Sunday, 6 July 2025
Hard News Team

ศบค. แจงชัด เหตุจำเป็นต้องซื้อซิโนแวก 12 ล้านโดส

ที่ศบค.ทำเนียบรัฐบาล พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.)ตอบข้อซักถามถึงกรณีที่มีการตั้งคำถามมากว่ารัฐบาลจัดซื้อวัคซีนซิโนแวกเพิ่มอีก 12 ล้านโดสทำไม ว่า ทางกระทรวงสาธารณสุขรายงานต่อศบค. ซึ่งเห็นชอบและครม.อนุมัติแล้ว ศบค. ยึดจากความเห็นของผู้เชี่ยวชาญ การศึกษาและวิจัย ทั้งในพื้นที่และในโรงเรียนแพทย์อย่างหลากหลาย โดยเป็นการรายงานการศึกษาการติดเชื้อของบุคลากรทางการแพทย์ที่พบว่ามีบุคลากรที่ฉีดซิโนแวกสองเข็ม แล้วมีการติดเชื้อหลัง 14 วันไปแล้วพบว่าประสิทธิผลของวัคซีนป้องกันการติดเชื้อถึง 72% และป้องกันการตายป้องกันการเจ็บป่วยรุนแรง 98% รวมถึงการศึกษาเทียบกับแอสตร้าเซเนก้า ที่พบบุคลากรติดเชื้อหลังจากได้รับหนึ่งเข็มพบว่ามีประสิทธิผลในการป้องกันการติดเชื้อมากถึง 88% แต่เมื่อดูจากการศึกษาแล้วหากมีการฉีดผสมร่วมกันระหว่างซิโนแวกและแอสตร้าเซเนก้า จะทำให้ประสิทธิผลในการป้องกันการติดเชื้อ ป้องกันการเสียชีวิต ป้องกันการเจ็บป่วยรุนแรง มีความสามารถป้องกันโรคได้สูงมากขึ้น 

ดังนั้นการยืนยันข้อมูลการศึกษา ต่างๆทำให้ศบค. ให้ความเห็นชอบและที่จะดำเนินการให้จัดสรรซิโนแวกเพิ่มเติม และอีกหนึ่งเหตุผลคือเดิมจากที่วางแผนให้มีการระดมฉีดวัคซีนทั่วประเทศไทยได้ 100 ล้านโดส แผนเดิมที่วางไว้ จะมีการเติมวัคซีนเข้ามาจากสองส่วนคือ จอห์นสันแอนด์จอห์นสัน และแอสตร้าเซเนก้า คาดว่าจะให้รวมๆกัน ประมาณ 10 ล้านโดส แต่ทางกระทรวงสาธารณสุขรายงาน ก่อนหน้านี้ว่าจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน ไม่สามารถจัดส่งวัคซีนให้ได้ในไตรมาส 4 ตามที่ตกลงกันไว้ดังนั้นทำให้แผนต้องปรับ และเช่นเดียวกันกับ แอสตร้าเซเนก้า โดยกำลังผลิต การจัดสรร ที่คาดการณ์ว่าจะได้ 10ล้านโดส อาจจะลดลงมาอยู่ที่ 5-6 ล้านโดสต่อเดือน ทำให้มีความสมเหตุสมผลที่จำเป็นต้องจัดหาวัคซีนซิโนแวก เข้ามาเสริมในส่วนที่ขาดหายไป

และจากการศึกษาของโรงเรียนแพทย์ทั้ง จุฬา รามา ศิริราช ที่มีการระดมฉีดไขว้ ซิโนแวก-แอสตร้าเซเนกาห่างกัน 3 สัปดาห์ แทนที่จะรอให้ฉีดแอสตร้าเซเนกา 2 เข็มห่างกัน 12 สัปดาห์ ก็พบว่ามีการช่วยให้ประสิทธิภาพของการป้องกันการติดเชื้อ ลดอัตราป่วยรุนแรง ลดอัตราเสียชีวิต ได้ รวมทั้งการระดมฉีดครอบคลุมประชากรจำนวนมากได้เป็นไปตามแผนของการกระจายวัคซีน

ศบค.มท.แจ้งทุก จว.และ กทม.เสนอ คกก.โรคติดต่อจังหวัด/กทม.ดำเนินการตามข้อสั่งการ ศปก.ศบค. เน้นสร้างการรับรู้ให้ ปชช.

ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กระทรวงมหาดไทย (ศบค.มท.) เปิดเผยว่า ศูนย์ปฏิบัติการ ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศปก.ศบค.) แจ้งผลการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) (ศบค.) ครั้งที่ 12/2564 ซึ่งมีประเด็นข้อเสนอแนะ/ข้อสั่งการที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานของจังหวัดและกรุงเทพฯ เพื่อให้การดำเนินการเป็นไปตามมติที่ประชุมดังกล่าว นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ฐานะหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน ในส่วนที่เกี่ยวกับการสั่งการและประสานกับผู้ว่าฯ และผู้ว่าฯ กทม.ได้แจ้งไปยังผู้ว่าฯ ทุกจังหวัดและปลัดกรุงเทพฯ พิจารณาดำเนินการตามมาตรการป้องกันและควบคุมในพื้นที่เฉพาะ (Bubble & Seal) และการดำเนินการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดในโรงงาน (Factory Sandbox) เพื่อป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดในกลุ่มแรงงานในสถานประกอบกิจการหรือโรงงานรวมถึงไม่ให้มีการแพร่ระบาดไปสู่ชุมชน ป้องกันการเสียชีวิตและลดผลกระทบทางเศรษฐกิจสังคมจากการหยุดดำเนินกิจการ 

ศบค.มท. ระบุอีกว่า และให้ทุกจังหวัดดำเนินการบริหารจัดการขยะติดเชื้อ ตั้งแต่ต้นทาง กลางทาง และปลายทาง เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรค รวมทั้งเน้นย้ำให้ทุกจังหวัดดำเนินการสร้างการรับรู้ และสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องให้กับประชาชน โดยนำรูปแบบการสื่อสารที่มีอยู่มาปรับใช้ในการดำเนินงาน เช่น หอกระจายข่าว หรือช่องทางการสื่อสารอื่นๆ ของจังหวัด นอกจากนี้ ได้แจ้งให้จังหวัดในเขตพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ดำเนินการตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อในการออกคำสั่งหรือประกาศ เพื่อปรับมาตรการควบคุมแบบบูรณาการเร่งด่วนสำหรับสถานที่ กิจการหรือกิจกรรมที่มีความเสี่ยง ให้ธนาคารหรือสถาบันการเงินที่ตั้งอยู่ในห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ หรือสถานประกอบการอื่นที่มีลักษณะคล้ายกันในเขตพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด สามารถเปิดดำเนินการได้จนถึง 20.00 น. โดยให้ดำเนินการภายใต้เงื่อนไขเงื่อนเวลา การจัดระบบ ระเบียบและมาตรการป้องกันโรคที่ทางราชการกำหนด

‘ดร.อนันต์ จงแก้ววัฒนา’ เผยความคืบหน้าวัคซีนโควิดชนิดพ่นจมูกทีมวิจัยไทย เตรียมส่งทดสอบความปลอดภัยในสัตว์ทดลอง ขั้นตอนสำคัญก่อนขึ้นทะเบียนทดสอบในมนุษย์

วันที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2564 ดร.อนันต์ จงแก้ววัฒนา ผู้อำนวยการกลุ่มวิจัยนวัตกรรมสุขภาพสัตว์และการจัดการ ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค) และนักไวรัสวิทยา โพสต์เฟซบุ๊ก Anan Jongkaewwattana ระบุว่า วัคซีน COVID-19 ที่สร้างขึ้นจากอนุภาคไวรัสไข้หวัดใหญ่ ( influenza-based ) Lot แรก ระดับ GMP ถูกผลิตขึ้นโดยทีมวิจัยขององค์การเภสัชกรรมแล้ว วัคซีน Lot นี้จะส่งไปทดสอบความปลอดภัยในสัตว์ทดลองที่ ม.นเรศวร ซึ่งเป็นขั้นตอนสำคัญสำหรับขึ้นทะเบียนวัคซีนเพื่อทำการทดสอบในมนุษย์ครับ 

วัคซีนสูตรนี้เป็นวัคซีนตัวที่สองของทีมสวทช โดยตัวที่จะออกมาทดสอบก่อนจะเป็น Adenovirus-based ซึ่งได้ทำการทดสอบความปลอดภัยในสัตว์ทดลองไปแล้ว…วัคซีนทั้งสองชนิดออกแบบเป็นชนิดพ่นจมูกทั้งคู่…Product of Team Thailand ครับ


ที่มา : https://www.facebook.com/photo/?fbid=4691461214227097&set=a.410485375658057


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!
A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!! 
>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท
>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ
>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต
>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย
***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

ประธานาธิบดีของสหรัฐฯ เผยการตัดสินใจถอนกองกำลังออกจากอัฟกานิสถาน เหตุผู้นำการเมืองและความไม่เต็มใจสู้ของกองทัพอัฟกานิสถานว่าเป็นสาเหตุที่ทำให้กลุ่มตาลิบันยึดอำนาจได้สำเร็จ

