Sunday, 11 May 2025
Hard News Team

ซีพี ออลล์ จ่อดำเนินการทางกฎหมาย ผู้นำเข้า-เผยแพร่ข้อมูลเท็จผ่านสื่อออนไลน์ ด้อยค่า 7-Eleven ส่งผลทำให้ชื่อเสียงบริษัทเสียหาย

เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม CPALL ออกแถลงการณ์ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) เรื่อง การดำเนินการทางกฎหมายกรณีการนำเข้าและเผยแพร่ข้อมูลเท็จ ข้อมูลที่บิดเบือนจากความจริง ข้อความหมิ่นประมาทบริษัท ผ่านระบบคอมพิวเตอร์และสื่อออนไลน์ ลงวันที่ 6 กรกฎาคม

ระบุว่า ตามที่ปรากฏว่ามีบุคคลกลุ่มหนึ่งได้นำเข้าและเผยแพร่ข้อมูลเท็จ ข้อมูลที่บิดเบือนจากความจริง ข้อความ หมิ่นประมาท เกี่ยวกับบริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) (“บริษัท”) ผ่านระบบคอมพิวเตอร์และสื่อสังคมออนไลน์ และยังปรากฏเพิ่มเติมว่า มีบุคคลบางกลุ่มได้ปลอม เลียนแบบ เผยแพร่ รวมถึงทำให้เสื่อมค่า (Dilution) ซึ่งชื่อทางการค้า เครื่องหมายการค้า 7-Eleven เครื่องหมายบริการของบริษัท และบริษัทในกลุ่ม ซึ่งการกระทำของบุคคลดังกล่าว ได้ก่อให้เกิดความเสียหายต่อชื่อเสียงของบริษัท และสร้างความสับสนและเข้าใจผิดต่อบริษัทเป็นอย่างมาก

บริษัทในฐานะองค์กรเอกชน และบริษัทมหาชน ได้ประกอบธุรกิจโดยสุจริต และยึดหลักการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยคำนึงถึงประโยชน์ต่อประเทศซาติ ประชาชน สังคมและชุมชน รวมถึงพันธมิตรทางธุรกิจ ผู้ประกอบการรายใหญ่ และรายย่อย เป็นสำคัญ บริษัทยินดีเป็นอย่างยิ่งและพร้อมรับการติซมในการดำเนินงานของบริษัทในทางสุจริตและอยู่บนพื้นฐานของความจริง ซึ่งเป็นเรื่องที่บุคคลทั่วไปมีสิทธิในการกระทำได้

อย่างไรก็ตาม หากการติชมหรือวิพากษ์วิจารณ์การประกอบธุรกิจของบริษัท อยู่บนพื้นฐานของข้อมูลที่เป็นเท็จ ข้อมูลที่บิดเบือนจากข้อเท็จจริง หรือข้อความหมิ่นประมาท ประกอบกับการปลอม เลียนแบบ เผยแพร่

รวมถึงทำให้เสื่อมค่า (Dilution) ซึ่งชื่อทางการค้า เครื่องหมายการค้า เครื่องหมายบริการของบริษัท อันส่งผลให้บริษัทได้รับความเสียหายทางชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น เกลียดชัง และถูกทำให้เสื่อมเสียซึ่งความไว้วางใจต่อสาธารณะ

บริษัทก็มีความจำเป็นในการดำเนินการทางกฎหมายต่อบุคคลที่นำเข้าและเผยแพร่ข้อมูลเท็จ ข้อมูลที่บิดเบือนจากความจริง ข้อความ หมิ่นประมาท และใช้ชื่อทางการค้า เครื่องหมายการค้า เครื่องหมายบริการของบริษัท โดยไม่ได้รับความยินยอมจาก บริษัทต่อไป

ทั้งนี้ การดำเนินการทางกฎหมายของบริษัทเป็นไปเพื่อปกป้องสิทธิ และประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทเท่านั้น


