Wednesday, 9 July 2025
Hard News Team

“บิ๊กป้อม” เร่ง โครงการบำบัดน้ำเสียมีนบุรี สั่งหน่วยงานเกี่ยวข้องสำรวจแหล่งมลพิษ

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานประชุมคณะอนุกรรมการบริหาร พัฒนา อนุรักษ์และฟื้นฟูคลองแสนแสบ ครั้งที่ 1/65 ผ่านระบบวิดีโอ คอนเฟอร์เรนซ์ จากมูลนิธิป่ารอยต่อฯร่วมกับหน่วยงานเกี่ยวข้อง

โดยที่ประชุมเห็นชอบหลักการ โครงการบำบัดนำ้เสียมีนบุรี ระยะที่ 2( กทม.)ที่สามารถบำบัดน้ำเสียได้ 42,000 ลบ.ม.ต่อวัน โดยขอให้นำเสนอคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติพิจารณาก่อน และให้วางแผนการก่อสร้างให้สอดคล้องกับสถานการณ์น้ำ เพื่อไม่ให้กระทบการก่อสร้างและระบายน้ำ

นอกจากนั้นที่ประชุมรับทราบความคืบหน้าการดำเนินร่วมกันของ 8 หน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง ทั้ง กรุงเทพมหานครฯ  องค์การจัดการน้ำเสีย กรมเจ้าท่า กรมควบคุมมลพิษ กรมโรงงานอุตสาหกรรม กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม กรมชลประทาน และ จว.ฉะเชิงเทรา โดยมีงานที่สำคัญตามแผนหลัก 5 เป้าประสงค์ คือ  การแก้ไขปัญหามลภาวะและคุณภาพน้ำ  การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ การป้องกันและปราบปรามการบุกรุกทำลายทรัพยากรน้ำ การปรับปรุงภูมิทัศน์ และการเสริมสร้างความปลอดภัยในการสัญจรทางน้ำของประชาชน ซึ่งมีระยะเวลาดำเนินการ 11 ปี (64 - 67) รวม 84 โครงการ

ภาพรวมคลองแสนแสบ ยาวรวม 72 กม.เชื่อมโยงลุ่มน้ำเจ้าพระยาและบางปะกงในพื้นที่ กทม.และ ฉะเชิงเทรา ปัญหาคุณภาพน้ำโดยรวม พบอยู่ในสภาพเสื่อมโทรมมาก ปริมาณน้ำเสียที่ระบายลงคลอง 807,672 ลบ.ม.ต่อวัน โดยมีน้ำเสียที่ไม่มีการจัดการกว่าร้อยละ 50  และมีโรงงานอุตสาหกรรมในพื้นที่ ฉะเชิงเทรา 9 แห่ง อยู่ในข่ายเฝ้าระวังและตรวจสอบกำกับดูแล  มีแผนงานโครงการระบบรวบรวมและบำบัดน้ำเสีย ที่เตรียมการก่อสร้างรองรับใน 5 พื้นที่  สำหรับการเสริมสร้างความปลอดภัยในการสัญจรทางน้ำ ช่วงวัดศรีบุญเรือง - สำนักงานเขตมีนบุรี ส่วนต่อขยาย ระยะทาง 10.5 กม.คาดว่าจะเปิดให้บริการประชาชน ใน พ.ค.65 

พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ขอให้กระทรวงมหาดไทย กทม. รวมทั้ง กรมโรงงานอุตสาหกรรม กรมควบคุมมลพิษ เร่งสำรวจแหล่งกำเนิดมลพิษที่อยู่ริมคลองให้แล้วเสร็จภายในเดือน ก.พ.65 และบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังควบคู่กันอย่างเร่งด่วน เพื่อหยุดต้นทางน้ำเสียที่ไหลลงคลองให้ได้ โดยเฉพาะหลายชุมชน ที่ยังไม่มีการบำบัดน้ำเสีย ซึ่งต้องทำความเข้าใจและสร้างการมีส่วนร่วม โดยขอให้เยาวชนในสถานศึกษานำร่อง 8 แห่งเข้าร่วมกิจกรรม สร้างจิตสำนึกและการตระหนักรู้ไปพร้อมกัน