วอชิงตัน/คาบูล (เอพี/รอยเตอร์/บีบีซี นิวส์) - ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ ยืนยันอย่างหนักแน่นเรื่องการตัดสินใจถอนกองกำลังทหารสหรัฐออกจากอัฟกานิสถาน พร้อมกับกล่าวโทษผู้นำการเมืองและความไม่เต็มใจสู้ของกองทัพอัฟกานิสถานว่าเป็นสาเหตุที่ทำให้กลุ่มตาลิบันยึดอำนาจได้สำเร็จ ขณะที่มีรายงานว่า ประธานาธิบดีอัชราฟ กานีแห่งอัฟกานิสถาน หนีออกจากประเทศพร้อมรถหรู 4 คัน และเฮลิคอปเตอร์ที่ขนเงินไปด้วยมหาศาล ก่อนที่กลุ่มตาลิบันจะยึดกรุงคาบูล

ประธานาธิบดีไบเดนออกมาแถลงที่ทำเนียบขาวผ่านโทรทัศน์เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่กลุ่มตาลิบันประกาศยึดการปกครองอัฟกานิสถานว่า เขาโทษผู้นำการเมืองที่หลบหนีออกนอกประเทศและความไม่เต็มใจต่อสู้ของกองทัพอัฟกานิสถานที่ได้รับการฝึกโดยสหรัฐฯ ว่าเป็นสาเหตุที่ทำให้กลุ่มตาลิบันยึดอำนาจการปกครองประเทศ และเตือนผู้นำตาลิบันว่า จะต้องเผชิญกับพลังการทำลายล้างรุนแรง หากกลุ่มตาลิบันเข้าไปแทรกแซงการถอนกำลังทหารของสหรัฐฯ

ประธานาธิบดีไบเดนกล่าวเพิ่มเติมว่าเขาสนับสนุนการตัดสินใจถอนกำลังทหารสหรัฐฯ ออกจากอัฟกานิสถานอย่างหนักแน่นหลังจากที่เขาเรียนรู้ว่าไม่เคยมีช่วงเวลาที่เหมาะสมในการถอนกำลังทหารสหรัฐตลอดระยะเวลา 20 ปีที่ผ่านมา ทั้งยังระบุว่า เขาได้เห็นภาพเหตุการณ์โกลาหลบางส่วนในกรุงคาบูลที่น่าสะเทือนใจ แต่ไม่ได้เริ่มสั่งอพยพผู้คนให้เร็วกว่านี้ เพราะประธานาธิบดีอัชราฟ กานีของอัฟกานิสถานไม่ต้องการให้มีการอพยพเป็นจำนวนมาก

ประธานาธิบดีไบเดนยังกล่าวยอมรับว่า กลุ่มตาลิบันได้บุกยึดพื้นที่ของอัฟกานิสถานรวดเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ การรุกคืบอย่างว่องไวของกลุ่มตาลิบันทำให้เจ้าหน้าที่ของสหรัฐฯ ประหลาดใจ เพราะคาดว่ากองทัพของอัฟกานิสถานจะขับไล่กลุ่มตาลิบันหรือยับยั้งพวกเขาไว้ได้เป็นเวลาหลายเดือน พร้อมกล่าวทิ้งท้ายว่า การตัดสินใจถอนกำลังทหารออกจากอัฟกานิสถานเป็นผลมาจากที่เขาได้ให้คำมั่นกับกองทหารสหรัฐฯ ว่า จะไม่ขอให้ทหารสหรัฐเสี่ยงชีวิตต่อไปเพื่อสงครามที่ควรจะจบสิ้นมาตั้งนานแล้ว เขารู้ดีกว่าการตัดสินใจดังกล่าวจะถูกวิพากษ์วิจารณ์ แต่เขาขอน้อมรับทั้งหมดไว้เองดีกว่าที่จะส่งต่อการตัดสินใจนี้ให้ประธานาธิบดีคนต่อไป

ด้าน เน็ด ไพรซ์ โฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ ปฏิเสธที่จะยืนยันว่า สหรัฐฯ ยังยอมรับรัฐบาลของประธานาธิบดีกานีเป็นรัฐบาลของอัฟกานิสถานอยู่หรือไม่ และปฏิเสธที่จะเรียกกานีว่าเป็นประธานาธิบดีอัฟกานิสถาน หลังจากที่กานีหนีออกนอกประเทศไปแล้ว โฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ ยังกางเงื่อนไขที่จะทำให้สหรัฐฯ ยอมรับรองรัฐบาลใหม่ของตาลิบันด้วยว่า รัฐบาลใหม่จะต้องเป็นรัฐบาลที่รวมทุกฝ่าย และต้องเคารพในสิทธิมนุษยชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสิทธิสตรี พร้อมขู่ว่า รัฐบาลใหม่ของอัฟกานิสถาน จะต้องได้รับผลของการกระทำหากละเมิดสิทธิมนุษยชน และพฤติกรรมของตาลิบัน จะเป็นตัวตัดสินว่า สหรัฐฯ จะยอมรับรองรัฐบาลใหม่ของอัฟกานิสถานหรือไม่

