แม้ 'กัญชา' จะเป็นว่าที่พืชเศรษฐกิจใหม่ที่หลาย ๆ คนกำลังให้ความสนใจและตื่นตัวมาก แต่ยังมีพี่น้องอย่าง 'กัญชง' (Hemp) ซึ่งมีลักษณะคล้ายคลึงกับกัญชาในด้านลักษณะทางพฤกษศาสตร์ แต่ 'ไม่ใช่พืชที่เป็นสารเสพติดเหมือนกัญชา' ที่กำลังได้รับความสนใจไม่แพ้กัน โดยเฉพาะตอนนี้มีการค้นพบครั้งสำคัญสำหรับเจ้าใบ 'กัญชง' ที่นำไปต่อยอดประโยชน์ในการทำเส้นใยได้อีกด้วย
ดร.ดำรงค์ฤทธิ์ เนียมหมวด ปฏิบัติงานรองผู้อำนวยการ GISTDA เปิดเผยว่า คุณสมบัติข้อมูลการผลิตและทดสอบเส้นใยไฟเบอร์ ที่ทำจากใยกัญชงเทียบกับใยไฟเบอร์กลาส ผลการทดสอบออกมาว่า เส้นใยกัญชงมีความแข็งแรงกว่าใยไฟเบอร์กลาส 25-30% เทียบต่อน้ำหนัก ทำให้ลดการใช้พลังงานได้ และที่สำคัญมีคุณสมบัติดูดกลืนเสียงได้ดีด้วย จึงมีความเป็นไปได้สูงที่จะเอามาผลิตเป็นชิ้นส่วนประกอบของดาวเทียมที่จะผลิตเองในประเทศ
โดยชิ้นส่วนประกอบของดาวเทียมที่สนใจ คือ โครงสร้างที่รองรับแผงโซล่าเซลล์ของดาวเทียม เนื่องจากแผงตัวนี้ ต้องการความเบาและมีความแข็งแรงทนทานสูง รวมถึงการสั่นสะเทือนของตัวดาวเทียมอีกด้วย หลังจากประสบความสำเร็จ พัฒนาผู้ประกอบการไทยในการผลิตชิ้นส่วนดาวเทียมดวงเล็ก ภายใต้โครงการ THEOS-2 มาแล้ว
ทั้งนี้จากผลการทดสอบ Tensile Strength มีความแข็งแรงกว่าที่เห็นชัดเจนคือ Bending Strength มากกว่าไฟเบอร์กลาสถึง 30-35% ทีเดียว
ดังนั้น ในอนาคตการใช้ประโยชน์จากใยกัญชงในรูปแบบของวัสดุคอมโพสิท FRP (Fiber Reinforced Polymer) จะเริ่มที่ชิ้นส่วนภายในอากาศยานก่อน หรือใช้ผลิตโครงสร้างทั้งหมดของโดรน ทั้งโดรนเชิงพาณิชย์ และโดรนเชิงความมั่นคง หรือโครงสร้างอากาศยานทางทหารที่เป็นเทคโนโลยีล่องหน จากคุณสมบัติดูดซับคลื่นเสียงที่ดี (ต้องมีการผลิตทดสอบในหลาย ๆ ความถี่ เช่น VHF, UHF, L-Band, S-band, X-band) หรือใช้ลดการแพร่กระจายรังสีจากเครื่องยนต์ของยานยนต์ทางทหารต่าง ๆ เพื่อลดการตรวจจับด้วยกล้องรังสีความร้อน เป็นต้น ซึ่งหากสามารถทำได้จะช่วยส่งเสริมให้อุตสาหกรรมการปลูก แปรรูป และอุตสาหกรรมต่อเนื่องเกิดการขยายตัว และเติบโตได้อย่างยั่งยืน
ปัจจุบัน GISTDA ได้เริ่มนำใยกัญชงมาทดสอบหาคุณสมบัติ ทั้งด้านความแข็งแรง ทนทาน ด้านความถี่ ด้านอุณหภูมิ เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ด้านโครงสร้างของอากาศยานไร้คนขับ หรือชิ้นส่วนภายในเครื่องบิน ซึ่ง GISTDA มีพาร์ทเนอร์ด้านนี้อยู่แล้ว หรือหากมีคุณสมบัติที่เข้ากันได้กับการใช้งานบนอวกาศ ก็เป็นไปได้ที่จะนำไปใช้เป็นชิ้นส่วนในดาวเทียมดวงต่อ ๆ ไป ที่เกิดขึ้นจากการสร้างโดยฝีมือคนไทย โดยสิ่งที่ต้องเร่งดำเนินการในขั้นตอนต่อไป คือ การค้นหา และพัฒนาผู้ประกอบการ ที่มีศักยภาพพอที่จะผลิตเส้นใยธรรมชาติ ให้ขึ้นไปถึงเส้นใยไฟเบอร์สำหรับวัสดุคอมโพสิทให้ได้ต่อไป
