Tuesday, 17 June 2025
Hard News Team

รัสเซียเดือด! ตะเพิด ‘แอมเนสตี้’ พ้นแผ่นดิน ชี้เป็นหอกข้างแคร่ของรัฐและความมั่นคง

(21 พ.ค. 68) เพจเฟซบุ๊ก ปราชญ์ สามสี รายงานว่า รัสเซียประกาศลั่นกลางแดนหมีขาว สั่งแบน 'แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล' ให้พ้นแผ่นดิน! ระบุชัดเป็น 'องค์กรไม่พึงปรารถนา' พร้อมห้ามตั้งสำนักงานหรือขยับเขยื้อนทำกิจกรรมใด ๆ ในประเทศโดยเด็ดขาด!

กระทรวงยุติธรรมรัสเซียเผยแบบไม่ไว้หน้า ว่าแอมเนสตี้ไม่ได้มาเพื่อสิทธิมนุษยชนอย่างเดียว แต่แอบแฝงเจตนา 'ปั่นป่วน-ยั่วยุ' สนับสนุนยูเครนในสงคราม พร้อมกล่าวหาแรงถึงขั้นว่าเป็น 'เครื่องมือของฝ่ายนีโอนาซี' ที่ตั้งใจซ้ำเติมสถานการณ์ให้เลวร้าย

ไม่ใช่แค่ห้ามอยู่ห้ามทำงานเท่านั้น แต่คนรัสเซียคนไหนเกี่ยวข้องกับองค์กรนี้ก็เสี่ยงคุกสูงสุดถึง 5 ปี กลายเป็นการปิดฉากเสียงสะท้อนด้านสิทธิมนุษยชนแบบสิ้นเชิง!

แม้แอมเนสตี้จะเป็นองค์กรเก่าแก่ระดับโลก ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 1961 และเคยรณรงค์เพื่อสิทธิของผู้ถูกกดขี่ทั่วโลก แต่ในสายตารัสเซียวันนี้กลับถูกมองเป็น 'ภัยคุกคามความมั่นคง'

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่รัสเซียใช้ไม้แข็ง ก่อนหน้านี้ก็เคยซัด 'WWF' ให้เป็น 'ตัวแทนต่างชาติ' และถีบ 'Greenpeace' ออกจากประเทศไปแล้ว คราวนี้ถึงคิวแอมเนสตี้ที่โดนเล่นแรงกว่าทุกองค์กร!

โลกกำลังจับตามองว่า มาตรการเด็ดขาดนี้จะพารัสเซียห่างไกลจากความเข้าใจของประชาคมโลกไปอีกไกลแค่ไหน หรืออาจเป็นเพียงบทเริ่มต้นของการปิดปากสังคมให้เงียบกริบอย่างถาวร

ฉะเชิงเทรา-'รองบ่วง' ประธานเปิดงาน การบรรยายพิเศษ ในหัวข้อ 'เศรษฐกิจ EEC กับ  ทรัมป์ อเมริกันเฟิร์ส'

เมื่อวานนี้ (20 พ.ค.68)  #ดร.รัฐสภา นพเกตุ #รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดฉะเชิงเทรา เป็นประธานเปิดงาน การบรรยายพิเศษในหัวข้อ 'เศรษฐกิจ EEC กับ ทรัมป์ อเมริกันเฟิร์ส' ภายใต้สถาบันสร้างชาติ (NBI) จัดตั้งขึ้นโดยมีจุดประสงค์ในการพัฒนาภาวะการนำ ภาวะการบริหาร และภาวะคุณธรรม ให้กับผู้บริหารในภาครัฐ ภาคเอกชน

ณ หอประชุมสมภพภูติโยธิน โรงไฟฟ้าบางปะกง ตำบลท่าข้าม อำเภอบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา

โดยการบรรยายในครั้งนี้ มี #ศาสตราจารย์ดร.เกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์ #ประธานสภาการสร้างชาติและประธานหลักสูตรนักบริหารระดับสูงเพื่อสรรสร้างชาติภาคตะวันออก EEC เป็นผู้บรรยายพิเศษ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อเข้าร่วมรับฟัง และองค์กร เพื่อนำองค์ความรู้ปรับใช้กับการพัฒนางานในองค์กร จังหวัด และภูมิภาคตะวันออก ต่อไป

