Monday, 9 June 2025
Hard News Team

‘จุรินทร์’ ชมเปาะ ‘ทูตจีนคนใหม่’ ลึกล้ำ แค่เห็นของฝาก มองขาดขอช่วยส่งออกผลไม้

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า ท่านทูตจีนคนใหม่ “หาน จื้อเฉียง” เข้าพบที่กระทรวงพาณิชย์เมื่อวันก่อน…

หลังจากท่านรับข้อเสนอที่ผมขอให้จีนช่วยเปิดด่านทางบกจาก “เชียงของ” เข้าจีนที่ด่าน “โมฮั่น” และด่านเชียงแสนของไทยผ่านแม่น้ำโขง เข้าจีนที่ “ท่าเรือกวนเล่ย” ทางตอนใต้ของ “ยูนนาน” ทั้งคู่

เพื่อจะได้ “เชื่อมเหนือ-เชื่อมโลก” ต่อไปในอนาคต 

พร้อมทั้งผมได้ขอให้ท่านทูตช่วยสนับสนุนการส่งออก “ไก่ รังนก ข้าวและผลไม้” ของไทยไปจีนได้สะดวกคล่องตัวมากขึ้นด้วย 

หลังการเจรจา ท่านมีของที่ระลึกมาฝาก…

เป็นแจกันจีนเพนต์ภาพเขียนรูปกวางและนกกระเรียนงดงามมาก 

'ออมสิน' ดึงคนฝากเงินแถมลุ้นเงินล้าน 20 รางวัล

นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ธนาคารได้ออก 2 แคมเปญเงินฝาก เพื่อส่งเสริมการออมส่งท้ายปี จูงใจด้วยดอกเบี้ยสูงและร่วมลุ้นรางวัลพิเศษ โดยแคมเปญแรกได้แก่ เงินฝากสลากออมสินพิเศษ 2 ปี (ใบสลาก) จับรางวัลพิเศษ ระหว่างวันที่ 2 พ.ย. – 29 ธ.ค.2564 ร่วมลุ้นเงินรางวัลพิเศษ 1 ล้านบาท จำนวน 20 รางวัล ออกรางวัล 2 ครั้ง ในวันที่ 1 ธ.ค.64 จำนวน 10 รางวัล และ วันที่ 30 ธ.ค.64 อีก 10 รางวัล 

สำหรับสลากออมสินพิเศษ 2 ปี (แบบใบสลาก) ราคาหน่วยละ 100 บาท กำหนดผู้ฝากเป็นบุคคลธรรมดาอายุ 7 ปีขึ้นไป และนิติบุคคลทุกประเภท ฝากได้ที่สาขาธนาคารออมสิน ไม่จำกัดวงเงินฝากสูงสุด ระยะเวลาฝาก 2 ปี มีสิทธิลุ้นถูกรางวัล  24 ครั้ง กำหนดออกรางวัลทุกวันที่ 1 ของเดือน รางวัลสูงสุด รางวัลที่ 1 เป็นเงิน 5,000,000 บาท และรางวัลอื่น ๆ รวมถึงรางวัลเลขท้าย เมื่อฝากครบกำหนดจะได้รับดอกเบี้ยอีกหน่วยละ 0.10 บาท อัตราผลตอบแทนผู้ฝากขั้นต่ำเมื่อสลากครบกำหนดเฉลี่ยต่อปีตามจำนวนเงินฝาก ตั้งแต่ 0.05-0.35% ต่อปี ผู้ฝากเป็นบุคคลธรรมดา ดอกเบี้ยและเงินรางวัลจะได้รับการยกเว้นภาษี 

ทอ.เคลื่อนย้ายเฮลิคอปเตอร์แบบที่ 6 (UH-1H) หรือ ฮิวอี้ (Huey) หลังบรรจุประจำการกว่า 50 ปี ไปตั้งแสดง  พิพิธภัณฑ์กองทัพอากาศและการบินแห่งชาติ