ขณะเดียวกัน สำนักข่าว RIA Novosti ของรัสเซียรายงานว่า ก่อนที่กลุ่มตาลิบันจะยึดประเทศได้สำเร็จเมื่อวันอาทิตย์ ประธานาธิบดีกานี ได้หนีออกจากประเทศ พร้อมด้วยรถยนต์ 4 คัน ที่อัดแน่นด้วยเงินสด แล้วยังนำเงินอีกจำนวนหนึ่งไปไว้บนเฮลิคอปเตอร์เพื่อขนหนี แต่รถ 4 คัน และเฮลิคอปเตอร์ 1 ลำ ก็ยังขนเงินและสิ่งของมีค่าไปไม่หมด จนต้องทิ้งเงินบางส่วนไว้ที่ลานจอดเฮลิคอปเตอร์ ก่อนที่กานีจะเดินทางหนีออกนอกประเทศ ซึ่งยังไม่แน่ชัดว่าเป็นที่ทาจิกิสถาน หรืออุซเบกิสถาน ทำให้นักการทูตรัสเซียประจำอัฟกานิสถาน วิจารณ์การหนีออกจากประเทศของกานีว่า “ไร้เกียรติ” และควรถูกนำตัวมาลงโทษตามกฎหมาย


ที่มา : https://www.naewna.com/inter/595642


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!

A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!!

>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท

>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ

>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต

>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย

***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

ศรีสุวรรณ ยื่น ป.ป.ช. สอบ ผู้ว่าการ รฟม. ปม เปิดประมูลรถไฟฟ้า สายสีม่วงใต้-สายสีส้มตต. ส่อขัด พรบ.จัดซื้อจัดจ้าง

ที่สำนักงาน ป.ป.ช. นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ยื่นคำร้องต่อ ป.ป.ช.ขอให้ไต่สวนผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (ผู้ว่าการ รฟม.) และวินิจฉัยกรณีการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) กำลังจัดประมูลก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตกและสายสีม่วงใต้ อันมีเงื่อนไขที่แตกต่างจากสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย ทั้งๆที่ทั้งสองสายนี้มีเส้นทางลอดใต้เกาะรัตนโกสินทร์และใต้แม่น้ำเจ้าพระยาเหมือนกัน ซึ่งอาจเป็นการกำหนดเงื่อนไขและใช้ดุลยพินิจโดยมิชอบ

นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า การเปิดประมูลสายสีส้มและสายสีม่วงใต้มีลักษณะกีดกันผู้ประมูลจากต่างชาติ แม้จะกำหนดว่าเป็นการเปิดประมูลนานาชาติ โดยมีการกำหนดหลักเกณฑ์ว่าผู้เข้าประมูลจะต้องมีผลงานก่อสร้างอุโมงค์หรือรถไฟฟ้าบนดินหรือลอยฟ้ากับ “รัฐบาลไทย” ในช่วง 20 ปีที่ผ่านมามูลค่าไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาทเท่านั้น ผลงานในต่างประเทศห้ามนำมาใช้ ซึ่งเงื่อนไขเยี่ยงนี้ ท้ายที่สุดก็คงเหลือผู้รับเหมาไทยขนาดใหญ่เพียง 4-5 รายเท่านั้นที่สามารถผ่านด่านนี้ไปได้ และคงได้งานครบกันทุกราย เนื่องจาก รฟม.แบ่งงานประมูลงานโยธาออกเป็น 6 สัญญาไว้ให้แล้ว แบบนี้จะเรียกว่าล็อคสเป็กหรือไม่

นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า ที่สำคัญเงื่อนไขในทีโออาร์ที่ผ่านมาในโครงการของรัฐขนาดใหญ่และมีมูลค่าสูง จะมีการกำหนดการพิจารณาคัดเลือกโดยการเปิดซองด้านเทคนิคก่อน แล้วจึงมาเปิดซองด้านราคา ดังกรณีตัวอย่างโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย แต่โครงการนี้กลับใช้วิธีการเปิดซองเทคนิคและซองราคาไปพร้อมๆ กัน ทำให้สามารถใช้ดุลยพินิจลำเอียงให้ผู้ประมูลรายหนึ่งรายใดเป็นการเฉพาะได้ จึงอาจมีลักษณะอย่างไม่เป็นธรรม

นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า การดำเนินการดังกล่าวของ รฟม. อาจขัดต่อ พรบ.การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ 2560 ม.8(2) ที่บัญญัติไว้ว่า “ต้องเปิดโอกาสให้มีการแข่งขันอย่างเป็นธรรม มีการปฏิบัติต่อผู้ประกอบการทุกรายโดยเท่าเทียมกัน” และระเบียบกระทรวงการคลัง ว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ 2560 ข้อ 45 ที่ระบุไว้ชัดเจนว่า “ต้องไม่มีการกำหนดเงื่อนไขที่เป็นการขัดขวางการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม” 

นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า การกำหนดทีโออาร์ที่อาจมีลักษณะย้อนแย้งตามความพิใจของผู้มีอำนาจแต่ละยุค แต่ละสมัยเยี่ยงนี้ อาจกลายเป็นปัญหาและนำไปสู่การร้องเรียนและฟ้องร้องเป็นคดีความกันมากมายไม่จบสิ้น ดังกรณีรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตก ที่มีการฟ้องร้องกันในศาลปกครองและศาลทุจริตฯในขณะนี้ กรณีดังกล่าว จึงเป็นข้อพิรุธที่ส่อไปในทางมิชอบ หรืออาจทุจริตต่อหน้าที่ได้ ที่ก่อสร้างไปด้วยดีและได้เปิดใช้งานแล้ว แต่เมื่อ รฟม.มาเปิดประมูลสายสีส้มและสายสีม่วงใต้ กลับเปลี่ยนการใช้เกณฑ์ประมูลที่แตกต่างจากเดิม จนนำไปสู่การร้องเรียนและฟ้องร้องเป็นคดีความกันอยู่ในขณะนี้

นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า ขณะนี้ รฟม.ได้เปิดการประมูลก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ (ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ) ซึ่งต้องก่อสร้างอุโมงค์ใต้พื้นที่เกาะรัตนโกสินทร์ และอุโมงค์ลอดใต้แม่น้ำเจ้าพระยาเช่นเดียวกับการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย แต่ทว่า รฟม.ยังคงมีการกำหนดเงื่อนไขหรือเกณฑ์ของการประมูลใหม่ที่แตกต่างจากการประมูลรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย ที่เคยประสบผลสำเร็จในการก่อสร้างไปด้วยดีและเปิดใช้งาน จึงไม่น่าจะมีเหตุผลหรือข้ออ้างอื่นใดมาเปลี่ยนแปลงรูปแบบการประมูลที่เคยสำเร็จมาแล้ว

นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า กรณีดังกล่าวมีการจับเป็นข้อพิรุธได้หลายประการ ที่ส่อไปในทางมิชอบ หรืออาจทุจริตต่อหน้าที่ได้ สมาคมฯ จึงนำความ พร้อมพยานหลักฐานมาร้องเรียนต่อ ป.ป.ช. เพื่อให้ไต่สวนและวินิจฉัยการกำหนดเงื่อนไขทีโออาร์ของการประมูลรถไฟฟ้าดังกล่าวว่า เป็นไปโดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่อย่างไร หากพบว่าเป็นการใช้อำนาจเอื้อประโยชน์หรือล็อคสเป็กให้เอกชนรายใดๆ เป็นการเฉพาะ และไม่ชอบด้วยกฎหมาย ให้เอาโทษขั้นสูงสุด

"ประวิตร" ลั่น ไม่ทอดทิ้งแรงงานได้รับผลกระทบโควิด กำชับ ก.แรงงาน เร่งเยียวยาผู้ประกันตนทุกกลุ่ม-จัดระเบียบแรงงานต่างด้าว-ป้องกันค้ามนุษย์

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมติดตามผลการดำเนินงานในรอบ 1 ปี ของกระทรวงแรงงาน ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ ร่วมกับแรงงาน 76จังหวัด สำนักงานแรงงานใน ต่างประเทศ โดยก่อนประชุม นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน นำ นายวิฑูรย์ แนวพานิช นายกสมาคมการค้าแท็กซี่ไทย นางฐนิวรรณ กุลมงคล นายกสมาคมภัตตาคารไทย และนางญาดา พรเพชรรัมภา นายกชมรมหาบเร่แผงลอย กทม. เข้าพบเพื่อขอบคุณและมอบของที่ระลึกแก่พล.อ.ประวิตร ที่ช่วยเหลือ เยียวยาแรงงานทั้ง 3 กลุ่ม ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 

