Wednesday, 14 May 2025
Hard News Team

ปปง. ขู่จับเซียนพนันบอลยูโรเจอโทษหนักคุก 10 ปีปรับ 2 แสน

พลตำรวจตรี ปิยะพันธ์ ปิงเมือง รักษาราชการแทนเลขาธิการ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (สำนักงาน ปปง.) เปิดเผยว่า ได้ร่วมกับศูนย์ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปปง.ตร.) บังคับใช้กฎหมายในการป้องกันปราบปราม การพนันออนไลน์ โดยเฉพาะในขณะนี้ที่พบว่ามีประชาชนอาจตกเป็นเหยื่อจำนวนมากในช่วงที่มีการแข่งขันฟุตบอลยูโร 2020 ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ดำเนินการกับผู้กระทำความผิดอย่างเข้มข้นโดยสามารถจับกุมผู้กระทำความผิดได้แล้วกว่า 100 ราย และได้ส่งเรื่องมาให้สำนักงาน ปปง. สืบสวนสอบสวนเพื่อดำเนินการกับทรัพย์สินของผู้กระทำความผิดและผู้เกี่ยวข้องสัมพันธ์ทั้งหมด

ทั้งนี้สำนักงาน ปปง. ได้เสนอเรื่องต่อคณะกรรมการธุรกรรม และคณะกรรมการธุรกรรมมีให้สำนักงาน ปปง. ดำเนินการกับทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดของผู้กระทำความผิดซึ่งมีพฤติการณ์กระทำความผิดเกี่ยวกับการพนันตามกฎหมายว่าด้วยการพนัน เฉพาะความผิดเกี่ยวกับการเป็นผู้จัดให้มีการเล่นการพนันโดยไม่ได้รับอนุญาตโดยมีวงเงินในการกระทำความผิดรวมกันมีมูลค่าตั้งแต่ 5 ล้านบาทขึ้นไป หรือเป็นการจัดให้มีการเล่นการพนันทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ เป็นความผิดมูลฐานตามมาตรา 3 (9) แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 บางส่วนแล้ว และอยู่ระหว่างตรวจสอบเส้นทางการเงินของผู้กระทำความผิดและผู้เกี่ยวข้องสัมพันธ์อีกหลายราย 

ดังนั้น สำนักงาน ปปง. จึงขอเตือนประชาชน ไม่ให้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการพนันออนไลน์โดยเด็ดขาด เพราะนอกจากจะต้องถูกดำเนินคดีอาญาแล้ว อาจะต้องถูกยึดอายัดทรัพย์สินอย่างจริงจัง โดยความผิดฐานฟอกเงินนั้น มีอัตราโทษจำคุกตั้งแต่ 1 ปีถึง 10 ปี หรือปรับ ตั้งแต่ 20,000 ถึง 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นการตัดวงจรอาชญากรรมและตัดเส้นทางการเงินของผู้กระทำความผิด สำนักงาน ปปง. จะเน้นการสืบสวนขยายผลเพื่อยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดในคดีดังกล่าว รวมทั้งคดีอื่น ๆ อย่างต่อเนื่อง ให้เกิดความเข้มข้นและเกิดประสิทธิภาพ ประสิทธิผลในการทำงานเพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนต่อไป 

‘รมว.สุชาติ’ ห่วงใยเหตุเพลิงไหม้โรงงานโฟม ย่านบางพลี กำชับหน่วยงานในสังกัด เร่งดำเนินการช่วยเหลือ

รมว.แรงงาน ห่วงใยลูกจ้างที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุเพลิงไหม้ บ.หมิงตี้ เคมีคอล จำกัด โรงงานโฟม อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ กำชับเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด เร่งตรวจสอบพร้อมช่วยเหลือ ด้านสิทธิประโยชน์ตามขั้นตอนอย่างเร่งด่วน

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยถึง กรณีเกิดเหตุเพลิงไหม้โรงงาน บริษัท หมิงตี้ เคมีคอล จำกัด ประกอบกิจการเกี่ยวกับเม็ดโฟมและพลาสติกขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ที่ ซอยกิ่งแก้ว 21 ตำบลบางพลีใหญ่ อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ว่า รัฐบาลภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี โดยกระทรวงแรงงาน ภายใต้การกำกับดูแลของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี มีความเป็นห่วงลูกจ้างที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุเพลิงไหม้ดังกล่าว จึงสั่งการให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงานในพื้นที่ที่รับผิดชอบเข้าไปดูแลและช่วยเหลือลูกจ้าง

จากการตรวจสอบของสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดสมุทรปราการ พบว่า ขณะเกิดเหตุมีพนักงานกำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ 9 คน และได้กลิ่นเหม็นและแสบจมูกจึงออกมานอกอาคาร จากนั้นได้ยินเสียงระเบิดขึ้นที่โกดังเก็บสารเคมีและเกิดเพลิงลุกไหม้อย่างรวดเร็ว แรงระเบิดทำให้พื้นที่โรงงานเสียหายทั้งหมด และขยายวงกว้างไปโรงงานใกล้เคียงและบ้านเรือนประชาชน มีผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าวแล้วกว่า 20 คน พร้อมกันนี้ได้กำชับสำนักงานประกันสังคมเข้าไปตรวจสอบสถานะผู้ประกันตนที่ได้รับบาดเจ็บให้ได้เข้ารับการรักษาพยาบาลตามสิทธิประโยชน์ในเรื่องของการรักษาพยาบาล และสิทธิอื่น ๆ ที่พึงได้ และให้กรมการจัดหางานเตรียมหาตำแหน่งงานรองรับกรณีนายจ้างไม่สามารถจ้างลูกจ้างทำงานต่อไปได้ 

นายอภิญญา สุจริตตานันท์ อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กล่าวว่า ในส่วนของกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ได้มอบให้ศูนย์ความปลอดภัยในการทำงานเขต 10 และสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานงาน จ.สมุทรปราการ เข้าร่วมตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ พบว่าปัจจุบันเจ้าหน้าที่ดับเพลิง สามารถควบคุมเพลิงสถานที่เกิดเหตุได้แล้ว แต่ยังอาจมีการปะทุขึ้นได้ ทั้งนี้ ทางจังหวัดได้สั่งการให้ปิดพื้นที่ไม่ให้บุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปในพื้นที่ และอพยพประชาชนออกจากพื้นที่ระยะห่างมากกว่า 5 กิโลเมตร โดยจัดศูนย์อำนวยการให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ อบต.บางพลีใหญ่ และโรงเรียนเตรียมปริญญานุสรณ์ รวมทั้งจัดศูนย์อำนวยการทีมกู้ชีพและรถพยาบาลเตรียมความพร้อมรอให้ความช่วยเหลือที่วัดกิ่งแก้ว โดยจากการตรวจสอบในเบื้องต้นพบว่ามีลูกจ้างในระบบ 46 คน บาดเจ็บ 10 คน เนื่องจากสภาพโรงงานเสียหายทั้งหมดไม่สามารถประกอบกิจการต่อไปได้ พนักงานตรวจแรงงานจะได้พูดคุยกับนายจ้างว่าจะดำเนินการต่อไปอย่างไร โดยจะดูแลให้เกิดความเป็นธรรมหากมีการเลิกจ้างลูกจ้างด้วย

“บิ๊กป้อม” แสดงความเสียใจ สั่งระดมกำลังทุกหน่วย เร่งเข้าไปช่วยคลี่คลายเหตุโรงงานสารเคมีระเบิด

พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกประจำ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวแสดงความเสียใจกับครอบครัวของผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต จากเหตุการไฟไหม้โรงงาน หมิงตี้ เคมีคอลจำกัด ซอยกิ่งแก้ว บางพลี สมุทรปราการ จนเกิดระเบิดเป็นวงกว้างและมีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บหลายราย

โดย พล.อ.ประวิตร’ ได้สั่งการให้ กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) และ กทม. รวมทั้งกรมควบคุมมลพิษและตำรวจ เร่งเข้าไปช่วยประเมินและคลี่คลายสถานการณ์ในพื้นที่ทันที โดยให้จัดการจราจรและกันประชาชนออกจากพื้นที่ในรัศมีที่ปลอดภัยสูงสุด และหากมีความจำเป็นให้อพยพประชาชนออกจากพื้นที่เสี่ยงไปยังพื้นที่ปลอดภัยทันที โดยขอให้ กทม.เตรียมพื้นที่ปลอดภัยเป็นที่พักชั่วคราวรองรับ 

พร้อมทั้ง ขอให้กองทัพ จัดกำลังพล ยานพาหน รวมทั้งยุทโธปกรณ์ที่จำเป็นและเจ้าหน้าที่แพทย์สนาม เข้าไปดูแลผู้ที่ได้รับบาดเจ็บส่งเข้ารับการรักษา และสนับสนุนการเคลื่อนย้ายประชาชน โดยให้ทำงานร่วมกับกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยและกรมควบคุมมลพิษอย่างใกล้ชิด ในการควบคุมเพลิง การควบคุมสารพิษที่รั่วไหลและประเมินสถานการณ์เป็นระยะ ๆ จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย

‘นายกฯ’ กักตัว 14 วัน ตามมาตรการด้านสาธารณสุข หลังประธานสภาหอการค้าสุรินทร์ ติดโควิด-19 โฆษกฯ ย้ำ นายกฯ สวอปแล้วผลเป็นลบ ยังคงทำงานปกติในพื้นที่ตนเอง

วันที่ 5 ก.ค. 64 นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม มีความกังวลและห่วงใย กรณีที่เมื่อวันที่ 1 ก.ค. 2564 นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องได้เดินทางไปจังหวัดภูเก็ต เพื่อเปิด Phuket Sandbox และสร้างขวัญกำลังใจแก่ประชาชนและผู้ประกอบการ แต่ภายหลังทราบว่ามีผู้ติดเชื้อโควิด-19 เข้าร่วมงานดังกล่าวด้วย

"นายกรัฐมนตรีจึงจะใช้เวลาช่วงนี้ ปฏิบัติหน้าที่ ด้วยการติดตามและการบริหารราชการภายในพื้นที่ของตนเอง เพื่อคลายความวิตกกังวลของภาคส่วนและบุคคลที่เกี่ยวข้อง ยืนยันว่า นายกรัฐมนตรี ยังคงปฏิบัติภารกิจตามปกติ และติดตามสถานการณ์ต่าง ๆ อย่างใกล้ชิด รวมทั้งไม่มีผลตรวจที่เป็นบวก และที่ผ่านมาก็มีการตรวจโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง และยังคงตรวจเป็นระยะ ๆ ต่อไป ทั้งนี้ เพื่อให้ความมั่นใจกับประชาชนว่า ประเทศยังเดินไปข้างหน้า และสถานการณ์โควิด-19 ยังต้องดูแล และแก้ปัญหาอย่างใกล้ชิด” นายอนุชา กล่าว

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังฝากถึงประชาชน ขอความร่วมมือทุกคนให้ช่วยกันป้องกันโรคโควิด-19 ปฏิบัติตนตามมาตรการสาธารณสุข D-M-H-T-T อย่างเคร่งครัด ถึงแม้ว่าจะได้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 แล้วก็ตาม ด้วยการหลีกเลี่ยงการรวมกลุ่ม ใส่หน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า หมั่นล้างมือ ตรวจวัดอุณหภูมิ และสแกนแอปพลิเคชั่นตามที่พื้นที่กำหนด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังนายวีรศักดิ์ พิษณุวงศ์ ประธานหอการค้าจังหวัดสุรินทร์ ออกมาโพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวว่าติดเชื้อโควิด-19 หลังกลับจากร่วมงานภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ที่จังหวัดภูเก็ต ซึ่งในงานดังกล่าวมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว. กลาโหม รวมถึงนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรมว.สาธารณสุข นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา และนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม รวมถึงข้าราชการผู้ใหญ่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมเปิดงาน ทั้งนี้ได้มีภาพนายวีรศักดิ์ ได้เซลฟี่กับนายกฯ ด้วยนั้น ทำให้วันนี้นายกฯ ต้องทำการ swab เพื่อตรวจหาเชื่อ พร้อมกับต้องกักตัว 14 วันตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข

โดยผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ ได้เดินทางออกจากทำเนียบฯ ไปตั้งแต่เวลา 12.10 น. หลังจาก swab ทั้งนี้ มีรายงานว่าในการประชุมครม. วันพรุ่งนี้ นายกฯ จะประชุมผ่านระบบวีดิโอคอนเฟอร์เร้นซ์กับครม. ที่จะอยู่แต่ละกระทรวงของตัวเอง

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า นอกจากนี้ ในวันนี้ที่ทำเนียบรัฐบาล ยังพบแม่บ้านของธนาคารกรุงไทย สาขาทำเนียบรัฐบาลติดเชื้อโควิดอีก 1 คน โดยทางธนาคารกรุงไทย ซึ่งมีสาขาอยู่ในทำเนียบรัฐบาลได้ประกาศปิดทำการ 2 วัน เพื่อทำความสะอาด จากนั้นจะมีการนำเจ้าหน้าที่จากส่วนอื่นมาปฏิบัติหน้าที่แทนเจ้าหน้าที่ชุดเดิมที่จะต้องกักตัว 14 วัน


โปรเด็ด! ถึง 15 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

“สงคราม” ชี้ไม่มี “บิ๊กตู่” ปัญหาไวรัสโควิดคลี่คลายแน่ อัด 120 วัน เปิดประเทศแค่ฝันกลางแดด เอกชนเชื่อไทยเปิดประเทศปี 66

นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อชาติและอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า สถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิดในประเทศไทยทวีความรุนแรงขึ้น รัฐบาลยังไม่สามารถแก้ปัญหาได้ ในขณะเดียวกันวัคซีนทางเลือกจะเป็นทางออกของประเทศไทยก็ไม่สามารถดำเนินการได้มันต่อความต้องการของประชาชน เพราะพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี อวดเก่งรวบอำนาจสั่งการการแก้ปัญหาของสถานการณ์ระบาดของไวรัสไว้เพียงผู้เดียวแต่ทำงานไม่เป็น และไม่พูดความจริงกับประชาชน ดีแต่โกหกไปวัน ๆ จนเอกชนทนไม่ไหว เพราะรัฐไร้น้ำยารักษาชีวิตประชาชน

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า ประเทศไทยยังไม่พร้อมที่จะเปิดประเทศ เพราะรัฐบาลไม่สามารถจัดการแก้ปัญหาได้ ประชาชนฉีดวัคซีนได้เพียงร้อนละ 10 ของประชากรทั้งประเทศ ดังนั้น การเปิดประเศทศ 120 วัน คือความฝันกลางแดดของพลเอกประยุทธ์เท่านั้น หากยังแก้ปัญหาล้มเหลว และวัคซีนที่มีอยู่ไม่สามารถจัดการเชื้อไวรัสได้ เพราะมีการกลายพันธุ์หนีวัคซีนไปแล้ว ดังนั้น การเปิดประเทศจึงเป็นไปไม่ได้ สำหรับประเทศไทยหนักกว่า เพราะประชาชนยังไม่ได้ฉีดวัคซีนอีกเกินครึ่งประเทศ ดังนั้นภาคเอกชนมองว่าไทยสามารถเปิดประเทศได้ในปี 2566 หรืออีก 2 ปีข้างหน้า จึงจะสามารถทยอยเปิดประเทศได้บางส่วน

นายสงคราม กล่าวด้วยว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นต้องแก้ที่พลเอกประยุทธ์ ควรพูดความจริงกับประชาชน เลิกโกหกรายวันหากต้องการแก้ปัญหาให้ประชาชนจริง กรณีวัคซีนทางเลือกหากภาคเอกชนไม่ออกมาพูดประชาชนก็คงไม่รู้ว่ารัฐบาลกำลัเล่นละครตบตาประชาชนอยู่ เอาความเสียหายของประเทศชาติ และเอาชีวิตประชาชนเป็นตัวประกันเพื่อสนองอำนาจของพลเอกประยุทธ์ เป้าหมายของพลเอกประยุทธ์ หวังเพียงอยู่ในอำนาจ ให้นานที่สุด รวมทั้ง หวังใช้อำนาจเป็นเกราะปกป้องตัวเองและพวกพ้องเท่านั้น ไม่ใส่ใจว่าประชาชนจะเดือดร้อนแค่ไหน ทุกวันนี้มีแต่คนประจบสอพลอ ไปไหนก็มีแต่ผักชีโรยหน้า
“พลเอกประยุทธ์ต้องเลิกแกล้งโง่ การยกขบวนไปเกิดการท่องเที่ยวภายใต้โครงการการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ท่ามกลางการระบาดไวรัสที่ยังไม่สามารถควบคุมได้ หากมีการติดเชื้อเพิ่มพลเอกประยุทธ์ จะรับผิดชอบอย่างไร เชื่อว่าคนอย่างพลเอกประยุทธ์คงไม่รับผิดชอบ ดีที่สุดคือการจ่ายเศษเงินเยียวยาให้ผู้ประกอบการเท่านั้น คิดได้แค่นี้ก็ไม่ควรจะเป็นผู้นำประเทศอีกต่อไป เพราะในประเทศไทยมีคนที่เก่งกว่าพลเอกประยุทธ์อีกมาก และหากพลเอกประยุทธ์ลาออกเชื่อปัญหาไวรัสโควิดคลี่คลายแน่ ”นายสงครามกล่าว

3 คำพยากรณ์ กับ 4 ขุนพลประจัญบาน ในศึกฟุตบอลยูโร 2020

#เก็บตกยูโร2020 ⚽

โอมมะลึ้กกึ้กกึ๋ย เพี้ยง!! ผ่านมาถึงรอบรองชนะเลิศกันแล้ว สำหรับศึกฟุตบอลยูโร 2020 ขณะนี้ได้ 4 ขุนพลประจัญบานเตรียมลงฟาดฟันกันเพื่อหาคู่ชิงชนะเลิศ คู่แรก อิตาลี vs สเปน และคู่สอง อังกฤษ-เดนมาร์ก 

THE STATES TIMES ขอทำตัวเป็นพ่อหมอพยากรณ์ ทำนายผลที่น่าจะเป็นของทั้งสองคู่ ก่อนอื่น ขออนุญาตตะโกนเรียกใช้งานลูกน้องแป๊บ ‘คริสเตียโน่ ส่งลูกแก้วทำนายชะตา มาให้ข้าที!!’

