Monday, 9 June 2025
Hard News Team

กระทรวงการต่างประเทศ ตบหน้า 'รพ.ธรรมศาสตร์' แจงดีล Moderna ล่ม เหตุโปแลนด์ไม่ให้เอาไปขาย

กระทรวงการต่างประเทศ แจงเหตุ ดีลบริจาควัคซีน Moderna จากโปแลนด์ล่ม เพราะรพ.ธรรมศาสตร์ จะขอรับวัคซีน 1 ใน 3 ส่วนอีก 2 ใน 3 ให้เอกชนที่เป็นหุ้นส่วนนำไปจำหน่ายให้ผู้สนใจ เพื่อชดเชยค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น ซึ่งโปแลนด์แจ้งว่าไม่อนุญาตให้นำวัคซีนที่ได้รับบริจาคไปขาย

เมื่อวันที่ 2 พ.ย. 64 ที่ผ่านมา กระทรวงการต่างประเทศ ออกคำชี้แจง หลังโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ อ้างว่ากระทรวงการต่างประเทศ ไม่ทำหนังสือยืนยันตัวตนให้ รพ.ธรรมศาสตร์ในการขอรับบริจาควัคซีน Moderna ซึ่งยังมีอายุใช้งานได้ถึงเดือนเมษายน 2565 จำนวน 1.5 ล้านโดส จากประเทศโปแลนด์ เป็นเหตุให้ต้องยุติการขอรับบริจาคลง โดยระบุว่า…

ตามที่เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564 เฟซบุ๊กโรงพยาบาลสนามธรรมศาสตร์ได้ลงข้อความพาดพิงถึงการที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ขอรับบริจาควัคซีนโมเดอร์นาจากสำนักงานสำรองทางยุทธศาสตร์ของโปแลนด์ จำนวน 1.5 ล้านโดส โดยระบุว่ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ขอให้กระทรวงการต่างประเทศออกจดหมายยืนยันว่า รัฐบาลไทยยินดีรับบริจาควัคซีนดังกล่าว เนื่องจากหน่วยงานผู้บริจาคประสงค์ให้รัฐบาลไทย โดยหน่วยงานภาครัฐที่มีสถานะเป็นผู้แทนรัฐบาล แจ้งเจตนาจะรับบริจาค แต่กระทรวงการต่างประเทศไม่ออกหนังสือดังกล่าวให้ ทำให้การบริจาควัคซีนดังกล่าวต้องยกเลิกไปนั้น

กระทรวงการต่างประเทศขอชี้แจงดังนี้ว่า มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์แจ้งกระทรวงการต่างประเทศว่า ในการรับบริจาควัคซีนจากโปแลนด์ครั้งนี้มีค่าใช้จ่ายจำนวนมาก มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์จึงจะรับวัคซีนจำนวน 1 ใน 3 ของวัคซีนที่ได้รับบริจาคไว้เอง เพื่อให้บริการประชาชนโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย และจะมอบวัคซีนที่ได้รับบริจาคมาอีก 2 ใน 3 ให้เอกชนที่เป็นหุ้นส่วน เพื่อนำไปจำหน่ายให้ผู้สนใจ เพื่อชดเชยค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น

กระทรวงการต่างประเทศ ได้หารือกระทรวงการต่างประเทศโปแลนด์แล้ว ได้รับแจ้งว่าไม่อนุญาตให้นำวัคซีนที่ได้รับบริจาคไปขาย และฝ่ายไทยต้องได้รับ market authorization จากบริษัทผู้ผลิตหรือตัวแทนจำหน่ายวัคซีนโมเดอร์นาด้วย ซึ่งทั้งสองประเด็นเป็นแนวปฏิบัติโดยทั่วไปของการบริจาควัคซีนและเวชภัณฑ์ระหว่างประเทศ และไม่สามารถเจรจาต่อรองเป็นอื่นได้

“บิ๊กป้อม”  สั่งกรมประมงเร่งเยียวยาเรือประมงออกนอกระบบ เข้มข้นมุ่งความยั่งยืนแก้ปัญหา IUU อย่างเป็นระบบมากกว่าที่เป็นอยู่

