Friday, 4 July 2025
Hard News Team

Make it Better !! ‘นิวสเปคทีฟ กรุ๊ป’ ปรับยุทธศาสตร์ บุกธุรกิจใหม่ ยึดธงชัด!! “คิดจะทำ ต้องทำให้ดีสุดๆ”

‘นิวสเปคทีฟ กรุ๊ป’ เปลี่ยนโลโก้ พร้อมปรับโฉมธุรกิจ ใหม่หมดจด ภายใต้ยุทธศาสตร์ Digital Content Commerce จัดทัพใหม่ 3 สายงานธุรกิจ ปั้น Digital Content ของตัวเอง นำโดย สำนักข่าวออนไลน์สำหรับคนรุ่นใหม่ THE STATES TIMES และอีกหลากหลาย นำไปหารายได้เจาะงบโฆษณาจากสินค้าต่าง ๆ และเป็นฐานสร้าง THE SHOPS TIMES ธุรกิจช้อปปิ้งออนไลน์ ประกาศมุ่งไปข้างหน้า เปลี่ยนแปลง ‘นิวสเปคทีฟ กรุ๊ป’ แบบ 360 องศา พร้อมหาโอกาส รุกธุรกิจใหม่ที่หลากหลาย กระตุ้นรายได้ ฝ่ากระแสวิกฤตโควิด

นายณัฐภูมิ รัฐชยากร กรรมการผู้จัดการ ‘นิวสเปคทีฟ กรุ๊ป’ เปิดเผยถึง ภาพรวมธุรกิจของกลุ่มบริษัทฯ ที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวเนื่องกับ อีเวนต์ สื่อโฆษณา และ ตัวแทนอสังหาริมทรัพย์ มากว่า 16 ปี โดยตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา ทางบริษัทสามารถนำพาธุรกิจให้เติบโตมาได้อย่างต่อเนื่อง ภายใต้แนวคิด ‘Make it Better คิดจะทำ ต้องทำให้ดีสุดๆ’ อย่างไรก็ตามในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา จากสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่า 2019 หรือ COVID-19 ได้ส่งผลกระทบต่อภาพรวมของเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งกระทบเป็นวงกว้างไปสู่แทบทุกธุรกิจในเมืองไทย รวมถึง ‘นิวสเปคทีฟ กรุ๊ป’ ด้วยเช่นกัน ‘นิวสเปคทีฟ กรุ๊ป’ จึงพยายามปรับนำเอาจุดแข็งทางธุรกิจในเครือที่มี และคิดว่าจะไปต่อได้ในโลกยุค New Normal เพื่อเดินหน้าสู่ Next Normal

“ดังนั้นเราจึงได้ลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงตัวเอง โดยการจัดทัพใหม่เป็น 3 สายงานธุรกิจ ได้แก่ 
1.) สายงานธุรกิจ Newspective นำโดย คุณมนัญญา เตยะราชกุล ผู้จัดการทั่วไป Newspective ซึ่งทำงานกับเรามากว่า 14 ปี มีประสบการณ์อีเว้นท์ การทำ Branding งาน Production ทางโฆษณาต่าง ๆ มากมาย จะรับบทบาทในการพัฒนา THE SHOPS TIMES ธุรกิจช้อปปิ้งออนไลน์ ให้ประสบความสำเร็จ 

2.) สายงาน Blue Network นำโดย คุณหนึ่งฤทัย บางนาชาด ผู้จัดการทั่วไป Blue Network ซึ่งทำงานกับเรามากว่า 12 ปี มีความเชี่ยวชาญและชำนาญในด้านการเป็นที่ปรึกษาการสื่อสารทางการตลาดให้กับสินค้าที่จะริเริ่มและสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ จะรับบทบาทในการพัฒนาการขายสื่อ Digital Content ให้กับ ‘นิวสเปคทีฟ กรุ๊ป’ 

