Monday, 7 July 2025
Hard News Team

“บิ๊กป้อม” ประชุมคณะกรรมการ EIA ผ่านความเห็นชอบ 4 โครงการ พร้อมสั่ง จ.ระยอง ตั้งคณะทำงานเร่งติดตามการช่วยเหลือประชาชนที่รับผลกระทบน้ำมันรั่วด่วน และให้ทุกหน่วยงานให้ความสำคัญแก้ปัญหา PM 2.5 อย่างจริงจัง

ที่ ณ มูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อห้าจังหวัด พล.อ.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม ในฐานะโฆษกประจำรองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานประชุม คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ครั้งที่ 1/65 ผ่านระบบ VTC เพื่อติดตามขับเคลื่อนมาตรฐานสิ่งแวดล้อม 

โดยที่ประชุมรับทราบผลการดำเนินการ ปี 64 จากการสำรวจความเชื่อมั่นในกระบวนการ EIA พบว่า มีระดับความเชื่อมั่นร้อยละ 80.20 เห็นชอบ 404 โครงการ มีโครงการที่ยังดำเนินการอยู่ 6,299 โครงการ ได้รับการร้องเรียน 29 โครงการ และรับทราบผลติดตามการปรับลดอัตราการระบายมลพิษทางอากาศ 80:20 พบอัตราการระบายก๊าซออกไซด์ของไนโตรเจน และ ก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ ลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยขอให้ ทส.ดำเนินการต่อและผลักดันให้มีระบบฐานข้อมูลกลางให้มีหน่วยงานกลางกำกับดูแลทั้งในและนอกเขตนิคมอุตสาหกรรม สำหรับเรื่องร้องเรียน ขอให้ ทส.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ข้อมูลตอบผู้ร้องทุกราย เพื่อรับทราบข้อมูลและสถานะของโครงการไปพร้อมกัน

พล.อ.คงชีพ กล่าวต่อว่า ที่ประชุมยังรับทราบ แนวทางการบริหารจัดการขยะติดเชื้อ ที่มอบหมายให้ กระทรวงทรัพย์การธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ประสาน กระทรวงมหาดไทย (มท.) และ กระทรวงสาธารณะสุข (สธ.) เพื่อให้องค์กรปกครองท้องถิ่น บริหารจัดการแบบรวมศูนย์ ( Cluster ) และให้เอกชนเข้ามามีส่วนร่วมในอนาคต และรับทราบรายงาน กรณีการแก้ไขน้ำมันรั่วไหลกลางทะเลจังหวัดระยอง ซึ่งสามารถควบคุมดูแลสถานการณ์และขจัดคราบน้ำมันจนเสร็จสิ้นแล้วเมื่อ 1 ก.พ.65 และมอบหมายให้ ทส.ติดตามตรวจสอบคุณภาพสิ่งแวดล้อมและสถานภาพของทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งต่อเนื่อง เพื่อประเมินผลกระทบและฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมทั้งเรียกร้องค่าเสียหายที่เกิดขึ้นตามกฏหมายจากบริษัทฯ

พล.อ.คงชีพ กล่าวอีกว่า จากนั่นได้ร่วมกันพิจารณาและให้ความเห็นชอบ 4 โครงการ ประกอบด้วย โครงการรถไฟฟ้ารางเดียวสายสีเทา ระยะที่ 1 วัชรพล - ทองหล่อ โครงการระบบโครงข่ายไฟฟ้า 230 กิโลวัตต์ ตาก 2 - แม่สอด โครงการที่พักอาศัยผู้สูงอายุ รามา - ธนารักษ์ จังหวัดสมุทรปราการ และโครงการก่อสร้างทางวิ่งและทางขับที่ 2 สนามบินนานาชาติอู่ตะเภา และให้ความเห็นชอบกรอบการประชุมระหว่างประเทศ ที่จะจัดขึ้นใน มี.ค.65 ทั้งการประชุมสมัชชาสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติสมัยที่ 5  ณ ประเทศเคนยา และการประชุมรัฐภาคีอนุสัญญามินามตะ ว่าด้วยตลอดสมัยที่ 4 ณ ประเทศอินโดนีเซีย  รวมทั้งให้ความเห็นชอบการกำหนดอัตราค่าบริการในการจัดการมูลฝอยติดเชื้อขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นซึ่งครอบคลุมค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริงและคาดการณ์ต้นทุนในระยะเวลา 20 ปี และ การกำหนดมาตรฐานควบคุมการระบายน้ำทิ้งจากสถานที่ฝังกลบมูลฝอย อย่างถูกหลักสุขาภิบาล 

ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตร ได้กำชับขอให้ทุกส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง นำเรื่องที่พิจารณาและให้ความเห็นชอบร่วมกันแล้ว เสนอ ครม. ต่อไป  พร้อมทั้งย้ำให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วมและสร้างความเข้าใจในกระบวนการและมาตรการสิ่งแวดล้อมร่วมกันให้มากขึ้น  ทั้งนี้ต้องไม่ละเลยในทุกเรื่องที่มีการร้องเรียน โดยต้องให้ข้อมูลและทำความเข้าใจ  ยึดประโยชน์ส่วนรวมเป็นเป้าหมายหลักของการดำเนินการร่วมกัน

“ปัญหาน้ำมันรั่วไหล ขอขอบคุณกองทัพเรือ ที่เป็นหลักสนับสนุนการดำเนินการอย่างทันท่วงทีและต่อเนื่องที่ผ่านมา และขอให้ ทส.ประสานกับ มท.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงสำรวจความเสียหายจากผลกระทบที่เกิดขึ้นทั้งชายฝั่งและใต้ทะเลให้ทั่วถึง โดยให้ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง จัดตั้งคณะทำงานติดตามการแก้ปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบ และเร่งรัดให้บริษัทสตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) รับผิดให้การช่วยเหลือเยียวยาเป็นการเร่งด่วนให้ทั่วถึงโดยเร็ว”พล.อ.คงชีพ กล่าว

“บิ๊กตู่” สั่งทุกหน่วยงานดันส่งออก ปีนี้โตต่อเนื่อง 

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้รับทราบรายงานของทรวงพาณิชย์เกี่ยวกับสถานการณ์การส่งออกในภาพรวมทั้งในส่วนข้อมูลปี 2564 ที่มูลค่าการส่งออกสูงสุดเป็นประวัติการณ์  271,173.5 ล้านเหรียญสหรัฐ มีอัตราการเติบโตที่ 17.1% และการประเมินการเติบโตในปี 2565 ที่คาดว่าจะขยายตัวต่อเนื่องที่ 3.0 – 4.0%  

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้กำชับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการเพื่อรักษาความต่อเนื่องของการส่งออกที่ขณะนี้กำลังได้รับปัจจัยสนับสนุนจากทั้งการขยายตัวของเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าอุตสาหกรรมของหลายประเทศกำลังฟื้นตัว ความตกลง RCEP ที่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2565 ซึ่งความต่อเนื่องของการส่งออกจะสร้างความความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจในภาพรวม เพราะเป็นภาคเศรษฐกิจที่มีขนาดใหญ่ และส่งผลไปถึงการจ้างงานทั้งในอุตสาหกรรมหลักและเอสเอ็มอีที่เกี่ยวเนื่องในห่วงโซ่การผลิต  

เริ่มแล้ว! ฝ่ายค้านซักฟอกรัฐบาล “หมอชลน่าน” ซัด “บิ๊กตู่” ตัวปัญหา ทำประเทศ “แพง จน พัง” ทั้งแผ่นดิน แนะ ยุบสภา – ลาออก หยุดทรมานประชาชน

ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อซักถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 โดยมีนายชวน หลีกภัย ประธานสภา ผู้แทนราษฎร เป็นประธานการประชุม โดยก่อนเข้าสู่การอภิปราย นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ในฐานะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน ในสภาผู้แทนราษฎร (วิปฝ่ายค้าน) ชี้เเจง ข้อตกลงการประชุมทั้ง 2 วัน คือ วันที่ 17-18 ก.พ.นี้ ว่า จะประชุมตั้งแต่เวลา 09.30 - 00.00 น. โดยจะใช้เวลาอภิปราย 15 ชม. ในวันแรก ส่วนวันที่ 2 จะเริ่มเวลา 09.00 - 00.00 น.เช่นกัน สัดส่วนเวลาพรรคร่วมฝ่ายค้าน มี 22 ชม. พรรคร่วมรัฐบาล และคณะรัฐมนตรี (ครม.)  8 ชม. ส่วนการแบ่งเวลาอภิปรายของฝ่ายค้านแต่ละพรรคมีการแบ่งเวลาที่ชัดเจนแล้ว

ด้าน นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะรองประธานวิปรัฐบาล ชี้เเจงว่า โควต้าพรรคร่วมรัฐบาล ได้เวลาอภิปราย 8 ชม. จะแบ่งวันละ 4 ชม. เเบ่งเป็นของพลังประชารัฐ 44 นาที ภูมิใจไทย 27 นาที ประชาธิปัตย์ 23 นาที พรรคเล็กที่เกินกว่า 1 คน พรรคละ 6 นาที และพรรคเล็กที่มีพรรคละ1 คน ได้ 4 นาที

