Sunday, 11 May 2025
Hard News Team

เจ้าอาวาสวัดโพธิ์แก้วนพคุณ ร่วมสู้โควิด เปลี่ยนศาลาวัดเป็น รพ. สนาม รองรับผู้ป่วยติดเชื้อ

8 ก.ค. 64 ว่าที่พันตรี อดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรี ได้รับมอบหมายจาก นายชำนาญวิทย์ เตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรี จัดตั้งโรงพยาบาลสนาม ณ อาคารธนาคมานุสรณ์ วัดโพธิ์แก้วนพคุณ ต.บางพุทรา อ.เมือง จ.สิงห์บุรี โดยได้รับความเมตตาจาก พระครูสุนทรพัฒนาลังการ เจ้าอาวาสวัดโพธิ์แก้วนพคุณ เจ้าคณะตำบลจักสีห์เขต 2 อนุเคราะห์มอบสถานที่ในการจัดตั้งโรงพยาบาลสนามของจังหวัดสิงห์บุรี

เนื่องจากจังหวัดสิงห์บุรี พบผู้ป่วยที่ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้น และจังหวัดสิงห์บุรี ยังมีโครงการ “คนสิงห์ไม่ทิ้งกัน” โดยต้อนรับชาวสิงห์บุรีที่ติดเชื้อโควิด-19 จากจังหวัดต่าง ๆ กลับมารักษาตัวที่ภูมิลำเนา จึงทำให้ยอดผู้ป่วยเพิ่มขึ้น ซึ่ง ณ ขณะนี้มีผู้ป่วยที่กำลังรักษาอยู่จำนวน 108 ราย และศักยภาพของสถานบริการในการรับผู้ป่วยของจังหวัดสิงห์บุรี โรงพยาบาลสิงห์บุรี 72 เตียง โรงพยาบาลอินทร์บุรี 32 เตียง โรงพยาบาลท่าช้าง 50 เตียง โรงพยาบาลพรหมบุรี 40 เตียง และเตรียมพร้อมโรงพยาบาลสนาม 1 แห่ง คือ วัดโพธิ์แก้วนพคุณ ซึ่งจะเริ่มดำเนินการเมื่อมีผู้ป่วยที่ติดเชื้อโควิด-19 เต็ม 155 เตียง

สำหรับ อาคารธนาคมานุสรณ์ ซึ่งเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมของวัดโพธิ์แก้วนพคุณ เป็นอาคาร 2 ชั้น แบ่งเป็นชั้นบนผู้ป่วยหญิง 50 คน ชั้นล่างผู้ป่วยชาย 50 คน และมีห้องน้ำทั้ง 2 ชั้น โดยสามารถรองรับผู้ป่วยได้จำนวน 100 เตียง อีกทั้งยังมีห้องแยกให้กับเจ้าหน้าที่พยาบาลในการดูแลผู้ป่วยอีกด้วย ด้านพระครูสุนทรพัฒนาลังการ ได้กล่าวว่า “ท่านถือคติว่า “คนสิงห์ต้องไม่ทิ้งกัน” เมื่อถึงยามวิกฤตแม้จะเป็นเพียงวัดวาอาราม ท่านก็พร้อมที่จะสนับสนุนช่วยเหลืออย่างเต็มที่

ทางด้าน ผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรี ได้สั่งการให้ รองผู้ว่าฯ ฝ่ายปกครอง อส. ช่วยกันขนเตียงไม้และเตียงลังกระดาษ มาจัดสถานที่ให้แล้วเสร็จภายในวันนี้ อีกทั้งยังมีพระภิกษุในวัดโพธิ์แก้วนพคุณช่วยกันขนของอย่างขะมักเขม้น พร้อมมีเจ้าหน้าที่ติดตั้งกล้องวงจรตามจุดต่าง ๆ เพื่อการดูแลผู้ป่วยอย่างทั่วถึงของเจ้าหน้าที่พยาบาล โดยโรงพยาบาลสนามที่ชาวสิงห์บุรี เรียกร้องถามหาวันนี้ได้เห็นเป็นรูปธรรมแล้ว และพร้อมที่จะรองรับผู้ป่วยเมื่อเกิดภาวะเตียงเต็มที่โรงพยาบาลต่าง ๆ ได้ทันที

 

 

ที่มา : https://www.naewna.com/likesara/586014


โปรเด็ด! ถึง 15 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

"สิระ" ตื่นมาน้ำตาไหล เห็นข่าวคนตายจากโควิดเพิ่ม เสนอ ล็อกดาวน์สภา เหตุเป็นที่รวมคนหมู่มากในการประชุม หวั่นติดเชื้อเพิ่ม

ที่รัฐสภา นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงสถานการณ์การคนติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศไทย ว่า ตนตื่นขึ้นมาเห็นข่าวคนไทยมีผู้ติดโควิด-19 7 พันกว่าราย เสียชีวิต 75 ราย ตนในฐานะผู้แทนราษฎรตื่นมาน้ำตาไหล เกิดอะไรขึ้นกับประเทศไทย ไม่ได้รับการเข้าถึงสาธารณสุขใช่หรือไม่ ถึงเวลาหรือยังที่ศบค.ต้องออกมาชี้แจงกับประชาชนว่าจะบริหารเรื่องนี้อย่างไร จะประกาศล็อกดาวน์หรือไม่ หากไม่ล็อกดาวน์มีเหตุผลอะไร จะยับยั้งความสูญเสียของประชาชนคนไทยได้อย่างไรบ้าง ขอให้คำนึงถึงความเดือดร้อนประชาชนและผลประโยชน์ของประเทศชาติ ไม่ต้องเกรงใจใคร เมื่อคืนนี้มีคนไปนอนรอตรวจโควิดที่วัดพระศรีรัตนศาสดารามตั้งแต่ 21.00 น. เกิดอะไรขึ้นกับบ้านเมืองนี้ ปล่อยให้คนไทยไปนอนรอกว่าจะได้ตรวจไม่รู้กี่โมงและวันนี้จะได้ตรวจหรือไม่ สภาผู้แทนราษฎรก็ได้ผ่านพ.ร.ก.เงินกู้ 5 แสนล้านบาทแล้วก็นำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ 

"ผมขอเสนอให้ล็อกดาวน์สถานที่แห่งแรกควรจะเป็นที่รัฐสภา เพราะมีผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องเข้ามาจำนวนมาก จะเกิดเป็นคลัสเตอร์ใหญ่หรือไม่ เอาแค่ผู้ที่เกี่ยวข้องเข้ามาก็เพียงพอ ที่ผ่านมาวิป 3 ฝ่ายมีข้อสรุปแล้วว่าให้งดประชุม โดยให้ประชุมเฉพาะกมธ.งบประมาณ แต่เมื่อวานนี้ก็มีกมธ.บางคณะที่ประชุมอยู่ วันนี้ก็ยังมีอีกที่ไม่ให้ความร่วมมือ หากไม่ประชุมจะสร้างความเสียหายถึงล่มสลายหรือไม่" นายสิระ กล่าว

