Wednesday, 18 June 2025
Hard News Team

ตำรวจภูธรภาค 2 ยกระดับพนักงานสอบสวน สู่มืออาชีพยุคใหม่ ขับเคลื่อนด้วย AI เพิ่มประสิทธิภาพงานสอบสวน สะท้อนภาพลักษณ์องค์กรที่ทันสมัย

(15 พ.ค.68) พล.ต.ท.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 (ผบช.ภ.2) เป็นประธานเปิดโครงการสัมมนาผู้ปฏิบัติงานต้นแบบสู่การเป็นตำรวจมืออาชีพของตำรวจภูธรภาค 2 ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 (รุ่นที่ 1) ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 15 – 16 พฤษภาคม 2568 ณ ศูนย์ฝึกอบรมพัฒนาบุคลากรและสวัสดิการ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (The Cop Seminar & Resort) อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี โดยมีพนักงานสอบสวนจากทุกจังหวัดในสังกัดตำรวจภูธรภาค 2 เข้าร่วมจำนวน 40 นาย

สาระสำคัญของการสัมมนาครั้งนี้ ไม่เพียงแต่เป็นเวทีแลกเปลี่ยน รับฟังปัญหา อุปสรรค และความต้องการของผู้ปฏิบัติงานในสายงานสอบสวนเท่านั้น แต่ยังมุ่งเน้นการพัฒนาองค์ความรู้และเสริมสร้างทักษะใหม่ ๆ โดยเฉพาะการนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาใช้สนับสนุนกระบวนการสอบสวนให้มีความแม่นยำ รวดเร็ว และโปร่งใสมากยิ่งขึ้น

พล.ต.ท.ยิ่งยศ กล่าวว่า

“พนักงานสอบสวนคือด่านแรกของกระบวนการยุติธรรม ที่มีบทบาทสำคัญต่อความเป็นธรรมของสังคม หากระบบสอบสวนไม่เข้มแข็ง ย่อมส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของประชาชน การสัมมนาในครั้งนี้ นอกจากจะรับฟังเสียงสะท้อนจากพนักงานสอบสวนในพื้นที่จริงแล้ว เรายังผลักดันให้เกิดการนำเครื่องมือ AI มาใช้เป็นผู้ช่วยสำคัญ เช่น การวิเคราะห์ข้อมูลจากสำนวน, การจัดระเบียบพยานหลักฐาน, การตรวจสอบข้อเท็จจริงเชิงลึก ตลอดจนการฝึกใช้แอปพลิเคชันสืบค้นข้อมูลอัจฉริยะ เพื่อให้พนักงานสอบสวนสามารถทำงานได้แม่นยำยิ่งขึ้น ลดภาระ และลดโอกาสผิดพลาด”

“เป้าหมายของเราคือให้พนักงานสอบสวนทำงานได้อย่างมีความสุข มีเครื่องมือที่ทันสมัย มีผู้บังคับบัญชาที่รับฟัง และมีระบบสนับสนุนที่มั่นคง เพื่อสร้างภาพลักษณ์ใหม่ให้ตำรวจไทยเป็นที่พึ่งของประชาชนอย่างแท้จริง” ผบช.ภ.2 กล่าวเพิ่มเติม

การขับเคลื่อนพนักงานสอบสวนยุคใหม่ของตำรวจภูธรภาค 2 จึงไม่ใช่เพียงการพัฒนาทักษะส่วนบุคคล แต่เป็นการยกระดับทั้งระบบให้ก้าวทันโลก ก้าวทันเทคโนโลยี และก้าวทันความคาดหวังของประชาชนในศตวรรษที่ 21

‘เนเน่’ นำทีม วปอ.บอ. รุ่น 2 เยือน ‘Starbucks’ ใหญ่สุดในเอเชีย เรียนรู้การสร้างแบรนด์ระดับโลกกลางมหานครจีน

(15 พ.ค. 68) ‘เนเน่’ รัดเกล้า สุวรรณคีรี รองโฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ‘เนเน่ รัดเกล้า สุวรรณคีรี’ ระบุว่า…

