Wednesday, 18 June 2025
Hard News Team

จีนประกาศลดภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ สั่งระงับในอัตรา 24% เป็นเวลา 90 วัน แต่คงอัตราภาษี 10 % สินค้าบางรายการ ชี้เป็นประโยชน์ต่อผู้ผลิตและผู้บริโภค ช่วยฟื้นฟูความสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯ

(14 พ.ค. 68) จีนประกาศปรับอัตราภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ เริ่มมีผลตั้งแต่เวลา 12.01 น. ของวันพุธที่ 14 พ.ค. โดยคณะกรรมการภาษีศุลกากรแห่งคณะรัฐมนตรีจีนระบุว่าจะมีการระงับอัตราภาษีบางส่วนเป็นเวลา 90 วัน พร้อมคงอัตราภาษีตามมูลค่าไว้ที่ร้อยละ 10 สำหรับสินค้าบางรายการ

การปรับครั้งนี้เป็นการเปลี่ยนแปลงจากประกาศก่อนหน้า ซึ่งกำหนดภาษีเพิ่มเติมที่ร้อยละ 84 และ 125 กับสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ เพื่อตอบโต้ต่อมาตรการภาษีศุลกากรตอบโต้ของสหรัฐฯ ที่จีนมองว่าไม่เป็นธรรม

ภายใต้มาตรการล่าสุด จีนจะยกเลิกอัตราภาษีที่เคยปรับเพิ่มตามประกาศฉบับที่ 5 และ 6 ที่ออกเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา เพื่อคลายความตึงเครียดและส่งเสริมการค้าระหว่างสองประเทศ

คณะกรรมการภาษีศุลกากรฯ ระบุว่า การปรับลดภาษีในครั้งนี้สอดคล้องกับความต้องการของผู้ผลิตและผู้บริโภคทั้งในจีนและสหรัฐฯ และมีส่วนช่วยฟื้นฟูความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างสองประเทศ รวมถึงส่งผลดีต่อเศรษฐกิจโลกโดยรวม

‘พีระพันธุ์’ บินถกซื้อไฟฟ้าตรงจาก สปป. ลาว หลังพบบางเขื่อนผลิตไฟกำลังทยอยหมดสัมปทาน

(14 พ.ค. 68) แหล่งข่าวจากกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ขณะนี้นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานกำลังเดินไปสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป. ลาว) ตามคำเชิญของนายสอนไซ สีพันดอน นายกรัฐมนตรีลาวในวันที่ 14-15 พ.ค. 68

ทั้งนี้ ทางสปป.ลาว ได้มอบหมายให้สะเหลิมไซ กมมะสิด รองนายกรัฐมนตรี และดร.คำมะนี อินทิลาด รัฐมนตรีพลังงาน และเหมืองแร่เป็นผู้เจรจาหารือ

การเดินทางไปดังกล่าวเป็นไปตามคำเชิญของนายกรัฐมนตรี สปป.ลาว ครั้งนี้ จุดประสงค์หลักเพื่อการเจรจาซื้อไฟฟ้าเข้ามายังประเทศไทย เนื่องจากมีบางเขื่อนผลิตไฟฟ้าที่จะทยอยหมดสัมปทาน หลังจากที่ก่อนหน้านี้จะมีผู้ที่เข้าไปขอสัมปทานเพื่อนำมาขายให้ไทยอีกทอดหนึ่ง

“เมื่อสามารถซื้อไฟจาก สปป. ลาวได้โดยตรงก็จะทำต้นทุนลดลง ซึ่งก็จะมีผลทำให้ช่วยลดค่าไฟฟ้าในประเทศได้ เนื่องจากการรับซื้อไฟแต่เดิมจาก สปป.ลาว จะต้องผ่านโบรกเกอร์ หรือคนกลางก่อนที่จะมาถึงการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) จึงทำให้ราคารับซื้อสูง”

แหล่งข่าวจากกระทรวงพลังงาน กล่าวต่ออีกว่า นายพีระพันธุ์พอจะรับทราบปัญหาดังกล่าวในการรับซื้อไฟที่ผ่านคนกลาง ซึ่งมีผลทำให้ราคารับซื้อสูง จึงพยายามหาทางเจรจาให้ค่าไฟให้ถูกลง

อย่างไรก็ดี หากถามว่าจะสามารถซื้อไฟฟ้าจาก สปป. ลาวได้มากน้อยแค่ไหน คงต้องขึ้นอยู่กับการเจรจาที่กำลังจะเกิดขึ้น โดยไทยมีความพร้อม และไม่มีปัญหาเรื่องการซื้อไฟจำนวนมากหากสามารถทำได้ โดยมองว่าอะไรที่ถูก ไทยจะไม่ผลิตเอง