ดราม่า ‘Emergency Room’ สะท้อนการศึกษาไทย อยากได้โอกาสดีๆ ต้องมีเงินเป็นใบเบิกทาง

นายปฐม อินทโรดม กรรมการครีเอทีฟ ดิจิทัลอีโคโนมี สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ‘Pathom Indarodom’ ถึงปมดราม่าข้อสอบครูผู้ช่วย 64 ว่า ดราม่าวันนี้คือข้อสอบครูผู้ช่วยที่เจอคำถามว่า Emergency Room คืออะไร แล้วผู้สมัครแห่ตอบเหมือน ๆ กันว่า “สระว่ายน้ำ” เจอแบบนี้แล้วไม่แปลกใจที่โรงเรียนอินเตอร์ในเมืองไทยเปิดเพิ่มขึ้นทุกปี สวนกระแสเด็กเกิดน้อยสุดเป็นประวัติการณ์เพราะพ่อแม่กลัวว่าหากลูกเรียนในระบบแล้วต้องเจอครูแบบนี้คงไม่ต้องคาดหวังอนาคตกันพอดี

นอกเหนือจากนั้นโรงเรียนอินเตอร์เป็นทางเลือกสำหรับการออกจากกฎระเบียบหยุมหยิมทั้งเสื้อผ้าหน้าผม ฯลฯ พูดง่าย ๆ ว่าสังคมไทยเปิดโอกาสให้คนที่ไม่อยากทำตามกฎระเบียบได้ตั้งแต่เรียนชั้นประถม ด้วยการจ่ายแพงกว่าไปเรียนอินเตอร์แทนโรงเรียนปกติ

'กอบศักดิ์' ชี้!! 2 ตัวแปร ราคาน้ำมันโลกพุ่งสูงสุดในรอบ 8 ปี ลุ้นทะลุ 100 ดอลลาร์/บาร์เรล ก่อนร่วงเพราะ EV

นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ หรือ BBL / นักเศรษฐศาสตร์ผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาประเทศ การเงิน และตลาดทุน / อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึง แนวโน้มราคาน้ำมันโลกพุ่ง ระบุว่า... 

ราคาน้ำมันโลกพุ่งขึ้นสูงสุดในรอบ 8 ปี !!!

ล่าสุดทะลุ 90 ดอลลาร์/บาร์เรล อีกครั้ง

ทั้งยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอีกระยะ จาก (1) ความต้องการซื้อน้ำมันที่เพิ่มขึ้นจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจประเทศต่างๆ รวมทั้งจาก (2) ความขัดแย้งระหว่างประเทศ (Geopolitics) โดยเฉพาะกับรัสเซียที่ยูเครน และกับอิหร่าน ที่ทำให้อิหร่านมีปัญหาในการส่งออกน้ำมัน

ถ้าปัญหาที่ยูเครนลุกลามบานปลาย จะส่งผลต่อการส่งออกน้ำมันของรัสเซียที่มีสัดส่วนประมาณ 10% ของ World Supply ขณะนี้ และซ้ำเติมให้สถานการณ์ความตึงตัวของตลาดน้ำมันโลกแย่ขึ้นจากเดิม ไม่น่าแปลกใจว่าทำไมตลาดจึงกังวลใจเรื่องนี้มาก

รัฐบาล ชวนปชช.ไร้เอกสารสิทธิที่ดิน ร่วมโครงการ “บอกดิน 3” ใช้มือถือแจงตำแหน่ง 

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลขอเชิญชวนประชาชนผู้ที่มีที่ดินแต่ไม่มีเอกสารสิทธิ หรือมี ส.ค. 1 น.ส.3 น.ส.3 ก ต้องการให้ภาครัฐเข้าไปบริหารจัดการที่ดินให้ถูกต้องตามกฎหมาย สามารถแจ้งตำแหน่งที่ดินผ่านโทรศัพท์มือถือ ในโครงการบอกดิน 3 เปิดให้บริการประชาชนแล้ว ตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ. ถึงวันที่ 30 มิ.ย. 2565 โดยประชาชนสามารถแจ้งข้อมูลและตำแหน่งที่ตั้งที่ดินของตนเอง ผ่าน 3 ช่องทาง