จากนั้น นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน แถลงเปิดญัตติว่าด้วยปรากฎข้อเท็จจริงว่าสถานการณ์ด้านเศรษฐกิจของประเทศขณะนี้ ส่งผลกระทบต่อการดำเนินการชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนอย่างรุนแรง ข้าวของแพง ค่าแรงถูก อันสืบเนื่องจากการบริหารราชการแผ่นดินที่ล้มเหลงผิดพลาดทุกด้านของรัฐบาลนี้ โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจที่ตกต่ำ และทรุดตัวอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่ยึดอำนาจมาจนถึงรัฐบาลปัจจุบันซึ่งเป็นรัฐบาลเดียวกัน มีการก่อหนี้สาธารณะสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่หนี้ครัวเรือนของประชาชน และอัตราการว่างงานของนักศึกษาจบใหม่สูงขึ้น เมื่อเกิดการแพร่ระบาดของโควิด - 19 มาตรการแก้ปัญหากลับไม่มีความชัดเจน

ซึ่งแน่นอนว่ายิ่งทำให้เศรษฐกิจของประเทศดิ่งเหว การท่องเที่ยวได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง นอกจากนี้ การจัดการจัดหาวัคซีนยังล่าช้าไร้ประสิทธิภาพ ต่อมาเกิดการแพร่ระบาดของโรคระบาดในสัตว์ และเกิดเชื้อแอฟริกาในสุกร ทำให้สุกรขาดตลาด เนื้อสุกรราคาสูงขึ้นมาก แต่รัฐบาลกลับปกปิดข้อมูลการระบาดของโรคจนทำให้การะบาดกระจายไปทั่วประเทศ เกษตรกรได้รับความเสียหายเดือดร้อนในวงกว้าง แต่กลับมีข้อมูลเอื้อประโยชน์ให้กลุ่มทุนรายใหญ่ การแก้ปัญหาโรคระบาดทั้งคน และสัตว์ขาดความรู้ภูมิปัญญา 

นพ.ชลน่าน กล่าวต่อว่า ปัญหาสิ่งแวดล้อมนับวันยิ่งทวีความรุนแรง ส่งผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยประชาชน แม้เกิดขึ้นซ้ำซากทุกปี แต่รัฐบาลไม่มีการแก้ปัญหาที่เหมาะสม มีการนำงบประมาณไปแลกเปลี่ยนใช้จ่ายแก้ปัญหาในการกระทำที่ผิดพลาดของนายกรัฐมนตรี กรณีเหมืองทองอัครา การแก้ปัญหาประมงที่ล้มเหลว การปฏิรูปการเมืองที่กำหนดในรัฐธรรมนูญ และยุทธศาสตร์ชาติ ไม่มีความคืบหน้า เหตุเพราะรัฐบาลขาดความจริงใจ วิสัยทัศน์ผู้นำที่ไม่ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลก ทำให้ไทยต้องสูญเสียโอกาสทางเศรษฐกิจมหาศาล และสูญเสียโอกาสที่จะได้จากความร่วมมือในกลุ่มเอเปค การบริหารราชการแผ่นดินส่อในทางทุจริต หลายเรื่องส่งผลกระทบต่องบประมาณแผ่นดิน ซึ่งจากรายงานของวุฒิสภา

และหน่วยงานภายนอกพบว่า รัฐบาลนี้มีการทุจริตสูงมาก ส่งผลให้การทุจริตคอร์รัปชั่นในประเทศสูงขึ้น รวมถึงปัญหายาเสพติดขยายวงกว้างในหลายพื้นที่ และเป็นแหล่งส่งออกไปต่างประเทศทำให้ประเทศเสียหาย ถือได้ว่าขณะนี้เป็นวิกฤตของประเทศ จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจึงเป็นกรณีจำเป็นที่ ส.ส.ในฐานะผู้แทนปวงชนชาวไทย ต้องสอบถามข้อเท็จจริงต่อครม. ในการแก้ปัญหาเรื่องต่างๆ และหาข้อสรุปเพื่อให้การบริหารราชการแผ่นดินเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพตรงเป้าหมาย เพื่อประโยชน์ของประชาชนต่อไป
นพ.ชลน่าน กล่าวต่อว่า ญัตตินี้ไม่ต้องมีมติ มีลักษณะเหมือนกระทู้ แต่ไม่ใช่กระทู้ เป็นการซักถามข้อเท็จจริง และเสนอต่อครม. ไม่ได้มุ่งหมายต่อรัฐมนตรีคนใดคนหนึ่ง เพื่อประโยชน์ของประชาชนเจ้าของอำนาจอธิปไตย ที่ต้องการรู้ว่าทำไมถึงตอนนี้พวกเขามีความทุกข์ลำบากยากแค้น ถือเป็นญัตติแพงทั้งแผ่นดิน จนพังทั้งแผ่นดิน นี่คือการทำงานร่วมกันเพื่อบ้านเมือง เพราะเราจะเสนอแนะรัฐบาลเพื่อนำไปแก้ไขให้กับประชาชน เราจะบอกปัญหาที่รัฐมนตรีไม่รู้ว่าเป็นปัญหา และไม่รู้ว่าจะแก้อย่างไร เพื่อประโยชน์ของประชาชนให้เร็วที่สุด

