Friday, 4 July 2025
Hard News Team

รัฐบาล เปิดยอดจ่ายเงินเยียวยานักเรียนใกล้ครบตามเป้า 11 ล้านคน 

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กระทรวงกลาโหม รับทราบรายงานความคืบหน้า การเยียวยานักเรียนทุกคน ทุกสังกัด คนละ 2,000 บาท โดยให้ผู้ปกครองรับเงินเต็มจำนวนโดยไม่หักค่าใช้จ่ายใด ๆ เพื่อช่วยบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายด้านการศึกษา ล่าสุดได้จ่ายเงินเยียวยาครอบคลุมเด็กนักเรียนทั้งในและนอกสังกัดกระทรวงศึกษาธิการไปแล้วทั้งสิ้น 10,952,000 ล้านคน จากเป้าหมาย 11 ล้านคน คิดเป็น 87.80% โดยโรงเรียนในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการได้รับทั้งหมด 97.75% ที่เหลือได้ทยอยดำเนินการส่งมอบต่อเนื่อง 

ส่วนของการฉีดวัคซีนก็คืบหน้าไปอย่างมากเช่นกัน โดย ศธ.ได้วางแผนการดำเนินการฉีดวัคซีนให้แก่นักเรียน นักศึกษาในสังกัดทั้งของรัฐและเอกชน ที่มีอายุ 12-18 ปี โดยล่าสุด (27 ก.ย.) พบว่ามีผู้สมัครใจฉีดวัคซีนจำนวน 3.61 ล้านคน จากทั้งสิ้น 5,048,081 คนคิดเป็น 71.67% ทั้งนี้ ยังจะได้รวบรวมจำนวนเด็กนักเรียนที่ผู้ปกครองให้ความยินยอมแล้วเพิ่มเติม และจะจัดส่งให้กระทรวงสาธารณสุข เพื่อขอรับการจัดสรรวัคซีน เพิ่มเติมต่อไป 

บิ๊กป้อม นั่งหัวโต๊ะ ถก กกท. ไฟเขียว 9 แผนงาน ปี65 เน้น สมาคมกีฬา ใช้วิทยาศาสตร์การกีฬาพัฒนาศักยภาพ นักกีฬาไทย

ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ โดยมี นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยที่ประชุมเห็นชอบ แผนงานของผู้ว่ากกท. 9 แผนงานประจำปี65 สอดคล้องยุทธ์ศาสตร์ชาติ 20ปีได้แก่ 1.แผนยกระดับการให้บริการ 2.แผนยกระดับการบริหารจัดการองค์กรทั้งระบบ ตามเกณฑ์รางวัลคุณภาพแห่งชาติ 3.แผนการพัฒนาข้อมูลดิจิทัลด้านการกีฬา 4.แผนยกระดับกิจกรรม และการแข่งขันกีฬาเพื่อเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ 5.แผนการจัดตั้งเมืองกีฬา (Sport City)  6.แผนการพัฒนานักกีฬาคนพิการ อย่างครบวงจร  7.จัดทำแผนธุรกิจ (Business plan) ของศูนย์ฝึกกีฬาแห่งชาติ แต่ละพื้นที่ 8.แผนงานศูนย์ความเป็นเลิศด้านเวชศาสตร์การกีฬา และ9.แผนส่งเสริมกิจกรรมกีฬา 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และที่ประชุมรับทราบรายงานแผนปฏิบัติงานโครงการยกระดับการให้บริการของ กกท. Smart National Sports Park  ตามแผนงานนโยบายผู้ว่ากกท.ประจําปี64 และรายงานผลการแข่งขันกีฬา พาราลิมปิกเกมส์ ครั้งที่16 ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งทัพนักกีฬาไทย ทำผลงานได้ 5 เหรียญทอง 5เหรียญเงิน และ 8 เหรียญทองแดง เป็นอันดับ 1 ของอาเซียน และให้ใช้เงินสะสมของ กกท. "กองทุนสงเคราะห์ฯเพื่อสวัสดิการพนักงาน ลูกจ้าง และครอบครัว" เพื่อสร้างขวัญกำลังใจ 

