“ชัชชาติ” วิ่งไหว้พระ9วัด รับปีใหม่ เพื่อสิริมงคล พร้อม ดูปัญหาเมืองกทม. ฟุตบาท กันสาด ทางข้าม คนไร้บ้าน

นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม หนึ่งในว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ได้ทำกิจกรรมวิ่งไหว้พระ 9 วัดในกรุงเทพฯ เป็นระยะทางประมาณ 12.5 กิโลเมตร เพื่อเป็นสิริมงคลในวันขึ้นปีใหม่ 2565  โดยได้ถือโอกาสดูเมืองเส้นทางท่องเที่ยว ทางเดินเท้า ถนน บริเวณรอบเมืองชั้นใน โดยเริ่มจากวัดเทพศิรินทร์ฯ วัดสระเกศฯ วัดเทพธิดารามฯ วัดราชนัดดารามฯ วัดบวรนิเวศฯ วัดชนะสงครามฯ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว) วัดราชบพิธฯและวัดสุทัศน์ฯ

นายชัชชาติ กล่าวว่า วันนี้ได้มาวิ่งกับกลุ่มนักวิ่งที่วิ่งด้วยกันอยู่ประจำ โดยส่วนใหญ่พวกเราก็จะวิ่งตอนเช้าและที่มาวิ่งในวันที่ 1 มกราคมหรือปีใหม่ก็เพื่อศิริมงคลและไหว้พระ 9 วัด ส่วนทำไมต้องวิ่ง 9 วัดนั้นเพราะเป็นความเชื่อ แต่จริงๆจะกี่วัดก็ได้ทั้งนี้การมาวิางวันนี้สนุกมากและมีประโยชน์แฝงอยู่หลายอย่าง ทั้งเรื่องสุขภาพและการได้เห็นเมือง อย่างที่วันนี้ได้วิ่งเข้ามาในกรุงเทพฯชั้นในได้เห็นปัญหาหลายอย่างทั้งเรื่องถนน ฟุตบาท คนไร้บ้าน ซึ่งในเขตพระนครมีจำนวนเพิ่มขึ้นมาก และตนคิดว่าปีนี้เป็นที่เศรษฐกิจจะลำบาก เพราะนักท่องเที่ยวต่างชาติยังไม่กลับมาตนเห็นว่าเรามีแหล่งวัฒนธรรมที่มีคุณค่าในกรุงเทพฯแล้วเราจะทำอย่างไรให้คนในประเทศท่องเที่ยวกันมากขึ้น แม้จะทดแทนนักท่องเที่ยวต่างชาติไม่ได้ แต่อย่างน้อยก็จะทำให้เศรษฐกิจกระตุ้นขึ้น คนกรุงเทพฯออกไปเที่ยวต่างจังหวัดคนต่างจังหวัดมาเที่ยวในกรุงเทพฯ

อย่างวันนี้ที่ตนได้วิ่ง 9 วัดก็ได้รู้ว่าแต่ละวัดมีประวัติศาสตร์ซ่อนอยู่และเป็นเสน่ห์ คนที่อยู่ต่างจังหวัดตอนนี้โรงแรมกรุงเทพฯว่างมหาศาลสามารถหาโอกาสเข้ามาเที่ยวได้ โดยการท่องเที่ยวก็ไม่ได้มีราคาแพงมาก มาดูประวัติศาสตร์ในกรุงเทพฯ และคนกรุงเทพฯมีเวลาก็ออกไปเที่ยวต่างจังหวัด อย่างน้อยก็จะช่วยเรื่องเศรษฐกิจเพราะตนเชื่อว่าปีนี้เรื่องเศรษฐกิจจะหนักมาก เรื่องสุขภาพเป็นเทรนของคนกรุงเทพฯและคนทั้งประเทศที่ดูแลสุขภาพมากขึ้น และเรื่องสุขภาพเป็นเรื่องสำคัญที่สุดเพราะไม่ควรรอให้เป็นโรคถึงมารักษาออกกำลังกายทุกวันให้แข็งแรง ส่วนเศรษฐกิจก็ช่วยกันประคับประคองไป อย่างวิ่งวันนี้ก็ได้ประโยชน์หลายอย่างทั้งสุขภาพและดูเมืองดูปัญหาเศรษฐกิจดูการกระตุ้นและการใช้จ่ายของประชาชน 

