Wednesday, 2 July 2025
Hard News Team

สห.มทบ.11 ได้ฉีดวัคซีนแล้ว โดยนทพ. ให้บริการวัคซีนโควิด-19 ครั้งที่ 18 ด้วยการลงทะเบียนและเข้ารับวัคซีนในช่องทาง "นัดหมายผ่านองค์กร"

พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง (ผบ.ทสส. และหน.ศปม.) สั่งการให้ พล.อ.นเรนทร์ สิริภูบาล ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา (ผบ.นทพ.) สนับสนุนกระทรวงสาธารณสุข ในการให้บริการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 แบบปูพรมทั่วประเทศ โดยนำวัคซีนที่ได้รับการจัดสรรจากกระทรวงสาธารณสุข รวมทั้งวัคซีนที่ได้รับตามแผนการแจกจ่ายและกระจายวัคซีนของกระทรวงกลาโหม มาบริการฉีดให้กับกำลังพลของกองบัญชาการกองทัพไทย, บุคลากรทางการแพทย์ และประชาชนกลุ่มเสี่ยงในพื้นที่ กทม. ในช่องทาง "นัดหมายผ่านองค์กร" ณ จุดให้บริการฉีดวัคซีน อาคารอเนกประสงค์ หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา (นทพ.) 

ซึ่งเป็นจุดให้บริการฉีดวัคซีนที่ ผบ.นทพ. ได้สั่งการให้สำนักงานสนับสนุน หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา (สสน.นทพ.) จัดบุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่ของหน่วยใน นทพ. เป็นผู้ดำเนินการ โดยได้เปิดให้บริการอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด ในวันนี้เป็นการให้บริการฉีด ครั้งที่ 18 ดำเนินการฉีดวัคซีน AstraZeneca เข็มที่ 1 ให้แก่ กำลังพลของกรมการสื่อสารทหาร (สส.ทหาร), โรงเรียนช่างฝีมือทหาร สถาบันวิชาการป้องกันประเทศ (รร.ชท.สปท.) และมณฑลทหารบกที่ 11 (มทบ.11) ที่ปฏิบัติงานสนับสนุน EOC กทม. ในการดูแลควบคุมแคมป์คนงานก่อสร้าง รวมจำนวนวัคซีนที่ฉีดแล้วทั้งสิ้น 7,403 โดส

ทั้งนี้ เพื่อสนับสนุนกระทรวงสาธารณสุขในการกระจายวัคซีนตามนโยบายของรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่ได้ประกาศให้การฉีดวัคซีนเป็น "วาระแห่งชาติ" เพื่อเร่งสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ให้กับประเทศไทยของเรา

“วิรัช” เมินแจง เขี่ย “เอ๋-ปารีณา” ออกจากไลน์พปชร. ระบุ แค่กลุ่มประสานงานวิป ไม่เกี่ยวไลน์พรรค

นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) และประธานวิปรัฐบาล กล่าวกรณีที่มีข่าวตนลบแอคเคาท์ของ น.ส.ปารีณา ออกจากไลน์กลุ่ม ส.ส.พรรคพปชร. โดยไม่ขอพูดถึงเหตุผล และไม่ขยายต่อเรื่องนี้ ระบุเพียงว่าไลน์ดังกล่าว เป็นส่วนที่เกี่ยวข้องกับการประสานงานวิปพรรค ระหว่างการประชุมสภา ส่วนไลน์ของพรรคพปชร. เป็นอีกกลุ่มหนึ่ง 

เมื่อถามว่ามีคนมองเป็นความขัดแย้งภายใน นายวิรัช กล่าวว่า "ขอตอบแค่นั้น" เมื่อถามว่ามีผู้ใหญ่พรรคมาพูดคุยถึงเรื่องนี้หรือไม่ นายวิรัช กล่าวว่า “ไม่มีใครมาคุยหรอก เพราะถือว่ามาทำหน้าที่ตรงนี้แทนผู้ใหญ่ ดูแลในส่วนนี้อยู่แล้ว"

สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทยเผยภาพวัคซีนป้องกันโควิด-19 ถึงไทยเมื่อวันที่ 1 ก.ค. อีก 1 ล้านโดส พร้อมประกาศสนับสนุนประเทศไทยต่อสู้กับโรคระบาด