โดยปัญหาเศรษฐกิจพี่น้องคนไทยทุกข์ระทมกับของแพงทั้งแผ่นดิน ส่วนรายได้แสนจะถูก ชีวิตความเป็นอยู่ยุ่งยากซับซ้อน จนเกิดปัญหาสังคมตามมา รวมถึงปัญหาสิ่งแวดล้อมที่เกิดจากการบริหารงานล้มเหลว และปัญหาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ทั้งยังก่อให้เกิดปัญหาหนี้สาธารณะ หนี้ครัวเรือน จนหนี้ท่วมประชาชน นอกจากนี้ ยังมีวิกฤตการใช้งบเงินกู้ และการจัดสรรงบประมาณปี 65 ที่ไม่เหมาะสม รัฐบาลบริหารล้มเหลวจนเกิดเงินเฟ้อของแพง ที่ไม่เหมือนกับประเทศอื่น เพราะเป็นเงินเฟ้อจากต้นทุนการผลิตที่สูง ค่าแรงถูก และคนตกงานทั้งแผ่นดิน เป็นความผิดพลาดจากนายกฯ และครม. ที่ใช้มาตราการผิดพลาดบกพร่อง สิ่งที่จะต้องขุดต่อคือ เรื่องความสามารถในการแข่งขันของไทย ที่มีความสามารถที่ย่ำแย่ ระบบการเงินที่ไม่เอื้อต่อการลงทุน ผู้ประกอบการรายย่อยล้มหายตายจาก

ขณะที่การพัฒนาประเทศในยุคดิจิตอล ประเทศเราสูญเสียโอกาสมากในการบริหารงานด้านนี้ ซ้ำร้ายที่สุดคือมีกลไกการโกงการหาประโยชน์จากระบบนี้ด้วย รายได้จากภาคการท่องเที่ยวก็ล้มเหลวหดตัว เข้าใจได้ว่าเกิดสถานการณ์โควิด - 19 แต่เมื่อเปรียบเทียบประเทศอื่นๆทำไมเขาฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว สิ่งที่ต้องถามคือทำไมการระบาดของโควิด – 19 ยังอยู่ถึงปัจจุบัน ท่านอาจจะโชคช่วยเพราะเกาะโรคเพื่อให้ท่านดำรงอยู่ ท่านจึงเลี้ยงโรคเลี้ยงไข้ ซึ่งโชคดีที่โอมิครอนเข้ามาช่วยชีวิตท่านไว้ 

นพ.ชลน่าน กล่าวอีกว่า ความล้มเหลววิกฤตทางการเมือง ไม่ว่าจะเป็นภาพการสร้างธุรกิจการเมือง สภาเสื่อม มีทั้งกล้วยทั้งฉีดวัคซีน 20 – 30 ล้าน ที่มีข่าวอยู่ในสังคมขณะนี้เป็นข้อสงสัยที่ท่านต้องตอบ ฝากถามนายกฯว่าทำไมจึงยอมให้เกิดภาพอย่างนี้ ทำไมต้องแจกกล้วย เพราะทำให้การปฏิรูปการเมืองล้มเหลว ส่งผลกระทบไปทุกเรื่อง

ข้อผิดพลาดอีกเรื่องที่ต้องพูดคือทำไมท่านต้องออกพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) การประมง พ.ศ.2558 ท่านบอกออกเพื่อแก้ใบเหลืองจากเรื่องไอยูยู หรือ ประมงที่ทำผิดกฎหมาย แต่กลับก่อเกิดปัญหาอย่างมากมาย เพราะไร้การรายงานควบคุมตรวจสอบ ผู้ประกอบการได้รับความเสียหายปีละ 2 แสนล้านบาท ถ้าใช้สมองสติปัญญาอย่างรอบคอบคิดว่าท่านคงไม่กล้าออกพ.ร.ก.นี้ เพราะไม่คุ้มแต่ยังส่งผลกระทบมาถึงปัจจุบัน แม้ว่าพี่น้องสมาคมชาวประมงจะขอแก้กฎหมาย แต่ถูกตีตกทั้งหมด นายกฯไม่ยอมเซ็นเข้าสู่สภา ทั้งหมดนี้ก่อให้ประเทศเกิดปัญหาแพงทั้งแผ่นดิน จนทั้งแผ่นดิน พังทั้งแผ่นดิน จนเกิดจากวิกฤตทางการเมือง 

