“โฆษกรัฐบาล" ซัด “สงคราม” วอนหยุดโหนกระแส-สร้างวาทกรรมเอาเปรียบ แจงเงินกู้ 1.5 ล้านล้านบาท ใช้ช่วยเยียวยาประชาชน ฟื้นฟูเศรษฐกิจยามวิกฤต

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี  กล่าวถึงกรณีที่นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อชาติ ระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กินหรูอยู่สบาย แต่บังคับให้ประชาชนเสียสละว่า น่าเสียดายที่นายสงครามเป็นถึงอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ และอยู่ในแวดวงการเมืองมามากกว่า 10 ปี แต่กลับไม่เข้าใจโลก ไม่เข้าใจความเป็นจริง ทั้งเรื่องของเศรษฐกิจการค้าและการเมือง การที่บอกว่านายกรัฐมนตรีไม่ให้ความสำคัญกับเสียงข้างน้อย การเมืองใช้พวกมากลากไป ทำให้ย้อนอดีตกลับไปหลายสิบปีนั้น นายสงครามคงเข้าใจผิด เพราะเรื่องเสียงข้างมากหรือน้อยเป็นเรื่องของสภาฯ ไม่ใช่เรื่องของฝ่ายบริหาร ซึ่งที่ผ่านมานายกรัฐมนตรีประกาศชัดเจนว่า การเมืองเป็นเรื่องของพรรคการเมือง ดังนั้นการเมืองที่ใช้พวกมากลากไป ไม่สนใจเสียงส่วนน้อย น่าจะใช้กับอดีตพรรคการเมืองที่นายสงครามเคยสังกัดเมื่อหลายปีก่อนน่าจะเหมาะสมกว่า 

นายธนกร กล่าวว่า สำหรับปัญหาราคาน้ำมันและสินค้าแพงนั้น นายสงครามก็น่าจะเข้าใจดีว่าเกิดจากอะไร อย่าแสร้งทำเป็นโหนกระแส เอาดีใส่ตัวแล้วทำลายผู้อื่น โดยเฉพาะเรื่องราคาน้ำมันที่อ้างว่าแม้ไม่มีสงครามราคาน้ำมันของไทยก็สูงเป็นอันดับต้น ในอาเซียนนั้น ราคาน้ำมันมีปัจจัยต่างๆ ที่เข้ามากำหนดราคา และถ้ามองว่าสูงจริง ทำไมในสมัยรัฐบาลนายสงครามถึงไม่แก้ปัญหาเช่นกัน รถโดยสารสาธารณะวันนี้นายสงครามในฐานะผู้แทนประชาชนเคยนั่งบ้างหรือไม่ อยากให้หยุดสร้างวาทกรรมว่าใครเอาเปรียบใคร ยิ่งในภาวะเช่นนี้ทุกคนต้องร่วมมือกันและมีความเสียสละ

“การกู้เงิน 1.5 ล้านล้านบาทนั้น เป็นมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายและขับเคลื่อนเศรษฐกิจในช่วงวิกฤตที่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 ไปทั่วโลก ไม่ใช่ภาวะปกติ รัฐบาลเป็นเพียงภาคส่วนเดียวที่มีความสามารถในการดำเนินการ เพราะภาคเอกชนหยุดชะงัก ซึ่งทั้งหมดก็เพื่อช่วยเหลือเยียวยาประชาชนและฟื้นฟูธุรกิจผ่านมาตรการต่างๆ ซึ่งรัฐบาลชี้แจงแล้วหลายครั้ง นายสงครามไปอยู่ไหนมา นอกจากนี้ ในอดีตก็เคยมีการกู้เงินเพื่อรับมือสถานการณ์วิกฤต เช่น วิกฤตต้มยำกุ้ง ปี 2540 หรือวิกฤตสินเชื่อซับไพร์ม ปี 2552 นายสงครามเคยศึกษาเรื่องเหล่านี้ก่อนพูดหรือไม่” นายธนกรกล่าว