีผู้คนราว 530 ล้านคนทั่วโลก ที่เฝ้ารับชมการถ่ายทอดสด พร้อมกับการจดจำประโยคสำคัญที่ นีล อาร์มสตรอง ได้เอ่ยขึ้นในช่วงเวลาที่สัมผัสกับพื้นผิวดวงจันทร์เป็นครั้งแรกว่า ‘นี่เป็นก้าวเล็ก ๆ ของมนุษย์คนหนึ่ง แต่เป็นก้าวที่ยิ่งใหญ่ของมนุษยชาติ’

ปัจจุบันวิวัฒนาการของโลกก้าวล้ำไปอย่างมาก มีการวางแผนสร้างสถานีอวกาศ เพื่อเดินทางออกไปยังส่วนอื่น ๆ ของระบบสุริยะอีกมากมาย แต่ถึงอย่างนั้น ‘ก้าวแรก’ ของการเหยียบดวงจันทร์ ก็ยังเป็นช่วงเวลาที่น่าจดจำสำหรับมนุษยชาติอยู่เสมอ


ที่มา: https://th.wikipedia.org/wiki/อะพอลโล_11


โปรเด็ด! ถึง 31 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES 
คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

วันนี้เมื่อกว่า 72 ปีก่อน ถือเป็นวันสำคัญในประวัติศาสตร์ของชาติ โดยเป็นวันที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช (พระอิสริยยศ ณ ขณะนั้น) ทรงประกอบพระราชพิธีหมั้นกับ ม.ร.ว.สิริกิติ์ กิติยากร (พระอิสริยยศ ณ ขณะนั้น) ณ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์

จุดเริ่มต้นของการสืบสานความผูกพันของทั้งสองพระองค์ เกิดขึ้นในช่วงปี พ.ศ. 2491 เมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ได้เสด็จจากเมืองโลซานน์ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ มายังกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส โดยการเสด็จครั้งนั้น มีหม่อมเจ้านักขัตรมงคล กิติยากร ในฐานะเอกอัครราชทูต ให้การเฝ้ารับเสด็จฯ พร้อมด้วยครอบครัว

ทั้งนี้ หนึ่งในสมาชิกของครอบครัวที่ให้การเฝ้ารับเสด็จฯ ในครั้งนั้น มีหม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ กิติยากร ซึ่งเป็นบุตรีของหม่อมเจ้านักขัตรมงคล เข้าร่วมเฝ้ารับเสด็จฯ ด้วย จึงเป็นที่มาของการที่ทั้งสองพระองค์ทรงได้พบกันเป็นครั้งแรก

ต่อมา เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2491 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ทรงประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ หม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ได้เข้าเฝ้าฯ เยี่ยมพระอาการ และถวายการพยาบาลอย่างใกล้ชิดเป็นประจำ จึงกลายเป็นความรักความเข้าพระราชหฤทัยซึ่งกันและกัน และสืบสานความผูกพันมากขึ้นเป็นลำดับ

ราวเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2492 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ได้มีรับสั่งให้หม่อมเจ้านักขัตรมงคลไปเฝ้าที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ก่อนที่ในวันที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2492 พระองค์จะเสด็จไปพบหม่อมเจ้านักขัตรมงคล ที่โรงแรมที่พัก และทรงมีรับสั่งถึงเรื่องการหมั้น 

จากนั้นเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2492 จึงได้มีการประกอบพระราชพิธีหมั้นเป็นการภายใน ณ โรงแรมวินเซอร์ เมืองโลซานน์ อันเป็นที่พักของหม่อมเจ้านักขัตรมงคลและครอบครัว โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ทรงสวมพระธำมรงค์เป็นของหมั้นต่อหม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ ซึ่งพระธำมรงค์วงนี้ เป็นวงเดียวกับที่สมเด็จพระบรมราชชนกทรงมอบต่อสมเด็จพระบรมราชชนนี ในพระราชพิธีหมั้น เมื่อปี พ.ศ. 2462 