พล.อ.อ.นภาเดช  ธูปะเตมีย์ ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) ได้สั่งการให้กรมช่างอากาศดำเนินการเคลื่อนย้ายเฮลิคอปเตอร์แบบที่6 (UH-1H) หมายเลข ทอ.7/12 ซึ่งบรรจุประจำการในกองทัพอากาศมากว่า 59 ปีและปัจจุบันได้ปลดประจำการแล้ว ไปตั้งแสดงที่พิพิธภัณฑ์กองทัพอากาศและการบินแห่งชาติ กองประวัติศาสตร์และพิพิธภัณฑ์ กรมสารบรรณทหารอากาศ เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์เกี่ยวกับกองทัพอากาศ เปิดโอกาสให้เยาวชนตลอดจนบุคคลทั่วไปที่มีความสนใจเกี่ยวกับอากาศยานได้เข้ามาศึกษาและเยี่ยมชม

กองทัพอากาศได้รับมอบเฮลิคอปเตอร์แบบ UH-1H จากกองทัพสหรัฐอเมริกา เมื่อปี พ.ศ.2511 โดยกองทัพอากาศได้กำหนดชื่อว่า “เฮลิคอปเตอร์แบบที่ 6” หรือ ฮ.6 หรือ ฮิวอี้ (Huey) เริ่มประจำการในฝูงบิน 32 กองบิน 3 โดยมีภารกิจสนับสนุนโทรคมนาคม ให้ความช่วยเหลือ กองทัพบก กองทัพเรือ นาวิกโยธิน และตำรวจตระเวนชายแดน ในการปฏิบัติการปราบปรามผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ ทำการบินขนส่งพัสดุและกำลังพลให้กับทุกเหล่าทัพ อีกทั้งภารกิจในการให้ความช่วยเหลือประชาชน รวมทั้งปฏิบัติภารกิจอื่น ๆ ตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชา ก่อนจะย้ายเข้าบรรจุประจำการ ณ ฝูงบิน ๒๐๓ กองบิน ๒ จังหวัดลพบุรี โดยมีภารกิจหลักคือ การบินค้นหาและช่วยชีวิตในพื้นที่การรบ

สำหรับเฮลิคอปเตอร์แบบที่ 6 ที่นำมาตั้งจัดแสดง ณ พิพิธภัณฑ์กองทัพอากาศและการบินแห่งชาติ ฯ กองทัพอากาศได้รับมอบเมื่อเดือนธันวาคม พ.ศ.2511 บรรจุประจำการครั้งแรก ณ ฝูงบิน 32 กองบิน 3 ในปี พ.ศ.2512 กองทัพอากาศได้พิจารณาจัดเฮลิคอปเตอร์แบบที่ 6 หมายเลข ทอ. 6/12 และ 7/12 เพื่อปฏิบัติภารกิจเป็นเฮลิคอปเตอร์พระที่นั่งแบบใหม่ทดแทนเฮลิคอปเตอร์แบบที่ 4 (เอช-34) ได้รับหมายเลขประจำฝูงบิน 3201 ซึ่งเฮลิคอปเตอร์แบบที่ 6 เครื่องดังกล่าว ปฏิบัติภารกิจบินรับ-ส่งเสด็จ ฯ เป็นระยะเวลานานสามปีตั้งแต่ พ.ศ.2512 - 2515 จึงถูกปรับระดับมาเป็นเฮลิคอปเตอร์พระที่นั่งสำรอง เปลี่ยนหมายเลขประจำฝูงบิน เป็น 3202 โดยกองทัพอากาศได้พิจารณาจัดเฮลิคอปเตอร์แบบที่ 6 หมายเลข 29/15  ซึ่งได้รับบรรจุเข้าประจำการเมื่อปี พ.ศ.2515 ปฏิบัติภารกิจเฮลิคอปเตอร์พระที่นั่งแทน

'สุพัฒนพงษ์' หวังเศรษฐกิจไทยปีหน้าโตพรวด 6%

นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงาน เปิดเผยในงานสัมมนาบูสอัพไทยแลนด์ 2022 เรื่องบูสอัพทุบโจทย์ใหม่เศรษฐกิจไทย ว่า เศราฐกิจไทยในปี 65 มีโอกาสขยายตัวได้ถึง 5-6% หากไม่มีการระบาดของไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่เกิดขึ้น โดยเชื่อว่าหากทุกคนร่วมไม้ร่วมมือกันรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ และความเชื่อมั่นภายในประเทศ โอกาสที่เศรษฐกิจไทยจะกลับมาฟื้นตัวได้เร็วก็เป็นไปได้ แต่อาจจะกลับไปไม่เหมือนเดิม เพราะจะกลายเป็นเศรษฐกิจในวิถีใหม่ ซึ่งจะมีความเข็มแข็งมากกว่าเดิม