นอกจากนี้พล.อ.ประวิตร เป็นประธานการประชุม คณะกรรมการบริหารกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ โดยได้รับทราบรายงานผลการสนับสนุนเงินรางวัล มหกรรมกีฬา ให้กับนักกีฬาที่ได้รับเหรียญรางวัล ตามหลักเกณฑ์ทั้งจากการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ครั้งที่ 32 และพาราลิมปิกเกมส์ครั้งที่ 16 รวมทั้ง ได้เห็นชอบ หลักเกณฑ์ทุนการศึกษาของนักกีฬาและบุคลากรกีฬา ประจำปี64 เพื่อส่งเสริมการพัฒนาการศึกษา และแบ่งเบาภาระของครอบครัว 

 

สยบดราม่า!! เปิดคุณสมบัติผู้บริจาคเลือด ห้ามใครบริจาคบ้าง หลังบิวตี้บล็อกเกอร์ชื่อดัง เพจ ‘Madampam Makeup by Winlaphat’ โพสต์เสียความรู้สึก อ้างสภากาชาดไทย ไม่รับเลือดจากรักร่วมเพศ”

จากการที่ “บิวตี้บล็อกเกอร์ชื่อดัง” เพจ ‘Madampam Makeup by Winlaphat’ ออกมาโพสต์ตำหนิสภากาชาดไทยที่ได้ปฏิเสธรับบริจาคเลือดของตนว่า ช่วงนี้ สภากาชาดขาดเลือด ผมกับเมียตั้งใจไปบริจาคเลือด แล้วทำคลิปช่วยประชาสัมพันธ์แล้วถึงได้รู้ว่า LGBT อย่าได้ริอาจไปบริจาคเลือดเชียว เพราะสภากาชาด ยังมีนโยบาย "ไม่รับเลือดจากรักร่วมเพศ" เพราะมองว่าเป็นกลุ่มเสี่ยง เป็นพาหนะนำโรค นี่มันโลกยุคไหนแล้วครับ 

โคตรเสียความรู้สึกเลยครับ ขอบใจมาก ผมจะไม่ขอยุ่งเกี่ยวกับสภากาชาดตลอดไป งานอะไรก็ไม่ต้องมาให้ช่วยโปรโมท ถ้าในอนาคตผมต้องการเลือด ผมก็จะหาซื้อเอง 

ไม่อยากเชื่อ ว่าองค์กรที่ต้องการเลือดเพื่อช่วยคน ดันทำลายคนบริจาคเลือดด้วยการ เหยียดเพศ 

เมียผมน้องเดินร้องไห้กลับบ้านทั้งๆ ที่อยู่หน้าห้องบริจาค เพราะอะไร เพราะความผิดที่ไม่ได้ก่อเหรอ ผมไม่เข้าใจ การรับเลือดของเพศเดียวกันมันคือตราบาปอะไร

ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่สภากาชาดยังเคยขอให้เมียผมช่วยโปรโมทโครงการบริจาคเลือดอยู่เลย ย้อนแย้งสุดๆ

อย่างไรก็ตาม เมื่อเข้าไปดูระเบียบของศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย ได้ระบุคุณสมบัติผู้บริจาคเลือด ทั้งหมด 31 ข้อดังนี้
1.) อายุ 17 ปีบริบูรณ์ - 70 ปี

2.) น้ำหนัก 45 กิโลกรัมขึ้นไป

3.) รู้สึกสบายดี สุขภาพแข็งแรง พร้อมที่จะบริจาคโลหิต ไม่มีอาการผิดปกติต่างๆ เช่น อาการอ่อนเพลียจากการอดนอน อาการมึนเมาจากการดื่มแอลกอฮอล์หรือสารอื่นๆ

4.) นอนหลับพักผ่อนเพียงพอ อย่างน้อย 5 ชั่วโมง

5.) หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่มีไขมันสูง ภายใน 6 ชั่วโมง

6.) หากมีโรคประจำตัวต่างๆ ที่พบบ่อยในผู้บริจาคโลหิต

7.) กรณีรับประทานยาต่างๆ

8.) งดดื่มแอลกอฮอล์ก่อนมาบริจาคโลหิต 24 ชั่วโมง

9.) อยู่ในระหว่างตั้งครรภ์ หรือให้นมบุตรต้องงดบริจาคโลหิตชั่วคราว

10.) คลอดบุตร หรือแท้งบุตร เว้น 6 เดือนเพื่อให้ร่างกายสร้างเม็ดเลือดแดงให้กลับเป็นปกติก่อน

