Tuesday, 8 July 2025
Hard News Team

‘ลุยด่านหน้าสะท้อนเรื่องจริง คอขวดการจัดการวิกฤตซ้อนวิกฤต ’กับ‘ คุณอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี’ | Click on Clear THE TOPIC EP.18

????HOT!! ลุยด่านหน้า!! สะท้อนเรื่องจริง คอขวดการจัดการวิกฤตซ้อนวิกฤต!!

????สะท้อนปัญหาจัดการวิกฤตโควิดแบบคอขวด!! รัฐไทยควรแก้แบบไหน?!

ในรายการ Click on Clear THE TOPIC จับประเด็น เน้นความรู้ ที่จะพาไปร่วมเจาะลึกกับ...

'คุณอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี’ เลขาธิการ พรรคกล้า

ใน Topic : ลุยด่านหน้า!! สะท้อนเรื่องจริง คอขวดการจัดการวิกฤตซ้อนวิกฤต!!

???? เวลา 2 ทุ่มตรง รับชมไปพร้อมกัน !!

ดำเนินรายการโดย ปริม กุญชนิตา กุญชร ณ อยุธยา PROGRAM DIRECTOR THE STATES TIMES

???? ช่องทางรับชม LIVE

Facebook: THE STATES TIMES

YouTube: THE STATES TIMES


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!
A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!! 
>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท
>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ
>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต
>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย
***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

‘สุวัจน์' หนุนปลูก ฟ้าทะลายโจร แจก 1.2 หมื่นกล้า สู้โควิด-19  จี้ รัฐ เร่งหา-กระจายวัคซีน โดยเร็ว ให้สอดรับสถานการณ์

ที่บ้านราชวิถี 20 นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนา ในฐานะประธานที่ปรึกษาศูนย์ฅนโคราชรักจริงไม่ทิ้งกัน เปิดเผยว่า ในวันศุกร์ที่ 6 สิงหาคม นี้ ศูนย์ฅนโคราชรักจริงไม่ทิ้งกันจะได้แจกจ่ายต้นกล้าฟ้าทะลายโจร จํานวน 12,000 ต้น ให้กับพี่น้องชาวโคราช เพื่อส่งเสริมการใช้สมุนไพรไทยในการสู้ภัยโควิด ที่ที่ทําการศูนย์ฅนโคราชรักจริงไม่ทิ้งกัน พรรคชาติพัฒนา  

นายสุวัจน์ กล่าวว่า เนื่องจากสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ในจังหวัดนครราชสีมา ยังพบผู้ติดเชื้ออย่างต่อเนื่อง ขณะนี้เทศบาลนคร นครราชสีมา ได้จัดตั้งสถานที่กักตัว (State Quarantine) สําหรับกลุ่มเสี่ยงที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง เพื่อใช้เป็นที่พักคอยก่อนตรวจหาเชื้อโควิด หากพบว่าเป็นผู้ติดเชื้อก็จะส่งตัวเข้ารักษา ที่โรงพยาบาลต่อไป โดยใช้สถานที่โรงแรมฟอร์จูน อําเภอเมืองนครราชสีมา สามารถรองรับได้ 120 คน  โรงพยาบาลมหาราช ตั้งโรงพยาบาลสนามเพิ่มเติมอีก 1 แห่ง โดยใช้หอพักพยาบาลของโรงพยาบาลมหาราช สามารถรับผู้ป่วยเพิ่มได้อีก 240 คน ซึ่งศูนย์ฅนโคราชรักจริงไม่ทิ้งกัน ได้ช่วยกันสนับสนุนอุปกรณ์จําเป็นต่างๆ อาทิ เช่น ตู้เย็น พัดลม และ อ่างล้างมือ ให้กับโรงพยาบาลสนาม เพิ่มประสิทธิภาพในการให้การดูแลผู้ป่วยโควิด-19

นายสุวัจน์ กล่าวว่า ขณะนี้การแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยเร่งด่วนคือ การจัดหาวัคซีนให้เร็วที่สุด และมีจำนวนเพียงพอกับประชากร และสถานการณ์การแพร่ระบาด จะต้องจัดลําดับการฉีดและกระจายจัดวัคซีนไปยังกลุ่มต่างๆ ให้สอดคล้องเหมาะสมกับสถานการณ์โควิด-19 ที่เกิดขึ้น เพิ่มประสิทธิภาพการสื่อสาร และให้ข้อมูล ข้อเท็จจริงที่เกี่ยวข้องต่างๆ เกี่ยวกับวัคซีน สถานการณ์ของโรค ไปยังพี่น้องประชาชนอย่างรวดเร็ว เพื่อลดความวิตกกังวล และสร้างความเชื่อมั่นว่าเราจะสามารถฝ่าฟันวิกฤตโควิด-19 ไปได้ เพื่อจะได้เกิดความร่วมมือจากทุกฝ่าย 