จากนั้นพล.อ.ประวิตร รับฟังรับฟังการรายงานผลงานของ ก.แรงงานในรอบ 1 ปี มีผลงานสำคัญ อาทิ ยกระดับทักษะฝีมือแรงงานให้เป็นแรงงานคุณภาพ ผ่านการอบรมแล้ว 110,110 คน มีงานทำแล้วคิดเป็น ร้อยละ 69.79 มีรายได้เฉลี่ย 14,152 บาทต่อเดือน การส่งเสริมการมีงานทำสามารถบรรจุงานได้ 1,313,591 คน ก่อให้เกิดรายได้ 75,728 ล้านบาทเศษ การคุ้มครองและแก้ไขปัญหาแรงงานถูกเลิกจ้างไม่เป็นธรรม ให้ลูกจ้าง 16,000 คน วงเงิน 850 ล้านบาท การเพิ่มประสิทธิภาพ การบังคับใช้กม.โดยมีการตรวจสถานประกอบกิจการ เพื่อป้องกันการค้ามนุษย์ 1,211 แห่ง  และเยียวยาแรงงาน ผู้ประกันตน ลดเงินสมทบกว่า 12 ล้านคน นายจ้างกว่า 480,000คน เยียวยาเหตุสุดวิสัย 50% ให้ผู้ประกันตน 198,432 คน โครงการ ม.33 เรารักกัน 8,140,000 คน รวมทั้งการเยียวยาในพื้นที่สีแดงเข้ม 29 จังหวัด ในการตรวจเชิงรุก และการรักษาโควิด-19 อย่างทั่วถึง เป็นต้น

พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ขอชื่ชมการทำการของรัฐมนตรี ผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่ของ ก.แรงงานทุกคน ที่ขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาล ในการช่วยเหลือผู้ใช้แรงงานอย่างรวดเร็ว ทั่วถึงและเป็นธรรม มีผลงานเชิงประจักษ์ และขอให้กระทรวงแรงงาน เร่งช่วยเหลือทั้งนายจ้าง และผู้ประกันตน ม.33 ,39 และ 40 ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ที่รอการช่วยเหลือให้ครบถ้วนและทั่วถึง รวมทั้งจัดระเบียบแรงงานต่างด้าว และเน้นย้ำป้องกันการค้ามนุษย์โดยมีการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง ไม่ให้เจ้าหน้าที่ของรัฐ เข้าไปยุ่งเกี่ยวโดยเด็ดขาด

รมว.เกษตรฯ สั่งตรวจสอบส่งออกผลไม้กันปนเปื้อนโควิด

นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ ประธานคณะกรรมการพัฒนาและบริหารจัดการผลไม้ (ฟรุ้ทบอร์ด) เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้สั่งการไปยังกรมส่งเสริมการเกษตร กรมส่งเสริมสหกรณ์ กรมวิชาการเกษตร และสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.) เร่งพัฒนาคุณภาพมาตรฐานผลไม้และระบบตรวจสอบย้อนกลับ รวมทั้งมาตรการป้องกันการปนเปื้อนของเชื้อโควิด-19 กับสินค้าเกษตรที่ส่งออกทุกชนิด โดยเฉพาะผลไม้ที่ส่งออกไปยังจีนด้วย ซึ่งคุมเข้มตั้งแต่สวน โรงคัดบรรจุ และการขนส่ง

ทั้งนี้ยังได้มอบหมายนายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีเกษตรฯ เป็นประธานในการจัดทำแผนปฏิรูปการบริหารจัดการผลไม้เชิงโครงสร้างทั้งระบบภายใน 90 วัน เพื่อสร้างกลไกที่พร้อมปฏิบัติการฉุกเฉินได้ทันทีที่เกิดปัญหาเฉพาะหน้า เพื่อป้องกันปัญหาการแพร่ระบาดระลอกใหม่ในปีนี้ ซึ่งประเทศจีนซึ่งเป็นตลาดใหญ่สุดของผลไม้ไทย รวมทั้งเวียดนามและลาวที่เป็นเส้นทางการขนส่งได้ยกระดับมาตรการป้องกันโควิด-19 เข้มข้นมากขึ้น 

“ศักดิ์สยาม” มั่นใจไม่มีพฤติกรรมมั่วสุม ชี้ อย่าเอาเป็นประเด็นการเมือง ยัน พร้อมชี้แจงศึกซักฟอก ไล่ไปดูพจนานุกรมเสเพลแรงหรือไม่