โปรเด็ด! ถึง 15 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

 "พายุ เนื่องจำนงค์" ทีมงาน”จุรินทร์” โบกมือลาปชป. ซบพรรคกล้า

นายพายุ เนื่องจำนงค์ อดีตผู้สมัครรับเลือกตั้งส.ส.ชลบุรี พรรคประชาธิปัตย์ อดีตคณะทำงานนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี  โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ประกาศลาออกจากคณะทำงานรองนายกฯ และคณะที่ปรึกษารมว.เกษตรและสหกรณ์ หลังจากลาออกจากสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่า ขอกราบขอบพระคุณท่านรองนายกรัฐมนตรี จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ที่ให้ความเชื่อถือและมั่นใจแต่งตั้งผมเข้าเป็นคณะทำงานรองนายกฯ ตลอด 2 ปีที่ผ่านมา ถือว่าเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ ผมได้ทำงานและเรียนรู้จากท่านรองนายกฯอย่างใกล้ชิด และดีใจที่มีโอกาสกลับมาทำงานในฝ่ายบริหารประเทศที่ทำเนียบรัฐบาลอีกครั้ง หลังจากที่ต้องออกมาเพื่อมาดูแลธุรกิจครอบครัวเมื่อกว่า 10 ปีที่แล้ว 

“วันนี้ผมได้ตัดสินใจลาออกจากตำแหน่ง คณะทำงานรองนายกฯ และคณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ หลังจากที่ได้ทำการลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์อย่างเป็นทางการแล้ว เพื่อเลือกเส้นทางการเมืองที่เหมาะสมของตัวผมต่อไป ผมยังเคารพรักท่านรองนายกฯและมีความปรารถนาดีให้กับพรรคประชาธิปัตย์เหมือนเดิม สุดท้ายนี้ขอขอบคุณ ท่านรัฐมนตรีเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรค เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ รวมถึงผู้ใหญ่ทุกๆท่านในพรรคสำหรับความทรงจำและความรู้สึกที่ดีที่มีให้ต่อกันมาเสมอครับ" ทั้งนี้มีรายงานว่านายพายุ เข้าเป็นสมาชิกพรรคกล้าแล้ว

แจ้งเกิด! ‘3 กระทิงหนุ่มดาวรุ่ง’ ความหวังใหม่ของทีมชาติสเปน

#เก็บตกยูโร2020 ⚽

คู่แรกรอบรองชนะเลิศจบลงไป ได้ทีมที่เข้าไปยืนรอในรอบชิงชนะเลิศยูโร 2020 เรียบร้อย นั่นก็คือ ทีมชาติอิตาลี ที่ผ่านทีมชาติสเปนมาได้ จากการเอาชนะการดวลจุดโทษ หลังจากที่เสมอกันในเวลา 120 นาที ด้วยสกอร์ 1-1

อิตาลีเข้าไปรอชิงก็ขอแสดงความยินดีด้วย แต่สำหรับผู้พ่ายแพ้อย่างสเปน ต้องบอกว่า เป็นผู้แพ้ที่ไม่ควรเสียอกเสียใจแต่อย่างใด เนื่องจากฟอร์มการเล่นของสเปนเมื่อคืนนี้ จัดว่าดูดี เผลอ ๆ จะดูดีกว่าอิตาลีด้วยซ้ำไป!

สเปน ในการทำทีมของหลุยส์ เอ็นรีเก้ ผู้เป็นเฮดโค้ช วางแผนการเล่นมาอย่างดี รู้ว่าอิตาลีเป็นฟุตบอลที่ต้องมีเวลาและพื้นที่ในการเล่น สเปนจึงวางแผนมาเล่นเกมเพรสซิ่ง หรือการบีบพื้นที่ให้นักเตะอิตาลีเล่นบอลง่าย ๆ ในทางกลับกัน สเปนก็ใช้ทักษะความสามารถของนักเตะในทีม สร้างสรรค์เกมขึ้นไปบุกใส่อิตาลีได้เป็นระยะ

แต่ผลสุดท้าย ต้องเรียกว่า แพ้โชค แพ้ความนิ่ง จึงทำให้สเปนพลิกตกรอบไปอย่างน่าเสียดาย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น สิ่งที่สเปนได้กลับคืนมาคือ ประสบการณ์ของนักเตะชุดนี้ ที่จะสร้างความแข็งแกร่งต่อไปในอนาคต

อย่างที่ทราบกันดี สเปนทีมนี้เป็นกระทิงหนุ่มที่รวมตัวกันมาสู้ศึกยูโรหนนี้ และสามารถทำผลงานได้ดี โดยเฉพาะ 3 ดาวรุ่ง ได้แก่ ดานี่ โอลโม่ มิดฟิลด์วัย 23 ปี จากทีมแอร์เบ ไลป์ซิก, มิเกล ออยาร์ซาบาล กองหน้าวัย 24 ปี จากสโมสรเรอัล โซเซียดาด และเปดรี้ เพย์เมกเกอร์ วัยแค่เพียง 18 ปี จากสโมสรบาร์เซโลน่า