นายสุวัจน์ กล่าวว่า การส่งเสริมให้ใช้สมุนไพรไทยที่ประเทศเรามีอยู่ ไม่ต้องพึ่งพาการนําเข้าจากต่างชาติ เป็นอีกช่องทางหนึ่งในการแก้ไขสถานการณ์โควิด-19ได้ ตามที่ได้มีการประกาศให้ฟ้าทะลายโจร อยู่ในบัญชียาหลักแห่งชาติด้านสมุนไพร และมีการส่งเสริมให้มีการนํามาใช้ เพราะมีสารสกัดแอนโดรกราโพไลด์ ซึ่งสามารถสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกายและสามารถรักษาผู้ป่วย โควิด-19 ที่ไม่มีอาการหรือผู้ป่วยที่มีอาการเล็กน้อย โดยได้มีการทดลองนํามาใช้กับผู้ป่วย และ เกิดผลสำเร็จในการรักษา ทำให้ขณะนี้ สมุนไพรไทย ฟ้าทะลายโจรจึงมีความต้องการสูงมาก เพื่อเป็นการส่งเสริมการใช้สมุนไพรไทยให้เกิดประโยชน์ในการต่อสู้กับโควิด-19 ศูนย์ฅนโคราชรักจริงไม่ทิ้งกัน จึงได้จัดหาต้นกล้าฟ้าทะลายโจรไว้จํานวน 12,000 ต้น โดยได้รับการ สนับสนุนจากมูลนิธิเก้ายั่งยืน มูลนิธิรักษ์ดิน รักษ์น้ำ และออฟฟิศชาวนา ช่วยกันจัดหาเพิ่มเติมอีกด้วย  เพื่อแจกจ่ายให้กับประชาชนจำนวน 5,600 ต้น และหน่วยงานราชการ เทศบาล อบต. ตําบล ชุมชนต่างๆ อีกจำนวน 6,400 ต้น เพื่อนําไปปลูกและใช้ประโยชน์ และเป็น ส่วนหนึ่งของการแก้ไขปัญหาโควิด-19 และสร้างขวัญกําลังใจให้กับพี่น้องประชาชน 

นายสุวัจน์ กล่าวว่า ศูนย์ฅนโคราชรักจริงไม่ทิ้งกัน และพรรคชาติพัฒนา ได้ดำเนินการช่วยเหลือพี่น้อง ประชาชนทางโคราชมานับแต่เริ่มต้นของสถานการณ์ COVID-19 เมื่อต้นปี 2563 ด้วยการแจกจ่าย อาหาร  หน้ากากอนามัย  แอลกอฮอล์สเปรย์ฆ่าเชื้อ  ถุงน้ำใจ ข้าวกล่อง  อุปกรณ์ทางการแพทย์  และอื่นๆ เพื่อช่วยพี่น้องประชาชนมาอย่างต่อเนื่อง และ ขอส่งกําลังใจมายังพี่น้องประชาชนทุกคน ขณะที่รอการฉีดวัคซีนนั้น ขอให้พวกเรามีกําลังใจ ร่วมกันฝ่าฟันโควิดไปด้วยกัน ให้ความร่วมมือ กับมาตรการต่างๆ ด้านสาธารณสุข และ ดูแลตนเองให้ดีที่สุด ในสถานการณ์ที่การฉีดวัคซีนยังไม่ทั่วถึง  ด้วยการใส่หน้ากากอนามัย ล้างมือ มีระยะห่าง อยู่ในสถานที่ที่เหมาะสมตลอดเวลา ก็สามารถที่จะสร้างความปลอดภัยจากโควิด-19 ได้

พาณิชย์จับตาเงินเฟ้อช่วงโควิด-ล็อกดาวน์ คาดทั้งปี 0.7 – 1.7%

นายวิชานัน  นิวาตจินดา รองผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป หรือ เงินเฟ้อประจำเดือนก.ค. 2564 ปรับตัวมาอยู่ที่ 0.45%  ชะลอตัวจาก 1.25% ในเดือนก่อนหน้า เป็นผลจากการขยายตัวต่อเนื่องของสินค้าในกลุ่มพลังงาน และอาหารสดบางประเภท อาทิ เนื้อสุกร ไข่ไก่และผลไม้สด ตามความต้องการในช่วงล็อกดาวน์ ประกอบกับเกิดโรคระบาดในสุกรส่งผลให้ปริมาณผลผลิตเข้าสู่ตลาดน้อยลง นอกจากนี้ ไข่ไก่และผลไม้สด ฐานราคาของปีที่ผ่านมาอยู่ระดับต่ำ 

ขณะที่มาตรการลดภาระค่าครองชีพของภาครัฐ ทั้งการลดค่าไฟฟ้า น้ำประปา ในรอบเดือนก.ค. – ส.ค. 2564 และการลดค่าเล่าเรียน-ค่าธรรมเนียมการศึกษา รวมทั้ง การลดลงของอาหารสดบางประเภท (ข้าวสารเจ้า ข้าวสารเหนียว ผักสด) เครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ และเครื่องนุ่งห่ม เป็นปัจจัยที่ทำให้เงินเฟ้อในเดือนนี้ชะลอตัว ส่วนสินค้าในหมวดอื่น ๆ ยังเคลื่อนไหวในทิศทางปกติ 

