Thursday, 26 June 2025
Hard News Team

“บิ๊กตู่”ห่วงสถานการณ์ปุ๋ยขาดแคลนช่วงใกล้เริ่มฤดูกาลเพาะปลูก สั่งกระทรวงเกษตรฯ-พาณิชย์ สำรวจสต๊อก พร้อมจัดหาปุ๋ยเพิ่มเติมให้เพียงพอ 

เมื่อวันที่ 24 มี.ค. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า มีความห่วงใยกับสถานการณ์ปุ๋ยขาดแคลน เนื่องจากใกล้เริ่มฤดูกาลเพาะปลูกแล้ว จึงได้สั่งการให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงพาณิชย์ สำรวจปริมาณปุ๋ยที่มีอยู่ในสต๊อก และการจัดหาปุ๋ยเพิ่มเติมให้เพียงพอ ทั้งนี้ในปัจจุบัน โดยทราบดีว่าพี่น้องประชาชนประสบกับหลายปัญหาในเวลาเดียวกัน เป็นผลมาจากโควิดและซ้ำเติมด้วยสถานการณ์ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในต่างประเทศ ส่งผลกระทบหลายเรื่อง ทั้งพลังงาน ราคาสินค้า การขาดแคลนวัสดุ ต้นทุน เงินเฟ้อ การกักตุนสินค้า ฯลฯ โดยขณะนี้รัฐบาลได้ออกมาตรการด้านพลังงาน และมาตรการช่วยเหลือแรงงาน ที่ได้รับความเดือดร้อนไปบ้างแล้ว ตามกำลังที่มีอยู่ ซึ่งจำเป็นต้องพุ่งเป้าเฉพาะกลุ่ม เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อผู้ให้บริการและผู้รับบริการ หรือสร้างความเดือดร้อนจนเกินไปนัก 

สำหรับเรื่องปุ๋ย ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งประสานงานกับภาคเอกชนที่ประกอบธุรกิจนำเข้า เพื่อหาหนทางนำเข้าเพิ่มเติมให้ได้มากที่สุด โดยราคาอาจจะต้องแพงขึ้นบ้าง รัฐบาลก็มีแนวคิดว่าเราจะช่วยกันอย่างไรได้บ้าง เช่น ใช้มาตรการทางการเงิน ช่วยปล่อยเงินกู้พิเศษ เงินกู้ระยะยาว ดูแลเรื่องดอกเบี้ย เป็นต้น ซึ่งผมได้มอบแนวทางสำคัญในการบริหารจัดการปุ๋ยว่า... (1) ปุ๋ยจะต้องไม่ขาด รัฐบาลต้องหาปุ๋ยเพิ่มเติมจากต่างประเทศเข้ามาให้เพียงพอ (2) ราคาปุ๋ยต้องเป็นราคาที่เกษตรกรสามารถรับภาระได้ อย่างไรก็ตามหากรัฐบาลจะอุดหนุนทั้งหมด ก็จะเป็นการแบกภาระทางการคลังของประเทศมากจนเกินไป ในขณะที่รัฐบาลยังคงต้องบริหารงบประมาณและแก้ปัญหาด้านอื่นๆ ไปพร้อมๆ กันด้วย ดังนั้น แนวทางที่เป็นไปได้ คือ รัฐบาลจะหาแหล่งสินเชื่อให้กับเกษตรกรรายย่อย โดยให้เกษตรกรรับผิดชอบตามราคาจริงที่ยอมรับได้ รัฐบาลกำหนดให้มีระยะเวลาผ่อนผัน (Grace period) ที่เกษตรกรไม่ต้องจ่ายต้นอย่างน้อย 2 ปี ประกอบกับรัฐบาลจะเป็นผู้รับภาระด้านดอกเบี้ยแทนเกษตรกร ซึ่งผมได้กำชับว่าการดำเนินการตามมาตรการนี้ จะต้องไม่เปิดโอกาสให้มีบุคคล หรือกลุ่มใดเข้ามาหาผลประโยชน์ หรือนำเข้าปุ๋ยที่ไม่มีคุณภาพ