ทำนายครั้งที่ 1 : มีต่อเวลาแน่นอน โดยเฉพาะคู่ระหว่างอิตาลีกับสเปน เพราะทั้งสองทีมเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการต่อเวลา 120 นาทีด้วยกันทั้งคู่ อิตาลีผ่านประสบการณ์มาแล้วตอนเจอออสเตรีย ส่วนสเปนเจอมาทั้งโครเอเชีย และสวิตเซอร์แลนด์ เรียกว่าเตะกันจนขาลาก แถมนี่ยังเป็นรอบรองฯ ที่มีความสำคัญเป็นอย่างมาก ทั้งสองทีมน่าจะ ‘ซื้อเกมรัดกุม’ จนทำให้ยืดเยื้อต้องต่อเวลาชัวร์!

ทำนายครั้งที่ 2 : อังกฤษจะทำประตูด้วย ‘ลูกโหม่ง’ อย่างแน่นอน รู้อะไรไหม ถึงตอนนี้ทีมอังกฤษทำประตูด้วยลูกโหม่งไปแล้ว 5 ลูก เป็นศีรษะของราฮีม สเตอร์ลิ่ง 1 แฮร์รี่ แม็คไควร์ 1 จอร์แดน เฮนเดอร์สัน 1 และแฮร์รี่ เคน 2 สาเหตุที่มีโอกาสทำประตูด้วยลูกโหม่งได้บ่อย ๆ เนื่องจากนักเตะด้านกราบสองข้างของอังกฤษ อาทิ ลุค ชอว์, คีแรน ทริปเปียร์ หรือแม้แต่ เมสัน เมาท์ และแจ็ค กรีลิช ฟอร์มกำลังร้อนแรงสุด ๆ เรียกว่าเปิดบอลเป็นเข้าหัว จึงเป็นที่มาของการทำนายว่า อังกฤษได้ประตูด้วยลูกโหม่งชัวร์!

ทำนายครั้งที่ 3 : ส่วนทีมที่จะได้ผ่านเข้าไปเล่นในรอบชิงชนะเลิศ ลูกแก้วทำนายว่า เป็นสองทีมที่มีสถิติลงเล่นแล้วมีผลชนะมากที่สุดนับตั้งแต่รอบแรกเป็นต้นมา นั่นคือ อิตาลี (ชนะ 5 นัดรวด) และอังกฤษ (ชนะ 4 เสมอ 1) ฟันธง!!


โปรเด็ด! ถึง 15 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES 
คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

นายกฯ สั่งด่วน เร่ง ควบคุมสถานการณ์ระเบิดโรงงานเม็ดพลาสติก-พร้อมช่วยเหลือประชาชน-สตช.ตั้งศูนย์อพยพ

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม สั่งการด่วนให้เจ้าหน้าที่เร่งควบคุมสถานการณ์และสืบหาสาเหตุการระเบิดที่โรงงานหมิงตี้ เคมิคอล ซึ่งเป็นโรงงานผลิตเม็ดโฟมพลาสติก ซอยกิ่งแก้ว 21 ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ เมื่อเวลา 03.10 ของคืนวันที่ 5 กรกฎาคมที่ผ่านมา

นายอนุชา กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีขอให้เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ด้วยความระมัดระวังอย่างยิ่ง หลังรับทราบรายงานเจ้าหน้าที่ดับเพลิง 1 รายเสียชีวิตและมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ด้วย ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้ให้เจ้าหน้าที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รวมทั้งหน่วยงานท้องถิ่นเร่งเข้าช่วยเหลืออพยพประชาชนและผู้ได้รับความเสียหาย

นายอนุชา กล่าวว่า ขณะนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้จัดตั้งศูนย์อพยพ รองรับประชาชน ณ โรงเรียนเตรียมปริญญานุสรณ์ องค์การบริหารส่วนตำบลบางพลีใหญ่ และ วัดสลุด อ.บางพลีใหญ่ โดยขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่รัศมีโดยรอบไม่เกิน 5 กิโลเมตรเร่งอพยพออกจากพื้นที่โดยด่วน หากพี่น้องประชาชนในพื้นที่ต้องการขอความช่วยเหลือ หรือสอบถามข้อมูล สามารถโทรมายังสายด่วน 191 และ 1599 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีกำชับให้เจ้าหน้าที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยรวมทั้งหน่วยงานท้องถิ่นเร่งเข้าดูแลประชาชนที่ศูนย์อพยพเพื่อให้การช่วยเหลือในเบื้องต้นด้วย