มหาวิทยาลัยแห่งชาติฮานอย ปรับหลักสูตรใหม่ เรียนจบ ป.ตรี ใน 3 ปี และโอนตรงสู่ ป.เอก ได้

(14 พ.ค. 68) มหาวิทยาลัยแห่งชาติฮานอย เตรียมนำร่องโครงการลดระยะเวลาเรียนปริญญาตรีจาก 4 ปี เหลือ 2.5–3 ปี เริ่มปี 2025 เป็นต้นไป พร้อมเปิดโอกาสให้นักศึกษาที่มีศักยภาพสูงสามารถโอนไปศึกษาต่อระดับปริญญาเอกได้โดยตรง โครงการนี้มีเป้าหมายในการผลิตบุคลากรคุณภาพสูง สนับสนุนยุทธศาสตร์ระดับชาติด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม ตามมาตรฐานสากล

สำหรับหลักสูตรใหม่นี้จะยืดหยุ่นขึ้น โดยกำหนด 3 ภาคการศึกษาต่อปี เพื่อให้นักศึกษาสามารถปรับความก้าวหน้าในการเรียนรู้ได้ด้วยตนเอง นักศึกษาที่มีผลการเรียนโดดเด่นสามารถสำเร็จการศึกษาได้ภายใน 2.5 ปี โดยจะได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มวิจัยที่นำโดยอาจารย์ เพื่อเตรียมความพร้อมในสายวิชาการระยะยาว

ด้านโครงสร้างการเรียนการสอนจะบูรณาการเทคโนโลยีดิจิทัลและปัญญาประดิษฐ์ พร้อมเปิดสอนหลักสูตรเฉพาะทางและวิทยานิพนธ์เป็นภาษาอังกฤษ ขณะที่วิชาพื้นฐานยังคงสอนเป็นภาษาเวียดนาม โดยรูปแบบการเรียนรู้จะหลากหลาย ทั้งการเรียนในห้องเรียน ออนไลน์ กลุ่มย่อย และการศึกษารายบุคคล

โครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนพัฒนาระยะยาวของมหาวิทยาลัย ซึ่งมีโรงเรียนในเครือ 12 แห่ง และมีนักศึกษามากกว่า 20,000 คนในปัจจุบัน โดยตั้งเป้าผลิตบัณฑิตคุณภาพสูง 500–1,000 คนต่อปีภายใต้ระบบการศึกษารูปแบบใหม่ที่เทียบเท่ามาตรฐานนานาชาติ

‘สุรพิชญ์-วิชญาดา’ คว้าตั๋วดวลวงสวิงญี่ปุ่น หลังได้แชมป์ “บางจาก มาสเตอร์ส 2025”

(14 พ.ค. 68) ดาว์ปกรณ์ รัตนสุวรรณ ประธานจัดการแข่งขัน “ช้าง-เจ็นซ์ กอล์ฟ ทัวร์” ให้เกียรติมอบรางวัลและมอบสิทธิ์ร่วมแข่งที่ประเทศญี่ปุ่น แก่นักกอล์ฟเยาวชนที่คว้าแชมป์ในรุ่น Super GENZ (ชายและหญิง) ในการแข่งขันกอล์ฟเยาวชนรายการ “บางจาก มาสเตอร์ส 2025” ที่สนามปัตตาเวีย เซ็นจูรี่ กอล์ฟ คลับ จ.ชลบุรี เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2568 ที่ผ่านมา

“บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)” ร่วมกับ “บริษัท เดอะ เจ็นซ์ จำกัด” ลุยคัดเยาวชนฝีมือดีต่อในรายการ “บางจาก มาสเตอร์ส 2025” ทำการแข่งขัน 2 วัน (36 หลุม) ซึ่งการแข่งขันสนามนี้จะคัดเลือกนักกอล์ฟเยาวชนที่คว้าแชมป์ในรุ่น Super Genz ชาย 1 คน และหญิง 1 คน ร่วมเป็นตัวแทนเข้าแข่งขัน Yonex Junior Golf Championship 2025 ที่ประเทศญี่ปุ่น ในเดือนสิงหาคม นี้ 