ทั้ง 3 คนนี้เด่นมากในเกมอิตาลี สร้างความหวือหวาในเกมรุกของสเปนได้อยู่ตลอดเวลา เพียงแต่สุดท้ายขาดลูกทีเด็ดทีขาด จึงทำให้สเปนทำประตูเพิ่มไม่ได้ ทั้ง ๆ ที่สร้างโอกาสในการทำประตูได้มากกว่าอิตาลีอย่างชัดเจน

แต่ทุกอย่างจบไปแล้ว แม้จะมาได้แค่รอบรองชนะเลิศ แต่อย่างที่บอกไป นักเตะดาวรุ่งเหล่านี้ ได้ประสบการณ์เกมระดับท็อปกลับบ้านไปเพียบ ปีหน้าฟุตบอลโลกกำลังจะเริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง ใครที่ว่าสเปนหมดยุคสตาร์ดังอย่าง ชาบี, อิเนียสต้า, บีญ่า, ตอร์เรส คงต้องรอเวลาสร้างทีมเพื่อกลับมาทวงความยิ่งใหญ่อีกนาน อันนี้เห็นทีอาจจะต้องเปลี่ยนความคิดเสียใหม่

เพราะ ‘กระทิงหนุ่ม’ เหล่านี้ ทำให้เห็นแล้วว่า สเปนกำลังจะกลับมาในไม่ช้านี้แล้ว...


โปรเด็ด! ถึง 15 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

'กัญชง' ว่าที่อนาคตวัสดุศาสตร์ไทย พบเส้นใย 'แข็งแรง' กว่าใยไฟเบอร์กลาส เตรียมใช้ประโยชน์ด้านอากาศยานและอวกาศ

แม้ 'กัญชา' จะเป็นว่าที่พืชเศรษฐกิจใหม่ที่หลาย ๆ คนกำลังให้ความสนใจและตื่นตัวมาก แต่ยังมีพี่น้องอย่าง 'กัญชง' (Hemp) ซึ่งมีลักษณะคล้ายคลึงกับกัญชาในด้านลักษณะทางพฤกษศาสตร์ แต่ 'ไม่ใช่พืชที่เป็นสารเสพติดเหมือนกัญชา' ที่กำลังได้รับความสนใจไม่แพ้กัน โดยเฉพาะตอนนี้มีการค้นพบครั้งสำคัญสำหรับเจ้าใบ 'กัญชง' ที่นำไปต่อยอดประโยชน์ในการทำเส้นใยได้อีกด้วย

ดร.ดำรงค์ฤทธิ์ เนียมหมวด ปฏิบัติงานรองผู้อำนวยการ GISTDA เปิดเผยว่า คุณสมบัติข้อมูลการผลิตและทดสอบเส้นใยไฟเบอร์ ที่ทำจากใยกัญชงเทียบกับใยไฟเบอร์กลาส ผลการทดสอบออกมาว่า เส้นใยกัญชงมีความแข็งแรงกว่าใยไฟเบอร์กลาส 25-30% เทียบต่อน้ำหนัก ทำให้ลดการใช้พลังงานได้ และที่สำคัญมีคุณสมบัติดูดกลืนเสียงได้ดีด้วย จึงมีความเป็นไปได้สูงที่จะเอามาผลิตเป็นชิ้นส่วนประกอบของดาวเทียมที่จะผลิตเองในประเทศ

โดยชิ้นส่วนประกอบของดาวเทียมที่สนใจ คือ โครงสร้างที่รองรับแผงโซล่าเซลล์ของดาวเทียม เนื่องจากแผงตัวนี้ ต้องการความเบาและมีความแข็งแรงทนทานสูง รวมถึงการสั่นสะเทือนของตัวดาวเทียมอีกด้วย หลังจากประสบความสำเร็จ พัฒนาผู้ประกอบการไทยในการผลิตชิ้นส่วนดาวเทียมดวงเล็ก ภายใต้โครงการ THEOS-2 มาแล้ว

ทั้งนี้จากผลการทดสอบ Tensile Strength มีความแข็งแรงกว่าที่เห็นชัดเจนคือ Bending Strength มากกว่าไฟเบอร์กลาสถึง 30-35% ทีเดียว

