Tuesday, 8 July 2025
Hard News Team

'นิกกี้ ณฉัตร' เป็นงง ห้ามสั่งเองแม้จะอยู่หน้าร้าน ต้องกดแอปเรียกไรเดอร์

ทำเอานักแสดงหนุ่ม นิกกี้ ณฉัตร จันทพันธ์ ถึงกับสุดงงจนต้องโพสต์รูปตัวเอง พร้อมกับตั้งคำถามกับสิ่งที่ตัวเองได้เจอมา คือ อยู่หน้าร้านกาแฟแต่ไม่สามารถสั่งของในร้านกินได้ เพราะทางร้านมีมาตรการป้องกันโควิดที่เข้มงวด โดยนิกกี้เขียนแคปชั่นบรรยายและสงสัยในสิ่งที่ตัวเองได้เจอว่า...

"อยู่หน้าร้าน เเต่ห้ามสั่งเอง ต้องกดเเอปให้ไรเดอร์หยิบอาหารให้ เเล้วไรเดอร์ ไม่ต้องยื่นของให้ผมหรอ สงสารแม่ ๆ เล่นเเอป ไม่เป็น บอกผมลูกเอ้ย กว่าเเม่จะได้กินทีละอย่าง เยี่ยมจริง ๆ เยี่ยมจริง ๆ ไม่ได้ว่าร้านนะครับ เขาทำตามกฎหมาย"

หลังจากที่ นิกกี้ ณฉัตร โพสต์เรื่องนี้ไป ก็มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันอย่างมากมายว่า เมื่อวานน้องไปสั่งชาหน้าร้าน สรุปต้องเรียกพี่ไรเดอร์มาเอาให้อยู่ดี ทั้ง ๆ ที่อยู่หน้าร้าน, แก้ หรือเพิ่มปัญหา หัวจะปวด, ลดปริมาณ คนที่จะเข้าห้างหรือป่าวครับ มองแบบอีกมุม เพราะกฎนี้ใช้แค่ในห้าง


ที่มา : https://www.instagram.com/p/CSJDTxFBsbq/?utm_medium=copy_link

https://www.thairath.co.th/entertain/news/2158317


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!

A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!!

>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท

>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ

>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต

>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย

***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

อัฟกานิสถานระส่ำ กลุ่มตาลีบันวางคาร์บอมบ์หวังสังหาร รมว.กลาโหม ในเมืองคาบูล

คาบูล (เอพี/รอยเตอร์/บีบีซี นิวส์) - สถานการณ์ในอัฟกานิสถานย่ำแย่ลงทุกขณะ หลังสหรัฐฯ และพันธมิตรนาโตกำลังถอนทหารออกไป ล่าสุด เกิดเหตุโจมตีบ้านพักของรัฐมนตรีกลาโหมในกรุงคาบูล จนมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก ขณะที่การสู้รบระหว่างทหารกองทัพรัฐบาลกับกลุ่มติดอาวุธตาลีบันในเมืองสำคัญก็กำลังดำเนินไปอย่างดุเดือด

กลุ่มติดอาวุธก่อเหตุโจมตีด้วยระเบิดรถยนต์ ตามด้วยระดมยิงปืนเข้าใส่บ้านพักของนายบิสมิลเลาะห์ ข่าน โมฮัมมาดี รักษาการรัฐมนตรีกลาโหมอัฟกานิสถาน ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่รักษาความปลอดภัยสูงสุด หรือกรีนโซน ในกรุงคาบูล เมื่อช่วงกลางดึกคืนวันอังคารที่ผ่านมา ส่งผลให้มีพลเรือนเสียชีวิต 8 ศพ บาดเจ็บอีกกว่า 20 คน ขณะเกิดเหตุ นายข่าน โมฮัมมาดีไม่ได้อยู่ที่บ้าน ส่วนสมาชิกครอบครัวได้รับการช่วยเหลือออกมาได้อย่างปลอดภัย เช่นเดียวกับผู้คนนับร้อยในพื้นที่ ขณะที่ผู้ก่อเหตุทั้ง 4 คนถูกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยและทหารสังหารในเวลาต่อมาหลังการยิงปะทะกันอย่างดุเดือด

บริเวณเกิดเหตุในเช้าหลังการโจมตี มีสภาพความเสียหายต่ออาคารบ้านเรือนและรถยนต์ที่จอดอยู่ใกล้เคียง แม้ว่าขณะนี้ยังไม่ยืนยันว่าใครเป็นผู้ลงมือ แต่น่าจะเป็นฝีมือของกลุ่มตาลีบันที่กำลังรุกคืบเข้ายึดครองหลายพื้นที่ทั่วประเทศตลอดช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ที่สหรัฐฯ และชาติตะวันตกถอนทหารออกจากอัฟกานิสถานจนเกรงกันว่า กลุ่มตาลีบันที่เคยปกครองประเทศก่อนถูกสหรัฐฯ ยกทัพไปโค่นล้มหลังเหตุวินาศกรรม 11 กันยายน 2001 จะกลับมายึดครองอัฟกานิสถานได้อีกครั้ง โดยหลังเกิดเหตุโจมตีครั้งนี้ ชาวอัฟกันในกรุงคาบูลและเมืองอื่น ๆ ต่างร่วมกันประณามการกระทำที่อุกอาจ และความรุนแรง พร้อมประกาศสนับสนุนกองกำลังของรัฐบาลเต็มที่