#เกร็ดความรู้จากจีน ในบทบาทอาจารย์ เนเน่และคณะอาจารย์ของหลักสูตร นำนักศึกษา วปอ.บอ. รุ่นที่ 2 จากวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร มาดูงานที่ประเทศจีน เมืองเซี่ยงไฮ้–หางโจว ค่ะ

เดินทางมาถึงเซี่ยงไฮ้ จุดแรกที่เราแวะคือ Starbucks Reserve® Shanghai Roastery ที่เซี่ยงไฮ้ ซึ่งเป็นสาขาที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก (เคยเป็นอันดับ 1 ของโลก จนเมื่อปี 2019 ที่ Starbucks Reserve Roastery ที่ชิคาโก้เปิดขึ้น ด้วยพื้นที่ประมาณ 3,250 ตารางเมตร ครอบคลุมอาคาร 5 ชั้น) ร้านนี้มีพื้นที่กว่า 30,000 ตารางฟุต ใหญ่กว่าสาขาปกติถึง 300 เท่า จุดเด่นที่เตะตาคือ ถังคั่วกาแฟทองเหลืองสูงเท่าตึก 2 ชั้น (น้ำหนัก 40 ตัน) และ บาร์กาแฟยาวถึง 88 ฟุต... เป็นร้านกาแฟที่เป็นมากกว่าร้านกาแฟ ภายในมีโรงคั่วกาแฟให้เราสามารถชมการคั่วกาแฟแบบสด ๆ พร้อมโซนเบเกอรี่แบบเปิด รวมทั้งบาร์ชา กาแฟ และมีค็อกเทลด้วย

#ทำไมต้องอลังการขนาดนี้...

อย่างที่เรา ๆ ทราบกันว่าคนจีนมีวัฒนธรรมในการดื่มชา การที่ Starbucks จะวางแผนมาตีตลาดจีนไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องปรับตัว วางแผนหลายขั้น ...เอาเป็นว่า ถึงกับยอมเปลี่ยนสูตรกาแฟให้มีความเข้มน้อยลงเลยทีเดียว เพื่อให้รสชาติถูกปากผู้บริโภคที่คุ้นชินกับการดื่มชา

ดังนั้น ที่มาของ Starbucks Reserve® Shanghai Roastery จึงมีวัตถุประสงค์หลายประการ ทั้งในเชิงกลยุทธ์และประสบการณ์ลูกค้า ดังนี้:

1 #Flagshipแห่งแรกในเอเชีย - เซี่ยงไฮ้เป็นตลาดหลักในเอเชียที่เติบโตเร็วมาก และ Starbucks ต้องการเปิดตัว Roastery ที่นี่ให้เป็นเรือธงของภูมิภาค เพื่อแสดงถึงความมุ่งมั่นและศักยภาพในการลงทุนในตลาดจีน ซึ่งเป็นตลาดใหญ่อันดับสองของแบรนด์ รองจากสหรัฐฯ

2 #สร้างประสบการณ์เหนือระดับ หรือที่เรียกว่า #ImmersiveExperience - อย่างที่บอก Roastery นี้ ไม่ใช่แค่ร้านกาแฟธรรมดา แต่เป็นประสบการณ์แบบ immersive ที่ลูกค้าจะได้ชมการคั่วเมล็ดกาแฟแบบสด ๆ ลองกาแฟจากหลายภูมิภาค ดื่มด่ำกับศิลปะการชง รวมถึงมีบาร์ชาที่ยิ่งใหญ่ (Teavana Bar), ร้านเบเกอรี่ Princi ที่อบขนมสดในร้าน และใช้เทคโนโลยี AR (Augmented Reality) ให้ลูกค้าเรียนรู้ผ่านมือถือได้ด้วย

