Sunday, 19 May 2024
Hard News Team

'ธนกร' เอือม!! ผลสอบ 2 สส.ก้าวไกลคุกคามทางเพศ 'ผิดจริง' คนหนึ่งถูกขับออกจากพรรค แต่อีกคนกลับได้ไปต่อ

(2 พ.ย.66) นายธนกร วังบุญคงชนะ อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ สส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กถึงความปั่นป่วนของพรรคก้าวไกล หลังมติขับ สส.คุกคามทางเพศ 2 มาตรฐาน ระบุว่า...

"มาตรฐานใหม่สูงลิ่วจริง ๆ
ผลสอบ 2 สส.คุกคามทางเพศผิดจริง
คนหนึ่งถูกขับออกจากพรรค 
สส. อีกคนได้ไปต่อ อนาถใจจริง"

‘ระเบิดฟองน้ำ’ ระเบิดเคมีชนิดฟองโฟม อาวุธลับของกองทัพอิสราเอล ใช้ปิดกั้นทางเข้า-ออกอุโมงค์ใต้ดินฉนวนกาซา สกัดเส้นทางกลุ่มฮามาส


ระเบิดฟองน้ำ (Sponge Bomb) จะทำลายกลุ่มฮามาสลงราบคาบได้หรือไม่?

กองทัพอิสราเอล (IDF) เตรียม ‘ระเบิดฟองน้ำ’ เป็นอาวุธปิดกั้นอุโมงค์ฉนวนกาซา ขณะที่กองกำลังภาคพื้นดินของอิสราเอลเริ่มเข้าสู่ฉนวนกาซา การวิเคราะห์จำนวนมากที่เผยแพร่นับตั้งแต่เริ่มต้นความขัดแย้ง ความท้าทายที่ใหญ่ที่สุดที่กองทัพอิสราเอลจะเผชิญในการรุกภาคพื้นดินในฉนวนกาซา คือ อุโมงค์ใต้ดินที่เรียกว่า ‘รถไฟใต้ดินของฉนวนกาซา’

อุโมงค์ใต้ดินเขาวงกตที่สร้างขึ้นโดยกลุ่มฮามาสในช่วง 15 ปีที่ผ่านมา ใช้เพื่อเก็บจรวดและกระสุนปืน และช่วยให้สมาชิกกลุ่มฮามาสสามารถเคลื่อนที่ได้โดยไม่ถูกตรวจพบ เครือข่ายอุโมงค์เหล่านี้มีขนาดประมาณตั้งแต่ 40–80 เมตร และขยายออกไปกระทั่งหลายร้อยกิโลเมตร อุโมงค์เหล่านี้เป็นที่ปลอดภัยสำหรับกลุ่มฮามาส และส่วนใหญ่อยู่ใต้พื้นที่พลเรือน

ภายในอุโมงค์ กลุ่มฮามาสเก็บสะสมอาวุธและสามารถป้องกันตนเองจากการโจมตีของ IDF ในช่วงกลางทศวรรษ 1990 กลุ่มฮามาสเริ่มสร้างอุโมงค์เหล่านี้ และสามารถสร้างเพิ่มขึ้นได้อย่างรวดเร็วเมื่อกลุ่มฮามาสเข้าควบคุมฉนวนกาซาโดยสมบูรณ์ในปี 2006 


หนังสือพิมพ์ Telegraph ระบุว่า IDF กำลังพยายามใช้หุ่นยนต์และโดรนในอุโมงค์ เพื่อไม่ให้ทหารของตนตกอยู่ในอันตราย โดยสังเกตว่า จนถึงขณะนี้ยานพาหนะเหล่านี้ยังคงประสบปัญหาในการทำงานในอุโมงค์ใต้ดิน

สำหรับ ‘ระเบิดฟองน้ำ’ ได้รับการพัฒนาโดย IDF เพื่อจัดการกับสงครามอุโมงค์ของกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซา โดยเป็นอุปกรณ์พิเศษที่ออกแบบมาเพื่อปิดกั้นอุโมงค์ ซึ่งมีลักษณะเป็นระเบิดเคมีที่ไม่มีการระเบิด แต่จะสร้างฟองโฟมที่สามารถขยายและแข็งตัวได้อย่างรวดเร็ว และมีขนาดเล็กพอที่จะใช้โดยทหารเพียงหนึ่งหรือสองคนในการติดตั้ง (คล้ายสเปรย์โฟมที่ใช้อุดรอยหลังคาหรือผนังอาคารบ้านเรือนที่ใช้กันทั่วไป)

ปกติแล้ว ‘ระเบิดฟองน้ำ’ จะถูกบรรจุอยู่ในภาชนะพลาสติก โดยมีแท่งโลหะกั้นเพื่อแยกของเหลว 2 ชนิดที่แตกต่างกัน เมื่อมีการใช้งานแท่งโลหะกั้นจะถูกดึงออก และทำให้ของเหลวผสมกันจนเกิดการขยายตัว กระทั่งสามารถปิดกั้นอุโมงค์เป้าหมายที่ต้องการได้