ดังนั้น ในอนาคตการใช้ประโยชน์จากใยกัญชงในรูปแบบของวัสดุคอมโพสิท FRP (Fiber Reinforced Polymer) จะเริ่มที่ชิ้นส่วนภายในอากาศยานก่อน หรือใช้ผลิตโครงสร้างทั้งหมดของโดรน ทั้งโดรนเชิงพาณิชย์ และโดรนเชิงความมั่นคง หรือโครงสร้างอากาศยานทางทหารที่เป็นเทคโนโลยีล่องหน จากคุณสมบัติดูดซับคลื่นเสียงที่ดี (ต้องมีการผลิตทดสอบในหลาย ๆ ความถี่ เช่น VHF, UHF, L-Band, S-band, X-band) หรือใช้ลดการแพร่กระจายรังสีจากเครื่องยนต์ของยานยนต์ทางทหารต่าง ๆ เพื่อลดการตรวจจับด้วยกล้องรังสีความร้อน เป็นต้น ซึ่งหากสามารถทำได้จะช่วยส่งเสริมให้อุตสาหกรรมการปลูก แปรรูป และอุตสาหกรรมต่อเนื่องเกิดการขยายตัว และเติบโตได้อย่างยั่งยืน

ปัจจุบัน GISTDA ได้เริ่มนำใยกัญชงมาทดสอบหาคุณสมบัติ ทั้งด้านความแข็งแรง ทนทาน ด้านความถี่ ด้านอุณหภูมิ เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ด้านโครงสร้างของอากาศยานไร้คนขับ หรือชิ้นส่วนภายในเครื่องบิน ซึ่ง GISTDA มีพาร์ทเนอร์ด้านนี้อยู่แล้ว หรือหากมีคุณสมบัติที่เข้ากันได้กับการใช้งานบนอวกาศ ก็เป็นไปได้ที่จะนำไปใช้เป็นชิ้นส่วนในดาวเทียมดวงต่อ ๆ ไป ที่เกิดขึ้นจากการสร้างโดยฝีมือคนไทย โดยสิ่งที่ต้องเร่งดำเนินการในขั้นตอนต่อไป คือ การค้นหา และพัฒนาผู้ประกอบการ ที่มีศักยภาพพอที่จะผลิตเส้นใยธรรมชาติ ให้ขึ้นไปถึงเส้นใยไฟเบอร์สำหรับวัสดุคอมโพสิทให้ได้ต่อไป

ดร.ดำรงค์ฤทธิ์ กล่าวเสริมว่า "ยังไม่เห็นประเทศไหนในภูมิภาคอาเซียนที่มีการนำเส้นใยกัญชงมาใช้ในอุตสาหกรรมด้านอวกาศมาก่อน แต่ถ้าเป็นในเอเชียที่ใกล้เคียงที่สุดก็จะเป็นญี่ปุ่น ที่จะสร้างดาวเทียมโดยใช้วัสดุจากธรรมชาติ อย่างไรก็ตาม การนำเส้นใยกัญชงมาผลิตเป็นวัสดุชิ้นส่วนในอุตสาหกรรมอวกาศจะต้องใช้เส้นใยกัญชงในปริมาณมากพอสมควร แต่ก็น่าจะเพียงพอกับปริมาณที่มีการปลูกภายในประเทศ"

ยิ่งไปกว่านั้นจะช่วยส่งเสริมให้อุตสาหกรรมการปลูก แปรรูป และอุตสาหกรรมต่อเนื่องของกัญชง เกิดการขยายตัวและเติบโตได้อย่างยั่งยืน

ถึงบรรทัดนี้ หลายคนอาจจะยังมีคำถามค้างคาว่า 'อุตสาหกรรมการบินและอวกาศ' จะนำเส้นใยกัญชง มาประยุกต์ใช้กับอุตสาหกรรมนี้ได้จริง หรือแค่คอนเซ็ปต์?