พล.อ.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รอง นรม. ได้เรียกประชุมคณะกรรมการนโยบายการประมงแห่งชาติครั้งที่ 4 ณ ห้องประชุม 301 ทำเนียบรัฐบาล เพื่อติดตามขับเคลื่อนแก้ปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย ( IUU ) และผลกระทบสภาพแวดล้อมทางทะเล 

ที่ประชุมรับทราบและติดตามขับเคลื่อนการแก้ปัญหาผลกระทบของการทำประมงต่อสัตว์ทะเลเลี้ยงลูกด้วยนม และการแก้ปัญหานำเรือประมงออกนอกระบบ โดยเฉพาะการเยียวยา กลุ่มเรือประมงสีขาว (ไม่เคยทำผิดกฎหมาย ) จำนวน 75 ลำ วงเงินช่วยเหลือ  490.8 ล้านบาท 

รวมทั้งการดำเนินงานบังคับใช้กฎหมาย เพื่อแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมายโดยเฉพาะ มาตรการเร่งรัดการดำเนินคดีตามกฏหมายว่าด้วยการประมง และการอุดหนุนประมง ( Fisheries subsidies ) ภายใต้องค์การการค้าโลก ( WTO ) ซึ่งเป็นการให้ความช่วยเหลือทางการเงินโดยรัฐ แก่ผู้ประกอบการ ธุรกิจ หรือ กลุ่มอุตสาหกรรม กับกลุ่มที่ทำประมงถูกกฎหมาย โดยร่วมกันกำหนดท่าทีการเจรจาของไทยที่เหมาะสมกับการอุดหนุนประมงดังกล่าว ต่อจากนั้นได้เห็นชอบ แต่งตั้งคณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมายและคณะอนุกรรมการตรวจสอบและติดตามการบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง ในการแก้ไขปัญหาการทำประมงและแรงงานในภาคประมง เพื่อติดตามเร่งรัดแก้ปัญหาการทำประมงผิดกฎหมายรวมทั้งความเดือดร้อนของผู้ปกครองการประมงในทุกภาคส่วน

ทั้งนี้พล.อ.ประวิตร ได้ย้ำนโยบายด้านการประมงของไทย มุ่งเน้นการสร้างความยั่งยืนแก่ภาคการประมง ทั้งมิติด้านเศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อม ให้ความสำคัญกับการปฏิรูปภาคการประมงโดยมีกลไกที่มีประสิทธิภาพในการบริหารจัดการประมงภายใต้แผนบริหารจัดการประมงทะเลไทย โดยไม่สนับสนุนและต่อต้านการทำประมงผิดกฎหมาย 

พรรคพลังประชารัฐ ปรับแผนส่งผู้สมัครชิงผู้ว่ากทม. โยน 3 ชื่อ 'บิ๊กเนม' ให้ 'บิ๊กป้อม' ตัดสินใจ

‘บิ๊กป้อม’ เรียกก๊วน ‘ธรรมนัส -วิรัช’ ถกด่วนเคลียร์ปมกดดัน ‘บิ๊กแป๊ะ’ จนถอนตัวชิงผู้ว่าฯ กทม. เผยชงแผนใหม่ตื้อหาผู้สมัครในนามพรรคส่งลงสนามสู้กับ ‘ชัชชาติ’ พร้อมโยนตัวเลือกใหม่ 3 ชื่อบิ๊กเนม ‘พีระพันธุ์ - ดร.เอ้-ผู้ว่าฯ หมูป่า’ ให้หัวหน้าตัดสินใจ

3 พ.ย. 64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 2 พ.ย. ที่ผ่านมา ภายหลังการประชุมพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ซึ่งมี ส.ส. และสมาชิกหลายคนได้เดินทางกลับไปหมดแล้ว เช่นเดียวกับขบวนรถของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค พปชร. ที่ได้ออกจากพรรคตั้งแต่เวลา 16.00 น. แต่หลังจากนั้นไม่นาน ปรากฏว่า ขบวนรถของ พล.อ.ประวิตร ได้กลับเข้ามาในพรรคอีกครั้ง พร้อมเรียกแกนนำ และ ส.ส. บางคน เข้าหารือ