“เหตุของปัญหาอยู่ที่การเมือง ท่านยึดอำนาจเข้ามาสู่อำนาจ มุ่งสืบทอดอำนาจด้วยการวางโครงสร้างรัฐธรรมนูญ การใช้อำนาจหลังได้อำนาจก็ไม่ชอบธรรม เอื้อประโยชน์ ไม่เห็นหัวประชาชน ถ้าท่านใช้อำนาจถูกต้อง แพง จน พัง จะไม่เกิดขึ้น ประชาชนจะไม่เดือดร้อนขนาดนี้ ระบบการตรวจสอบการใช้อำนาจบิดเบี้ยว บิดเบือน โดยเฉพาะสภาที่ทำหน้าที่ตรวจสอบการบริหารราชการแผ่นดินก็ทำงานได้ยากลำบาก ทั้งที่การตรวจสอบการควบคุมการบริหารเป็นหน้าที่ของสภา" นพ.ชลน่าน กล่าว 

นพ.ชลน่าน กล่าวต่อว่า ตัวเลขการเลือกตั้งปี 62 ท่านได้ 255 เสียง ท่านก็ใช้กลไกที่บัญญัติในรัฐธรรมนูญจัดการรวบรวมทุกวิถีทางทำให้ท่านได้เสียงถึง 275 เสียง รัฐธรรมนูญเปิดโอกาสบัตรใบเดียวให้พรรคขนาดเล็กเข้ามาในสภา ท่านก็เชื้อเชิญเข้ามาด้วยกลไกทำให้หลายพรรคเล็กต้องจำยอม แต่นั่นคือกับดักของการเข้าสู่อำนาจ เสมือนดีแต่คือการทำลายล้างประชาธิปไตย เพราะการที่ท่านพยายามรวบรวมเข้ามา และการยุบพรรคที่เขาได้ส.ส.เยอะ ถ้าไม่เรียกว่าทำลายล้างจะเรียกว่าอะไร สิ่งเหล่านี้คือต้นเหตุของปัญหา

สี จิ้นผิง จี้ ฮ่องกง ทุ่มกำลังเร่งคุมโควิด หลังติดเชื้อพุ่ง - คนป่วยล้นโรงพยาบาล

สี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน ออกโรงเตือนผู้นำฮ่องกงให้ทุ่มกำลังทั้งหมดเพื่อควบคุมการระบาดของโควิด-19 ในเขตบริหารพิเศษแห่งนี้ หลังผู้ติดเชื้อพุ่งไม่หยุด จนผู้ป่วยต้องนอนนอกโรงพยาบาล

สำนักข่าว แชนเนลนิวส์เอเชีย รายงานว่า จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายวันในฮ่องกงพุ่งขึ้นมากกว่า 40 เท่าจากตัวเลขเมื่อช่วงเริ่มต้นเดือนกุมภาพันธ์ โดยล่าสุดในวันพุธที่ 16 ก.พ. 65 ทางการรายงานพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ถึง 4,285 รายในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ไม่รวมผู้ที่มีผลตรวจเบื้องต้นเป็นบวกอีกกว่า 7,000 คน

เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา นางแคร์รี หล่ำ ผู้บริหารสูงสุดของฮ่องกง ออกมายอมรับว่า การตอบสนองต่อการระบาดของรัฐบาลของเธอไม่เป็นที่น่าพอใจ และโรงพยาบาลกับเจ้าหน้าที่การแพทย์กำลังรับมือผู้ป่วยที่เพิ่มมากขึ้นไม่ไหว

ล่าสุดหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นหลายฉบับในจีนรายงานตรงกันว่า ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ได้แสดงความกังวลถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และแสดงความห่วงใยชาวฮ่องกงผ่านนาย ฮั่น เจิ้ง รองนายกรัฐมนตรี เขายังสั่งการให้รัฐบาลของนางหล่ำทุ่มกำลังและทรัพยากรทั้งหมด เพื่อใช้มาตรการทุกอย่างที่จำเป็น เพื่อรับรองความปลอดภัยและสุขภาพของชาวฮ่องกง และรับประกันเสถียรภาพในสังคม