3 #Showroom #แหล่งทดลองผลิตภัณฑ์ใหม่ - Roastery ทำหน้าที่เป็น 'ห้องทดลอง' สำหรับกาแฟและผลิตภัณฑ์ใหม่ เช่น เครื่องดื่มสูตรพิเศษ ขนมอบใหม่ ๆ หรือเมนูที่ยังไม่เปิดตัวในตลาดทั่วไป

4 #สร้างการรับรู้แบรนด์ระดับพรีเมียม - การมีร้านใหญ่ สวยงาม และแปลกใหม่ในโลเคชันเด่น (ย่าน West Nanjing Road ที่หรูหรา) ทำให้ Starbucks สร้างภาพลักษณ์ของความหรูหราและน่าค้นหา ตอกย้ำว่า Reserve Roastery เป็นมากกว่าร้านกาแฟ — แต่คือ “ประสบการณ์ศิลปะและวัฒนธรรมกาแฟ”

5 #รองรับจำนวนลูกค้าที่สูงมาก - ตลาดจีนมีความหนาแน่นของผู้บริโภคสูง ร้านขนาดใหญ่จึงช่วยรองรับลูกค้าจำนวนมากในเวลาเดียวกัน โดยเฉพาะในเมืองใหญ่อย่างเซี่ยงไฮ้ที่มีทั้งนักท่องเที่ยวและลูกค้าท้องถิ่นจำนวนมาก

ไม่ใช่ธรรมดาเลยใช่ไหมคะ กว่าจะออกมาเป็น Starbucks Reserve® Shanghai Roastery ได้... สินค้าไทยและผู้ประกอบการไทยรายใดที่อยากจะตีตลาดจีนบ้าง คงต้องคิดให้ 'ใหญ่' และวางกลยุทธ์ให้ชัดเจน เหมือนอย่างที่ Starbucks ทำไว้เป็นตัวอย่างเลยทีเดียวค่ะ

เจ้าอาวาสวัดไร่ขิง เข้ามอบตัวที่กองปราบ ปมทุจริตเงินวัด 300 ล้าน ไปเล่นบาคาร่า

(15 พ.ค. 68) พระธรรมวชิรานุวัตร เจ้าอาวาสวัดไร่ขิง พระอารามหลวงชื่อดังในจังหวัดนครปฐม และเจ้าคณะภาค 14 ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีทุจริตยักยอกเงินวัดกว่า 300 ล้านบาท โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อนำไปเล่นพนันออนไลน์ผ่านเว็บชื่อดัง ซึ่งสร้างความสั่นคลอนต่อความศรัทธาของพุทธศาสนิกชนอย่างรุนแรง

การสืบสวนของเจ้าหน้าที่ กก.5 บก.ป. เริ่มจากคำร้องเรียนและพบเส้นทางการเงินผิดปกติ เจ้าอาวาสวัดได้ถอนเงินวัดเข้าบัญชีส่วนตัวหลายครั้ง ก่อนส่งต่อให้หญิงสาวคนหนึ่ง ซึ่งมีบทบาทเป็นนายหน้าในเครือข่ายเว็บพนัน เพื่อนำไปเติมเครดิตเล่นบาคาร่า โดยยอดเงินหมุนเวียนเกี่ยวข้องกับการพนันสูงถึงกว่า 500 ล้านบาท

นอกจากการใช้เงินวัด เจ้าอาวาสยังมีพฤติกรรมขอยืมเงินจากพระผู้ใหญ่หลายรูป เพื่อนำมาเล่นพนันต่อเนื่อง ขณะที่หญิงสาวที่เป็นตัวกลางถูกจับกุมในคดีที่เชื่อมโยงกับเว็บพนัน LAGALAXY911 และอยู่ระหว่างการประกันตัว

ล่าสุด พระธรรมวชิรานุวัตรได้เดินทางเข้ามอบตัวต่อกองปราบปราม พร้อมทนายความ โดยอ้างว่าเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.)

