Friday, 29 March 2024
LITE TEAM

พรุ่งนี้ 29 มกราคม 2564 วันแรกของผู้ที่ไม่เคยลงทะเบียนใด ๆ สามารถลงชื่อและข้อมูลเพื่อรับสิทธิ์เยียวยาในโครงการ ‘เราชนะ’ ลองศึกษาขั้นตอนให้มั่นใจ เพื่อที่จะไม่พลาดในการลงทะเบียนวันพรุ่งนี้

ปุกาดๆ!! พรุ่งนี้ 6 โมงเช้า ผู้ที่ยังไม่เคยลงทะเบียนใด ๆ มาก่อน และต้องการจะลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิ์ในโครงการ ‘เราชนะ’ เพื่อรับเงินเยียวยา 7,000 บาท (2 เดือน) สามารถลงทะเบียนได้แล้วเป็นวันแรก ใครที่ยังไม่รู้ว่าจะลงอย่างไร หรือกลัวจะลงทะเบียนไม่ถูก มาดูวิธีการง่าย ๆ ตามนี้

และสำหรับผู้ที่ไม่มีมือถือหรือสมาร์ทโฟน ทางรัฐก็ไม่ได้ทิ้งกันนะ กำลังหารือเพื่อหาทางให้กลุ่มคนเหล่านี้ ได้รับการช่วยเหลือเช่นกัน ไปศึกษาดูได้จากภาพนี้ได้เลย

ส่อแววดราม่ายาว กรณีปาร์ตี้วันเกิดดีเจมะตูม ก่อนที่จะกลายเป็นมหากาพย์ลากยาวกว่านี้ The States Times รวบรวมข้อมูลสำคัญมาไล่เรียงให้ทราบกัน

ดราม่า!!! ลากยาวกันมาเป็นอาทิตย์ สำหรับกรณีดีเจคนดัง ‘มะตูม-เตชินท์ พลอยเพชร’ ที่ติดโควิด - 19 จากงานปาร์ตี้วันเกิดของตัวเอง แต่เรื่องราวบานปลายยยยย! เนื่องจากงานปาร์ตี้ของดีเจคนดัง กลับกลายเป็น ‘คลัสเตอร์ใหญ่’ ที่มีผู้ติดเชื้อโควิด - 19 มากขึ้นเรื่อย ๆ มากไปกว่านั้น

ยังมีกรณีของผู้ที่ติดเชื้อแล้วไม่ยอมเปิดเผยไทม์ไลน์ย้อนหลัง จนเกิดเป็นประเด็นเรื่องความผิดที่ต้องได้รับ งานนี้ส่อเค้าจะดราม่ากันยาว ๆ The States Times รวบรวมข้อมูลสำคัญจากข่าวฮอตนี้ หรือจะเรียกว่า เป็น ‘มะตูมเอฟเฟกต์’ มาอัปเดตให้ทราบกับอีกครั้ง

28 มกราคม พ.ศ. 2529 ย้อนรำลึก เหตุการณ์สำคัญ เมื่อ ‘ยานชาเลนเจอร์’ ขององค์การนาซ่า สหรัฐอเมริกา เกิดระเบิด หลังขึ้นสู่ฟ้าเพียงนาทีเศษ ส่งผลให้นักบินอวกาศทั้งหมดเสียชีวิต นับเป็นอุบัติเหตุครั้งสำคัญของหน่วยงานอวกาศของประเทศสหรัฐอเมริกา

อาจมีหลายเหตุการณ์สำคัญบนโลกนี้ที่เคยเกิดขึ้นมา แล้วเวลาก็ทำให้หลายคนลืมเลือนมันไป แต่สำหรับเหตุการณ์นี้ เชื่อว่า ยังคงอยู่ในความทรงจำของผู้คนมากมาย วันนี้เมื่อ 35 ปีก่อน เกิดเหตุการณ์ช็อคโลก เมื่อกระสวยอวกาศนามว่า ‘ชาเลนเจอร์’ เกิดระเบิดขึ้นบนท้องฟ้า หลังจากที่เพิ่งถูกปลอยขึ้นไปได้ไม่นาน