11.) มีพฤติกรรมเสี่ยงทางเพศ
(1.) ท่านหรือคู่ของท่านเคยมีเพศสัมพันธ์กับ : ผู้ที่ไม่ใช่คู่ของตนเอง / ผู้ทำงานบริการทางเพศ / ผู้เสพยาเสพติด / ผู้ที่อาจติดเชื้อเอชไอวีหรือโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่นๆ หากผู้บริจาคโลหิตและคู่ มีพฤติกรรมเสี่ยงดังกล่าว ย่อมมีผลกระทบต่อผู้ป่วยที่ได้รับโลหิตเช่นเดียวกัน จึงเป็นข้อกำหนดให้งดบริจาคโลหิตอย่างไม่มีกำหนด
(2.) ท่านเป็นเพศชาย ที่เคยมีเพศสัมพันธ์กับเพศชาย ซึ่งอัตราการติดเชื้อเอชไอวี ของกลุ่มชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชายสูงกว่าประชากรทั่วไปมาก และโอกาสที่จะมีผู้ที่อยู่ในระยะ window period ของการติดเชื้อ เอชไอวี ในกลุ่มนี้สูงกว่าประชากรทั่วไป (window period คือ ระยะเวลาที่เพิ่งเริ่มติดเชื้อ ในร่างกายยังมีเชื้อจำนวนน้อย ไม่สามารถตรวจพบร่องรอยการติดเชื้อได้ด้วยวิธีทางห้องปฏิบัติการแต่สามารถถ่ายทอดไปยังผู้รับโลหิตได้) ข้อนี้จึงยังเป็นข้อกำหนดไม่รับบริจาคโลหิตอย่างถาวร

12.) เคยใช้ยารักษาหรือป้องกันโรคเอชไอวีให้งดการบริจาคอย่างถาวร

13.) อุดฟัน ขูดหินปูน เว้น 3 วัน / ถอนฟัน รักษารากฟัน เว้น 7 วัน

14.) ท้องเสีย ท้องร่วง เว้น 7 วัน

15.) เจาะหู ผิวหนัง สัก ลบรอยสัก ฝังเข็ม เว้น 4 เดือน

16.) ผ่าตัดเล็ก เว้น 7 วัน / ผ่าตัดใหญ่ เว้น 6 เดือน

17.) เคยป่วยและได้รับโลหิต หรือส่วนประกอบโลหิต ภายใน 1 ปี ที่ผ่านมา

18.) เคยได้รับการปลูกถ่ายอวัยวะ หรือเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดโลหิต (Stem Cells)

19.) เคยถูกเข็มที่เปื้อนเลือดตำ ในระยะ 1 ปีที่ผ่านมา

20.) เคยป่วยเป็นโรคตับอักเสบโดยทั่วไปการเป็นโรคตับอักเสบก่อนอายุ 11 ปี ส่วนใหญ่มีสาเหตุจากไวรัสตับอักเสบ เอ เมื่อหายแล้วสามารถบริจาคโลหิตได้ แต่หากมีประวัติเป็นตับอักเสบหลังอายุ 11 ปี มักมีสาเหตุจากไวรัสตับอักเสบ บี หรือ ซี ต้องงดบริจาคโลหิตถาวร เพื่อลดความเสี่ยงจากการถ่ายทอดเชื้อให้ผู้ป่วยที่ได้รับโลหิต

"ราเมศ" เผย ปชป. เตรียม “จุรินทร์ออนทัวร์” ภาคเหนือ พร้อมช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วม

นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ระหว่างวันพฤหัสบดี ที่ 30 กันยายน ถึง วันที่ 1 ตุลาคม 2564 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรค ได้มีกำหนดการลงพื้นที่ “จุรินทร์ออนทัวร์” ในพื้นที่ภาคเหนือ ประกอบด้วยจังหวัดนครสวรรค์ กำแพงเพชร สุโขทัย และเพชรบูรณ์ เพื่อพบปะและให้กำลังใจประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วม มอบถุงน้ำใจบรรเทาทุกข์ พร้อมติดตามโครงการประกันรายได้จะมีการพบปะพี่น้องเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลัง ข้าว ทั้งที่จังหวัดนครสวรรค์ จังหวัดกำแพงเพชร จังหวัดสุโขทัย นอกจากนี้จะมีการมอบโฉนดที่ดินของกองทุนฟื้นฟูเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรให้แก่เกษตรกรจังหวัดสุโขทัยด้วย 