‘ชายชาวสิงคโปร์’ ปักหลักเช่าคอนโดอยู่เชียงใหม่ บินไปทำงานสิงคโปร์อาทิตย์ละวันหลังสู้ค่าครองชีพไม่ไหว

ชายสิงคโปร์อยู่เชียงใหม่ บินไปทำงานสิงคโปร์อาทิตย์ละวัน เพราะค่าเครื่องบิน ค่ากินอยู่ รวมแล้วถูกกว่าค่าเช่าคอนโดที่สิงคโปร์

เวลาพูดถึงเมืองไทย หลายคนอาจจำว่า เป็นสวรรค์ของ Digital Nomad แต่ในความเป็นจริงคนเหล่านี้เริ่มย้ายไปที่อื่นที่ 'ค่าครองชีพถูกกว่าไทย' อย่างบาหลีแล้ว อย่างไรก็ดี ก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะไม่ชอบเมืองไทย เพราะอย่างน้อยเมืองที่ค่าครองชีพต่ำและเต็มไปด้วยสินค้าและบริการสำหรับชาวต่างชาติอย่างเชียงใหม่ ก็ยังดึงดูดต่างชาติอยู่ แต่อาจเป็นแบบที่ต่างออกไป

Shau Chun Chen อยู่สิงคโปร์มาตลอดชีวิต และทำงานที่ Google มาเกือบ 10 ปี เขาโดนเลย์ออฟในช่วงการเลย์ออฟครั้งใหญ่ของบริษัทเทคโนโลยีจำนวนมากช่วงต้นปี 2024 แม้ว่าเค้าจะทำงานและเก็บเงินลงทุนไว้ได้ราว 50 ล้านบาท แต่ด้วยค่าครองชีพสิงคโปร์และอายุ เงินเท่านี้ไม่พอกินไปตลอดชีวิตแน่นอน เค้าจึงต้องหาวิธีใหม่ในการจัดการชีวิต

เกิดไอเดียว่าจะทำงานพาร์ตไทม์ที่สิงคโปร์ และอาศัยอยู่ในที่ๆ ค่าครองชีพถูกกว่าในระดับที่เงินของการทำงานพาร์ตไทม์เพียงพอ และหาเงินออนไลน์ด้วยการเป็น YouTuber และเป็นโค้ชธุรกิจตามที่มีการว่าจ้าง แต่งานหลักคืออาจารย์พิเศษในมหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ ที่รายได้ตกเดือนละ 50,000-100,000 บาท

เค้าเลยเลือกจะย้ายมาอยู่เชียงใหม่ เพราะรวมค่าเครื่องบินไปกลับสิงคโปร์กับค่าเช่าคอนโด ก็ยังถูกกว่าค่าเช่าคอนโดที่สิงคโปร์ เพราะค่าเช่าคอนโดที่นั่นตกประมาณ 60,000 บาทต่อเดือน แต่ถ้าอยู่เชียงใหม่ เช่าคอนโดใหม่เอี่ยมอยู่กับครอบครัวตก 12,000 บาทต่อเดือน ค่าเครื่องบินสายการบินโลว์คอสต์ไปสอนหนังสืออาทิตย์ละ 6,500 บาท เดือนละ 4 ครั้งก็ตก 26,000 บาท รวมค่าที่พักกับเครื่องบิน 38,000 บาท ค่าเดินทางของเค้ากับภรรยาในเชียงใหม่ 5,000 บาทต่อเดือน ส่วนค่าอาหารคิดกลมๆ ก็เริ่มที่ 7,000 บาท