และ 3.) สายงานธุรกิจ Make it Better ปั้นสื่อ Digital Content นำโดย สำนักข่าวออนไลน์สำหรับคนรุ่นใหม่ THE STATES TIMES ที่เติบโตสูงในช่วงที่ผ่านมา, THE STUDY TIMES สำนักข่าววัยเรียน, KIT MUSIC, THE BOSS TIMES เรื่องนี้ต้องถึงบอส, FengshuiBizDesigner และอื่นๆ โดยผมจะเป็นผู้รับบทบาทในการพัฒนา Digital Content ทั้งหมดนี้ ด้วยตัวเอง มั่นใจว่าภายใต้ยุทธศาสตร์ Digital Content Commerce นี้จะทำให้ ‘นิวสเปคทีฟ กรุ๊ป’ เติบโตและ ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป”

'แอสเซนด์ มันนี่' มูลค่าบริษัทเพิ่มเป็น 1,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายหลังระดมทุนรอบล่าสุดจำนวน 150 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และก้าวสู่การเป็นบริษัทฟินเทคยูนิคอร์นรายแรกของประเทศไทย เผยปี 2563 มียอดทำธุรกรรม สูงถึง 14,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ  

โดยในการระดมทุนครั้งล่าสุดนี้ ยังได้บริษัท โบว์ เวฟ แคปปิตอล แมเนจเมนท์ (Bow Wave Capital Management) จากสหรัฐอเมริกา มาลงทุนร่วมกับเครือเจริญโภคภัณฑ์ และ แอนท์ กรุ๊ปอีกด้วย

การระดมทุนรอบนี้ ส่งผลทำให้ แอสเซนด์ มันนี่ มีมูลค่าบริษัทเป็น 1,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 50,400 ล้านบาท) และขึ้นเป็นยูนิคอร์นตัวที่ 2 ของประเทศไทย ต่อจาก Flash Express และเป็นรายแรกในกลุ่มฟินเทค

ทั้งนี้ ยูนิคอร์น หมายถึงสตาร์ตอัปที่มีมูลค่าบริษัทเกินกว่า 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

นายศุภชัย เจียรวนนท์ ผู้ก่อตั้ง และ ประธานคณะกรรมการบริษัท แอสเซนด์ มันนี่ จำกัด กล่าวว่า ความสำเร็จในการระดมทุนของ แอสเซนด์ มันนี่ นับเป็นความภาคภูมิใจในระดับชาติ เพราะสะท้อนศักยภาพของไทย ในการสนับสนุนบริษัทฟินเทคและผู้ประกอบการสตาร์ทอัพในประเทศให้สามารถประสบความสำเร็จในการขยายธุรกิจไประดับนานาชาติได้

ก่อนหน้านี้ เครือเจริญโภคภัณฑ์ได้รับการจัดอันดับให้เป็นองค์กรชั้นนำด้านความยั่งยืนของโลก UN Global Compact ระดับ LEAD การขับเคลื่อนด้านการระดมทุนครั้งนี้ถือเป็นการขยายแพลตฟอร์มแห่งโอกาส ตอบโจทย์ยุทธศาสตร์ธุรกิจ 4.0 ของเครือฯ ส่งเสริมการเข้าถึงบริการทางการเงินแก่คนทุกภาคส่วน และตอบโจทย์เป้าหมายด้านความยั่งยืนระดับภูมิภาค

‘ผศ.ดร.สิตางค์’ เชื่อ น้ำท่วมปีนี้ ไม่ซ้ำรอย 54 แนะนายกฯ อยู่บัญชาการน้ำท่วมดีกว่า

ผศ.ดร.สิตางศุ์ พิลัยหล้า อาจารย์ประจำภาควิชาวิศวกรรมทรัพยากรน้ำ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ‘Sitang Pilailar’ ว่า... 

ประเด็น ‘น้ำปีนี้จะซ้ำรอย 54 หรือไม่’?

สรุปๆ นะคะ

1.) สถานการณ์น้ำปีนี้ เทียบเท่ากับน้ำปี 51 ซึ่งเกาะอยู่ที่ค่าเฉลี่ย...ไม่ต้องตกใจนำไปมาก

2.) ฝนสะสมในหน้าฝนปีนี้ ภาคเหนือยังต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 1% ภาคกลางสูงกว่าค่าเฉลี่ย 4%...รวมๆ คือ ไม่หนีค่าเฉลี่ย (ปี 54 ฝนของแถวนี้เกินค่าเฉลี่ยไปราว 40%)...แต่ห่วงแล้งหน้าเถอะ!! เกรงว่าหมดฝนปุ๊บต้องประกาศภัยแล้งทันที!! 