นอกจากนี้ ทั้งเรื่องปุ๋ย เรื่องพลังงาน ที่ราคาแพงขึ้น ผมได้สั่งการให้กระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ และกระทรวงการต่างประเทศ ให้ประสานงานกับต่างประเทศว่า จะสามารถให้การสนับสนุนในเรื่องเหล่านี้อย่างไรได้บ้าง รวมทั้งเรื่องดูแลการส่งออกผลิตผลทางการเกษตรและผลไม้ ที่มีปัญหาการส่งออกไม่สะดวก สินค้าตกค้าง คอนเทนเนอร์ไม่พอเพียง การตรวจสอบคุณภาพมาตรฐานที่ปลายทางเข้มงวดมากจากสถานการณ์โควิด ไปจนถึงการขนส่ง ทั้งทางอากาศ - รถไฟ - น้ำที่ล่าช้า จนอาจทำให้สินค้าการเกษตร - ผลไม้เสียหาย ก็ให้คณะทำงานเร่งแก้ปัญหาในเรื่องเหล่านี้  ร่วมกันทุกกระทรวง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเร่งพิจารณาหามาตรการที่เหมาะสม ไม่ให้เกิดภาระด้านงบประมาณ จนเกิดผลกระทบกับกิจกรรมอื่นๆ ที่ต้องดำเนินการอยู่แล้ว

‘สิงคโปร์’ เตรียมเปิดรับชาวต่างชาติ ฉีดวัคซีนแล้วไม่ต้องกักตัว เริ่ม เม.ย.นี้

สิงคโปร์ 24 มี.ค. 65 นายกรัฐมนตรีลี เซียนลุง ของสิงคโปร์ ประกาศวันนี้ว่า สิงคโปร์จะยกเลิกมาตรการกักตัวนักเดินทางต่างชาติที่ฉีดวัคซีนโควิดครบสองโดสตั้งแต่เดือนเมษายน และยกเลิกคำสั่งสวมหน้ากากอนามัยในที่กลางแจ้งตั้งแต่วันที่ 29 มีนาคมเป็นต้นไป ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนยุทธศาสตร์ใช้ชีวิตร่วมกับเชื้อโควิด-19 ของสิงคโปร์

นายกรัฐมนตรีลี แถลงผ่านการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ทั่วประเทศว่า สิงคโปร์จะยกเลิกมาตรการกักตัวนักเดินทางต่างชาติที่ฉีดวัคซีนโควิดครบสองโดสตั้งแต่เดือนเมษายน รวมถึงจะยกเลิกคำสั่งสวมหน้ากากอนามัยในที่สาธารณะ แต่จะยังคงใช้คำสั่งสวมหน้ากากอนามัยในอาคาร เนื่องจากพบความเสี่ยงลดลงอย่างมีนัยสำคัญจากการติดเชื้อโควิดในที่กลางแจ้ง นอกจากนี้ สิงคโปร์ยังจะอนุญาตให้ประชาชนรวมตัวกันได้สูงสุด 10 คน เพิ่มขึ้นจากเดิมที่กำหนดไว้ 5 คน อนุญาตให้พนักงานกลับไปทำงานที่สำนักงานได้สูงสุดร้อยละ 75 และอนุญาตให้เพิ่มจำนวนผู้เข้าร่วมงานขนาดใหญ่ได้ร้อยละ 75 ของความจุพื้นที่

"วิโรจน์" อาสา ทวงสนามหลวงคืนปชช. ลั่น ถ้าได้เป็นพ่อเมืองกทม. ประกาศรื้อรั้วกั้นเปิดพื้นที่ทำกิจกรรม ชวนติดแฮชแท็กร่วมออกแบบ #สนามหลวงใช้ทำอะไรดี