ทั้งนี้ที่ผ่านมารัฐบาลพยายามสร้างระบบนิเวศน์ให้เอื้อกับการลงทุน และสร้างรายได้ใหม่ทางเศรษฐกิจเพื่อพลิกโฉมเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งบางอย่างต้องใช้เวลา แต่เชื่อมั่นว่าจะเริ่มเห็นผลที่ดีมากขึ้นเรื่อย ๆ เช่น เรื่องของการลงทุนที่เกิดจากนโยบายในการกระจายการลงทุนไปยังภูมิภาคต่างๆ โดยเฉพาะโครงการรถไฟทางคู่ และโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นในพื้นที่สำคัญของเศรษฐกิจ ทั้งสนามบิน และท่าเรือ ซึ่งเริ่มเห็นผลอย่างชัดเจนจากตัวเลขการลงทุน 9 เดือน (ม.ค.-ก.ย.64) พบว่า การขอส่งเสริมการลงทุนมีวงเงินสูงถึง 5.2 แสนล้านบาท มากกว่าช่วงเดียวกันปีก่อนและคาดว่าทั้งปีจะถึง 6 แสนล้านบาท ซึ่งมากกว่าปีก่อนที่จะมีการแพร่ระบาดของโควิด-19

ภาคเอกชนประเมินเศรษฐกิจกำลังดีขึ้น หวังส่งออกฟื้น

นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานสภาหอการค้าไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) เปิดเผยว่า ที่ประชุม กกร. ประเมินว่าสถานกาณ์ที่ดีขึ้นเป็นลำดับ พร้อมกับมาตรการภาครัฐที่มีเสริมขึ้นมาจะทำให้เชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจไทยปี 2564 จะขยายตัวในกรอบ 0.5 % ถึง 1.5%ส่วนการส่งออก กกร. ยังคงคาดว่ามีแนวโน้มจะขยายตัว 12.0% ถึง 14.0% ส่วนอัตราเงินเฟ้อทั่วไปจะอยู่ในกรอบ 1.0% ถึง 1.2% ซึ่งมองว่าตัวเลขนี้อยู่ในเงื่อนไขที่ไม่มีการระบาดซ้ำเพิ่มเติมและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ 

ทั้งนี้กกร.ยังมองว่า การเปิดประเทศเมื่อ 1 พ.ย.ที่ผ่านมา ช่วยหนุนเศรษฐกิจในช่วงโค้งสุดท้ายของปี การเปิดประเทศและการคลายล็อกดาวน์ส่งผลดีต่อความเชื่อมั่นผู้ประกอบการ และประชาชน โดยมีการคาดการณ์จากผู้ประกอบการโรงแรมว่า อัตราการเข้าพักน่าจะขยับขึ้นไปที่ระดับ 25% ในเดือนพ.ย. จากเดือนก.ย.ที่มี 15% ประกอบกับการจับจ่ายใช้สอยในภูมิภาคดีขึ้น ส่วนภาคการค้าปลีกมองว่า ผ่านจุดต่ำสุดที่ไตรมาส 3 มาแล้ว สอดคล้องกับมุมมองของนักธุรกิจต่างชาติในประเทศไทยก็เชื่อมั่นในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในไตรมาส 4 

“สงคราม” หวั่นคลัสเตอร์โรงเรียนหลังเปิดเทอมทำคุมเชื้อโควิดยาก อัดรัฐเมินป้องชีวิตเด็กเปิดเรียนบนความเสี่ยงไร้ชุดตรวจATKให้โรงเรียน  

นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อชาติ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์  เปิดเผยว่า จากการที่รัฐบาลกำหนดให้เปิดเทอมใหม่ ให้นักเรียนเรียนภายในห้องเรียนพร้อมกันทั่วประเทศ เป็นนโยบายที่น่าเป็นห่วงมากเพราะมีเด็กนักเรียนจำนวนมาก  ไปอยู่ในที่เดียวกันการป้องกันการแพร่เชื้อโควิด โรงเรียนจะมีความพร้อมมากแค่ไหน 