อย่างไรก็ตาม ภาพรวมของสถานการณ์ในอัฟกานิสถานขณะนี้กำลังตกอยู่ในภาวะล่อแหลม หลายพื้นที่โดยเฉพาะในเมืองลัชคาร์ กาฮ์ เมืองเอกของจังหวัดเฮลมานด์ ทางภาคใต้กลายเป็นสมรภูมิเดือด เกิดการต่อสู้อย่างหนักระหว่างทหารรัฐบาลและกลุ่มตาลีบันตลอดช่วงหลายวันที่ผ่านมา ทำให้มีพลเรือนเสียชีวิตอย่างน้อย 40 ศพ ตั้งแต่วันอังคาร ขณะที่ชาวบ้านจำนวนมากเริ่มเก็บข้าวของหนีตายอพยพจากบ้านเรือน แม้ว่าสหรัฐฯ และกองกำลังนาโตจะยังคงโจมตีทางอากาศสนับสนุน แต่ตาลีบันสามารถเข้ายึดเมืองและสถานที่สำคัญได้ต่อเนื่อง สหประชาชาติเตือนว่า กำลังจะเกิดวิกฤติด้านมนุษยธรรมตามมาเมื่อพลเรือนต้องตกอยู่ในวงล้อมการสู้รบ

ขณะเดียวกัน นายเนด ไพรซ์ โฆษกกระทรวงต่างประเทศของสหรัฐฯ กล่าวเมื่อวานนี้ตามเวลาท้องถิ่นว่า กลุ่มตาลีบันได้เล็งเห็นถึงประโยชน์ของการเจรจาต่อรอง และมีส่วนร่วมในการเจรจาดังกล่าวที่นครโดฮาของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ถ้ากลุ่มตาลีบันพยายามที่จะฝ่าฝืนในสิ่งที่เคยให้คำมั่นไว้ พวกเขาก็จะไม่เป็นที่ยอมรับจากนานาชาติ และขณะนี้ทุกคนก็วิตกกังวลว่าอาจเกิดสงครามกลางเมืองในอัฟกานิสถาน


ที่มา : https://www.naewna.com/inter/592739


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!

A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!!

>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท

>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ

>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต

>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย

***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

ไม่ยุติธรรม!! 'นักยกน้ำหนักข้ามเพศ'​ แข่งกับหญิงแท้​ในโอลิมปิก หลังได้รับอนุญาต!! | NEWS GEN TIMES ชวนคิด กับ กิตติธัช

ความเท่าเทียมที่ไม่เท่าเทียม!! 
เมื่อบรรดานักยกน้ำหนักหญิงประท้วงโอลิมปิก
หลังอนุญาต 'นักยกน้ำหนักหญิงข้ามเพศ' แข่งกับผู้หญิงจริง ๆ

NEWS GEN TIMES ชวนคิด กับ กิตติธัช

โดย อ.ต้อม - กิตติธัช ชัยประสิทธิ์ นักวิชาการอิสระ และอาจารย์ด้านสถาปัตยกรรม สอนพิเศษด้าน ปรัชญาการเมือง สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง

.

.



Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!
A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!! 
- ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท
- รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ
- สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต
- แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย
***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

โครงการ "ต้องรอด" โดยกลุ่ม Up for Thai เดินหน้าภารกิจใหญ่ 'Mission บุษราคัม75' จัดหาเครื่องอุปโภคบริโภคให้แก่ผู้ป่วยที่เข้าพักรักษาในโรงพยาบาลสนามบุษราคัมเป็นระยะเวลา 75 วัน

โครงการ "ต้องรอด" โดยกลุ่ม Up for Thai เดินหน้าทำภารกิจใหญ่ Mission บุษราคัม75 เพื่อจัดหาเครื่องอุปโภคบริโภคให้แก่ผู้ป่วยที่เข้าพักรักษาในโรงพยาบาลสนามบุษราคัมเป็นระยะเวลา 75 วัน หรือจนกว่าจำนวนสิ่งของจะครบตามรายการ โดยเป็นการระดมสิ่งของและเงินทุนจากทุกภาคส่วน

หม่อมราชวงศ์เฉลิมชาตรี ยุคล ผู้ร่วมก่อตั้งโครงการ "ต้องรอด" กลุ่ม Up for Thai เปิดเผยว่า วันนี้ทางโครงการต้องรอดเดินหน้าทำภารกิจช่วยเหลือผู้ป่วยโควิด และผู้ได้รับความเดือดร้อน จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของ Covid-19 มา 90 วันแล้ว

ซึ่งภารกิจหลักในวันนี้ คือโครงการเฉพาะกิจ #missionบุษราคัม75 ที่เดินหน้ามาตั้งแต่วันที่ 1สิงหาคม จนถึงวันที่ 15 ตุลาคมนี้ ถือเป็นโครงการใหญ่ที่กลุ่ม Up for Thai "ต้องรอด" และพันธมิตรภาคประชาสังคม ภาคเอกชน และภาคสื่อสารมวลชนจึงร่วมกันจัดตั้งโครงการเฉพาะกิจ #missionบุษราคัม75 ขึ้น

เพื่อจัดหาเครื่องอุปโภคบริโภคให้แก่ผู้ป่วยที่เข้าพักรักษาในโรงพยาบาลสนามบุษราคัมเป็นระยะเวลา 75 วัน หรือจนกว่าจำนวนสิ่งของจะครบตามรายการ ก่อนจะมีการย้ายไปยังสถานที่ใหม่ เพื่อให้ผู้ป่วย บุคลากรทางการแพทย์ทุกคนได้รับปัจจัยเพียงพอและให้การดำเนินการของโรงพยาบาลเป็นไปอย่างราบรื่น โดยวันนี้มีเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมาร่วมภารกิจกว่า 70 คน ช่วยกันขนสิ่งของอุปโภคบริโภคใส่รถทั้งหมดกว่า 30 คัน ไปที่โรงพยาบาลบุษราคัม รวมมูลค่ากว่า 1 ล้านบาท