ส่วนคาดการณ์แนวโน้มเงินเฟ้อทั่วไปในเดือนส.ค. 2564 ยังมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องในระดับที่ไม่สูงมากนัก โดยมีปัจจัยสำคัญจากมาตรการลดค่าครองชีพผู้บริโภคของภาครัฐ ทั้งการลดค่ากระแสไฟฟ้าและค่าน้ำประปา ในรอบเดือนก.ค. – ส.ค. 2564 สำหรับสินค้าในหมวดอื่น ๆ น่าจะยังคงเคลื่อนไหวในทิศทางปกติ ตามปริมาณผลผลิตและความต้องการ ขณะที่ราคาสินค้าเกษตรยังมีโอกาสผันผวนตามสภาพอากาศ 

“การแพร่ระบาดของโควิด-19 ยังคงส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อและการใช้จ่ายของประชาชน ซึ่งเป็นแรงกดดันสำคัญต่ออัตราเงินเฟ้อของประเทศ อย่างไรก็ตาม แผนการจัดหาและการกระจายวัคซีนที่มีประสิทธิภาพและมีความชัดเจน รวมถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐที่ทยอยออกมาเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง โดย สนค.ประเมินว่าเงินเฟ้อเฉลี่ยในปี 2564 จะอยู่ระหว่าง 0.7 – 1.7% ซึ่งเป็นอัตราที่น่าจะช่วยสนับสนุนให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวได้อย่างเหมาะสมและต่อเนื่อง”

นายไพศาล พืชมงคล อดีตกรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความ ระบุ ม็อบ 7 สิงหา ที่จะไปที่พระบรมมหาราชวัง จบไม่สวย!!

เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2564 นายไพศาล พืชมงคล อดีตกรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า ม็อบ 7 สิงหา ที่จะไปที่พระบรมมหาราชวัง

ได้ทำลายการเคลื่อนคาร์ม็อบพินาศสิ้น!!!!

ทำลายโดยมีแผน หรือโดยมั่ว?

แต่ผลคือทั้งแกนนำและม็อบ 7 สิงหา จบไม่สวย!!


ที่มา : https://www.facebook.com/Paisal.Fanpage/photos/a.481669931931684/4134871973278110/


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!

A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!!

>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท

>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ

>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต

>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย

***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

'ลี เซียนลุง' นายกรัฐมนตรีของสิงคโปร์ กล่าวเตือนสหรัฐฯ ไม่ควรที่จะท้าทายอย่างก้าวร้าวใส่จีน ย้ำ “อันตรายมาก”

นายกรัฐมนตรี ลี เซียนลุง ของสิงคโปร์ กล่าวเตือนในวันอังคาร (4 ส.ค.) ว่า สหรัฐฯ ไม่ควรที่จะท้าทายอย่างก้าวร้าวใส่จีน โดยเขาบอกว่า ทัศนะแบบแข็งกร้าวซึ่งกำลังเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ของวอชิงตัน สามารถที่จะกลายเป็นสิ่งที่มี “อันตรายมาก”

นายกฯ ลี กล่าวว่า สหรัฐฯ ได้เคลื่อนตัวออกจากแบบแผนวิธีการที่มุ่งแข่งขันกับจีนอย่างชนิดมุ่งสร้างผลดีโดยรวมขึ้นมา และหันไปสู่การมีความคิดเห็นที่ว่า อเมริกัน “ต้องชนะ ด้วยวิธีใดวิธีหนึ่ง”

“พรรคการเมืองใหญ่ทั้งสอง (ของสหรัฐฯ) ในทุกวันนี้ มีฉันทามติเห็นพ้องต้องกันอยู่อย่างหนึ่ง นั่นคือเรื่องความสัมพันธ์กับจีน” เขากล่าวในเวทีการประชุมความมั่นคงแอสเพน (Aspen Security Forum)

“ทว่าจุดยืนของพวกเขาคือการใช้แนวทางแข็งกร้าว และผมไม่แน่ใจเลยว่านี่เป็นฉันทามติที่ถูกต้องแล้ว” ผู้นำของสิงคโปร์บอก

“ผมไม่ทราบว่าฝ่ายอเมริกันจะตระหนักถึงความเป็นจริงหรือไม่ว่า พวกเขา (จีน) จะกลายเป็นปรปักษ์ที่น่าเกรงขามถึงขนาดไหนในการที่จะต้องรับมือ ถ้าหากพวกเขา (อเมริกัน) ตัดสินใจลงไปว่า จีนคือศัตรูรายหนึ่ง”

“ในสถานการณ์เช่นนี้ ผมจะขอพูดกับทั้งสองฝ่ายว่า (กดปุ่ม) “พอซ” เถอะ คิดกันให้รอบคอบก่อนที่พวกคุณจะ (กดปุ่ม) “ฟาสต์-ฟอร์เวิร์ด” มันมีอันตรายมาก” เขากล่าว

“เป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งยวดสำหรับสหรัฐฯ และจีน ที่จะต้องเพียรพยายามเข้ามีปฏิสัมพันธ์ต่อกันเอาไว้ เพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะกัน ซึ่งจะก่อให้เกิดความวิบัติหายนะแก่ทั้งสองฝ่าย และแก่โลกด้วย”