เมื่อถามว่าสำหรับตัวเลขผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตเพราะโควิด-19ของวันนี้ มีอะไรอยากฝากถึงนายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุขหรือไม่ นายสิระ กล่าวว่า นายอนุทินตนไม่ฝาก เพราะมีคนไปหาที่กระทรวงหลายคณะแล้ว การเป็นสภาผู้แทนราษฎรหรือผู้บริหารต้องฟังเสียงประชาชน และนำข้อมูลทั้งหมดมาประมวลและตัดสินใจบริหารประเทศ

เมื่อถามว่าล็อกดาวน์ที่สภาหมายความว่าอย่างไร นายสิระ กล่าวว่า หากไม่มีญัตติที่สำคัญและหากเว้นการประชุมไปสัก 2-3 สัปดาห์แล้วไม่ทำให้บ้านเมืองเสียหาย ก็เลื่อนประชุม แต่กมธ.งบประมาณมีเวลาจำกัดอยู่แล้วก็ให้ประชุมเฉพาะกมธ.งบ65 ก็เพียงพอ 

เมื่อถามถึงกรณีที่มีความเห็นให้ส.ส.-ส.ว.สละเงินเดือนส่วนหนึ่งเพื่อช่วยเหลือประชาชน นายสิระ กล่าวว่า ตนเห็นด้วย และกำลังให้ฝ่ายกฎหมายดูอยู่ว่าผิดกฎหมายหรือไม่ ทั้งนี้ ตนกับเพื่อนๆ ได้รวบรวมเงินก้อนหนึ่งโดยจะไปติดต่อบริษัทที่นำเข้าวัคซีนเพื่อขอซื้อวัคซีนทางเลือกเหมือนที่โรงพยาบาลเอกชนนำเข้า ซึ่งจะนำมาฉีดให้ประชาชนโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย เพื่อให้สามารถเข้าถึงวัคซีนได้เร็วที่สุด 

“รัฐบาล”แนะ ปชช. เช็คประกาศที่ดินผ่านอินเตอร์เน็ต ชี้ เพื่อรักษาสิทธิฯ-อำนวยความสะดวก

ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความคืบหน้าการจัดทำประกาศที่ดิน ว่า กระทรวงมหาดไทย รายงานให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหมรับทราบการจัดทำระบบเผยแพร่ประกาศสำนักงานที่ดินเพื่อการรักษาสิทธิในที่ดินของประชาชนผ่านอินเตอร์เน็ต ที่เป็นระบบให้ประชาชนสามารถค้นหาเรียกดูประกาศสำนักงานที่ดินทั่วประเทศ เกี่ยวกับงานจดทะเบียนสิทธิและนิติบุคคลบางประเภทที่กฎหมายกำหนดว่าต้องประกาศก่อนจดทะเบียน เช่น กรณีของมรดก ใบแทน ออกโฉนดที่ดิน รังวัดข้างเคียง การจัดตั้งนิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรร อาคารโรงเรือน การจดทะเบียนอาคารชุด เป็นต้น 

ทั้งนี้ประกาศผ่านอินเตอร์เน็ต เป็นการเพิ่มช่องทางการรับรู้และการเข้าถึงประกาศของสำนักงานที่ดินซึ่งช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้บริการมากขึ้น จึงขอเชิญชวนให้ประชาชนและภาคธุรกิจเข้ามาใช้บริการระบบเพื่อรักษาสิทธิในที่ดิน โดยสามารถใช้บริการผ่าน 2 ช่องทาง คือ เว็บไซต์ http://announce.dol.go.th หรือเข้าไปที่แอปพลิเคชัน Smart Lands คลิกเมนูค้นหาประกาศที่ดิน

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า สำหรับขั้นตอนการใช้งานเมื่อเข้าไปในระบบแล้ว ให้เลือกจังหวัด เลือกสำนักงานที่ดินที่ต้องการ และเลือกประเภทประกาศ จากนั้นกดค้นหา เพียงเท่านี้ประชาชนก็สามารถตรวจสอบประกาศของสำนักงานที่ดินทั่วประเทศได้โดยไม่ต้องเสียเวลาเดินทางข้ามจังหวัดเพื่อเข้าไปดูประกาศของสำนักงานที่ดินด้วยตนเอง ช่วยประหยัด ลดการลดทาง ลดความเสี่ยงในช่วงที่เชื้อโควิด-19 ยังแพร่ระบาดด้วย ระบบดังกล่าวนอกจากกระเพิ่มความสะดวกและลดภาระให้กับประชาชน ภาครัฐ และภาคธุรกิจ เช่น ธนาคาร ผู้ประกอบการด้านอสังหาริมทรัพย์ ยังตรวจสอบประกาศเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ หรือการจัดตั้งนิติบุคคลได้โดยสะดวก ประหยัดค่าใช้จ่ายในการประกอบธุรกิจด้วย นอกจากนี้ ยังจะมีส่วนสำคัญในการสนับสนุนให้คะแนนเพื่อการจัดอันดับความยากง่าย ในการประกอบธุรกิจของเอกชน ด้านการจดทะเบียนทรัพย์สินของประเทศให้ดีขึ้นด้วย เนื่องจากสิ่งที่กรมที่ดินพัฒนานี้จะเพิ่มความโปร่งใสมากขึ้น จากเดิมที่การประกาศจะปิดไว้เฉพาะที่สำนักงานที่ดินเท่านั้นนำมาประกาศเพิ่มในช่องทางอินเตอร์เน็ตที่เข้าถึงง่ายโดยสะดวก

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า  สถานะการเข้าใช้บริการระบบอินเตอร์เน็ต นับแต่เปิดให้บริการตั้งแต่เดือนเม.ย.2563 พบว่า ณ สิ้นปี 2563 มีประชาชนเข้าใช้ระบบจำนวน 115,248 ครั้ง และในปี 2564 วันที่ 7 มิ.ย. 2564 มีผู้เข้าใช้ระบบ 127,073 ครั้ง รวมตั้งแต่เปิดให้บริการมีประชาชนเข้าใช้งานระบบแล้ว 242,321 ครั้ง จำนวนประกาศที่นำขึ้นประกาศในระบบ ทั้งสิ้น 163,631 ฉบับ แยกเป็นประกาศอยู่ในสถานนะระหว่างประกาศ 11,380 ฉบับ และประกาศที่มีสถานะครบระยะเวลาประกาศ 30 วันแล้ว 152,251 ฉบับ

