Saturday, 10 May 2025
Hard News Team

‘ปธน.เกาหลีใต้’ รอด!! ถอดถอน ปม ‘ประกาศกฎอัยการศึก’ หลังสมาชิกสภาพรรครัฐบาล คว่ำบาตร!! การลงมติ

(8 ธ.ค. 67) สมาชิกรัฐสภาของพรรครัฐบาล คว่ำบาตรการลงมติถอดถอน นาย ยุน ซอกยอล จากตำแหน่งประธานาธิบดีของเกาหลีใต้ หลังจากตัดสินใจประกาศกฎอัยการศึกเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา

รายงานข่าว ระบุว่า สมาชิกสภานิติบัญญัติของเกาหลีใต้ ล้มเหลวในการถอดถอนประธานาธิบดีของประเทศจากกรณีที่เขาพยายามประกาศกฎอัยการศึกในช่วงเวลาสั้น ๆ

ทั้งนี้ ร่างกฎหมายเพื่อลงมติถอดถอนประธานาธิบดียุน ซุกยอล ล้มเหลว โดยขาดไปเพียงสามคะแนน จากเสียงทั้งหมดที่ต้องการ 200 คะแนนเพื่อขับเขาออกจากตำแหน่ง ในการลงมติครั้งนี้ สมาชิกของพรรคพลังประชาชนซึ่งเป็นพรรคของฝ่ายรัฐบาลจำนวนมากไม่เข้าร่วมการลงมติ

กระทั่ง เวลาประมาณ 19.30 น. ของวันที่ 7 ธ.ค.67 (ตามเวลาประเทศไทย) นาย วู วอนชิก ประธานสภาฯ เกาหลีใต้ ประกาศยุติการลงมติถอดถอน ‘ยุน ซอกยอล’ พ้นตำแหน่งประธานาธิบดี ซึ่งเป็นเวลากว่า 3 ชม. หลังการลงมติเริ่มต้นขึ้น

อินเตอร์ลิ้งค์ฯ ระดมกำลังผู้บริหาร กำหนดยุทธศาสตร์ปี 2568

(8 ธ.ค. 67) กลุ่มบริษัทอินเตอร์ลิ้งค์ฯ จัดประชุมยุทธศาสตร์ ประจำปี 2568 ระหว่างวันที่ 7-9 ธันวาคม 2567 ณ โรงแรม ฎ-ชฎา รีสอร์ท บาย เดอะ ซี จ.ชลบุรี โดยมีเป้าหมายเพื่อวางแผนยุทธศาสตร์ปี 2568 ด้วยกุญแจสำคัญ ‘หัวใจ กลุ่มบริษัทอินเตอร์ลิ้งค์ฯ’ ที่จะนำพาองค์กร  มุ่งสู่ความสำเร็จที่เติบโต ต่อเนื่อ และยั่งยืน
 

ประธานวุฒิสภาพร้อมคณะลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม และติดตามการให้ความช่วยเหลือเยียวยากลุ่มเปราะบาง

(7 ธ.ค. 67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา ประธานวุฒิสภา พร้อมด้วย นางวราภัสร์ ไพพรรณรัตน์ ประธานคณะกรรมาธิการพัฒนาสังคม และกิจการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ คนพิการผู้ด้อยโอกาส และ ความหลากหลายทางสังคม วุฒิสภา นำคณะ ลงพื้นที่ โรงเรียนบ้านจะรังตาดง มิตรภาพที่ 175 บ้านจารังตาดง หมู่ที่ 2 ต.ท่าธง อ.รามัน จ.ยะลา เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม และติดตามการให้ความช่วยเหลือเยียวยากลุ่มเปราะบาง โดยมี นายอำพล พงศ์สุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา นางฉลวย พงศ์สุวรรณ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดยะลา นายอำเภอรามัน ส่วนราชการจังหวัด อำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน กลุ่มสตรี อ.รามัน และส่วนที่เกี่ยวข้อง ให้การต้อนรับ