ในส่วนของการจัดหาชุดตรวจ ATK ให้กับด็กนักเรียนนั้น รัฐบาลเลือกที่จะโยนภาระให้เขตพื้นที่การศึกษา หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจัดหาในพื้นที่ต่างจังหวัด ซึ่งเป็นการไปเบียดบังงบประมาณของท้องถิ่น ทั้งๆที่รัฐบาลมีงบประมาณมหาศาล แต่กลับไม่นำออกมาปกป้องชีวิตเยาวชน  นอกจากนี้งบประมาณที่องค์กรปกครองท้องถิ่นเตรียมไว้ใช้ในงานอื่น แต่รัฐยังคับให้หน่วยงานเหล่านั้น นำงบประมาณทีมีอยู่ไปจัดหาชุดตรวจATK ให้กับโรงเรียนในพื้นที่ ซึ่งจะมีการการตรวจทุกๆสัปดาห์ ทั้งๆที่ผู้ปกปครองอยากให้มีการตรวจทุกวันแต่ติดที่ไม่มีงบประมาณมากพอ

นายสงคราม กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้บางพื้นที่มีการจัดชุดตรวจบางพื้นที่ให้ แต่บางพื้นที่ไม่มีการตรวจ อ้างว่ามีคนติดเชื้อน้อย ก็เลยไม่ตรวจ ซึ่งผลการดำเนินการของรัฐบาลมันย้อนแย้งกันและรัฐบาลไม่ให้ความสำคัญกับสุขๆอนามัยและความปลอดภัยของเด็กนักเรียน ทั้งๆที่เด็กเหล่านี้มีอัตราเสี่ยงสูงมาก ดังนั้นการเปิดเรียนในโรงเรียนคือการเสี่ยงต่อการติดเชื้อสูงมาก และจะกลายเป็นคสัสเตอร์ใหญ่ในอนาคต หากไม่มีการดำเนินการที่มีแนวทางที่ชัดเจน

‘อ.แพท’ ยกนิ้ว ‘บิ๊กตู่’ พูดได้ดีบนเวทีโลก ชี้! ผู้นำ ‘อ่านสคริปต์ - ใช้ภาษาถิ่น’ ไม่ใช่เรื่องแปลก

คุณพัฒนพงศ์ (แพท) แสงธรรม อาจารย์คณะศิลปศาสตร์ (ภาควิชาภาษาอังกฤษ) มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์เฟซบุ๊กถึงกรณีคนวิจารณ์ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี โชว์วิสัยทัศน์บนเวที COP 26 ที่ผ่านมา ว่า เบื่อกระบือ!! 
อันนี้ไม่เกี่ยวกับการเมือง เป็นความรู้เรื่อง public speaking

การพูดในระดับ keynote ปาถกฐา หรือสุนทรพจน์ คือ การพูดอย่างเป็นทางการ ไม่มีหลักการว่าต้องพูดปากเปล่า ย้ำว่า "ไม่มี" เพราะความแม่นยำถูกต้องในเนื้อหา ระดับภาษาเหมาะสม และมีวัจนลีลา จำเป็นต้องมีสคริปต์ที่ร่างมาเป็นอย่างดี การอ่านจากสคริปต์ จึงเป็นที่ยอมรับและปฏิบัติกันทั่วไป

ถ้าไม่ก้มหน้าอ่านจากสคริปต์ สามารถอ่านได้จาก teleprompter ซึ่งเป็นจอใส ที่จัดวางไว้ตรงหน้าโพเดียม หรือตรงเล็นส์กล้อง หรือ ด้านซ้ายและขวา เช่นในงาน COP26

ผู้พูดที่อ่าน teleprompter ไม่ถนัด ก็เลือกอ่านจากสคริปต์ตรงหน้า ใช้มือเปิดสคริปต์อ่านไปตามปกติ Boris Johnson นายกฯ อังกฤษ ก็ก้มหน้าอ่าน Alok Sharma ประธานงาน COP26 ก็ก้มหน้าอ่าน เลขาธิการสหประชาชาติก็ก้มหน้าอ่าน Patricia Espinosa เลขานุการบริหารของ UN ก็ก้มหน้าอ่าน และอื่น ๆ อีกหลายท่าน