เมื่อวันที่ 1 ก.ค. เพจ “Chinese Embassy Bangkok สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย” โพสต์ภาพวัคซีนโควิด-19 ที่ได้รับการซีลอย่างดี ถูกลำเลียงถึงประเทศไทยอีก 1 ล้านโดส เพื่อใช้ต่อสู้กับไวรัสโควิด-19 ที่กำลังระบาดในประเทศไทยอยู่ในขณะนี้ โดยทาง “สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย” ได้ระบุข้อความว่า

“เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม วัคซีนป้องกันโควิด-19 ชุดใหม่ของจีนจำนวน 1 ล้านโดส ส่งถึงกรุงเทพฯ แล้ว จีนได้จัดหาวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้แก่ประเทศไทยแล้ว จำนวน 13 ชุด รวมทั้งสิ้น 11.5 ล้านโดส”

นอกจากนี้ ในวันที่ 1 ก.ค. ยังเป็นวันครบรอบ 100 ปี การก่อตั้งพรรคคอมมิวนิสต์จีน จึงได้มีการจัดงานเฉลิมฉลองอย่างยิ่งใหญ่ พร้อมประกาศว่า ประเทศจีนจะสนับสนุนประเทศไทยในการต่อสู้กับโรคระบาดต่อไปภายใต้การนำที่แข็งแกร่งของพรรคคอมมิวนิสต์จีน และจะส่งเสริมการพัฒนาความสัมพันธ์จีน-ไทยให้ดียิ่งขึ้นต่อไป


โปรเด็ด! ถึง 15 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

ป.ป.ช. มีมติตั้งคณะไต่สวนอดีตผู้ว่าฯ - นายกอบจ. และบริษัทที่เกี่ยวข้อง กรณีเสาไฟกินรี ระบุต้องแล้วเสร็จภายใน 180 วัน

1 ก.ค. 64 นายนิวัติไชย เกษมมงคล รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในฐานะโฆษก ป.ป.ช. เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. ชุดใหญ่ เมื่อวันที่ 1 ก.ค. ได้พิจารณารายงานผลการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีกล่าวหาผู้บริหารองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ราชาเทวะ อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ กระทำการจัดซื้อจัดจ้างโครงการเสาไฟฟ้าแสงสว่างพร้อมรูปประติมากรรมกินรีโดยมิชอบ

โดยจากการตรวจสอบพบว่า ในปีงบประมาณ 2556, 2557, 2561, 2562, 2563, 2564 ซึ่งทาง อบต.ราชาเทวะ ได้จัดทำโครงการจัดซื้อเสาไฟฟ้าและซ่อมบำรุงเสาไฟฟ้าดังกล่าว โดยมีการดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างไม่ถูกต้องตามระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยวิธีการงบประมาณขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2541

และพบว่าการจัดซื้อจัดจ้างมีการเอื้อประโยชน์ให้กับบริษัทผู้รับจ้างบางราย และยังพบว่าการก่อสร้างไม่ได้มาตรฐานตามที่กำหนด ดังนั้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. จึงมีมติแต่งตั้งองค์คณะไต่สวนเบื้องต้นเพื่อดำเนินการไต่สวนข้อเท็จจริงรวม 5 คณะ โดยแต่ละคณะจะแยกไต่สวนกันคนละปีงบประมาณ

อย่างไรก็ตาม ในส่วนผู้ถูกกล่าวหากรณีนี้ มีทั้ง อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ, นายก อบต.ราชาเทวะ เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง และบริษัทเอกชน รวมกว่า 20 ราย ทั้งนี้ ตามกฎหมายระบุว่าการไต่สวนข้อเท็จจริงดังกล่าวต้องแล้วเสร็จภายใน 180 วัน

 

ที่มา : https://www.thaipost.net/main/detail/108312


โปรเด็ด! ถึง 15 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

นักศึกษาช้อปกระหน่ำช่วงโควิด พบยอดซื้อออนไลน์พุ่ง 7.5 หมื่นล.

นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยผลสำรวจความเห็นของประชาชน จำนวน 7,499 คน ทุกอำเภอทั่วประเทศ เกี่ยวกับพฤติกรรมการซื้อสินค้าออนไลน์ของผู้บริโภค ในรอบ 3 เดือนที่ผ่านมา (ม.ค.-มี.ค.64) ใน 13 กลุ่มสินค้า ว่า ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ทำให้หันมาซื้อสินค้าผ่านทางออนไลน์กันมากขึ้น โดยพบว่า มีมูลค่าการใช้จ่ายสูงถึง 75,000 ล้านบาทต่อเดือน เพิ่มขึ้น 45.05% จากที่เคยสำรวจช่วงเดือน พ.ย. 63 ที่มีมูลค่า 52,000 ล้านบาทต่อเดือน หรือมีการซื้อออนไลน์เพิ่มขึ้น 68.97% จากการสำรวจครั้งก่อน  

ทั้งนี้ สินค้าทั้ง 13 กลุ่ม พบว่า กลุ่มเครื่องแต่งกายและเครื่องประดับ เป็นสินค้าที่ได้รับความนิยมซื้อออนไลน์สูงสุด รองลงมา คือ อาหารและเครื่องดื่ม, สินค้าสุขภาพ เครื่องสำอาง ของใช้ส่วนบุคคล, ของใช้ในบ้าน สำนักงาน, เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์, โทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์มือถือ, เครื่องกีฬา เครื่องเขียน, เพลง ภาพยนตร์ และสินค้าบันเทิงอื่นๆ, ซอฟต์แวร์ เกม, การจอง/บริการต่าง ๆ, คอมพิวเตอร์, ของเล่น, หนังสือ นิตยสาร โดยโทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์มือถือ เป็นสินค้าที่มีสัดส่วนใช้จ่ายออนไลน์สูงสุด

สำหรับ ผู้ที่เคยซื้อสินค้าออนไลน์มากที่สุดอยู่ในช่วงอายุ 20-29 ปี เฉลี่ยคิดเป็น 87.00% รองลงมา คือ น้อยกว่า 20 ปี คิดเป็น 85.71% และช่วงอายุ 30-39 ปี คิดเป็น 80.13% โดยกลุ่มผู้ซื้อใกล้เคียงกับผลสำรวจเดือน พ.ย.63 และหากพิจารณาถึงปริมาณการใช้จ่าย พบว่า ค่อนข้างใกล้เคียงกัน โดยกลุ่มอายุที่มียอดใช้จ่ายเฉลี่ยสูงสุด คือ ช่วงอายุ 20-29 ปี ประมาณ 2,379.30 บาท/เดือน รองลงมา อายุ 50-59 ปี 2,349.00 บาท/เดือน และหากจำแนกตามอาชีพ พบว่า ผู้ที่ใช้จ่ายออนไลน์สูงสุดมีอาชีพนักศึกษา คิดเป็น 92.88% โดยเฉพาะในสินค้ากลุ่มโทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์มือถือ และกลุ่มคอมพิวเตอร์ รองลงมา คือ ข้าราชการ รัฐวิสาหกิจ พนักงานรัฐ 84.57% และพนักงานบริษัท 84.36% 

โดยข้าราชการ รัฐวิสาหกิจ พนักงานรัฐ และนักธุรกิจ เจ้าของกิจการ เจ้าของแผงค้า มียอดค่าใช้จ่ายสูงสุด สอดคล้องกับความมั่นคงในอาชีพและการเงิน และหากจำแนกตามภูมิภาค พบว่า กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีการใช้จ่ายผ่านออนไลน์มากที่สุด 81.62% ตามด้วย ภาคใต้ 71.68% ภาคกลาง 68.25% ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 67.86% และภาคเหนือ 64.42%

องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก หนุน SUSUNN จาก เอสซีจี เซรามิกส์ จัดทำโครงการซื้อขายไฟฟ้าและคาร์บอนเครดิต