โอกาสนี้ ทางประธานวุฒิสภา ได้มอบเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ จ.ยะลา  จำนวน 159,000 บาท (หนึ่งแสนห้าหมื่นเก้าพันบาทถ้วน) แก่ผู้ว่าราชการ จ.ยะลา  พร้อมทั้ง ได้ร่วมกับ คณะกรรมาธิการ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา นายอำเภอรามัน มอบถุงยังชีพให้แก่ประชาชน นอกจากนี้ยังได้มอบน้ำดื่ม  ไก่ไข่  บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ข้าวสาร ให้กับทางโรงเรียนบ้านจะรังตาดง ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย อีกด้วย

นายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา  เปิดเผยว่า วันนี้มาใน 2 ฐานะ คือ รองประธานรัฐสภา  และประธานวุฒิสภา ซึ่งเป็นผู้แทนของประชาชนชาวไทย นำความห่วงใยของ สมาชิกสภาทั้งหลาย รวมทั้งพี่น้องประชาชนทั่วประเทศ เมื่อมีเหตุที่พี่น้องได้รับความเดือดร้อนจากอุทกภัย เราก็รวบรวมกันทั้งทรัพย์และเงินทองทั้งสิ่งของต่างๆเท่าที่จะทำได้อย่างรวดเร็วที่สุด นำมา ได้มาเห็นภาพที่ประทับใจมากๆ คือ การฟื้นฟูหลังน้ำลด  พอน้ำมาทุกหน่วยในพื้นที่ ทหาร ตำรวจ ปกครองทั้งหลายได้รวมกันจัดกำลัง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ประชาชนเข้าไปช่วยเหลือชาวบ้านอย่างเร่งด่วน พอหลังน้ำลดก็ช่วยกันฟื้นฟูกันอย่างรวดเร็ว แสดงให้เห็นถึงความพร้อม ความสามัคคีของคนในพื้นที่ โดยเฉพาะผู้แทนในพื้นที่ ได้แจ้งไปประสานงานกันตลอดเวลาต้องการอะไรบ้าง เราก็รวบรวมสิ่งจำเป็นอย่างเร่งด่วน ส่วนหนึ่ง หน้าที่จริงๆ คือหน้าที่ของท่านผู้ว่าราชการจังหวัด ในพื้นที่  เราเป็นเพียงส่วนเสริมที่เข้ามาหนุนเพื่อนำความห่วงใยมาสู่พี่น้องที่ประสบอุทกภัย เช่นเดียวกันเมื่อครั้งภาคเหนือถูกน้ำท่วม พี่น้องจากชาวใต้ก็ไปช่วยชาวเหนือ อีสาน พอภาคใต้เกิดน้ำท่วมชาวเหนือ อีสาน ชาวภาคกลางก็ระดมกันมา คือความรู้สึกที่ดี ยิ่งมาวันนี้ก็ต้องขอบคุณพื้นที่ทั้งผู้ว่า ฯ ทหาร ตำรวจ ผู้นำท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผอ.โรงเรียน พี่น้องประชาชนทุกท่าน ที่วันนี้ถึงแม้นทุกท่านยากลำบากจากน้ำท่วมยังยิ้มแย้มแจ่มใสมาให้การต้อนรับคณะอย่างอบอุ่นมาก ตื้นตันใจมาก ขอขอบคุณทุกๆ ท่านด้วย

สำหรับสถานการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้นในพื้นที่ อ.รามัน จ.ยะลา  เมื่อวันที่ 26-30 พฤศจิกายน 2567 มีราษฎรผู้ได้รับผลกระทบจำนวน 12,419 ครัวเรือน รวมทั้งสิ้น 45,736 คน  พื้นที่ประสบอุทกภัย จำนวน 16 ตำบล รวมทั้งสิ้น 90 หมู่บ้าน ศูนย์อพยพ จำนวน 33 แห่ง มีผู้อพอพ จำนวน 764 ครัวเรือน 3,093 คน ปัจจุบันได้กลับบ้านทั้งหมดแล้ว