หลังจบการแข่งขันรอบสุดท้าย ผลปรากฏว่า “สุรพิชญ์ พิชยเสาวภาคย์” คว้าแชมป์รุ่น Super Genz ชาย ได้สำเร็จ สกอร์รวมสองวันทำไป 3 อันเดอร์พาร์ 141 ฟาก Super Genz (หญิง) วิชญาดา แรมเมือง ก็ฟอร์มแรงไม่แพ้กัน เบียดคว้าแชมป์แรกในสนามนี้ไปครอง ด้วยสกอร์รวม 1 อันเดอร์พาร์ 143 ซึ่งทั้ง สุรพิชญ์ และวิชญาดา ยังคว้าตั๋วแข่งที่ญี่ปุ่นได้อีกด้วย 

นอกจากสิทธิ์แข่งญี่ปุ่นแล้ว ยังมีอีกหนึ่งรายการแข่งขันที่ เดอะ เจ็นซ์ จะพาน้องๆ ไปสร้างประสบการณ์พัฒนาฝีมือในระดับนานาชาติที่ประเทศสิงคโปร์ กับรายการ Singapore Junior Masters 2025 ในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2568 ซึ่งนักกอล์ฟที่ได้สิทธิ์แข่งขันในรายการนี้ จำนวน 4 คน ได้แก่ รุ่น Super GENZ (ชาย) สุรพิชญ์ พิชยเสาวภาคย์ รุ่น Super GENZ (หญิง) งามพรรณ จันทนะ ส่วนรุ่น Junior Genz (ชาย) รัฐวิชญ์ รัฐชัยอนันต์ รุ่น Junior Genz (หญิง) บุณยนุช ศุภกิจบุญชู 

รายการต่อไปเป็นการแข่งขันเก็บคะแนนสะสมรายการที่ 4 “Ditto Classic 2025 Super 6 Match Play” แข่งขันระหว่างวันที่ 7-8 มิถุนายน 2568 สนามเขาใหญ่ คันทรี คลับ จ.นครราชสีมา สำหรับผู้ปกครองและนักกอล์ฟที่สนใจเข้าร่วมแข่งขันสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Official Line : @genzgolf  หรือโทร. 065 696 2229

‘นิสสัน’ ประกาศเลิกจ้างพนักงาน เพิ่มอีก 11,000 คนทั่วโลก พร้อมปิดโรงงาน 7 แห่ง หลังยอดขายทรุดหนัก แผนควบรวมกับ ‘ฮอนด้า’ ก็ล่ม

(14 พ.ค. 68) นิสสัน ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของญี่ปุ่น เตรียมเลิกจ้างพนักงานเพิ่มเติม 11,000 คน และปิดโรงงาน 7 แห่งทั่วโลก หลังจากยอดขายลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในจีนและสหรัฐฯ สองตลาดหลักที่มีการแข่งขันสูงและมีแรงกดดันด้านราคา ทำให้ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อรายได้ของบริษัท พร้อมกันนี้การควบรวมกิจการกับฮอนด้าและมิตซูบิชิที่คาดว่าจะช่วยพลิกฟื้นสถานการณ์ก็ล้มเหลวในช่วงต้นปีที่ผ่านมา

การปลดพนักงานครั้งนี้นับเป็นส่วนหนึ่งของแผนการลดต้นทุนอย่างเข้มข้น ซึ่งรวมถึงการลดการผลิตทั่วโลกลง 20% ส่งผลให้ยอดเลิกจ้างสะสมในปีที่ผ่านมาพุ่งแตะ 20,000 ตำแหน่ง คิดเป็น 15% ของกำลังพลทั้งหมด โดยสองในสามของตำแหน่งที่ถูกตัดจะอยู่ในภาคการผลิต ส่วนที่เหลือกระจายอยู่ในสายงานขาย งานบริหาร และงานวิจัย

ประธานเจ้าหน้าที่บริหารคนใหม่ นายอีวาน เอสปิโนซา ระบุว่า ปีงบประมาณที่ผ่านมานับเป็นปีที่ท้าทายที่สุดของบริษัท ด้วยต้นทุนที่สูงขึ้นและความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ โดยนิสสันรายงานผลขาดทุนประจำปีถึง 670,000 ล้านเยน (ราว 4,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ทั้งนี้ บริษัทยังไม่สามารถให้แนวโน้มรายได้ในปีหน้าได้ เนื่องจากมาตรการภาษีของสหรัฐฯ ยังคงไม่มีความชัดเจน