ทบ. ยันสนับสนุนทุกภาคส่วนคลี่คลายโควิด พร้อมตั้งกรรมการตรวจสอบหน่วยทหาร ที่ถูกกล่าวถึงไม่ให้ความร่วมมือ

ที่กองบัญชาการกองทัพบก พ.อ.หญิงศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก เปิดเผยถึงกรณีที่ นายแพทย์ นิธิพัฒน์ เจียรกุล โรงพยาบาลศิริราช ได้โพสต์ถึงการสนับสนุนจากจัดตั้งโรงพยาบาลสนามดูแลผู้ป่วยโควิดว่า มีบางพื้นที่ไม่ได้รับความร่วมมือจากหน่วยทหาร ทั้ง ๆ ที่นโยบายของกองทัพบกพร้อมสนับสนุน

รองโฆษกกองทัพบก กล่าวว่า กองทัพบก ได้รับทราบข้อห่วงใยและความกังวลใจของนายแพทย์ นิธิพัฒน์ แล้วได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยทันที พร้อมกับให้หน่วยที่เกี่ยวข้องประสานสอบถามข้อมูลไปยัง นายแพทย์ นิธิพัฒน์ โดยตรงแล้ว ในขั้นต้นทราบว่าเป็นหน่วยทหารในพื้นที่ จ.สระบุรี คือศูนย์การทหารม้า   ทั้งนี้ กองทัพบกได้การตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงกับหน่วยดังกล่าว ถึงข้อจำกัดหรือเหตุผลความจำเป็นที่ ไม่สามารถให้การสนับสนุนพื้นที่ตามการร้องขอได้  เพราะการปฎิบัติดังกล่าวไม่เป็นไปตามนโยบายของกองทัพบก ที่ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องและเป็นรูปธรรมในการสนับสนุนทุกภาคส่วนอย่างเต็มศักยภาพ เพื่อคลี่คลายสถานการณ์โควิด ทั้งการทุ่มเททรัพยากรที่มี และศักยภาพของ บุคคลากรสายแพทย์ 
      
อีกทั้ง นโยบายของกองทัพบก ไม่ประสงค์ที่จะให้เกิดข้อติดขัดใด ๆ ในการสนับสนุนหน่วยงานอื่น เพราะสถานการณ์โควิดในขณะนี้ ทุกภาคส่วนต้องร่วมมือกันด้วยความทุ่มเท เสียสละ เพื่อระงับการแพร่ระบาดและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน ทั้งนี้ในปัจจุบันกองทัพบกได้จัดตั้ง โรงพยาบาลสนาม สนับสนุนการดูแลผู้ป่วยโควิดของรัฐบาล 14 แห่ง และ โรงพยาบาลสนามของกองทัพบกอีก 37 โรงพยาบาล สามารถรองรับผู้ติดเชื้อได้ 6,108 เตียง

อย่างไรก็ตาม กองทัพบก ขอเป็นกำลังใจให้กับบุคคลากรทางการแพทย์ทุกส่วนที่กำลังร่วมกันดูแลประเทศชาติและประชาชนในวิกฤตโควิดครั้งนี้

สมศักดิ์ รมว.ยุติธรรม เป็นประธานหารือ 6 ประเทศ ตัดเส้นทางสารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์เข้าแหล่งผลิต 

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมระดับเจ้าหน้าที่อาวุโสภายใต้กรอบความร่วมมือในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงเพื่อยกระดับการสกัดกั้นยาเสพติดภายใต้แผนปฏิบัติการร่วมสามเหลี่ยมทองคำ 1511 โดยมี นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (เลขาธิการ ป.ป.ส.) นางสาวณัฐธ์ภัสส์ ยงใจยุทธ ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม นายธนวัชร นิติกาญจนา ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม คณะผู้บริหาร ป.ป.ส. เจ้าหน้าที่อาวุโสจากหน่วยงานปราบปรามยาเสพติดประเทศกัมพูชา จีน สปป.ลาว เมียนมา และเวียดนาม และผู้แทนจากสำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ (United Nations Office on Drugs and Crime : UNODC) เข้าร่วม วัตถุประสงค์เพื่อยกระดับการป้องกันไม่ให้มีการนำสารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์เข้าสู่พื้นที่ผลิตยาเสพติดสามเหลี่ยมทองคำและยกระดับการสกัดกั้นยาเสพติดไม่ให้ยาเสพติดถูกลักลอบลำเลียงออกสู่อนุภูมิภาคและภูมิภาคอื่น ๆ 