1. สแกนเข้าระบบบน “บัตรบอกดิน” ได้ที่สำนักงานที่ดินทั้ง 461 แห่ง ทั่วประเทศ 2. เว็บไซต์ : Bokdin3.dol .go.th 3. Application “SMARTLANDS” เลือกหัวข้อ บอกดิน โดยผู้ที่ต้องการแจ้งข้อมูลตำแหน่งที่ดิน เดินทางไปยังแปลงที่ดินที่ต้องการแจ้งข้อมูลแล้วให้ยืนรอประมาณ 1 นาที จากนั้นเข้าระบบบอกดิน กดแจ้งตำแหน่งที่ดิน กรอกข้อมูลส่วนตัว หลังจากนั้น กรมที่ดินจะดำเนินการตรวจสอบในรายละเอียด รวบรวมข้อเท็จจริง หลักฐานต่าง ๆ และแจ้งกลับให้ผู้ครอบครองที่ดินทราบว่าจะมีวิธีดำเนินการอย่างไรต่อไป

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า โครงการบอกดิน 3 เป็นความร่วมมือของ กรมที่ดิน และกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย เพื่อแก้ไขปัญหาที่ดินทำกินของประชาชนให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น สร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสังคม ลดความเหลื่อมล้ำสร้างความเป็นธรรมในการกระจายการถือครองที่ดิน และช่วยลดค่าใช้จ่ายของภาครัฐ ด้วยการนำเทคโนโลยีดิจิทัล มาประยุกต์ใช้ในการทำงาน เพื่อให้บริการประชาชน สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี 

“โฆษกรรัฐบาล” วอน “ม็อบรถบรรทุก" เข้าใจรัฐบาล แจง ถ้าไม่ตรึงราคาพลังงาน ทำดีเซล พุ่งสูง 34 บาทต่อลิตร ยัน "นายกฯ" เน้นดูแลปชช.ภาพใหญ่

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวกรณีที่สหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย ประกาศจัดกิจกรรมรวมทัพรถใช้น้ำมันแพงวิ่งรถทั่วกรุงเทพ เพื่อแสดงพลังและจะขับไล่นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงาน ออกจากตำแหน่งในวันที่ 7-8 ก.พ.นี้ ว่า รัฐบาลเข้าใจทุกปัญหาและได้ตรึงราคาพลังงานไว้ ขอให้เข้าใจสถานการณ์ หากเปรียบเทียบกับประเทศเพื่อนบ้าน ราคาน้ำมันส่วนใหญ่เกิน 30 บาทต่อลิตร หรือใกล้เคียง ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น คุณภาพแต่ละประเภทอาจแตกต่างกัน

ยกเว้นประเทศมาเลเซีย ที่มีการผลิตน้ำมันในประเทศเกินความต้องการในประเทศ หากรัฐบาลไม่ตรึงราคาพลังงาน ราคาขายดีเซลที่แท้จริงจะสูงกว่านี้ อาจถึง 34 บาทต่อลิตร และหากทำตามที่เรียกร้องเดิมที่ 25 บาทต่อลิตร จะต้องใช้เงินสนับสนุนถึงเดือนละ 20,000 ล้านบาท ปีละ 240,000 ล้านบาท จำนวนเงินที่สูงเกินกว่าจะแบกรับไว้ได้

นายธนกร กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เน้นว่าต้องไม่บิดเบือนกลไกตลาดหรือสร้างภาระงบประมาณในอนาคต ให้ดูแลระดับราคาพลังงานให้เหมาะสมเพื่อดูแลประชาชนในภาพใหญ่ ลดผลกระทบต่อธุรกิจให้มากที่สุด ที่ผ่านมารัฐบาลและกระทรวงพลังงาน ใช้เงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเข้ามาช่วยเหลือประชาชน ด้วยการตรึงราคาค่าการตลาด และราคาดีเซลไม่เกิน 30 บาทต่อลิตร