นอกจากการปลดพนักงาน นิสสันยังยกเลิกแผนลงทุนสร้างโรงงานผลิตแบตเตอรี่และรถยนต์ไฟฟ้าในญี่ปุ่น ขณะที่ตลาดหลักอย่างจีนเผชิญการแข่งขันรุนแรงจากผู้ผลิตท้องถิ่น เช่น BYD ส่วนในสหรัฐฯ อัตราดอกเบี้ยและเงินเฟ้อที่สูงขึ้นก็ฉุดรั้งยอดขายรถใหม่ แม้จะมีการฟื้นตัวเล็กน้อยในช่วงปีที่ผ่านมา ขณะที่รัฐบาลอังกฤษกำลังจับตาว่าโรงงานในเมืองซันเดอร์แลนด์จะได้รับผลกระทบจากแผนปรับโครงสร้างนี้หรือไม่

ตำรวจให้ประกันตัว ‘แมวหลงสวบเจ้าหน้าที่’ หลังจับพิมพ์ลายนิ้วทำประวัติ วอนผู้ปกครองนำไปอบรม

(14 พ.ค. 68) แมวพลัดหลงตาแบ๊วที่กลายเป็นไวรัลในโลกโซเชียล หลังผู้ใช้เฟซบุ๊ก 'Da Parinda Pakeesuk' โพสต์ตามหาเจ้าของ พร้อมเผยว่าแมวตัวดังกล่าวถูกตั้งข้อหา “พยายามสวบเจ้าพนักงาน” หลังไปก่อกวนเจ้าหน้าที่ที่ สน.คลองตัน โดยระบุว่าแมวมีพฤติกรรมดื้อซนถึงขั้นทะเลาะกับตำรวจ จนต้องฝากขังหากไม่มีผู้รับตัว

ล่าสุดเฟซบุ๊ก 'Da Parinda Pakeesuk' มีการอัปเดตว่า พนักงานสอบสวนได้ดำเนินคดีตามขั้นตอน พร้อมพิมพ์อุ้งเท้าทำประวัติ ตรวจสารเสพติด (หญ้าแมว) ผลออกมาเป็นลบ ก่อนอนุญาตให้ประกันตัว โดยมี 'ผู้ปกครอง' มารับกลับไปอบรมอย่างเร่งด่วน เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างแก่แมวตัวอื่นในชุมชน

ทั้งนี้ เคสตามหาเจ้าของแมวดังกล่าวกลายเป็นที่พูดถึงอย่างกว้างขวางในโลกออนไลน์ ด้วยความน่ารักของ 'ผู้ต้องหาแมว' ที่แม้จะซนแต่ก็สร้างรอยยิ้มให้ชาวเน็ต และสะท้อนความห่วงใยของประชาชนที่ร่วมกันตามหาเจ้าของอย่างอบอุ่นใจในช่วงเวลาไม่นาน

‘ICAO’ ตัดสินให้รัสเซียต้องชดใช้กรณี ‘MH17’ หลังกลุ่มกบฏฝักใฝ่ปูตินยิงตก เสียชีวิตยกลำ

(14 พ.ค. 68) องค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) ตัดสินให้รัฐบาลรัสเซียต้องรับผิดชอบและชดใช้กรณีเที่ยวบิน MH17 ของสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์ถูกยิงตกในยูเครนเมื่อปี 2557 โดยกบฏฝักใฝ่รัสเซีย เป็นเหตุให้ผู้โดยสารและลูกเรือเสียชีวิตทั้งหมด 298 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวเนเธอร์แลนด์

ICAO ระบุว่ารัสเซียล้มเหลวในการปกป้องเที่ยวบินพลเรือนตามกฎหมายการบินระหว่างประเทศ และละเมิดข้อห้ามใช้อาวุธกับเครื่องบินพลเรือน โดยผู้เสียชีวิตประกอบด้วยชาวดัตช์ 196 ราย ออสเตรเลีย 38 ราย สหราชอาณาจักร 10 ราย รวมถึงจากมาเลเซียและเบลเยียม

ทั้งนี้ รัฐบาลรัสเซียยังคงปฏิเสธความเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ ขณะที่ศาลเนเธอร์แลนด์เคยพิพากษาจำคุกตลอดชีวิตผู้ต้องหา 3 รายในคดีนี้ ซึ่งรวมถึงชาวรัสเซีย 2 คน และชาวยูเครนฝักใฝ่รัสเซีย 1 คน แต่ยังไม่มีการส่งตัวมาดำเนินคดีจริงแต่อย่างใด

สมุทรปราการ-พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้องคมนตรีเชิญสัญญาบัตร พัดยศ และผ้าไตร ถวายแด่เจ้าอาวาสวัดบางพลีใหญ่กลาง