...บอกได้เลยว่า 'จริง' และเป็นไปได้ เพราะว่ามีการผลิตเครื่องบินเล็กจาก 'เส้นใยกัญชง' เครื่องแรกของโลกเมื่อปี 2557 โดย Derek Kesek ชาวแคนาดา เจ้าของบริษัท Hempearth ทำให้เรื่องนี้ได้รับการพูดถึงในวงกว้าง และหลายส่วนงานที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีอวกาศยานก็กำลังจับตาอย่างใกล้ชิด พร้อมดำเนินการวิจัยและพัฒนากันอย่างจริงจัง

และบริษัท Hempearth เอง ก็ได้พัฒนาเจนเนอเรชั่นใหม่ของเครื่องบินเล็กจากเส้นใยกัญชง โดยที่นั่งและหมอนไปจนถึงผนังเครื่องบิน ทำจากกัญชงทั้งหมด เมื่อจับคู่กับเครื่องยนต์ที่ใช้น้ำมันกัญชง ก็จะกลายเป็นการผลิตเครื่องบินที่ยั่งยืนโดยปราศจากสารพิษ และเมื่อเทียบกับวัสดุอากาศยานแบบดั้งเดิม เช่น อลูมิเนียมหรือใยแก้วจะเบากว่า ส่งผลให้ใช้เชื้อเพลิงน้อยลงระหว่างการเดินทาง รอยเท้าคาร์บอน (Carbon Footprint) จึงต่ำกว่าการผลิตแบบดั้งเดิมอย่างมาก

ปัจจุบัน อุตสาหกรรมดาวเทียมภายในประเทศไทย ยังเติบโตไม่มากนัก แต่ก็มีกลุ่มผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องเข้ามามีส่วนร่วมหลายรายแล้ว หากเรากระตุ้นและสร้างโอกาสให้กับพวกเขาจากสิ่งต่าง ๆ ที่มีอยู่ภายในประเทศได้ ก็จะเกิดเป็น demand ในอนาคตมากพอสมควร ซึ่งจะทำให้ผู้ผลิตทั้งต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำได้ประโยชน์ร่วมกัน ผู้ใช้และผู้ทำระบบ ก็สามารถหาวัตถุดิบในประเทศได้เอง

ดูท่า 'กัญชง' อาจกลายเป็นอนาคตด้านวัสดุศาสตร์ของประเทศอีกแขนงหนึ่งเลยก็ว่าได้

 

ที่มา: https://www.facebook.com/1233859410089681/posts/2167271190081827/


โปรเด็ด! ถึง 15 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

"ผบ.นทพ." ตรวจเยี่ยมกองอำนวยการควบคุมแคมป์คนงานและจุดควบคุมที่พักแรงงานในพื้นที่เขตลาดกระบัง

พล.อ.นเรนทร์  สิริภูบาล ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา (ผบ.นทพ.) ได้ตรวจเยี่ยมกองอำนวยการควบคุมแคมป์คนงาน นทพ. พื้นที่เขตลาดกระบัง และร่วมประชุมทำความเข้าใจในหน้าที่ความรับผิดชอบของแต่ละหน่วยงาน รับทราบปัญหาข้อขัดข้อง และมอบแนวทางในการแก้ปัญหาเพื่อให้สามารถดำเนินการตามมาตรการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมี นางสาวเบญจพร  ศักดิ์เรืองแมน ผู้ช่วยผู้อำนวยการเขตลาดกระบัง, ผู้แทน กรมควบคุมโรค, ศูนย์บริการสาธารณสุข 45 ร่มเกล้า, ศูนย์บริการสาธารณสุข 46 กันตารัติอุทิศ, สน.ลาดกระบัง, สน.จระเข้น้อย, สน.ฉลองกรุง, สน.ร่มเกล้า, หน.ฝ่ายโยธา, หน.ฝ่ายเทศกิจ, เจ้าพนักงานสาธารณสุข และชุดเฉพาะกิจความมั่นคง กลุ่มเขตกรุงเทพตะวันออก เข้าร่วมประชุม

พร้อมนี้ได้ร่วมตรวจเยี่ยมให้กำลังใจชุดควบคุมแคมป์คนงาน ณ จุดควบคุมที่พักแรงงาน นทพ. ซึ่งเป็นกำลังพลที่ นทพ. จัดสนับสนุนศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉิน (EOC) กทม. ในการดูแลควบคุมแคมป์คนงานเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยจัดกำลังพลจากสำนักงานพัฒนาภาค 1 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา (สนภ.1 นทพ.), สำนักงานทหารพัฒนา หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา (สทพ.นทพ.) และสำนักงานสนับสนุน หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา (สสน.นทพ.) สนธิกำลังกับตำรวจ เทศกิจ และเจ้าหน้าที่เขตลาดกระบัง เข้าดูแลควบคุมแคมป์คนงานในพื้นที่กลุ่มเขตกรุงเทพตะวันออก เขตลาดกระบัง จำนวน 12 แห่ง เพื่อควบคุมเฝ้าระวังและรวบรวมข้อมูลสถานการณ์ให้เป็นปัจจุบัน รวมทั้งประสานการปฏิบัติในการส่งผู้ป่วยติดเชื้อเข้าสู่กระบวนการดูแลรักษาต่อไป