ที่รัฐสภา นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ถูกฝ่ายค้านตั้งญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจโดยใช้ข้อกล่าวหาว่าเป็นรัฐมนตรีเสเพล ว่า เป็นการใช้คำที่รุนแรง จริงๆ ตนได้ชี้แจงผ่านสื่อมวลชนหลายครั้งแล้ว คิดว่าเป็นเรื่องที่สามารถชี้แจงได้ ส่วนเรื่องซูเปอร์สเปรดเดอร์ กระทรวงสาธารณสุขทราบดี เพราะอยู่ในกระบวนการตามขั้นตอนของกระทรวงสาธารณสุข ยืนยันว่าชี้แจงได้ แต่ขอให้อภิปรายอยู่ในประเด็น อย่าใช้เรื่องนี้เป็นประเด็นทางการเมือง เพราะขณะนี้ประเทศเราอยู่ในช่วงต่อสู้กับการแพร่ระบาดโควิด-19 ซึ่งนายกรัฐมนตรีเหนื่อยกับเรื่องนี้มากและทุกคนก็กำลังช่วยกันแก้ไขปัญหาเรื่องนี้ ถ้ามีอะไรที่เป็นเรื่องเกี่ยวกับกฎหมายประพฤติมิชอบและเกิดความเสียหายต่อราชการ หรือมีการทุจริตก็ว่ามาได้เลย 

เมื่อถามว่าการใช้คำว่ารัฐมนตรีเสเพลเป็นการใช้อารมณ์ทางการเมืองหรือไม่ นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า ต้องไปถามคนตั้ง ส่วนตัวพร้อมชี้แจง 

เมื่อถามต่อว่าดูเหมือนเป็นการเอาเรื่องส่วนตัวมาเป็นประเด็นอภิปรายมากกว่าผลงานการทำงาน นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า ต้องถามผู้ตั้ง เป็นสิทธิของผู้อภิปราย ตนมีหน้าที่ชี้แจง

เมื่อถามว่าแล้วคำว่าเสเพลจะชี้แจงอย่างไร นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า ให้ไปดูพจนานุกรมและขอให้สื่อตัดสินว่าเป็นคำที่แรงหรือไม่ 

เมื่อถามว่ามีความกังวลในพรรคร่วมรัฐบาลที่จะลงมติในทิศทางที่ต่างกันหรือไม่ นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า อย่าเพิ่งไปคาดการณ์ล่วงหน้า รอดูการอภิปรายก่อนและคำชี้แจงที่ตนจะตอบ ซึ่งเรื่องนี้เป็นเอกสิทธิ์ของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่จะพิจารณาและไม่รู้สึกกดดันเพราะมองว่าเป็นนัยยะทางการเมือง และเป็นเรื่องของแต่ละพรรค จะนำไปประชุมหารือและมีการลงมติกัน 

เมื่อถามว่ามีการกล่าวหาว่าเข้าไปมั่วสุมในแหล่งอบายมุข จะชี้แจงอย่างไร นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า ขอให้รอดูผู้อภิปรายจะมีหลักฐานอะไรมาแสดง ถามต่อว่ามั่นใจใช่หรือไม่ ว่าไม่มีพฤติกรรมตามข้อกล่าวหา นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า “ไม่มีครับ”

"จุรินทร์"  มั่นใจ "เฉลิมชัย" ตอบปมซักฟอกได้ได้ทุกคำถามลั่น  โว ก.เกษตรฯ ผลงานติดท็อป ปชช.พอใจ ไร้ทุจริต

ที่รัฐสภา นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรคถูกฝ่ายค้านอภิปรายไม่ไว้วางใจในประเด็นบริหารงานล้มเหลวเรื่องราคาพืชผลการเกษตร ว่า เราไม่ได้ตั้งวอร์รูมอะไร เพราะเชื่อว่า นายเฉลิมชัย สามารถชี้แจงและสามารถตอบได้ทุกคำถาม ไม่ได้มีปัญหาอะไร ส่วนเรื่องโหวตก็ไม่มีปัญหาอะไร พูดคุยกับสมาชิกแล้ว

เมื่อถามว่ากรณีที่นายเฉลิมชัย ถูกตั้งคำถามว่าไม่ปกป้องทรัพย์สินทางราชการ นายจุรินทร์ กล่าวว่า ตนไม่สามารถตอบได้ ต้องถามฝ่ายค้าน เพราะบางครั้งเมื่อติดตามญัตติกับคำอภิปรายอาจจะไม่ตรงกัน ดังนั้นจึงไม่รู้ว่าเนื้อหาสาระเป็นอย่างไร แต่ถ้าตั้งข้อหาว่าบริหารทางการเกษตรล้มเหลว ตนคิดว่าไม่น่าใช่ เพราะว่ากระทรวงเกษตรฯ เป็นกระทรวงหนึ่งที่สามารถบริหารงานจนที่พอใจของประชาชนและเกษตรกรทั่วทั้งประเทศได้ดีที่สุดกระทรวงหนึ่ง และตนมั่นใจว่านายเฉลิมชัย สามารถตอบได้ทุกคำถาม ส่วนราคาพืชผลการเกษตรที่ผ่านมาก็แก้ไขปัญหาทางการเกษตรในเรื่องตลาดในประเทศและการส่งออก สามารถคลี่คลายได้ แม้ว่าจะต้องมาเผชิญวิกฤตปัญหาสถานการณ์ โควิด-19 ในบางช่วงเวลาก็ตาม 