‘ดร.กอบศักดิ์’ ถอดรหัส 10% ‘ภาษีทรัมป์’ ชี้แค่ตั้ง ‘กำแพงภาษี’ รายได้สหรัฐฯพุ่งถึง 87.4%

(15 พ.ค.68) ดร.กอบศักดิ์ ภูตระกูล กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ และเลขานุการธนาคารกรุงเทพ (BBL) ประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุน (FETCO) โพสต์เฟซบุ๊ก หัวข้อ “รายได้ศุลกากรสหรัฐเพิ่ม +87.4% !!!” มีเนื้อหาว่า...

รายได้ศุลกากรสหรัฐเพิ่ม +87.4% !!!

หนึ่งในเป้าหมายของ President Trump ในการเข้าสู่สงครามการค้า คือ การหารายได้เพิ่มเข้ารัฐ

หลายคนถามว่า รายได้จะเพิ่มขึ้นจริงไหม จะเพิ่มขึ้นเท่าไหร่จะเป็นชิ้นเป็นอันหรือไม่

ล่าสุด WSJ รายงานจากข้อมูลกกระทรวงการคลังสหรัฐว่าสหรัฐเก็บภาษีอากรนำเข้าจากสินค้าต่างๆ เพิ่มเป็น 16.3 พันล้านดอลลาร์ ในเดือน ในเดือนเมษายนที่ผ่านมา จากเดิมเก็บได้ 8.7 พันล้านดอลลาร์ ในเดือนมีนาคม หรือเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดถึง +87.4%

จากภาษี 25% ที่คิดกับเม็กซิโกและแคนาดา ภาษีเฉพาะ 25% สำหรับอุตสาหกรรมเหล็กกล้าและอลูมินัม ตลอดจน Reciprocal Tariffs ประมาณ 10% สำหรับประเทศต่างๆ ที่เริ่มต้นคิดบ้างแล้ว ซึ่งเมื่อเริ่มเก็บกันอย่างจริงจัง รายได้จาก Tariffs จะเพิ่มขึ้นมากกว่านี้

สำหรับในระยะยาว เริ่มมีผลการศึกษาที่น่าสนใจออกมาเช่นกัน โดยการศึกษาของ Wharton มหาวิทยาลัยเพนซิลวาเนีย ประเมินคร่าวๆ ว่า รายได้สหรัฐจาก Tariffs จะเพิ่มขึ้น เฉลี่ยประมาณ 4 - 5 แสนล้านดอลลาร์ สรอ. ต่อปี รวมเป็นเงินประมาณ 4.5 - 5 ล้านล้านดอลลาร์ สรอ. สำหรับ 10 ปีข้างหน้า ซึ่งเป็นตัวเลขที่ไม่น้อย เทียบกับการขาดดุลการคลังสหรัฐ 1.05 ล้านล้านดอลลาร์ ในปีที่แล้ว ก็จะช่วยปิด Gap เรื่องนี้ไปได้ประมาณ 50%

อย่างไรก็ตาม เมื่อเทียบกับหนี้ภาครัฐของรัฐบาลสหรัฐที่มีอยู่ประมาณ 31 ล้านล้านดอลลาร์ ถือว่ายังไม่มากพอจะช่วยชะลอไม่ให้หนี้เพิ่มขึ้นเร็วเหมือนอดีต และช่วยให้มีช่องให้ท่าประธานาธิบดีไปลดภาษี No Tax on Tips, No Tax on Overtimes, No Tax on Social Securities ตามที่สัญญาไว้ช่วงหาเสียงเลือกตั้ง ซึ่งกำลังจะออกมาประกาศใช้เร็วๆ นี้ รวมทั้ง ช่วยสร้างแรงจูงใจให้หลายบริษัทมาลงทุนผลิตในสหรัฐ ที่ล่าสุดมีตัวเลขแสดงความจำนงค์ประมาณ 5-6 ล้านล้านดอลลาร์

ด้วยเหตุนี้ จึงไม่น่าแปลกใจว่า ทำไม President Trump ถึงไม่ยอมยกเลิกเรื่อง Tariffs ไปเลย และไม่น่าแปลกใจว่าทำไม ถึงมีตัวเลข 10% ออกมาตลอดเวลา