ย้อนกลับไปยังที่มาของ ‘ยานชาเลนเจอร์’ เป็นกระสวยอวกาศขององค์การนาซ่า สหรัฐอเมริกา ซึ่งมีภารกิจหลักในการขึ้นไปสำรวจอวกาศ โดยก่อนหน้าจะเกิดอุบัติเหตุครั้งสำคัญ ยานชาเลนเจอร์เคยถูกนำขึ้นบินไปในอวกาศมาแล้ว 9 ครั้ง กระทั่งในครั้งที่ 10 หลังจากที่มันถูกปล่อยขึ้นสู่ท้องฟ้า ท่ามกลางผู้คนหลายล้านคนที่มีโอกาสได้ชมผ่านหน้าจอโทรทัศน์ เพียง 73 วินาทีเท่านั้น ยานทั้งลำก็เกิดระเบิดขึ้นอย่างไม่มีใครคาดคิด

ผลจากอุบัติเหตุ ทำให้นักบินอวกาศเสียชีวิตไป 7 คน หนึ่งในนั้นคือ คริสตินา แมคคอลิฟ อดีตครูประถมที่ฝันว่าสักวันเธอจะได้มาเป็นนักบินอวกาศ แม้เธอจะมาถึยังงฝั่งฝันจริง แต่น่าเสียดายที่ต้องมาจบชีวิตลงอย่างกระทันหัน

ภายหลังมีผลของอุบัติเหตุออกมา ต้นตอเกิดจากชิ้นยางวงแหวนที่ใช้ปิดกั้นแก๊สระหว่างรอยต่อในจรวด ขาดประสิทธิภาพในการยืดหยุ่น เนื่องจากสภาพอากาศที่เย็น จึงส่งผลให้เกิดแก๊สรั่วออกมากระทบกับถังเชื้อเพลิงที่ติดคั่นไว้ระหว่างจรวดขับดันทั้งสองข้าง ในที่สุดจึงเกิดการระเบิดฉีกตัวยานและจรวดออกเป็นชิ้นๆ

โศกนาฏกรรมยานชาเลนเจอร์ นับเป็นอุบัติเหตุร้ายแรงที่สุดที่เกิดกับโครงการขนส่งอวกาศของสหรัฐฯ และทำให้สหรัฐฯ หยุดโครงการขนส่งอวกาศไปนานเกือบ 3 ปี ถึงแม้วันนี้เหตุการณ์จะผ่านมาแล้วกว่า 35 ปี แต่ความสูญเสียในหนนั้น ก็ยังอยู่ในความทรงจำของผู้คนตลอดมา

ทะเลจีนใต้เดือด !!! เมื่อจีนผ่านร่างกฏหมายใหม่ สั่งให้ยิงเรือต่างชาติได้ทุกลำที่ละเมิดน่านน้ำจีน การขยับตัวอย่างแข็งกร้าวที่พร้อมฟาดทุกชาติที่ขวางหน้า ทำให้ความตึงเครียดในทะเลจีนใต้ร้อนแรงขึ้นไปอีก

เมื่อวันศุกร์ (22 มกราคม) ที่ผ่านมา รัฐบาลจีนได้ออกร่างกฏหมาย ที่เรียกว่า The Coast Guard Law หรือกฏหมายพิทักษ์ชายฝั่ง ที่จะเพิ่มอำนาจให้หน่วยพิทักษ์ชายฝั่งของจีนสามารถยิงเรือต่างชาติได้ทุกลำที่เห็นว่าละเมิดน่านน้ำจีน โดยไม่เกี่ยงอาวุธ เพื่อเป้าหมายเดียวคือ ปกป้องเขตน่านน้ำของจีนบริเวณชายฝั่งตะวันออก และทะเลจีนใต้

นอกจากจะยิงทิ้งเรือต่างชาติได้แล้ว กฏหมายฉบับใหม่นี้ ยังอนุญาตให้ทำลายสิ่งปลูกสร้างที่ก่อสร้างบนพื้นที่ ดินแดน แนวหิน แนวปะการัง ที่จีนเคลมว่าเป็นเขตพื้นที่ของตนได้ทันที ตามดุลยพินิจของหน่วยพิทักษ์ชายฝั่ง

หมายความง่าย ๆ คือ เห็นประเทศไหน ไสเรือแหยมหน้ามา สามารถยิงสวนก่อนได้เลย แล้วค่อยรายงานรัฐบาลกลางทีหลัง