เมื่อถามถึงกรณีการเรียกรับผลประโยชน์ ซึ่งที่ผ่านมาพรรคปฏิเสธเรื่องข้อหาการทุจริตมา นายจุรินทร์ กล่าวว่า ตนไม่สามารถตอบได้ ต้องไปถามฝ่ายค้าน ตั้งแต่เริ่มทำงานด้วยกันมา ทำให้เชื่อมั่นว่านายเฉลิมชัยสามารถชี้แจงได้ และไม่มีข้อสงสัยในส่วนของพรรคเรา 

“สุทิน” เชื่อ ทุกศึกซักฟอกได้ผล ไม่ใช่จำนวนมือยกโหวต แต่ได้ตีแผ่ความจริง ชี้ หากจบอภิปรายฯ ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น ความบกพร่องอยู่ที่รัฐบาล ไม่ใช่ฝ่ายค้าน-ปชช.

ที่รัฐสภา นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย และประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวถึงการประชุมพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายงบประมาณประจำปี 2565 ว่า วันนี้จะเริ่มประชุมเวลา 9.30 น. โดยการประชุมมีข้อเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย จากเดิมที่เคยตกลงไว้ว่า ส.ส. จะต้องประชุมให้จบภายใน 3 วันและแบ่งเวลาอภิปรายกัน ซึ่งที่ประชุมพรรคเพื่อไทย ส.ส. มีมติว่าในการประชุมงบประมาณฯ ขอใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ คือ เมื่อส.ส.ได้แปรญัตติและแสดงความจำนงที่จะอภิปรายก็ต้องได้อภิปราย ซึ่งคงไม่มีข้อจำกัดใดที่จะมาห้าม ส.ส. ไม่ให้อภิปราย ทั้งนี้ต้องอยู่ภายใต้ข้อบังคับการประชุมสภาที่ประธานจะเป็นคนวินิจฉัยว่าอภิปรายออกนอกเกณฑ์หรือไม่ หมายความว่าการประชุมงบประมาณอาจจะจบภายใน 2-4 วันก็ได้ ซึ่งสมาชิกที่สงวนคำแปรญัตติไว้นั้นมีจำนวนมาก เฉพาะพรรคเพื่อไทยก็ประมาณ 70 คน ประธานต้องบริหารการประชุมให้ได้ แต่จะไปตัดสิทธิผู้อภิปรายไม่ได้ โดยการประชุมในวันนี้จะจบที่เวลา 19.30 น.

นอกจากนี้ นายสุทิน ยังได้กล่าวถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ซึ่งที่ผ่านมามีความเห็นว่าไม่ค่อยได้ผล ว่า ตนคิดว่าได้ผล คำว่าได้ผลนั้น หากประเมินจำนวนมือที่ยกโหวตนั้น แน่นอนว่าแพ้ แต่คำว่าได้ผลของเราคือเราสามารถตีแพร่ความจริงอันเป็นความไม่ชอบมาพากล อันเป็นความบกพร่องไม่สุจริต เป็นความเสียหายของประเทศและประชาชน เราคิดว่าเราได้นำเสนอและตีแผ่ให้สังคมได้เห็นได้พบสิ่งใหม่ๆ เพียงแต่ว่าระดับความลึกความรับผิดชอบของรัฐบาลเท่านั้นที่เป็นปัญหา ซึ่งหากถามว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจจะสำเร็จหรือไม่ แม้แต่เรายังไม่ได้อภิปราย วันนี้รัฐบาลก็ควรที่จะอยู่ไม่ได้แล้ว ควรจะแสดงความรับผิดชอบแล้ว ฉะนั้นไม่จำเป็นต้องให้เราอภิปรายซำ้ คนอภิปรายมากพอที่รัฐบาลจะต้องพิจารณาตัวเอง ตนเชื่อว่าการอภิปรายครั้งนี้รัฐบาลจะต้องตระหนักให้มาก หากเราอภิปรายจบแล้วยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น ตนคิดว่าความบกพร่องไม่ได้อยู่ที่ฝ่ายค้านหรือประชาชนแล้ว แต่อยู่ที่รัฐบาลเต็มๆ 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top