“พิชัย” หารือทูตอังกฤษ เน้นย้ำความสำคัญในการจัดทำ FTA ไทย-UK ร่วมกันในอนาคต สร้างมูลค่าการค้า-การลงทุน เติบโตต่อเนื่อง

(8 ธ.ค. 67) นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังหารือเอกอัครราชทูตอังกฤษประจำประเทศไทย (นายมาร์ค กุดดิ้ง) เพื่อหารือประเด็นความร่วมมือทางเศรษฐกิจ การค้าและการลงทุน รวมถึงการพิจารณา ความเป็นไปได้ในการจัดทำ FTA ไทยกับ UK เพื่อขยายการค้าการลงทุนระหว่างกัน สอดคล้องกับนโยบายการเร่งสร้างความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจของรัฐบาลทั้งสองฝ่าย

นายพิชัยฯ เปิดเผยว่า ได้หารือกับ นายมาร์ค กุดดิ้ง เอกอัครราชทูตอังกฤษประจำประเทศไทย เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2567 ณ ทำเนียบเอกอัครราชทูตอังกฤษประจำประเทศไทย โดยสองประเทศได้เน้นย้ำความมุ่งมั่นที่จะขยายความสัมพันธ์ทางการค้าและการลงทุนร่วมกัน ผ่านกลไกการประชุมคณะกรรมการร่วมด้านเศรษฐกิจและการค้า (Joint Economic and Trade Committee: JETCO) ไทย - สหราชอาณาจักร (UK) ในระดับรัฐมนตรี เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีในการดำเนินธุรกิจ อำนวยความสะดวกทางการค้าและการลงทุน โดยเร่งรัดการดำเนินการร่วมกันอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะภายใต้กรอบการเป็นหุ้นส่วนทางการค้าที่แน่นแฟ้น (Enhanced Trade Partnership: ETP) ผ่านกิจกรรมความร่วมมือทางเศรษฐกิจครอบคลุมสาขาที่สองประเทศมีศักยภาพและทรัพยากรที่ส่งเสริมกัน เช่น การเกษตร อาหารและเครื่องดื่ม การลงทุน การท่องเที่ยว และสุขภาพ  ซึ่งตนในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ได้ลงนามบันทึกความเข้าใจร่วมกันกับ นายดักลาส อเล็กซานเดอร์ รัฐมนตรีการค้าของสหราชอาณาจักร เมื่อวันที่ 18 ก.ย.67 ที่ผ่านมา ณ โรงแรมคอร์ทยาร์ด บาย แมริออท กรุงเทพฯ โดยทั้งสองฝ่ายยินดีที่จะจัดการประชุม JETCO ไทย – UK ครั้งที่ 2 เพื่อติดตามความคืบหน้าการดำเนินงานร่วมกันในปี 2568 ซึ่งเป็นโอกาสดีในการเฉลิมฉลองครบ 170 ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกันด้วย

โอกาสนี้ นายพิชัยฯ เปิดเผยว่า ไทยได้เน้นย้ำกับ UK ถึงความสำคัญของการเป็นหุ้นส่วนทางการค้าที่แน่นแฟ้นดังกล่าวว่า จะเป็นพื้นฐานสำคัญในการพิจารณาเจรจา FTA ระหว่างกันในอนาคต ซึ่งเป็นแนวนโยบายที่รัฐบาลไทยผลักดันและให้ความสำคัญกับการทูตพาณิชย์เชิงรุก โดยเห็นว่า หากสองฝ่ายสามารถจัดทำ FTA ร่วมกันได้ จะเป็นก้าวสำคัญที่ช่วยส่งเสริมให้มูลค่าการค้าและการลงทุนระหว่างสองประเทศเติบโตได้อย่างต่อเนื่องและยั่งยืน ซึ่งภาคธุรกิจของทั้งไทยและ UK ต่างก็สนับสนุนการเริ่มเจรจาดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง เพื่อเร่งขยายการค้าระหว่างกัน