นอกจากนี้ศูนย์อาสาต้องรอด Up for Thai ยังคงปฏิบัติภารกิจหลักควบคู่กันไป ทั้งการนำส่งอาหารปรุงสุกวันละ 7,000 กล่อง และเครื่องอุปโภคบริโภคให้แก่ชุมชน โรงครัวชุมชน แคมป์คนงาน ผู้กักตัว ผู้ป่วยติดเตียง ผู้พิการ คนชรา ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ผู้ป่วยรอเตียง ส่งมอบอุปกรณ์ป้องกันสำหรับด่านหน้า โรงพยาบาล โรงพยาบาลสนาม อสม. ศูนย์พักคอย สถานีอนามัย มูลนิธิและอาสากลุ่มอื่น ๆ

ด้าน นพ.กิตติศักดิ์ อักษรวงศ์ ผอ.รพ.บุษราคัม ได้กล่าว ขอบคุณทีมงานเพจต้องรอด ที่นำสิ่งของอุปโภคบริโภคมาสนับสนุนให้กับผู้ป่วย และเจ้าหน้าที่ด่านหน้าในเรื่องของอุปกรณ์แพทย์ ในขณะนี้สิ่งของที่ผู้ใจบุญนำมาบริจาคยังเพียงพอ ขาดแต่บุคลากรที่มาช่วยเหลือ เนื่องจากผู้ป่วยมีจำนวนค่อนข้างมาก ทั้งผู้ป่วยหนักและผู้ป่วยที่พอช่วยตัวเองได้ หลากหลายกลุ่มสี ทางรพ.ยังสามารถรับมือได้อยู่

ผอ.รพ.บุษราคัม ยังตอบประเด็นที่เคยเป็นกระแสข่าวก่อนหน้านี้เรื่องของห้องสุขาที่ไม่ค่อยถูกสุขลักษณะว่า คนไข้ ที่อยู่ในโรงพยาบาลกว่า 3,000 คน ซึ่งมีผู้ป่วยหลากหลายประเภททั้ง เด็ก คนชรา คนพิการ ผู้ป่วยติดเตียง ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ซึ่งเป็นกลุ่มเปราะบาง ประกอบกับรอบทำความสะอาดน้อย ภาพจึงปรากฎอย่างที่เห็น แต่ในขณะนี้ได้มีการประสานกับทางรพ. พระนั่งเกล้า ซึ่งเป็นผู้ทำความสะอาด หรือ Outsource ที่ทางรพ.จ้างมา เพื่อเพิ่มจำนวนรอบทำความสะอาด รวมทั้งเพิ่มรถวิลแชร์ / เก้าอี้นั่งทำความสะอาดเข้าไปมากขึ้น พร้อมทั้งเพิ่มจำนวนเจ้าหน้าที่ให้เพียงพอต่อความต้องการในการดูแล

ส่วนกรณีสิ่งของเครื่องใช้ของผู้ป่วย นพ.กิตติศักดิ์ ยอมรับว่า สิ่งของเครื่องใช้บางอย่างที่อาจจะไม่จำเป็นอาจไม่ถึงมือผู้ป่วย เนื่องจากทางรพ.จะแจ้งผู้ป่วยอย่างชัดเจนตั้งแต่แรกเข้าว่าให้นำสิ่งของเท่าที่จำเป็นมาเท่านั้น ไม่เช่นนั้นอาจจะเป็นการเพิ่มภาระให้กับเจ้าหน้าที่ได้

ส่วนกรณีผู้เสียชีวิต ซึ่งมีจำนวนไม่แน่นอนในแต่ละวัน เฉลี่ย 4-5 ราย บางวันไม่มี บางวันมี 7-8 ราย ในช่วงกลางวันสามารถบริหารจัดการได้ แต่ที่เป็นปัญหาจะเป็นช่วงกลางคืน เนื่องจากข้อจำกัดของรพ.พระนั่งเกล้า บางครั้งจุดพักศพไม่เพียงพอ หรือ ถ้าต้องส่งไปที่วัด ถ้าหลัง 20.00 น. ทางวัดจะปิด ก็จะนำศพไว้ที่รพ.บุษราคัม ซึ่งจะมีห้องพักศพและก็ปิดซิปล็อกอย่างดี

สำหรับข้อมูลการบริจาคประกอบไปด้วย...

สบู่เหลว 1,920 ขวด

แชมพู 3,888 ขวด

ยาสีฟัน 6,120 หลอด

ผงซักฟอก 2,372 ห่อ

ทิชชู่ม้วน 25,864 ม้วน

ทิชชู่เปียก 1,200 แพ็ก

ผ้าอนามัย ห่อ 4 ชิ้น 19,860 ห่อ

ผ้าอ้อมเด็ก 4,712 ชิ้น

ผ้าอ้อมผู้ใหญ่และแผ่นรองซับ 10,776 ชิ้น

แก้วกระดาษ 3,850 แก้ว

โจ๊กถ้วย 1,404 ถ้วย

บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปถ้วย 2,304 ถ้วย

ขนมยูโร่ 1,872 ชิ้น

ขนมถุง 1,584 ถุง

กาแฟซอง 96,714 ซอง

โอวัลติน/ไมโลซอง 2,430 ซอง

นมกล่อง 3,840 กล่อง

ราวตากผ้า 167 ราว

น้ำยาล้างจาน 36 ขวด

กะละมัง 70 ใบ

น้ำยาล้างห้องน้ำ 452 แกลลอน

ชุดไม้ถูพื้น+ถัง 18 ชุด

ไม้แปรงขัดพื้น 24 อัน

แปรงขัดส้วม 20 อัน

ถุงมือยาง 120 คู่

รองเท้าบู๊ทยาง 24 คู่

ชุดไม้กวาด+ที่โกยผง 36 ชุด

เครื่องดื่มสำหรับบุคลากร 3,240 ขวด

รถเข็น 45 คัน

น้ำ (แพ็ก) 2,379 แพ็ก

Oximeter 1,000 ชิ้น

หน้ากากอนามัยสำหรับเด็ก 1,000 ชิ้น

KN95 2,125 ชิ้น

หน้ากาอนามัยทางการแพทย์ 10,000 ชิ้น

เจลตั้งโต๊ะ 1,502 ขวด

เจลถุงเติม 800 ถุง

เจลแอลกอฮอล์แกลลอน (1 ลิตร) 416 แกลลอน

เจลแอลกอฮอล์แกลลอน (5 ลิตร) 28 แกลลอน

เจลแอลกอฮอล์แกลลอน (10 ลิตร) 18

แกลลอนแอลกอฮอล์ถัง (5 ลิตร) 42 ถัง

ยาดม 1,080 ขวดเล็ก

สเตรชเชอร์ 2 เตียง

อาหารเช้าซีเรียล 126 กล่อง

PPE 5,000 ชุด

เตียงผู้ป่วย 1 เตียง


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!