ลี ซึ่งมองเห็นกันว่าเป็นผู้หนึ่งที่มีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในคณะผู้นำของทั้งสองประเทศ กล่าวว่า ทัศนะแบบแข็งกร้าวของวอชิงตันที่มีต่อจีนนั้น กำลังผสมโรงเข้ากันกับความเชื่อของฝ่ายจีนที่ว่า สหรัฐฯ นั้นไม่สามารถไว้วางใจได้และต้องการที่จะสกัดกั้นการก้าวขึ้นมาของตน

เขายังวิพากษ์วิจารณ์การที่คณะบริหารไบเดนแสดงความแข็งกร้าวในการพบปะหารือทวิภาคีระดับสูงครั้งแรกกับฝ่ายจีนที่เมืองแองเคอเรจ รัฐอะแลสกา ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา

“ความเป็นจริงก็คือไม่ว่าฝ่ายไหนก็ไม่สามารถดูหมิ่นหมายบดขยี้อีกฝ่ายหนึ่งได้หรอก” เขากล่าว

แต่ ลี แสดงความยินดีในเรื่องที่คณะบริหารไบเดนหวนกลับมาสู่นโยบายการต่างประเทศ “ที่มีแบบแผนมากขึ้น” ภายหลังการใช้วิธีการที่ยุ่งเหยิงกระจัดกระจายของคณะบริหารโดนัลด์ ทรัมป์

“ประเทศต่าง ๆ กำลังเฝ้ามองหาความคงเส้นคงวาทางยุทธศาสตร์ระยะยาวจากสหรัฐฯ” เขาบอก และย้ำว่า มันหมายถึงนโยบายที่ “พึ่งพาอาศัยได้และคาดการณ์ทำนายล่วงหน้าได้”

เขากล่าวเน้นว่า ไต้หวันคือจุดที่มีศักยภาพจะกลายเป็นชนวนลุกลามได้มากเป็นพิเศษ

“ผมไม่คิดว่าพวกเขาต้องการที่จะเดินหมากตามอำเภอใจฝ่ายเดียว” อย่างเช่นการเข้ารุกรานไต้หวัน ลีพูดโดยหมายถึงฝ่ายปักกิ่ง

“แต่ผมคิดว่ามีอันตราย (เกี่ยวกับเรื่องนี้) อันตรายที่ว่าคือการคาดคำนวณผิดอย่างใหญ่โตมโหฬาร”

เขาแสดงความซาบซึ้งสำหรับการที่รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ ลอยด์ ออสติน แสดงความเห็นเอาไว้ระหว่างอยู่ที่สิงคโปร์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยที่ออสตินกล่าวเตือนคัดค้านการเปลี่ยนแปลงสถานะเดิมของสถานการณ์ไต้หวัน ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนแปลงในรูปแบบใดก็ตาม

“ผมคิดว่าถ้าหากมีการระมัดระวังคอยประคับประคองจุดยืนกันเอาไว้อย่างชัดเจนและสม่ำเสมอแล้ว เราก็จะสามารถประคับประคองสันติภาพและเสถียรภาพของสองฟากช่องแคบไต้หวันเอาไว้ได้” ลี บอก

แต่ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม “คุณกำลังอยู่ในระยะเวลาที่ยากลำบากอย่างมากทีเดียว” เขากล่าวเสริม


(ที่มา : เอเอฟพี)

https://mgronline.com/around/detail/9640000076530


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!

A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!!

>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท

>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ

>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต

>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย

***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

ระนอง-ประกอบพิธีส่งมอบกระบือเผือก ตามโครงการขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตทูลเกล้าถวายกระบือเผือก "สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี"

ณ กองกำกับการตำรวจภูธรจังหวัดระนอง  ตำบลบางริ้น  อำเภอเมือง  จังหวัดระนอง  "นายสมเกียรติ  ศรีษะเนตร" ผู้ว่าราชการจังหวัดระนองเป็นประธานในพิธีส่งมอบ"กระบือเผือก" น้อมเกล้า ฯ ถวายสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า  กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี มี "พระระณังคมุนีวงศ์" เจ้าอาวาสวัดสุวรรณคีรีวิหาร  เป็นประธานพิธีสงฆ์  ส่วนคณะผู้รับ-ส่งมอบ ประกอบด้วย "พลเอก ปวริศ  แจ่มสว่าง" ประธานคณะฝ่ายสำนักพระราชวัง (ประธานรับมอบ)  นายสมจิตต์  เขียนด้วง  รองผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง  นายยุทธพงษ์  เอี้ยงอ้าย  เลขานุการ ในองค์หม่อมเจ้าอุทัยกัญญา  ภาณุพันธ์  นางสาวหอมจันทร์  ซาฮาด  เลขานุการ รมต.กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดระนอง ผู้บังคับกองพันทหารราบที่ 2 นางสาวผกาพร  นิลพงษ์  ผู้มอบกระบือเผือก และปศุสัตว์จังหวัดระนอง  นอกจากนี้มีหัวหน้าส่วนราชการและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมพิธี

สำหรับความเป็นมาของการมอบ "กระบือเผือก" ในครั้งนี้  เนื่องมาจากจังหวัดระนองได้รับแจ้งจาก "นางสาวผกาพร  นิลพงษ์"  อยู่บ้านเลขที่ 268 หมู่ 2 ตำบลบางนอน อำเภอเมือง ประสงค์จะทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายกระบือเผือก จำนวน 6 ตัว (ปัจจุบันเกิดเพิ่มอีก 2 ตัว รวม 8 ตัว)  และเมื่อวันที่  2  เมษายน  2564  สำนักพระราชวังแจ้งว่าได้นำความกราบบังคมทูลทราบฝ่าละอองพระบาทแล้ว ทรงรับ และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานกระบือเผือกดังกล่าว แก่โรงเรียนทหารการสัตว์ กรมการสัตว์ทหารบก ตำบลพรหมณี อำเภอเมือง จังหวัดนครนายก  จังหวัดระนองได้รับความกรุณาจาก "พลเอก ปวริศ  แจ่มสว่าง" และคณะได้เดินทางมาร่วมหารือและให้คำแนะนำเกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติส่ง-รับมอบกระบือ กันในวันนี้

ในส่วนของพิธีการส่ง-รับมอบ "กระบือเผือก" เริ่มพิธีโดยประธานในพิธี จุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย เปิดกรวยดอกไม้ถวายเครื่องราชสักการะ เบื้องหน้าพระฉายาลักษณ์ "สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี" และกล่าวคำกราบบังคมทูล จากนั้นพระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์  เจริญจิตภาวนา  ประธานในพิธีพร้อมหัวหน้าส่วนราชการ ถวายเครื่องไทยธรรม  พระสงฆ์อนุโมทนา และกรวดน้ำรับพร  จากนั้น "พระระณังคมุนีวงศ์" ประธานฝ่ายสงฆ์ พรมน้ำมนต์แก่กระบือเผือกทั้ง 8 ตัว เพื่อความเป็นสิริมงคล  ประธานในพิธี ผู้ถวายกระบือ พร้อมคณะผู้มารับมอบร่วมกันคล้องพวงมาลัย ป้อนหญ้า พรมน้ำอบน้ำหอมไทย เพื่อเป็นสิริมงคล  จากนั้นประธานในพิธี มอบเอกสารการส่งมอบกระบือให้กับ ประธานผู้รับมอบ สุดท้ายเจ้าหน้าที่ทำการต้อนกระบือ ทั้ง 8  ตัว ขึ้นรถบรรทุก เพื่อเริ่มเดินทางนำกระบือไปส่งที่ "โรงเรียนทหารการสัตว์  กรมการสัตว์ทหารบก"  ต.พรหมณี  อำเภอเมือง  จังหวัดนครนายก ต่อไป

ทั้งนี้  ระหว่างที่ "กระบือ" อยู่ในความดูแลของจังหวัดระนอง  ได้รับการดูแลเป็นอย่างดี  โดยได้รับการตรวจสุขภาพ  ฉีดวัคซีนป้องกันโรคปากและเท้าเปื่อย  วัคซีนโรคลัมปีสกิน  ให้ยาบำรุงและยาถ่ายพยาธิ  ขึ้นทะเบียนสัตว์ พร้อมจัดทำบัตรประจำตัวสัตว์เป็นที่เรียบร้อย
เมื่อกระบือเผือกเดินทางมาถึง โรงเรียนทหารการสัตว์ กรมการสัตว์ทหารบกนครนายก โรงเรียนกศ.ทบ.นครนายกแล้ว "พลเอกปวริศ แจ่มสว่าง" ประธานคณะฝ่ายประสานงานขอพระราชทานพระราชานุญาตถวายกระบือเผือก และ "นายยุทธพงษ์ เอี้ยงอ้าย" เลขานุการในองค์หม่อมเจ้าอุทัยกัญญา ภาณุพันธุ์ พร้อมด้วยคณะได้นำ"กระบือเผือก" พร้อมทะเบียนกระบือจากกรมปศุสัตว์จังหวัดระนอง มอบให้ "โรงเรียนทหารการสัตว์ กรมการสัตว์ทหารบกนครนายก" และต้อนกระบือเผือกเขาคอกที่จัดเตรียมไว้เป็นอันเสร็จพิธี

“ทัพเรือ” ปูนบำเหน็จ “แต้ว” อส.ทหารพรานหญิง สุดาพร เรือตรี ตามวุฒิ ด้านผบ.ทร. โทรให้กำลังใจ บอกทำดีที่สุดแล้ว

ที่กองบัญชาการกองทัพเรือ (บก.ทร.) ว่าที่เรือโทหญิง พุทธรักษา โรคารักษ์ ผู้ช่วยโฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยว่า ภายหลังจาก อาสาสมัครทหารพรานหญิง สุดาพร สีสอนดี นักกีฬามวยสากลหญิง รุ่น 60 กก. สังกัดกองทัพเรือ ในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ที่ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งผ่านเข้าสู่รอบ 4 คน สุดท้าย โดยแม้จะพ่ายให้แก่ เคลลี แอนน์ แฮริงตัน จากไอร์แลนด์ แต่อาสาสมัครทหารพรานหญิง สุดาพร จะได้รับรางวัลเหรียญทองแดง

