Saturday, 15 February 2025
Hard News Team

“ผบ.ทร.” ส่งความปราถนาดี อวยพรวันสงกรานต์​ ถึงข้าราชการกองทัพเรือ​ ย้ำ! กำลังพลและครอบครัวตระหนักถึงการป้องกันโควิด

เมื่อวันที่ 12 เมษายน 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าพล.ร.อ.ชาติชาย​ ศรีวรขาย​ ผบ.ทร.​ส่งสารอวยพรเนื่องในวันสงกรานต์ ประจำปี 2564​ ว่า​ ผมขอส่งความปรารถนาดี มายังเพื่อนข้าราชการ ที่รักทุกท่าน ขอให้ทุกท่านมีความสุข ร่วมกันสานต่อประเพณีสงกรานต์​ที่ปฎิบัติสืบทอดกันมาอย่างยาวนาน​ ให้อยู่คู่ประเทศไทยของเราตลอดไป และมีความภาคภูมิใจในประเพณีอันงดงามนี้​  แต่เนื่องจากสถานการณ์ covid-19 ในปัจจุบัน​  

ผมขอให้กำลังพลทุกท่านและครอบครัว ตระหนักถึงความสำคัญของการร่วมทำกิจกรรมต่าง​ ๆ​หรือการท่องเที่ยว​ เนื่องในวันสงกรานต์​ ในลักษณะ new normal  เพื่อให้ทุกคนปลอดภัย​ แต่ยังคงความสำคัญของวันสงกรานต์ ที่สมาชิกในครอบครัวจะได้ใช้เวลาอยู่ร่วมกันอย่างพร้อมหน้า เพื่อสร้างขวัญ​ กำลังใจ และความสุขให้แก่กัน​ ขอให้ใช้โอกาสนี้ หลอมรวมความรักให้เข้มแข็ง ส่งต่อเป็นพลัง​ให้เดินหน้าต่อ​ไป​ หากมีความจำเป็นต้องเดินทางกลับภูมิลำเนา ขอให้เดินทางโดยสวัสดิภาพ

“ม33 เรารักกัน” เงินงวดสุดท้าย-กลุ่มทบทวนสิทธิผ่าน รับครบ 4,000 บาท แล้ววันนี้

นายทศพล กฤตวงศ์วิมาน เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน เปิดเผยถึง การดำเนินงานโครงการ ม33เรารักกันว่า ตามที่รัฐบาลภายใต้การนำของ พล.อ ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และกระทรวงแรงงานภายใต้การกำกับดูแลของ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี โดยนายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้ให้ความสำคัญในการช่วยเหลือเยียวยาแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ ของผู้ประกันตน มาตรา 33 ให้ได้รับสิทธิคนละ 4,000 บาท และให้ลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ www.ม33เรารักกัน.com 

ซึ่งในวันนี้ 12 เมษายน พ.ศ.2564 เป็นวันที่ได้มีการโอนเงินงวดที่ 4 ซึ่งเป็นงวดสุดท้าย ของโครงการ จำนวน 1,000 บาท จนครบ 4,000 บาทแล้ว อีกทั้ง ในส่วนกรณีผู้ที่ทบทวนสิทธิผ่านแล้ว ในวันนี้ก็จะได้รับเงินครบ 4,000 บาท ผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” เช่นเดียวกัน โดยผู้ประกันตนสามารถเริ่มใช้จ่าย ซื้อสินค้าและบริการผ่านร้านค้า/ผู้ประกอบการ/บริการในร้านธงฟ้าที่ใช้ Application “ถุงเงิน” หรือภายใต้โครงการ “คนละครึ่ง” และโครงการ “เราชนะ” ได้ในวันที่ 12 เมษายน – 31 พฤษภาคม 2564

เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ดี นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ยังได้กำชับให้สำนักงานประกันสังคม ซึ่งได้แต่งตั้งคณะทำงาน ออกตรวจสอบร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ/สถานประกอบการในพื้นที่ และดำเนินการเกี่ยวกับข้อร้องเรียน รวบรวมข้อเท็จจริง กรณีมีเรื่องร้องเรียน/มีการแจ้งเบาะแสว่ามีการกระทำที่อาจเข้าข่ายผิดเงื่อนไขโครงการฯ เช่น ขึ้นราคาสินค้า พร้อมเฝ้าระวังการเบิกจ่ายเงินของร้านค้า เพื่อป้องกันไม่ให้มีการกระทำผิดเงื่อนไขอย่างเด็ดขาด 