(14 พ.ค.68) เวลา 10.00 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ พลเอก กัมปนาท รุดดิษฐ์ องคมนตรี เชิญสัญญาบัตร พัดยศ และผ้าไตร ถวายแด่ พระสงฆ์ที่ได้รับการโปรดพระราชทานสัญญาบัตรเป็นพระราชาคณะ จำนวน 1 รูป ดังนี้ พระวชิรคณาทร (จรูญ ฐานธมฺโม) เจ้าอาวาสวัดบางพลีใหญ่กลาง

ด้วยพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ มหิศรภูมิพลราชวรางกูร กิติสิริสมบูรณอดุลยเดช สยามินทราธิเบศรราชวโรดม บรมนาถบพิตร พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ พระราชทานสัญญาบัตรตั้งสมณศักดิ์พระราชาคณะให้พระสงฆ์ โดยทรงพระราชดำริว่าซึ่งดำรงในสมณคุณ มีอุปการะยิ่งแก่การพระศาสนา สมควรได้เลื่อนอิสริยฐานันดรในสมณศักดิ์สูงขึ้น  ณ วัดบางพลีใหญ่กลาง ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ

โดยทรงพระราชทานตั้งสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นราช แด่พระครูปลัดสุวัฒนศีลคุณ (พระครูแจ้) ดร. เจ้าอาวาสวัดบางพลีใหญ่กลาง เป็นพระวชิรคณาทร (จรูญ ฐานธมฺโม) ท่านเจ้าคุณแจ้ ณ อุโบสถวัดบางพลีใหญ่กลาง 

โดยมี พล.ต.ต.วิชิต บุญชินวุฒิกุล ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ หัวหน้าส่วนราชการ คณะไวยาวัจกรวัดบางพลีใหญ่กลาง คณะครู คณะแพทย์ ทหาร ตำรวจ และศิษยานุศิษย์ ร่วมให้การต้อนรับ นอกจากนี้ยังมีคณะสงฆ์ทรงสมณศักดิ์จากวัดต่างๆ ร่วมแสดงมุทิตาสักการะแด่ พระวชิรคณาทร (จรูญ ฐานธมฺโม) เจ้าอาวาสวัดบางพลีใหญ่กลาง ณ อุโบสถวัดบางพลีใหญ่กลาง 


 

‘ผู้นำชีอะห์ไทย’ ลากไส้ ‘NGO ต่างชาติ’ ปมชายแดนใต้ แฉช่วยล้างภาพ BRN เปิดทุกกลลวงแบ่ง ‘อธิปไตยไทย’

‘ผู้นำชีอะห์’ ลากไส้ ‘NGOต่างชาติ’ ต่อปัญหา ‘ชายแดนใต้’ แฉเบื้องหน้าอ้างสิทธิมนุษยชน เบื้องหลังคือเครื่องมือแทรกแซง เปลี่ยนภาพลักษณ์ ‘BRN’ จาก ‘กลุ่มติดอาวุธ’ เป็น ‘ขบวนการทางการเมือง’ ปลายทางคือแบ่งอำนาจอธิปไตยไทย แนะรัฐบาลไทยตั้ง ‘NGO ฝ่ายความมั่นคง’ ตีโต้

(14 พ.ค. 68) นายซัยยิด สุไลมาน ฮูซัยนี ผู้นำศาสนาอิสลามนิกายชีอะห์แห่งประเทศไทย เผยแพร่บทความ เรื่อง “โฉมหน้าอันหลอกลวงของ NGO ต่างชาติที่มีต่อปัญหาชายแดนใต้ของไทย” ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว 3 ตอน มีเนื้อหาดังนี้...

โฉมหน้าอันหลอกลวงของ NGO ต่างชาติที่มีต่อปัญหาชายแดนใต้ของไทย

ตอนที่ 1
เบื้องหน้า 'สิทธิมนุษยชน' – เบื้องหลัง 'เครื่องมือแทรกแซง' 'สิทธิมนุษยชน' และ 'สันติภาพ' อาจฟังดูเป็นถ้อยคำที่สวยงาม แต่ในบางเวที โดยเฉพาะในจังหวัดชายแดนภาคใต้ (จชต.) ถ้อยคำเหล่านี้กลายเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังขององค์กรนอกภาครัฐจากต่างประเทศ (NGO ต่างชาติ) ในการเข้ามากำหนดทิศทางความขัดแย้งอย่างแยบยล โดยไม่มีใครตั้งคำถามว่า: พวกเขาต้องการอะไรจริงๆ?"