นายราเมศ กล่าวต่อว่า ในช่วงที่มีสถานการณ์น้ำท่วมทั้งในภาคเหนือ ภาคอีสาน และภาคกลาง นายจุรินทร์ มีความห่วงใยพี่น้องประชาชน นับตั้งแต่เริ่มมีสถานการณ์น้ำท่วม ก็ได้สั่งการอย่างเร่งด่วนให้บุคลากรของพรรค ไม่ว่าจะเป็น กรรมการบริหารพรรค รัฐมนตรี ส.ส. ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง อดีต ส.ส.ตัวแทนพรรค สาขาพรรค เฝ้าติดตามและให้ความช่วยเหลือพี่น้องผู้ประสบภัยน้ำท่วมและให้มีการตั้งศูนย์ติดตามและประสานงานเพื่อแก้ปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนในทุกเขตพื้นที่ที่ประสบภัยน้ำท่วม พร้อมกับมีการประสานการทำงานกับส่วนกลางอย่างเป็นระบบ คือการจัดถุงยังชีพเพื่อให้ ส.ส. อดีต ส.ส.และตัวแทนพรรคประจำจังหวัดประจำเขตเลือกตั้ง เพื่อลงพื้นที่มอบให้กับประชาชนที่ประสบภัย นายจุรินทร์ย้ำว่า ขณะนี้ให้ทุกคนในพื้นที่ระดมสรรพกำลังอย่างเต็มที่และให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วม ในยามที่ประชาชนลำบากในฐานะพรรคการเมืองต้องร่วมด้วยช่วยกันเพื่อให้ผ่านพ้นสถานการณ์นี้ไปได้ด้วยดี 

“บิ๊กตู่”ควงพี่รอง “อนุพงษ์ - สุชาติ" ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจชาวชัยภูมิ

ที่ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) ดอนเมือง กรุงเทพฯ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ออกเดินทางไปยังท่าอากาศยานทหารกองบิน 1 ตำบลปรุใหญ่ อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา เพื่อตรวจสถานการณ์อ่างเก็บน้ำลำเชียงไกรจากเฮลิคอปเตอร์ ก่อนที่

จะตรวจติดตามสถานการณ์อุทกภัย และตรวจเยี่ยมให้กำลังใจพร้อมมอบถุงยังชีพให้แก่ประชาชนผู้ประสบอุทกภัยอำเภอเมืองชัยภูมิ ให้กำลังใจบุคลากรโรงพยาบาลชัยภูมิและมอบสิ่งของจำเป็นแก่โรงพยาบาลชัยภูมิ และตรวจเยี่ยมให้กำลังใจและมอบถุงยังชีพให้ประชาชนผู้ประสบอุทกภัยอำเภอจัตุรัส ณ วัดชัยชนะวิหาร (วัดบ้านละหาน) ตำบลละหาน อำเภอจัตุรัส

'รมว.ดีอีเอส' เสนอทบทวนแบนบุหรี่ไฟฟ้า อ้างนักสูบนิยมมาก เมินแบบมวน เก็บภาษีต่ำกว่าเป้า เกษตรกรปลูกใบยาสูบกระทบหนัก ฟุ้งอนาคตตั้งโรงงานส่งออกได้ ยกต่างประเทศไม่ฝืนเปลี่ยนให้ถูก กม. นายกฯ เบรกหัวทิ่ม ยันหมอชี้อันตรายต่อสุขภาพ

มีรายงานข่าวจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 28 ก.ย. แจ้งว่า ระหว่างการพิจารณาโครงสร้างภาษีบุหรี่ช่วงหนึ่ง นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ได้แสดงความเห็นต่อที่ประชุมว่าควรพิจารณาให้บุหรี่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไอคอสถูกกฎหมาย เนื่องจากปัจจุบันพฤติกรรมผู้บริโภคบุหรี่มวนลดลง หันไปบริโภคบุหรี่รูปแบบใหม่ๆ ส่งผลให้จัดเก็บภาษีของรัฐน้อยลงตามไปด้วย และเกษตรกรผู้ปลูกยาสูบในประเทศก็ได้รับผลกระทบจากราคาใบยาสูบตกต่ำ ทำให้รัฐต้องจ่ายชดเชยช่วยเหลือ