ลูกจ้าง-นายจ้าง เตรียมรับเงินเยียวยา 23 ก.ค.นี้ พร้อมโอนเยียวยาครั้งแรก 

นายธนกร วังบุญคงชนะ เลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะโฆษกประจำศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบจากการระบาดของโรคติเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบศ.) เปิดเผยว่า สำหรับการช่วยเหลือเยียวยาประชาชนหรือผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 นั้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ออกมาตรการช่วยเหลือประชาชนทุกกลุ่ม โดยล่าสุด ครม. เห็นชอบอนุมัติงบประมาณสำหรับชดเชยเร่งด่วน จำนวน 2,519.38 ล้านบาท เพื่อเยียวยากลุ่มแรงงานและผู้ประกอบการด้านก่อสร้าง  ที่พัก บริการด้านอาหาร ศิลปะ บันเทิง และนันทนาการ และผู้ประกันตนมาตรา 33 ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 6 จังหวัด ที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการของรัฐในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ถูกปิดกิจการชั่วคราว เป็นระยะเวลา 1 เดือน โดยเริ่มโอนเงินเยียวยาครั้งแรกภายในวันที่ 23 ก.ค.นี้ 

ทั้งนี้จะโอนผ่านบัญชีพร้อมเพย์ หากนายจ้างที่เป็นนิติบุคคล สำนักงานประกันสังคมจะโอนเข้าบัญชีเงินฝากตามที่นายจ้างแจ้ง หรือตามวิธีการอื่นๆ ที่กระทรวงแรงงานกำหนด ส่วนกรณีนายจ้างที่ยังไม่ได้อยู่ในระบบประกันสังคม สามารถลงทะเบียนนายจ้างและขึ้นทะเบียนประกันสังคมรายใหม่ตั้งแต่ตอนนี้จนถึงวันที่ 30 ก.ค.64 เพื่อเข้าสู่ระบบประกันสังคม และจะได้เข้าเงื่อนไขของการเยียวยาในครั้งนี้

“นทพ.” จัดชุดฉีดวัคซีนเคลื่อนที่ (Mobile Vaccination Kit) ออกให้บริการ ครั้งที่ 2  ฉีดวัคซีนให้กับกำลังพลกลุ่มเสี่ยง ในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ นราธิวาส,ยะลาและปัตตานี

พล.อ.เฉลิมพล  ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด/หัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง (ผบ.ทสส./หน.ศปม.) สั่งการให้ พล.อ.นเรนทร์  สิริภูบาล ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา (ผบ.นทพ.) จัดชุดฉีดวัคซีนเคลื่อนที่ (Mobile Vaccination Kit) ประกอบด้วยแพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่เสนารักษ์ พร้อมอุปกรณ์ทางการแพทย์ จากกองแพทย์ สำนักงานสนับสนุน หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา (กองแพทย์ สสน.นทพ.) นำวัคซีนที่ได้รับการจัดสรรจากกระทรวงสาธารณสุข รวมทั้งวัคซีนที่ได้รับตามแผนการแจกจ่ายและกระจายวัคซีนของกระทรวงกลาโหม ออกบริการฉีดให้แก่กำลังพลของสำนักงานพัฒนาภาค 4 (ส่วนหน้า) และหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 41 จังหวัดนราธิวาส, หน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 42 จังหวัดยะลา และหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 44 จังหวัดปัตตานี 

ซึ่งเป็นกำลังพลที่ปฏิบัติงานในการพัฒนาและช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันป้องกันการติดเชื้อให้กับกำลังพลที่ต้องปฏิบัติงานอยู่ในพื้นที่เสี่ยงและใกล้ชิดกับประชาชน

ทั้งนี้ เพื่อสนับสนุนกระทรวงสาธารณสุขในการกระจายวัคซีนให้เป็นไปอย่างทั่วถึงและรวดเร็วตามนโยบายของรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์  จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่ได้ประกาศให้การฉีดวัคซีนเป็น "วาระแห่งชาติ" เพื่อเร่งสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ให้กับประเทศไทยของเรา โดยได้ดำเนินการฉีดวัคซีน ในวันที่ 7 ที่ นพค.42 และ นพค.41 รวมจำนวน 144 นาย และจะจบภารกิจที่ นพค.44 ในวันที่ 8 ก.ค.64

FengshuiBizDesigner โดยพี่อ๋า สมศักดิ์ ชาคริตฐากูร ได้เผยปัจจัยที่ทำให้เกิดเหตุระเบิดเพลิงไหม้ที่โรงงานย่านกิ่งแก้ว ด้วยโหราศาสตร์จีนโบราณ โดยระบุว่า...

FengshuiBizDesigner โดยพี่อ๋า สมศักดิ์ ชาคริตฐากูร ได้เผยปัจจัยที่ทำให้เกิดเหตุระเบิดเพลิงไหม้ที่โรงงานย่านกิ่งแก้ว ด้วยโหราศาสตร์จีนโบราณ โดยระบุว่า...

อะไร? เป็นปัจจัยให้เกิดเหตุระเบิดเพลิงไหม้ที่โรงงานย่านกิ่งแก้ว

เช้ามืดจันทร์ที่ 5 กรกฎาคม 2564 เกิดเหตุระเบิดเพลิงไหม้ที่โรงงานสารเคมี “หมิงตี้ เคมิคอล” ซ.กิ่งแก้ว 21 ต.ราชาเทวะ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ เหตุการณ์ครั้งนี้ “ย่อมเกิดจากสิ่งนั้นมีอยู่ สิ่งนี้จึงเกิด” จากเหตุและผลของกฎแห่งจักรวาล ตามหลัก “อิทัปปัจจยตา” กฎความจริงสูงสุดของ ธรรมชาติที่ควบคุมทุกสิ่งทุกอย่างไว้ เมื่อช่วงห้วงเวลาเหมาะสม กฎแห่งธรรมชาติย่อมแสดงเป็นผลขึ้น