ทั้งนี้ เพื่อปฏิบัติตามมาตรการควบคุมการเคลื่อนย้ายแรงงานในพื้นที่เสี่ยง ไม่ให้มีการเคลื่อนย้ายแรงงานโดยพลการหรือหลบหนี ตามนโยบายของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์  จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม และสั่งการของ พล.อ.เฉลิมพล  ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ในฐานะหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง (ผบ.ทสส./หน.ศปม.) เพื่อแก้ไขปัญหาสำคัญเร่งด่วนของชาติให้สถานการณ์กลับสู่สภาวะปกติโดยเร็วต่อไป

‘กองอาทมาต’ นักรบผู้รับใช้กษัตริย์ !! ภาคขยาย กับ ‘หยก THE STATES TIMES’ | Click on Clear THE TOPIC EP.3

???? ย้อนตำนานหน่วยรบมหากาฬแห่งดินแดนสยาม !!

???? ‘กองอาทมาต’ นักรบผู้รับใช้กษัตริย์ ผู้ช่ำชองเชิงชั้นวิชาดาบที่อันตรายต่อทุกอริราชศัตรูได้ !!

โดย Click on Clear THE TOPIC จับประเด็น เน้นความรู้ จะพาไปรู้จักกับตำนานแห่งหน่วยรบไทยจาก...

‘หยก THE STATES TIMES’

HOST & CONTENT CREATOR

▶️ ใน TOPIC : ‘กองอาทมาต’ นักรบผู้รับใช้กษัตริย์ !! ภาคขยาย

ดำเนินรายการโดย ปริม กุญชนิตา กุญชร ณ อยุธยา PROGRAM DIRECTOR THE STATES TIMES

.

.


โปรเด็ด! ถึง 15 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES 
คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

กมธ.ฯป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยฯ เตรียมเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แจงเหตุโรงงานกิ่งแก้ว-ลาดกระบัง ไฟไหม้ 14 ก.ค.นี้  ชี้ เป็นเป็นเรื่องด่วน ต้องรีบช่วยเหลือ

ที่รัฐสภา นายกัญจน์พงศ์ จงสุทธนามณี ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะโฆษกกรรมาธิการ(กมธ.)การป้องกันและบรรเทาผลกระทบจากภัยธรรมชาติและสาธารณภัย สภาผู้แทนราษฎร แถลงว่า ที่ประชุมได้มีการพิจารณาแนวทางการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากเหตุโรงงานหมิงตี้ เคมีคอล จำกัด ไฟไหม้และระเบิด ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต รวมทั้งบ้านเรือนเสียหายเป็นวงกว้าง และเมื่อวันที่ 6 ก.ค.เกิดเหตุเพลิงไหม้โรงงานผลิตน้ำหอมที่นิคมอุตสาหกรรมลาดกระบังด้วย ทางกมธ.ถือเป็นเรื่องเร่งด่วน จึงจำเป็นต้องหาแนวทางช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนกับผู้ประสบภัย โดยที่ประชุมเสนอแนวทางดำเนินงานเพื่อให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น คือ 1.แจ้งเตือนข้อความผ่าน sms ในระยะที่เกิดสาธารณภัยให้ประชาชนในพื้นที่ได้ทราบและอพยพหรือหลีกเลี่ยงพื้นที่เสี่ยง 2.ถอดบทเรียนเหตุการณ์เพลิงไหม้โรงงานที่มีการกักเก็บสารเคมีหรือวัตถุอันตรายใกล้ชุมชน และ 3.เปิดช่องทางให้ผู้ได้รับผลกระทบแจ้งปัญหาความเดือดร้อนมายังกมธ.ฯและ 4.แนวทางการให้ความช่วยเหลือและบัญชาการเหตุการณ์ของหน่วยงานภาครัฐ และ 5.การจัดลำดับทีมเข้าให้ความช่วยเหลือและเตรียมพร้อมเผชิญเหตุฉุกเฉิน 