พอทางจีนผ่านกฏหมายใหม่นี้ออกมา ก็ทำให้บรรยากาศในทะเลจีนใต้ กลายเป็นทะเลจีนเดือดขึ้นมาทันที เพราะคู่กรณีของจีนในทะเลจีนใต้ก็มีไม่ใช่น้อยๆ ไล่มาตั้งแต่ญี่ปุ่น ไต้หวัน ฟิลิปปินส์ เวียดนาม มาเลเซีย อินโดนิเซีย บรูไน

ที่บัญชีหนังหมายาวเป็นหางว่างเช่นนี้ ก็เพราะพี่จีนเล่นลากเส้นประกาศเขตของตัวเอง ที่เรียกว่า nine-dash line ออกมาทับพื้นที่เขตน่านน้ำของประเทศอื่นในย่านทะเลจีนใต้หมด ซึ่งเป็นเส้นแบ่งเขตที่ไม่มีชาติไหนรับรอง แต่ทางจีนก็ยังยืนยันอ้างสิทธิ์ในน่านน้ำของตน

และเมื่อจีนได้ผ่านร่างกฏหมายพิทักษ์นี้ออกมา ที่จะเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 1 กุมภาพันธ์เป็นต้นไป ก็ไม่ต่างจากประกาศเปิดศึกกับทุกประเทศเพื่อนบ้านที่ใช้ทะเลจีนใต้ร่วมกันดีๆนี่เอง

อันเนื่องจาก กองกำลังพิทักษ์ชายฝั่งของจีนนั้นก็ไม่ใช่กรมเจ้าท่าธรรมดา แต่ไม่ต่างจากกองทัพเรือขนาดย่อมเลยทีเดียว ที่มีเจ้าหน้าที่ประจำการมากกว่า 16,000 นาย มีกองเรือลาดตระเวนติดอาวุธกว่า 164 ลำ ที่บางลำติดปืนใหญ่ต่อต้านอากาศยานอีกต่างหาก

และงบประมาณที่ทางการจีนทุ่มให้กับกองกำลังพิทักษ์ชายฝั่งก็ไม่ธรรมดา ในแต่ละปีได้งบประมาณมากถึง 1.74 พันล้านเหรียญ หรือตกประมาณ 52,200 ล้านบาท ทำให้จีนมีกองกำลังพิทักษ์ชายฝั่งที่ใหญ่ที่สุดในโลก

การขยับตัวอย่างแข็งกร้าวของจีนที่พร้อมฟาดทุกชาติที่ขวางหน้า ก็ทำให้ความตึงเครียดในทะเลจีนใต้ร้อนแรงขึ้นไปอีก ที่จะสังเกตเห็นได้ว่าหลายชาติได้เตรียมรับมือเอาไว้แล้ว

เช่นญี่ปุ่นได้ประกาศเพิ่มงบกองทัพในปีนี้สูงถึง 52,000 ล้านเหรียญ ซึ่งเป็นงบทหารที่สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ เพื่อต่อต้านการแผ่อิทธิพลของจีนโดยเฉพาะ

และไต้หวันที่ทุ่มงบประมาณซื้ออาวุธจากสหรัฐเป็นจำนวนมาก และซ้อมรบถี่ยิบในช่วงปีที่ผ่านมา ไม่นับกองทัพเรือสหรัฐ ที่ขยับเรือบรรทุกเครื่องบินรบ USS Theodore Roosevelt เข้ามาประชิดน่านน้ำจีนในทะเลจีนใต้มากขึ้น

ซึ่งก็เป็นการเปิดหน้าศึกจากจีน ต้อนรับโจ ไบเดนประธานาธิบดีคนใหม่แต่หน้าเก่าของสหรัฐ ที่ท้าทายกันสุดๆ ไม่มีคำว่าเกรงใจกันแล้ว และทำให้พื้นที่พิพาทในย่านนี้กลายเป็นที่จับตาว่าจะเป็นดินแดนสุ่มเสี่ยงที่จะจุดชนวนมหาสงคราม ไม่ต่างจากจากตะวันออกกลางหรือไม่

แหล่งข้อมูล

https://www.aljazeera.com/.../china-authorises-coast...