10% สำหรับทุกประเทศ ภายใต้ Reciprocal Tariffs แม้จะเป็นประเทศที่สหรัฐเกินดุลการค้าด้วย หรือเป็นประเทศที่เปิดกว้างทางการค้าเช่น ออสเตรเลีย สิงคโปร์

10% สำหรับประเทศต่างๆ ที่ได้ชะลอออกไป 90 วัน ภายใต้ Reciprocal Tariffs

10% สำหรับสินค้านำเข้าจากอังกฤษ ทั้งๆ ที่เจรจากันแล้ว และอังกฤษก็ยอมไปหลายอย่างแล้ว

10% สำหรับสินค้าจีน ในช่วง PAUSE 90 วัน

โดยดีลต่อๆ ไปก็จะทำให้ภาพชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ ว่า ท่านประธานาธิบดีคงขีดเส้นไว้สำหรับทีมเจรจาสหรัฐ สั่งให้ยอมได้หลายๆ อย่าง แต่ว่าต่ำสุดต้องคิด Tariffs ที่ 10% ให้ได้ !!!

มารอดูกันครับว่า ท้ายที่สุดแล้ว ในกลุ่มประเทศที่ถูกคิดเกิน 10% อัตราจะอยู่ที่ประมาณเท่าไร และกรณีจีน หลัง 90 วัน จะไปจบที่อัตราอะไร

เพราะล่าสุด สินค้าชิ้นเล็กๆ จากจีน ที่ราคาต่ำกว่า 800 ดอลลาร์ (ซึ่งใช้พื้นที่ถึง 90% ของเรือขนส่งสินค้าจากจีนที่เข้ามาที่ท่าเรือสหรัฐ) ไม่ได้รับการยกเว้นภายใต้สิ่งที่ตกลงกันที่เจนีวาให้เหลือ 10% แต่ต้องจ่ายภาษี 10+10+34 = 54% !!!

ทั้งหมด จะเป็นโครงสร้างภาษีนำเข้าใหม่ของสหรัฐที่กำลังค่อยๆ เฉลยออกมา ซึ่งจะเป็นตัวกำหนดอนาคตการส่งออกไทย ในช่วงครึ่งหลังของปี ว่าจะไปได้ไหม และเป็นตัวกำหนดว่า China Flooding จะเข้ามาที่เราแค่ไหน หมายความว่า เราคงต้องมีทีมเร่งหาตลาดใหม่ๆ ในช่วงที่เหลือ เตรียมไว้เป็นทางออกที่จะช่วยผ่อนหนักเป็นเบา เผื่อเอาไว้ด้วยครับ

โครงการดีที่ไม่ควรพลาด!!

📣 เชิญชวนผู้ประกอบการเข้าร่วม ✨
โครงการเกษตรปลอดภัยและมูลค่าสูง
กิจกรรมหลักการแปรรูปสินค้าเกษตรด้วยองค์ความรู้ เทคโนโลยี และนวัตกรรม เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มกิจกรรมย่อยพัฒนาอุตสาหกรรมเกษตรแปรรูปจังหวัดน่าน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 โดยสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดน่าน

คุณสมบัติ 💁🏻‍♀️
- เป็นผู้ประกอบการในภาคอุตสาหกรรมแปรรูปเกษตร // วิสาหกิจชุมชน หรือ SMEs // กลุ่มเกษตรกร

✅ สิ่งที่จะได้ในกิจกรรม :
- ได้รับคำปรึกษาด้านแผนการพัฒนา สำหรับกิจการ
- ได้รับการให้คำปรึกษาเชิงลึกด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์ 
- ร่วมศึกษาดูงาน เพิ่มเสริมทักษะการบริหารจัดการด้านเทคโนโลยีและการตลาด
- ร่วมกิจกรรมส่งเสริมและพัฒนาด้านการตลาดอุตสาหกรรมเกษตรแปรรูป (ทดสอบตลาด)