เมื่อวันที่ 24 มี.ค. ที่สนามหลวง นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. พรรคก้าวไกล เดินทางไปสำรวจปัญหาการใช้งานสนามหลวง ซึ่งถูกปิดกั้นด้วยรั้ว ทำให้ประชาชนไม่สามารถใช้งานได้อย่างสะดวก โดยระบุว่า คำว่าหลวง หมายถึงเป็นของประชาชน ใช้เงินภาษีประชาชน สนามหลวงจึงเป็นสนามของประชาชน ต้องให้ประชาชนได้ใช้อย่างสะดวกไม่ปิดกั้น หากผมเป็นผู้ว่าฯ กทม. สนามหลวงจะเปิดใช้งานอย่างมีชีวิตชีวาเหมือนที่เคยเป็น เอารั้วกั้นออกให้หมด เปิดให้ประชาชนทำได้ทุกอย่างที่ถูกกฎหมาย ตั้งแต่เล่นว่าว ดูดวง ออกกำลัง ไปจนถึงกิจกรรมทางการเมือง

สื่ออินโดนีเซีย วิจารณ์ข้ามประเทศ ชี้ นายกฯ ไทยลาออก มีผลดีต่ออาเซียน

บทความจาก Kornelius Purba บรรณาธิการอาวุโสของ The Jakarta Post สื่อหลักของอินโดนีเซียระบุว่าการลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก่อนครบวาระการดำรงตำแหน่ง จะมีผลดีต่ออาเซียน ในความพยายามที่จะเพิ่มแรงกดดันต่อรัฐบาลทหารของเมียนมา

รายงานระบุว่า ประเทศไทยเป็นประเทศยิ่งใหญ่ซึ่งไม่เคยตกเป็นอาณานิคมมาก่อน และการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศได้รับการยกย่องจากนานาชาติมาเป็นเวลาหลายทศวรรษ แต่เส้นทางประชาธิปไตยของไทยต้องเผชิญกับความท้าทายอย่างต่อเนื่อง จากการก่อรัฐประหารถึง 13 ครั้ง ซึ่งครั้งล่าสุดเกิดขึ้นเมื่อเดือนพ.ค. 2557

เช่นเดียวกับที่เมียนมาต้องเผชิญเมื่อปีที่ผ่านมา โดยมีพลเอก อาวุโส มิน อ่อง หล่าย เป็นผู้นำรัฐประหาร แม้ประชาชนจะพยายามรวมตัวกันเพื่อสร้าง "พลังประชาชน" ต่อต้านการรัฐประหารรวมถึงการประท้วงครั้งใหญ่ในปี 2564 แต่ก็ไม่เป็นผล

Purba มองว่าพล.อ.ประยุทธ์มีท่าทีสนับสนุนพลเอก อาวุโส มิน อ่อง หล่าย อย่างเปิดเผยเมื่อมีการโค่นล้มรัฐบาลของออง ซาน ซูจี เมื่อวันที่ 1 ก.พ. 2564 และแสดงท่าทีไม่เห็นด้วยกับการ "แทรกแซงกิจการภายในของเมียนมา" จากบรรดาชาติอาเซียน

สธ. เซ็นจัดซื้อยาแพกซ์โลวิด 5 หมื่นคอร์ส เผย ลดเสี่ยงป่วยหนัก - ตาย จากโควิดได้ถึง 88%

24 มี.ค. 65 - นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า โรคติดเชื้อโควิด-19 มีการแพร่ระบาดไปทั่วโลก ทำให้เกิดการติดเชื้อเป็นวงกว้าง และมีผู้ป่วยส่วนหนึ่งเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก ดังนั้น การพัฒนาวิธีการรักษารวมถึงการจัดหายารักษาโควิด-19 จึงมีความสำคัญและจำเป็นสำหรับผู้ที่ติดเชื้อ ซึ่งนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข มีนโยบายการจัดหายารักษาโควิด-19 ที่สำคัญ คือ การเข้าถึงยาที่มีประสิทธิผลในการรักษา โดยมีข้อมูลทางวิชาการหรือผลการศึกษาวิจัยที่มีคุณภาพเพียงพอในการสนับสนุนการตัดสินใจเชิงนโยบาย เพื่อพิจารณาเลือกและจัดหายาที่เหมาะสมในการนำมาใช้ในกับผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศไทย

‘อัศวิน’ โชว์ผลงาน นั่งผู้ว่าฯ กทม. ทำคลองให้ไม่เน่า - ไม่ต้องเข้าคิวรพ. - ชานเมืองมีรถไฟฟ้า