ความน่าสนใจคือ Chen บอกว่าพวกชาวต่างชาติในเชียงใหม่ไม่ได้อยู่ในราคาถูกเท่าเค้า เพราะพวกนั้นเลือกซื้อสินค้าและบริการแบบ 'นำเข้า' ซึ่งรวม ๆ คือเชียงใหม่ไม่ได้ถูกกว่าที่อื่น แต่ถ้าจะใช้ชีวิตให้ย่อมเยาจริงๆ ต้องกินอยู่แบบคนท้องถิ่น ซึ่งเรียกว่าต้อง 'เรียนรู้วัฒนธรรม' ก็ไม่ผิด

ในระยะยาว เค้าก็ยังคิดว่าถ้ามีโอกาสก็อยากกลับไปอยู่บ้านเกิดที่สิงคโปร์ เพียงแต่เค้าอาจต้องรอเงินลงทุนให้โตขึ้นอีกเยอะ ๆ เพราะนี่คือประเทศที่ค่าครองชีพสูงระดับคนที่มีเงินทุน 50 ล้านบาทยังรู้สึกว่าตัวเองยังห่างไกลจากการมีอิสรภาพทางการเงิน

(สุรินทร์)ประธานสมาคมแม่บ้านทหารบก สาขากองทัพภาคที่ 2 ตรวจเยี่ยม สมาคมแม่บ้านทหารบก สาขา มณฑลทหารบกที่ 25

เมื่อวานนี้ (20 พ.ค.68) ที่ มณฑลทหารบกที่ 25 ค่ายวีรวัฒน์โยธิน อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์ ผศ.สุพางค์พรรณ พาดกลาง ประธานสมาคมแม่บ้านทหารบก สาขากองทัพภาคที่ 2 พร้อมคณะฯ ได้ประกอบพิธีวางพวงมาลาเพื่อรำลึกถึงวีรกรรมและความเสียสละ ของ พลตรีหลวงวีรวัฒน์โยธิน ณ บริเวณอนุสาวรีย์พลตรีหลวงวีรวัฒน์โยธิน 

จากนั้นลงพื้นที่เยี่ยมศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ค่ายวีรวัฒน์โยธิน อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์  โดยมี คุณสายธาร กิจคณะ ประธานสมาคมแม่บ้านทหารบก สาขา มณฑลทหารบกที่ 25 และคณะฯ ร่วมให้การต้อนรับ ทั้งนี้ประธานสมาคมแม่บ้านทหารบก สาขากองทัพภาคที่ 2 ได้ร่วมมอบสิ่งของให้เด็ก ณ ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ค่ายวีรวัฒน์โยธิน 

จากนั้นได้พบปะพูดคุยกับ คุณสายธาร กิจคณะ ประธานสมาคมแม่บ้านทหารบก สาขา มณฑลทหารบกที่ 25 และคณะฯ ณ ห้องประชุม 2 กองบัญชาการมณฑลทหารบกที่ 25 เพื่อรับฟังการบรรยายสรุปผลการปฎิบัติงานของสมาคมแม่บ้านทหารบก สาขา มณฑลทหารบกที่ 25 ในห้วงที่ผ่านมา


 

21 พฤษภาคม พ.ศ. 2493 ร. 9 พระราชทานปริญญาบัตรแก่บัณฑิตจุฬาฯ นับเป็นครั้งแรกในรัชสมัยของพระองค์

หลังจากเสด็จนิวัติกรุงเทพมหานครในปี พ.ศ. 2493 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ได้ทรงปฏิบัติระราชกรณียกิจ ในพระฐานะพระบรมราชูปถัมภกแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พระองค์ที่ 5 ทั้งในรูปแบบสืบเนื่องจากสมเด็จพระปิตุลาธิราช และพระบรมเชษฐาธิราชของพระองค์คือ พระบาสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล นั่นคือการพระราชทานปริญญาบัตรแก่นิสิตที่สำเร็จการศึกษา รวมทั้งที่ได้พระราชทานพระมหากรุณาธิคุณเป็นพิเศษคือ ได้เสด็จพระราชดำเนินมาทอดพระเนตรการแข่งขันกีฬากลางแจ้ง ที่สนามหน้าหอประชุมจุฬาฯ และได้พระราชทานรางวัลแก่นิสิตผู้ชนะการแข่งขัน