ในปี 2021 มีรายงานว่า IDF ได้ทำการทดสอบระเบิดฟองน้ำในอุโมงค์จำลอง ระหว่างการทดสอบระเบิดเหล่านี้ครั้งแรกพบว่า ‘สารเคมีเหลว’ (liquid emulsion) เป็นอันตรายหากใช้งานไม่อย่างถูกต้อง ซึ่งทำให้ทหารอิสราเอลหลายนายถึงกับตาบอดมาแล้ว

เคยมีการใช้โฟมเหนียวทางการทหารเพื่อเป็นอาวุธทางเลือก โดยมีรายงานว่า กองกำลังนาวิกโยธินสหรัฐฯ และกองทัพบกสหรัฐฯ ได้ใช้โฟมเป็นอาวุธที่ไม่อันตรายถึงชีวิตในการควบคุมฝูงชน หรือควบคุมนักรบที่เป็นฝ่ายศัตรู การใช้ ‘ระเบิดฟองน้ำ’ ทำให้เกิดข้อกังวลด้านศีลธรรมเป็นอย่างมาก การกำหนดเป้าหมายในการทำลายอุโมงค์เหล่านี้ มีความเกี่ยวข้องกับความเสี่ยงต่อชีวิตของพลเรือน กลายเป็นความท้าทายที่ซับซ้อนสำหรับ IDF ในการต่อต้านภัยคุกคามจากกลุ่มฮามาสโดยไม่ทำอันตรายต่อผู้บริสุทธิ์ อีกทั้งยังต้องเผชิญความเสี่ยงเป็นอย่างมากต่อการถูกประณามจากนานาชาติอีกด้วย

'เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี' ทรงเผยโฉมแฟชัน SIRIVANNAVARI ประจำฤดูใบไม้ร่วง-ฤดูหนาว คอลเลกชันเปี่ยมพลัง ผ่านแรงบันดาลใจจากนักบินหญิง

(2 พ.ย.66) แรงบันดาลใจในการออกแบบคอลเลกชันเสื้อผ้าผู้หญิง ประจำฤดูใบไม้ร่วง/ฤดูหนาว 2023-2024 โดย สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ แบรนด์ SIRIVANNAVARI คือการเชิดชูความสำเร็จในชีวิตของผู้หญิงที่ไล่ตามความฝันอย่างกล้าหาญ และท้าทายขนบธรรมเนียมแบบแผนในสังคม ผ่านการถอดรหัส และตีความใหม่ เพื่อเล่าเรื่องราวของนักบินหญิง 3 คน ผู้กรุยเส้นทางแห่งความสำเร็จ สร้างประวัติศาสตร์วงการการบินให้แก่ผู้หญิงทั่วโลก

เอมิเลีย เอียร์ฮาร์ต (Amelia Earhart) นักบินหญิงชาวอเมริกัน ผู้สร้างประวัติศาสตร์การบินในปี 1932 สตรีคนแรกของโลกที่บินเดี่ยวข้ามมหาสมุทรแอตแลนติก โดยความสำเร็จครั้งนั้นนับเป็นการจุดประกายสำคัญ และสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้หญิงทั่วโลก ทั้งยังช่วยปลุกกระแสสังคมขับเคลื่อนบทบาทและสิทธิสตรีอย่างกว้างขวาง

วาเลนตินา เทเรชโควา (Valentina Tereshkova) นักบินอวกาศหญิงคนแรกชาวรัสเซีย กับการเดินทางสู่อวกาศในปี 1963 จากหญิงสาวในโรงงานทอผ้า สู่การเป็นนักบินอวกาศหญิง ปลุกกระแสการก้าวกระโดดแห่งโอกาสครั้งยิ่งใหญ่ รวมถึงโลกของการสำรวจอวกาศและเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ก่อให้เกิดความเท่าเทียมทางเพศ

และเจอรี ม็อก (Jerrie Mock) ผู้ทำลายกรอบทัศนคติแบบเหมารวมเชิงเพศกับการเป็นนักบินหญิงผู้บินเดี่ยวรอบโลกด้วยเส้นทาง 22,860 ไมล์ และลงจอดในนานาประเทศคนแรกของโลก

เรื่องราวของผู้หญิงทั้ง 3 คน เป็นแรงบันดาลใจอันยอดเยี่ยมของคอลเลกชันเสื้อผ้าผู้หญิง ประจำฤดูใบไม้ร่วง/ฤดูหนาว 2023-2024 ถ่ายทอดผ่านรูปทรงเสื้อผ้าในช่วงทศวรรษ 1940 ที่มีความโปร่งเพรียวเจือกลิ่นอาย และองค์ประกอบของแฟชันนักบินแห่งยุค อาทิ เสื้อผ้าหนัง เสื้อผ้าเฉพาะทาง และโทนสีที่ดูโดดเด่นแต่เรียบหรูสู่ผลงาน สร้างสรรค์คอลเลกชันที่แสดงถึงหัวใจหลักของแบรนด์ SIRIVANNAVARI ที่นำเสนอการผสมผสานกันอย่างลงตัว