ต่อมา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ทรงโปรดเกล้าฯ ให้ราชเลขานุการประจำพระองค์ ทำหนังสือแจ้งข่าวที่ทรงหมั้นมายังรัฐบาลไทย ซึ่งมี จอมพล ป. พิบูลสงคราม เป็นนายกรัฐมนตรีในเวลานั้น รัฐบาลได้แจ้งประกาศข่าวอันเป็นมงคลนี้ให้พสกนิกรทราบ ยังความปลื้มปีติยินดีแก่เหล่าประชาชนชาวไทยถ้วนทั่วหน้ากัน


ที่มา : https://www.komchadluek.net/news/today-in-history/380155, https://th.wikipedia.org/wiki/พระราชพิธีราชาภิเษกสมรส_พุทธศักราช_2493

ย้อนรำลึก 26 ปี วันสวรรคตสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี หรือ สมเด็จย่า ที่โรงพยาบาลศิริราช ด้วยโรคพระวักกะ (ไต)

สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี หรือที่ประชาชนนิยมเรียกกันว่า ‘สมเด็จย่า’ เป็นพระราชชนนีในสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์, พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร และพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เรียกได้ว่าพระองค์ทรงเป็นพระมารดาของพระมหากษัตริย์ถึงสองพระองค์

โดยสมเด็จย่าเสด็จพระราชสมภพเมื่อวันที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2443 ทรงเป็นบุตรคนที่ 3 ในพระชนกชู และพระชนนีคำ โดยพระนามเดิมของพระองค์ คือ "สังวาลย์ ตะละภัฏ” โดยในวัยประมาณ 7-8 ขวบ ทางครอบครัวได้นำพระองค์ไปฝากคุณจันทร์ แสงชูโต ซึ่งเป็นพระพี่เลี้ยงในพระบรมวงศานุวงศ์หลายพระองค์

ทรงได้เข้าเรียนที่โรงเรียนสตรีวิทยา จากนั้นเข้าโรงเรียนแพทย์ผดุงครรภ์ และหญิงพยาบาลแห่งศิริราช โดยในขณะที่เรียนอยู่ปี 1 สมเด็จย่าได้ทรงพบกับ สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมขุนสงขลานครินทร์ (พระบรมราชชนก) ซึ่งได้ทรงถูกพระทัย และขอพระราชทานพระราชานุญาตหมั้นกับ นางสาวสังวาลย์ จากนั้นทรงได้รับการคัดเลือกให้ไปทรงศึกษาวิชาพยาบาลต่อที่โรงเรียนแพทย์มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด สหรัฐอเมริกา และทรงมีพิธีอภิเษกสมรสกับ สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก ที่วังสระปทุมเมื่อวันที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2463

สมเด็จย่ามีพระราชกรณียกิจมากมาย ทั้งเยี่ยมราษฎรชาวไทยภูเขาที่อาศัยในถิ่นทุรกันดาร และได้พระราชทานความช่วยเหลือผ่านทางเฮลิคอปเตอร์พระที่นั่ง เปรียบเสมือนพระองค์เสด็จมาจากฟากฟ้าช่วยให้พวกเขามีวิถีชีวิตที่ดีขึ้น ชาวไทยภูเขาจึงถวายพระสมัญญานามว่า “แม่ฟ้าหลวง" นอกจากนี้ยังทรงได้รับการถวายพระราชสมัญญานามต่าง ๆ อาทิ พระมารดาแห่งการทันตแพทย์ไทย, พระมารดาแห่งการแพทย์ชนบท, พระมารดาแห่งการสังคมสงเคราะห์ และพระมารดาแห่งการสาธารณสุขไทย เป็นต้น

จนกระทั่งวันที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2538 สมเด็จย่ามีพระอาการทางพระหทัยกำเริบและทรงเหนื่อยอ่อนจึงเชิญเสด็จพระราชดำเนินเข้าประทับรักษาพระองค์ ที่โรงพยาบาลศิริราช และในวันที่ 17 กรกฎาคม สมเด็จพระบรมราชชนนีมีพระอาการทรุดลง เนื่องด้วยมีพระอาการแทรกซ้อนทางพระยกนะ (ตับ) และพระวักกะ (ไต) ไม่ทำงาน พระหทัย (หัวใจ) ทำงานไม่ปกติ ความดันพระโลหิตต่ำทำให้เกิดภาวะเป็นกรดในพระโลหิต คณะแพทย์ได้ถวายการรักษาความผิดปกติของระบบต่าง ๆ รวมทั้งการฟอกพระโลหิตด้วยเครื่องไตเทียมและกรองสารพิษซึ่งเกิดจากภาวะผิดปกติของพระยกนะ แต่พระอาการตั้งแต่เช้าจนเที่ยงของวันที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2538 คงอยู่ในภาวะวิกฤต จนกระทั่ง เวลา 21.17 น. สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีเสด็จสวรรคต รวมพระชนมายุ 94 พรรษา