นายพิชัยฯ กล่าวเสริมว่า ได้ขอบคุณ UK ที่มีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนการพิจารณารับไทยเข้าเป็นสมาชิกองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) รวมทั้งใช้โอกาสนี้แจ้ง UK ให้ทราบว่า กระทรวงพาณิชย์ยินดีอำนวยความสะดวกและสนับสนุนการค้าและการลงทุนจากต่างประเทศในไทยให้เป็นไปอย่างสะดวกและราบรื่นมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มอุตสาหกรรมหรือบริการเป้าหมายที่เห็นว่าจะเป็นประโยชน์ร่วมกัน เช่น อุปกรณ์ประมวลผลข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ ระบบจัดเก็บข้อมูล (Data Center) ยาและอุปกรณ์ทางการแพทย์ 

ในช่วง 10 เดือนแรกของปี 2567 (ม.ค. – ต.ค.) สหราชอาณาจักรเป็นคู่ค้าอันดับ 22 ของไทยในตลาดโลก และเป็นคู่ค้าอันดับ 4 ของไทยในภูมิภาคยุโรป (รองจากสวิตเซอร์แลนด์ เยอรมนี และเนเธอร์แลนด์) โดยมีมูลค่าการค้ารวมระหว่างกัน 5,535.74 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยไทยได้เปรียบดุลการค้า 1,372.53 ล้านดอลลาร์สหรัฐ มีมูลค่าการส่งออกสินค้ารวม 3,454.13 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สินค้าส่งออกสำคัญ เช่น ไก่แปรรูป เครื่องจักรกลและส่วนประกอบของเครื่องจักรกล อัญมณีและเครื่องประดับ รถจักรยานยนต์และส่วนประกอบ และรถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ขณะที่มีมูลค่าการนำเข้ารวม 2,081.60 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สินค้านำเข้าสำคัญ เช่น เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ แผงวงจรไฟฟ้า และเครื่องมือเครื่องใช้เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ การแพทย์ เครื่องดื่มประเภทน้ำแร่ น้ำอัดลมและสุรา และผลิตภัณฑ์เวชกรรมและเภสัชกรรม

ธรรมะประจำวันอาทิตย์ที่ 8 ธันวาคม 2567 : ‘คำสอนพระพุทธเจ้านำมาใช้อย่างไร?’

จากช่องติ๊กต็อก @dhamma_tv ได้เผยแพร่คำสอนเรื่อง ‘คำสอนพระพุทธเจ้านำมาใช้อย่างไร?’ จากรายการ ‘ธรรมะทำไม’ โดย พระศรีวัชรวิสุทธิ์ (หลวงพ่อโกวิท) รองเจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมา เจ้าอาวาสวัดด่านใน

คำถาม : มีธรรมะหมวดไหนที่จะทำให้เรารวยได้?

พระศรีวัชรวิสุทธิ์ (หลวงพ่อโกวิท) : มีธรรมะอยู่หมวดหนึ่ง เรียกสั้น ๆ ว่าหัวใจเศรษฐี คำย่อ คือ อุ อา กะ สะ
อุ คือ อุฏฐานะสัมปทา ขยันหมั่นเพียรหาทรัพย์สินเงินทอง
อา คือ อารักษ์สัมปทา เมื่อได้ทรัพย์รู้จักบริหารทรัพย์สินให้เป็น
กะ คือ กัลยาณมิตตตา คบคนดี คบคู่ค้าดี คบผู้ร่วมงานดี
สะ คือ สมชีวิตา การเลี้ยงชีพแต่พอสมควร ใช้ชีวิตอย่างไม่ฝืดเคืองและไม่ฟุ่มเฟือย แบบพอดีพอดี
ไม่ใช่พอดีธรรมดา แต่ต้องรู้จักพอเพียงพอดีพอประมาณ แล้วที่สําคัญคือพอใจนี่ก็คือสอนให้รวย

ร.9 เสด็จพระราชดำเนินอีสาน: จุดเปลี่ยนประวัติศาสตร์จอมพล ป. | THE STATES TIMES Story EP.159