ระหว่างทรวดทรงละเอียดประณีตของอิสตรี กับความแข็งแกร่งแบบสุภาพบุรุษ ลายพิมพ์โดดเด่น งานฝีมือปักอันเชี่ยวชาญ เจือความเป็นไทยอย่างแยบคาย มีการผสมผสานความแตกต่างอย่างลงตัวของการเลือกใช้ผ้า อาทิ ผ้าไหมเนื้อนุ่มละเอียด กับลูกไม้หรู ผ้าชีฟองโปร่งบางปักอย่างหรูหรา บรรจงเข้าคู่กับหนัง หรือผ้าวูลเนื้อหนัก โทนสีโดดเด่นของคอลเลกชัน คือ สีขาว ตัดกันกับสีดำ และเติมความหรูหราด้วยสีเบจ

และอีกหนึ่งไฮไลท์ที่สำคัญ ได้แก่ ลายพิมพ์พิเศษประจำคอลเลกชัน ที่จำลองงานแพตช์เวิร์กรวบรวมภาพวาดฝีพระหัตถ์ขององค์ดีไซเนอร์ และสัญลักษณ์ของแบรนด์ในช่วงยุคต่างๆ ดุจการจารึกประวัติศาสตร์ของแบรนด์ ลงสู่บนผืนผ้า

จากแนวคิดหลักที่มุ่งสะท้อนถึงจิตวิญญาณนักผจญภัย ที่แฝงอยู่ในเครื่องแบบนักบินหญิง IRIS Jacket สัญลักษณ์ประจำแบรนด์ ได้รับการปรับสัดส่วนให้ดูเพรียวบาง สู่ ‘IRIS Jacket new beginning’ ด้วยลูกเล่นการตัดเว้าช่วงเอว มุมไหล่เสื้อสี่เหลี่ยมจัตุรัส ในขณะที่ ‘Iconic IRIS jacket’ มาในความยาวสองรูปแบบ คือ แจ็กเกตตัวสั้น ปกแหลม และแจ็กเกตความยาวระดับกึ่งกลางสะโพก และอีกชิ้นงานเด่น คือ ‘IRIS Thai Drapes’ ชุดบอดี้สูทจับเดรปช่วงอก ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากเสื้อไทยโบราณ

ผลงานเสื้อผ้าคอลเลกชัน ประจำฤดูใบไม้ร่วง/ฤดูหนาว 2023-2024 นี้ เผยอีกด้านหนึ่งของเหล่านักบินหญิง ความกล้าหาญและความแข็งแกร่งที่ถูกสะท้อนผ่านดีไซน์อันทรงเสน่ห์ และหรูหรา เสื้อคอโบว์ป้ายด้านหน้าเผยความเซ็กซี่ เข้าคู่กับกางเกง และเพื่อเสริมความ สมบูรณ์แบบของคอลเลกชันนี้ นอกเหนือจากเสื้อผ้า Ready to Wear แล้ว ยังมีไอเท็มแฟชันอย่างครบครัน อาทิ แว่นตากันแดด กระเป๋า รองเท้า และเครื่องประดับ ครบลุคการแต่งกายแห่งผู้หญิงยุคใหม่

ในทางกลับกัน เพื่อถ่ายทอดความโลดโผน และรักการผจญภัยของสุภาพบุรุษ S’Homme (เอส อ็อม) คอลเลกชั่นเสื้อผ้าผู้ชาย ได้นำเสนอเอกลักษณ์ความปราณีตของผู้ชายในแบบฉบับของแบรนด์ SIRIVANNAVARI ในโทนพาเลตสีขรึม อาทิ สีน้ำเงินเข้มและสีดำ ผลงานที่ได้แรงบันดาลใจจากนักบินหญิงในประวัติศาสตร์ โดดเด่นด้วยชุดแจ็กเกตสูท หรือเสื้อโค้ตตัวยาวกรอมข้อเท้า เสื้อเชิ้ตคอสูงที่มาพร้อมผ้าพันคอนักบิน เข้าคู่กับกางเกงสไตล์เทเลอร์ขาสอบหรือขากว้าง และกางเกงจ็อกเกอร์ รวมไปถึงผลงานผ้าพิมพ์ลายประจำคอลเลกชั่น ลายคอลลาจลายฝีพระหัตถ์ ที่ปรากฏบนเสื้อ แจ็กเกตนักบิน และกระเป๋าดัฟเฟิล รองเท้าคอมแบตบู้ท และโลฟเฟอร์ที่เข้ากันได้อย่างลงตัว ถือเป็นการผสานกันระหว่างประโยชน์ใช้งาน และภาพแห่งแรงบันดาลใจ นำมาสู่ลุคที่ดูกล้าหาญ แข็งแกร่ง แต่ก็แฝงไปด้วย ความโรแมนติก