💥 ฟรี 🆓!!! ไม่เสียค่าใช้จ่ายตลอดโครงการ 💥

📅 ลงทะเบียนเข้าร่วมกิจกรรมได้ตั้งแต่ 15 - 25 พฤษภาคม 2568
ผ่าน Link : https://forms.gle/7too8kZGfzbzSCfs5

☎️ ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : 
• คุณสุดาภรณ์ (063-198-1000)
• คุณกัญญาณัฐ (080-061-9413)

‘มาดามแป้ง’ ประกาศอัดฉีดโต๊ะเล็กสาวไทย 1.5 ล้าน ต้องชนะจีน!..การันตีตั๋วไปฟุตซอลโลกครั้งแรก

(15 พ.ค. 68) 'มาดามแป้ง' นวลพรรณ ล่ำซำ นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ โทรเข้าไปให้กำลังใจ ฟุตซอลหญิงทีมชาติไทย ระหว่างประชุมทีม พร้อมอวยพรขอให้ทุกคนโชคดี และ คว้าชัยชนะเพื่อแฟนบอลชาวไทย ก่อนลงเล่นเกมสำคัญ พบกับ จีน (เจ้าภาพ) ในการแข่งขันฟุตซอลหญิงชิงแชมป์เอเชีย 2025 รอบรองชนะเลิศ 

นอกจากนี้ 'มาดามแป้ง' ยังให้กำลังใจแข้งโต๊ะเล็กสาวไทย พร้อมประกาศอัดฉีด 1,500,000 บาท หากเอาชนะ จีน พร้อมสร้างประวัติศาสตร์ การันตีสิทธิ์ไปฟุตซอลหญิง ชิงแชมป์โลก 2025 ครั้งแรก ที่ประเทศฟิลิปปินส์ ในช่วงเดือน พฤศจิกายน 2568

สำหรับ ฟุตซอลหญิงทีมชาติไทย อันดับ 5 ของโลก เตรียมพบกับ จีน อันดับ 24 ของโลก ในวันที่ 15 พฤษภาคม 2568 เวลา 16.00 น. ตามเวลาประเทศไทย ณ สนามกีฬา โฮฮอต ถ่ายทอดสดทาง https://m.youtube.com/watch?v=BvN4F6g05mc

‘พ่อลูกชาวไทย’ ถูกรวบคาสนามบินนาริตะ หลังต้องสงสัยทำร้ายพนักงานหน้าเคาน์เตอร์

เมื่อวันที่ (14 พ.ค.68) เว็บไซต์ Yahoo! JAPAN รายงานว่า ตำรวจสนามบินนาริตะ จังหวัดชิบะ ประเทศญี่ปุ่น ได้จับกุมชายชาวไทยวัย 66 ปี และลูกสาววัย 30 ปี ฐานต้องสงสัยทำร้ายร่างกายพนักงานสายการบินหญิงวัย 28 ปี หลังไม่พอใจการให้บริการขณะอยู่บริเวณหน้าเคาน์เตอร์ขาออก อาคารผู้โดยสาร 1

โดยเหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 14.45 น. ตามเวลาท้องถิ่น ผู้ก่อเหตุถูกกล่าวหาว่าคว้ามือพนักงานซึ่งกำลังปฏิบัติหน้าที่ เบื้องต้นตำรวจญี่ปุ่นตั้งข้อสังเกตว่าอาจเข้าข่ายเป็นการกลั่นแกล้งพนักงานจากความไม่พอใจในบริการ

รายงานระบุว่า ชายคนดังกล่าวอ้างตัวว่าเป็นอัยการและยอมรับผิด ขณะที่ลูกสาวปฏิเสธว่าไม่ได้แตะต้องพนักงานแต่อย่างใด โดยทั้งสองอยู่ระหว่างเตรียมเดินทางกลับประเทศไทยภายหลังท่องเที่ยวในญี่ปุ่น

(สุรินทร์) มทบ.25 มอบทุนการศึกษาให้กับบุตรของกำลังพล เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจให้กับกำลังพลและครอบครัว