ณ สำนักงาน ป.ป.ส. (ดินแดง) นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวว่า “การประชุมในครั้งนี้ เป็นไปตามข้อสั่งการของนายสมศักดิ์ เมื่อวันที่ 7 มิ.ย. 2564 ให้สำนักงาน ป.ป.ส. ประสานกับประเทศกลุ่มน้ำโขง 6 ประเทศ คือ จีน เมียนมา สปป.ลาว กัมพูชา เวียดนาม และสำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ (UNODC) ประชุมหารือถึงสถานการณ์และแนวทางการแก้ไขปัญหายาเสพติดร่วมกัน เพราะถือว่าปัญหายาเสพติดเป็นปัญหาร่วมกันของทุกประเทศที่จะต้องร่วมกันแก้ไข ซึ่งเมื่อวันที่ 8 มิ.ย. 2564 ตนได้หารือกับ นายเจรามี ดักลาส ผู้แทนประจำ UNODC ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และแปซิฟิก และได้ประสานกับประเทศในกลุ่มน้ำโขง 6 ประเทศ โดยจัดให้มีการประชุมร่วมกันในวันที่ 5 ก.ค. 2564 โดยระบบวิดีโอคอนเฟอเร็นซ์ 
จากสำนักงาน ป.ป.ส.ไปยังประเทศดังกล่าว” 

ปฏิบัติการร่วมสามเหลี่ยมทองคำ 1511 ได้ริเริ่มดำเนินการตั้งแต่ 2562 ภายใต้แผนปฏิบัติการแม่น้ำโขงปลอดภัยเพื่อควบคุมยาเสพติด 6 ประเทศ ระยะ 4 ปี (พ.ศ. 2562 - 2565) และได้รับความร่วมมืออย่างดีจากประเทศภาคีมาโดยตลอด มีผลการดำเนินการสามารถจับกุมคดียาเสพติดได้กว่า 13,476 คดี ผู้ต้องหา 16,348 คน ตรวจยึดยาเสพติดได้จำนวนมาก และสามารถยึดสารตั้งต้น หรือเคมีภัณฑ์อื่นๆ ก่อนเข้าสู่กระบวนการผลิต ที่เป็นเป้าหมายสำคัญในการจัดตั้งปฏิบัติการ 1511 ได้กว่า 1,172,267 กิโลกรัม 

สำหรับการประชุมในวันนี้ ทั้ง 6 ประเทศได้ร่วมกันกำหนดมาตรการเพื่อจัดการกับปัญหายาเสพติด ให้เข้มข้นมากยิ่งขึ้น ทั้งการรับมือกับปัญหายาเสพติดในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงเอง และปัญหาที่ส่งผลกระทบไปยังประเทศอื่น ๆ นอกภูมิภาค โดยประเทศไทยได้เสนอแนวทางให้ทุกประเทศดำเนินการร่วมกัน ดังนี้ 

1.) สกัดกั้นสารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์มิให้รั่วไหลเข้าไปในพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำ 

2.) จัดให้มีปฏิบัติการที่สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน และปฏิบัติการคู่ขนานระหว่างประเทศร่วมกัน

3.) เฝ้าระวังการลักลอบค้ายาเสพติดออนไลน์และการขนส่งยาเสพติดผ่านช่องทางต่าง ๆ โดยเฉพาะพัสดุภัณฑ์ และการลักลอบลำเลียงยาเสพติดทางทะเลที่มีปริมาณและความถี่เพิ่มมากขึ้น 

4.) ขยายความร่วมมือในการสืบสวนปราบปรามเครือข่ายการค้ายาเสพติดรายสำคัญอย่างเต็มที่ ทั้งการทำลายวงจรและเครือข่ายการค้า การขยายผลยึดทรัพย์สิน และการติดตามผู้ต้องหาหลบหนีหมายจับ ทั้งนี้ ประเทศไทยได้นำแนวคิด Ten X Rule มาบังคับใช้ ซึ่งไทยตั้งเป้าหมายที่จะยึดทรัพย์สินของนักค้ายาเสพติดให้ได้มากขึ้น 10 เท่า จากปีที่แล้วยึดได้ 600 ล้านบาท เป้าหมายในปีนี้จะต้องยึดให้ได้ 6,000 ล้านบาท ซึ่งในปัจจุบันสามารถอายัดทรัพย์สินของนักค้ายาเสพติดได้แล้วกว่า 5,658 ล้านบาท

5.) พัฒนากฎหมายในการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดให้เป็นมาตรฐานสากล ซึ่งขณะนี้ประเทศไทยได้ยกร่างประมวลกฎหมายยาเสพติดฉบับใหม่ขึ้น กำลังอยู่ในการพิจารณาของรัฐสภาวาระที่ 2 โดยรวบรวมกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดทั้งหมดมาเป็นกฎหมายฉบับเดียวเพื่อให้สะดวกต่อการบังคับใช้ มีการกำหนดให้นำมาตรการยึดทรัพย์สินตามมูลค่าที่นักค้ายาเสพติดได้ผลประโยชน์ หรือ Value-based Confiscation มาใช้ เพื่อที่จะลดทอนศักยภาพของกลุ่มนักค้ายาเสพติดให้ได้มากที่สุด การใช้มาตรการลดอันตราย หรือ Harm Reduction เพื่อป้องกันปัญหาด้านสุขภาพและสาธารณสุขของบุคคลและสังคม 