อย่างไรก็ตาม สำนักงานประกันสังคม ขอย้ำเตือนไปยังผู้ประกันตน ร้านค้า โปรดอย่าหลงเชื่อโฆษณาเชิญชวนที่ทำผิดเงื่อนไขโดยไม่มีการใช้จ่ายซื้อสินค้า หรือแลกเป็นเงินสด เพราะนอกจากจะถูกพ่อค้าหัวใสหักเปอร์เซ็นต์แล้ว ทำให้ได้ไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย และถือว่าเข้าข่ายทุจริต ซึ่งอาจจะถูกตัดสิทธิและถูกดำเนินคดีด้วยความห่วงใยจากสำนักงานประกันสังคม

ผู้ประกันตนโล่ง!! กรมแรงงานฯ ร่วมมือ มหาดไทย สปสช. ตรวจโควิด-19 ฟรี เริ่ม 17 เม.ย. 64 กทม. เป็นที่แรก!

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เผย นายกรัฐมนตรีห่วงใยผู้ประกันตนกรณีการแพร่ระบาดของโควิด -19 กำชับกระทรวงแรงงาน บูรณาการร่วมกับกระทรวงมหาดไทย สปสช. และกรุงเทพมหานคร เพิ่มช่องทางหน่วยบริการตรวจโควิด-19 เพื่อลดความแออัดและอำนวยความสะดวกแก่ผู้ประกันตนในระบบประกันสังคมตามมาตรา 33 มาตรา 39 และมาตรา 40 ที่อยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร สามารถเข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ได้ฟรี เริ่มต้นวันที่ 17 เมษายนนี้ที่อาคารกีฬาเวสน์ 1 ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร (ไทย - ญี่ปุ่น) เขตดินแดง กรุงเทพมหานคร 

เมื่อวันที่ 12 เมษายน 2564 ที่ห้องประชุมประสงค์ รณะนันทน์ ชั้น 5 อาคารกระทรวงแรงงาน นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานการประชุมหารือร่วมกับผู้บริหารระดับสูงกระทรวงแรงงาน เพื่อ กำหนดแนวทางร่วมกับกระทรวงมหาดไทย (กรุงเทพมหานคร) และสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ในการตรวจหาเชื้อโควิด -19 แก่ผู้ประกันตนในระบบประกันสังคมตามมาตรา 33 มาตรา 39 และมาตรา 40 ที่อยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร สามารถเข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ได้ฟรี โดยกระทรวงแรงงานประสานโรงพยาบาลในเครือข่ายประกันสังคมมาให้บริการ ณ อาคากีฬาเวสน์ 1 ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร (ไทย - ญี่ปุ่น) 

โดยนายสุชาติ กล่าวว่า รัฐบาลภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ซึ่งกระทรวงแรงงานภายใต้การกำกับดูแลของพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้มีความห่วงใยต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด -19 เพื่อเตรียมความพร้อมรองรับในทุกด้านหากสถานการณ์การแพร่ระบาดรุนแรงมากขึ้น ในวันนี้ผมในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน จึงได้เชิญผู้บริหารระดับสูงกระทรวงแรงานเพื่อมาหารือกำหนดแนวทางที่จะร่วมกับกระทรวงมหาดไทย สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) และกรุงเทพมหานคร 

โดยจะเปิดให้ผู้ประกันตนที่จะเข้ารับการตรวจสามารถลงทะเบียนจองคิวตรวจผ่านระบบแอปพลิเคชันออนไลน์ สำหรับคุณสมบัติของคนที่จะได้เข้าตรวจคือผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่คัดกรอง และสามารถเข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ได้ชั่วโมงละไม่ต่ำกว่า 300 คน ทราบผลการตรวจภายใน 24 - 48 ชั่วโมง ซึ่งจะ kick off ในวันเสาร์ที่ 17 เมษายนนี้ ที่อาคารกีฬาเวสน์ 1 ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร (ไทย - ญี่ปุ่น) เขตดินแดง กรุงเทพมหานคร