“แรมโบ้” ย้อน “ทักษิณ” ดักทางส.ส.ออกจากคอก อัด ไม่เคยสำนึกบุญคุณใคร ท้า อยากด่า “แรมโบ้” ก็ด่ามาตรงๆ  

ที่รัฐสภา นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณี นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีระบุ ส.ส.ฝ่ายค้านรับการฉีดวัคซีนจากรัฐบาล 20-30 ล้าน พร้อมรับรายเดือนเดือนละ 2 แสนบาท ว่า นายทักษิณ (โทนี่) รู้ทุกเรื่องในจักรวาล แต่พูดเรื่องไหนก็ผิดเรื่องนั้น ตั้งแต่รัฐบาลไม่สามารถฉีดวัคซีนได้ 100 ล้านโดสในปี 64 ถ้าฉีดได้ บาทนึงเอาขี้หมากองเดียว แต่พอฉีดได้แล้วไม่เห็นเงินสักบาท ตนอายแทนนายทักษิณ เหมือนคนนั่งเทียน ด้นทุกอย่าง และการพูดดังกล่าวเหมือนดูหมิ่นดูแคลน ส.ส. ถ้าตนเป็นส.ส.เพื่อไทยจะถามกลับว่า ส.ส.ที่ไปนั่งกินกับซีกรัฐบาลคือใคร

ตนก็ไม่รู้ว่ามีอะไรยัดปากส.ส.เพื่อไทยถึงไม่ออกมาพูด และชี้แจง และอยากถามไปที่นายทักษิณ ว่า ส.ส.ที่ว่านั้นชื่ออะไรไม่ใช่มานั่งเทียน เตะตัดหน้าแข้ง นี่ถือเป็นเทคนิคของนายทักษิณ ที่กลัว ส.ส.สมุนในคอกตัวเอง ที่ด้อยค่า และเปรียบเป็นสุนัขจะออกจากคอก หรือเป็นการดักไม่ให้ฝ่ายค้านมาร่วมกับฝ่ายรัฐบาล ที่เป็นพฤติกรรมเดิมๆ เพราะเป็นผู้กำกับ กำหนด บังคับ ขู่เข็ญ เอามติเผด็จการในพรรค เพื่อไม่ให้ทุกคนขยับได้นอกจากตัวเอง นี้คือผู้นำเผด็จการตัวจริงชัดเจน ซึ่งข้อเท็จจริงไม่มีส.ส.ที่ไหนจะมีพฤติกรรมเหมือนที่นายทักษิณกล่าวอ้าง สิ่งที่นายทักษิณพูด ไม่เคยเชื่อว่าเป็นความจริง ดังนั้นควรปิดคลับเฮ้าท์ที่นายทักษิณพูดได้แล้ว อย่าปล่อยให้มาทำลายบ้านเมืองให้เกิดความแตกแยก 

"สุชาติ" เย้ย ฝ่ายค้าน ไร้กึ๋นเขียนญัตติไม่ถูก ท้า ให้อภิปรายเรื่องแรงงาน จะตอกกลับ

ที่รัฐสภา นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ในฐานะผู้อำนวยการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)ให้สัมภาษณ์หลังการประชุมส.ส.พรรคพปชร. ว่า พล.อ.ประวิตร กล่าวในที่ประชุมโดยย้ำหลังปิดสมัยประชุมสภาฯ ให้ส.ส.ทุกคน ต้องลงพื้นที่ดูแลพื้นที่ตัวเอง รวมทั้งดูเรื่องผู้สูงอายุ และในเรื่องการแพร่ระบาดโควิด-19 นอกจากนี้หัวหน้าขอบคุณนายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวพรรค เรื่องสถิติที่ที่ออกมาพบว่าสถิติการโหวตของพรรคพปชร.สูงสุดในสภาฯถึง 89.1 เปอร์เซ็นต์ มากกว่าพรรคการเมืองอื่น นี้คือสิ่งที่เราได้เห็น

นายสุชาติ กล่าวว่า หัวหน้าพรรค พูดถึงการประชุมใหญ่สามัญประจำปีของพรรค ที่จะมีการรายงานงบการเงินของพรรค ซึ่งเป็นไปตามกฎหมายคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โดยให้นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง ในฐานะรักษาการเลขาธิการพรรค ไปหารือถึงความเหมาะสมจะเป็นวันไหนเดือนไหน