สำหรับ ส.ส. ส่วนใหญ่ที่เข้าหารือเป็น ส.ส. ในกลุ่ม ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา และ เลขาธิการพรรค และ นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรค อาทิ นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิพรรค, นายไผ่ ลิกค์ ส.ส.กำแพงเพชร และรองเลขาธิการพรรค, นายสุชาติ อุตสาหะ ส.ส.เพชรบุรี, นายสัมพันธ์ มะยูโซ๊ะ ส.ส.นราธิวาส, นายบุญสิงห์ วรินทรรักษ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และนายทะเบียนพรรค, นายจิรเดช ศรีวิราช ส.ส.พะเยา, นายณัฏฐพล จรัสรพีพงษ์ ส.ส.สุรินทร์, นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รมช.คมนาคม และ นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง โดยใช้เวลาในการหารือกว่า 1 ชั่วโมง

ข่าวแจ้งว่า สำหรับประเด็นที่ได้มีการหารือครั้งนี้ ได้พูดถึงการถอนตัวไม่ลงสมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ ของพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา โดยมีการยืนยันกับ พล.อ.ประวิตร ว่า ไม่ได้มีการบีบหรือกดดัน พล.ต.อ.จักรทิพย์ แต่ได้มีการเสนอว่าสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) ควรจะต้องส่งในนาม พปชร. เพราะ ส.ก. กับ ส.ส. ต้องเป็นเนื้อเดียวกัน ถือว่ามีบทบาทสำคัญในสนามเลือกตั้ง ส.ส. ด้วยเหมือนกับพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ที่มี ส.ก. ของพรรคเช่นเดียวกัน และถึงเวลาที่คัดสรรบุคคลลงแต่ละพื้นที่ได้แล้ว ส่วนผู้สมัคร ส.ก. 50 คน ในทีมของ พล.ต.อ.จักรทิพย์ หลังจากที่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ถอนตัวแล้ว ก็สามารถกลับมาร่วมงานกับ พปชร.ได้

อย่างไรก็ตามการส่ง ส.ก. ในนาม พปชร. ยังติดขัดข้อกฎหมายที่ห้ามมิให้ข้าราชการการเมือง หรือ ส.ส. ใช้ตำแหน่งหน้าที่ให้คุณให้โทษกับผู้สมัครหรือเลือกตั้งท้องถิ่น

เชิงรุก “กทม.” ตั้งจุดแจกชุดตรวจ “ATK” ให้ผู้มีแอป “เป๋าตัง” 

ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ ทำเนียบรัฐบาล น.ส.จงจิตต์  อาจวงษา นักสังคมสังเคราะห์  จากศูนย์บริการสาธารณสุข 24 บางเขน สำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร นำเจ้าหน้าที่มาตั้งจุดแจกชุดตรวจแอนติเจน เทสต์ คิท หรือ เอทีเค จำนวน 1,000 ชุด ระหว่างเวลา 09.00 - 12.00 น. มาแจกจ่ายให้กับประชาชนทั่วไป ที่มีแอพพลิเคชั่น “เป๋าตัง” โดยผู้ที่ประสงค์จะรับต้องทำการลงทะเบียนและทำแบบทดสอบประเมินความเสี่ยงการติดเชื้อโควิด-19 ผ่านแอพพ์เป๋าตัง และจะได้รับชุดตรวจเอทีเคคนละ 2 ชุด โดยได้รับความสนใจจากประชาชนและข้าราชการในบริเวณพื้นที่ใกล้เคียงทยอยมารับชุดตรวจ

“รองโฆษกรัฐบาล" เผย ก.เกษตรฯเร่งจัดระเบียบประมงไทย รับข้อกำหนดคุ้มครองสัตว์ทะเลของสหรัฐฯ 

น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงความพร้อมของประเทศไทยในการปฏิบัติตามกฎหมายสหรัฐอเมริกา ว่าด้วยการนำเข้าสินค้าสัตว์น้ำเพื่อคุ้มครองสัตว์ทะเลที่เลี้ยงลูกด้วยนม ที่จะมีผลบังคับใช้ในปี 2566 ซึ่งทางกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้มีการดำเนินการให้สอดรับกับกฎหมายดังกล่าวมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้มั่นใจได้ว่าไทยสามารถปฏิบัติตามได้อย่างครบถ้วน ทั้งนี้สหรัฐฯเป็นประเทศคู่ค้าสินค้าสัตว์น้ำและผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำ อันดับ 1 ของประเทศไทย มีมูลค่าสูงถึง 3.99 หมื่นล้านบาท

นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ ดำเนินการตามข้อสั่งการพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ได้ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการจัดระเบียบการทำประมง และแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมายอย่างยั่งยืนและต่อเนื่อง รวมทั้งให้ความช่วยเหลือดูแลประมงพื้นบ้าน ให้มีความสอดคล้องกับมาตรฐานด้านการประมงขององค์กรระหว่างประเทศ โดยได้รายงานถึงการเตรียมความพร้อมในส่วนที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย MMPA ว่า ได้เร่งขับเคลื่อนการดำเนินการมาตลอด เชื่อมั่นว่า ในวันที่ 1 ม.ค.2566 ซึ่งจะเป็นวันครบกำหนดระยะเวลาผ่อนผัน 5 ปี ของข้อกำหนด MMPA ขององค์การบริหารสมุทรศาสตร์และบรรยากาศแห่งชาติสหรัฐอเมริกา (National Oceanic and Atmospheric Administration : NOAA) สินค้าประมงไทยจะไม่ติดปัญหาในการส่งออกอย่างแน่นอน

ทั้งนี้ ระหว่างช่วงระยะของการผ่อนผัน กระทรวงเกษตรฯได้ติดตามการประเมินสถานภาพสัตว์ทะเลเลี้ยงลูกด้วยนม วางระบบรวบรวมข้อมูลสัตว์ทะเลเลี้ยงลูกด้วยนมจากการทำประมง พัฒนากฎระเบียบ ข้อบังคับ หรือมาตรการที่เกี่ยวข้องในการลดการตายและการบาดเจ็บของสัตว์ทะเลเลี้ยงลูกด้วยนมจากการทำประมง เพื่อให้สอดรับกับกฎหมาย MMPA อีกทั้งมีการจัดตั้งคณะทำงานด้านต่างๆ และจัดทำรายงานข้อมูลต่อสหรัฐฯ อย่างต่อเนื่องทุกปี โดยเมื่อปี 2563 คณะกรรมการนโยบายประมงแห่งชาติ ได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการป้องกันและแก้ไขปัญหาผลกระทบของการทำประมงต่อสัตว์ทะเลหายากและสัตว์ทะเลเลี้ยงลูกด้วยนม ซึ่งประกอบด้วย หน่วยงานภาครัฐ ภาคการศึกษา ภาคประชาชน และมีการรายงานข้อมูลเพื่อเสนอต่อสหรัฐฯด้วย

"ชินวรณ์" ยินดีสานงานต่อวิปรัฐบาล หลัง "วิรัช" หยุดปฏิบัติหน้าที่ รอ นายกฯ - พปชร. ตั้งคนใหม่ เชื่องานไม่สะดุด

ที่รัฐสภา นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะรองประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) กล่าวถึงการทำงานของวิปรัฐบาลภายหลัง นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ และประธานวิปรัฐบาล ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ ส.ส. ว่า เนื่องจากการเป็นประธานวิปรัฐบาล เป็นโดยคำสั่งของ นายกรัฐมนตรี ซึ่งแต่งตั้งจากพรรคแกนนำรัฐบาล ขณะนี้การทำงานของวิปรัฐบาลไม่มีปัญหา เพราะตนในฐานะรองประธานวิปรัฐบาลคนที่หนึ่ง ก็พร้อมที่จะทำหน้าที่ประสานงานตามข้อตกลงและนโยบายในการประชุมกันแล้วเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยทุกพรรคต้องร่วมมือกันทำงานให้เป็นเอกภาพ และสัปดาห์หน้าวันที่ 8 พ.ย.ได้มีการกำหนดประชุมวิปรัฐบาลที่ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล

‘SCB x’ ควัก 1.7 หมื่นล้าน ซื้อหุ้น ‘Bitkub’ เดินหน้ายุทธศาสตร์ยานแม่ มุ่งสู่โลกการเงินอนาคต