ผู้สื่อข่าวถามว่า จากที่ได้มาวิ่งพบปัญหาใดชัดเจนบ้าง นายชัชชาติ กล่าวว่า เรื่องฟุตบาทกับทางข้ามนั้นชัดเจน อย่างพวกตนที่เป็นนักวิ่งจะมีปัญหาเรื่องทางข้ามถนนเยอะเพราะทางข้ามบางทีไม่มีจุดว่าเมื่อไหร่จะให้คนข้ามก็ต้องวัดใจกันว่าตกลงไฟเขียวหรือไฟแดงฉะนั้นตนคิดว่าทางแยกทางข้ามทุกจุดควรจะมีจังหวะให้คนข้ามและมีสัญญาณบอกให้ชัดเจน ส่วนเรื่องฟุตบาท คือ ฟุตบาทไม่เรียบและยังมีกันสาดที่มาเกะกะทางเดินคนยิ่งถ้าเป็นคนแก่หรือผู้พิการก็จะใช้ทางได้ยาก โดยพวกเราก็ได้รวบรวมข้อมูลและดูว่าจุดไหนต้องเร่งดำเนินการก่อน 

นายชัชชาติ กล่าวว่า จากที่วิ่งเราเห็นว่าที่สาธารณะที่มีคุณภาพเป็นเรื่องสำคัญอีกเรื่องหนึ่ง และเรามีสวนสาธารณะที่ไม่เยอะพอ อย่างศาลาว่าการกทม.ที่จริงๆแล้วมีอีกที่หนึ่งที่ดินแดง ตนคิดว่าควรจะย้ายไปให้หมดเพราะเรามีที่ใหม่ แล้วศาลาเก่าควรปรับพัฒนาเป็นพิพิธภัณฑ์หรือเป็นพื้นที่สาธารณะสำหรับคนเมืองร่วมกับลานคนเมืองก็จะกลายเป็นแหล่งพื้นที่สาธารณะที่มีคุณภาพ พื้นที่สาธารณะคือปัจจัยสำคัญของเมือง เพราะเป็นจุดที่มีปฏิสัมพันธ์กันมีการแลกเปลี่ยนความเห็นกัน ตนคิดว่ากรุงเทพขาดพื้นที่สาธารณะที่มีคุณภาพ เพราะเมื่อมีพื้นที่ที่มีคุณภาพเด็กสามารถมาทำกิจกรรม งานดนตรี เทศกาล ออกกำลังกายแสดงศิลปะหรือทำกิจกรรมหมุนเวียนกันไป อย่างไรก็ตาม พื้นที่ที่สาธารณะที่มีคุณภาพควรมีกระจายอยู่ทุกแขวงทุกเขตใกล้บ้าน เพราะการไปเดินห้างต่างคนต่างไปเราไม่เคยได้เพื่อนจากการไปเดินห้างแต่การมาพื้นที่สาธารณะ มาออกกำลังกาย มาเจอเพื่อนและแลกเปลี่ยนความคิดกัน เราสร้างชุมชนสร้างสังคมที่เข้มแข็งนี่คือหัวใจของการทำกรุงเทพฯให้เข้มแข็งและให้ดีขึ้น

ผู้สื่อข่าวถามว่าเนื่องจากวันนี้เป็นวันปีใหม่อยากจะขออะไรกับชาวกทม.หรือไม่ นายชัชชาติกล่าวว่า ขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้พวกเรามีความสุขมากๆและพร้อมจะรับปีใหม่ ซึ่งตนมองว่าปีนี้ก็ไม่ง่ายแต่ถ้ารวมมือร่วมใจกันก็จะผ่านไปได้ง่าย