นายสุชาติ กล่าวต่อว่า ผมได้หารือกับ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และนายแพทย์จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เรียบร้อยแล้ว โดยกระทรวงแรงงานจะบูรณาการทำงานร่วมมือกับกระทรวงมหาดไทย (กรุงเทพมหานคร) สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เพื่อให้ผู้ประกันตนในระบบประกันสังคมตามมาตรา 33 มาตรา 39 และมาตรา 40 ที่กำลังเดินทางกลับจากเทศกาลสงกรานต์เข้าสู่พื้นที่กรุงเทพมหานครสามารถเข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ได้ฟรี 

ทั้งนี้ หากพบว่าผู้ประกันตนรายใดตรวจพบเชื้อโควิด-19 จะต้องส่งตัวเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเครือข่ายในสังกัดสำนักงานประกันสังคม โดยผู้ประกันตนที่ติดเชื้อโควิด -19 จะได้รับการรักษาฟรีในโรงพยาบาลเครือข่ายประกันสังคม ซึ่งมีอยู่จำนวน 81 แห่ง ที่มีความพร้อม มีเตียงรองรับกว่า 1,000 เตียง มี HQ 200 กว่าเตียง 

สำหรับการตรวจหาเชื้อโควิด -19 แก่ผู้ประกันตนในระบบประกันสังคมมาตรา 33,39 และ 40 ในครั้งนี้ เป็นการเพิ่มช่องทางของหน่วยบริการตรวจ เนื่องจากขณะนี้หลายโรงพยาบาลมีผู้มาใช้บริการเพื่อตรวจหาเชื้อโควิด -19 เป็นจำนวนมาก ทำให้เกิดความแออัด คิวยาว กระทรวงแรงงานจึงมีนโยบายที่จะอำนวยความสะดวกให้กับผู้ประกันตน ได้รับการตรวจอย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ เพื่อเป็นการช่วยแก้ปัญหาการแพร่ระบาดของโรคอีกทางหนึ่งอันจะส่งผลให้ภาคธุรกิจดำเนินการต่อไปได้

คุณหญิงกัลยา แนะนักเรียนใช้เวลาช่วงหยุดสงกรานต์ สานสัมพันธ์ในครอบครัว ภายใต้หลัก D-M-H-T-T ป้องกันโควิด-19

นางดรุณวรรณ ชาญพิพัฒนชัย โฆษกประจำตัวรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ดร.คุณหญิงกัลยา) เปิดเผยว่าคุณหญิงกัลยา ขอเชิญชวนให้นักเรียนทุกคนที่ได้มีโอกาสอยู่กับครอบครัวในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ได้ใช้เวลาในช่วงนี้แสดงออกถึงความรัก ความผูกพัน และความกตัญญูต่อบิดามารดา ปู่ย่าตายาย รวมถึงญาติผู้ใหญ่ ที่เป็นผู้มีพระคุณ ซึ่งถือเป็นจารีตประเพณีที่ดีงามของสังคมไทย แต่อย่างไรก็ตามยังต้องคำนึงถึงมาตรการความปลอดภัยจากโรคโควิด-19 ภายใต้หลัก D-M-H-T-T

นางดรุณวรรณ กล่าวต่อด้วยว่า คุณหญิงกัลยา ตระหนักถึงความสำคัญของครอบครัวที่เป็นสถาบันหลักในการพัฒนาและช่วยสร้างคุณภาพคน เพราะครอบครัวที่อบอุ่น เต็มไปด้วยความรัก ความผูกพันเปรียบเสมือนวัคซีนที่ช่วยสร้างภูมิคุ้มกันทางจิตใจให้เด็กเติบโตมาอย่างมีคุณภาพ และเป็นคนที่ดีของสังคม ในขณะที่โรงเรียนจะทำหน้าที่ในการหล่อหลอม ให้องค์ความรู้ และเสริมสร้างประสบการณ์ชีวิตในการอยู่ร่วมกับผู้คนในสังคมได้อย่างเท่าทัน 