นายกัญจน์พงศ์ กล่าวต่อว่า เบื้องต้นกมธ.ฯจะมีหนังสือไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อสอบถามความชัดเจนในการให้ความช่วยเหลือ เยียวยาประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน โดยขอให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยส่งเรื่องมายังกมธ.ฯเพื่อติดตามและประสานงานเร่งรัดให้ความช่วยเหลือต่อไป อย่างไรก็ตาม ในการประชุมกมธ.ฯวันที่ 14 ก.ค.จะเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม ประกอบด้วย ผู้ว่าฯสมุทรปราการ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง และอธิบดีกรมโรงงานและอุตสาหกรรม เพื่อสอบถามถึงสาเหตุที่เกิดขึ้นและการแก้ไขปัญหาที่ล่าช้า 

นายนิธิพัฒน์ พันธุ์ธุมจินดา นักธุรกิจ ฟาร์มปลาสวยงาม แสดงความคิดเห็นผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ‘Nitipat Bhandhumachinda’ เกี่ยวกับการจัดสรรและให้วัคซีนแก่กลุ่มบุคคลที่เร่งด่วน

นายนิธิพัฒน์ พันธุ์ธุมจินดา นักธุรกิจ ฟาร์มปลาสวยงาม โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ‘Nitipat Bhandhumachinda’ เกี่ยวกับการจัดสรรและให้วัคซีนแก่กลุ่มบุคคลที่เร่งด่วนต่อจากนี้ว่า...

เห็นที่อาจารย์คุณหมอนิธิ ท่านเขียนถึงกรณีวัคซีนเข็มที่สาม สำหรับบุคลากรแพทย์และพยาบาล ว่า ในสถานการณ์ที่คนไทยส่วนใหญ่ยังไม่ได้รับวัคซีนเข็มแรกเช่นนี้นั้น

ก็ควรจะใช้วัคซีนในการฉีดเข็มแรกให้กับประชาชนทั่วไปก่อน ด้วยเหตุผลที่ว่า เมื่อลดการป่วยหนักของบุคคลทั่วไปได้ ก็จะลดภาระของแพทย์พยาบาลได้เป็นอย่างมากเช่นกัน

ซึ่งก็เป็นแนวความคิด ที่ทั้งได้รับการชื่นชมและก่นด่า กลายเป็นประเด็นวิวาทะทางสังคมไปอีกหนึ่งประเด็น

สำหรับผมนั้น หลังจากวิเคราะห์ทั้งสองแนวทางแล้วก็เห็นว่า

ควรให้เข็มที่สามแก่ บุคลากรแพทย์และพยาบาล ที่ทำงานด่านหน้า ต้องเฝ้ารักษาและใกล้ชิดกับผู้ป่วยโควิดโดยตรง

เพื่อให้ท่านเหล่านั้น ได้รับภูมิคุ้มกันเพิ่มมากที่สุด ลดโอกาสติดเชื้อให้น้อยที่สุด ช่วยให้ท่านเหล่านั้นได้ทำงานเสียสละได้อย่างเต็มที่เต็มกำลัง และไม่เสียกำลังใจ

แต่ไม่ใช่ว่าจะต้องฉีดวัคซีนเข็มที่สามให้กับแพทย์และพยาบาลทุก ๆ คน

เพราะแพทย์และพยาบาลส่วนมากนั้น ก็ทำงานแผนกอื่น ๆ ที่ไม่ได้เสี่ยงต่อการติดโควิด มากกว่าประชาชนคนทั่วไปในพื้นที่เสี่ยงเลย

ส่วนบุคลากรทางการแพทย์ที่ไม่ได้ทำงานกับผู้ป่วยโควิดโดยตรง แต่มีความเสี่ยงทางอ้อมอื่น ๆ ก็พิจารณาเป็นกรณีแต่ละแผนกไป

แล้ววัคซีนที่เหลืออีกมากมายหลายแสนโดสของไฟเซอร์ และวัคซีนอื่น ๆ อีกหลาย ๆ ล้านโดส จะฉีดเป็นเข็มแรก ให้กับประชาชนทั่วไป เพื่อลดโอกาสป่วยหนักหรือเสียชีวิต ก็ยังเหลือเพียงพอที่จะทำได้ต่อไปเหมือนเดิม