ผู้ที่ใช้ teleprompter คล่อง จะมองด้านซ้ายที ขวาที เพราะมีจออ่านทั้งสองฟากของโพเดียม ไม่หันหน้าไปมุมอื่น มองเฉพาะจุดที่มีจอ เช่น ปธน. ไบเดน และเซอร์ ริชาร์ด แอทเทนเบอเรอห์

ไฟเขียว กทม. เก็บซากรถจอดไปขายได้ทันที ชี้!! ไม่ต้องรอเจ้าของ แก้ปัญหากีดขวางจราจร

เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน ที่ผ่านมากรณีปัญหาประเด็นข้อกฎหมายจากนโยบายการกำจัดรถเก่าที่จอดในที่สาธารณะ และกรุงเทพมหานคร มีนโยบายยกออกทันที ก่อนมีข้อสงสัยว่าจำเป็นต้องจอดรอเก็บไว้เพื่อรอเจ้าของเผื่อมาไถ่คืนหรือไม่ ล่าสุด คณะกรรมการกฤษฎีกาชี้แจงแล้ว ยืนยันไม่ต้องเก็บ ขายทิ้งได้เลย เอาเงินมาเก็บแทนได้

นายสกลธี ภัททิยกุล รองผู้ว่าฯ กทม. โพสต์ข้อความเล่ารายละเอียดเรื่องนี้ว่า “ข่าวดีสำหรับคนกรุงเทพฯ ข่าวร้ายของคนมักง่าย วันนี้มายกซากรถเขตวังทองหลาง จำนวน 5 คันรวด บริเวณซอยลาดพร้าว 47, 63, 87 แยก 7, 101 แยก 19 และ 114 ครับ…ข่าวดีคือประเด็นข้อกฎหมายที่สำนักเทศกิจถามไปยังคณะกรรมการกฤษฎีกาว่าจำเป็นต้องเก็บซากรถไว้ 1 ปี เพื่อรอเจ้าของเผื่อจะมาไถ่รถคืนก่อนการขายทอดตลาดหรือไม่?? สรุปคือไม่ต้องละครับ สำนักงานเขตสามารถขายเอาเป็นเงินมาเก็บไว้แทนได้เลย แบบนี้จะง่ายกับทางกรุงเทพมหานครไม่ต้องมีภาระในการหาสถานที่เก็บรักษาและหาคนดูแลครับ และยังจะได้ร่างระเบียบค่าขนย้ายและเก็บรักษาก่อนขายทอดตลาดโดยหักจากที่ขายทอดตลาดได้อีกด้วย…”

‘ทักษิณ’ ชี้ ‘ม.112’ ไม่เป็นปัญหา แนะคนเห็นต่างพูดคุยกัน ยุติดราม่า

เมื่อวันที่ 2 พ.ย. 64 นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Thaksin Shinawatra ต่อกรณีการเสนอให้แก้ไขหรือยกเลิก กฎหมายอาญามาตรา 112 โดยระบุว่า

“2-3 วันนี้ได้ฟังดราม่าเกี่ยวกับเรื่องมาตรา 112 จากทั้งฝ่ายเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยในการที่จะแก้ไขหรือยกเลิก ผมขอแสดงความคิดเห็นในฐานะที่เคยเป็นนายกรัฐมนตรีมา และผ่านการปรึกษาในเรื่องมาตรา 112 มาหลายครั้ง

ผมขอเล่าเป็นประสบการณ์ มาตรา 112 มีมานานตั้งแต่สมัยจอมพลสฤษดิ์ น่าจะประมาณปี 2500 ตัวกฎหมายเองไม่เคยเป็นปัญหา แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นทุกวันนี้ มันเกิดจากการปฏิบัติที่ไม่ถูกต้อง เพราะว่าบุคคลในกระบวนการยุติธรรมอาจจะเกิดจากความกลัวหรืออาจจะเกิดจากความอยากแสดงความจงรักภักดีโดยไม่ยึดหลักนิติธรรม แล้วเกิดการใช้อำนาจในทางที่ผิดหรือ Abuse of Power เพื่อหวังผล โดยเฉพาะอย่างยิ่งทางรัฐบาล เพื่อหวังผลทางการเมือง เลยทำให้เกิดความไม่พอใจ และยิ่งใช้มากก็ยิ่งเกิดความไม่พอใจมาก ซึ่งในสมัยก่อน สนง.ตำรวจแห่งชาติ จะมีคณะกรรมการพิจารณาเรื่องที่ร้องเรียนขึ้นมาว่าเป็นเรื่องของการจงใจที่จะละเมิดมาตรา 112 จริงหรือเปล่า และจำนวนคดีก็มีน้อย และทุกอย่างก็เป็นไปตามกระบวนการพิจารณาทางอาญา (Due Process of Law)