เมื่อวานนี้ (14 พ.ค.68) พลตรี ไชยนคร กิจคณะ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 25 พร้อมด้วย คุณสายธาร กิจคณะ ประธานสมาคมแม่บ้านทหารบก สาขา มณฑลทหารบกที่ 25 และคณะนายทหาร มณฑลทหารบกที่ 25 มอบทุนการศึกษาเรียนดีให้กับ บุตรข้าราชการ, ลูกจ้าง และพนักงานราชการ ประจำปี 2568 ณ สโมสรค่ายวีรวัฒน์โยธิน จังหวัดสุรินทร์ มีจำนวน 146 ทุน แบ่งออกเป็น 3 ระดับ ดังนี้  

ทุนระดับชั้นประถมศึกษา ถึง มัธยมศึกษาตอนต้น จำนวน 107 ทุนๆ ละ 1,500 บาท รวมเป็นเงิน 160,500 บาท ทุนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย ถึง อนุปริญญา จำนวน 24 ทุนๆ ละ 2,000 บาท รวมเป็นเงิน 48,000 บาท ทุนระดับปริญญาตรี 15 ทุนๆ ละ 2,500 บาท รวมเป็นเงิน 27,500 บาท รวมทุนทั้ง 3 ระดับ เป็นเงินทั้งสิ้น 246,000 บาท ทั้งนี้เพื่อเป็นการส่งเสริม และกระตุ้นให้บุตรของกำลังพล ตั้งใจในการศึกษาเล่าเรียน มีความภาคภูมิใจในผลการเรียน เพื่อเป็นอนาคตที่สำคัญของครอบครัว, สังคม และประเทศชาติต่อไป

‘เอกนัฏ’ สั่งลุยล้างบาง 3 โรงงานรีไซเคิล นอมินี จ.ชลบุรี อายัดวัตถุอันตรายกว่า 550 ตัน พร้อมฟันโทษอาญาอ่วม

(15 พ.ค. 68) นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ได้มอบหมายให้ นางสาวฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าคณะทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม หัวหน้าชุดปฏิบัติการตรวจสุดซอยของกระทรวงอุตสาหกรรม หรือ “ทีมสุดซอย” พร้อมด้วย กรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) ลงพื้นที่ บริษัท เจี๋ยเซ่ง พลาสติก จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 88/2 หมู่ที่ 5 ต.หนองรี อ.เมือง จ.ชลบุรี ประกอบกิจการผลิตเม็ดพลาสติก บด ย่อย พลาสติก ทำผลิตภัณฑ์จากพลาสติก อัดเศษโลหะ อัดกระดาษ ทำยางแผ่น และบริษัท ติงซิ่ง (ไทย-จีน) เมทัล จำกัด ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่เดียวกัน ประกอบกิจการ บด ล้าง ร่อน จำพวกเศษพลาสติก เศษโลหะ และติดตั้งเครื่องจักร โดยพบว่ามีการประกอบกิจการโดยไม่ได้รับอนุญาต 