แล้วเหตุไฉนจึงเกิดเหตุระเบิดเพลิงไหม้ตามเหตุการณ์ที่ปรากฏ นอกเหนือจากความสะเพร่า ขาดความรอบคอบ ปล่อยปละเผลอเลอ ประมาท เลินเล่อ ไม่ระแวดระวังภัยที่จะตามมาแล้ว จากมุมมองตามศาสตร์วิชาฮวงจุ้ย ที่ว่าด้วยหลักแห่งความสมดุลของกระแสพลังธรรมชาติ ผูกพันกับทิศทางก่อเกิดปฏิกิริยามหามงคลหรืออวมงคลตามอิทธิพลของดาวจร โดยคำนวน ตามหลักศาสตร์คัมภีร์ดาวเหินม่วงขาว เดินดาวผสานระหว่างดาวผสมปีจรและเดือนจร ตั้งแต่วันเสาร์ที่ 5 เดือนมิถุนายน ถึง วันอังคารที่ 6 เดือนกรกฎาคม ด้วยอิทธิพลของกระแสพลัง ดาวจรคู่ผสมระหว่างดาว 9 ม่วง ธาตุไฟ ก่อเกิดกระแสพลังดาววิบัติ 5 เหลือง ธาตุดิน ให้มีกำลัง สถิตที่ทิศตะวันออกเฉียงใต้ ส่งผลให้เกิดเหตุเลวร้ายที่ไม่คาดคิด โศกนาฏกรรมที่ไม่คาดฝัน เฉกเช่น ภัยจากระเบิดเพลิงไหม้ที่โรงงาน “หมิงตี้ เคมีคอล” ที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ ของกรุงเทพ

ความสูญเสียจากเหตุการณ์ระเบิดเพลิงไหม้ดังกล่าว ย่อมมีผู้สูญเสียและผู้ได้รับบาดเจ็บ ต่างล้วนเป็นเหยื่อจากกระแสวิบากพลังจักรวาล ที่เป็นกฎแห่งความเป็นจริงอันสูงสุดของธรรมชาติว่า “เมื่อสิ่งนี้มี สิ่งนี้จึงเกิด” สอดคล้องกันระหว่างศาสตร์ฮวงจุ้ยและหลักคำสอนของพระพุทธองค์ท่าน


โปรเด็ด! ถึง 15 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

‘เฉลิมชัย’ เปิดแนวรุกสมุนไพรไทย ฝ่าแนวรบโควิด-19 จับมือกระทรวงสาธารณสุข และสภาการแพทย์แผนไทยระดม 6 พันคลีนิค เปิดสายด่วนใช้สมุนไพรและตำรับยาไทยร่วมรักษาผู้ป่วย พร้อมใช้ 3 แนวทาง ‘ป้องกัน-รักษา-ฟื้นฟู’ สู้โควิด

นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตร แถลงวันนี้ที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (7 ก.ค) ว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของ "โควิด-19" ระลอกใหม่ที่รุนแรงมากขึ้น ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้สั่งการให้เร่งส่งเสริมพืชสมุนไพร และตำรับยาไทย เพื่อแก้ไขปัญหาโควิด-19 โดยผนึกความร่วมมือกับสภาการแพทย์แผนไทย และกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข

จากข้อสั่งการดังกล่าว กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้จัดการประชุมหารือ โดยประสานกับ ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมามี นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีเกษตรเป็นประธาน และมีผู้เข้าร่วมประชุมประกอบ ด้วยนายนราพัฒน์ แก้วทอง ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงเกษตรฯ พล.ร.อ.ชาญชัย เจริญสุวรรณ นายกสภาการแพทย์แผนไทย พันเอกนายแพทย์ พงศ์ศักดิ์ ตั้งคณา ประธานมูลนิธิจิตเป็นผู้ให้ใจเป็นนิพพาน นพ.ธิติ แสวงธรรม รองอธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข ดร.ภญ.มณฑกา ธีรชัยสกุล ผู้อำนวยการกองสมุนไพรเพื่อเศรษฐกิจ รศ.ดร.ธัญญะ รองอธิการบดี มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ พท.ภ.บัญชา สุวรรณธาดา ที่ปรึกษาโครงการพัฒนาการแพทย์ไทนร่วมสมัย ฯลฯ

ทั้งนี้ ที่ประชุมเห็นพ้องต้องกันว่าพร้อมดำเนินแนวทางการแพทย์ทางร่วมระหว่างการแพทย์แผนปัจจุบันและการแพทย์แผนไทยโดยใช้สมุนไพรและตำรับยาไทยควบคู่กับยาแผนปัจจุบันซึ่งมี 3 แนวทางในการขับเคลื่อน

1.) แนวทางการป้องกันการติดเชื้อโดยใช้เครื่องยาสมุนไพรและตำรับยาไทย

2.) แนวทางการรักษาผู้ป่วยด้วยยาแผนปัจจุบัน เครื่องยาสมุนไพรและตำรับยาไทย

3.) แนวทางการฟื้นฟูผู้ป่ายหลังการรักษาโดยเฉพาะกรณี Long COVID Syndrome

นายอลงกรณ์กล่าวต่อไปว่า สภาการแพทย์แผนไทยแจ้งว่าปัจจุบันมีคลีนิคแพทย์แผนไทย 6,000 คลินิก และแพทย์แผนไทยกว่า 30,000 คน รวมทั้งศูนย์ฮอตไลน์แพทย์แผนไทยที่มีอยู่ทุกภาค และยังมีคลีนิคจิตอาสาแพทย์แผนไทยอีก 60 แห่ง และคลังยาสมุนไพรและตำรับยาไทยของสภาการแพทย์แผนไทยที่พร้อมให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่

ในขณะที่รองอธิบดีกรมแพทย์แผนไทยแจ้งว่า กระทรวงสาธารณสุขมีแพทย์แผนไทยประจำโรงพยาบาลของรัฐทุกแห่ง และมีการใช้สมุนไพรฟ้าทะลายโจรในการรักษาผู้ป่วยในโรงพยาบาลสนาม เช่น กรุงเทพ นครปฐม และเพชรบุรี

ทั้งนี้ที่ประชุมมีความเห็นร่วมกันว่า ควรเริ่มทดสอบแนวทางการแพทย์ทางร่วมที่โรงพยาบาลสนาม จังหวัดเพชรบุรี ซึ่งมีความพร้อมมากที่สุดเป็นแห่งแรกตามข้อเสนอของ พอ.นายแพทย์พงศพศักดิ์ ตั้งคณา โดยให้มีการจัดกลุ่มผู้ป่วยตามกลุ่มยาและให้ตรวจเลือดผู้ป่วย ทั้งก่อนและหลังการบำบัดรักษาเพื่อวัดผลลัพธ์หากได้ผลดีจะขยายผลต่อไป

“จากนั้นได้มีการประชุมต่อเนื่องที่จังหวัดเพชรบุรี เมื่อวานนี้ (วันที่ 6 ก.ค.) เป็นการประชุมร่วมระหว่าง ที่ปรึกษารัฐมนตรีเกษตรฯ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี สาธารณสุขจังหวัด ทีมแพทย์แผนไทยเพชรบุรี พ.อ.นายแพทย์ พงศ์ศักดิ์ ตั้งคณา โดยนายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรีเห็นด้วยและพร้อมดำเนินการในการรักษาผู้ป่วยตามแนวทางการแพทย์ทางร่วม