ทั้งนี้ ในช่วงสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ คุณหญิงกัลยา ได้ย้ำเน้นให้ทุกคนปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการระบาดของโรคอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะนักเรียนที่เป็นผู้พักค้างประจำในโรงเรียนต่าง ๆ ภายใต้การกำกับดูแล ที่ต้องกลับบ้านไปพบปะกับผู้ปกครอง ปู่ย่าตายายที่เป็นผู้สูงอายุ ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ให้ยึดหลัก D-M-H-T-T ของกรมควบคุมโรค คือ D : Social Distancing เว้นระยะห่าง 1 - 2 เมตร เลี่ยงการอยู่ในที่แออัด  M : Mask Wearing สวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยตลอดเวลา  H : Hand Washing ล้างมือบ่อย ๆ ด้วยน้ำและสบู่ หรือเจลแอลกอฮอล์  T : Testing การตรวจวัดอุณหภูมิและตรวจหาเชื้อโควิด 19 ในกรณีที่มีอาการเข้าข่าย   และ T : Thai Cha Na สแกนไทยชนะก่อนเข้า-ออกสถานที่สาธารณะทุกครั้ง เพื่อให้มีข้อมูลในการประสานงานได้ง่ายขึ้น 

นางดรุณวรรณ ยังกล่าวเสริมในตอนท้ายด้วยว่า คุณหญิงกัลยาขออวยพรให้ทุกครอบครัวมีความสุขในช่วงเทศกาลปีใหม่ไทย และขอส่งกำลังใจให้กับครอบครัวที่มีผู้ติดเชื้อ หรือเป็นผู้ที่สัมผัสเชื้อและมีความเสี่ยงสูง ปลอดภัยจากโรคโควิด-19 อย่างไรก็ตามในบางครอบครัวที่ไม่สามารถอยู่ร่วมกันในช่วงเวลานี้ แต่ก็สามารถแสดงออกถึงความรัก ความผูกพัน และความกตัญญูที่มีต่อกันได้ในหลายรูปแบบเพื่อส่งเสริมค่านิยมที่ดีงามของสังคมไทย เพราะโรคระบาด อาจทำให้ห่างกันด้วยระยะทาง แต่ไม่จำเป็นต้องห่างกันทางความรู้สึก

เปิดทางด่วนวิ่งฟรี ต้อนรับสงกรานต์กว่า 3 สาย นาน 3 วัน! ทางพิเศษเฉลิมมหานคร-ศรีรัช-อุดรรัถยา เริ่มหลังเที่ยงคืนวันนี้!

การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) แจ้งว่า ตั้งแต่เวลา 00.01 น.ของวันที่ 13 เมษายน 2564 จนถึงเวลา 24.00 น.ของวันที่ 15 เมษายน 2564 รวม 3 วัน กทพ. ได้ยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษของทางพิเศษ รวม 3 สายทาง คือ ทางพิเศษเฉลิมมหานคร (ทางด่วนขั้นที่ 1) จำนวน 19 ด่าน ทางพิเศษศรีรัช (ทางด่วนขั้นที่ 2) จำนวน 31 ด่าน ทางพิเศษอุดรรัถยา (บางปะอิน-ปากเกร็ด) จำนวน 10 ด่าน

ทั้งนี้การดำเนินการดังกล่าว เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกในการเดินทางของประชาชนในวันหยุดและช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายให้แก่ประชาชน รวมทั้งช่วยลดปัญหาจราจรติดขัดบริเวณหน้าด่านเก็บค่าผ่านทางพิเศษ และยังเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงคมนาคมที่ปรากฏในสัญญาสัมปทาน ฉบับแก้ไขใหม่ระหว่าง กทพ. บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BEM) และบริษัททางด่วนกรุงเทพเหนือ จำกัด (NECL)

อย่างไรก็ตามผู้ใช้ทางพิเศษสามารถสอบถามข้อมูลการเดินทาง สภาพการจราจร และขอความช่วยเหลือจากศูนย์บริการข้อมูลผู้ใช้ทางพิเศษ EXAT Call Center โทร 1543 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง และผู้ใช้ทางพิเศษสามารถดาวน์โหลด Application "EXAT Portal SOS" เพื่อขอความช่วยเหลือกรณีรถเกิดอุบัติเหตุ รถขัดข้องหรือเหตุฉุกเฉินต่าง ๆ ได้อีกช่องทางหนึ่ง

“แรมโบ้” ยัน 1 นายกฯห่วงใยประชาชนตลอดเวลา ทุกลมหายใจเข้าออก วอน ทุกคนปฏิบัติตัวเข้ม ป้องโควิด-19