ที่มา : https://th.wikipedia.org/wiki


โปรเด็ด! ถึง 31 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES 
คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

‘ดิสนีย์แลนด์’ สวนสนุกแห่งความฝัน เปิดให้บริการเป็นครั้งแรก เมื่อ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2498 ที่เมืองแอนาเฮม รัฐแคลิฟอร์เนีย

ดิสนีย์แลนด์พาร์กหรือดิสนีย์แลนด์ สวนสนุกแห่งความฝัน ที่สร้างความสุขให้กับคนทั่วโลก โดยเมื่อ 66 ปีก่อน ดิสนีย์แลนด์แห่งแรกของโลก ได้เปิดให้บริการเป็นครั้งแรกเมื่อ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2498 หรือปี ค.ศ. 1955 ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองแอนาเฮม รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา

โดยสวนสนุกแห่งนี้เป็นสวนสนุกดิสนีย์แลนด์เพียงแห่งเดียวที่ถูกออกแบบและสร้างขึ้นภายใต้การกำกับดูแลโดยตรงของวอลต์ ดิสนีย์ นักสร้างการ์ตูนผู้ยิ่งใหญ่ของโลก

วอลต์ ดิสนีย์ ได้นำเสนอแนวคิดดิสนีย์แลนด์หลังจากไปเที่ยวสวนสนุกที่ต่าง ๆ พร้อมกับลูกสาวของเขาในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1930 และ 1940 เขาจินตนาการถึงการสร้างสถานที่ท่องเที่ยวที่อยู่ติดกับสตูดิโอของเขาในเบอร์แบงก์เพื่อสร้างความบันเทิงให้กับแฟน ๆ ที่อยากไปเยี่ยมชม

แต่อย่างไรก็ตาม ในไม่ช้าเขาก็ตระหนักว่าขนาดเนื้อที่ ที่เสนอไปนั้นมีขนาดเล็กเกินไป ดิสนีย์จึงได้ซื้อพื้นที่ 160 เอเคอร์ หรือ ประมาณ 409 ไร่ ในเมืองแอนาเฮม รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา และได้เริ่มก่อสร้างโครงการสวนสนุกดิสนีย์แลนด์ขึ้นโดยมีความตั้งใจให้สวนสนุกนี้เป็นสถานที่ที่ให้ทั้งความสุขและความรู้กับเด็กและผู้ใหญ่ที่เข้ามาเยี่ยมชม

และแล้วโครงการสวนสนุกดิสนีย์แลนด์ก็ได้เปิดให้บริการในวันที่ 17 กรกฎาคม ค.ศ. 1955 เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้เข้ามาชื่นชมเหล่าตัวการ์ตูน เครื่องเล่นและบรรยากาศความยิ่งใหญ่อลังการณ์ที่พร้อมจะมอบความสุข ให้กลับนักท่องเที่ยวทุกคนที่มาเยือน

อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าความสุขจะไม่ได้มาโดยง่ายขนาดนั้น เพราะในวันเปิดสวนสนุกวอลต์และทีมงานก็ได้พบกับปัญหา เพราะว่าดินแดนแห่งความฝันของพวกเขานั้นยังสร้างไม่เสร็จ แม้แต่ยางมะตอยที่ถนนก็ยังแห้งไม่สนิท อีกทั้งอาหารและเครื่องดื่มหมดในเวลาอันรวดเร็ว เรือล่องน้ำชมวิวก็เกือบจะล่มเพราะผู้โดยสารเยอะเกินไป และที่แย่ที่สุดคือ พบว่าคนที่เข้ามาเล่นในสวนสนุกหลายพันคนใช้ตั๋วปลอม ทั้งหมดนี้ส่งผลให้ดิสนีย์แลนด์ต้องขาดทุน