นางสาวฐิติภัสร์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบโรงงานทั้งสองแห่งเป็นโรงงานของนายทุนจีนถือหุ้นร่วมกับคนไทย โดยพบว่าบริษัท เจี๋ยเซ่งฯ มีใบอนุญาตประกอบกิจการ แต่ประกอบกิจการไม่ถูกต้องตามที่ได้รับอนุญาต และตรวจสอบพบวัตถุต้องสงสัย จำนวน 300 ตัน ซึ่งคาดว่าจะเป็นชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้แล้ว เจ้าหน้าที่จึงได้ยึดอายัดไว้  รวมทั้งเครื่องจักรที่ใช้ในการบดย่อยโลหะ ส่วนบริษัท ติงซิ่งฯ พบว่าเป็นโรงงานที่ไม่มีใบอนุญาต และพบการลักลอบประกอบกิจการ มีการครอบครองวัตถุอันตรายที่เป็นชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ใช้แล้ว รวมกับเศษสิ่งของไม่สามารถระบุชนิดกว่า 250 ตัน และยังพบร่องรอยการนำเศษพลาสติกที่บดย่อยมาถมดินข้างบ่อน้ำภายในโรงงาน ซึ่งอาจจะทำให้เกิดการปนเปื้อนของสารโลหะหนักในดินและแหล่งน้ำ อาจเป็นอันตรายกับชาวบ้านและชุมชนใกล้เคียงได้ ทางเจ้าหน้าที่สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดชลบุรี จึงแจ้งความดำเนินคดีกับทั้งสองบริษัท ใน 3 ข้อหาที่ สภ.เมืองชลบุรี ได้แก่ 1. ตั้งโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต โทษจำคุก 2 ปี ปรับไม่เกิน 2 แสน หรือทั้งจำทั้งปรับ 2.ประกอบกิจการโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต โทษจำคุก 2 ปี ปรับไม่เกิน 2 แสน หรือทั้งจำทั้งปรับ 3.ครอบครองวัตถุอันตราย โทษจำคุก 2 ปี ปรับไม่เกิน 2 แสน หรือทั้งจำทั้งปรับ เนื่องจากวัตถุอันตรายที่พบมีมากกว่า 250 ตัน  ซึ่ง 2 บริษัท มีน้ำหนักรวมกว่า 550 ตัน จึงส่งเรื่องให้ DSI เพื่อดำเนินคดีและขยายผลการลักลอบนำเข้าและเครือข่ายนอมินีต่อไป พร้อมเก็บตัวอย่างส่งไปยังศูนย์วิจัยและเตือนภัยมลพิษโรงงานภาคตะวันออก กรอ. เพื่อทำการตรวจพิสูจน์หาส่วนประกอบและสิ่งปนเปื้อนต่อไป 

นางสาวฐิติภัสร์ กล่าวต่ออีกว่า “ทีมสุดซอย” ได้ลงพื้นที่ต่อไปยัง บริษัท ชัยเมธี จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 69 ม.6 ต.หนองหงษ์ อ.พานทอง จ.ชลบุรี ประกอบกิจการคัดแยกสิ่งปฏิกูลหรือวัสดุที่ไม่ใช้แล้วที่ไม่เป็นอันตราย และทำเม็ดพลาสติก พบว่ามีการลักลอบประกอบกิจการโดยไม่ได้รับอนุญาต และนำกากตะกรันจากเตาหลอมโลหะ มาบดย่อยและร่อนแยกทองแดงจากกากตะกรัน เพื่อนำทองแดงที่ได้ไปจำหน่ายต่อ ส่วนกากที่เหลือส่งให้บริษัทอื่นไปบดย่อย โดยภายในพื้นที่โรงงานพบกองวัตถุดิบและสิ่งปฏิกูลจากวัสดุที่ไม่ใช้แล้ว จึงได้เก็บตัวอย่างเพื่อทำการตรวจสอบ 

“รัฐมนตรีฯ เอกนัฏ ได้มีนโยบายให้เร่งรัดจัดการกับโรงงานรีไซเคิลเถื่อนที่ลักลอบประกอบกิจการอย่างไม่ถูกต้องตามกฎหมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการครอบครองวัตถุอันตรายที่เป็นโลหะหนัก สามารถปนเปื้อนในแหล่งน้ำและดิน ซึ่งอาจจะส่งผลให้เกิดอันตรายกับประชาชนในพื้นที่ นอกจากนี้ยังพบการเชื่อมโยงไปยังเครือข่ายโรงงานที่มีความผิดและได้ดำเนินการเอาผิดไปแล้ว จึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมกันติดตามและขยายผลไปยังบริษัทหรือโรงงานที่คาดว่าจะมีความเกี่ยวพันกัน เพื่อกวาดล้างเอาผิดถึงต้นตอต่อไป” นางสาวฐิติภัสร์ กล่าว


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top