3.) ระดับน้ำที่สถานีนครสวรรค์ยังต่ำกว่าตลิ่งอีก 2-3 เมตร ยังมีช่องว่างรับน้ำได้อีก แต่เส้นของปีนี้ เห็นว่าเส้นฝนมันชันขึ้นเร็ว คือ ฝนตกหนักในเวลาสั้น อย่างช่วงศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ที่ผ่านมา ตกหนัก น้ำจึงมาเร็วมาแรงให้ตกใจ

สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ประกาศแต่งตั้ง 'มาโน โพลกิ้ง' นั่งแท่นหัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทยชุดใหญ่ อย่างเป็นทางการ เพื่อสู้ศึกเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2020 ด้าน “มาดามแป้ง” ผู้จัดการทีมทัพช้างศึกเผยเหตุผลการคัดเลือก

'มาดามแป้ง' นวลพรรณ ล่ำซำ ผู้จัดการทีมชาติไทยชุดใหญ่ และรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี เผยว่า “การแข่งขันเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2020 เป็นรายการสำคัญที่กำลังใกล้เข้ามา ซึ่งเหลือเวลาการทำงานอีกเพียง 2 เดือน ไม่ใช่เพียงไทยที่อยากเป็นเจ้าอาเซียน แต่ทุกทีมก็มุ่งหวังเช่นกัน ในสถานการณ์รุมเร้ามากมาย ทั้งอันดับโลกที่ตกลง และสถานการณ์โควิด-19 ภายในประเทศที่ทำให้การแข่งขันไทยลีกต้องเดินตามโปรแกรม การเตรียมทีมของทีมชาติไทยมีน้อยมาก เราจึงมีความจำเป็นต้องเลือกโค้ชที่มีความเข้าใจและรู้จักทรัพยากรนักฟุตบอลไทยดีที่สุด ซึ่งก็มีความมั่นใจในศักยภาพของมาโน ว่าจะนำประสบการณ์ทั้งหมดมาช่วยทำให้เป้าหมายของทีมชาติไทยสำเร็จ”

"ทราบถึงความคิดเห็นของแฟนบอลว่าต้องการโค้ชหลายๆ คน แต่ในความจริงแล้วทุกอย่างมีความยาก เพราะต้องดูในรายละเอียดต่างๆ ประกอบด้วย เราพยายามอย่างเต็มที่แล้วบนพื้นฐานที่สามารถทำได้ ซึ่ง มาโน โพลกิ้ง ตอบโจทย์ทีมชาติไทยทุกข้อในเวลานี้ ที่สำคัญ นี่ยังไม่ใช่มาสเตอร์แพลน และผลการแข่งขันรายการนี้จะเป็นบทพิสูจน์ความสามารถ กับอนาคตในทีมชาติไทยของเขาต่อไป” มาดามแป้ง 

ครม.ถกภาษีบุหรี่​ "ชัยวุฒิ" ชงไอเดีย ดัน "บุหรี่ไอคอส" ถูกกม. หลังพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยน หันหลังให้ "บุหรี่มวน" จนเก็บภาษีต่ำเป้า ยกตัวอย่างยุโรป-ญี่ปุ่น เดินหน้าปรับตัว ไม่ฝืนธรรมชาติ​ ด้าน นายกฯเบรก อ้าง "หมอ" บอก ยังอันตราย 