หลังจากนั้น สวนสนุกดิสนีย์แลนด์ก็ได้รับการฟื้นฟูปรับปรุงจนกลายมาเป็นดินแดนในฝันของทั้งเด็กและผู้ใหญ่ทั่วโลกตามความต้องการของวอลต์ ดิสนีย์ และแม้ว่าวอลต์จะเสียชีวิตใน พ.ศ. 2509 แต่สวนสนุกในชื่อของเขาก็ยังคงทำหน้าที่เติมเต็มความสุขและความหวังของทั้งเด็กและผู้ใหญ่ต่อไป


ที่มา: https://www.silpa-mag.com/this-day-in-history/article_18440


โปรเด็ด! ถึง 31 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES 
คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2538 ‘สมาน ส.จาตุรงค์’ คว้าแชมป์จากสภามวยโลก (WBC) และสหพันธ์มวยนานาชาติ (IBF) นับว่าเป็นชาวเอเชียคนแรกที่คว้าแชมป์โลกสองสถาบัน

ในวันอาทิตย์ที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2538 ตามเวลาประเทศไทย ได้เกิดเหตุการณ์ประวัติศาสตร์บนสังเวียนผ้าใบ ที่สร้างความตกตะลึงไปทั้งโลก ซึ่งเหตุการณ์นี้ ‘สมาน ส. จาตุรงค์’ ได้ขึ้นท้าชิงแชมป์กับ ฮุมเบอร์โต้ กอนซาเลซ นักชกชาวเม็กซิกัน ผู้เป็นเจ้าของแชมป์โลกรุ่นไลท์ฟลายเวต 2 สถาบัน (WBC & IBF) ซึ่งถือได้ว่าเขาคนนี้เป็นนักมวยระดับโลกเลยก็ว่าได้

โดยก่อนขึ้นชก บรรดาผู้เชี่ยวชาญในวงการมวยโลกต่างฟันธงเป็นเสียงเดียวกันว่า กอนซาเลซจะป้องกันตำแหน่งไว้ได้อย่างแน่นอนเพราะผลงานที่ผ่านมาถือว่ายอดเยี่ยมมาตลอด อีกทั้งกอนซาเลซเอง ถือได้ว่าเป็นนักมวยระดับโลกในขณะนั้น  

ซึ่งในฝั่งของ ‘สมาน’ เวลานั้นแทบไม่มีใครรู้จัก เรียกได้ว่าในการขึ้นชกครั้งนี้ ทุกคนต่างคาดว่า สมาน ไม่สามารถมีชัยชนะเหนือ กอนซาเลซ ได้อย่างแน่นอน มีเพียงแค่จะแพ้น็อกหรือแพ้คะแนนเท่านั้น ซึ่งการแข่งขันในไฟต์นี้ สมานต้องเจอกับความกดดัน จากการเดินทางไปแข่งขันที่ต่างแดนถึงอเมริกาที่แฟนมวยรอบสังเวียนต่างมาเพื่อเชียร์คู่ท้าชิงอย่างกอนซาเลซ 

แต่เมื่อถึงยกที่ 2 แฟนมวยรอบสนามก็ตกอยู่ในความเงียบ เพราะสมานสามารถทำให้กอนซาเลซ ลงไปกองอยู่กับพื้นให้กรรมการนับ 8 ได้ ด้วยหมัดขวาที่สวนเข้าไปโดนลำตัวแชมป์โลกอย่างจัง ซึ่งจากการถูกนับครั้งนี้ ดูเหมือนว่าจะทำให้ กอนซาเลซ ยิ่งเดินหน้าเข้าใส่สมานหนักขึ้น 

จนสมานกลายเป็นฝ่ายเสียที ถูกแชมป์โลกสวนหมัดลงไปกองกับพื้นให้กรรมการนับ ถึงสองครั้งในยกที่ 5 และยกที่ 6 
ซึ่งสภาพของ สมาน ตอนนี้เรียกได้ว่าย่ำแย่เป็นอย่างมาก ตาปวมปิดจนแทบจะมองไม่เห็น ทำได้เพียงชกกะระยะ อย่างที่เคยฝึกซ้อมมาเพียงเท่านั้น