A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!!

>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท

>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ

>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต

>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย

***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

“บอร์ดกยค.” เห็นชอบ ข้อเสนอขับเคลื่อนมติสมัชชาครอบครัวฯ-ร่างแผนป้องกัน-แก้ไขปัญหาความรุนแรงในครอบครัว จับมือ 16 หน่วยงานรัฐ แก้ปัญหา เตรียมชงครม.เห็นชอบ

น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายและยุทธศาสตร์ครอบครัวแห่งชาติ(กยค.)เมื่อวันที่4ส.ค.ที่ผ่านมา ว่า ที่ประชุมเห็นชอบข้อเสนอต่อการขับเคลื่อนมติสมัชชาครอบครัวระดับชาติ ประจำปี 2563 ดังนี้ 1.จัดพื้นที่เรียนรู้สำหรับครอบครัว โดยบูรณาการความร่วมือกับองค์กร เครือข่าย ชุมชน สถานประกอบการ สร้างแกนนำส่งเสริมความรู้สำหรับครอบครัว ส่งเสริมสื่อสร้างสรรค์สำหรับครอบครัวและควบคุมสื่อที่ไม่เหมาะสม 2.จัดสวัสดิการครอบครัวในภาวะวิกฤตโควิด-19 เช่น ทบทวน ปรับปรุงระเบียบ หรือกำหนดมาตรการทางภาษี เพื่อแบ่งเบาภาระของสถานประกอบการที่มีศูนย์เด็กเล็ก พัฒนาระบบให้คำปรึกษาครอบครัว สร้างกระบวนการเรียนรู้ของครอบครัวในภาวะวิกฤต จัดสวัสดิการสำหรับการเลี้ยงดูเด็กเล็กและที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา และ3.จัดการเชิงนโยบายด้านครอบครัว เช่น ปรับปรุงกฎหมายและระเบียบที่เอื้อต่อการสร้างครอบครัวคุณภาพ ทบทวนรูปแบบการจัดหลักสูตรการเรียนการสอนให้เหมาะสมกับบริบทความเปลี่ยนแปลง เช่น การจัดการศึกษาแบบเรียนที่บ้าน(Home School)จัดทำหลักสูตรออนไลน์ โดยข้อเสนอดังกล่าว จะเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พิจารณามอบหน่วยงานที่เกี่ยวข้องใช้เป็นแนวทางในการดำเนินงานต่อไป

น.ส.รัชดา กล่าวว่า คณะกรรมการฯเห็นชอบในร่างข้อตกลงความร่วมมือการดำเนินงานป้องกันและแก้ปัญหาความรุนแรงต่อเด็ก สตรี และครอบครัว มีวัตถุประสงค์เพื่อให้การช่วยเหลือและคุ้มครองผู้ถูกกระทำความรุนแรงภายใน 24 ชั่วโมง และปัญหาได้รับการแก้ไขอย่างรอบด้าน โดยความร่วมมือ 16 หน่วยงานภาครัฐ อาทิ กระทรวงยุติธรรม กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงมหาดไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และองค์กรจากภาคประชาสังคมและเอกชนด้วย โดยยึดหลักมาตรการ 3P คือ 1.การป้องกัน (Prevention) 2.การคุ้มครอง (Protection) และ3.การดำเนินคดี (Prosecution) ทั้งนี้นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯ กำชับให้อนุกรรมการส่งเสริมและพัฒนาครอบครัว เร่งศึกษาเรื่องพัฒนาการของเด็กที่จะหายไปในช่วงสถานการณ์โควิด-19 และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องประชาสัมพันธ์เว็บไซต์ www.เพื่อนครอบครัว.com ซึ่งเป็นเว็บที่ให้สาระความรู้เกี่ยวข้องคนทุกวัยในครอบครัว และไลน์ @linefamily ที่จะให้คำปรึกษาปัญหาครอบครัว เป็นพื้นที่การเรียนรู้ของครอบครัวผ่านระบบออนไลน์ ให้ประชาชนเข้าถึงได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย

“แรมโบ้” ซัด "เต้น ณัฐวุฒิ "เป็นถึงอดีตรัฐมนตรี คงหมดแสงจึงหิวแสงต้องหันมาเดินตามหลังแกนนำเด็กๆม็อบสามกีบ ช่างอับอายขายขี้หน้าแทนเห็นด้วยกับ “นายนิพิฏฐ์” โพสต์เฟซบุ๊กแนะให้จ่ายค่าเผาบ้านเผาเมือง จะได้ไม่ถูกคนค่อนแคะว่าไม่รับผิดชอบ และสู้แล้วรวย

นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ โพสต์ข้อความเฟซบุ๊กนายกฯบริหารจัดการโควิด-19 ล้มเหลว อยู่มาเกือบ 8 ปี เกินพอบทพิสูจน์ เตรียมสู้แบบสันติวิธีพร้อมกันทั่วประเทศ โดยนายเสกสกล ระบุว่านายณัฐวุฒิคงลืมไปแล้วว่านายกฯเข้ามาบริหารบ้านเมืองแบบถูกต้องตามกฎหมาย และจะต้องทำงานจนครบเทอมตามกฎหมายไม่มีการยุบสภาหรือลาออก นายณัฐวุฒิอย่าไปรับคำสั่งจากนายใหญ่ทางไกลให้ไล่เพื่อหวังรางวัลโบนัสตอบแทนจากนายใหญ่เหมือนในอดีตที่ได้รับรางวัลเป็นสส.เป็นรัฐมนตรีมาแล้วประชาชนคนเสื้อแดง รู้เช่นเห็นชาติหมดแล้วมุกเก่าๆที่คนเสื้อแดงอ่านออก 