นายเกียรติชาย ไมตรีวงษ์ ผู้อำนวยการ องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) หรือ TGO พร้อมกับ นายนำพล มลิชัย กรรมการผู้จัดการ บริษัทเอสซีจี เซรามิกส์ จำกัด (มหาชน) ภายใต้แบรนด์ SUSUNN ร่วมลงนามในสัญญาความร่วมมือเพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการดำเนินงานเกี่ยวกับคาร์บอนเครดิต จากโครงการลดก๊าซเรือนกระจกของ เอสซีจี เซรามิกส์ ซึ่งจะดำเนินการภายใต้ระบบการรับรองของ TGO

สำหรับ เอสซีจี เซรามิกส์ ภายใต้แบรนด์ SUSUNN ดำเนินธุรกิจด้านพลังงานไฟฟ้าและพลังงานสะอาด ล่าสุดได้คิดค้นพัฒนาแพลตฟอร์มการซื้อขายไฟฟ้าให้สามารถเชื่อมโยงกับการแลกเปลี่ยนข้อมูลและซื้อขายคาร์บอนเครดิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ สอดคล้องกับวัตถุประสงค์และแนวทางของ TGO ที่มุ่งพัฒนาและส่งเสริมโครงการและตลาดซื้อขายปริมาณก๊าซเรือนกระจก จึงได้ร่วมมือกันเพื่อกำหนดหลักเกณฑ์และแบบแผนในการดำเนินการที่เกี่ยวข้องกับการจัดการก๊าซเรือนกระจก รวมถึงร่วมกันพัฒนาแพลตฟอร์มของ เอสซีจี เซรามิกส์ เพื่อสนับสนุนการบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจกจากการดำเนินงานตามแนวทางของ TGO ด้วย

โดยความร่วมมือในครั้งนี้ ยังสะท้อนให้เห็นถึงเจตนารมณ์อันมุ่งมั่นของ เอสซีจี ที่มุ่งเน้นให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนตามหลักการ ESG ซึ่งครอบคลุมทั้งทางด้าน Environment, Social and Governance อันเป็นเรื่องที่หน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนในหลายประเทศทั่วโลกกำลังดำเนินการอยู่ในขณะนี้ โดยคาดหวังว่าจะนำไปสู่การส่งเสริมและสนับสนุนให้ผู้เกี่ยวข้องและภาคธุรกิจต่าง ๆ ตระหนักถึงความสำคัญในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกมากยิ่งขึ้น ตลอดจนเร่งผลักดันให้เกิดการพัฒนาตลาดกลาง เพื่อซื้อขายคาร์บอนเครดิตของประเทศให้เป็นที่แพร่หลายในอนาคต


โปรเด็ด! ถึง 15 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

ออมสิน ขยายความช่วยเหลือลูกหนี้สินเชื่อธุรกิจร้านอาหาร พักชำระเงินต้นและดอกเบี้ย 6 เดือน จากเดิมที่ให้สิทธิ์เฉพาะธุรกิจโรงแรม รีสอร์ต เกสต์เฮาส์ และเซอร์วิสอพาร์ตเมนท์ แจ้งเข้าร่วมมาตรการได้ถึง 23 ก.ค. นี้

นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 ที่มีแนวโน้มทวีความรุนแรง รัฐจำเป็นต้องประกาศยกระดับมาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดที่เข้มข้นขึ้น โดยรัฐบาลและกระทรวงการคลังมอบนโยบายให้ธนาคารออมสิน ขยายความช่วยเหลือแก่ผู้ประกอบกิจการร้านอาหารที่ได้รับผลกระทบ ธนาคารจึงปรับเกณฑ์มาตรการยกเว้นการชำระเงินต้นและดอกเบี้ย เงินงวดเป็นศูนย์ ตลอด 6 เดือน โดยเปิดให้ผู้ประกอบการ SMEs ที่เป็นลูกหนี้สินเชื่อธุรกิจที่ได้นำเงินกู้ไปประกอบกิจการร้านอาหาร สามารถขอเข้าร่วมมาตรการนี้ได้ด้วย จากเดิมที่ให้สิทธิ์เฉพาะธุรกิจโรงแรม รีสอร์ต เกสต์เฮาส์ และเซอร์วิสอพาร์ตเมนท์