ทำให้เมื่อเข้าสู่ยกที่ 7 สมานต้องเดินหน้าแลกหมัดบ้างไม่เช่นนั้นจะถูกจับแพ้แน่นอน โดยในระหว่างที่แลกหมัดกันอยู่นั้น สมานได้จังหวะปล่อยหมัดขวาเข้าเต็มใบหน้าของกอนซาเลซจนลงไปนอนให้กรรมการนับ 8 ได้อีกครั้ง และแม้กอนซาเลซจะลุกขึ้นมาสู้ต่อ แต่ด้วยบาดแผลขนาดใหญ่บริเวณคิ้ว รวมทั้งสมานที่ได้ที จึงเข้าใส่ผู้ท้าชิงแบบไม่ยั้ง ทำให้สุดท้ายกรรมการตัดสินยุติการชกไปในที่สุด

ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนี้เองที่เรียกได้ว่าพลิกล็อกแฟนมวยทั่วโลก จากนักชกที่ไม่มีใครรู้จักในตอนแรก กลับเป็นผู้มีชัยชนะเหนืออดีตแชมป์โลกอย่างกอนซาเลซได้ โดย ‘สมาน ส.จาตุรงค์’ ก็ได้กลายเป็นผู้คว้าแชมป์โลกไลท์ฟลายเวต 2 สถาบันคนใหม่และนับเป็นนักมวยชาวไทยที่ไปสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ถึงแผ่นดินสหรัฐฯ


ที่มา: https://www.komchadluek.net/news/sport/287590


โปรเด็ด! ถึง 31 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES 
คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

States TOON EP.18

ล็อกดาวน์แล้ว ยังต้องล็อก...?

ติดตามการ์ตูนขำๆ ได้ทุกสัปดาห์


โปรเด็ด! ถึง 31 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES 
คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

‘สะพานพระราม 8’ เป็นสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาแห่งที่ 13 ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งในการช่วยบรรเทาการจราจร และลดมลพิษทางอากาศในกรุงเทพมหานคร

สะพานพระราม 8 เป็นสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาแห่งที่ 13 มีแนวสายทางเชื่อมต่อกับทางคู่ขนานลอยฟ้าบรมราชชนนี ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณโรงงานสุราบางยี่ขัน เขตบางพลัด บรรจบกับปลายถนนวิสุทธิกษัตริย์ ใกล้กับธนาคารแห่งประเทศไทย เขตพระนคร

สะพานนี้เกิดจากพระมหากรุณาธิคุณในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2538 พระองค์มีพระราชดำริให้กรุงเทพมหานครก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มอีก 1 แห่ง เพื่อช่วยบรรเทาการจราจรบนสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า รองรับการเดินทางเชื่อมต่อระหว่างฝั่งพระนครกับฝั่งธนบุรี และเป็นจุดเชื่อมต่อโครงการพระราชดำริตามแนวจตุรทิศ

สะพานพระราม 8 จะช่วยเชื่อมการเดินทางระหว่างฝั่งพระนครกับฝั่งธนบุรีให้สะดวกสบายขึ้น ซึ่งจะช่วยระบายรถบนสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้าได้ถึง 30% และบนสะพานกรุงธน อีก 20% และยังสามารถลดมลพิษทางอากาศบริเวณในเมือง

ความพิเศษของสะพานพระราม 8 คือ ผสมผสานไปด้วยศิลปะแบบไทย จากแนวคิดในการสร้างเพื่อเป็นพระบรมราชานุสรณ์เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร กรุงเทพมหานครจึงได้อัญเชิญ "พระราชลัญจกร" ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ประจำพระองค์ มาเป็นต้นแบบในการออกแบบทางสถาปัตยกรรม นอกจากนี้ที่ปลายยอดเสาสูงของตัวสะพานจะมีจุดชมทิวทัศน์ ซึ่งมีโครงสร้างโลหะกรุกระจก ลักษณะคล้ายดอกบัว และรูปภาพสะพานพระราม 8 ยังปรากฏในด้านหลังของธนบัตร 20 บาท แบบที่ 15 ซึ่งอยู่เบื้องหลังพระบรมสาทิศลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล รัชกาลที่ 8


ที่มา : https://sites.google.com/site/thadakanei012x/khorngkar-phra-rachdari-saphan-phraram-8

https://th.wikipedia.org/wiki/สะพานพระราม_8


โปรเด็ด! ถึง 31 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES 
คลิก????https://lin.ee/vfTXud9


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top