บทสรุปแห่งงานออกแบบที่เป็นจุดเชื่อมระหว่างโลกตะวันตกกับโลกตะวันออกให้พบกัน นำเสนอความทันสมัย วิสัยทัศน์ความกล้าและอิสระเสรี ที่เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ในทุกอณูของความเป็นผู้หญิง และเปิดรับตัวตนอันโลดโผนของผู้ชายไว้ด้วย โดยคอลเลกชันประจำฤดูใบไม้ร่วง/ฤดูหนาว 2023-2024 ได้จัดงานแสดงแฟชันพรีเซนเตชั่น เปิดตัวคอลเลกชันเป็นครั้งแรก ในช่วงงาน Paris Fashion Week เมื่อเดือนมีนาคม 2023 ที่ผ่านมา เพื่อแสดงตัวตนและเจตนารมณ์ของผู้ที่กล้าฝันและบุกเบิกเส้นทางใหม่ แบรนด์ SIRIVANNAVARI สร้างมาตรฐานใหม่ของความหรูหรา แข็งแกร่ง ความเป็นไปได้อันไร้ที่สิ้นสุดผ่านงานออกแบบอันงดงามประณีต และเจตนารมณ์อันแรงกล้าที่จะมอบพลังให้ทั้งผู้ชายและผู้หญิง

‘SINOPEC SUSCO’ ปั๊มน้ำมันน้องใหม่เลือดผสม ‘ไทย-จีน’  ปักหมุดสาขาแรก ‘รัชดาภิเษก’ ตั้งเป้าขยายครบ 5 สาขาในปีนี้

สถานีบริการน้ำมัน ‘SINOPEC SUSCO’ ปั๊มน้ำมันยักษ์ใหญ่สัญชาติ ‘ไทย-จีน’ เปิดตัว ‘สาขาแรก’ ในประเทศไทย ปักหมุด ‘รัชดาภิเษก’ เป็นที่เรียบร้อย โดยมาพร้อมกับสโลแกน Fuel To The Max ที่พร้อมเติมพลังให้เต็มแมกซ์ในทุกวัน เลือกพิกัดดี มีสิ่งอำนวยความสะดวกหลายอย่าง เช่น ศูนย์บริการรถยนต์ B-Quik, ร้านสะดวกซื้อ Lawson108 และร้านชาวดอยคอฟฟี่ ฯลฯ

หลี่ เว่ย กรรมการผู้จัดการบริษัท เปิดเผยว่า เลือกพิกัดรัชดาภิเษก เนื่องจากอยู่ในโซนตัวเมือง และเขตชุมชน พร้อมตั้งเป้าขยายสาขา ให้ครบ 5 สาขาภายในปีนี้

ทั้งนี้ ปั๊มน้ำมันดังกล่าว เป็นของบริษัท ไซโนเปค ซัสโก้ จำกัด ซึ่งเป็นการร่วมทุนระหว่าง บริษัท ซัสโก้ จำกัด (มหาชน) หรือ SUSCO ถือหุ้น 51% กับบริษัท ไซโนเปค (ฮ่องกง) 49% ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ SINOPEC Group ยักษ์พลังงานจีน

สำหรับดีลดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อปลายปี 2565 ที่คณะกรรมการ บริษัท ซัสโก้ จำกัด (มหาชน) มีมติเห็นชอบขายหุ้น บริษัท ซัสโก้ ดีลเลอร์ส จำกัด (SDA) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ SUSCO ในสัดส่วน 49% ให้แก่ ไซโนเปค (ฮ่องกง) บริษัทลูกในเครือไซโนเปค ด้วยมูลค่า 34 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ1,175.18 ล้านบาท

บริษัทร่วมทุนนี้ จะมีสถานีบริการน้ำมัน และ น้ำมันอากาศยาน รวมไปถึงการขยายโอกาสธุรกิจในอนาคต

ขณะที่ SUSCO ได้รับซื้อสินทรัพย์ของสถานีบริการน้ำมันกลับไปจำนวน 14 สถานี ทำให้บริษัทร่วมทุน SDA มีสถานีบริการน้ำมันเหลืออยู่ 25 แห่ง พร้อมกันนี้ SDA ได้เช่าที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างจำนวน 10 แปลงเป็นเวลา 20 ปี ด้วยค่าเช่ารวมประมาณ 278.40 ล้านบาท

โดยมีสถานีบริการน้ำมันภายใต้การบริหารของบริษัท 25 แห่ง มีเป้าหมายจะเปลี่ยนเป็นสถานีบริการน้ำมัน SINOPEC SUSCO ต่อไป ซึ่งมีอยู่ทั้งในกรุงเทพฯ และปริมณฑล รวมทั้งต่างจังหวัด เช่น พระนครศรีอยุธยา นครปฐม ราชบุรี กาญจนบุรี สระบุรี ชลบุรี และนครราชสีมา