“บิ๊กตู่” สั่งการต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติลงทะเบียน Thailand Pass  “ย้ำ” ไม่ประมาท การ์ดอย่าตก พร้อมหารือแนวทางการจัด Travel Bubble เพิ่มเติม

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ติดตามความคืบหน้าภายหลังมีการปรับนโยบาย เปิดรับนักท่องเที่ยวให้สามารถใช้ระบบ Test & Go ได้อีกครั้งเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา เพื่อสร้างโอกาสให้เกิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจในประเทศ และให้สอดคล้องกับสถานการณ์โลก ซึ่งส่งผลให้ยอดการลงทะเบียนผ่านระบบ Thailand Pass เพิ่มขึ้นภายในวันแรกรวมแล้วกว่า 35,046 ราย ซึ่งกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬายังคาดการณ์ว่า ยอดรวมการลงทะเบียนจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่องถึงกว่า 6 หมื่นราย โดยเฉพาะในช่วงเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม ซึ่งเป็นฤดูกาลท่องเที่ยวของไทย

สอดคล้องกับจำนวนนักท่องเที่ยวสะสมที่สามารถแบ่งแยกตามกลุ่มประเทศได้เป็น กลุ่มประเทศยุโรป 73.9% กลุ่มประเทศเอเชียตะวันออก 10.3% และกลุ่มประเทศอื่น ๆ 15.8% (สถิติข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 1-30 มกราคม 2565) สะท้อนให้เห็นถึงกลุ่มนักท่องเที่ยวจากตลาดยุโรปและเอเชียตะวันออกที่นิยมเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทยมากขึ้น รวมทั้งความเชื่อมั่นโดยรวมของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มีต่อประเทศไทย นายกรัฐมนตรีขอบคุณทุกหน่วยงานที่มีส่วนช่วยให้การดำเนินการตามนโยบายนี้เกิดขึ้น และเห็นผลสำเร็จเพราะมีผู้ให้ความสนใจจำนวนมาก

อย่างไรก็ดี ขอให้เข้มงวด เคร่งครัด ไม่ประมาทจนอาจส่งผลถึงมาตรการควบคุมทางสาธารณสุข รวมทั้ง ปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุขโดยพร้อมเพรียง ทั้งการยึดหลัก D-M-H-T-T D (เว้นระยะห่าง, สวมหน้ากากอนามัย, ล้างมือบ่อยๆ , ตรวจวัดอุณหภูมิ และสแกนแอปพลิเคชัน "ไทยชนะ" ก่อนเข้า-ออกสถานที่สาธารณะทุกครั้ง) ตามมาตรการ Universal Prevention หรือ การป้องกันการติดเชื้อแบบครอบจักรวาล ซึ่งเป็นแนวทางการปฏิบัติตนเพื่อป้องกันและลดความเสี่ยงในการติดเชื้อให้ได้มากที่สุด

โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า ประเทศไทยได้เตรียมความพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติมาอย่างต่อเนื่อง ผ่านการตลาดและการประชาสัมพันธ์ถึงความพร้อมและมาตรการด้านสาธารณสุขที่เข้มงวด รวมถึงมีการส่งเสริมแคมเปญกระตุ้นการท่องเที่ยวไทยประจำปี 2565 “Visit Thailand Year 2022” ด้วยแนวคิด “Amazing Thailand, Amazing New Chapters” ที่จัดทำโดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สอดรับกับแนวนโยบายของนายกรัฐมนตรีที่ต้องการพลิกโฉมประเทศไทยในทุกมิติภายหลังการเริ่มต้นเปิดประเทศเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 ซึ่งจะตอบสนองทุกความต้องการของนักท่องเที่ยว ผ่านเรื่องราวใหม่ๆ ที่มหัศจรรย์กว่าเดิม และมากกว่าที่เคยสัมผัส