ดร.ดำรงค์ฤทธิ์ กล่าวเสริมว่า "ยังไม่เห็นประเทศไหนในภูมิภาคอาเซียนที่มีการนำเส้นใยกัญชงมาใช้ในอุตสาหกรรมด้านอวกาศมาก่อน แต่ถ้าเป็นในเอเชียที่ใกล้เคียงที่สุดก็จะเป็นญี่ปุ่น ที่จะสร้างดาวเทียมโดยใช้วัสดุจากธรรมชาติ อย่างไรก็ตาม การนำเส้นใยกัญชงมาผลิตเป็นวัสดุชิ้นส่วนในอุตสาหกรรมอวกาศจะต้องใช้เส้นใยกัญชงในปริมาณมากพอสมควร แต่ก็น่าจะเพียงพอกับปริมาณที่มีการปลูกภายในประเทศ"
ยิ่งไปกว่านั้นจะช่วยส่งเสริมให้อุตสาหกรรมการปลูก แปรรูป และอุตสาหกรรมต่อเนื่องของกัญชง เกิดการขยายตัวและเติบโตได้อย่างยั่งยืน
ถึงบรรทัดนี้ หลายคนอาจจะยังมีคำถามค้างคาว่า 'อุตสาหกรรมการบินและอวกาศ' จะนำเส้นใยกัญชง มาประยุกต์ใช้กับอุตสาหกรรมนี้ได้จริง หรือแค่คอนเซ็ปต์?
...บอกได้เลยว่า 'จริง' และเป็นไปได้ เพราะว่ามีการผลิตเครื่องบินเล็กจาก 'เส้นใยกัญชง' เครื่องแรกของโลกเมื่อปี 2557 โดย Derek Kesek ชาวแคนาดา เจ้าของบริษัท Hempearth ทำให้เรื่องนี้ได้รับการพูดถึงในวงกว้าง และหลายส่วนงานที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีอวกาศยานก็กำลังจับตาอย่างใกล้ชิด พร้อมดำเนินการวิจัยและพัฒนากันอย่างจริงจัง
และบริษัท Hempearth เอง ก็ได้พัฒนาเจนเนอเรชั่นใหม่ของเครื่องบินเล็กจากเส้นใยกัญชง โดยที่นั่งและหมอนไปจนถึงผนังเครื่องบิน ทำจากกัญชงทั้งหมด เมื่อจับคู่กับเครื่องยนต์ที่ใช้น้ำมันกัญชง ก็จะกลายเป็นการผลิตเครื่องบินที่ยั่งยืนโดยปราศจากสารพิษ และเมื่อเทียบกับวัสดุอากาศยานแบบดั้งเดิม เช่น อลูมิเนียมหรือใยแก้วจะเบากว่า ส่งผลให้ใช้เชื้อเพลิงน้อยลงระหว่างการเดินทาง รอยเท้าคาร์บอน (Carbon Footprint) จึงต่ำกว่าการผลิตแบบดั้งเดิมอย่างมาก
ปัจจุบัน อุตสาหกรรมดาวเทียมภายในประเทศไทย ยังเติบโตไม่มากนัก แต่ก็มีกลุ่มผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องเข้ามามีส่วนร่วมหลายรายแล้ว หากเรากระตุ้นและสร้างโอกาสให้กับพวกเขาจากสิ่งต่าง ๆ ที่มีอยู่ภายในประเทศได้ ก็จะเกิดเป็น demand ในอนาคตมากพอสมควร ซึ่งจะทำให้ผู้ผลิตทั้งต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำได้ประโยชน์ร่วมกัน ผู้ใช้และผู้ทำระบบ ก็สามารถหาวัตถุดิบในประเทศได้เอง
ดูท่า 'กัญชง' อาจกลายเป็นอนาคตด้านวัสดุศาสตร์ของประเทศอีกแขนงหนึ่งเลยก็ว่าได้
ที่มา: https://www.facebook.com/1233859410089681/posts/2167271190081827/
โปรเด็ด! ถึง 15 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES
คลิก????https://lin.ee/vfTXud9