“กลุ่มเอสซีบี เอกซ์” เดินหน้ายุทธศาสตร์ยานแม่ ควัก 17,850 ล้านบาท ส่ง SCBS เข้าเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ใน “บิทคับ ออนไลน์” พร้อมร่วมเป็นพันธมิตรวางรากฐานธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล มุ่งสร้างการเติบโตระยะยาว เตรียมพร้อมสู่โลกการเงินอนาคต

นายอาทิตย์ นันทวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา ธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลหนึ่งในธุรกิจการเงินแห่งโลกอนาคตมีการเติบโตอย่างรวดเร็ว และมีโอกาสเติบโตในระยะยาว การที่ “กลุ่มเอสซีบี เอกซ์” เข้าไปลงทุนใน “บิทคับ ออนไลน์” (Bitkub Online Co., Ltd.) ซึ่งให้บริการแพลตฟอร์มด้านการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลชั้นนำของประเทศไทยที่มีความน่าเชื่อถือ มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา จะช่วยให้ “กลุ่มเอสซีบี เอกซ์” สามารถสร้างคุณค่าใหม่ที่สามารถเติบโตในระยะยาวไปกับโลกใหม่ได้ สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ยานแม่ SCBX ในการยกระดับสู่กลุ่มบริษัทเทคโนโลยีการเงิน สามารถตอบสนองความต้องการใหม่ของผู้บริโภค และสามารถเข้าสู่สนามการแข่งขันแบบใหม่ที่กำลังจะเกิดขึ้นโดยเร็วในอีก 3-5 ปีข้างหน้า”

ทั้งนี้ การเข้าลงทุนใน Bitkub “กลุ่มเอสซีบี เอกซ์” ได้ขับเคลื่อนผ่านบริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ จำกัด หรือ SCBS ในการเข้าซื้อหุ้นสามัญและเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ “บริษัท บิทคับ ออนไลน์ จำกัด” (Bitkub Online Co., Ltd.) ผู้นำด้านศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลของประเทศไทย (Digital Asset Exchange) จาก “บริษัท บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด” ในสัดส่วนร้อยละ 51 ของจำนวนหุ้นทั้งหมด คิดเป็นมูลค่ารวมประมาณ 17,850 ล้านบาท นอกจากการลงทุนแล้วยังมีแผนที่จะพัฒนาธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลด้านต่าง ๆ ผ่านโมเดลทางธุรกิจรูปแบบใหม่ร่วมกับ Bitkub ซึ่งเป็นพันธมิตรทางธุรกิจเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มในระยะยาว และวางรากฐานในการเข้าสู่โลกการเงินแห่งอนาคตต่อไป

เผย !! หนังสือ "กระทรวงสาธารณสุข" ชี้แจง "กกต." กรณีห้าม "อสม." ปฏิบัติหน้าที่ หากลงสมัคร หรือช่วยงานผู้สมัคร อบต.  ยกเหตุผล ผิดหลักสากล ผิดระเบียบกระทรวงสาธารณสุข และยังมีเหตุระบาดโควิด-19 ส่วนเลือกตั้งมีกฎหมายเฉพาะอยู่แล้ว 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายธงชัย กีรติหัตถยากร รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านสนับสนุนงานบริการสุขภาพ ได้ทำหนังสือเลขที่ 0707/4460 ลงวันที่ 2 พฤศจิกายน 2564 ถึง เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง  เรื่อง ขอทบทวนการขอความร่วมมือให้ อสม. ที่สมัครเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตําบลหรือนายกองค์การบริหารส่วนตําบล หรือเป็นผู้ช่วยหาเสียงผู้สมัครรับเลือกตั้งงดปฏิบัติหน้าที่ โดยมีเนื้อหา ดังนี้ 

“ตามหนังสือที่อ้างถึง สํานักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ขอให้กระทรวงสาธารณสุขพิจารณา ให้อาสาสมัครสาธารณสุขประจําหมู่บ้าน (อสม.) ที่สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตําบล หรือนายกองค์การบริหารส่วนตําบล หรือเป็นผู้ช่วยหาเสียงผู้สมัครรับเลือกตั้งงดปฏิบัติหน้าที่ อสม. จนกว่า การเลือกตั้งจะแล้วเสร็จ นั้น