https://www.channelnewsasia.com/.../taiwan-military-drill...

https://chinapower.csis.org/maritime-forces.../

https://www.reuters.com/.../us-china-coastguard-law...

https://www.reuters.com/.../japan-defence-budget...

https://www.reuters.com/.../us-southchinasea-usa...

https://en.m.wikipedia.org/wiki/China_Coast_Guard


ที่มา: เฟซบุ๊ก หรรสาระ By Jeans Aroonrat

https://www.facebook.com/104132041212023/posts/234478868177339/

กทม. ออกข้อปฏิบัติเรื่องความปลอดภัย หากโรงเรียนในสังกัด จะกลับมาเปิดทำการอีกครั้ง เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและความปลอดภัยแก่เด็กนักเรียน และผู้ปกครองทุกคน

หลังจากหยุดยาวมากว่า 1 เดือนเต็ม เนื่องจากสถานการณ์โควิด -19 ระบาดระลอกใหม่ ล่าสุด กทม. ได้หารือเตรียมมาตรการในการปฏิบัติ หากว่าโรงเรียนในสังกัดจะกลับมาเปิดอีกครั้ง

โดย พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้เข้ารับฟังการหารือจากสำนักการศึกษาและพัฒนาสังคม ที่รายงานความพร้อมในการเปิดการเรียนการสอนของโรงเรียนในสังกัดกรุงเทพมหานคร และศูนย์พัฒนาเด็กเล็กก่อนวัยเรียน เบื้องต้นยังเน้นย้ำเรื่องผู้ปกครองและบุคคลที่จะเข้ามาในโรงเรียน ต้องผ่านการคัดกรองอย่างเข้มงวด มีการสวมหน้ากากอนามัย การรักษาระยะห่าง การล้างมือ และการทำความสะอาด

ปัจจุบันกรุงเทพมหานครมีโรงเรียนในสังกัดทั้งสิ้น 437 แห่ง และศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียนกรุงเทพมหานครอีก 292 ศูนย์ ในพื้นที่ 45 สำนักงานเขต โดยในวันที่ 27 มกราคมนี้ โรงเรียนในสังกัดกรุงเทพมหานครทั้งหมดจะจัดกิจกรรม Big Cleaning พร้อมกัน เพื่อเตรียมความพร้อม หากจะมีการประกาศเปิดการเรียนการสอน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ปกครอง

ส่วนเมื่อเปิดเรียนแล้ว นักเรียนและบุคลากรที่เกี่ยวข้องในโรงเรียน จะต้องปฏิบัติตัวอย่างไรบ้าง The States Times รวบรวมมาให้ได้ทราบกันดังนี้


ข้อมูลจาก: เพจกรุงเทพมหานคร โดยสำนักงานประชาสัมพันธ์

27 มกราคม พ.ศ. 2482 วันนี้เมื่อ 82 ปีก่อน ‘แบงค์สยามกัมมาจล’ ธนาคารพาณิชย์แห่งแรกในประเทศไทย ได้เปลี่ยนชื่อมาเป็น ‘ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด’ และใช้ชื่อดังกล่าวมาจนปัจจุบัน

หลายคนทราบว่า ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) คือธนาคารพาณิชย์แห่งแรกของประเทศไทย แต่หากสืบย้อนกลับไปถึงที่มา เริ่มต้นเมื่อวันที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2447 กิจการของธนาคารเริ่มต้นในชื่อ บุคคลัภย์ (Book Club) ก่อตั้งโดยพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหมื่นมหิศราชหฤทัย ที่ทรงเล็งเห็นว่าประเทศจำเป็นต้องมีระบบการเงินธนาคารเพื่อรองรับการเติบโตของประเทศ

หลังจากบุคคลัภย์ขยายตัวทางธุรกิจมากขึ้น จึงมีการเปิดตัวเป็นธนาคารอย่างเต็มตัว โดยกราบบังคมทูลขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตเป็นพิเศษ จัดตั้งเป็น ‘บริษัท แบงค์สยามกัมมาจล ทุนจำกัด’ ดำเนินการเป็นธุรกิจธนาคารพาณิชย์แห่งแรกของประเทศไทย เมื่อวันที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2449