ทั้งนี้ ภายหลังเสร็จสิ้นการชก พล.ร.อ. ชาติชาย ศรีวรขาน ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) ได้โทรศัพท์ให้กำลังใจ ที่นำชัยชนะ เกียรติยศ และชื่อเสียงมาสู่ประเทศไทย โดยได้ติดตามรับชมมาโดยตลอดและเห็นว่า "แต้ว" ทำดีที่สุดแล้ว

ผู้ช่วยโฆษกกองทัพเรือ กล่าวต่อไปว่า กองทัพเรือ โดย พล.ร.อ.วศินสรรพ์ จันทวรินทร์ ประธานกรรมการบริหารสวัสดิการกีฬากองทัพเรือ ได้ขออนุมัติรางวัลพิเศษและการบรรจุเข้ารับราชการให้แก่อาสาสมัครทหารพรานหญิงสุดาพร ตามหลักเกณฑ์การเสนอขอเลื่อนยศและการให้รางวัลพิเศษแก่นักกีฬาในสังกัดกองทัพเรือเป็นกรณีพิเศษ

สำหรับแต้ว ปัจจุบันสำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาตรี จากคณะศึกษาศาสตร์ สถาบันการพลศึกษาวิทยาเขตสุโขทัย และกำลังรออนุมัติการสำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาโท คณะศึกษาศาสตร์ เอกสังคมศาสนาและวัฒนธรรม วิทยาลัยทองสุข ซึ่งตามหลักเกณฑ์การขอเลื่อนยศ และเลื่อนฐานะตามลำดับชั้นนั้น ในส่วนของผู้ที่สำเร็จการศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ หรือคุณวุฒิปริญญาตรีขึ้นไปให้เสนอขอปรับวุฒิ และแต่งตั้งยศตามคุณวุฒิที่สำเร็จการศึกษา ซึ่งตามหลักเกณฑ์ผู้ที่สำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาตรีจะเข้ารับการบรรจุในระดับสัญญาบัตร ได้รับการแต่งตั้งยศเป็นเรือตรี

สำหรับ อาสาสมัครทหารพรานหญิงสุดาพร สีสอนดี เกิดเมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2534 ที่ อำเภอไชยวาน จังหวัดอุดรธานี ได้รับการบรรจุเป็นอาสาสมัครทหารพรานหญิง ที่หน่วยบัญชาการนาวิกโยธินในปี 2556 ปัจจุบันสังกัด กองร้อย ทหารพรานนาวิกโยธินที่ 524 ชุดควบคุมทหารพรานนาวิกโยธินที่ 2 หน่วยเฉพาะกิจทหารพรานนาวิกโยธิน

อาสาสมัครทหารพรานหญิงสุดาพร ได้เข้าร่วมทีมมวยกองทัพเรือ โดยเข้าร่วมการแข่งขันในระดับชาติโดยเป็นนักกีฬาของกองทัพเรือในทีมสโมสรราชนาวี ทำการแข่งขันรายการมวยสากลชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2556 ได้รางวัลชนะเลิศเหรียญทองในระดับประเทศไทย ในรุ่นที่ขึ้นชก ทำให้ทีมมวยของกองทัพเรือ สโมสรราชนาวี สามารถครองถ้วยคะแนนรวมทีมหญิง และทีมสโมสรราชนาวี สามารถครองถ้วยคะแนนรวมถึง 8 สมัย ติดต่อกันจนถึงปัจจุบัน

สำหรับผลงานที่สำคัญของ อาสาสมัครทหารพรานหญิงสุดาพร ในการแข่งขันรายการสำคัญ ประกอบด้วย

- รายการ Sea Games Indonesia 2011 ครั้งที่ 26 ในปี 2554 ณ สาธารณรัฐอินโดนีเซีย ได้รับรางวัลชนะเลิศเหรียญทอง

- รายการ Sea Games ครั้งที่ 27 ณ สาธารณรัฐเมียนมา ได้รับรางวัลชนะเลิศเหรียญเงิน

- การแข่งขันเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 18 ในปี 2561 ณ กรุงจาร์กาต้า สาธารณรัฐอินโดนีเซีย ได้รับรางวัลชนะเลิศเหรียญเงิน

- รายการ Sea Games ครั้งที่ 30 ในปี 2562 ที่ประเทศฟิลิปปินส์ ได้รับรางวัลเหรียญทอง และล่าสุดก่อนเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกคือ การแข่งขันคัดเลือกโอลิมปิกเกมส์ โซนเอเชียและโอเชียเนีย ที่กรุงอัมมาน ประเทศจอร์แดน

ทั้งนี้ มีรายงานว่า ผู้ที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของ อาสาสมัครทหารพรานสุดาพร สีสอนดี คือ พันจ่าเอกสุบรรณ พันโนน อดีตนักมวยสากลสมัครเล่นทีมชาติไทย ในรุ่นไลท์ฟลายเวท สังกัดสโมสรราชนาวี ซึ่งเคยคว้ารางวัลเหรียญทองเอเชี่ยนเกมส์ 2541 เหรียญทองซีเกมส์ ปี 2544 เหรียญทองแดงเอเซี่ยนเกมส์ ปี2546 เหรียญเงินเอเชี่ยนเกมส์ ปี 2549 นอกจากนั้น ยังเป็นตัวแทนทีมชาติไทยเข้าร่วมแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์สองครั้ง