เมื่อวันที่ 12 เมษายน พ.ศ.2564 นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในช่วงเทศกาลวันสงกรานต์ ซึ่งเป็นวันหยุดยาว ประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนา นายกฯได้อวยพรให้พี่น้องประชาชน ให้พักผ่อนกับครอบครัวอย่างมีความสุขและด้วยความระมัดระวัง เพื่อดูแลทั้งตัวเราเองและคนที่เรารัก สวัสดีปีใหม่ไทยทุกคนล่วงหน้า ถือเป็นคำอวยพร และ ของขวัญปีใหม่ไทย ในเทศกาลวันสงกรานต์ที่นายกฯมอบให้คนไทยทุกคนจากใจจริง

นายเสกสกล กล่าวว่า เป็นการแสดงให้เห็นว่านายกฯ มีความห่วงใยประชาชนทุกกลุ่ม และอยากให้กลับบ้าน และท่องเที่ยวด้วยความปลอดภัย โดยเฉพาะจากการระบาดเชื้อโควิด-19 รวมถึงในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งถือว่าเป็นวันผู้สูงอายุ วันครอบครัวด้วยนั้น นายกฯยังอยากให้พี่น้องประชาชนได้ไปพบกับครอบครัว อีกทั้งยังเป็นการกระตุ้นการท่องเที่ยวของไทยด้วย ประชาชนจะต้องให้ความร่วมมือกับรัฐบาลในการรักษามาตรการด้านสาธารณสุขอย่างเคร่งครัดด้วย เพื่อไม่ให้มีการแพร่เชื้อเพิ่มเติม และยังจะทำให้พี่น้องประชาชน ได้กลับบ้านและท่องเที่ยว ห่างไกลโควิด และมีความสุขในช่วงเทศกาลสงกรานต์อีกด้วย

นายเสกสกล กล่าวว่า "นายกฯห่วงใยประชาชนตลอดเวลา ทุกลมหายใจเข้าออกของนายกฯ คือ ความอยู่ดีกินดีและความสุขกายสุขใจ ความปลอดภัยในชีวิตของพี่น้องประชาชนคนไทยทั้งแผ่นดิน ขอให้เชื่อมั่นว่า นายกฯและรัฐบาลจะทำงานให้ดีที่สุด ทุกปัญหาต้องได้รับการแก้ไขเยียวยาให้ทั่วถึงจะไม่ทอดทิ้งหรือหนีปัญหาเด็ดขาด รัฐบาลต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนและความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนทุกคนด้วยโดยเฉพาะการร่วมมือในการปฏิบัติตนเองและครอบครัวไม่ให้ติดเชื้อไวรัสโควิดที่กำลังแพร่กระจายอยู่ในขณะนี้โดยฟังคำชี้แจงทีมเแพทย์และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่ให้คำแนะนำในการปฏิบัติตัว เพื่อให้คนไทยทุกคนก้าวข้ามผ่านวิกฤตโควิดไปให้ได้"

เทพไท เปรียบ แก้ รธน.รายมาตรา เหมือนซ่อมรถแบบ “ปะผุ” ต้องซื้อใหม่ทั้งคัน วางสเปก 6 ข้อ

นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึง การเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญ แบบรายมาตรา ของพรรคพลังประชารัฐว่า เป็นการเสนอการแก้ไขรัฐธรรมนูญด้วยความจำใจ เพื่อต้องการจะอธิบายกับสังคมว่า รัฐบาลชุดนี้ได้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ตามนโยบายเร่งด่วน ที่ได้แถลงไว้ต่อรัฐสภาแล้ว การเสนอแก้ไขเป็นรายมาตรา ซึ่งถ้าจะเปรียบรัฐธรรมนูญ ปี 2560 เหมือนกับรถยนต์คันหนึ่ง การแก้เป็นรายมาตรา ก็เปรียบเสมือนการซ่อมสี “ปะผุ” ซึ่งรถยนต์คันนี้มีสภาพแชสซีคต เสียศูนย์ ไม่สามารถใช้งานต่อไปได้ จึงจำเป็นต้องซื้อรถยนต์คันใหม่ ซึ่งเปรียบเสมือนการยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ

ส่วนตัวสนับสนุนการแก้ไขรัฐธรรมนูญโดยการตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ(สสร.) เพื่อยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ เพราะการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นรายมาตรา จะไม่ตอบโจทย์ความต้องการของประชาชนทั้งประเทศ ตนในฐานะที่เป็นผู้ริเริ่มการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาปัญหาและแนวทางแก้ไขรัฐธรรมนูญเห็นว่า รัฐธรรมนูญในฝันของตนนั้น อยากให้มีลักษณะดังนี้คือ 

1.) เป็นการปกครองระบอบประชาธิปไตย มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ซึ่งเป็นรูปแบบการปกครองที่ดีที่สุด และเหมาะสมกับสภาพของประเทศไทยมากที่สุด

2.) เป็นระบบรัฐสภา มีสภาคู่ เช่นเดียวกับรูปแบบการปกครองของประเทศอังกฤษ ที่เป็นต้นแบบของการปกครองแบบรัฐสภา ที่มีสถาบันพระมหากษัตริย์เหมือนกับประเทศไทย

3.) ส.ส.มาจากระบบเขตเลือกตั้งทั้งหมด ไม่จำเป็นต้องมี ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ ซึ่งรูปแบบของรัฐธรรมนูญฉบับนี้ เป็นรูปแบบลูกผสม ที่ใช้แบบอังกฤษผสมกับแบบเยอรมันและฝรั่งเศส ขัดกับการปกครองรูปแบบรัฐสภาที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข

4.) สมาชิกวุฒิสภา จะมาจากการแต่งตั้ง หรือเลือกตั้งก็ได้ ต้องขึ้นอยู่กับบทบาทและหน้าที่ ถ้ามาจากการเลือกตั้งของประชาชน จะมีหน้าที่แต่งตั้ง ถอดถอน ตรวจสอบองค์กรอิสระได้ ถ้ามาจากการแต่งตั้งก็ควรมีหน้าที่เพียงการกลั่นกรองกฎหมายเท่านั้น

5.) คณะรัฐมนตรีต้องมาจาก ส.ส.เท่านั้น เพราะถือว่าเป็นบุคคลที่ได้ผ่านการคัดเลือกของประชาชนมาแล้ว มีความยึดโยงกับประชาชน เป็นการป้องกันบุคคลภายนอก กลุ่มทุน ที่ฉวยโอกาสเข้ามาเป็นรัฐมนตรี

6.) จำนวน ส.ส.มีไม่เกิน300คน และ ส.ว.มีไม่เกิน150คน เพราะเป็นจำนวนที่เหมาะสมกับประชากรของประเทศ เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศทั่วโลก และเป็นการประหยัดงบประมาณของประเทศชาติอีกด้วย 

ผมได้แต่ฝันว่ารัฐธรรมนูญฉบับใหม่ จะเป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง แม้ว่าจะฝันที่เป็นไปไม่ได้ก็ตาม ก็ขอแค่ได้ตั้งความหวังเอาไว้ ตามอุดมคติ “ฝันให้ไกล ไปให้ถึง”

การบินไทย ตั้ง “ศูนย์ TG ร่วมใจ ป้องกันภัยโควิด” เฝ้าระวังสุขภาพพนักงาน

วันนี้ (12 เมษายน พ.ศ.2564) รายงานข่าวจากบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 ที่มีการแพร่กระจายในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลในขณะนี้ บริษัท การบินไทยฯ มีความห่วงใยความปลอดภัยด้านสุขอนามัยของพนักงานและผู้ใช้บริการ จึงได้จัดตั้ง “ศูนย์ TG ร่วมใจ ป้องกันภัยโควิด” มีภารกิจหลักในการติดตามและเฝ้าระวัง โดยมุ่งเน้นการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและเฝ้าระวังสุขอนามัยของพนักงานให้เป็นไปอย่างเคร่งครัด 

เช่น อาทิ สวมหน้ากากอนามัย การเว้นระยะห่าง และล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ รวมทั้งมาตรการทำความสะอาด โดยพ่นสเปรย์ฆ่าเชื้อภายในสถานประกอบการของการบินไทย เพื่อให้สอดคล้องกับประกาศของกระทรวงสาธารณสุขในการป้องกันโรคระบาดดังกล่าว โดยคำนึงถึงการให้บริการและความปลอดภัยสูงสุด 