ทั้งนี้ ผู้ประกอบกิจการร้านอาหารและเครื่องดื่ม ที่เป็นลูกหนี้สินเชื่อธุรกิจธนาคารออมสิน วงเงินสินเชื่อรวมไม่เกิน 250 ล้านบาท และมีหนี้ค้างชำระไม่เกิน 90 วัน สามารถขอเข้าร่วมมาตรการฯ เพื่อรับสิทธิ์ยกเว้นการชำระเงินต้นและดอกเบี้ย มีผลตั้งแต่งวดเดือนกรกฎาคม-เดือนธันวาคม 2564 โดยแจ้งความประสงค์เข้าร่วมมาตรการได้ตั้งแต่บัดนี้ ที่สาขาธนาคารออมสิน หรือศูนย์สินเชื่อธุรกิจลูกค้า SMEs ที่ได้ติดต่อขอสินเชื่อไว้ หมดเขตแจ้งความประสงค์วันที่ 23 กรกฎาคม 2564

อนึ่ง ที่ผ่านมาธนาคารได้จัดทำมาตรการยกเว้นการชำระเงินต้นและดอกเบี้ยให้กับผู้ประกอบการ SMEs โรงแรม รีสอร์ต เกสต์เฮาส์ และเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ไปแล้วในช่วงก่อนหน้านี้ ซึ่งจะหมดเขตให้แจ้งความประสงค์เข้าร่วมมาตรการในวันที่ 23 กรกฎาคม 2564 เช่นเดียวกัน โดยธนาคารมีเป้าหมายเพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายแก่ผู้ประกอบการ ให้สามารถประคับประคองธุรกิจจนกว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 จะคลี่คลาย และกิจการกลับมามีรายได้อีกครั้ง


โปรเด็ด! ถึง 15 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

ทบ. พร้อมรับทหารใหม่ ด้วยมาตรการป้องกัน COVID-19 อย่างเข้มงวด ระหว่าง 1-3 ก.ค.

พล.ท.สันติพงศ์ ธรรมปิยะ โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า กองทัพบกมีความพร้อมรับการรายงานตัวของ ทหารกองประจำการ ผลัดที่ 1/2564 ที่จะเดินทางมาในวันที่ 1 และ 3 ก.ค. 64 นี้ ด้วยมาตรการที่รัดกุมเพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่เกิดการแพร่ระบาดแบบกลุ่มของหน่วยฝึกทหารใหม่ทั่วประเทศ

ตามนโยบาย พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ที่มอบให้กรมยุทธศึกษาทหารบก เป็นผู้กำหนดมาตรการในการบริหารจัดการฝึกทหารใหม่ ให้มีความปลอดภัย ลดความเสี่ยงการแพร่กระจายเชื้อ และเป็นไปตามที่ ศบค.กำหนดนั้น จึงได้กำหนดขั้นตอนการปฏิบัติ ออกเป็น 3 ขั้นตอนได้แก่

1.) ขั้นการเตรียมการก่อนการฝึก โดยจัดเตรียมพื้นที่ฝึกและพักอาศัยให้อยู่ในระบบปิด แบบ Bubble and Seal จำกัดเฉพาะผู้ที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับการฝึกเท่านั้น สำหรับทหารที่ทำหน้าที่เป็น ผู้ฝึก ครูฝึก ผู้ช่วยครู และเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยฝึกทุกนาย ได้ทำการกักตัวภายในหน่วยฝึกล่วงหน้าเป็นเวลาอย่างน้อย 14 วันก่อนวันที่ทหารใหม่จะมาถึง รวมทั้งดำเนินการด้านการตรวจหาเชื้อเชิงรุก และจัดให้ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 เพื่อให้มั่นใจว่าครูฝึกและเจ้าหน้าที่ทุกนาย ปลอดภัยจากเชื้อไวรัส

2.) ขั้นการดำเนินการ ในวันที่ทหารใหม่เข้ามารายงานตัวในหน่วยฝึกทหารใหม่ทั้ง 311 หน่วยทั่วประเทศ ได้จัดให้มีชุดแพทย์ทำการตรวจคัดกรองอย่างละเอียด หากพบผู้ติดเชื้อจะแยกออกเพื่อเข้าสู่กระบวนการรักษา ณ รพ.ประจำค่ายทหาร ที่มีอยู่จำนวน 37 แห่ง สำหรับส่วนที่เหลือจะแยกกักตัวภายในหน่วยฝึกเป็นเวลา 14 วันเพื่อให้พร้อมทำการฝึกในขั้นต่อไป และ