‘อัศวิน ขวัญเมือง’ โชว์ผลงาน นั่งผู้ว่าฯ ทำคลองให้ไม่เน่า - ไม่ต้องเข้าคิวรพ. หลายที่ฝนตกน้ำไม่ท่วม ชานเมืองมีรถไฟฟ้าถึงหน้าบ้าน 

เมื่อวันที่ 24 มีนาคม พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร โพสต์ข้อความทางเฟซบุ๊ก เปิดใจ หลังลาออกจาตำแหน่งเพื่อมาลงรับสมัครเลือกตั้งชิงเก้าอี้ผู้ว่ากทม. โดย ระบุว่า

“กรุงเทพมหานคร” เมืองแห่งความหวัง เมืองที่พวกเราหลายคนเข้ามาเพื่อตามความฝัน เข้ามาเรียน เข้ามาทำงานและ เข้ามาใช้ชีวิต ผมก็เป็นคนหนึ่งที่เข้ามาใช้ชีวิตในกรุงเทพฯ เพื่อตามหาความฝัน ตั้งแต่สมัยเรียนหนังสือจนทำงาน และ สร้างครอบครัว เหมือนคนอีกหลายคนในเมืองแห่งความหวังแห่งนี้

ในวัยเด็ก ผมจำได้ว่า วิ่งเล่นอยู่แถววงเวียนใหญ่ ว่ายน้ำอยู่แถวสะพานพุทธ บางวันก็ว่ายน้ำเล่นริมแม่น้ำเจ้าพระยา มาเตะตะกร้อที่หน้าศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร และได้เดินทางใช้ชีวิตอยู่ในกรุงเทพฯ มานานจนเห็นความเปลี่ยนแปลงไปพร้อมกับการพัฒนามาโดยตลอด

ในช่วงที่ผมเติบโตมา ได้เห็นความเจริญอย่างต่อเนื่องของเมืองแห่งนี้ แต่จากความเจริญก็ทำให้บางสิ่งบางอย่างแย่ลง จากน้ำที่เคยลงว่ายได้ ก็สกปรก คลองที่เคยมีน้ำใสสะอาด กลับกลายเป็นคลองที่มีน้ำเน่าเสีย สวนที่มีต้นไม้ร่มรื่นที่เคยเห็นคนนั่งเล่นพักผ่อน กลับกลายเป็นคอนกรีต บนถนนก็เต็มไปด้วยรถสัญจรไปมา จนเป็นภาพจำของคน กทม. ไปแล้ว ผมเป็นคนหนึ่งที่เกือบหมดหวัง ที่จะได้เห็นกรุงเทพฯ สวยงามในแบบที่ผมเคยเห็นในวัยเด็ก

จนมาวันหนึ่ง…ผมได้รับความไว้วางใจให้มาทำงานกับกรุงเทพมหานคร ผมยังจำได้ดี วันแรกที่ผมเดินทางไปทำงานในฐานะผู้ว่า กทม. ได้ผ่านคลองหลอด เห็นสภาพ 2 ฝั่งคลองที่เสื่อมโทรม น้ำในคลองเน่าเสีย สัปดาห์แรกผมได้ลงพื้นที่เขตบางขุนเทียน ผมเห็นคนจำนวนมากมาเข้าคิวหาหมอที่โรงพยาบาลผู้สูงอายุบางขุนเทียน ซึ่งในตอนนั้นยังเป็นโรงพยาบาลเล็ก ๆ เปิดให้บริการเฉพาะผู้ป่วยนอก ได้คุยกับพี่น้องประชาชน และรู้ว่าพื้นที่ 7 เขตแถวนั้น มีคนอยู่ประมาณ 500,000 คน ไม่มีโรงพยาบาลของรัฐเลย จะไปหาหมอแต่ละครั้งก็ต้องเดินทางเข้าเมืองเป็นระยะทางไกล ๆ เมื่อ กทม. เปิดโรงพยาบาลแห่งนี้ จึงเลือกหาหมอใกล้บ้าน แม้จะต้องเข้าคิวรอนานก็ตาม เมื่อผมได้ลงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ผมได้เห็นประชาชนแถวดินแดง แยกเกษตรศาสตร์ วงเวียนบางเขน ต้องถลกขากางเกง ลุยน้ำ เพื่อมารอรถเมล์ที่ป้ายรถเมล์หลังจากเกิดฝนตกหนัก ผมไปลงพื้นที่เขตบางเขน แถวแยกเกษตรฯ เห็นประชาชนยืนรอรถที่ป้ายรถเมล์จำนวนมาก เพื่อต่อรถกลับบ้านที่อยู่แถวสายไหม ดอนเมือง