และการที่นายกฯบริหารประเทศตลอดเวลาที่ผ่านมา หากจะพิสูจน์ศักยภาพแล้วตนเองก็มองว่ามีศักยภาพมากกว่ารัฐบาลนายกฯที่มาจากพรรคเพื่อไทยในสมัยที่นายณัฐวุฒิเป็นรัฐมนตรี เพราะในยุคเพื่อไทย บริหารงานแบบไม่เคยทำอะไรเพื่อประชาชนและประเทศเลย มีแต่เพื่อประโยชน์ของตัวเองและพวกพ้องปล่อยให้มีการทุจริตมากมาย พอทำผิดก็หนีไปสุขสบายอยู่ในต่างประเทศ แบบนี้เรียกว่า ผู้นำที่มีศักยภาพตรงใหน โกงจนรวยแล้วหนีไปแสวงหาความสุขส่วนตัวมากกว่า ที่จะคิดสงสารชาวนาที่ถูกโกง
จะเดือดร้อนเช่นไร ฉันไม่สน นี่นะหรือผู้นำที่มีศักยภาพที่ทรงค่าของนายณัฐวุฒิช่างอับอายขี้หน้าสิ้นดี

ขณะที่การบริหารงานของนายกฯประยุทธ์ในการแก้ไขปัญหาโควิด-19 ทั้งการรักษา ตรวจหาเชื้อเชิงรุก เยียวยาประชาชน รวมถึงการจัดหาวัคซีนมาฉีดให้กับประชาชน นายกฯ รัฐบาล บุคลากรทางการแพทย์ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ทำงานกันอย่างเต็มที่ ซึ่งคนที่ดีแต่ตำหนิและไม่เคยช่วยเหลืออย่างนายณัฐวุฒิ ก็คงจะไม่รู้คนอื่นๆเขาทุ่มเททำงานเหน็ดเหนื่อยเพียงใด ไม่เคยรู้เรื่อง รู้อยู่เรื่องเดียวรอรับคำสั่งจากนายใหญ่ทางไกลสั่งมาว่าจะให้ปลุกระดมพาคนลงถนนขับไล่นายกฯเมื่อไร 

นายเสกสกลยังระบุว่าการที่นายณัฐวุฒิเตรียมที่จะเคลื่อนไหวอีกนั้นขอให้มีจิตสำนึกด้วยว่าการเคลื่อนไหวจะสร้างความเดือดร้อน และซ้ำเติมประเทศและประชาชนมากน้อยแค่ไหนในสถานการณ์โควิดระบาดหนักเช่นนี้ เป็นการแสดงให้เห็นว่านายณัฐวุฒิเองก็ไม่ได้หวังดีต่อประเทศชาติจริง แต่ที่เคลื่อนไหวออกมาเพราะทำตามใบสั่ง เพื่อช่วยนายใหญ่กลับประเทศและช่วยให้พ้นจากคดีทุจริตให้ได้ สมองคิดได้แต่เรื่องนี้ใช่ไหม

“อันที่จริงควรไปทำตามที่นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ  อดีตส.ส. จังหวัดพัทลุง พรรประชาธิปัตย์ ได้โพสต์แนะนำว่า ขอให้นายณัฐวุฒิจ่ายค่าเผาบ้านเผาเมืองที่ศาลฎีกามีคำพิพากษาให้ณัฐวุฒิจ่ายค่าเสียหาย จะไม่ได้ถูกใครเขาค่อนแคะเอาว่าคนใต้มันไม่จริงใจ ไม่รับผิดชอบกับคำว่า "เผาเลยพี่น้อง ผมรับผิดชอบเอง" และจะไม่ได้ถูกใครเขาค่อนแคะเอาว่า "สู้แล้วรวย" หากไม่จ่ายก็เอาผ้าถุงคลุมหัวซะ..นี่ทำเต๊ะท่า ยืนกอดอก นายมันก็เป็นตลกบริโภคชั้นต่ำ หากินไปวันๆ ช่างน่าอาย! ซึ่งเรื่องนี้ตนเองก็เห็นด้วยกับนายนิพิฏฐ์ ทุกประการ

"อันที่จริงตนยังสงสัยไม่เคยหายเลยว่าโครงการทุจริตจำนำข้าวในสมัยอดีตนายกฯนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ชื่อ นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายภูมิ สาระผล ศาลตัดสินจำคุกเพราะทุจริตโครงการจำนำข้าวชาวนา แต่ตนก็อดสงสัยมาจนทุกวันนี้ว่า ทำไมรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์อีกคนที่ชื่อณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ทำไมรอดคุกในคดีนี้มาได้ มีคนถามตนมาเยอะ จนตอบไม่ไหว ทั้งที่ตอนนั่งแถลงข่าวเรื่องโครงการจำนำข้าวก็นั่งอยู่ด้วย มีนักข่าวถามก็เห็นนั่งตอบเหมือนคนเป็นใบ้ จนคนหัวเราะกันทั้งประเทศว่ารัฐมนตรีไม่มีความรู้อะไรเลยหรือ แต่คำถามที่ว่า ทำไมนายณัฐวุฒิไม่ติดคุกคดีโกงข้าวชาวนาด้วยนั้น ตรงนี้ต้องช่วยกันค้นหาคำตอบ ตนเองยังสงสัยมาจนทุกวันนี้"