NGO ต่างชาติใน จชต.: ผู้มาเยือนหรือผู้กำหนดยุทธศาสตร์?
ตั้งแต่ความรุนแรงรอบใหม่ใน จชต.ปะทุขึ้นในปี 2547 เป็นต้นมา พื้นที่แห่งนี้กลายเป็นจุดสนใจของ NGO ระหว่างประเทศอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน องค์กรเหล่านี้มักอ้างเป้าหมายในการสนับสนุนสิทธิมนุษยชน ความเป็นธรรมทางกฎหมาย และการสร้างสันติภาพอย่างยั่งยืน — แต่การสังเกตอย่างใกล้ชิดจะพบว่า หลายองค์กรมีบทบาทเชิงโครงสร้างในระดับที่ไม่ธรรมดา

องค์กรอย่าง Human Rights Watch, International Crisis Group (ICG), Amnesty International หรือแม้แต่ Centre for Humanitarian Dialogue (HD) ต่างมีโครงการ ฝึกอบรม รายงานวิจัย และเวทีพูดคุยที่ดำเนินมายาวนานใน จชต. โดยเฉพาะ HD ซึ่งเป็นองค์กรที่มีที่ตั้งในเจนีวาแต่สามารถเข้าถึงทั้งแกนนำ BRN และฝ่ายความมั่นคงไทยได้พร้อมกัน — จนกระทั่งสามารถผลักดันให้เกิดโต๊ะเจรจาสันติสุขขึ้นจริง

วาทกรรมสิทธิมนุษยชน: พื้นที่ใหม่ของการต่อรอง
รายงานและถ้อยแถลงจาก NGO ต่างชาติ มีการตั้งคำถามต่อการใช้กฎหมายพิเศษของรัฐไทย เช่น พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ หรือ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ โดยชี้ว่าเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนต่อชาวมลายูมุสลิมในพื้นที่ ทั้งที่รายงานเหล่านี้มักขาดการอ้างอิงเหตุผลด้านความมั่นคง หรือความรุนแรงที่มาจากขบวนการ BRN

ในทางกลับกัน กลับมีแนวโน้มที่ NGO เหล่านี้จะหลีกเลี่ยงการกล่าวถึงการวางระเบิด การลอบยิง หรือการเกณฑ์เยาวชนเข้าร่วมขบวนการด้วยถ้อยคำรุนแรง โดยมักจัดให้เป็น "ผลพวงของโครงสร้างรัฐที่กดทับ" มากกว่าการกระทำผิดกฎหมายหรืออาชญากรรม

แนวโน้มนี้สร้างวาทกรรมใหม่ที่มองรัฐไทยเป็น 'ผู้กดขี่' และกลุ่มแบ่งแยกดินแดนเป็น "ผู้ถูกกดขี่ที่ต้องเข้าใจ" ซึ่งอาจดูสมดุลในแง่สิทธิมนุษยชน แต่ในทางยุทธศาสตร์แล้ว คือการวาง 'โครงสร้างการตีความ' ที่ลดทอนอำนาจความชอบธรรมของรัฐไทยในเวทีสากล

ประโยชน์เชิงโครงสร้าง: NGO ได้อะไร?
เมื่อพิจารณาในเชิงโครงสร้าง NGO เหล่านี้ได้ประโยชน์ในหลายระดับ:

การต่ออายุองค์กร
พื้นที่ความขัดแย้งที่ยังไม่จบ ทำให้โครงการ NGO ไม่หมดอายุ — งบประมาณ ความชอบธรรม และความสนใจจากโลกภายนอกยังคงหลั่งไหล

การเป็นผู้ไกล่เกลี่ยจำเป็น
ยิ่งรัฐไทยกับ BRN ไม่ไว้ใจกันมากเท่าไร องค์กรอย่าง HD ยิ่งกลายเป็นผู้กำหนดโต๊ะ (agenda-setter) ได้มากเท่านั้น

เวทีแห่งอำนาจใหม่
การเข้ามาทำงานใน จชต. คือโอกาสสร้างเครือข่ายใหม่ของ NGO กับนักการเมือง นักวิชาการ และภาคประชาสังคมมลายู — ซึ่งสามารถใช้เป็นฐานต่อรองในอนาคต

Soft Power ฝังลึก
NGO เหล่านี้ไม่ได้มาเพื่อแก้ปัญหาเท่านั้น แต่ยังฝังกรอบคิดแบบตะวันตกในเรื่องรัฐธรรมนูญใหม่ เขตปกครองตนเอง หรือความเป็นสากลของสิทธิ์ ซึ่งอาจไม่สอดคล้องกับบริบทไทยเสมอไป

คำถามปลายเปิดที่รัฐไทยยังไม่กล้าถาม
ทำไม NGO เหล่านี้ถึงสามารถเข้าถึงทั้ง BRN และฝ่ายความมั่นคงได้พร้อมกัน?
การฝึกอบรมให้แก่นักเจรจา ทั้งฝ่ายขบวนการและเจ้าหน้าที่รัฐ มีวัตถุประสงค์เพื่อความเป็นกลางจริงหรือ?