พฤศจิกายน 2498 การเสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมราษฎรภาคอีสานของในหลวง ร.๙ ไม่ใช่เพียงการพบปะประชาชนครั้งประวัติศาสตร์ แต่ยังกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้สถานะของจอมพล ป. พิบูลสงคราม สั่นคลอนลงอย่างไม่คาดฝัน

ติดตามเรื่องราวการต่อรองอันแยบยล ความศรัทธาที่เปี่ยมล้นของประชาชน และบทเรียนทางการเมืองที่สะท้อนถึงพลังของ "ผู้นำที่แท้จริง"

‘หมอวรงค์’ จวกยับ!! กรณีพักโทษ ‘คดีโกง’ ชี้!! เป็นการร่วมมือกัน ทำลายประเทศชาติ

(7 ธ.ค. 67) นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี โพสต์เฟซบุ๊กว่า …

‘ระวัง!! ประชาชนไม่เชื่อมั่น’

เป็นที่ฮือฮาของสังคม หลังจากรัฐบาลแพทองธารเข้ามาบริหารประเทศ เกิดปรากฏการณ์นักโทษชั้น 14 ที่เชื่อได้ว่าไม่ยอมติดคุกสักวัน จากคดีทุจริต 3 คดี

ถัดมาล่าสุด ผู้ต้องหาคดีรับจำนำข้าว ที่ถูกศาลตัดสินจำคุก 48 ปี บางราย 36 ปี บางรายนอกจากถูกจำคุกคดีจำนำข้าว 48 ปี ยังมีคดีบ้านเอื้ออาทร อีก 50 ปี ล้วนได้ออกจากเรือนจำ

นับรวมการติดคุกเฉลี่ยแล้ว 7 ปี

เราต้องยอมรับว่า คดีทุจริตที่เกิดจากนักการเมือง ต้องถือว่าเป็นคดีร้ายแรง พอๆกับคดีค้ายาเสพติด หรือแม้แต่คดีฆ่าข่มขืน เพราะการทุจริตเป็นการทำลายโอกาสของประชาชน มีผลกระทบต่อการพัฒนาการอยู่ดีกินดีของประชาชน

การที่กรมราชทัณฑ์จะมาอ้างว่า เนื่องจากผู้ต้องขังเข้าเกณฑ์ที่ต้องพักโทษ แต่เพราะคดีทุจริตเป็นคดีร้ายแรงที่ทำลายชาติ ท่านจะใช้มาตรฐานคดีปกติมาเป็นเกณฑ์ไม่ได้ ท่านควรต้องมีเกณฑ์ต่างหาก เพื่อให้เกิดความเกรงกลัวต่อการทำผิด

ท่านเห็นไหมว่า นักโทษคดีทุจริต ที่พวกท่านให้การพักโทษกรณีพิเศษ วันนี้เป็นอย่างไรบ้าง คนพวกนี้สำนึกผิดหรือไม่ นอกจากไม่สำนึกผิด คนคนนี้กำลังจะสร้างปัญหาเดิมๆของประเทศ และดูแนวโน้มแล้ว ปัญหาเหล่านี้จะหนักกว่าเดิม ท่านเคยประเมินหรือไม่

พวกท่านทราบไหมว่า กว่ากระบวนการตรวจสอบการทุจริตของนักการเมือง จะรวบรวมข้อมูลพยานหลักฐานได้ ต้องทุ่มเทการทำงาน มากขนาดไหน กว่าจะผ่านป.ป.ช. ผ่านอัยการและไปต่อสู้ในชั้นศาลฎีกา เตรียมข้อมูลหลักฐานต่าง ๆ นำพยานมาเบิกความ

ทุกฝ่ายต้องทำงานด้วยความยากลำบาก ทั้งต้องอาศัยความตั้งใจ ความทุ่มเท เพื่อเก็บกวาดประเทศให้สะอาด และศาลฎีกาฯใช้เวลาหลายปีในการรวบรวมพยานหลักฐาน จนมีคำพิพากษาออกมา แต่สุดท้ายมาจบแบบไม่รับผิดชอบของราชทัณฑ์ ที่สำคัญคนที่ได้รับการพักโทษก็ไม่สำนึก