นายสุชาติ กล่าวว่า ส่วนการประชุมสภาฯ เป็นเรื่องของการอภิปรายทั่วไป มาตรา 152 ที่จะไปกล่าวหารัฐบาลเหมือนกับการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ตามมาตรา151 ไม่ได้ อาจจะแค่พูดแนะนำรัฐบาล โดยรัฐบาลจะชี้แจงว่าอันไหนทำแล้ว หรือันไหนที่ยังไม่ได้ทำ เพราะอะไร จะเป็นลักษณะของการถามคณะรัฐมนตรี (ครม.)และนายกรัฐมนตรี มากกว่า 

ผู้สื่อข่าวถามว่าฝ่ายค้านหวังว่าการอภิปรายฯครั้งนี้ จะเป็นการเปิดแผล เพื่อนำไปสู่การอภิปรายสมัยหน้า โดยหวังให้รัฐบาลยุบสภาก่อน นายสุชาติ กล่าวว่า ฝ่ายค้านเข้าใจบทบาทผิดหรือเปล่า แต่นี่เป็นการอภิปรายทั่วไป ซึ่งในญัตติที่เขียนมาอย่าง เช่น นักศึกษาจบใหม่ว่างงาน แต่กลับไปให้สัมภาษณ์ว่าส่งแรงงานไปทำงานที่ประเทศซาอุดีอาระเบียทำไม งานในประเทศไทยก็เยอะแยะ คนไทยยังไม่พอทำต้องเอาต่างด้าวมาทำแต่ฝ่ายค้านกับเขียนญัตติว่านักศึกษาใหม่ว่างงาน แค่เขียนญัตติยังเขียนไม่ถูกเลย ตนก็งง ฝ่ายค้านต้องตั้งสติหน่อย 

"นิโรธ" ชี้ ฝ่านค้าน​ จุดเด่น แค่​ "ศิริกัญญา-ทวี" เย้ย ขู่เปิดเเผลมา 3​ ปี​ ยังไม่เห็นอะไรเลย

ที่รัฐสภา​ นายนิโรธ​ สุนทรเลขา​ ส.ส.นครสวรรค์​ พรรคพลังประชารัฐ​(พปชร.) ในฐานะประธานวิปรัฐบาล​ กล่าวถึงการอภิปรายทั่วไปวันแรกว่า ไม่รู้สึกกังวลกับการอภิปรายของฝ่ายค้าน และเท่าที่มองเห็นผู้อภิปรายที่น่าสนใจมีแค่​ น.ส.ศิริกัญญา​ ตันสกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ​ พรรคก้าวไกล และพ.ต.อ.ทวีสอดส่อง​ ส.ส. บัญชีรายชื่อ​ หัวหน้าพรรคประชาชาติ ที่น่าติดตาม ส่วนที่ฝ่ายค้านระบุว่าจะเปิดแผลรัฐบาลในครั้งนี้เพื่อไปโรยเกลือในการอภิปรายไม่ไว้วางใจในเดือน​ พ.ค.นั้น มองว่าเป็นแค่วาทกรรม หวังโจมตีรัฐบาล เพราะเห็นพูดว่าจะเปิดมา 3 ปีแล้ว ก็ไม่เห็นมีอะไร จึงไม่รู้สึกกังวล ส่วนที่พรรคพลังประชารัฐ​ตั้งทีมกฎหมายและทีมวิชาการขึ้นมานั้น เพื่อติดตามเป็นข้อมูล และชี้แจงทักท้วงในกรณีที่มีการอภิปรายนอกประเด็น

“บิ๊กป้อม” ย้ำส.ส. พปชร. อยู่โยง เป็นกำลังใจนายกฯ สั่ง ช่วงปิดสมัยประชุม ลงพื้นที่ 3 เดือน ลั่น พร้อมหนุนเต็มที่ นัดประชุมใหญ่ปลาย มี.ค.นี้ 

ที่ห้องพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ชั้น 6 รัฐสภา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เป็นประธานประชุมส.ส.พรรค ก่อนการประชุมสภา เพื่ออภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติ ตามมาตรา152  มีรัฐมนตรี แกนนำและส.ส.พรรค เข้าร่วมพร้อมเพรียง อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม ในฐานะรองหัวหน้าพรรค นายสมศักดิ์เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค นายอนุชา นาคาศัย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ในฐานะรักษาการผู้อำนวยการพรรค นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะรองหัวหน้าพรรค นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง ในฐานะเลขาธิการพรรค นายนิโรธ สุนทรเลขา ส.ส.นครสวรรค์ ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (วิปรัฐบาล)และส.ส.เข้าร่วมพร้อมเพรียง ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมง 