นายชัยวุฒิ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้โครงสร้างภาษีของประเทศไทย ทำให้บุหรี่ไทยหลายยี่ห้อที่โรงงานยาสูบผลิตและจำหน่ายในประเทศราคาสูงกว่ายี่ห้อต่างประเทศที่นำเข้ามาค่อนข้างมาก ผู้บริโภคส่วนหนึ่งจึงหันไปสูบบุหรี่ต่างประเทศ ตรงนี้ทำให้โรงงานยาสูบขาดทุนและบุหรี่ไทยจะตาย

รายงานข่าวแจ้งอีกว่า นายชัยวุฒิได้นำเสนอที่ประชุมด้วยว่า หากทำให้บุหรี่ไอคอสถูกกฎหมายจะช่วยลดการขาดทุนของโรงงานยาสูบ เป็นการช่วยเกษตรกรผู้ปลูกใบยาสูบ รัฐไม่ต้องจ่ายชดเชยอีกต่อไป และจะทำให้รัฐจัดเก็บรายได้จากภาษีเพิ่มขึ้น เนื่องจากปัจจุบันคนไทยนิยมบริโภคบุหรี่ประเภทนี้เป็นจำนวนมาก และในอนาคตอาจมีการตั้งโรงงานเพื่อส่งออก เป็นการเพิ่มรายได้ให้เกษตรกรใบยาสูบด้วย

นายกรัฐมนตรี ชื่นชมโครงการสมาชิกวุฒิสภาพบประชาชน ถือเป็นจุดร่วมระหว่างฝ่ายบริหารและฝ่ายนิติบัญญัติ เพื่อสร้างความผาสุกให้เกิดขึ้นแก่ประชาชน

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวคำปราศรัยผ่านคลิปวิดีโอ เนื่องในพิธีเปิดการสัมมนาการดำเนินโครงการสมาชิกวุฒิสภาพบประชาชน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564  ภายใต้หัวข้อ “ครบรอบ 2 ปี สว. พบประชาชน ประชาชนได้อะไร”  เพื่อสร้างขวัญกำลังใจในการทำงานให้แก่สมาชิกวุฒิสภา และผู้แทนประชาชน ณ ห้องประชุมคณะกรรมาธิการหมายเลข 402 – 403 ชั้น 4 อาคารรัฐสภา (ฝั่งวุฒิสภา) โดยมีศาสตราจารย์พิเศษ พรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา พร้อมด้วยรองประธานวุฒิสภา สมาชิกวุฒิสภา พล.อ. อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ผู้บริหารส่วนราชการ และผู้แทนภาคประชาชน เข้าร่วมงาน และมีการถ่ายทอดสดผ่าน Facebook Live เพจ วุฒิสภา และทางวิทยุและโทรทัศน์รัฐสภา ให้ประชาชนทั่วไปและผู้สนใจร่วมรับฟังการเปิดสัมมนาครั้งนี้ด้วย

รองโฆษกรัฐบาล เผย ไฟเซอร์ถึงไทย 2 ล้านโดส เริ่มฉีดสัปดาห์หน้า อนุทิน ยัน มีวัคซีนเพียงพอดูแลประชาชน 

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เมื่อเวลา 08.00น. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข พร้อมด้วยผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุขได้เดินทางไปตรวจรับมอบวัคซีนไฟเซอร์ จำนวน 2 ล้านโดส ซึ่งมาถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เมื่อเวลา 04.35น. ที่ผ่านมา โดยสายการบิน DHL เที่ยวบิน 3L 350  