เมื่อกิจการขยายตัว ทำให้ต้องมีการขยายออฟฟิศ จึงย้ายที่ตั้งของธนาคารไปอยู่ที่ย่านตลาดน้อย เพราะมีทำเลดี ติดแม่น้ำเจ้าพระยา อยู่ใกล้แหล่งค้าขายใหญ่ ๆ อาทิ เยาวราช และสำเพ็ง กระทั่งกิจการดำเนินผ่านมาอีกหลายปี จนเมื่อวันที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2482 บริษัท แบงค์สยามกัมมาจล ทุนจำกัด ก็ได้ทำการเปลี่ยนชื่ออีกครั้ง เป็น ‘ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด’ ด้วยเหตุผลส่วนหนึ่งคือ มีการเปลี่ยนแปลงชื่อประเทศ จาก ‘สยาม’ เป็น ‘ไทย’ และยกเลิกคำว่า กัมมาจล ซึ่งแปลว่า การกระทำไม่เคลื่อนไหว อันไม่ตรงกับลักษณะของธนาคารที่มีการหมุนเวียนตลอดเวลา

นับจากนั้นเป็นต้นมากว่า 82 ปี ธนาคารก็ได้ใช้ชื่อนี้มาโดยตลอด เพียงแต่มีการเพิ่มเติมคำว่า มหาชน พ่วงท้ายเข้าไป หลังจากธนาคารได้มีการจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เมื่อปี พ.ศ. 2519 ทำให้มีชื่อเรียกเพิ่มเติมว่า ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)

หน้ากากอนามัยใช้แล้ว ทิ้งที่ไหน? ทำลายที่ใด? ล่าสุด กทม. ออกจุดวางถังขยะเพื่อรองรับการทิ้งหน้ากากอนามัยกว่า 5,000 จุด จุดไหนใกล้ไกลลองเช็กกันดู แล้วรวบรวมไปทิ้งกันให้เป็นที่ เพื่อความปลอดภัยของทุกคน

‘หน้ากากอนามัย’ คล้ายปัจจัยที่ 5 ของคนไทยในเวลานี้ (หรืออาจจะของคนทั้งโลก) ที่ผ่านมา เรารณรงค์ว่าต้องสวมใส่ เพื่อความปลอดภัย แต่อาจหลงลืมไปว่า ตอนที่ทิ้งให้กลายเป็นขยะนั้น ควรทิ้งอย่างไร ให้ปลอดภัยทั้งต่อตัวเรา ต่อผู้อื่น และต่อคนเก็บ(ขยะ)

ล่าสุด ทาง กทม. มีบริการจัดวาง ‘ถังขยะรองรับหน้ากากอนามัยใช้แล้ว’ กว่า 5,000 จุด ตามสถานที่ต่างๆ ทั่ว กทม. เพราะฉะนั้น รู้อย่างนี้แล้ว ควรช่วยคนละไม้ละมือ จัดการทิ้งขยะหน้ากากอนามัยให้เป็นที่และเป็นทาง เพื่อความปลอดภัยร่วมกัน...นะจ๊ะ

เปิดเผยแล้ว! โควต้าจำนวนผู้ที่จะได้รับสิทธิ์ในการฉีดวัคซีนล็อตแรก เคาะตัวเลขออกมากว่า 19 ล้านคน มีกลุ่มไหนที่จะได้ฉีดวัคซีนก่อนใครกันบ้าง ลองไปเช็กดูกัน

แม้จะยังเป็นช่วง ‘รอ’ วัคซีนโควิด -19 ไม่ว่าจะเป็นกรณีของวัคซีนแอสตราเซเนกา ที่กำลังอยู่ในขั้นตอนการยื่นเอกสารขออนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) หรือแม้แต่การสั่งจองวัคซีน (ยี่ห้ออื่นๆ) เพิ่มเติม แต่ล่าสุด ที่มีการอนุมัติออกมาแน่นอนแล้ว นั่นคือ ตัวเลขของประชาชนกลุ่มผู้ที่จะได้รับสิทธิ์ในการเข้าถึงวัคซีนก่อนใคร

โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้โพสต์เฟซบุ๊ก เปิดเผยถึงมติอนุคณะกรรมการอำนวยการการใช้วัคซีนป้องกันเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กระทรวงสาธารณสุข เมื่อวันที่ 25 มกราคมที่ผ่านมา มีรายละเอียดว่า ประชาชนที่เป็นกลุ่มเป้าหมาย ที่จะได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด -19 ในช่วงแรก มีจำนวนกว่า 19,014,154 คน

ทั้งนี้จะแบ่งออกเป็น 4 กลุ่มหลักๆ ได้แก่ บุคลากรทางการแพทย์, เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมโรคโควิด -19, ผู้ที่มีโรคประจำตัว และผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป แต่ละกลุ่มจะได้รับโควต้าในจำนวนเท่าไร ลองตามไปเช็กกันดู

26 มกราคม ค.ศ. 2020 วันนี้เมื่อปีก่อน โลกต้องพบกับการสูญเสีย เมื่อนักกีฬาชื่อก้องโลก ‘โคบี ไบรอันท์’ ประสบอุบัติเหตุเฮลิคอปเตอร์ตกเสียชีวิตอย่างกระทันหัน

เช้าวันนี้เมื่อปีที่แล้ว เกิดข่าวช็อคผู้คนไปทั้งโลก เมื่อราชานักบาสเกตบอลระดับโลก ‘โคบี ไบรอันท์’ เสียชีวิตจากอุบัติเหตุเฮลิคอปเตอร์ส่วนตัวตก หลังจากที่เขาและลูกสาววัย 13 ปี ‘จิอันนา ไบรอันท์’ กำลังออกเดินทางไปยังสนามแมมบา ศูนย์ฝึกซ้อมบาสเกตบอล

แต่ด้วยทัศนวิสัยที่ไม่ดี ทำให้เฮลิคอปเตอร์ตกลงบนภูเขาในเขตเมืองคาลาบาซาส รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นผลให้โคบีและลูกสาว และทีมงานอีก 5 ชีวิต ต้องจบชีวิตลง

กล่าวถึง โคบี ไบรอันท์ เขาคือนักบาสเกตบอลที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดคนหนึ่งของโลก เขาเริ่มต้นเข้าสู่การเป็นนักบาสเกตบอลอาชีพเมื่อปี ค.ศ. 1996 เคยทำสถิติเป็นผู้เล่นที่มีอายุน้อยที่สุดในวงการบาสฯ เอ็นบีเอ โคบีประสบความสำเร็จอย่างมากกับต้นสังกัด ทีมลอสแอนเจลิส เลเกอส์ เคยคว้าแชมป์บาสฯ เอ็นบีเอร่วมกับทีมถึง 5 สมัย รวมทั้งยังเคยได้รับรางวัลผู้เล่นทรงคุณค่าของลีกอาชีพอีกหลายครั้ง

โคบี ประกาศเลิกเล่นบาสฯ อาชีพเมื่อปี ค.ศ. 2016 ด้วยความยิ่งใหญ่ของเขา ทำให้ทางการเมืองลอสแอนเจลิส ประกาศให้ทุกวันที่ 24 สิงหาคม เป็น ‘วันโคบี ไบรอันท์ (Kobe Bryant Day)’ โดยที่มาของวันที่ 24 และเดือน 8 นั้น ก็มาจากหมายเลขเสื้อที่โคบีเคยสวมใส่ขณะตอนที่ยังเล่นบาสเกตบอลอาชีพอยู่นั่นเอง

ผ่านมาแล้ว 1 ปี กับการสูญเสียบุคลากรทางการกีฬาที่ได้ชื่อว่า เก่งกาจชนิดหาตัวจับยาก แต่ถึงอย่างไร สำหรับแฟนๆ กีฬาบาสเกตบอล ชื่อของโคบี ไบรอันท์ ก็จะอยู่ในความทรงจำตลอดไป

พีค of the week EP.3

สัปดาห์ที่ผ่านมา มีข่าวพีคๆ ให้พูดถึงอยู่หลายข่าว The States Times จับรวบตึงมาให้ชมกัน แต่พิเศษเพิ่มเติมอีกสักนี๊ด ข่าวพีคๆ ครั้งนี้ เป็น ‘พีคแบบลุงๆ’ ตามไปดูกันว่า มี ‘ลุง’ คนไหนพีคแบบจัดๆ กันบ้าง Let’s go!!

.

 


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top