พล.อ.ประวิตร ปฏิเสธตอบคำถามถึงการกำชับส.ส.ให้เข้าร่วมประชุมรวมถึงความกังวลในการอภิปรายครั้งนี้โดยรีบเดินเพื่อกลับไปปฎิบัติภารกิจประชุมคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ 

‘ฝ่ายค้าน’ พร้อมลุยชำแหละรัฐบาล ประเดิมยกแรกปัญหาเศรษฐกิจปากท้อง

เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 17 ก.พ. ที่รัฐสภา นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวว่า วันนี้เป็นครั้งแรกของการอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 วันนี้ฝ่ายค้านเตรียมตัวมาพร้อมทุกพรรคใน 6 พรรคร่วม และจะมีนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเศรษฐกิจใหม่ และนายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ อภิปรายสมทบ การอภิปรายวันนี้จะเริ่มโดยนพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน อภิปรายเปิดญัตติ และจะตามด้วยหัวหน้าพรรคฝ่ายค้านทุกพรรค จากนั้นจะเริ่มอภิปรายด้วยกลุ่มเศรษฐกิจปากท้อง ต่อด้วยปัญหาโรคระบาดในคนและสัตว์ และไปต่อในวันที่ 18 ก.พ. ในเรื่องกลุ่มปฏิรูปประเทศ การเมืองและกลุ่มทุจริต วันนี้ไฮไลต์คือหัวหน้าพรรคฝ่ายค้านที่จะมีประเด็นเด็ดๆ ส่วนวันพรุ่งนี้จะมีหัวหมู่ทะลวงฟันจะทยอยกันขึ้นอภิปราย โดยเราจะใช้เวลาอภิปรายวันละ 11 ชั่วโมงอย่างเต็มที่

'นายกฯ' ห่วงใย 'บุคลากรทางการแพทย์' กำชับดูแลระมัดระวังป้องกันตนเองให้ปลอดภัยจากโควิด-19 ระหว่างปฏิบัติหน้าที่

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ฝากความห่วงใยบุคลากรทางการแพทย์หลังพบเมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมามีจำนวนบุคลากรทางการแพทย์ติดโควิด-19 ถึง 156 คน สูงที่สุดตั้งแต่มีการระบาดมา จึงขอให้บุคลาการทางการแพทย์ดูแลสุขภาพให้แข็งแรง ระมัดระวังป้องกันตนเองให้ดีระหว่างปฏิบัติหน้าที่ ขอให้ตระหนักตลอดเวลาว่า แพทย์และบุคลการด้านสาธารณสุข เป็นผู้ที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อความเข้มแข็งของระบบสาธารณสุขไทยและดูแลรักษาประชาชน นอกจากนี้ ยังฝากเชิญชวนประชาชนเร่งเข้ารับบริการฉีดวัคซีนให้ครอบตามเกณฑ์ก่อนรีบเข้ารับการฉีดวัคซีนกระตุ้นเข็มที่ 3 และ 4 เพื่อให้มีภูมิคุ้มกันต่อการติดเชื้อโควิดและสามารถลดอาการรุนแรงและการเสียชีวิตได้

นายธนกร กล่าวว่า นายกรัฐมนตรี ได้กำชับกระทรวงสาธารณสุขและทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ทั้งในประเทศและต่างประเทศอย่างใกล้ชิดเนื่องจากตัวเลขผู้ติดเชื้อในประเทศเพิ่มสูงขึ้นอีกรอบโดยเฉพาะการแพร่ระบาดในกลุ่มชุมชนและโรงเรียน ย้ำให้ปฏิบัติตามมาตรการด้านสาธารณสุขในการป้องกันการติดเชื้อโควิด-19ขั้นสูงสุด การเว้นระยะห่าง ใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา การฉีดวัคซีนเด็กนักเรียนทุกวัย และการฉีดวัคซีนให้ครอบคลุมได้มากที่สุด จึงมีความสำคัญ จะช่วยสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ ลดความเสี่ยงของการแพร่ระบาดลงได้ด้วย

นายกรัฐมนตรียังย้ำให้ติดตามกระแสข่าวการพบผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์ผสมระหว่างเดลตาและโอมิครอน  หรือ ‘เดลตาครอน’ รายแรกของโลกที่อังกฤษ แม้ยังไม่ทราบความรุนแรงจะมากกว่าเดิมหรือไม่แต่ก็ต้องติดตามอย่างต่อเนื่องใกล้ชิด เพื่อเตรียมความพร้อมให้ทันกับสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้น โดยเชื่อมั่นระบบและมาตรการด้านสาธารณสุขของไทยมีประสิทธิภาพและมีความเข้มแข็งสามารถรับมือกับการแพร่ระบาดได้


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top