รายงานข่าวจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) แจ้งว่า ระหว่างการพิจารณาโครงสร้างภาษีบุหรี่​ ช่วงหนึ่งนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิดัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ได้แสดงความเห็นต่อที่ประชุมว่า​ ควรพิจารณาให้บุหรี่ไฟฟ้า หรือบุหรี่ไอคอส ถูกกฎหมาย เนื่องจากปัจจุบันพฤติกรรมผู้บริโภคบุหรี่มวนลดลง หันไปบริโภคบุหรี่รูปแบบใหม่ๆ ส่งผลให้จัดเก็บภาษีของรัฐน้อยลงตามไปด้วย และเกษตรกรผู้ปลูกยาสูบในประเทศ ก็ได้รับผลกระทบจากราคาใบยาสูบตกต่ำ ส่งผลให้รัฐต้องจ่ายชดเชยช่วยเหลือ อีกทั้ง โครงสร้างภาษีของไทย ทำให้บุหรี่ไทยหลายยี่ห้อที่โรงงานยาสูบผลิตและจำหน่ายในประเทศ ราคาสูงกว่ายี่ห้อต่างประเทศที่นำเข้ามาค่อนข้างมาก ผู้บริโภคส่วนหนึ่งจึงหันไปสูบบุหรี่ต่างประเทศ ตรงนี้ทำให้โรงงานยาสูบขาดทุน และบุหรี่ไทยจะตาย 

รายงานข่าวแจ้งอีกว่า นายชัยวุฒิ ได้นำเสนอที่ประชุมด้วยว่า หากทำให้บุหรี่ไอคอสถูกกฎหมาย จะช่วยลดการขาดทุนของโรงงานยาสูบ เป็นการช่วยเกษตรผู้ปลูกใบยาสูบ​ รัฐไม่ต้องจ่ายชดเชยอีกต่อไป และจะทำให้รัฐจัดเก็บรายได้จากภาษีเพิ่มขึ้น เนื่องจากปัจจุบันคนไทยนิยมบริโภคบุหรี่ประเภทนี้เป็นจำนวนมาก และในอนาคตอาจมีการตั้งโรงงาน​ เพื่อส่งออก​ เป็นการเพิ่มรายได้ให้เกษตรกรใบยาสูบด้วย

ครม.เห็นชอบ บริหารแรงงานต่างด้าว 3 สัญชาติ ขยายเวลาขึ้นทะเบียน อยู่ไทยได้ถึง ก.พ. 66 พร้อมเคาะร่างพ.ร.ฎ.เวนคืนที่ดินในกทม.เดินหน้าสร้างสะพานเกียกกายลดปัญหาจราจร ไฟเขียว แผนก่อหนี้ใหม่ปีหน้า อีก 1.34 ล้านล.

น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)ว่า ครม.เห็นชอบ การบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว 3 สัญชาติ (กัมพูชา ลาว และเมียนมา) เพื่อสนับสนุนการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ประกอบด้วย 2 กลุ่ม คือ 1.แรงงานต่างด้าว 3 สัญชาติผิดกฎหมาย ไม่ได้ขออนุญาตทำงานให้ถูกต้องตามกฎหมาย และ 2.แรงงานต่างด้าว 3 สัญชาติที่ดำเนินการขออนุญาตทำงานตามมติครมเมื่อวันที่ 29 ธ.ค 63 แต่กระบวนการยังไม่แล้วเสร็จ ให้ดำเนินการตามแนวทาง ดังนี้ 1.กลุ่มแรงงานผิดกฎหมาย ที่ทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต สามารถอยู่ในราชอาณาจักรและให้ทำงานได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย โดยนายจ้างต้องยื่นคำขออนุญาตทำงานแทนคนต่างด้าวภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ประกาศมีผลใช้บังคับ ซึ่งจะสามารถทำงานและอยู่ในราชอาณาจักรได้ถึงวันที่ 28 ก.พ.2566 ให้คนต่างด้าวที่ได้รับอนุญาตทำงานแล้ว ต้องดำเนินการขึ้นทะเบียนเป็นผู้ประกันตนหรือประกันสุขภาพ ตรวจโรคต้องห้าม และจัดเก็บอัตลักษณ์บุคคล ภายในวันที่ 31 มี.ค. 2565 หากไม่ดำเนินการดังกล่าว การอนุญาตทำงานและอยู่ในราชอาณาจักรจะสิ้นสุดลง 
เมื่อแรงงานต่างด้าวขึ้นทะเบียนเป็นผู้ประกันตนหรือประกันสุขภาพ ตรวจโรคต้องห้าม และจัดเก็บอัตลักษณ์บุคคลแล้ว ให้ดำเนินการตรวจอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราว ภายในวันที่ 1 ส.ค.2565 ซึ่งจะอยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราว ได้ถึง 13 ก.พ. 2566 หากไม่ดำเนินการจะอยู่ในราชอาณาจักรได้ถึง 1 ส.ค. 2565