หลังเปิดตัวด้วยการอัดโปรโมชั่น ลดราคาน้ำมันลิตรละ 1 บาท ถึงสิ้นเดือนที่ผ่านมา โดยราคาน้ำมันส่วนใหญ่ เท่ากับแบรนด์เจ้าตลาด และยังมีโปรบัตรเครดิต รวมถึงโปรเติม 900 แจกน้ำ 1 ขวด เหมือนเช่นปั๊ม SUSCO ก่อนหน้านี้ด้วย

พิษณุโลก ประธานสมาคมแม่บ้านทหารบก สาขากองทัพภาคที่ 3 เป็นประธานการประชุมประจำปีงบประมาณ 2567 

วันที่ 2 พฤศจิกายน 2566 เวลา 11.00 นาฬิกา ที่ ห้องบันเทิงทัพ 3 สโมสรบันเทิงทัพ ค่ายสมเด็จพระนเรศวรมหาราช อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก คุณ คัทลียา แสงศิริรักษ์ ประธานสมาคมแม่บ้านทหารบก สาขากองทัพภาคที่ 3 เป็นประธานการประชุมสมาคมแม่บ้านทหารบก สาขากองทัพภาคที่ 3 ประจำปีงบประมาณ 2567 เพื่อมอบเเนวทางการปฏิบัติ ตามนโยบาย ของนายกสมาคมแม่บ้านทหารบก และสมาคมแม่บ้านทหารบก สาขา กองทัพภาคที่ 3  โดยดำเนินการตามโครงการต่างๆ ให้เป็นไป ตามนโยบายของสมาคมแม่บ้านทหารบก อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้กำลังพลและครอบครัว มีขวัญและกำลังใจเพิ่มขึ้น และมีสภาพความเป็นอยู่ที่ดียิ่งขึ้น และยั่งยืนต่อไป 

จากนั้นเดินทางไปร่วมกิจกรรมเลี้ยงอาหารกลางวัน พร้อมมอบสิ่งของยังชีพให้กับเด็กนักเรียนโรงเรียนพิษณุโลกปัญญานุกูล ณ โรงเรียนพิษณุโลกปัญญานุกูล ตำบลมะขามสูง อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก

ต่อจากนั้นเดินทางไปเลี้ยงอาหารกลางวัน และมอบสิ่งของยังชีพให้กับ สถานคุ้มครองคนไร้ที่พึ่งวังทอง ตำบลวังทอง อำเภอวังทอง จังหวัดพิษณุโลก 

ปรีชา นุตจรัส รายงานข่าวพิษณุโลก

สืบภาค 4 รวบยกแก๊งกราดยิงกลางงานหมอลำ

ตามที่เมื่อวันที่ 27 ต.ค.66 ได้เกิดเหตุ แก๊งวัยรุ่นยกพวกตีกัน และใช้อาวุธปืนยิงใส่คู่อริจนเสียชีวิต ในงานแสดงหมอลำ ประเพณีแข่งเรือประจำปี ชาวบ้านปากอูน ในเขตเทศบาลตำบลศรีสงคราม อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม 

ภายใต้การอำนวยการของ
พล.ต.ท.สรายุทธ สงวนโภคัย ผบช.ภ. 4
พล.ต.ต.ณัฐนนท์ ประชุม  รอง ผบช.ภ.4 
พล.ต.ต.นพเก้า โสมนัส ผบก.สส.ภ.4
พล.ต.ต.ธวัชชัย ถุงเป้า ผบก.ภ.จว.นครพนม

ได้มอบหมาย สั่งการให้
พ.ต.อ.พงฤทธิ์  คงศิริสมบัติ  รอง ผบก.สส.ภ.4
พ.ต.อ.วิโรจน์ สีน้ำเงิน รอง ผบก.สส.ภ.4
พ.ต.อ.อรรถพร สุริยเลิศ รอง ผบก.สส.ภ.4
พ.ต.อ.ชาญ​ณรงค์​ มาก​พิสุทธิ์​ 
ผกก.สืบสวน1 บก.สส.ภ.4
พ.ต.ท.สมภพ  กองสมบัติ
รอง ผกก.สืบสวน1 บก.สส.ภ.4 
​พ.ต.ท.เอกวิทย์ บาคาล
รอง ผกก.สืบสวน1 บก.สส.ภ.4 และตำรวจ กก.สืบสวน 1 บก.สส.ภ.4 ร่วมกับ เจ้าพนักงานตำรวจชุดสืบสวน สภ.ศรีสงคราม ภ.จว.นครพนม และ ชุดสืบสวน ภ.จว.นครพนม ร่วมกับสืบสวนสอบสวน จนทราบว่า 