ทั้งนี้ในส่วนสาธารณสุขจังหวัดเพชรบุรี ยินดีที่จะดำเนินการทันทีที่มีคำสั่งจากกระทรวงสาธารณสุขให้สามารถดำเนินการทดสอบดังกล่าว โดย พ.อ.นายแพทย์ พงศ์ศักดิ์ แจ้งว่าพร้อมร่วมดำเนินการทดสอบและจะเป็นผู้สนับสนุนเครื่องยาและตำรับยาไทย เช่น ฟ้าทะลายโจร กระชาย เบญจโลกวิเขียร (5 ราก) จันทน์ลีลา เป็นต้น"

ที่ปรึกษารัฐมนตรีเกษตรยังแถลงต่อไปว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ดำเนินการสนับสนุนและส่งเสริมสมุนไพรไทยอย่างต่อเนื่อง ภายใต้นโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ และนโยบายสมุนไพรแห่งชาติ ซึ่งมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานคณะกรรมการฯ โดยขับเคลื่อนนโยบายผ่านแผนแม่บทว่าด้วยการพัฒนาสมุนไพรไทยประกอบด้วย 5 ด้าน คือ

1.) ด้านยุทธศาสตร์สมุนไพรแห่งชาติ

2.) ด้านการวิจัยและนวัตกรรมสมุนไพร

3.) ด้านวัตถุดิบสมุนไพร

4.) ด้านส่งเสริมอุตสาหกรรมและผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์สมุนไพร

และ 5.) ด้านส่งเสริมภาพลักษณ์และการตลาดสมุนไพร

ซึ่งกระทรวงเกษตรฯ มีบทบาทหน้าที่ในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การส่งเสริมผลิตผลของสมุนไพรไทยที่มีศักยภาพตามความต้องการของตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งจากการดำเนินการที่ผ่านมาได้สนับสนุนการปลูกพืชสมุนไพร 64,917 ไร่ จำนวน 80 ชนิด แบ่งเป็น พื้นที่ที่มาตรฐาน GAP จำนวน 54,755 ไร่ พื้นที่ที่มาตรฐาน Organic Thailand จำนวน 13,162 ไร่ พร้อมทั้งจัดตั้งกลุ่มวิสาหกิจชุมชน และกลุ่มเกษตรกร จำนวน 60 กลุ่ม และมีการจัดทำมาตรฐานสินค้า GAP และมาตรฐานพืชสมุนไพรตามกลุ่มของส่วนที่ใช้ของพืช จำนวน 5 ฉบับ ได้แก่ ฉบับที่ 1 หัว เหง้า และราก ฉบับที่ 2 ใบ ส่วนเหนือดิน และทั้งต้น ฉบับที่ 3 ดอก พืช สมุนไพรแห้ง ฉบับที่ 4 ผล และเมล็ด และฉบับที่ 5 เปลือก และเนื้อไม้

นอกจากนี้กระทรวงเกษตรยังมีการพัฒนาบุคคลากรเพื่อตรวจสอบคุณภาพวัตถุดิบสมุนไพร รวมทั้งแผนดำเนินการปรับปรุงห้องปฏิบัติการที่ได้รับรองมาตรฐาน ISO 17025 เพื่อให้บริการตรวจสอบคุณภาพวัตถุดิบมาตรฐาน GAP หรือมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ และได้จัดทำแผนที่ความเหมาะสมของที่ดินสำหรับปลูกพืชสมุนไพร (Land Suitability) จำนวน 24 ชนิด เช่น ฟ้าทะลายโจร ขมิ้นชัน ไพล บัวบก กระชายดำ กระชายเหลือง กระวาน ข่า ขิง คำฝอย ตะไคร้ บุก พริกไทย ว่านชักมดลูก กระเจี๊ยบแดง เก๊กฮวย ดีปลี บอระเพ็ด พญายอ เพชรสังฆาต มะระขี้นก มะลิ มะแว้งเครือ และมะแว้งต้น รวมทั้งจัดทำฐานข้อมูลพื้นที่ปลูกพืชสมุนไพร เพื่อให้มีฐานข้อมูลพื้นที่ปลูกสมุนไพรที่ชัดเจนสามารถส่งเสริมเกษตรกรได้ โดยมีฐานข้อมูลสมุนไพร ประกอบด้วย

1.) ข้อมูลพื้นที่ปลูกสมุนไพร จากกรมส่งเสริมการเกษตร

2.) ข้อมูล Land Suitability (แผนที่ความเหมาะสมของที่ดินสำหรับปลูกพืชสมุนไพร) จากกรมพัฒนาที่ดิน

3.) ข้อมูลพืชสมุนไพรที่ได้รับการรับรอง GAP จากกรมวิชาการเกษตร

4.) ข้อมูลพื้นที่ปลูกพืชสมุนไพร ของสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม

“สมุนไพรเป็นพืชเศรษฐกิจและพืชสุขภาพใช้ประโยชน์หลากหลายทั้งในการประกอบอาหารเป็นยารักษาโรค อาหารเสริมดูแลสุขภาพ และเป็นผลิตภัณฑ์เวชสำอาง ปัจจุบันความต้องการใช้สมุนไพรเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเห็นได้จากมูลค่าการบริโภควัตถุดิบสมุนไพรและผลิตภัณฑ์สมุนไพรภายในประเทศที่เพิ่มขึ้นจากเดิม 43,100 ล้านบาท ในปี 2560 เป็น 52,100 ล้านบาท ในปี 2462 ซึ่งเกิดจากพฤติกรรมของผู้บริโภคที่ใส่ใจเรื่องสุขภาพ และมุ่งเน้นใช้ผลิตภัณฑ์ธรรมชาติมากขึ้นทำให้เกิดแรงหนุนเรื่องธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องด้านสุขภาพ

รวมถึงโครงสร้างประชากรและสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป ทั้งเรื่องสังคมผู้สูงอายุ และกระแสค่านิยมการบริโภคอาหารปลอดภัยมากขึ้น โดยเฉพาะในการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ความต้องการผลิตภัณฑ์สมุนไพรเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วทั้งตลาดในประเทศ และต่างประเทศ เกษตรกรจะมีรายได้แน่นอน และมั่นคงถือเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญ นอกจากนี้กระทรวงเกษตรฯ ได้ร่วมมือกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยในการส่งเสริมการแปรรูปสมุนไพรให้มีมูลค่าเพิ่มขึ้น สำหรับตลาดในประเทศ และต่างประเทศ แทนการส่งออกสมุนไพรในรูปของวัตถุดิบ