ในการประชุมสภามหาวิทยาลัย ครั้งที่ 153/2493 เมื่อวันเสาร์ที่ 13 พฤษภาคม 2493 ณ ห้องประชุมคณะวิศวกรรมศาสตร์ เริ่มประชุมเวลา 9.50 น. มีจอมพล ป. พิบูลสงคราม อธิการบดีในฐานะอุปนายกสภามหาวิทยาลัยเป็นประธานในที่ประชุม ศาสตราจารย์ ม.ร.ว.สลับ ลดาวัลย์ เป็นกรรมการและเลขานุการ เรื่องที่ประชุมซึ่งสำคัญยิ่งมี 2 เรื่องคือ เรื่องแรกคณบดีห้าคณะ ได้แก่ วิศวกรรมศาสตร์ อักษรศาสตร์และครุศาสตร์ วิทยาศาสตร์ สถาปัตยกรรมศาสตร์ พาณิชยศาสตร์และการบัญชี เสนอชื่อนิสิตผู้สำเร็จการศึกษาตามหลักสูตรคณะต่างๆ ในระดับปริญญาตรีและอนุปริญญา เพื่อขออนุมัติจากสภามหาวิทยาลัย เรื่องที่สำคัญยิ่งคือ การทูลเกล้าฯ ถวายปริญญากิตติมศักดิ์แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งที่ประชุมอนุมัติให้ทูลเกล้าฯ ถวายปริญญารัฐศาสตรดุษฎีกิตติมศักดิ์

สำหรับการเสด็จฯ พระราชทานปริญญาบัตรแก่บัณฑิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยในครั้งนั้น เป็นครั้งแรกในรัชสมัยของพระองค์อีกด้วย โดยบัณฑิตผู้ได้รับพระราชทานปริญญาจากพระหัตถ์ของพระองค์เป็นคนแรกคือ นายประกายเพ็ชร อินทุโสภณ วิศวกรรมศาสตรบัณฑิต เกียรตินิยมอันดับหนึ่ง และได้พระราชทานรางวัลเหรียญทองแดง สาขาวิชาชีววิทยาแก่ นายจรัส สุวรรณเวลา ซึ่งต่อมา ศาสตราจารย์ นายแพทย์จรัส สุวรรณเวลา ได้รับโปรดเกล้าฯ ให้ดำรงตำแหน่งอธิการบดีจุฬาฯ และนายกสภามหาวิทยาลัยในสมัยต่อมาอีกด้วย 

ข้อมูลจาก หอประวัติจุฬาฯ

‘รูบิโอ’ เผยเสียงสะท้อนจากวาติกันถึงทำเนียบขาว ชี้ ‘ยุโรป’ บางประเทศพูดถึงแต่ ‘สงคราม’ มากกว่าสันติภาพ

(20 พ.ค. 68) มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ เผยว่า ระหว่างเดินทางเยือนกรุงโรม เขาได้รับฟังมุมมองสะเทือนใจจากนักบวชชั้นสูงรายหนึ่ง ซึ่งมองว่าโลกในขณะนี้กลับตาลปัตร โดยมีผู้นำสหรัฐฯ อย่างโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ต้องการสันติภาพ ขณะที่บางประเทศในยุโรปกลับพูดถึงการทำสงครามอยู่เสมอ คำพูดดังกล่าวถูกถ่ายทอดในงานเลี้ยงของคณะกรรมการศูนย์เคนเนดีที่ทำเนียบขาว ซึ่งสะท้อนความรู้สึกของหลายฝ่ายในยุโรปอย่างชัดเจน

รูบิโอระบุเพิ่มเติมว่า หนึ่งในคาร์ดินัลที่เขาพบก่อนพิธีมิสซาของสมเด็จพระสันตะปาปากล่าวว่า “เป็นเรื่องแปลกที่เรามีประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่ต้องการสันติภาพ แต่กลับมีชาวยุโรปบางคนที่พูดถึงเรื่องสงครามตลอดเวลา” ซึ่งเป็นความเห็นที่ตอกย้ำภาพลักษณ์ใหม่ของสหรัฐฯ ในสายตาของผู้นำทางศาสนาในยุโรป

ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีทรัมป์ได้หารือทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย โดยทั้งสองเห็นพ้องถึงการสานต่อการติดต่อโดยตรงระหว่างรัสเซียและยูเครนในทุกระดับ รวมถึงการเจรจาในระดับผู้นำ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งความเคลื่อนไหวที่สะท้อนความพยายามลดความตึงเครียดในเวทีโลกของทรัมป์ผ่านแนวทางทางการทูตมากกว่าทางทหาร

‘เอกนัฏ’ เดินหน้าปราบ “อุตสาหกรรมศูนย์เหรียญ” ตั้งทีมสกัดกลุ่มสินค้า สายไฟ เหล็ก ยางล้อ พลาสติก

(20 พ.ค. 68) นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ปัญหาสินค้าและธุรกิจต่างประเทศที่ฝ่าฝืนกฎหมาย เป็นปัญหาใหญ่ระดับประเทศ และสถานการณ์การค้าของโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรงและรวดเร็ว ซึ่งในวันนี้ต้องยอมรับว่า การใช้วิธีการเดิม ๆ นั้น ไม่ทันต่อการปราบปรามและแก้ไขปัญหาสินค้าและธุรกิจต่างประเทศที่ฝ่าฝืนกฎหมาย โดยปัจจุบันกระทรวงอุตสาหกรรม ได้ร่วมมือกับกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ปราบปรามการผลิต นำเข้า และจำหน่ายสินค้าผิดกฎหมายที่ไม่ผ่านมาตรฐาน มอก. อย่างเข้มข้นและต่อเนื่อง โดยเฉพาะการจำหน่ายสินค้าผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์  กำหนดรายการสินค้าที่ต้องเฝ้าระวังการลักลอบสวมสิทธิ์เป็นสินค้าไทยเพิ่มเติม เร่งปิดช่องโหว่ทางกฎหมายที่เอื้อต่อการสวมสิทธิ์ เพิ่มบทลงโทษแก่ผู้กระทำความผิด ตรวจสอบโรงงานต่างชาติฝ่าฝืนกฎหมาย ตรวจสอบแหล่งที่มาของเงินทุนจดทะเบียน ทบทวนเงื่อนไขการส่งเสริมการลงทุนให้มีการจ้างแรงงานไทยและการใช้ปัจจัยการผลิตในประเทศ และยกระดับการติดตามตรวจสอบให้เป็นไปตามเงื่อนไขอย่างเคร่งครัด 

“ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา (ตุลาคม 2567- มีนาคม 2568) “ชุดตรวจการสุดซอย” ของกระทรวงอุตสาหกรรม ได้ปราบปราม “อุตสาหกรรมศูนย์เหรียญ” ซึ่งเป็นการกระทำความผิดหลากหลายรูปแบบ อาทิ โรงงานต่างชาติที่มีลักษณะเข้าข่ายเป็นนอมินี ซึ่งอยู่ในระหว่างการขยายผลร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ การลักลอบนำเข้าสินค้าที่ไม่ผ่านมาตรฐาน โดยพฤติกรรมผู้กระทำความผิดมีการบริหารจัดการอย่างเป็นระบบ และไม่มีตัวตนในประเทศไทย การลักลอบสวมสิทธิ์ผลิตสินค้าที่กำหนดให้ต้องเป็นไปตามมาตรฐาน และส่งออกโดยอ้างว่าเป็นสินค้าไทย การจำหน่ายสินค้าไม่ได้มาตรฐานโดยเฉพาะอย่างยิ่งในแพลตฟอร์มออนไลน์เชื่อมโยงกับกลุ่มทุนศูนย์เหรียญ โดยยึดอายัดสินค้าไม่ได้มาตรฐานกว่า 692.14 ล้านบาท”  นายเอกนัฏ กล่าว