โต๊ะเจรจาที่ตั้งอยู่บนเงื่อนไขและเวทีของ NGO ต่างชาติ แท้จริงแล้วเป็นโต๊ะของใคร?

ตอนนี้คือจุดเริ่มต้นของคำถามที่จำเป็นต้องถาม เมื่อองค์กรต่างชาติในนามของ NGO เข้ามามีบทบาทในพื้นที่ความขัดแย้งอย่างลึกซึ้ง ความชัดเจนในเจตนาและวัตถุประสงค์จึงเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง

ในตอนต่อไป จะพาผู้อ่านไปสำรวจว่า NGO ต่างชาติเหล่านี้ ได้ประโยชน์อย่างไรจากทั้ง BRN และรัฐไทย และอาจกำลังเป็นผู้ควบคุมกระดาน โดยที่ทั้งสองฝ่ายไม่ทันรู้ตัว

ตอนที่ 2
เกมลวงของ NGO: 'ผู้หวังดี' ที่ได้ประโยชน์จากทุกฝ่าย

ในเวทีความขัดแย้งระหว่างรัฐไทยกับขบวนการแบ่งแยกดินแดนอย่าง BRN องค์กร NGO จากต่างประเทศมักปรากฏตัวในฐานะผู้ไกล่เกลี่ย ผู้เฝ้าระวัง หรือผู้พิทักษ์สิทธิมนุษยชน แต่เบื้องหลังภาพลักษณ์ที่ดูเป็นกลางและหวังดีเหล่านี้ NGO บางกลุ่มได้ประโยชน์จากทั้งสองฝ่ายในแบบที่น่าตั้งคำถามอย่างยิ่ง

NGO ในบทบาท 'กรรมการ' ที่ควบคุมเกม

หนึ่งในองค์กรที่โดดเด่นที่สุดคือ Centre for Humanitarian Dialogue (HD) ซึ่งเป็นองค์กรที่อ้างความเป็นกลางในการสร้างสันติภาพ และสามารถเข้าถึงทั้งฝ่าย BRN และเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงไทยได้พร้อมกัน

HD ไม่เพียงแต่อำนวยความสะดวกในการจัดเวทีพูดคุยสันติสุขเท่านั้น แต่ยังทำหน้าที่เป็นผู้จัดอบรม ฝึกเจรจา และให้คำแนะนำในเชิงกระบวนการแก่ทั้งสองฝ่ายมานานนับสิบปี ซึ่งในเชิงยุทธศาสตร์ นี่ไม่ใช่แค่การอำนวยความสะดวก — แต่คือการ ควบคุมโครงสร้างโต๊ะเจรจา

NGO กับการปั้น BRN

NGO บางกลุ่มมีบทบาทอย่างชัดเจนในการช่วย BRN เปลี่ยนภาพลักษณ์จาก 'กลุ่มติดอาวุธ' มาเป็น 'ขบวนการทางการเมือง' โดยเฉพาะ HD และกลุ่มฝึกอบรมจากยุโรป ซึ่งสนับสนุนการสร้างผู้นำรุ่นใหม่ของ BRN ให้พูดภาษาอังกฤษได้ดี เข้าใจกลไกระหว่างประเทศ และสามารถสื่อสารผ่านสื่อสากลได้

NGO เหล่านี้ยังสนับสนุนเวทีระหว่างประเทศ เช่น การดึง OIC หรือองค์กรสิทธิมนุษยชนให้ร่วมฟัง BRN นำเสนอข้อเรียกร้องในเชิงการเมือง มากกว่าจะพูดถึงเหตุการณ์ลอบโจมตีหรือการใช้อาวุธในพื้นที่

NGO กับรัฐไทย: ทำไมจึงยอมรับ?