น.ส.รัชดา กล่าวว่า 2.กลุ่มแรงงานต่างด้าวที่ได้ดำเนินการตามมติ ครม. เมื่อวันที่ 29 ธ.ค. 63 แล้ว แต่ยังไม่แล้วเสร็จ รัฐขยายระยะเวลาการยื่นคำขออนุญาตทำงาน จากภายในวันที่ 16 มิ.ย. 2564 เป็นภายในวันที่ 13 ก.ย. 2564 ให้สามารถอยู่ในราชอาณาจักรและทำงานได้ถึงวันที่ 31 มี.ค. 2565 หากแรงงานต่างด้าวกลุ่มดังกล่าวต้องการจะทำงานในราชอาณาจักรได้ถึงวันที่ 28 ก.พ. 2566 ต้องดำเนินการตรวจโรคต้องห้ามภายในวันที่ 18 ต.ค. 2564 และปรับปรุงทะเบียนประวัติภายในวันที่ 31 มี.ค. 2565

นอกจากนี้น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)ว่า ครม.เห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินที่จะเวนคืนในท้องที่แขวงบางอ้อ เขตบางพลัด แขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสิต แขวงบางซื่อ เขตบางซื่อ แขวงสามเสนใน เขตพญาไท และแขวงจตุจักร แขวงจอมพล เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงมหาดไทย เสนอ 

โดยสาระสำคัญเป็นการกำหนดเขตที่ดินที่จะเวนคืนในท้องที่ดังกล่าวในการสร้างสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณแยกเกียกกาย เชื่อมต่อกับการสร้างและขยายถนน เพื่อแก้ปัญหาการจราจร โดยให้เจ้าหน้าที่เข้าไปทำการสำรวจเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ที่จะต้องเวนคืนให้ถูกต้องและชัดเจน โดยที่ดินที่จะเวนคืนมีส่วนแคบที่สุด 50 เมตร และส่วนที่กว้างที่สุด 1,250 เมตร ลักษณะของโครงการเป็นการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณแยกเกียกกาย ตามแนวถนนทหาร ซึ่งกรุงเทพมหานคร(กทม.)พิจารณาแล้วเห็นว่ามีความเหมาะสมและเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด พร้อมทั้งได้ปรับรูปแบบสะพานเกียกกายไม่ให้กระทบพื้นที่รัฐสภาแห่งใหม่ สะพานมีความยาว 320 เมตร 6 ช่องจราจร เชื่อมต่อฝั่งธนบุรีและฝั่งพระนคร

น.ส.รัชดา กล่าวว่า การดำเนินงานที่ผ่านมา กทม. จัดให้มีกระบวนการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนในพื้นที่แล้วรวม 4 ครั้ง พร้อมจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม ในกรณีพื้นที่ตั้งอยู่ใกล้โบราณสถาน แหล่งโบราณคดี แหล่งประวัติศาสตร์ หรืออุทยานประวัติศาสตร์ตามกฎหมายว่าด้วยโบราณสถาน โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ และพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ ในระยะทาง 2 กิโลเมตร เรียบร้อยแล้ว เมื่อสะพานเกียกกายและถนนเชื่อมต่อก่อสร้างแล้วเสร็จ จะรองรับปริมาณการสัญจรที่เพิ่มขึ้นในพื้นที่โดยรอบรัฐสถาแห่งใหม่ ได้ประมาณ 1แสนคันต่อวัน จะช่วยแก้ปัญหาการจราจรและเพิ่มประสิทธิภาพโครงข่ายเส้นทางคมนาคมในพื้นที่กรุงเทพฯ ตอนบน

นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา โพสต์ข้อความเตือนภัยสังคมกับหนังสือนิทานชุด 'นิทานวาดหวัง' ผลงานของกลุ่มม็อบ 3 นิ้วที่มีคดีติดตัวกันมากมาย จำหน่ายให้เด็กอายุ 5 ขวบ ชี้ล้างสมองเด็ก จี้ กระทรวงศึกษาฯ ตำรวจ ต้องตรวจสอบโดยเร็ว

นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา ได้ออกมาโพสต์ข้อความแสดงความเป็นห่วงเกี่ยวกับการ์ตูนของกลุ่มม็อบ 3 นิ้ว ที่มีการวางขายออนไลน์ โดยพบว่าการ์ตูนดังกล่าวมีแนวความคิดในเชิงปลุกระดมและล้างสมองเด็ก ลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว 'สมชาย แสวงการ' โดยได้ระบุข้อความว่า... 

“ปลุกระดมบ่มเพาะฝังรากล้างสมอง ใช้การ์ตูนครอบงำความคิดเด็ก อันตรายมากครับ ผู้มีหน้าที่ในบ้านเมือง ตั้งแต่นายกรัฐมนตรี รมต.ศึกษาฯ ผบ.ตร. หน่วยงานความมั่นคงอยู่ไหนกันครับ ต้องดูเนื้อหาตรวจสอบข้อกฎหมายและรีบดำเนินคดีโดยเร็วครับ ฝากการบ้านช่วยตรวจดูว่าเข้าข่ายประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116 ด้วยหรือไม่ครับ”

จากการตรวจสอบเพจ 'วาดหวังหนังสือ' พบว่ามีการจำหน่ายนิทานวาดหวัง ชุด 8 เล่ม ในราคาสูงถึง 700 บาท โดยหนึ่งในหนังสือชุดนี้มีหนังสือที่ชื่อว่า '10 ราษฎร' ที่เป็นนิทานภาพไร้คำ ซึ่งมีตัวการ์ตูนหลักคือแกนนำกลุ่มผู้ชุมนุมที่ทำผิดกฎหมาย เช่น รุ้ง ปนัสยา และ เพนกวิน พริษฐ์ ไผ่ ดาวดิน เป็นต้น

โดยทางผู้จัดทำและจำหน่ายอ้างว่าเหมาะสำหรับผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 5 ขวบ ถึง 112 ปี โดยหนังสือนิทานทั้ง 8 เล่ม ได้แก่ 1.) นิทานตัวไหน ตัวไม่มีหัว 2.) นิทานแค็ก แค็ก มังกรไฟ 3.) นิทาน จ จิตร 4.) นิทานเสียงร้องของผองนก 5.) นิทานแม่หมิมไปไหน 6.) นิทานเด็กมีความฝัน 7.) นิทานเป็ดน้อย และ 8.) นิทาน 10 ราษฎร ซึ่งนิทานทั้ง 8 เล่ม เป็นนิทานการเมือง เล่าเรื่องราวของการชุมนุมม็อบราษฎรผ่านภาพวาดการ์ตูน

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 20 ก.ย. ผศ.ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิทย์ อาจารย์ประจำคณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ ได้เคยออกมาโพสต์ข้อความเกี่ยวกับเรื่องราวดังกล่าวแล้วเช่นกัน โดยได้ระบุข้อความว่า... 

“ผลิตสื่อลงมาล้างสมองเด็กให้เป็นซอมบี้สามกีบตั้งแต่อนุบาล ประถมต้น วาดการ์ตูนมาอย่างดี รัฐบาล กระทรวงศึกษาธิการ รู้แล้วหรือยัง?”

ครม. ไฟเขียว 3.8 พันล้านบาท ให้ “กรมราชทัณฑ์”เหตุค่าวัสดุอาหารผู้ต้องขังไม่เพียงพอ

ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.ไตรศุลี  ไตรสรณกุล  รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)ว่า ครม.อนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2564 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน 3,810 ล้านบาท ตามที่กระทรวงยุติธรรม เสนอ เนื่องจากค่าวัสดุอาหารไม่เพียงพอ 