นายวันชัย พนมชัย เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) เปิดเผยว่า จากการประชุมคณะกรรมการมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2568 ที่ผ่านมา สมอ. ได้เสนอวาระเร่งด่วนให้บอร์ดพิจารณาแต่งตั้ง “คณะอนุกรรมการศึกษาการเพิ่มประสิทธิภาพในการกำกับดูแลมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม" ทำหน้าที่ในการศึกษาการดำเนินการเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการกำกับดูแลมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ด้วยการพัฒนากระบวนการทั้งระบบ ตั้งแต่การกำหนดมาตรฐาน การตรวจสอบรับรอง และการกำกับดูแล เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลและรองรับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว รวมทั้งจัดทำข้อเสนอแนะและแนวทางการเพิ่มประสิทธิภาพในการกำกับดูแลผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม เพื่อปกป้องอุตสาหกรรมไทย และคุ้มครองความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน 

นอกจากนี้ บอร์ดยังได้มีมติเห็นชอบร่างมาตรฐาน จำนวน 46 มาตรฐาน โดยแบ่งเป็นสินค้าควบคุม  2  มาตรฐาน ได้แก่ เคเบิลเส้นใยนำแสงโทรคมนาคมภายนอกอาคารชนิดแขวนในอากาศรับน้ำหนักตัวเองได้ และ เคเบิลเส้นใยนำแสงชนิด ADSS แขวนตามแนวสายไฟฟ้า และมาตรฐานทั่วไป จำนวน 44 มาตรฐาน เช่น ถุงพลาสติกบรรจุอาหาร ถุงพลาสติกบรรจุอาหารสำหรับอุ่นในไมโครเวฟ ยานยนต์ที่ใช้บนถนน – ส่วนควบและเครื่องอุปกรณ์ระบบการใช้ก๊าซธรรมชาติอัดเป็นเชื้อเพลิง อนุภาคนาโนกักเก็บสารสกัดใบกระท่อม รหัสอักษรเบรลล์คอมพิวเตอร์สำหรับประเทศไทย เป็นต้น 

พร้อมทั้งเห็นชอบรายชื่อมาตรฐานที่ สมอ. จะจัดทำเพิ่มเติมในปี 2568 อีก 160 มาตรฐาน ครอบคลุมกลุ่มอุตสาหกรรมการเกษตรและเทคโนโลยีชีวภาพ อุตสาหกรรมการแพทย์ครบวงจร อุตสาหกรรมหุ่นยนต์เพื่ออุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่ และอุตสาหกรรมส่งเสริมผู้ประกอบการ จากเดิมที่บอร์ดอนุมัติรายชื่อมาตรฐานไปแล้ว 611 มาตรฐาน รวมเป็น 771 มาตรฐาน 

เลขาธิการ สมอ. กล่าวเพิ่มเติมว่า คณะอนุกรรมการฯ ชุดดังกล่าว จะประกอบด้วยผู้ทรงคุณวุฒิที่มีความรู้ความสามารถจากหลายหน่วยงาน เช่น กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม    การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นต้น และจะเร่งเสนอรายชื่อคณะอนุกรรมการฯ เพื่อให้บอร์ดให้ความเห็นชอบในการประชุมครั้งต่อไป โดยจะนำร่องใน 5 กลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ต้องควบคุมกำกับดูแลเป็นพิเศษก่อน เนื่องจากมีผลกระทบต่ออุตสาหกรรมภายในประเทศและความปลอดภัยของประชาชนในวงกว้าง ได้แก่ กลุ่มสายไฟ เหล็ก และโครงสร้างเหล็กประกอบสำเร็จ(Prefabrication) ยางล้อ และกลุ่มพลาสติก เพื่อเป็นต้นแบบในการขยายผล ไปยังกลุ่มผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ต่อไป” เลขาธิการ สมอ. กล่าว

‘ปราชญ์ สามสี’ ผู้เขียนบท ‘2475 รุ่งอรุณแห่งการปฏิบัติ’ ย้ำชัด ขอยืนหยัดตีแผ่ร่องรอยแห่งประวัติศาสตร์ด้วยข้อเท็จจริง หวังคนรุ่นหลังได้ตื่นรู้