เปิดจีดีพีภาคเกษตรไตรมาสแรกปีนี้ โต 4.4% 

นายฉันทานนท์ วรรณเขจร เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยถึงภาวะเศรษฐกิจการเกษตรไตรมาส 1 ปี 2565 (เดือนมกราคม - มีนาคม 2565) พบว่า ขยายตัวร้อยละ 4.4 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2564 ซึ่งมีทิศทางเป็นบวกต่อเนื่องจากไตรมาส 4 ปี 2564 (เดือนตุลาคม – ธันวาคม 2564) ที่ขยายตัวร้อยละ 0.7 

โดยการเติบโตได้ดีในไตรมาสนี้เป็นผลจากสาขาพืชซึ่งเป็นสาขาการผลิตหลักขยายตัว เนื่องจากฝนที่ตกต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงกลางปี 2564 ถึงต้นปี 2565 และสภาพอากาศที่เอื้ออำนวย ทำให้การผลิตพืชสำคัญ ทั้งข้าว อ้อยโรงงาน สับปะรด ยางพารา ปาล์มน้ำมัน และผลไม้ เพิ่มขึ้น ส่งผลให้สาขาบริการทางการเกษตรขยายตัวได้ตามพื้นที่เพาะปลูกและพื้นที่เก็บเกี่ยวพืชที่เพิ่มขึ้น 

ขณะที่สาขาประมงและสาขาป่าไม้ ขยายตัวได้จากการผลิตที่เพิ่มขึ้นตามความต้องการของตลาดที่มีอย่างต่อเนื่องอย่างไรก็ตาม สาขาปศุสัตว์หดตัวลงจากสถานการณ์โรคระบาดในสัตว์ที่ส่งผลให้เกษตรกรปรับลดปริมาณการเลี้ยง

“นายกฯ” เร่ง สธ.แก้ไขปัญโอนภารกิจ รพ.สต. ชี้ ให้ฟังความเห็นรอบด้าน ย้ำ ไม่ให้กระทบปชช.ช่วงโรคระบาด     

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จากกรณีที่การถ่ายโอนภารกิจโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.)ให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ตามพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)กำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2542 ยังล่าช้า เนื่องจากติดปัญหาหลายประการ พล.อ.ประยุทธ์  จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ได้มอบหมายให้กระทรวงสาธารณสุข เร่งพิจารณาแก้ไขปัญหา เพื่อให้การดำเนินการเป็นไปตามเจตนารมณ์ของกฎหมาย ที่มุ่งกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น เพิ่มการมีส่วนร่วมของประชาชนในแต่ละพื้นที่ในการกำหนดนโยบายในการดูแลตนเอง  

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับการกระจายอำนาจให้หลายภารกิจ โดยเฉพาะที่เกี่ยวกับการดูแลชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนให้ไปอยู่ในความดูแลขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ส่วนการโอนภารกิจของ รพ.สต.นั้น รัฐบาลได้มีการออกประกาศคณะกรรมการการกระจายอำนาจ ให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เรื่องหลักเกณฑ์และขั้นตอนการถ่ายโอนภารกิจสถานีอนามัยเฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษา นวมินทราชินี และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล(รพ.สต.) ให้แก่องค์การบริหารส่วนจังหวัด มีผลบังคับมาตั้งแต่วันที่ 19 ต.ค. 2564  เพื่อกำหนดแนวทางการถ่ายโอนภารกิจ ทั้งในด้านงบประมาณ กำลังคน การบริหารจัดการให้มีความชัดเจน และให้ดำเนินการตามความพร้อมของแต่พื้นที่ 