โฆษกรัฐบาลยืนยันผลสำเร็จ 'นายกฯ' เข้าร่วมการประชุมผู้นำโลก COP26 บทบาทผู้นำไทยโดดเด่นในเวทีระหว่างประเทศ โชว์ศักยภาพ และแนวนโยบายไทยที่โดดเด่น พร้อมเอาชนะปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วยนายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และคณะเดินทางกลับประเทศไทยภายหลังเสร็จสิ้นภารกิจการเป็นคณะผู้แทนประเทศไทยเข้าร่วมการประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (COP26) ณ เมืองกลาสโกว์ สหราชอาณาจักร โดยจะเดินทางถึงประเทศไทยช่วงเย็นวันนี้

การเข้าร่วมการประชุมระดับผู้นำ (World Leaders Summit) COP26 ของนายกรัฐมนตรีในครั้งนี้ เป็นการแสดงบทบาทของไทยในเวทีระหว่างประเทศ และเป็นการเดินทางระหว่างประเทศของนายกรัฐมนตรีในรอบ 2 ปี แสดงให้เห็นว่าไทยเน้นย้ำ ให้ความสำคัญ ถึงความมุ่งมั่นของไทยร่วมกับประชาคมโลกในการตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ โดยได้แสดงเจตจำนงในการยกระดับการแก้ไขปัญหาอย่างเต็มที่ ด้วยทุกวิถีทาง เพื่อให้ประเทศไทยบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน(Carbon Neutrality) ภายในปี ค.ศ. 2050 และบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ได้ในปี ค.ศ. 2065 โฆษกประจำสำนักฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า การเข้าร่วมการประชุม COP26 เป็นเพียงบทบาทหนึ่งของประเทศไทยในการร่วมกับประชาคมโลกเพื่อแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ที่ผ่านมานายกรัฐมนตรี ได้วางนโยบายของรัฐบาลให้ทุกส่วนงาน ร่วมกับภาคส่วนต่าง ๆ ในสังคมได้ดำเนินการทั้งในส่วนของการจัดทำและปรับปรุงนโยบาย กฎหมายและการปฏิบัติเกี่ยวกับด้านพลังงาน อุตสาหกรรม การขนส่ง และการเกษตร เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่เป็นสาเหตุของการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิเฉลี่ยของโลก รวมนี้ ในอนาคตไทยยังได้วางแนวทางการขับเคลื่อนและพร้อมบูรณาการการทำงานอย่างแข็งขัน ไว้ด้านต่างๆ อาทิ

ก้าวสำคัญ!! พัฒนาโลจิสติกส์ฮาลาล สู่ ฮับฮาลาลโลก

นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานคณะกรรมการส่งเสริมสินค้าและผลิตผลการเกษตรมาตรฐาน “ฮาลาล” เป็นประธานในการเปิดงานการลงนามบันทึกข้อตกลงร่วมกันระหว่างสถาบันฮาลาลมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์และโรงเรียนธุรกิจการขนส่งและการค้าระหว่างประเทศ (ITBS) เมื่อ​ 1 พ.ย.64​ โดยมี พล.ต.ต สุรินทร์ ปาลาเร่ เลขาธิการคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย รศ.ดร.อิสมาแอ อำลี ประธานฝ่ายกิจการฮาลาล คณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย, รศ.ดร.จุฑามาส ศตวุข รองอธิการบดีฝ่ายวิชาการมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์, นายสุวิทย์ รัตนจินดา ประธานสมาพันธ์ผู้ให้บริการโลจิสติกส์ไทยและประธานโรงเรียนธุรกิจการขนส่งการค้าระหว่างประเทศ​ (ITBS), ผศ.ดร.อัสมัน แตอาลี ผู้อำนวยการสถาบันฮาลาลมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ และทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องผ่านระบบ Facebook Live เพื่อประชาสัมพันธ์และเสริมสร้างความร่วมมือด้านองค์ความรู้ความเข้าใจด้านฮาลาลอย่างต่อเนื่อง แก่บุคลากรในสถานประกอบการ รองรับการพัฒนาด้านอุตสาหกรรมอาหาร ฮาลาลของประเทศไทยที่จะเติบโตในอนาคต


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top