แม้รัฐไทยจะระแวดระวัง NGO ต่างชาติ แต่สุดท้ายก็มักยอมให้เข้ามามีบทบาทเพราะ:

ต้องการเวทีพูดคุยที่ดูเป็นกลางในสายตาสากล

ขาดทักษะด้านการเจรจาและต้องพึ่งพาการฝึกอบรมจากภายนอก

เชื่อว่า NGO จะเป็น 'กันชน' ลดแรงกดดันจากประชาคมโลก

อย่างไรก็ตาม การยอมเปิดพื้นที่ให้ NGO เหล่านี้ ก็คือการยอมให้ ผู้อื่นกำหนดโครงสร้างเจรจาแทนตน โดยไม่รู้ตัว

ใครหลอกใคร: NGO ได้ประโยชน์จากทุกฝ่าย

ในขณะที่รัฐไทยพยายามสร้างภาพว่ากำลังควบคุมสถานการณ์ และ BRN พยายามสร้างความชอบธรรม NGO บางกลุ่มกลับสามารถ:

ขยายโครงการ ต่อเนื่องจากสถานการณ์ไม่จบ

ปั้นผู้นำ ที่ตนเองสามารถเข้าถึงได้

ขยายทุนทางสังคม ในหมู่นักวิชาการ ภาคประชาสังคม และเยาวชน

กล่าวอีกนัยหนึ่ง NGO บางกลุ่มสามารถทำให้ตนเองกลายเป็น "ผู้มีอำนาจเหนือความขัดแย้ง" โดยไม่มีต้นทุนทางความรับผิดชอบใดๆ

ตัวอย่างพฤติกรรมที่ควรจับตา

HD จัดเวิร์กช็อปให้ทั้งเจ้าหน้าที่รัฐและแกนนำเยาวชนในหัวข้อเดียวกัน แต่แยกพื้นที่ พบว่ามีการปลูกฝังชุดความคิดเรื่อง self-determination โดยใช้กรณีติมอร์ตะวันออกและโคโซโวเป็นต้นแบบ

ตามรายงานของ ICG ปี 2022 BRN มีแนวโน้มปรับบทบาททางการเมืองผ่านการมีทีมเจรจาที่ชัดเจนขึ้น ซึ่งสะท้อนความพยายามเปลี่ยนผ่านจากขบวนการติดอาวุธสู่เวทีการเมือง”

เครือข่าย NGO ด้านสิทธิมนุษยชนหลายแห่งในยุโรปแนะนำให้ไทยยุติ พ.ร.ก.ฉุกเฉินในพื้นที่ โดยไม่พูดถึงความรุนแรงที่ยังเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง

บทสรุป
NGO บางกลุ่มไม่เพียงแต่เข้ามามีบทบาทในเวทีเจรจา แต่ยังทำหน้าที่เสมือน ผู้ออกแบบกระดาน ที่ทั้ง BRN และรัฐไทยต้องเล่นตาม โดยไม่ได้ตระหนักว่าตนเองอาจกลายเป็นหมากในเกมที่ NGO เป็นผู้จัดวาง

ตอนที่ 3 (ตอนจบ)
NGO กับวาระตะวันตก – ปลายทางคือการแบ่งอำนาจอธิปไตยไทย?

ในสองตอนที่ผ่านมา เราเห็นภาพ NGO ต่างชาติที่มีบทบาทลึกซึ้งในความขัดแย้ง จชต. บทบาทนั้นไม่ได้จบที่การฝึกอบรมหรือไกล่เกลี่ย แต่เชื่อมโยงกับแนวโน้มของยุทธศาสตร์ตะวันตกที่ต้องการปรับโครงสร้างอำนาจรัฐในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ให้สอดคล้องกับผลประโยชน์ของตนเอง โดยเฉพาะในบริบทภูมิรัฐศาสตร์ที่ซับซ้อนขึ้นทุกขณะ

ภูมิรัฐศาสตร์ใหม่: ทำไมตะวันตกจึงสนใจ จชต.?

จชต. ตั้งอยู่ในทำเลยุทธศาสตร์ใกล้ช่องแคบมะละกา จุดยุทธศาสตร์การค้าและการทหารของโลก ภูมิภาคนี้เป็นทางผ่านสำคัญของการขนส่งพลังงาน และเป็นพื้นที่แทรกซึมของอิทธิพลจีน — จึงไม่น่าแปลกใจที่มหาอำนาจตะวันตก โดยเฉพาะสหรัฐฯ และพันธมิตรยุโรป จะจับตามองอย่างใกล้ชิด

ในบริบทเช่นนี้ NGO กลายเป็น 'แขนขาทางอ้อม' ของแนวคิด soft power ตะวันตก ที่พยายามแทรกซึมแนวคิดเรื่อง human rights, autonomy, self-determination ให้ฝังลึกลงในพื้นที่ความขัดแย้ง โดยเฉพาะในจุดที่อำนาจรัฐไทยไม่อาจควบคุมได้อย่างเด็ดขาด


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top