ภายหลังจบงานดังกล่าว แก๊งวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งได้ยกพวกมาดักรอทำร้ายร่างกายกัน บริเวณถนนบ้านปากอูน หมู่ 4 เขตเทศบาลตำบลศรีสงคราม พร้อมปาระเบิดปิงปอง และใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิด กราดยิงใส่คู่อริ ทำให้ น.ส.ธิดาพร โทรัตน์ อายุ 23 ปี ที่ซ้อนท้ายรถ จยย.กลับบ้าน ขณะนั้น ถูกลูกหลง กระสุนปืนเข้าที่ท้ายทอย 1 นัด บาดเจ็บสาหัส ก่อนถูกนำตัวส่งไปรักษา ที่ รพ.อำเภอศรีสงคราม และถูกส่งตัวไปรักษาต่อ ที่ รพ.นครพนม และเสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยเหตุดังกล่าวเกิดขึ้น เมื่อช่วงกลางดึกคืนวันที่ 26 ต.ค. 2566 ต่อเนื่อง วันที่ 27 ต.ค. 2566 

ต่อมาชุดสืบสวน ภ.4  สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ทั้งหมด 3 ราย พร้อมด้วยของกลาง ดังนี้

1.นายธนกร ฯ  อายุ 15 ปี  
ภูมิลำเนา ต.ศรีสงคราม อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม   โดยกล่าวหาว่า "ฆ่าผู้อื่น โดยมีอาุธปืนหรือเครื่องกระสุนปืนโดยมิได้รับอนุญาต (ครอบครองอาวุธปืนไม่มีทะเบียน),พกพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมืองฯ หรือพาไปในชุมชนที่ได้จัดไห้มีขึ้นเพื่อนมัสการ การรื่นเริง หรือการอื่นใด , ยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุ ในเมือง หมู่บ้าน หรือที่ชุมชน

2. ด.ช.ธันวา ฯ อายุ 14 ปี
ภูมิลำเนา ต.นาคำ อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม
โดยกล่าวหาว่า "ฆ่าผู้อื่น โดยมีอาุธปืนหรือเครื่องกระสุนปืนโดยมิได้รับอนุญาต (ครอบครองอาวุธปืนไม่มีทะเบียน),พกพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมืองฯ หรือพาไปในชุมชนที่ได้จัดไห้มีขึ้นเพื่อนมัสการ การรื่นเริง หรือการอื่นใด , ยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุ ในเมือง หมู่บ้าน หรือที่ชุมชน

3.นายพิชาภพ ฯ  อายุ 17 ปี  
ภูมิลำเนา ต.นาคำ อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม
โดยกล่าวหาว่า "ฆ่าผู้อื่น โดยมีอาุธปืนหรือเครื่องกระสุนปืนโดยมิได้รับอนุญาต (ครอบครองอาวุธปืนไม่มีทะเบียน),พกพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมืองฯ หรือพาไปในชุมชนที่ได้จัดไห้มีขึ้นเพื่อนมัสการ การรื่นเริง หรือการอื่นใด , ยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุ ในเมือง หมู่บ้าน หรือที่ชุมชน"

พร้อมตรวจยึดของกลาง หลายรายการ ได้แก่ เสื้อกางเกงที่ใช้ในวันก่อเหตุ, อาวุธปืนสั้นไทยประดิษฐ์ (ปืนแก๊ป) จำนวน 1 กระบอก , ลูกปืนเม็ดจำนวนประมาณ 25 เม็ด , ลูกตะกั่วเหล็ก จำนวน 25 เม็ด , ลูกตะกั่วเหล็ก จำนวน 1 ถุง , แก๊ปกระดาษ , ดินปืน 1 ขวด , ลูกระเบิดประดิษฐ์บรรจุลูกหินจำนวน 1 ลูก เป็นต้น

นำตัวผู้ต้องหาส่ง​พนักงานสอบสวน สภ.ศรีสงคราม ภ.จว.นครพนม   เพื่อดำเนิน​คดีตามกฎหมาย​ต่อไป

‘ญี่ปุ่น’ เตรียมกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่เกือบ 9 ล้านล้านบาท พยุงเงินเฟ้อครัวเรือน-หนุนเอกชนขึ้นค่าแรง-ลงทุนในประเทศ

(2 ต.ค.66) บลูมเบิร์กรายงานว่า รัฐบาลนายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะ เตรียมประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ วงเงินราว 37.4 ล้านล้านเยน (เกือบ 9 ล้านล้านบาท) เพื่อเดินหน้าฟื้นเศรษฐกิจของญี่ปุ่นในหลายด้าน ตั้งแต่การช่วยเหลือภาคครัวเรือน ไปจนถึงการลงทุนในประเทศ

หนึ่งในแผนการช่วยเหลือสำคัญภายใต้มาตรการนี้คือการช่วยบรรเทาผลกระทบเงินเฟ้อให้ภาคครัวเรือนญี่ปุ่น ช่วยภาคเอกชนปรับขึ้นค่าแรง และสนับสนุนให้เกิดการลงทุนในประเทศเพิ่มเติม นอกจากนี้ ยังคาดว่ารัฐบาลจะประกาศงบการลงทุนก้อนใหญ่  21.8 ล้านล้านเยน (ราว 5.22 ล้านล้านบาท) รวมอยู่ด้วย