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า กระทรวงยุติธรรม ระบุว่ากรมราชทัณฑ์ ได้รับงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2564 ไม่เพียงพอต่อการเบิกจ่ายจริง ทำให้ยังคงมีหนี้ค่าวัสดุอาหารผู้ต้องขัง ผู้ต้องกักขัง และผู้เข้ารับการตรวจพิสูจน์ จำนวน 3,810 ล้านบาท ซึ่งการมีหนี้ค้างชำระดังกล่าวเป็นเวลานาน จะสร้างความเดือดร้อนทางด้านเศรษฐกิจกับผู้ขาย ซึ่งเป็นบุคคลภายนอกและจะส่งผลต่อภาพลักษณ์ของส่วนราชการ กรมราชทัณฑ์

“บิ๊กบี้”  สั่งเสริมยุทโธปกรณ์ช่วยน้ำท่วม ห่วงกำลังพลสายแพทย์งานหนักให้หมุนเวียนฟื้นฟู ย้ำใช้สโมสรทหารบก เป็นศูนย์ตรวจคัดกรองโควิดเต็มศักยภาพ

ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) พล.ท.สันติพงศ์ ธรรมปิยะ โฆษกกองทัพบก เปิดเผยถึงการประชุมสถานการณ์ประจำวันด้วยระบบออนไลน์ โดยมี พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้  ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เป็นประธานการประชุม ยังคงให้ความสำคัญกับภารกิจช่วยเหลือประชาชนจากสถานการณ์น้ำท่วมในหลายจังหวัด พร้อมสั่งการให้ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพบกเตรียมยุทโธปกรณ์และเครื่องมือเพิ่มเติมจากกองทัพบกส่วนกลางเพื่อส่งไปยังพื้นที่ประสบภัย ตามการร้องขอของหน่วยในพื้นที่ ให้ทันต่อความเดือดร้อนของประชาชน 

นอกจากนี้ได้ระบุถึงการปฏิบัติงานด้านการแพทย์ของกองทัพบก ทั้งในพื้นที่ส่วนกลางและภูมิภาค ว่ามีความเป็นห่วงกำลังพลสายแพทย์ที่ปฏิบัติงานดูแลผู้ป่วยโควิด-19 มาเป็นระยะเวลานาน มีความอดทนต่อความเหนื่อยล้าและภารกิจทางการแพทย์ที่ยังคงต้องดำรงต่อเนื่อง ได้กำชับกรมแพทย์ทหารบกบริหารจัดการให้มีการสับเปลี่ยนหมุนเวียนเจ้าหน้าที่ เพื่อให้ได้พักผ่อนและรับการฟื้นฟูสภาพ ตั้งแต่ 1 ต.ค. 64 เป็นต้นไป แต่ยังคงภารกิจด้านการแพทย์ในสถานการณ์โควิดโดยเฉพาะการป้องกัน การรักษา และให้บริการประชาชน ควบคู่การอนุรักษ์กำลังพล ส่วนศูนย์คัดกรองสโมสรทหารบก ที่เปิดให้บริการตรวจคัดกรองและรักษาโควิด-19 แบบครบวงจร ถือเป็นสถานที่ และภารกิจสำคัญที่จะต้องสานต่อ และใช้ศักยภาพในการตรวจคัดกรองที่สถานที่ดังกล่าวอย่างเต็มที่ ทั้งนี้เปิดให้บริการตั้งแต่ต้นเดือน ส.ค. ได้ตรวจคัดกรองไปแล้ว 63,229 ราย

กระทรวงกลาโหม จัดพิธีเคารพธงชาติ 28 กันยายน เนื่องในวันพระราชทานธงชาติไทยครบ104ปี  

พล.อ.ณัฐ อินทรเจริญ ปลัดกระทรวงกลาโหม เป็นประธานในพิธีเคารพธงชาติและร้องเพลงชาติไทย เนื่องในวันพระราชทานธงชาติไทย (Thai National Flag Day)ณ บริเวณเสาธงด้านหน้าศาลาว่าการกลาโหม

ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อ 20 ก.ย. 2559 เห็นชอบให้วันที่28 กันยายน ของทุกปีเป็นวันพระราชทานธงชาติไทย รวมทั้งให้มีการชักและประดับธงชาติไทย เพื่อเป็นการสร้างความภาคภูมิใจของคนในชาติและเป็นการน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่ทรงพระราชทานธงไตรรงค์เป็นธงชาติไทย


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top