ในปี 2543 (โอลิมปิก 2000) ที่เมืองซิดนีย์ เครือรัฐออสเตรเลีย และในปี 2547 (โอลิมปิก 2004) ที่ กรุงเอเธนส์ ประเทศกรีซ โดยปัจจุบัน พันจ่าเอกสุบรรณ เป็นข้าราชการกองทัพเรือ ตำแหน่ง เจ้าหน้าที่หมวดการฝึกและจัดการแข่งขัน แผนกการกีฬา กองกิจการพิเศษ ฐานทัพเรือสัตหีบ ปัจจุบันช่วยราชการกองการกีฬา กรมสวัสดิการทหารเรือ และยังเป็นผู้ฝึกสอนให้กับทีมมวยสากลสมัครเล่นทีมชาติไทย ทั้งทีมชายและทีมหญิง ตั้งแต่ปี 2550 จนถึงปัจจุบัน โดยสามารถพานักกีฬามวยสากลทีมชาติไทยเข้าร่วมการแข่งขันรายการสำคัญมากมาย อาทิ ซีเกมส์ เอเชี่ยนเกมส์ และโอลิมปิคเกมส์

โฆษกรัฐฯ วอนผู้ชุมนุมนึกถึงบ้านเมือง  หลังราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ประกาศ ฯ ห้ามร่วมชุมนุม มีความผิดจำคุก 2 ปี ปรับ 40,000 บาท “ลั่น” ปชช.ยังคงมีสิทธิและเสรีภาพในการแสดงออกทางการเมือง อย่างสุจริต

นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี  กล่าววิงวอนผู้ที่จะเข้าร่วมกิจกรรมหรือชุมนุมทางการเมืองว่า ขอให้ห่วงใยความปลอดภัยของตนเอง ครอบครัว ชุมชนและบุคคลอื่นทั่วไป รวมทั้งยังมีความผิดทางอาญา โทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามที่เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ประกาศหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินในส่วนที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคง  เรื่อง การห้ามชุมนุม การทำกิจกรรม การมั่วสุม ที่ก่อให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)  ฉบับที่ 9 ได้ มีผลตั้งแต่วันที่ 3 สิงหาคม 2564   

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า  ขณะนี้ยังอยู่ในข้อกำหนดของการบริหารสถานการณ์ในฉุกเฉิน ห้ามการรวมกลุ่มและจำกัดการเคลื่อนที่ของบุคคล เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19  ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขได้แจ้งเตือนตลอดว่า การที่มีบุคคลจำนวนมากมารวมตัว ยิ่งเพิ่มโอกาสในการแพร่ และรับเชื้อไวรัส โควิด-19 และอาจจะนำปสู่การแพร่ระบาดในครอบครัวหรือชุมชนมากยิ่งขึ้น ทำให้การป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 มีปัจจัยเสี่ยงเพิ่มมากขึ้น   

“อย่างไรก็ตาม รัฐบาลขอยืนยันว่า ประชาชนยังคงมีสิทธิและเสรีภาพในการแสดงออกทางการเมือง อย่างสุจริต และยังสามารถแจ้งข้อร้องเรียนเบาแสะการกระทำผิดถึงนายกรัฐมนตรีโดยตรงผ่านช่องทาง 1111  ด้วย จึงอยากขอความร่วมมือจากกลุ่มผู้ชุมนุมรวมทั้งผู้ที่จะเข้าร่วมการชุมนุมอีกครั้ง ให้คำนึงถึงประเทศชาติและความพยายามของทุกฝ่ายในการควบคุมการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19  เพราะทุกคนคือคนไทย และขอขอบคุณประชาชนส่วนใหญ่ที่ให้ความร่วมมือกับมาตรการต่าง ๆ ที่ทางศบค.ประกาศออกมาแล้วก่อนหน้านี้” โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว

กระทรวงแรงงาน มอบเครื่องอุปโภคบริโภคแก่มูลนิธิแอลพีเอ็น ช่วยแรงงานไทยและต่างด้าวสู้ภัยโควิด

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน  มอบเครื่องอุปโภคบริโภคช่วยเหลือมูลนิธิเครือข่ายส่งเสริมคุณภาพชีวิตแรงงาน (LPN) เพื่อนำไปช่วยเหลือแรงงานต่างด้าว ทางภาคตะวันออก และอำเภออรัญประเทศ

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วย นายสุรชัย ชัยตระกูลทอง ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงแรงงาน นางธิวัลรัตน์ อังกินันทน์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นายสุเทพ ชิตยวงษ์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นางเธียรรัตน์ นะวะมะวัฒน์ โฆษกกระทรวงแรงงาน (ฝ่ายการเมือง) นายสุทธิ สุโกศล ปลัดกระทรวงแรงงาน นายไพโรจน์ โชติกเสถียร อธิบดีกรมการจัดหางาน มอบเครื่องอุปโภคบริโภค ซึ่งกระทรวงแรงงานได้รับบริจาคจากภาคเอกชน เพื่อส่งมอบให้มูลนิธิเครือข่ายส่งเสริมคุณภาพชีวิตแรงงาน (LPN) นำไปช่วยเหลือคนไทยและแรงงานต่างด้าวที่ได้รับความเดือดร้อนจากผลกระทบโควิด-19 ณ บริเวณโถง ชั้น 1 อาคารกระทรวงแรงงาน โดยมอบบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป และไข่ไก่ จำนวน 2,700 ฟอง 