"แต่ที่น่าละอายใจที่สุด จากคนเคยเป็นถึงอดีตรัฐมนตรีกลับกลายมาเป็นลูกน้องนายอานนท์ นายเพนกวิน นายไผ่ ดาวดิน นายไมค์ จาดนอก นายโตโต้ นางสาวรุ้งปภัสยา แกนนำม็อบสามกีบที่คิดล้มเจ้า  ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ ว่า หมดน้ำยาแล้วจริงๆใช่ไหม กับนักโต้วาทีสภาโจ๊ก ตลกบริโภคที่หมดแสงและวิ่งหาแสงในยามนี้  ช่างหมดค่าหมดราคาต้องหันมาเกาะหลังเดินตามแกนนำม็อบเด็กๆสามกีบที่จาบจ้วงก้าวล่วงสถาบันฯ ไม่ละอายใจตัวเองเลยหรือไง นายณัฐวุฒิไม่ละอายใจ แต่คนเสื้อแดงที่ปกป้องสถาบัน อับอายขายขี้หน้าแทนอย่างแน่นอน"

‘สมรักษ์ คำสิงห์’ สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของไทย โดยกลายเป็นฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิกคนแรก หลังเอาชนะ เซราฟิม โทโดรอฟ ในการแข่งขันมวยสากลสมัครเล่น

วันนี้เมื่อ 25 ปีที่แล้ว ได้เกิดเหตุการณ์สำคัญ ที่กลายเป็นประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของเมืองไทย เมื่อ ‘สมรักษ์ คำสิงห์’ ได้กลายเป็นฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิกคนแรกของไทย หลังเอาชนะ เซราฟิม โทโดรอฟ ในการแข่งขันมวยสากลสมัครเล่นในโอลิมปิกฤดูร้อน 1996 ที่เมืองแอตแลนตา รัฐจอร์เจีย สหรัฐอเมริกา ในปี พ.ศ. 2539

เมื่อย้อนกลับไปถึงเส้นทางสู่สังเวียนของสมรักษ์ เขาเริ่มต้นชกมวยตั้งแต่เด็ก และได้ขึ้นแข่งขันครั้งแรกตอน 7 ขวบ โดยชกทั้งมวยไทยและมวยสากลสมัครเล่น เขาได้ตระเวนชกตามเวทีต่าง ๆ จนทั่วจนได้รับการทาบทามจากสโมสรราชนาวีให้ชกมวยสากลสมัครเล่นและประสบความสำเร็จได้ทั้งแชมป์ประเทศไทยและเหรียญทองกีฬาแห่งชาติ

ในปี พ.ศ. 2535 สมรักษ์ ได้เข้าสู่ทีมชาติครั้งแรก ในการแข่งขันโอลิมปิกที่บาร์เซโลนา และเริ่มมีชื่อเสียงขึ้นมาเป็นครั้งแรก จากการเป็นนักกีฬาไทย ที่ได้เหรียญทองเพียงคนเดียว ในการแข่งขันเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 12 ในปี พ.ศ. 2537 ที่ประเทศญี่ปุ่น

กระทั่งในปี พ.ศ. 2538 สมรักษ์ได้เหรียญทองจากกีฬาซีเกมส์ที่เชียงใหม่ และผ่านการคัดเลือกไปแข่งกีฬาโอลิมปิกรอบสุดท้ายได้ โดยเส้นทางสู่เหรียญทองครั้งประวัติศาสตร์นี้ เริ่มจากรอบแรกเอาชนะแดเนี่ยล เซต้า นักชกเปอร์โตริโก 13-2, รอบสอง ชนะฟิลิป เอ็นดู จากแอฟริกาใต้ 12-7, รอบสามหรือรอบก่อนรองชนะ รามาส พาเลียนี่ จากรัสเซีย 13-4 นั่นหมายถึงว่าได้เหรียญทองแดงคล้องคอไว้แล้ว และสมรักษ์ชนะ พาโบล ชาคอน จากอาร์เจนตินาไปได้ 20-8 และท้ายที่สุดเอาชนะ เซราฟิม โทโดรอฟ จากบัลแกเรียไปได้ 

ซึ่งก่อนการชกในรอบชิงชนะเลิศ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ได้พระราชทานกระเช้าผลไม้มายังสมรักษ์และทีมงานพร้อมทั้งทรงอวยพรให้สมรักษ์ได้รับชัยชนะด้วย โดยการแข่งขันโอลิมปิคในครั้งนี้ สมรักษ์ ใช้ชื่อภาษาอังกฤษว่า "Kamsing Somluck" โดยเจตนาให้มีนัยทางโชคด้วย (แต่ผู้บรรยายภาษาอังกฤษอ่านออกเสียงว่า คำซิง สมลุก)

ซึ่งการคว้าเหรียญทองโอลิมปิกในครั้งนี้ ถือเป็นประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของประเทศไทย ที่ทำให้สมรักษ์โด่งดังถึงขีดสุดในปี พ.ศ. 2539 จากการที่สามารถคว้าเหรียญทองจากโอลิมปิกมาได้ โดยชนะ เซราฟิม โทโดรอฟ จากบัลแกเรีย ด้วยคะแนน 8-5

นอกจากนี้ทางกองทัพเรือ (ทร.) ต้นสังกัดก็ได้เลื่อนยศให้สมรักษ์เป็นเรือตรี (ร.ต.) ซึ่งเดิมสมรักษ์มียศเป็นจ่าเอก (จ.อ.) และการสื่อสารแห่งประเทศไทย (กสท.) ยังได้ออกแสตมป์ที่มีรูปการชกรอบชิงชนะเลิศของสมรักษ์ ราคาดวงละ 6 บาท เพื่อเป็นที่ระลึกถึงเหตุการณ์นี้ เพื่อบันทึกประวัติศาสตร์หน้าใหม่ที่ ‘สมรักษ์ คำสิงห์’ กลายเป็นฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิกเป็นคนแรกของประเทศไทย