ขณะที่ก่อนหน้านี้ นายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะ เคยเกริ่นถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจฉบับใหม่เอาไว้ว่า จะมีเรื่องการลดภาษีเงินได้ไปจนถึงการแจกเงินช่วยครัวเรือนที่มีรายได้น้อย

แผนการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่นี้ยังมีขึ้นท่ามกลางคะแนนนิยมของคิชิดะที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง จนล่าสุดลงมาแตะระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่เข้าดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเมื่อ 2 ปีก่อนแล้ว โดยผลสำรวจคะแนนนิยมของสถานีโทรทัศน์ เอเอ็นเอ็น พบว่า คะแนนนิยมคิชิดะลดลงมาอยู่ที่ 26.9% ส่วนผลสำรวจของหนังสือพิมพ์นิกเกอิ อยู่ที่ 33% โดยผู้ตอบแบบสำรวจถึง 58% ยังระบุด้วยว่า ไม่มีความหวังอะไรมากนักกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจฉบับนี้

ทั้งนี้ ค่าแรงที่แท้จริงของญี่ปุ่นปรับตัวลดลงมา 17 เดือนติดต่อกันแล้ว เนื่องจากอัตราค่าแรงไม่สอดคล้องกับอัตราเงินเฟ้อที่ปรับตัวสูงขึ้น แม้ว่าญี่ปุ่นจะมีการปรับค่าแรงตามฤดูกาลเมื่อฤดูใบไม้ผลิปีนี้ไปแล้วก็ตาม

‘สัปเหร่อ’ ตอกย้ำกระแสความปัง เตรียมขึ้นจอฉาย 9 ประเทศ ให้ผู้ชมต่างแดนได้สัมผัสวิถีชีวิตชาวบ้านของคนอีสาน

(2 พ.ย.66) กระแสยังคงเเรงไม่ตก สำหรับภาพยนตร์เรื่อง ‘สัปเหร่อ’ หลังกวาดรายได้มุ่งสู่ 700 ล้านบาททั่วประเทศไปหมาด ๆ พร้อมสถิติขึ้นแท่นหนังไทยที่ทำรายได้มากที่สุดในรอบ 10 ปี แม้จะเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ไม่ถึง 1 เดือน ด้วยทุนสร้างประมาณ 10 ล้านบาท

ล่าสุด ‘สัปเหร่อ’ เตรียมโกอินเตอร์แล้ว โดย ‘ไทบ้าน’ ได้ประกาศว่า สัปเหร่อกำลังจะเข้าฉายสู่ 9 ประเทศ ให้ผู้ชมในต่างแดนได้สัมผัส ประกอบไปด้วย ญี่ปุ่น, สิงค์โปร์, ไต้หวัน, มาเลเชีย, พม่า, เวียดนาม, ฟิลิปปินส์, อินโดนีเชีย และกัมพูชา

ด้าน ‘ต้องเต-ธิติ ศรีนวล’ ผู้กำกับและเขียนบท ก็ได้โพสต์ข้อความสั้น ๆ แทนความรู้สึกกับความสำเร็จอีกขั้นในครั้งนี้ ว่า “เตรียมตัวออกเดินทางได้ ขอบคุณหลาย ๆ เด้อครับ”

‘ทส.-กษ.’ รวมพลังแก้ปัญหาฝุ่นเชิงรุก เฝ้าระวัง 10 ป่าอนุรักษ์-ป่าสงวนฯ จับตาพื้นที่เกษตรเผาไหม้ซ้ำชาก พร้อมหนุนใช้เทคโนโลยีแจ้งเตือน ปชช.

(2 พ.ย. 66) น.ส.เกณิกา อุ่นจิตร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้มีการหารือกับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อร่วมมือและกำหนดแนวทางแก้ปัญหา โดยในภาคเกษตรจะมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการที่จะช่วยลดฝุ่น PM 2.5 ซึ่งจากการหารือได้ร่วมกันกำหนดเป้าหมายหลักแบบมุ่งเป้า ได้แก่ 10 ป่าอนุรักษ์ 10 ป่าสงวนแห่งชาติ และพื้นที่เกษตรที่ไฟไหม้ซ้ำชาก จะลดป่าเผาไหม้ และพื้นที่เกษตรเผาไหม้ลงร้อยละ 50 พื้นที่ ส่วนเป้าหมายรองเป็นพื้นที่อื่นๆ ที่ต้องลดการเผาไหม้ และควบคุม

น.ส.เกณิกา กล่าวว่า รัฐบาลได้กำหนดแนวทางบริหารจัดการเชื้อเพลิงในพื้นที่เกษตร จัดทำข้อมูลเกษตรกรและจำนวนพื้นที่ กำหนดเงื่อนไขการเผา และประกาศให้รับรู้ ใช้ระบบ BurnCheck ประมวลผล พร้อมทั้งส่งเสริมเกษตรปลอดการเผา โดยเฉพาะในพื้นที่ไร่อ้อย และพื้นที่นาข้าว การบริหารจัดการเศษวัสดุเหลือใช้การเกษตร ในพื้นที่เกษตรรอบโรงไฟฟ้า ชีวมวลในรัศมี 50 กิโลเมตร การแปรรูปสร้างมูลค่าเพิ่ม