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า นายอนุทินเปิดเผย ภายหลังเป็นประธานรับมอบวัคซีนไฟเซอร์ ว่า วัคซีนที่มาถึงประเทศในวันนี้ เป็นล็อตแรกจากทั้งหมดที่รัฐบาลจัดซื้อมา 30 ล้านโดส  ซึ่งทางไฟเซอร์จะจัดส่งในเดือนต.ค.อีก 6 ล้านโดส รวมถึงสิ้นเดือนต.ค.จะมีวัคซีนเข้ามา 8 ล้านโดส และครบทั้ง 30 ล้านโดสภายในสิ้นปีนี้แน่นอน “วัคซีนทั้ง 30 ล้านโดสจะมีการจัดส่งได้ภายในปีนี้ ส่วนถึงสิ้นเดือนต.ค.นี้ จะมีทั้งหมด 8 ล้านโดส โดยจะเข้ามาทุกวันพุธของทุกสัปดาห์และไฟเซอร์จะทำการจัดส่งไปยังที่หมายตามที่กรมควบคุมโรคกำหนดไว้ทั่วประเทศ เพราะราคาที่จัดซื้อมานี้รวมค่าจัดส่งแล้ว การจัดส่งจะเป็นแบบ door to door” รองนายกรัฐมนตรีกล่าว 

เปิดตัว 'Ai Ailynn' วัย 21 เน็ตไอดอลเสมือนคนแรกของไทย

ตามรายงานของสมาคมโฆษณาดิจิทัล (ประเทศไทย) คาดว่าในปี 2021 นี้ สัดส่วนรายได้ของ Influencer จะอยู่ที่ 9% หรือคิดเป็นประมาณ 2,113 ล้านบาท แปลว่ามีเม็ดเงินจำนวนมากที่วิ่งอยู่ในงานด้าน Influencer นี้ และถ้าใครสามารถเข้าถึงมันได้ เม็ดเงินมหาศาลก็จะไหลเข้ามา แต่การจะปั้น Influencer สักคนมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย..

นั่นก่อให้เกิดสิ่งที่เรียกว่า "Virtual Influencer" ขึ้นมา หรือก็คือเหล่า "ไอดอลเสมือน" ที่มีชีวิตอยู่ในโลกดิจิทัล อาทิเช่น Rozy เน็ตไอดอลสาวของเกาหลี ที่ปัจจุบันรับงานโฆษณาไปแล้วกว่า 100 รายการ

“องอาจ” ฝากนายกฯ เร่งฉีดวัคซีนวันละล้านโดส เพื่อให้ประชาชนใช้ชีวิตปกติได้เร็วขึ้น

นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรค และประธาน ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการฉีดวัคซีนให้ประชาชนในไทยว่า ขณะนี้การแพร่ระบาดของโควิด-19 เริ่มลดลงตามตัวเลขที่ทาง ศบค. แถลงออกมา จนทำให้มีการผ่อนคลายมาตรการควบคุมต่าง ๆ เพิ่มมากขึ้นจนทำให้หลายกิจการสามารถกลับมาดำเนินการได้ใกล้เคียงสภาวะปกติมากขึ้นแต่การเปิดประเทศภายใน 120 วัน ตามที่นายกฯ เคยประกาศไว้ ซึ่งน่าจะเปิดทั้งประเทศ ประมาณกลางเดือนตุลาคมก็ยกเลิกไป รวมถึงการเปิดพื้นที่ท่องเที่ยว 10 จังหวัด รวมถึง กทม. ด้วยก็เลื่อนออกไปเป็น 1 พฤศจิกายน ก่อให้เกิดการชะลอการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ทำให้การทำมาค้าขายเคลื่อนไหวทางเศรษฐกิจเพื่อให้ประชาชนใช้ชีวิตใกล้เคียงปกติมากที่สุดต้องเคลื่อนออกไป ซึ่งเงื่อนไขสำคัญส่วนหนึ่งของการที่จะทำให้ประชาชนใช้ชีวิตได้ตามปกติคือการฉีดวัคซีนให้ประชาชนได้ครอบคลุมมากที่สุด

แต่การฉีดวัคซีนก็ยังเดินหน้าไปเรื่อยๆ เฉลี่ยวันละ 1 แสนโดส ยกเว้นวันที่ 24 ก.ย. วันมหิดลที่ผ่านมาที่ทางราชการฉีดวัคซีนได้มากกว่า 1 ล้านโดสตามเป้าหมายในวันเดียว ซึ่งแสดงว่าการบริหารจัดการสาธารณสุขไทย มีศักยภาพสามารถฉีดวัคซีนวันละมากกว่าล้านโดสได้ 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top