ที่มา : https://th.wikipedia.org/wiki/สมรักษ์_คำสิงห์


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!
A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!! 
>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท
>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ
>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต
>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย
***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

'นุช-นนท์'​ ร้านทุเรียน (ตลาดสี่มุมเมือง) บริจาคน้ำดื่ม 6,000 ขวด / ผลไม้ 500 กล่อง สนับสนุน 'หม่อมราชวงศ์เฉลิมชาตรี ยุคล'​ ผู้ร่วมก่อตั้งโครงการ 'ต้องรอด'​

(4 ส.ค.64)​ ณ วัดเทวสุนทร แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กทม.​ คุณชาลินี ลอยนุ้ย เจ้าของร้านทุเรียน​ 'นุช-นนท์' (ตลาดสี่มุมเมือง) มอบให้ 'สะพานบุญ'​ นายชีวานนท์ พรรัตน์ธนิกกุล นายกสมาคมสหพันธ์แรงงานคนพิการไทย / นายโกสินธ์ จินาอ่อน บรรณาธิการบริหารหนังสือพิมพ์สยามโฟกัสไทม์ / ที่ปรึกษาสมาคมสื่อมวลชนเพื่อสังคม นายณัฐวุฒิ เหมือนเพ็ชร ผู้อำนวยการข่าวจังหวัดสมุทรปราการ (น.ส.พ.โฟกัสไทม์) เป็นตัวแทนมอบน้ำดื่มจำนวน 6,000 ขวด / ผลไม้ 500 กล่อง เพื่อสนับสนุน 

โครงการ 'ต้องรอด'​ กลุ่ม Up for Thai เดินหน้าทำภารกิจใหญ่ missionบุษราคัม75 เพื่อจัดหาเครื่องอุปโภคบริโภคให้แก่ผู้ป่วยที่เข้าพักรักษาในโรงพยาบาลสนามบุษราคัมเป็นระยะเวลา 75 วัน หรือจนกว่าจำนวนสิ่งของจะครบตามรายการ โดยเป็นการระดมสิ่งของและเงินทุนจากทุกภาคส่วน

ซึ่ง 'หม่อมราชวงศ์เฉลิมชาตรี ยุคล'​ ผู้ร่วมก่อตั้งโครงการ 'ต้องรอด'​ กลุ่ม Up for Thai  เปิดเผยว่า วันนี้ทางโครงการต้องรอด เดินหน้าทำภารกิจช่วยเหลือผู้ป่วยโควิด และผู้ได้รับความเดือดร้อน จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของ covid 19 มา​ 90​ วันแล้ว ภารกิจหลักในวันนี้ คือโครงการเฉพาะกิจ #missionบุษราคัม75 ที่เดินหน้ามาตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม จนถึงวันที่ 15 ตุลาคมนี้ ถือเป็นโครงการใหญ่ที่กลุ่ม Up for Thai "ต้องรอด"  และพันธมิตรภาคประชาสังคม ภาคเอกชน และภาคสื่อสารมวลชน จึงร่วมกันจัดตั้งโครงการเฉพาะกิจ #missionบุษราคัม75 ขึ้นมา​ เพื่อจัดหาเครื่องอุปโภคบริโภคให้แก่ผู้ป่วยที่เข้าพักรักษาในโรงพยาบาลสนามบุษราคัมเป็นระยะเวลา 75 วัน หรือจนกว่าจำนวนสิ่งของจะครบตามรายการ ก่อนจะมีการย้ายไปยังสถานที่ใหม่ เพื่อให้ผู้ป่วย บุคลากรทางการแพทย์ทุกคนได้รับปัจจัยเพียงพอและให้การดำเนินการของโรงพยาบาลเป็นไปอย่างราบรื่น โดยวันนี้มีเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมาร่วมภารกิจกว่า​ 70 คน ช่วยกันขนสิ่งของอุปโภคบริโภคใส่รถทั้งหมดกว่า 35​ คัน ไปที่โรงพยาบาลบุษราคัม รวมมูลค่ากว่า 1 ล้านบาท

นอกจากนี้ศูนย์อาสาต้องรอด Up for Thai ยังคงปฏิบัติภารกิจหลักควบคู่กันไป ทั้งการนำส่งอาหารปรุงสุกวันละ​ 7,000​ กล่อง และเครื่องอุปโภคบริโภค ให้แก่ชุมชน โรงครัวชุมชน แคมป์คนงาน ผู้กักตัว ผู้ป่วยติดเตียง ผู้พิการ คนชรา ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ผู้ป่วยรอเตียง ส่งมอบอุปกรณ์ป้องกันสำหรับด่านหน้า โรงพยาบาล โรงพยาบาลสนาม อสม. ศูนย์พักคอย สถานีอนามัย มูลนิธิและอาสากลุ่มอื่นๆ 

ทั้งนี้ นพ.กิตติศักดิ์ อักษรวงศ์​ ผอ.รพ.บุษราคัม เปิดเผยว่า ขอบคุณทีมงาน "เพจต้องรอด" ที่นำสิ่งของอุปโภคบริโภคมาสนับสนุนให้กับผู้ป่วย และเจ้าหน้าที่ด่านหน้าในเรื่องของอุปกรณ์แพทย์ ในขณะนี้สิ่งของที่ผู้ใจบุญนำมาบริจาคยังเพียงพอ ขาดแต่บุคลากรที่มาช่วยเหลือ เนื่องจากผู้ป่วยมีจำนวนค่อนข้างมาก ทั้งผู้ป่วยหนักและผู้ป่วยที่พอช่วยตัวเองได้ หลากหลายกลุ่มสี ทางรพ.ยังสามารถรับมือได้อยู่ 