ฉะนั้นปัญหาก็น้อย แต่ช่วงนี้ปัญหาเยอะมาก ยิ่งใช้อีกฝ่ายหนึ่งก็มีความโกรธเคืองแล้วก็ไปโทษกันต่าง ๆ นานา ซึ่งผมเคยบอกแล้วว่า รัฐบาลน่าจะจับเข่าคุยกับกลุ่มเยาวชนที่เห็นต่างในทุกวันนี้ เราก็จะได้แนวทางที่อยู่ร่วมกันระหว่างคนในวัยที่ต่างกัน ถ้าจะเริ่มติดกระดุมใหม่ที่ติดผิดเม็ด ก็โดยการที่ปรับกระบวนการในการดำเนินคดีของ 112 เสียใหม่ ให้เหมือนในอดีตที่ทำอย่างเป็นระบบระเบียบ ไม่กลั่นแกล้ง ไม่หาเรื่อง แล้วก็ปล่อยผู้ถูกกล่าวหาให้ได้รับการประกันและใช้กระบวนการยุติธรรมทางอาญาและดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรมทางอาญาไป และพูดคุยกับเด็ก ๆ จะได้เข้าใจตรงกัน เราจะอยู่ร่วมกันต้องมีกติกา กติกาอะไรที่มันยอมรับกันได้ทุกฝ่ายเป็นเรื่องสำคัญ

'อัษฎางค์' วิเคราะห์ปมยกเลิก ม.112 ยก 12 ข้อเท็จจริง หมดเวลาปั่นล้มล้างสถาบันฯ

เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564 นายอัษฎางค์ ยมนาค นักประวัติศาสตร์ ได้โพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า 12 ข้อ ม.112 หมดเวลาบิดเบือน

หมดเวลาปั่นราษฎร์ล้มล้างสถาบันฯ ด้วยการเรียกร้องให้ยกเลิก ม.112 เพื่อจะหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้าย ของพรรคเพื่อดูไบและก้าวไม่ไปไหนไกล

• 1 มาตรา 112 เป็นเครื่องมือในการปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งดำรงตำแหน่งประมุขแห่งรัฐ ไม่ใช่เครื่องมือในการกำจัดคู่ต่อสู้ทางการเมือง

• 2 กฎหมายคุ้มครองประมุขของรัฐนั้นไม่ได้มีเฉพาะประเทศไทย แต่มีใช้ในทุกประเทศ ทั้งที่ปกครองแบบราชอาณาจักรที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข หรือปกครองแบบสาธารณรัฐ ที่มีประธานาธิบดี ก็ล้วนมีกฎหมายคุ้มครองประมุขของรัฐทั้งนั้น

• 3 โดยเฉพาะสถาบันพระมหาพระมหากษัตริย์ จะไม่สามารถไปดำเนินคดีกับใครได้ จึงต้องมีกฎหมายที่ไม่ให้ใครล่วงละเมิดสถาบันฯ

• 4 พระมหากษัตริย์อยู่เหนือการเมือง คือ พระองค์ท่านไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับการเมือง แต่นักการเมืองไปดึงท่านให้เป็นเครื่องมือทางการเมือง ด้วยการให้ร้ายป้ายสี

• 5 ความผิดต่อองค์พระมหากษัตริย์ไทยเป็นความผิดต่อความมั่นคงของรัฐ คนไทยหรือคนต่างด้าวไม่ว่ากระทำในหรือนอกราชอาณาจักรก็ต้องรับโทษ

• 6 จะยกเลิก ม.112 แล้วให้พระมหากษัตริย์ไปใช้กฎหมายหมิ่นประมาทเหมือนประชาชนทั่วไปไม่ได้ เนื่องจากพระมหากษัตริย์เป็นประมุขแห่งรัฐ ไม่ใช่บุคคลธรรมดา


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top