“เฉลิมชัย” ปลุกวันที่รอคอย รวมใจปชป.เป็นหนึ่งเดียว ดัน “สุชัชวีร์”เป็นผู้ว่าฯกทม. -ส.ก.50 เขต ยันช่วยหาเสียงไม่ได้ แต่จะเป็นแมวมองช่วยเหลือทุกเขต เชื่อประวัติศาสตร์ไม่มีเปลี่ยนแปลง หลังเคยส่ง “หม่อมสุขุมพันธุ์”นั่งผู้ว่าฯกทม.มาแล้ว  ด้าน “ดร.เอ้”ขอเดินทุก

ที่พรรคประชาธิปัตย์  นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตตรฯ ในฐานะเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วยนายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคฯ ดูแลกทม. นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ผู้สมัครผู้ว่าฯกทม.ร่วมเปิดศูนย์อำนวยการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร  ที่มีนายปริญย์ พานิชยภักดิ รองหัวหน้าพรรคฯและหัวหน้าทีมเศรษฐกิจทันสมัย  เป็นผอ.ศูนย์ฯ ภายใต้แนวคิด ประชาธิปัตย์ รวมใจเป็นหนึ่งเดียว "All for Democrat"  ที่ลานพระแม่ธรณี พรรคประชาธิปัตย์ โดยมีว่าที่ผู้สมัคร ส.ก.ทั้ง 50 เขต อดีตส.ส.กทม.ร่วมเปิดศูนย์ฯ  อย่างคึกคัก

โดยนายเฉลิยชัย กล่าวว่า วันนี้เป็นวันหนึ่งที่พรรคประชาธิปัตย์รอคอยอยู่ นับตั้งแต่ปี 2562 วันเลือกตั้งส.ส.กทม.ครั้งสุดท้าย ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมาพรรคประชาธิปัตย์บ่มทุกอย่าง เพราะทุกอย่าง เพื่อรอวันที่เราจะกลับมาเป็นผู้นำกทม.อีกครั้งหนึ่ง ตนอยากเรียกว่าวันนี้เป็นวันที่รอคอย ของพรรคฯและสมาชิกพรรคฯ ตนเคยพูดตั้งแต่วันเปิดตัวนายสุชัชวีร์ และว่าที่ผู้สมัครส.ก.ของพรรคฯว่านี่คือจุดเปลี่ยนของ กทม.จริงๆ ตนฝันมาตั้งแต่มีโอกาสเป็นเลขาธิการพรรคฯครั้งแรกปี 2554 ฝันว่า กทม.จะต้องเป็นเมืองที่ผู้บริหารกทม.คืออนาคตของประเทศไทย แต่วันนั้นฝันของตนไม่เป็นจริง ซึ่งมันผ่านมาแล้ว แต่ฝันของตนคือความมุ่งมั่น ไม่ใช่ฝันลอยๆหรือฝันกลางวัน เพราะตนต้องการเห็นประเทศไทยเปลี่ยน ไม่ใช่เฉพาะกทม. แม้จะไม่สามารถเปลี่ยนได้ภายในวันเดียว ซึ่งนายสุชัชวีร์ บอกว่าหากจะต้องเปลี่ยนประเทศไทยต้องเปลี่ยนกทม.ก่อน เพราะคำพูดนี้ตรงกลับเป้าหมายของตน ตนไม่ได้รักตัวเองคนเดียว ตนรักพี่น้องคนไทย รักประเทศไทย ตนอยากเห็นประเทศเดินไปพร้อมความเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น และอยากเห็นคนรุ่นใหม่เข้ามาทำงานการเมืองและเป็นผู้บริหารโดยมีคนรุ่นเก่าเป็นพี่เลี้ยง เพื่อให้ประเทศเดินไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคง โดยการคัดเลือกว่าที่ผู้สมัครส.ก.เป็นคนรุ่นใหม่เลือดใหม่เพื่อรองรับการบริหาร กทม.ในวันข้างหน้า 