3.) ขั้นการฝึกและเสริมสร้าง โดยระหว่างการกักตัว จะใช้วิธีการแยกสอนในห้องเรียน หรือใช้การเรียนแบบออนไลน์ไปก่อน เมื่อครบกำหนด 14 วัน จึงสามารถทำการฝึกในสนามฝึก ได้ แต่จะต้องเป็นไปตามมาตรการการเว้นระยะห่าง ของสาธารณะสุข (DMHTT) ทุกประการ ซึ่งทั้งครูฝึกและทหารใหม่ ตลอดจนเจ้าหน้าที่ต่าง ๆ ทุกคน จะถูกจำกัดให้อยู่แต่ภายในหน่วยฝึกไม่ให้ปะปนสู่ชุมชนภายนอก

สำหรับในส่วนของ กทม. และปริมณฑล ซึ่งเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ได้กำหนดให้ใช้พื้นที่ของ มทบ.11 เป็นสถานที่แรกรับรายงานตัว​ ซึ่งจะมารายงานตัวจำนวน 2 รอบ คือ รอบวันที่ 1 ก.ค.64 จำนวน 2,716 คน โดยส่วนใหญ่จะเป็นผู้ที่มีภูมิลำเนาทหารอยู่ใน กทม. และ จังหวัดใกล้เคียง และรอบวันที่ 4 ก.ค. 64 จำนวนประมาณ 1,519 คน ส่วนใหญ่มาจากจังหวัดทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งกรมแพทย์ทหารบกได้เตรียมหน่วยแพทย์คัดกรองมาดำเนินการตรวจหาเชื้อเชิงรุกทุกนาย หากตรวจพบจะแยกไปทำการรักษาที่ รพ.สนามของ ทบ.ที่เตรียมไว้ (รพ.สนามเกียกกาย และ รพ.สนาม มทบ.11-2) ส่วนผู้ที่มีความเสี่ยงสูง จะให้ทำการกักตัวในสถานกักตัวของหน่วย (OQ) เป็นเวลาอย่างน้อย 14 วันก่อนส่งตัวเข้าสู่กระบวนการฝึกต่อไป

นอกจากนั้น ผู้บัญชาการทหารบกยังได้สั่งการเพิ่มเติมการปฏิบัติในส่วนของ ผู้ที่ต้องเดินทางมาจากภาคอีสาน โดยจะใช้ชุดแพทย์ทหารต้นทาง ทำการตรวจหาเชื้อเชิงรุกภายในจังหวัดของตนเองตั้งแต่แรก หากตรวจพบก็ให้ทำการรักษาในจังหวัดนั้น ๆ ก่อนยังไม่ต้องเดินทางเข้ามายัง กทม.

ทั้งนี้ผู้บัญชาการทหารบก ได้ห่วงใยและให้ความสำคัญในการดูแลทหารกองประจำการที่จะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของกองทัพบกเป็นพิเศษ ซึ่งที่ผ่านมาได้มีมาตรการเพิ่มเติมการดูแลด้านสุขอนามัย โภชนาการ เวชศาสตร์การกีฬา ตลอดจนการเพิ่มโอกาสในการรับราชการ เพราะถือว่าทหารกองประจำการทุกนายเป็นผู้มีความเสียสละ เข้ามาดูแลด้านความมั่นคง ช่วยเหลือประชาชนในหลากหลายภารกิจ ตลอดจนเป็นครอบครัวของกองทัพบกที่จะต้องได้รับการดูแลอย่างดีที่สุด

เพจเฟซบุ๊ก World Forum ข่าวสารต่างประเทศ โพสต์ภาพนวัตกรรมใหม่ "หน้ากากอนามัยปิดจมูก" ที่ถูกคิดค้นขึ้นมาโดยนักวิทยาศาสตร์ชาวเม็กซิกัน เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อไวรัสเข้าทางจมูกขณะรับประทานอาหารร่วมโต๊ะกับคนอื่น ซึ่งถูกยืนยันแล้วว่าใช้ได้ผลจริง