6.) เสริมสร้างความร่วมมือระหว่างประเทศในอนุภูมิภาคและนอกอนุภูมิภาคให้มีความใกล้ชิดกันมากยิ่งขึ้น และจะนำมติที่ประชุมครั้งนี้เสนอให้รัฐมนตรีทั้ง 6 ประเทศ ในการประชุมพบปะกันเพื่อหารือความร่วมมือตามแผนปฏิบัติการร่วมสามเหลี่ยมทองคำ 1511 ซึ่งในปีหน้า ประเทศจีนเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม MoU

7.) นอกจากนี้ นายสมศักดิ์ แถลงถึงผลการเข้าเยี่ยมคารวะผู้แทนจากประเทศนิวซีแลนด์ ออสเตรเลีย อเมริกาและเกาหลีใต้ ที่ทำหน้าที่เป็นผู้ประสานงานด้านยาเสพติด ประจำสถานเอกอัครทูต ผลของการเข้าเยี่ยมคารวะครั้งนี้ ทางคณะผู้แทนได้กล่าวชื่นชมบทบาทนำของประเทศไทยในการผลักดันความร่วมมือระหว่างประเทศเพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติด ในภูมิภาคร่วมกับกลุ่มประเทศลุ่มแม่น้ำโขง และประเทศนอกภูมิภาคที่ได้รับผลกระทบ ทุกประเทศมีความยินดีที่จะผลักดันความร่วมมือในการแก้ไขปัญหายาเสพติด ในระดับระหว่างประเทศและระดับภูมิภาคต่อไป และสนับสนุนบทบาทของไทยที่มีจุดยืนที่ชัดเจนและสามารถเป็นผู้นำให้ประเทศอื่น ๆ ยกระดับการแก้ไขปัญหายาเสพติดมากขึ้น 

โดยเฉพาะการปฏิรูปกฎหมายยาเสพติด ซึ่งจะเอื้อให้การแก้ไขปัญหายาเสพติดของประเทศไทยมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น การบังคับใช้มาตรการยึดทรัพย์ตัดวงจรเครือข่ายยาเสพติด เพื่อลดทอนศักยภาพของกลุ่มองค์กรอาชญากรรม การควบคุมเคมีภัณฑ์และสารตั้งต้น รวมถึงการแลกเปลี่ยนข้อมูลและการปฏิบัติการร่วม ตลอดจนแสดงความพร้อมร่วมขับเคลื่อนปฏิบัติการที่ประสบความสำเร็จและมีผลงานเป็นที่ประจักษ์ เช่น Task Force Storm โครงการความร่วมมือสกัดกั้นยาเสพติด ณ ท่าเรือ (SITF) และโครงการความร่วมมือสกัดกั้นยาเสพติด ณ ท่าอากาศยาน (AITF) เป็นต้น 

นายสมศักดิ์ ได้ทิ้งท้ายว่า โดยกล่าวขอบคุณที่ทุกประเทศให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี และยินดีรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอของประเทศต่าง ๆ เพื่อรวบรวมเป็นแนวทางในการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหายาเสพติดในประเทศต่อไป

รู้ 5 ข้อ พอแล้ว สร้างภูมิคุ้มกันโควิด-19

ศ.ดร. ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล แนะประชาชน สร้างความเข้าใจ และป้องกันตัวเองจากโควิด-19 ดังนี้

1.) ระบาดรอบนี้ ‘ติดง่าย ไม่มีอาการ’ ทำให้หลายคนเป็นพาหะโดยไม่รู้ตัว แพร่เชื้อไกลขึ้น

2.) ไม่ต้องสนใจมากว่า ‘สายพันธุ์ไหน’ เป็นเรื่องที่หมอเขาเฝ้าระวังให้อยู่แล้ว

3.) วัคซีน ‘ไม่ได้ป้องกัน’ แต่ช่วยลดความรุนแรง

4.) ต่อให้ติดเชื้อ ถ้าแข็งแรง ร่างกายจะรักษา ‘ได้เอง’

5.) ต้อง ‘ใส่หน้ากาก เว้นระยะห่าง อย่าเดินทางบ่อย หมั่นล้างมือ’ เพราะคนที่ติดส่วนใหญ่ ไม่มีใครคิดว่าตัวเองจะติด


โปรเด็ด! ถึง 15 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top