รวมทั้ง จากการวางแผนกำหนดยุทธศาสตร์ด้านการท่องเที่ยวของรัฐบาล จะเตรียมการหารือเพื่อจัด Travel Bubble กับประเทศที่มีศักยภาพใช้เป็นกลยุทธ์ทางการท่องเที่ยวควบคู่กับการเดินทางท่องเที่ยวโดยทั่วไป ซึ่งอยู่ระหว่างการประสานงานและหารือร่วมกับประเทศต่าง ๆ เพื่อแลกเปลี่ยนนักท่องเที่ยวร่วมกัน โดยล่าสุดจะมีการพิจารณาร่วมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมและการท่องเที่ยว สาธารณรัฐประชาชนจีน ถึงความเป็นไปได้ในการแลกเปลี่ยนนักท่องเที่ยวระหว่างไทยและจีน รวมไปถึงการพิจารณาร่วมกับทางการมาเลเซีย ในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์นี้เช่นเดียวกัน

รัฐบาลเตรียมจับคู่ประเทศเดินทางนำร่อง 2 ประเทศ

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลเตรียมการหารือเพื่อจัด Travel Bubble หรือการจับคู่ประเทศเดินทาง กับประเทศที่มีศักยภาพใช้เป็นกลยุทธ์ทางการท่องเที่ยวควบคู่กับการเดินทางท่องเที่ยวโดยทั่วไป ซึ่งอยู่ระหว่างการประสานงานและหารือร่วมกับประเทศต่าง ๆ เพื่อแลกเปลี่ยนนักท่องเที่ยวร่วมกัน

โดยล่าสุดจะมีการพิจารณาร่วมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมและการท่องเที่ยว สาธารณรัฐประชาชนจีน ถึงความเป็นไปได้ในการแลกเปลี่ยนนักท่องเที่ยวระหว่างไทยและจีน รวมไปถึงการพิจารณาร่วมกับทางการมาเลเซีย ในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์นี้เช่นเดียวกัน

สำหรับแนวทางการจัด Travel Bubble เป็นการเปิดประเทศเพื่อการท่องเที่ยวตามพื้นที่ที่กำหนด เน้นการควบคุมและจัดการการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ให้อยู่ในมาตรการทางสาธารณสุข ซึ่งผู้ที่เดินทางภายใต้ Travel Bubble สามารถเดินทางภายใน Bubble ดังกล่าวได้โดยไม่ต้องถูกกักตัว ซึ่งจะทำเป็นข้อตกลงร่วมกันในลักษณะทวิภาคี (Bilateral Agreement) เพื่อกำหนดจำนวนคนที่จะอนุญาตให้เดินทางแลกเปลี่ยนกัน รวมทั้งการจัดการพิเศษ (Special Protocols) ได้แก่ การขอวีซ่า การโดยสารเครื่องบิน ที่พัก การเยี่ยมเยือน การมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างบุคคล และผู้รับประกัน 

ทั้งนี้นายกรัฐมนตรี ได้ติดตามความคืบหน้าภายหลังมีการปรับนโยบาย เปิดรับนักท่องเที่ยวให้สามารถใช้ระบบ Test & Go ได้อีกครั้งเมื่อวันที่ 1 ก.พ.ที่ผ่านมา เพื่อสร้างโอกาสให้เกิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจในประเทศ และให้สอดคล้องกับสถานการณ์โลก ซึ่งส่งผลให้ยอดการลงทะเบียนผ่านระบบ Thailand Pass เพิ่มขึ้นภายในวันแรกรวมแล้วกว่า 35,046 ราย ซึ่งกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ประเมินว่า ยอดรวมการลงทะเบียนจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่องถึงกว่า 6 หมื่นราย 

'แรมโบ้' คอนเฟิร์ม ทิ้ง พปชร. เตรียมซบ 'รวมไทยสร้างชาติ'

7 ก.พ. 65 - ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีมีกระแสข่าว นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ได้ลาออกจากสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เพื่อเข้าร่วมงานการเมืองกับพรรครวมไทยสร้างชาติ ตามที่เสนอข่าวไปนั้น