การฉีดเข็มที่สามให้แพทย์และพยาบาลที่เสี่ยงกับหน้างานที่สุดนั้น จริง ๆ ไม่ได้ใช้จำนวนวัคซีนที่มากอย่างที่เข้าใจ และไม่ใช่เรื่อง 'เห็นแก่ตัว' ที่จะฉีดให้พวกท่านทุก ๆ คนที่เสียสละที่สุด เสี่ยงอันตรายที่สุดตรงนั้น

และหากฉีดกันไปเฉย ๆ โดยไม่สร้างประเด็นใด ๆ ทางสังคมแล้ว

ก็เกือบไม่ได้ส่งผลกระทบอะไร กับจำนวนวัคซีนที่ประชาชนทั่วไปจะได้เข็มที่หนึ่งเลยนะครับ

 

 

ที่มา: https://www.facebook.com/100001064693827/posts/4391116104267169/


โปรเด็ด! ถึง 15 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

ชื่อใหม่เชื้อโควิด-19 กลายพันธุ์

องค์การอนามัยโลก (WHO) ประกาศเปลี่ยนการเรียกชื่อไวรัสโควิด-19 กลายพันธุ์ โดยใช้ตัวอักษรกรีกเป็นชื่อเรียกไวรัสแทน

โดยการเรียกชื่อใหม่ครอบคลุมทั้งไวรัสโควิด-19 กลายพันธุ์ สายพันธุ์ที่องค์การอนามัยโลกกังวล (VOCs) จำนวน 4 สายพันธุ์ รวมทั้งสายพันธุ์อื่น ๆ ที่อยู่ในรายชื่อที่องค์การอนามัยโลกกำลังให้ความสนใจ หรือต้องจับตา (VOIs)

การชื่อเรียกใหม่ของไวรัสโควิดกลายพันธุ์ดังกล่าว ไม่ใช่การแทนที่ชื่อทางวิทยาศาสตร์ที่มีอยู่แล้ว แต่เป็นการตั้งชื่อเพื่อการสื่อสารที่ง่ายขึ้น เนื่องจากชื่อวิทยาศาสตร์อาจสื่อสารได้ยากและอาจทำให้การสื่อสารคลาดเคลื่อน อีกทั้งยังเป็นการหลีกเลี่ยงไม่ให้ประเทศที่ตรวจพบ ได้รับผลกระทบจากการถูกตั้งเป็นชื่อของไวรัสนั่นเอง


โปรเด็ด! ถึง 15 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

เดลต้าเอฟเฟค กกร.ผวาหั่นจีดีพีปีนี้เหลือไม่ขยายตัว

นายผยง ศรีวณิช ประธานสมาคมธนาคารไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) เปิดเผยภายหลังการประชุม กกร. เดือนก.ค. 2564 ว่า ที่ประชุม กกร. มีมติให้ปรับลดประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 2564 เหลือขยายตัวได้ในกรอบ 0.0-1.5% จากเดิมที่เดือนมิถุนายน ประมาณการขยายตัวในกรอบ 0.5-2.0 % หลังจากเกิดสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่รุนแรงและยาวนานขึ้นกว่าที่ประเมินไว้ โดยเฉพาะสายพันธุ์เดลต้า ทำให้ต้องใช้มาตรการที่เข้มงวดในการควบคุมการระบาด ส่งผลกระทบโดยตรงต่อการดำเนินธุรกิจ การจ้างงานและรายได้แรงงาน ในพื้นที่ควบคุม 

ขณะเดียวกันยังพบว่ายังได้รับผลกระทบจากมาตรการจำกัดการเดินทางและข้อจำกัดในการกักตัว คาดว่ายังส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวในประเทศตลอดช่วงไตรมาสที่สาม และอาจจะกระทบแผนการเปิดประเทศได้ Ffp ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของโควิด-19 และมาตรการเพิ่มเติมของรัฐ

ส่วนการส่งออก คาดว่าจะขยายตัว 8-10% เพิ่มขึ้นจากประมาณการเดิม 3% เนื่องจากเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัวดีกว่าคาด ภายใต้เงื่อนไขสามารถควบคุมการระบาดในกลุ่มแรงงานภาคอุตสาหกรรมได้ และการฉีดวัคซีนให้แรงงานภายใต้ ม.33 ได้ทั่วถึง ส่วนอัตราเงินเฟ้อทั่วไปจะอยู่ในกรอบ 1-1.2%


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top