(20 พ.ค. 68) ณ วันที่ ข้าพเจ้านั่งลงเขียนเกี่ยวกับหนังสือและภาพยนตร์ '2475 รุ่งอรุณแห่งการปฏิวัติ' สิ่งที่ข้าพเจ้ารู้สึกไม่ใช่แค่การเขียนคำนำธรรมดา ๆ หากแต่เป็นการถ่ายทอดข้อเท็จจริงที่ต้องการฝากไว้ให้กับคนรุ่นหลัง ผู้ที่เฝ้ามองและตั้งคำถามกับอดีตและอนาคตของสังคม

ตลอดเวลาที่ข้าพเจ้าได้ศึกษาและลงมือเขียนบท ข้าพเจ้าได้ค้นพบว่าประวัติศาสตร์ไม่ได้เป็นเพียงเรื่องราวในอดีต แต่เป็นบทเรียนที่ทิ้งร่องรอยไว้ให้เราได้หยิบขึ้นมาเรียนรู้และทบทวนในทุกยุคสมัย สิ่งที่เห็นชัดเจนคือ ปัญหาที่แท้จริงไม่ได้อยู่ที่ข้อเท็จจริงเพราะ ความจริงมันปรากฎอยู่บนหนังสือมาตั้งแต่แรกแล้ว แต่อยู่ที่การยอมรับและการไม่ปล่อยให้อคติและโทสะบดบังสายตาแห่งความจริง

การเขียนหนังสือเล่มนี้ เหมือนกับการยืนหยัดในท่ามกลางพายุแห่งการบิดเบือนและการตั้งคำถาม ซึ่ง ข้าพเจ้าได้รับทั้งเสียงวิพากษ์วิจารณ์ การกดดัน และคำท้าทายจากผู้ที่ไม่ต้องการให้ความจริงถูกเปิดเผย แต่ข้าพเจ้ากลับเห็นว่าสิ่งเหล่านี้คือแรงผลักดันที่ทำให้เรายืนหยัดมั่นคงยิ่งขึ้น

ในท้ายที่สุดแล้ว ข้าพเจ้ารู้สึกว่าการเขียนครั้งนี้คือการประกาศถึงสัจธรรมอันเป็นนิรันดร์ว่า 'ความจริง แม้จะขมขื่น แต่มันก็ยังคงเป็นความจริง' ดังที่ เพลโต (Plato) ได้กล่าวไว้ 'ไม่มีใครถูกเกลียดมากไปกว่าผู้ที่พูดความจริง' และในวันนี้ ข้าพเจ้ายังคงยืนหยัดในคำพูดนั้นเช่นเดิม

ท้ายนี้ ข้าพเจ้าอยากฝากถึงผู้อ่านทุกคนว่า จงอย่าเพียงแค่จ้องมองอดีตผ่านกระจกขุ่นมัว แต่จงหยิบยกบทเรียนจากประวัติศาสตร์มาเป็นคบไฟส่องทางในปัจจุบันและอนาคต หากท่านสนใจและต้องการสนับสนุน สามารถเยี่ยมชมเว็บไซต์ 2475 Animation หรือหาซื้อหนังสือและสื่ออื่น ๆ ได้ที่ Shopee โดยจะมีลิงก์ให้นะครับ
https://www.facebook.com/share/1AKLpE3mrB/
https://th.shp.ee/nyAER28

คนจีนรุ่นใหม่แห่เรียน ‘ภาคค่ำ’ อัปสกิลแค่หลักพัน คอร์สหลากหลาย ตั้งแต่ใช้ AI ขับโดรน จนถึงชงกาแฟ-แต่งหน้า

(20 พ.ค. 68) หลังฤดูกาลหางานช่วงเดือนมีนาคม-เมษายนผ่านไป คนหนุ่มสาวชาวจีนเริ่มหันมามองหาโอกาสใหม่ ๆ ไม่ใช่แค่สมัครงานหรือโปรโมตตัวเองในที่สาธารณะ แต่ยังเลือกเข้าเรียนใน “โรงเรียนภาคค่ำ” ซึ่งกำลังเป็นทางเลือกยอดนิยมในการอัปสกิลด้วยงบหลักพันบาท