โดยเฉพาะสถานการณ์โควิด-19 ล่าสุดดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ห่วงใยประชาชนจึงสั่งการให้กระทรวงเกษตรฯ สนับสนุนและร่วมมือในการแก้ไขปัญหาโควิด-19 ของรัฐบาลโดยใช้ 3 แนวทาง ป้องกัน-รักษา-ฟื้นฟู ด้วยสมุนไพรและตำรับยาไทยเสริมการแพทย์แผนปัจจุบัน

พร้อมกับชี้แนะว่าประเทศจีน คือ ตัวอย่างของประเทศที่ใช้สมุนไพรและตำรับยาจีนควบคู่กับการแพทย์แผนปัจจุบันสู้กับโควิด-19 จนประสบความสำเร็จ ซึ่งสมุนไพรและตำรับยาไทยใช้มาหลายร้อยปีได้พิสูจน์แล้วว่า สามารถช่วยประชาชนคนไทยมาในแต่ละยุค แต่ละสมัยให้อยู่รอดปลอดภัยมาจนถึงทุกวันนี้ การเสริมการแพทย์แผนปัจจุบันด้วยการแพทย์แผนไทยจะช่วยแก้ไขปัญหาโควิด-19 ได้เป็นอย่างดี และควรทำพร้อมกันทั่วประเทศ” นายอลงกรณ์กล่าวในที่สุด


โปรเด็ด! ถึง 15 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

‘พิธา’ ร่วมแต่งดำ รับหนังสือ ‘หมอไม่ทน’ ขอบคุณทุกบุคลากรด่านหน้า ยกเป็นปราการด่านสุดท้ายยามสังคมสิ้นหวัง จี้ รัฐบาลให้ความสำคัญ ‘ระบบสาธารณสุข’ อย่าปล่อยให้ล่มสลาย ตอกย้ำชัด สถานการณ์ความมั่นคงเปลี่ยนแล้ว เหตุใด กำลังพล-อาวุธ ยังมากกว่า พยาบาล-วัคซีน

วันที่ 7 ก.ค. 64 ที่อาคารรัฐสภา ตัวแทนบุคลากรสาธารณสุขและกลุ่มหมอไม่ทน แต่งชุดดำพร้อมนำรายชื่อกว่า 215,409 คน ที่รวบรวมจากภาคประชาชนและบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข เดินทางมายื่นข้อเรียกร้องผ่านพรรคก้าวไกลไปยังรัฐบาลและองค์การเภสัชกรรมให้เร่งรัดการนำเข้าวัคซีนชนิด mRNA พร้อมกับต้องเผยแพร่ข้อมูลในการจัดหาและกระจายวัคซีนโควิด-19 ให้เป็นปัจจุบัน โปร่งใส สม่ำเสมอ และตรวจสอบได้

พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะตัวแทนรับหนังสือ กล่าวว่า ลำดับแรกต้องขอบคุณบุคลากรทางการแพทย์ พยาบาล และสาธารณะสุขกว่า 300,000 ชีวิตที่ดูแลพี่น้องประชาชน รวมถึงพวกเราในช่วงกว่า 400 วันที่ผ่านมาที่มีวิกฤติโควิด พวกท่านเป็นหัวใจสำคัญ เป็นลมหายใจของระบบสาธารณสุข เป็นบุคคลสำคัญของประเทศไทยในช่วงที่พวกเราสิ้นหวังและเป็นฮีโร่ตัวจริงในยามที่ประเทศไม่มีความหวังเหลืออยู่

“แต่ขณะเดียวกัน พวกเราก็ทราบดีว่าทุกท่านก็เป็นมนุษย์เช่นเดียวกัน และก็ไม่ได้อยากจะเป็นฮีโร่ เพียงแค่อยากทำหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุด เป็นมนุษย์ที่มีความอดทน มีเลือดเนื้อเชื้อไข มีขีดจำกัด มีลูกของตัวเอง มีเพื่อนของตัวเอง แต่ท่านต้องเสียสละเพื่อมาดูแลพ่อของผม แม่ของผม ลูกของผม เพื่อนของผม นี่เป็นเรื่องที่ได้รับการพูดถึงในสังคมน้อยเกินไปมาก ผมจึงต้องขอคารวะบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขทุกคนที่ช่วยให้ประเทศไทยยังอยู่ได้ถึงตอนนี้”

พิธา กล่าวต่อไปว่า สิ่งที่พวกเราพอทำได้คือ การยืนยันว่าเสียงของทุกคน เสียงของกว่า 200,000 คน ที่รวบรวมมาครั้งนี้มีค่า เป็นวัฒนธรรมประชาธิปไตยที่ทุกคนจะได้กำหนดวาระของตัวเองได้เกิดขึ้นแล้ว แม้ตอนนี้ไม่เป็นประชาธิปไตยก็ตาม แต่นอกเหนือจากข้อเรียกร้องของตัวแทนบุคลากรทางสาธารณสุขและกลุ่มหมอไม่ทน คือเมื่อรัฐบาลมีแผนงานแล้วก็ควรต้องทำตามแผน ไม่ใช่ย้ายวัคซีนไปมาตามสถานการณ์ระลอกต่าง ๆ ดังที่ผ่านมา...

...สิ่งที่พรรคก้าวไกลเรียกร้องมาตลอด และจะขอเรียกร้องแทนหมออีกครั้งก็คือ วัคซีนชนิด mRNA ซึ่งตามแผนเดิมคือการกระจายวัคซีนไปให้บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขก่อนเพื่อให้ระบบสาธารณสุขไม่ล่ม เพราะถ้าพวกเขาอยู่ไม่ได้ เราก็อยู่ไม่ได้เช่นกัน พวกเขาเป็นทั้งบุคกรด่านหน้า และปราการด่านสุดท้าย จึงไม่ใช่การเห็นแก่ตัว แต่เป็นความเสียสละเพื่อให้พวกเขาช่วยเหลือพวกเราได้ในยามที่การจัดการวัคซีนล้มเหลวเกือบทุกมิติ...