นายสุชาติ กล่าวว่า ที่ผ่านมากระทรวงแรงงานได้สนับสนุนค่าอาหาร โดยนำงบจากกองทุนเพื่อการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าวมาบรรเทาความเดือดร้อนแก่แรงงานภายในแคมป์  โดยสั่งข้าวกล่องจากชมรมหาบเร่แผงลอยส่วนหนึ่ง สมาคมภัตตาคารไทยส่วนหนึ่ง และร้านอาหารบริเวณแคมป์ก่อสร้างที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการปิดแคมป์ โดยมอบข้าวกล่องในกรุงเทพมหานคร และปริมณฑลแล้วมากกว่า 1 ล้านกล่อง ซึ่งนอกจากสามารถบรรเทาความเดือดร้อนให้ร้านค้ามีรายได้และสามารถช่วยเหลือแรงงานต่างด้าว พร้อมกันทั้ง 2 ฝ่ายได้แล้ว ยังทำให้เกิดการกระจายรายได้ มีเงินหมุนเวียนในเศรษฐกิจฐานรากต่อไป ซึ่งเป็นสิ่งที่นายกรัฐมนตรี พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งกำกับดูแลกระทรวงแรงงานให้ความสำคัญมาโดยตลอด นอกจากนี้เรายังเป็นช่องทางหนึ่งที่นำเครื่องอุปโภคบริโภคที่ได้รับบริจาคจากภาคเอกชนและประชาชนผู้มีธารน้ำใจ ไปมอบให้แก่ลูกจ้างในแคมป์คนงาน และแรงงานต่างด้าวที่ได้รับความเดือดร้อนด้วย

ด้าน นายสมพงค์ สระแก้ว ผู้อำนวยการมูลนิธิเครือข่ายส่งเสริมคุณภาพชีวิตแรงงาน (LABOUR RIGHT PROMOTION NETWORK : LPN) กล่าวว่า ขอขอบคุณรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานที่สนับสนุนเครื่องอุปโภคบริโภคแก่เรา ทางมูลนิธิจะนำสิ่งที่ได้รับในวันนี้ไปประกอบเป็นชุดยังชีพ เพื่อช่วยเหลือคนไทยและคนต่างด้าวที่รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดโรคโควิด ทางภาคตะวันออก ซึ่งอาสาสมัครได้แจ้งมาว่าส่วนใหญ่เป็นชาวกัมพูชาที่ติดอยู่ที่อำเภออรัญประเทศ ไม่สามารถเดินทางกลับบ้านเกิดได้ และกำลังขาดแคลนข้าวสาร อาหารแห้ง ซึ่งหลังจากนี้มูลนิธิจะยังคงร่วมมือกับกระทรวงแรงงานต่อไป

“เลขาฯปชป.”นำมูลนิธิเสนียฯ มอบสิ่งของจำเป็น ตั้งศูนย์พักคอยช่วยเหลือผู้ป่วยโควิด ที่ร.ร.สุวรรณารามฯบางกอกน้อย

ที่โรงเรียนสุวรรณารามวิทยาคม นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์และเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ในเลขานุการมูลนิธิ ม.ร.ว. เสนีย์ปราโมช พร้อมด้วยนายชนินทร์ รุ่งแสง อดีต ส.ส. กทม. พรรคประชาธิปัตย์ ลงพื้นที่ตรวจความพร้อมและมอบสิ่งของจำเป็น และมอบอุปกรณ์ต่างๆ เบื้องต้น  ผ่าน รศ.นพ.วิศิษฎ์ วามวาณิชย์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศิริราชเพื่อใช้ดำเนินการในศูนย์พักคอย เพื่อส่งต่อผู้ป่วยโควิด-19 ที่โรงเรียนสุวรรณารามวิทยาคม เขตบางกอกน้อย

ทั้งนี้นายชนินทร์  กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์มีนโยบายให้ความสำคัญในการดูแลเยียวยา ช่วยเหลือ ผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ผ่านมูลนิธิ ม.ร.ว.เสนีย์ ฯ  ซึ่งขณะนี้ในพื้นที่บางกอกน้อย และบางพลัดมีปัญหาผู้ติดเชื้อจำนวนมาก ส่วนใหญ่อยู่ในชุมชนแออัด และไม่สามารถที่จะแยกส่วนออกมากักตัวได้ ฉะนั้นเพื่อความปลอดภัยและลดการติดเชื้อจึงควรสนับสนุนให้มีศูนย์พักคอยสำหรับผู้ติดเชื้อ จึงได้ประสานงานกับโรงพยาบาลศิริราช โรงเรียนสุวรรณารามวิทยาคม และชุมชนวัดสุวรรณาราม เพื่อที่จะจัดตั้งศูนย์พักคอย ดูแล ช่วยเหลือ ผู้ป่วยก่อนส่งต่อไปยังโรงพยาบาลสนาม


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top