ผอ.รพ.บุษราคัม ยังตอบประเด็นที่เคยเป็นกระแสข่าวก่อนหน้านี้เรื่องของห้องสุขาที่ไม่ค่อยถูกสุขลักษณะว่า คนไข้ ที่อยู่ในโรงพยาบาลกว่า 3000 คน ซึ่งมีผู้ป่วยหลากหลายประเภททั้ง เด็ก คนชรา คนพิการ ผู้ป่วยติดเตียง ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ซึ่งเป็นกลุ่มเปราะบาง ประกอบกับรอบทำความสะอาดน้อย ภาพจึงปรากฎอย่างที่เห็น แต่ในขณะนี้ได้มีการประสานกับทางรพ. พระนั่งเกล้า ซึ่งเป็นผู้ทำความสะอาด หรือเอ้าซอสที่ทางรพ.จ้างมา เพื่อเพิ่มจำนวนรอบทำความสะอาด รวมทั้งเพิ่มรถวิลแชร์ / เก้าอี้นั่งทำความสะอาดเข้าไปมากขึ้น พร้อมทั้งเพิ่มจำนวนเจ้าหน้าที่ให้เพียงพอต่อความต้องการในการดูแล 

ส่วนกรณีสิ่งของเครื่องใช้ของผู้ป่วย​ "นพ.กิตติศักดิ์" ยอมรับว่า สิ่งของเครื่องใช้บางอย่างที่อาจจะไม่จำเป็นอาจไม่ถึงมือผู้ป่วย เนื่องจากทางรพ.จะแจ้งผู้ป่วยอย่างชัดเจนตั้งแต่แรกเข้าว่าให้นำสิ่งของเท่าที่จำเป็นมาเท่านั้น ไม่เช่นนั้นอาจจะเป็นการเพิ่มภาระให้กับเจ้าหน้าที่ได้ 

ส่วนกรณีผู้เสียชีวิต ซึ่งมีจำนวนไม่แน่นอนในแต่ละวัน เฉลี่ย 4-5 ราย บางวันไม่มี บางวันมี 7-8 ราย ในช่วงกลางวันสามารถบริหารจัดการได้ แต่ที่เป็นปัญหาจะเป็นช่วงกลางคืน เนื่องจากข้อจำกัดของรพ.พระนั่งเกล้า บางครั้งจุดพักศพไม่เพียงพอ หรือ ถ้าต้องส่งไปที่วัด ถ้าหลัง 20.00 น.ทางวัดจะปิด ก็จะนำศพไว้ที่รพ.บุษราคัม ซึ่งจะมีห้องพักศพและก็ปิดซิปล็อคอย่างดี

ในท้ายนี้ "นพ.กิตติศักดิ์ อักษรวงศ์" ผอ.รพ.บุษราคัม ขอบคุณทีมงาน เพจต้องรอด เป็นอย่างสูง

ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศ ห้าม นำ-ใช้ ครีมกันแดดที่มีสารเคมีอันตราย เข้าอุทยานแห่งชาติ ฝ่าฝืนปรับ 1 แสนบาท

ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ ประกาศกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เรื่อง ห้ามนำและใช้ครีมกันแดดที่มีส่วนประกอบของสารเคมีที่เป็นอันตรายต่อปะการังเข้าไปในอุทยานแห่งชาติ ใจความสำคัญระบุว่า ปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวเข้าไปท่องเที่ยวในอุทยานแห่งชาติทางทะเลเป็นจำนวนมาก รวมทั้งมีการนำและใช้ครีมกันแดดที่มีสารเคมีที่เป็นอันตรายต่อปะการัง เข้าไปในอุทยานแห่งชาติ

โดยจากข้อมูลทางวิชาการพบว่าสารเคมีหลายชนิดที่พบในครีมกันแดด มีส่วนทำให้ปะการังเสื่อมโทรมลง เนื่องจากสารเคมีเหล่านั้นทำลายตัวอ่อนปะการัง ขัดขวางระบบสืบพันธุ์ และทำให้ปะการังฟอกขาว

กรมอุทยานฯ พิจารณาแล้ว เพื่อเป็นการสงวน อนุรักษ์ คุ้มครองดูแลทรัพยากร และป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายต่อปะการังและระบบนิเวศในอุทยานแห่งชาติ อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 20 แห่ง พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 จึงออกประกาศดังนี้

1.) ห้ามนำและใช้ครีมกันแดด ที่มีส่วนประกอบของสารเคมีที่เป็นอันตรายต่อปะการังเข้าไปในอุทยานแห่งชาติ ได้แก่ Oxybenzone, Octinoxate, 4-Methylbenzylid Camphor และ Butylparaben หากผู้ใดฝ่าฝืนมีความผิดมาตรา 20 ประกอบมาตรา 47 แห่งพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2561 ต้องระวางโทษปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท

2.) ประกาศฉบับนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!

A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!!

>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท

>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ

>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต

>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย

***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

'ผบ.ทอ.'​ รับมอบ Negative Pressure Isolation Room จำนวน 4 เต๊นท์ และอุปกรณ์การแพทย์ มูลค่า 1,282,100 บาท

เมื่อวันที่ 4 ส.ค.64 เวลา 09.00 น.​ ณ​ ห้องรับรองพิเศษ 1 บก.ทอ.

พล.อ.อ.แอร์บูล สุทธิวรรณผบ.ทอ.รับมอบ Negative Pressure Isolation Room จำนวน 4 เต้นท์ และอุปกรณ์การแพทย์ มูลค่า 1,282,100 บาท จาก นาย เสริมศักดิ์  
วงศ์ชัยและคณะ จากชมรมพัฒนาสัมพันธ์ระดับ

ผู้บริหารกองทัพอากาศ​ (พสบ.ทอ.) และหลักสูตรประกาศนียบัตรชั้นสูงการเมืองการปกครองในระบอบประชาธิปไตยสำหรับนักบริหารระดับสูง​ (ปปร.22) ให้กับมูลนิธิโรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top