...ขณะนี้ แม้มีความคืบหน้าเรื่องการนำเข้าวัคซีนไฟเซอร์ 20 ล้านโดส แต่ก็ยังมีการนำเข้าวัคซีนชิโนแวคอีก 10 ล้านโดส และวัคซีนโมเดอร์นาที่องค์การเภสัชฯ จะเป็นตัวกลางการซื้อ แต่ยังนิ่งนอนใจไม่ได้จนกว่าวัคซีนจะมาถึงประเทศไทยจริง ๆ"

“อีกเรื่องหนึ่งที่เป็นห่วง คือแผนจัดเก็บและกระจายวัคซีนชนิด mRNA แน่นอนว่าวัคซีนชนิดนี้มีข้อดีหลายอย่าง แต่มีข้อเสียเรื่องการจัดเก็บที่อุณหภูมิ -70 ถึง -80 องศา ซึ่งเมื่อไปดูงบประมาณใน พ.ร.ก.เงินกู้ 1 ล้านล้านบาท มีงบประมาณ 10,000 ล้านบาท สำหรับเรื่องวัคซีนและทางการแพทย์ แต่มีงบประมาณซื้อตู้จัดเก็บวัคซีนเพียงตู้เดียวที่เก็บได้ -80 องศา มูลค่า 1.6 ล้านบาท จึงขอตั้งเป็นคำถามดัง ๆ ผ่านสื่อมวลชนไปยังรัฐบาลว่า เมื่อวัคซีนมาถึง การจัดเก็บและการกระจายวัคซีนให้ทั่วถึงได้เตรียมพร้อมแล้วหรือยัง ถ้าพร้อมแล้ว รัฐบาลหรือ ศบค.ต้องเอาข้อมูลมาเปิดเผย เพราะเคยมีปัญหาในการจัดเก็บ แม้แต่วัคซีนชิโนแวคก็ยังจัดเก็บจนกลายเป็นเจล ในฐานะ ส.ส. เราจึงมีความห่วงถึงการจัดเก็บวัคซีน mRNA”

ทั้งนี้ พิธา ยังกล่าวต่อไปว่า การมารับหนังสือครั้งนี้ ยังหวังไปไกลกว่าเรื่องวิกฤติโควิด เพราะคิดเสมอว่าความมั่นคงในอนาคตไม่ใช่ความมั่นคงทางทหาร แต่คือความมั่นคงทางสาธารณสุข ทางสิ่งแวดล้อม หรือทางมลพิษ ดังที่เห็นในสัปดาห์ที่ผ่านมา การดูแลบุคลากรทางสาธารณสุข ถ้ารัฐบาลนึกไม่ออกว่าจะต้องดูแลอย่างไร ก็ให้คิดว่าการดูแลให้เหมือนทหารทำอย่างไร ปกติแล้วไม่ชอบเปรียบเทียบแบบนี้ แต่คิดว่าคงเป็นคำพูดเดียวที่ท่านอาจจะเข้าใจ จึงต้องพูดแบบนี้

“หนึ่ง ดูว่าบุคลากรพร้อมหรือไม่ ในปีที่มีโควิดแบบนี้ มีทหาร 360,000 คน บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข 300,000 คน เป็นไปได้อย่างไรที่ทหารยังเยอะกว่าพยาบาลในช่วงที่ความท้าทายเปลี่ยนแปลงไปขนาดนี้...

...สอง เมื่อบุคลากรพร้อม อุปกรณ์ต้องพร้อม งบประมาณอาวุธและเครื่องมือทางการทหารปีนี้ 26,000 ล้านบาท แต่งบประมาณตาม พ.ร.ก.เงินกู้ทางการแพทย์ มี 10,000 ล้านบาท งบประมาณทางการทหารยังเยอะกว่า เครื่องช่วยหายใจ อ็อกซิเจน อุปกรณ์ต่าง ๆ เพื่อพยุงชีวิตประชาชน...

...สาม จำนวนวัคซีนกับกระสุน เป็นไปได้อย่างไรที่กระสุนมีมากกว่าวัคซีน เรื่องนี้ต้องเปลี่ยน อย่าให้กลับตาลปัดเพื่อป้องกันระบบสาธารณสุขไม่ถูกกดดันอย่างที่เป็นทุกวันนี้

“ไม่ว่าท่านจะเป็นหมอ พยาบาล หรือผู้ที่อาจไม่เกี่ยวข้องโดยตรง ท่านอาจเป็นคนทำความสะอาดห้องผู้ป่วย ท่านอาจจะเป็นบุคลากรแผนกซักฟอกในโรงพยาบาล ท่านอาจจะเป็น อสม. หรือ อสต. หรือท่านอาจเป็นอาสาแรงงานต่างด้าว ท่านมีความหมายอย่างยิ่งต่อพวกผม และพรรคก้าวไกลเวลานี้อย่างมาก”

สำหรับข้อเรียกร้องของตัวแทนบุคลากรสาธารณสุข และกลุ่มหมอไม่ทน ต่อรัฐบาล และองค์การเภสัชกรรม มี 2 ข้อ ได้แก่

1.) เร่งรัดการนำเข้าวัคซีนชนิด mRNA เช่น วัคซีนของบริษัทไฟเซอร์และโมเดอร์นา โดยลดขั้นตอนการดำเนินงานให้กระชับ เร็วที่สุด และพิจารณาเป็นวัคซีนหลักในการควบคุมโควิดในประเทศไทย และนำมาใช้กับประชาชนทุกคน โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย เนื่องจากวัคซีนดังกล่าวมีหลักฐานยืนยันว่ามีประสิทธิภาพที่สุด และสามารถควบคุมสายพันธุ์เดลตาที่กำลังระบาดหนักในขณะนี้ได้

2.) ต้องเผยแพร่ข้อมูลในการจัดหา และกระจายวัคซีนโควิด-19 ให้เป็นปัจจุบัน โปร่งใส สม่ำเสมอ และตรวจสอบได้


โปรเด็ด! ถึง 15 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

ชาวเน็ตกัมพูชาแห่แชร์ภาพ ‘วัดภูม่านฟ้า’ จ.บุรีรัมย์ สร้างปราสาทหินจำลองแห่งใหม่ อ้างลอกเลียนแบบมาจากนครวัดของกัมพูชา ระบุซ้ำ ทำให้เกิดอาเพศ เกิดเหตุการระเบิดและไฟไหม้ครั้งใหญ่ในประเทศไทยขณะนี้

กำลังเป็นกระแสในโลกโซเชียลมีเดียของชาวกัมพูชา กับภาพการก่อสร้างปราสาทหินจำลอง ในพื้นที่ของ “วัดภูม่านฟ้า” ต.บ้านสิงห์ อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์

โดยชาวเน็ตกัมพูชาต่างแสดงความคิดเห็นว่า สถานที่แห่งนี้สร้างลอกเลียนแบบมาจาก “นครวัด” อันเป็นมรดกโลกที่ชาวกัมพูชาภาคภูมิใจ ซึ่งทั้งชาวเน็ตทั่วไป และผู้มีชื่อเสียงของกัมพูชา ต่างเรียกร้องให้มีการตรวจสอบในประเด็นนี้