กระแสโรงเรียนภาคค่ำกลับมาเป็นที่สนใจหลังโครงการ “โรงเรียนกลางคืนสำหรับประชาชน” ในเซี่ยงไฮ้กลายเป็นไวรัลบนโลกออนไลน์ ด้วยค่าเรียนเพียงราว 500 หยวน (ราว 2,300 บาท) หลักสูตรหลากหลายตั้งแต่การใช้ AI ไลฟ์ขายของ ไปจนถึงขับโดรนหรือทำเครื่องดื่ม ซึ่งตอบโจทย์ทั้งสายอาชีพและงานอดิเรก บางคอร์สยังมีโอกาสได้งานพาร์ตไทม์ต่อยอดหลังเรียนจบ

โรงเรียนเหล่านี้แบ่งเป็น 2 ประเภทหลักคือ โรงเรียนที่ดำเนินการโดยภาครัฐ/ชุมชน และโรงเรียนของภาคเอกชนหรือกลุ่มคนรุ่นใหม่ จุดเด่นคือราคาเข้าถึงง่ายและไม่จำเป็นต้องมีวุฒิการศึกษาเฉพาะทาง ผู้เรียนส่วนใหญ่เป็นวัยทำงานที่มีเป้าหมายชัดเจน ทั้งเพิ่มทักษะ รับมือกับเทคโนโลยีใหม่ หรือเตรียมตัวเปลี่ยนอาชีพในอนาคต

นอกจากผู้เรียนแล้ว ยังมีคนทำงานบางส่วนผันตัวมาเป็นผู้สอนในโรงเรียนภาคค่ำ โดยใช้ประสบการณ์ตรงเป็นใบเบิกทาง เช่น เสี่ยวเชียนในกว่างโจวที่สอนแต่งหน้า พร้อมช่วยแนะงานให้นักเรียนแบบไม่เป็นทางการ กลายเป็นพื้นที่แลกเปลี่ยนทั้งความรู้และเครือข่ายงาน

โรงเรียนภาคค่ำจึงไม่ใช่แค่คลาสเรียนหลังเลิกงาน แต่เป็นเวทีสร้างโอกาส ลดความเสี่ยงในการเปลี่ยนอาชีพ และเปิดทางเลือกใหม่ให้คนจีนรุ่นใหม่ได้พัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่อง ในราคาที่จับต้องได้และเรียนรู้ได้จริงจากประสบการณ์ตรง

‘เปรมชัย กรรณสูต’ ป่วยหนักระบบหายใจ เรือนจำส่งตัวด่วน!..เข้า รพ.ราชทัณฑ์

(20 พ.ค. 68) นายเปรมชัย กรรณสูต หนึ่งในผู้ต้องหาในคดีอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ถล่ม ถูกส่งตัวด่วนไปรักษาที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ หลังมีอาการทางเดินหายใจผิดปกติและมีโรคประจำตัวหลายโรค ประกอบกับอายุมาก แพทย์จึงพิจารณารับตัวไว้ดูแลอย่างใกล้ชิด

ก่อนหน้านี้ ศาลอาญาไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวผู้ต้องหาในคดีนี้จำนวน 15 ราย แม้จะยื่นขอประกันด้วยหลักทรัพย์รายละ 6-8 แสนบาท โดยให้เหตุผลว่าเป็นคดีมีอัตราโทษสูง เกรงว่าจะหลบหนีหรือยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน

นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า นายพิมล เจริญยิ่ง อายุ 85 ปี วิศวกรที่ร่วมเป็นผู้ต้องหาในคดีเดียวกัน มีอาการเครียดและภาวะทางกายซีกซ้ายอ่อนแรง เจ้าหน้าที่จึงรีบนำตัวส่งต่อไปรักษาที่โรงพยาบาลภูมิพลแล้ว ส่วนผู้ต้องขังรายอื่นยังถูกควบคุมตัวภายในเรือนจำภายใต้มาตรการเฝ้าระวังสุขภาพอย่างใกล้ชิด


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top