“วันนี้จึงเป็นวันที่รอคอยและเป็นวันที่ประชาธิปัตย์จะกลับมารวมใจกันอีกครั้ง เพื่อช่วยดร.เอ้เป็นผู้ว่าฯ กทม.ให้ได้  ขอร้องและวิงวอนสมาชิกพรรคฯที่อยู่ทั่วกรุงเทพฯและอยู่ทั่วประเทศไทย ต้องมารวมใจให้เป็นหนึ่ง และทำให้ผู้สมัครของพรรคฯเป็นผู้ว่าฯกทม. เป็นส.ก.ให้ได้  ผมเชื่อว่า76 ปีที่ผ่านมา ความเป็นสถาบันการเมืองของพรรคฯไม่ได้ผ่านมาโดยเปล่าประโยชน์ แต่ผ่านมาด้วยการสะสมอุดมการณ์ และประสบการณ์ เพื่อพัฒนาตนเอง และวันนี้จุดไหนบกพร่องและคิดว่าไม่เหมาะสมเราก็มาปรับปรุงแก้ไข เพื่อนำมาปฏิบัติ และต่อยอดให้ดียิ่งขึ้น วันนี้จุดไหนต้องเปลี่ยนแปลง เราก็ต้องเปลี่ยนแปลง เพราะนี่คือประชาธิปัตย์ยุคใหม่แต่อุดมการณ์และหลักการคงเดิมไม่เปลี่ยนแปลง”นายเฉลิมชัย กล่าว

นายเฉลิมชัยก ล่าวต่อว่า ลตนเคยพูดแล้วว่าถ้าเราไม่มีหลักการและอุดมการณ์ก็ไม่มีทางที่เราจะเป็นประชาธิปัตย์ได้ วันนี้ทุกคนคือส่วนหนึ่งของประชาธิปัตย์ วิธีการอยู่ที่พวกท่านที่ต้องทำให้ถูกต้องตามกฎหมาย และประสบชัยชนะภายใต้กฎหมาย ขอให้ทุกคนทำงานเป็นหนึ่งเดียว ตนไม่มีโอกาสลงไปเดินในพื้นที่กับทุกคน เพราะกฎหมายบัญญัติไว้ แต่ตนยังเป็นเลขาธิการพรรคฯ กฎหมายไม่ได้บอกว่าส่งผู้ว่าฯกทม.แล้วตนต้องหลุดออกจากเลขาธิการพรรคฯ ตนจึงจะยังเป็นแมวมองไปมองพวกท่านทุกเขต อยากเห็นว่าเมื่อไปเขตไหนทุกเขตของประชาธิปัตย์มีทุกอย่างเหมือนกันทั้งหมด เพื่อให้ความรู้สึกว่ากทม.ไม่มีเขต และทุกที่คือประชาธิปัตย์ 

“ผมเชื่อมั่นความเป็นหนึ่งเดียวของเราจะเรียกคืนความเป็นประชาธิปัตย์ใน กทม.กลับคืนมาได้ และเชื่อว่าความเชื่อมั่นของประชาชนที่มีต่อพรรคฯยังไม่มีวันเสื่อมคลาย เราต้องทำให้เขากลับมามีความศรัทธา และเชื่อมั่นพรรคเราอีกครั้งหนึ่ง นี่คือจุดเริ่มต้น ถ้าเริ่มต้นดีทุกอย่างก็เดินไปด้วยความราบรื่น ผมขอเทใจให้กับทุกคน นี่คือวันที่ผมรอคอย เมื่อกลับมาเป็นเลขาธิการพรรคฯครั้งที่สอง เพราะครั้งแรกส่ง มรว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ก็ชนะการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. ครั้งนี้ส่งดร.เอ้ ผมมั่นใจเต็มเปี่ยมว่าประวัติศาสตร์ไม่มีวันเปลี่ยนแปลง แต่อยู่ที่ทุกคนทั้งหมดจะช่วยกันทำ ขอให้ทุกคนเริ่มต้นเดินไปข้างหน้า สู้และชนะ” นายเฉลิมชัย กล่าว