พล.ต.อ.พัชรวาท เข้าใจเกษตรกร หากจำเป็นต้องเผา ให้ขออนุญาตฝ่ายปกครอง หรือ ‘อปท.’ ก่อน ฝ่ายปกครอง หรือ ‘อปท.’ อนุญาตเผาตามหลักเกณฑ์ที่ตกลงกัน และกำกับดูแลอย่างใกล้ชิด ประมวลผล ผ่านระบบ BumCheck จัดตั้งชุดปฏิบัติการประจำพื้นที่ (ระดับอำเภอ) เฝ้าระวัง ออกตรวจป้องปราม ระงับ ยับยั้ง แจ้งเหตุ และระดมสรรพกำลัง เฝ้าระวัง ป้องกันการลักลอบเผา

พร้อมกันนี้ จะให้มีการนำระบบการรับรองผลผลิตทางเกษตรแบบไม่เผา (GAP PM2s Free) มาใช้เป็นเครื่องมือปรับเปลี่ยนระบบการปลูกพืช และการเปลี่ยนพืชที่มีการเผาให้ปลอดการเผา ได้แก่ ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในพื้นที่สูงอ้อย ข้าว กำหนดเงื่อนไขเรื่องการห้ามเผากับมาตรการสนับสนุนต่าง ๆ ของภาครัฐ

“ในส่วนของการแก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5 ที่กลับมาอีกครั้ง หลังจากที่ฤดูฝนกำลังจะหมดไป โดยเฉพาะพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ซึ่งมีปัญหารุนแรงด้านมลพิษฝุ่นมาโดยตลอด ค่าฝุ่น PM 2.5 เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ และอยู่ในระดับที่มีผลกระทบต่อสุขภาพ

ทั้งนี้ กระทรวงทรัพากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้เตรียมความพร้อมปฏิบัติการเชิงรุก มีสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศทั่วประเทศ และมีระบบแจ้งเตือนข้อมูลไปยังประชาชน โดยนับจากวันนี้ไป ศูนย์แก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศจะทำหน้าที่เป็นศูนย์กลาง ในการให้ข้อมูลสถานการณ์ฝุ่นแก่ประชาชนอย่างต่อเนื่อง” น.ส.เกณิกา กล่าว

'ปิยบุตร' เชื่อ!! เหตุ สส.บ้ากาม ส่งผลภายในพรรค 'ระส่ำ-แตกแยก' หวั่น!! จากนี้ไป 'ประชาชน' ไม่ไว้ใจร่วมทางพรรคในกิจกรรมต่างๆ

(2 พ.ย.66) นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า ทวีตข้อความผ่าน X (ทวิตเตอร์) กล่าวถึงกรณี สส.ก้าวไกล คุกคามทางเพศ

การใช้อำนาจที่ได้จากตำแหน่งของตนไปจูงใจล่อลวงบุคคลอื่นให้กระทำการตามที่ตนต้องการเพื่อแลกเปลี่ยนกัน โดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวพันกับเรื่องทางเพศ เป็นเรื่องที่ไม่อาจยอมรับได้ในยุคสมัยนี้

หากพรรคก้าวไกลต้องการยกระดับมาตรฐานในเรื่องเหล่านี้ ต้องการป้องกัน ต่อต้านการคุกคามทางเพศและความรุนแรงทางเพศภายในองค์กรหรือสถานที่ทำงานให้ได้ตามที่โฆษณาไว้จริง

ผลมติที่ออกมาวันนี้ นับว่าน่าผิดหวัง (แน่นอน ส่วนหนึ่งมาจากรัฐธรรมนูญไปบังคับว่าต้องใช้จำนวนถึง 3 ใน 4 ของจำนวน สส.และกรรมการบริหารพรรค ซึ่งถือว่าสูงมาก)

แต่เรื่องแบบนี้ เมื่อทั้งคณะกรรมการวินัยของพรรค และทั้งคณะกรรมการบริหารพรรค มีมติว่ามีการกระทำความผิดร้ายแรงแล้ว หาก สส.ผู้ถูกร้องรู้จักมาตรฐานใหม่ในทางการเมืองอยู่บ้าง รู้จักความรับผิดชอบต่อผู้เสียหาย พรรค เพื่อน สส.คนอื่น ผู้สนับสนุนพรรค และสังคมอยู่บ้าง คิดถึงตำแหน่งหัวโขนที่พึ่งได้มาอย่าง สส. ให้น้อยลงบ้าง สส.ผู้ถูกร้องก็ควรแสดงความรับผิดชอบ โดยไม่ต้องมาถึงวันนี้ที่พรรคต้องใช้กลไกตามรัฐธรรมนูญ เพื่อให้ที่ประชุม สส.ต้องมาลงมติ


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top