นอกจากนี้ บริษัทฯในฐานะสมาชิกคณะกรรมการดำเนินงานธุรกิจการบิน ประเทศไทย (Airline Operators Committee Thailand หรือ AOC) ได้ประสานกับคณะกรรมการ AOC ผ่านไปยังกระทรวงสาธารณสุข เพื่อดำเนินการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของ บริษัท ซิโนแวค ไบโอเทค จำกัด ให้แก่พนักงานภายใต้สังกัดฝ่ายบริการลูกค้าภาคพื้น ฝ่ายบริการอุปกรณ์ภาคพื้น ฝ่ายครัวการบิน ฝ่ายการพาณิชย์สินค้าและไปรษณียภัณฑ์ และฝ่ายช่าง ที่ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ซึ่งจัดเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงติดเชื้อโควิด-19 รวมทั้งสิ้นประมาณ 4,500 คน ซึ่งต้องทำการฉีด 2 ครั้ง 

โดยจะเริ่มทยอยฉีดเข็มแรกระหว่างวันที่ 19 - 25 เมษายน 2564 และจะนัดฉีดเข็มที่ 2 หลังจากฉีดเข็มแรกเรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้ การบินไทยยังได้จัดทีมพนักงานจิตอาสาเพื่อไปประจำตามจุดคัดกรองของบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) เพื่อสนับสนุนกระทรวงสาธารณสุขในการดำเนินการฉีดวัคซีนป้องโรคโควิด-19 ให้เจ้าหน้าที่ของหน่วยงานต่างๆ ที่ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เป็นระยะเวลา 2 เดือน 

ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้เน้นย้ำให้ผู้ปฏิบัติงานปฏิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะให้ผู้ปฏิบัติงานดูแลตนเองและสถานประกอบการ เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อผู้ใช้บริการและสังคมโดยรวม และผ่านพ้นช่วงวิกฤตการณ์นี้ไปได้ด้วยดี

แรงงานเฮลั่น!! ม33เรารักกัน เงินเข้างวดสุดท้าย และ กลุ่มทบทวนสิทธิผ่านได้ครบ 4,000 บาท รับสงกรานต์

วันนี้ 12 เมษายน พ.ศ.2564 เป็นวันที่โอนเงินงวดสุดท้าย จำนวน 1,000 บาท จนครบ 4,000 บาทให้ผู้ประกันตนมาตรา 33 ที่ได้รับสิทธิ และกลุ่มที่ทบทวนสิทธิผ่านก็จะได้รับเงิน จำนวน 4,000 บาทโดยจ่ายครั้งเดียวในวันนี้เพื่อรับเทศกาลสงกรานต์อีกด้วย

เมื่อวันที่ 12 เมษายน พ.ศ.2564 นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการ ม33เรารักกันว่า หลังจากที่วันนี้ 12 เมษายน 2564 เป็นวันที่ได้มีการโอนเงินงวดที่ 4 ซึ่งเป็นงวดสุดท้ายของโครงการ จำนวน 1,000 บาท จบครบ 4,000 บาท ให้กับผู้ประกันตนมาตรา 33 ที่ได้รับสิทธิ ส่วนกรณีผู้ที่ทบทวนสิทธิผ่านแล้วในวันนี้ก็จะได้รับเงินครบ 4,000 บาท ผ่านแอปพลิเคชัน 'เป๋าตัง' เช่นเดียวกัน เพื่อให้พี่น้องแรงงานสามารถนำไปใช้จ่ายซื้อสินค้าและบริการผ่านแอพพลิเคชั่น 'เป๋าตัง' ทำให้มีเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจในช่วงเทศกาลสงกรานต์ได้

นายสุชาติ กล่าวต่อว่า โครงการ ม33เรารักกัน ที่รัฐบาล ภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และกระทรวงแรงงานภายใต้การกำกับดูแลของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้ให้ความสำคัญในการช่วยเหลือเยียวยาแบ่งเบาภาระค่าครองชีพของผู้ประกันตนมาตรา 33 ให้ได้รับสิทธิคนละ 4,000 บาท และให้ลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ www.ม33เรารักกัน.com ถือว่าได้ประโยชน์กับผู้ประกันตนหลายกลุ่ม ซึ่งพวกเขายังไม่เคยได้รับการช่วยเหลือเยียวยามาก่อน แม้ว่าเงิน 4,000 บาทจะดูเหมือนไม่มาก แต่ก็สามารถช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องผู้ใช้แรงงานได้มาก