เพราะกระบวนการยุติธรรมท้ายน้ำของประเทศ เป็นแบบนี้ การที่หวังจะเก็บกวาดประเทศไทยให้สะอาด นับวันจะยิ่งหนักกว่าเดิม สิ่งที่เห็นรัฐบาลชุดนี้ ดำเนินการเรื่องจัดการทุจริตจึงไม่ต้องหวัง ก็เหลือแต่องค์กรตรวจสอบ ที่ควรจะทำงานด้วยความรวดเร็ว

ระวังนะประชาชน นอกจากไม่เชื่อมั่นนักการเมือง จะไม่เชื่อมั่นกระบวนการยุติธรรมรวมทั้งราชทัณฑ์ ไม่เชื่อมั่นระบบตรวจสอบขององค์กรอิสระ อาจจะลามไปสู่ การไม่เชื่อมั่นในระบอบประชาธิปไตยที่เป็นอยู่ ไม่ต้องโทษใคร แต่ต้องโทษทั้งนักการเมือง องค์กรอิสระ ข้าราชการที่มีส่วนร่วมมือกันทำลายประเทศ

‘โหรวันชัย’ พยากรณ์กลางมิ.ย.68 ‘พญามังกรทักษิณ - รัฐบาลอุ๊งอิ๊ง’ เผชิญธาตุไฟ ชี้!! บริหารดีก็รุ่งโรจน์ แต่ถ้าแก้ปัญหาไม่ได้ จะเป็นเหมือนไฟบรรลัยกัลป์

(7 ธ.ค. 67) นายวันชัย สอนศิริ อดีต สว. โพสต์ข้อเขียน เรื่อง ‘งูไฟ…กับรัฐบาลอุ๊งอิ๊ง’ ผ่านเฟซบุ๊ก โดยระบุว่า จะไม่พูดถึงตัวเลขและดวงดาวต่าง ๆ เพราะหมอดูหลายคนออกมาพูดกันมากแล้ว มะโรงงูใหญ่ก็เร่ง มะเส็งงูเล็กก็กำลังจะมา เรียกว่า ทั้งมังกรใหญ่มังกรเล็กอยู่คู่กับรัฐบาลเพื่อไทยเกือบ 2 ปี มีพญามังกรทักษิณเป็นหัวแรง ทั้งพ่อทั้งลูกคือมังกรเล็กมังกรใหญ่ในรัฐบาล และปีหน้าที่กำลังจะมาถึงนี้ นักษัตรปีงูเป็นธาตุไฟ ทั้งเร่าร้อน ร้อนแรง ทั้งมีแสงสว่างไสวและพร้อมที่จะลุกไหม้ได้ตลอดเวลา

ธาตุไฟปีมะเส็งนี้มีทั้งคุณและโทษ รัฐบาลถ้าบริหารจัดการดีก็สว่างไสวรุ่งโรจน์โชติช่วง ถ้าไม่ดีไฟก็พร้อมที่จะลุกไหม้เป็นไฟบรรลัยกัลป์ เผาไหม้ทั้งนายกฯและรัฐบาล จะเกิดการปะทุประท้วง ชุมนุมขับไล่ ประชาชนแบ่งฝักแบ่งฝ่าย ลุกขึ้นมาปะทะกัน สุมไฟแห่งความขัดแย้ง จะเกิดการเผาไหม้เร่าร้อนรุนแรงอีกครั้ง นายวันชัยระบุ

นายวันชัยระบุอีกว่า ดวงชะตาฟ้าลิขิต ทั้งดวงดาวของประเทศ นายกฯอุ๊งอิ๊ง และคุณทักษิณบรรจงลงตัวเดินหน้ามาตั้งแต่ปลายเดือนพฤศจิกายน 2567 ถึงกลางเดือนมิถุนายน 2568 หกเดือนต่อแต่นี้เป็นการชี้ชะตา วัดพลังแห่งธาตุไฟ จะสว่างไสวหรือเผาไหม้ก็อยู่ที่ช่วงนี้แหละ ผลงานและการแก้ปัญหาเรื่องปากท้องเศรษฐกิจ การกินดีอยู่ดี เหมือนไฟสุมขอนที่พร้อมจะปะทุให้สว่างไสวรุ่งโรจน์รุ่งเรือง หรือเผาไหม้เป็นไฟบรรลัยกัลป์ก็ได้