นอกจากนี้ ยังมีการรณรงค์เป็นแคมเปญ โดยใช้แฮชแท็ก #JusticeCambodia และ #savecambodiaculture โดยอ้างอิงถึงสิ่งก่อสร้างที่สร้างโดยลอกเลียนแบบนครวัดในหลาย ๆ แห่ง จะทำให้เกิดอาถรรพ์กับประเทศนั้น ๆ เช่น ที่ประเทศอินเดีย เคยมีการก่อสร้างสิ่งก่อสร้างในลักษณะดังกล่าว ส่งผลให้อินเดียมีอากาศแห้งแล้งที่สุดในปี 2015 ส่วนในไทยที่กำลังมีการก่อสร้างที่วัดดังกล่าวนี้ ส่งผลให้เกิดเหตุการระเบิดและไฟไหม้ครั้งใหญ่ในประเทศไทยขณะนี้

และประเด็นสิ่งก่อสร้างที่เลียนแบบมาจากกัมพูชา ก็ยังอ้างอิงถึงดราม่าที่เคยเกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ กับประเด็นโรงแรมในประเทศไทยที่สร้างคล้ายปราสาทหินในกัมพูชา

ทั้งนี้ ภายหลังจากเป็นกระแสไปทั่วโลกโซเชียลกัมพูชา และมีการเรียกร้องไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ล่าสุด ข้อมูลจากเว็บไซต์ Khmer press สำนักข่าวของกัมพูชา ปรากฏว่า ทางกระทรวงวัฒนธรรมและศิลปะของกัมพูชา ได้ติดต่อมายังสถานทูตกัมพูชาประจำประเทศไทย เพื่อตรวจสองการก่อสร้างปราสาทหินดังกล่าวในประเทศไทยแล้ว

สำหรับสิ่งก่อสร้างดังกล่าว เป็นโครงการก่อสร้างอาณาจักรสีหนคร ซึ่งมีการสร้างปราสาทหินจำลอง ที่จำลองแบบมาจากปราสาทนครวัด ตั้งอยู่ในพื้นที่ของ “วัดภูม่านฟ้า” ต.บ้านสิงห์ อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ โดยปัจจุบันนี้ยังปิดการเข้าชมวัดและพื้นที่ก่อสร้างปราสาท ซึ่งยังไม่มีกำหนดการเปิดให้เข้าชมอย่างเป็นทางการ

 

 

ที่มา : https://mgronline.com/travel/detail/9640000065751

ภาพ : https://www.facebook.com/NangnongBuriram/photos/pcb.2914514962163036/2914514825496383


โปรเด็ด! ถึง 15 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

รับประกันสนามลุกเป็นไฟ!! อังกฤษเจอเดนมาร์ก ดวลแข้งเพื่อเข้ารอบชิงชนะเลิศ ในศึกฟุตบอลยูโร 2020

#เก็บตกยูโร2020 ⚽

คืนนี้ อังกฤษ จะลงดวลกับ เดนมาร์ก เพื่อหาทีมเข้ารอบชิงชนะเลิศ ศึกฟุตบอลยูโร 2020 หลังจากที่เมื่อคืนนี้ อิตาลี แม่นจุดโทษ เฉือนสเปน ผ่านเข้าไปรอในรอบชิงชนะเลิศเรียบร้อย

โดยรวม อังกฤษเป็นต่อ ด้วยผลงาน 5 นัดที่ผ่านมา ชนะ 4 เสมอ 1 แถมในรอบ 8 ทีมสุดท้าย ยังถล่มยูเครนไปถึง 4-0 เรียกว่าฟอร์มแจ่มสมราคาเต็งหนึ่ง

ด้านเดนมาร์ก แม้จะสะดุดใน 2 นัดแรก จากในรอบแรก แถมยังมีข่าวร้าย คริสเตียน อีริคเซ่น ประสบกับเหตุการณ์ช็อกคาสนาม แต่หลังจากที่อะไร ๆ คลี่คลายขึ้น ฟอร์มโดยรวมของทีมก็พลิกหน้ามือเป็นหลังมือ จากทีมที่โอกาสตกรอบสูง กลายเป็นทีมที่กำลังจะก้าวสู่รอบชิง

ทั้งอังกฤษและเดนมาร์ก ต่างมีแพสชั่นแรงด้วยกันทั้งคู่ ในมุมของอังกฤษ เป็นทีมใหญ่ที่ไม่เคยได้แชมป์ยูโรสักครั้ง และครั้งนี้ก็ถือว่าใกล้เคียงกับความฝันมากที่สุด แถมยังได้เล่นในบ้านตัวเองอีกด้วย ถึงเวลานี้ต้องบอกว่า แพสชั่นมาเกินร้อย

ส่วนเดนมาร์ก ก็แอบหวังลึก ๆ ว่า จะสร้างตำนานเทพนิยายแชมป์ยูโรได้เหมือนกับที่ตัวเองเคยทำไว้เมื่อปี 1992 ซึ่งหนนั้น เดนมาร์กคือทีมที่มาเล่นแทนยูโกสลาเวีย แต่สามารถทะลุเข้าชิงไปคว้าแชมป์ได้อย่างเหลือเชื่อ ผ่านมา 29 ปี เดนมาร์กไม่เคยเข้ารอบลึก ๆ ในฟุตบอลรายการระดับเมเจอร์ได้อีกเลย และครั้งนี้ถือว่าใกล้เคียงที่สุด

เมื่อทีมที่แรงด้วยแพสชั่นมาเจอกัน รับประกันสนามลุกเป็นไฟ!!

ถึงอังกฤษจะเป็นต่อ ด้วยสภาพทีมแกร่งทั่วแผ่น แถมยังไม่เสียประตูเลยสักลูก แต่ประมาทเดนมาร์กไม่ได้ ฟุตบอลเล่นเป็นทีม และโต้กลับดี ที่สำคัญ มีพลังแฝงจากเพื่อนจอมทัพหมายเลข 10 ที่ชื่อ คริสเตียน อีริคเซ่น ฝากมาให้ทีมสู้แบบถวายหัว ยังไงคงไม่ยอมง่าย ๆ

เมื่อคืนนี้ อิตาลี-สเปน เล่นสมราคารอบรอง เพราะฉะนั้น อังกฤษ-เดนมาร์ก คงน้อยไปกว่านี้ไม่ได้ ถึงตรงนี้ อะไรก็เกิดขึ้นได้ เพราะอีกแค่ก้าวเดียวก็ ‘รอบชิง’ ยังไงทั้งคู่..สู้ตายแน่นอน!!


โปรเด็ด! ถึง 15 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top