ล่าสุดมีการยืนยันว่า นายเสกสกล ได้มีหนังสือถึงนายทะเบียนพรรคการเมือง เพื่อยื่นใบลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ตั้งแต่วันที่ 27 ม.ค.ที่ผ่านมา

"แรมโบ้" ตะเพิด "เพื่อไทย" ถ้าไม่อยากทำงานในสภา ให้ลาออกไป อยู่ก็เปลืองภาษีประชาชน

นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึง กรณีสภาล่มซ้ำ พรรคเพื่อไทยเรียกร้องรัฐบาลรับผิดชอบ ว่า เมื่อตรวจสอบลึกลงไปพบว่าการที่สภาล่มแกนนำฝ่ายค้านอย่างพรรคเพื่อไทย มีส.ส.แสดงตนเพียงแค่ 2 คน คือ นายจาตุรงค์ เพ็งนรพัฒน์ ส.ส.ศรีสะเกษ และนายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม. แต่ไม่แสดงตน 129 คน ซึ่งที่น่าสังเกตคือ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาก็ไม่แสดงตนด้วยเช่นกัน 

นายเสกสกล กล่าวว่า ขณะที่นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ และรองหัวหน้าพรรคพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความในทวิตเตอร์ชี้แจง กรณีถูกตั้งคำถามเรื่องพรรคเพื่อไทยไม่แสดงตนร่วมเป็นองค์ประชุม ทำให้สภาล่มว่า เรื่อง สภาล่ม สองครั้งในสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น หลายคนสับสนว่าเหตุใด เพื่อไทย จึงไม่ร่วมเป็นองค์ประชุม แตกต่างจากก้าวไกลที่อยู่เป็นองค์ประชุม นายจุลพันธ์ ให้ข้อมูลว่าเหตุผลง่ายๆ คือเป้าหมายหลักของพรรคเพื่อไทย คือการยุติการสืบทอดอำนาจของ พล.อ.ประยุทธ์ และการที่สภาล่ม เป็นสัญญานชี้ว่ารัฐบาลไม่อาจคุมเสียงข้างมากในสภาได้ จะเป็นตัวเร่งให้ยุบสภาเร็วขึ้น ยืนยันพรรคเพื่อไทยอยากเลือกตั้ง คืนอำนาจให้ประชาชน

นายเสกสกล กล่าวว่า พฤติกรรมของพรรคเพื่อไทย ทำให้ประชาชนได้เห็นแล้วว่าส.ส.เพื่อไทย ไม่ได้ต้องการทำหน้าที่ผ่านกฎหมายสำคัญ ให้กับประชาชน  มุ่งหวังเล่นการเมืองเพื่อล้มรัฐบาลเพียงอย่างเดียว ไม่ได้สนใจ ว่าประชาชนจะได้รับความเดือดร้อน จากกฎหมายสำคัญ ต่าง ๆ จะล่าช้าออกไปอย่างไร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ไม่ได้ใยดี ต่อความต้องการเหล่านั้นของประชาชน  ส.ส.พรรคเพื่อไทย ต้องการอย่างเดียว คือสนใจ เรื่องการเลือกตั้งใหม่ เพื่อต้องการกลับมาเป็นรัฐบาล และต้องการพานายใหญ่ นายหญิงกลับประเทศ นั่นคือเป้าหมายของบรรดา ส.ส.พรรคเพื่อไทย 

โฆษกรัฐบาลเผย 'นายกฯ' สั่งการต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ลงทะเบียน Thailand Pass  ย้ำไม่ประมาท การ์ดอย่าตก พร้อมหารือแนวทางการจัด Travel Bubble เพิ่มเติม

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ติดตามความคืบหน้าภายหลังมีการปรับนโยบาย เปิดรับนักท่องเที่ยวให้สามารถใช้ระบบ Test & Go ได้อีกครั้งเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา เพื่อสร้างโอกาสให้เกิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจในประเทศ และให้สอดคล้องกับสถานการณ์โลก ซึ่งส่งผลให้ยอดการลงทะเบียนผ่านระบบ Thailand Pass เพิ่มขึ้นภายในวันแรกรวมแล้วกว่า 35,046 ราย