ดวงชะตาของประเทศและผู้นำมาถึงกาลนี้แล้วต้องเร่งเครื่องสร้างผลงาน แก้ปัญหาให้สำเร็จให้ได้โดยเร็ว จึงจะทำให้อยู่ได้ไปตลอดรอดฝั่งทั้งประชาชนและรัฐบาล แต่ถ้ายังเหมือนเดิม อีหลุกขลุกขลักเหมือนที่ผ่านมา ความยุ่งเหยิงวุ่นวายโกลาหลก็จะบังเกิด เมื่อถึงตอนนั้น จะงูเล็กงูใหญ่หรือบริวารว่านเครือก็จะแตกกระสานซ่านเซ็นกระจุยกระจายมอดไหม้กันไปหมด ปีมะเส็งแห่งธาตุไฟนี้ จะเป็นธาตุไฟแตก หรือธาตุไฟที่รุ่งเรืองสว่างไสว คอยดูกันต่อไป นายวันชัย ระบุคำทำนาย

ป้ายรถเมล์ ถูกเทปูนจนมิด เหลือแต่เก้าอี้ ชี้!! ผลงาน ‘สำนักการโยธา กทม.’

(7 ธ.ค. 67) เพจเฟซบุ๊ก ‘สนามข่าวเมืองปราการ’ ได้โพสต์ภาพพร้อมข้อความระบุว่า …

‘ไม่คุยกันอีกแล้ว รื้ออันไหนทำใหม่ดีล่ะ 7-11 ตรง ซ.เทพรัตนโมลี 21 ถ.หลวงแพ่ง’ 

พร้อมกับแนบภาพป้ายรถเมล์แห่งหนึ่ง ที่ระบุว่า อยู่บริเวณหน้าร้านสะดวกซื้อชื่อดัง ซอยเทพรัตนโมลี 21 ถนนหลวงแพ่ง เป็นภาพที่กำลังก่อสร้างทางเดินเท้าใหม่ ทำให้มีการเทปูนทับพื้นเดิม ส่งผลให้ความสูงของพื้นปูนนั้น ขึ้นมาอยู่เทียบเท่ากับที่พักนั่งรอรถเมล์ของเดิม จนชาวเน็ตวิพากษ์วิจารณ์จำนวนมากนั้น

ลักษณะงานเป็นการปรับปรุงผิวจราจรและทางเท้า ท่อระบายน้ำ ฝาระบายทั้งระบบ แต่ภาพที่ได้เห็นไม่มีการรื้อศาลาที่พักผู้โดยสารออก กลับเทคอนกรีตทับไปเลย จากเก้าอี้นั่งปกติกลายเป็นเก้าอี้ไว้สำหรับนั่งพับเพียบตามมารยาทไทย

ในส่วนของการจัดซื้อจัดจ้างก็เหมือนเดิมตามสไตล์ กทม. ข้อมูลในระบบแจ้งว่าใช้วิธีประมูลงานแบบอีบิดดิ้ง แต่มีผู้ซื้อซอง ยื่นซอง เสนอราคา แค่เจ้าเดียวแล้วก็คว้างานไป

ชื่อโครงการปรับปรุงถนนหลวงแพ่ง ช่วงจากสำนักงานประปาสาขาสุวรรณภูมิ ถึงคลองพระยาเพชร พื้นที่เขตลาดกระบัง-กทม.

งบประมาณ 177,677,660 บาท

เลขที่โครงการ 66119124096

งานนี้ต้องเร่งดำเนินการแก้ไขด่วน!!