เนื่องจากเขาสามารถนำเงินที่ได้รับสัปดาห์ละ 1,000 บาท จนครบ 4,000 บาท ไปจ่ายใช้ในสิ่งของที่จำเป็นในการดำรงชีวิต เงินส่วนนี้สามารถนำไปใช้จ่ายผ่านแอปพลิเคชัน ‘เป๋าตัง’เพื่อซื้อสินค้าและบริการผ่านร้านค้า ผู้ประกอบการรายย่อยอย่างร้านธงฟ้าที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่งและโครงการเราชนะ รวมถึงช่วยพ่อค้าแม่ค้ารายย่อยอย่างหาบเร่แผงลอยได้ด้วยก็จะเกิดเงินหมุนเวียนในหลายรอบและส่งผลทำให้ระบบเศรษฐกิจฟื้นตัวตามมาอีกด้วย

ทั้งนี้ ผู้ประกันตนมาตรา 33 ที่ได้รับเงินจากโครงการ ม33เรารักกัน สามารถนำเงิน ในแอปพลิเคชัน ‘เป๋าตัง’ ไปใช้จ่ายซื้อสินค้าและบริการได้ตั้งแต่เวลา 06.00 - 23.00 น.ของทุกวัน ไปจนถึงวันที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ.2564 เท่านั้น

ราเมศ สนับสนุน พาณิชย์ คุมเข้ม จำหน่ายสินค้าราคาสูงเกินสมควร ขออย่าซ้ำเติมประชาชน

นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ได้กล่าวถึงกรณีที่นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า สั่งการให้กรมการค้าภายใน และสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ ออกตรวจสอบและติดตามสถานการณ์ราคาสินค้าอย่างใกล้ชิด และเพิ่มความเข้มงวดในเรื่องจำหน่ายสินค้าราคาสูงเกินสมควร ว่า

เห็นด้วยที่กระทรวงพาณิชย์โดยนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ คุมเข้มการจำหน่ายสินค้าราคาสูงเกินสมควร ซึ่งจากเดิมมีการเข้มงวดกวดขันอยู่แล้ว แต่ช่วงสถานการณ์ปัจจุบันเห็นด้วยที่จำต้องเข้มงวดมากเป็นพิเศษ เพราะเป็นช่วงสถานการณ์โควิด-19 ป้องกันไม่ให้พ่อค้าแม่ค้าฉวยโอกาสเอาเปรียบซ้ำเติมประชาชน ทั้งร้านค้าทั่วไปและร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการของรัฐด้วย หากอาศัยสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 แสวงหากำไรเกินกว่าที่ควรได้ตามปกติ การเพิ่มราคา ก็จะเกิดความไม่เป็นธรรมต่อประชาชนด้วย 

ในส่วนพี่น้องประชาชนที่ได้เกินทางกลับต่างจังหวัด ก็ต้องตรวจสอบการจำหน่ายน้ำมันของสถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิงด้วย ความถูกต้องของหัวจ่ายน้ำมัน ที่จะมีผลต่อการเติมว่ามีปริมาณเต็มลิตรหรือไม่ รวมถึงผู้จำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม สินค้าอุปโภคบริโภค ผู้ขาย ผู้บริการก็จะต้องติดป้ายแสดงให้เห็นถึงราคาสินค้าและค่าบริการให้ชัดเพื่อให้ประชาชนได้เห็นราคาก่อนใช้บริการ

นายราเมศ กล่าวต่อว่า ขณะนี้ทุกภาคส่วนต้องร่วมมือกันเพื่อก้าวข้ามสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด19 ไปด้วยกันหากพบเห็นการกระทำผิด จำหน่ายสินค้าราคาสูงเกินสมควร หรือจำหน่ายในราคาไม่ตรงกับที่แจ้งไว้ สามารถแจ้งไปได้ที่กรมการค้าภายใน สายด่วน 1569 ตลอด 24 ชั่วโมง และแจ้งร้องเรียนได้ที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ หากพบการกระทำความผิดก็จะมีความผิด กรณีไม่ปิดป้ายแสดงราคามีโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท กรณีจำหน่ายสินค้าราคาสูงเกินสมควร กักตุนสินค้าและปฏิเสธ การจำหน่ายต้องโทษจำคุก 7 ปี ปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top