ซึ่งกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬายังคาดการณ์ว่า ยอดรวมการลงทะเบียนจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่องถึงกว่า 6 หมื่นราย โดยเฉพาะในช่วงเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม ซึ่งเป็นฤดูกาลท่องเที่ยวของไทย สอดคล้องกับจำนวนนักท่องเที่ยวสะสมที่สามารถแบ่งแยกตามกลุ่มประเทศได้เป็น กลุ่มประเทศยุโรป 73.9% กลุ่มประเทศเอเชียตะวันออก 10.3% และกลุ่มประเทศอื่น ๆ 15.8% (สถิติข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 1-30 มกราคม 2565) สะท้อนให้เห็นถึงกลุ่มนักท่องเที่ยวจากตลาดยุโรปและเอเชียตะวันออกที่นิยมเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทยมากขึ้น รวมทั้งความเชื่อมั่นโดยรวมของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มีต่อประเทศไทย

นายกรัฐมนตรีขอบคุณทุกหน่วยงานที่มีส่วนช่วยให้การดำเนินการตามนโยบายนี้เกิดขึ้น และเห็นผลสำเร็จเพราะมีผู้ให้ความสนใจจำนวนมาก อย่างไรก็ดี ขอให้เข้มงวด เคร่งครัด ไม่ประมาทจนอาจส่งผลถึงมาตรการควบคุมทางสาธารณสุข รวมทั้ง ปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุขโดยพร้อมเพรียง ทั้งการยึดหลัก D-M-H-T-T D (เว้นระยะห่าง, สวมหน้ากากอนามัย, ล้างมือบ่อยๆ , ตรวจวัดอุณหภูมิ และสแกนแอปพลิเคชัน "ไทยชนะ" ก่อนเข้า-ออกสถานที่สาธารณะทุกครั้ง) ตามมาตรการ Universal Prevention หรือ การป้องกันการติดเชื้อแบบครอบจักรวาล ซึ่งเป็นแนวทางการปฏิบัติตนเพื่อป้องกันและลดความเสี่ยงในการติดเชื้อให้ได้มากที่สุด

โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า ประเทศไทยได้เตรียมความพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติมาอย่างต่อเนื่อง ผ่านการตลาดและการประชาสัมพันธ์ถึงความพร้อมและมาตรการด้านสาธารณสุขที่เข้มงวด รวมถึงมีการส่งเสริมแคมเปญกระตุ้นการท่องเที่ยวไทยประจำปี 2565 “Visit Thailand Year 2022” ด้วยแนวคิด “Amazing Thailand, Amazing New Chapters” ที่จัดทำโดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สอดรับกับแนวนโยบายของนายกรัฐมนตรีที่ต้องการพลิกโฉมประเทศไทยในทุกมิติภายหลังการเริ่มต้นเปิดประเทศเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 ซึ่งจะตอบสนองทุกความต้องการของนักท่องเที่ยว ผ่านเรื่องราวใหม่ๆ ที่มหัศจรรย์กว่าเดิม และมากกว่าที่เคยสัมผัส 

รวมทั้ง จากการวางแผนกำหนดยุทธศาสตร์ด้านการท่องเที่ยวของรัฐบาล จะเตรียมการหารือเพื่อจัด Travel Bubble กับประเทศที่มีศักยภาพใช้เป็นกลยุทธ์ทางการท่องเที่ยวควบคู่กับการเดินทางท่องเที่ยวโดยทั่วไป ซึ่งอยู่ระหว่างการประสานงานและหารือร่วมกับประเทศต่าง ๆ เพื่อแลกเปลี่ยนนักท่องเที่ยวร่วมกัน โดยล่าสุดจะมีการพิจารณาร่วมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมและการท่องเที่ยว สาธารณรัฐประชาชนจีน ถึงความเป็นไปได้ในการแลกเปลี่ยนนักท่องเที่ยวระหว่างไทยและจีน รวมไปถึงการพิจารณาร่วมกับทางการมาเลเซีย ในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์นี้เช่นเดียวกัน


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top