‘พล.ต.ท.เรวัช’ เผย!! ‘ท่านพีระพันธุ์’ ตั้งให้เป็นประธานสอบทุจริต ลั่น!! ใครผิดก็ต้องว่าไปตามผิด ใครถูกก็ว่าไปตามถูก ไม่มียกเว้น

(7 ธ.ค. 67) พลตำรวจโท เรวัช กลิ่นเกษร อดีตผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด และ อดีตรักษาการผู้บัญชาการตำรวจสันติบาล ตำรวจมือปราบผู้ซื่อสัตย์และเที่ยงตรง ได้โพสต์คลิป โดยมีใจความว่า ...

ผมได้รับการติดต่อจาก ท่านพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน และหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ติดต่อทาบทามมาขอให้ผมเป็นประธาน 

สอบสวนเกี่ยวกับการไม่ชอบมาพากลของการ จัดซื้อจัดจ้าง ของหน่วยงานในสังกัดดูแลของท่าน

สืบเนื่องมาจากในการไฟฟ้าฝ่ายผลิต จะจ้างบริษัทมาขนถ่านหิน เงินงบประมาณ 7,250 ล้าน แล้วมันจัดซื้อจัดจ้างกันยังไงไม่รู้ ไปจัดวิธีพิเศษ จัดวิธีพิเศษไม่มีการประมูลแข่งขันกันอะไรกัน 

ผมก็ยินดีทําเพื่อประเทศชาติ แล้วมันจะทําให้ผลประโยชน์ตกแก่ประชาชน จะได้ประหยัดงบประมาณ อาจจะทําให้ค่าไฟฟ้าถูกลง

ผมยินดี และเต็มใจ ท่านก็บอกว่าเดี๋ยวอาทิตย์หน้าคงจะเซ็นแต่งตั้งให้ผมเป็นประธานตรวจสอบ

แต่ผมก็กราบเรียนท่านว่า ถ้าตั้งผมแล้วเนี่ยอย่าให้ใครมาขอนะ ใครผิดก็ต้องว่าไปตามผิดนะ ใครถูกก็ว่าไปตามถูกนะ

ใครผิดก็ต้องรับกรรมไปนะ

ผมไม่ไปสนใจทั้งนั้น ว่าใคร จะเป็นอะไรยังไง ถ้าผิดก็ต้องว่าตามผิด ถูกก็ว่าตามถูก ท่านบอกท่านตัดสินใจเลือกผมเพราะรู้ว่าผมเป็นคนไม่ยอมใคร ถูกก็ถูกผิดก็ผิด

มันก็เป็นนิสัยของผมมาตั้งแต่ผมยังเป็นดํารงตําแหน่งแค่เป็นสารวัตร

ตอนนั้นเป็นสารวัตรตลาดไร่เก่าปี 2537 มันก็มีการจัดประมูลงานของแขวงการทางที่แขวงการทางที่ชายทะเล ผู้รับเหมามากันหลายร้อยเลยต่างคนต่างขนอาวุธยุทธภัณฑ์กันมาข่มขู่กัน มาล็อกงาน ล็อกกันไม่ให้บริษัทอื่น มาซื้อซองเข้าประมูลได้

ผมเห็นคนมันมาผิดปกติ ผมก็เอากําลังตํารวจไปปิดล้อม ตรวจค้น ผมจับหมด ได้ข้าวหลามเนี่ย!! ใช้คําว่าเป็นร้อยกระบอกครับ เป็นเข่งนะครับ ผมไม่ยอม แล้วผมก็อยู่ในที่ประมูลด้วย ประมูลแข่งกันไปผลประโยชน์ตกแก่แผ่นดิน

อย่ามาล็อกกัน จับดําเนินคดีหมดนะครับ

ถือว่าพกพาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาติ

หลังจากนั้น นายช่างมันรู้กัน มันไม่กล้ามาประมูลกันในเขตผมเลยนะครับ ไม่กล้ามาประกวดงาน ในเขตผมเลยนะครับ

อีกครั้งหนึ่งผมมาเป็นผู้กํากับที่บ้านโป่ง ก็มีการประมูลงานกัน ของกรมชลประทาน

ผมจับดําเนินคดีหมดครับ ผมไม่ยอมหรอกครับ 

เอาแฟร์แฟร์กัน!!


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top