เพจเฟซบุ๊ก World Forum ข่าวสารต่างประเทศ โพสต์ภาพนวัตกรรมใหม่ "หน้ากากอนามัยปิดจมูก" ที่ถูกคิดค้นขึ้นมาโดยนักวิทยาศาสตร์ชาวเม็กซิกัน เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อไวรัสเข้าทางจมูกขณะรับประทานอาหารร่วมโต๊ะกับคนอื่น ซึ่งถูกยืนยันแล้วว่าใช้ได้ผลจริง

.เพจเฟซบุ๊กโพสต์ข้อความระบุว่า...หน้ากาก ปิดจมูก สำหรับทานอาหารในที่สาธารณะ น่าสนใจในช่วงที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อสูงขึ้น

นักวิทยาศาสตร์ชาวเม็กซิกัน Gustavo Acosta Altamirano จากมหาวิทยาลัย The Instituto Politécnico Nacional หรือ IPN ได้แสดงนวัตกรรมใหม่ของเขา เป็นหน้ากากอนามัยปิดจมูก ป้องกันการแพร่ระบาดไวรัสโควิดได้ดีโดยเฉพาะ เวลาทานอาหาร ร่วมกับบุคคลอื่น ป้องกันละออง การแพร่เชื้อไวรัสเข้าทางจมูก ใช้ได้ผลจริง

ทั้งนี้ ยังสามารถใช้ป้องกันสองชั้น โดยสวมหน้ากากอนามัยหลักทับอีกที เวลาต้องออกไปสถานที่สาธารณะ ก็จะสามารถป้องกันโควิด-19 ได้อย่างมีประสิทธิภาพเต็มที่

 

ที่มา World Forum ข่าวสารต่างประเทศ https://www.facebook.com/WorldForumTh/posts/335636018100648


โปรเด็ด! ถึง 15 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

เริ่มแล้วภูเก็ตแซนด์บ๊อกซ์ เที่ยวแรก 24 คนจากยูเออี

นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า เที่ยวบินแรกที่เดินทางเข้ามาถึงภูเก็ต ในวันที่ 1 ก.ค. 2564 คือ เที่ยวบิน EY 430 ของสายการบินเอทิฮัด แอร์เวย์ ซึ่งบินมาจากเมืองอาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ได้ลงแตะพื้นท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต เวลา 11.09 น. ถือเป็นเที่ยวบินแรกที่นำนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ฉีดวัคซีนแล้วเข้าประเทศไทยโดยไม่ถูกกักตัว ตามโครงการภูเก็ต แซนด์บ๊อกซ์ ที่เริ่มต้นเป็นวันแรก 

สำหรับผู้โดยสารที่มาเที่ยวบินนี้ ได้ถือใบอนุญาตเดินทางเข้าประเทศ (COE) ตามโครงการภูเก็ต แซนด์บ๊อกซ์ มีจำนวน 24 คน โดยกลุ่มนี้เมื่อมาถึงจะถูกทำการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยวิธี RT-PCR จากนั้นจะขึ้นรถไปยังโรงแรม และต้องรออยู่ในห้องพัก หากผลตรวจออกมาเป็นลบหรือไม่ติดเชื้อ จึงจะออกมานอกห้องพักได้ และสามารถเดินทางไปได้ทั่วเกาะภูเก็ต 

ทั้งนี้ในวันแรกของภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ มีนักท่องเที่ยวที่ฉีดวัคซีนครบโดสแล้วเดินทางมากับ 4 สายการบิน ได้แก่ เอทิฮัด, กาตาร์ แอร์เวย์ส, แอล อัล อิสราเอล แอร์ไลน์ และสิงคโปร์ แอร์ไลน์ รวมจำนวน 300 คน ซึ่งได้ COE ทั้งหมด 100% สามารถเข้าพักในโรงแรมที่ได้มาตรฐาน SHA PLUS แม้จำนวนนักท่องเที่ยวในวันแรกจะลดลงจากที่เคยประเมินไว้ เพราะออก COE ให้ไม่ทัน ทำให้นักท่องเที่ยวเลื่อนการเดินทางเข้าภูเก็ต แต่หลังจากนี้จะทยอยเข้ามามากขึ้น


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top