ด้านนายปริญญ์ กล่าวว่า ความตั้งใจของทุกคนที่ทำงานไม่ใช่ว่าจะมีการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.และส.ก.ในวันที่ 22 พ.ค.65 ทุกคนทำงานด้วยใจ อยากรับใช้พี่น้องแต่ละเขตที่ไป และเชื่อว่าทุกคนของพี่น้องที่ไปพบเหมือนญาติคนหนึ่ง โดยเฉพาะช่วงโควิด ที่ลงไปช่วยด้วยใจ ส่ิงนี้ทำให้ตนมั่นใจมากขึ้นว่ากรุงเทพฯเปลี่ยนได้ ขอให้คนกรุงเทพฯเปิดใจดูนโยบายและวิสัยทัศน์ของนายสุชัชวัร์ และเปิดใจดูผลงานขอ ผู้สมัครส.ก.ทุกคน เพราะเรารู้อยู่แก่ใจว่าทำงานมาตลอดเพื่อพี่น้องในเขตของท่าน เเเรารอวันนี้มานานมาก 9 ปีกว่าแล้ว ที่มีการเลือกตั้งผูว่าฯกทม.ครั้งสุดท้าย ดังนั้นวันที่ 22 พ.ค.ตนเชื่อว่าเราเปลี่ยนกรุงเทพฯได้ และคนที่ทำได้คือนายสุชัชวีร์ สังคมดีไม่มีขายถ้าอยากได้ต้องร่วมสร้าง 

ข่าวดี! เกาหลีรับแรงงานไทยทำงานกิจการอุตสาหกรรมการผลิต และกิจการเกษตรและปศุสัตว์ กว่า 6 พันคน

กรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน เปิดรับสมัครทดสอบภาษาเกาหลีและทักษะการทำงาน (Point System) ครั้งที่ 11 เพื่อไปทำงานสาธารณรัฐเกาหลี ในประเภทกิจการอุตสาหกรรมการผลิต โควตา 5,671 คน และประเภทกิจการเกษตรและปศุสัตว์ โควตา 342 คน

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า กระทรวงแรงงานไทย และกระทรวงแรงงานสาธารณรัฐเกาหลี ได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการจัดส่งแรงงานไปทำงานสาธารณรัฐเกาหลีตามระบบการจ้างแรงงานต่างชาติ (Employment Permit System for Foreign Workers: EPS) กำหนดให้กระทรวงแรงงาน โดยกรมการจัดหางานเป็นหน่วยงานผู้ทำหน้าที่รับสมัคร คัดเลือกและจัดส่งคนหางานไปทำงาน โดยคนหางานที่จะเดินทางไปทำงานต้องผ่านการทดสอบภาษาเกาหลี (EPS-TOPIK) และทักษะการทำงาน ตามที่สำนักบริการพัฒนาบุคลากรแห่งเกาหลี (Human Resources Development Service of Korea: HRD Korea) ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบการจัดสอบกำหนด

โดยครั้งนี้ได้ประกาศรับสมัครทดสอบภาษาเกาหลีและทักษะการทำงาน (Point System) ครั้งที่ 11 ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์การบริหารแรงงานไทยไปต่างประเทศ (e-Service) และชำระเงินค่าสมัครสอบแบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Payment) เพื่อสมัครไปทำงานสาธารณรัฐเกาหลีตามระบบการจ้างแรงงานต่างชาติ (EPS) ประเภทกิจการอุตสาหกรรมการผลิต ให้โควตาผู้สอบผ่าน 5,671 คน แบ่งเป็น เพศชาย 2,836 คน เพศหญิง 2,835 คน กำหนดรับสมัครระหว่างวันที่ 24 -28 มีนาคม 2565 และประเภทกิจการเกษตรและปศุสัตว์ ให้โควตาผู้สอบผ่าน 342 คน แบ่งเป็นเพศชาย 171 คน และเพศหญิง 171 คน กำหนดรับสมัครระหว่างวันที่ 20 - 22 เมษายน 2565 

“พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งกำกับดูแลกระทรวงแรงงาน ให้ความสำคัญกับการส่งเสริมแรงงานไทยให้เดินทางไปทำงานต่างประเทศมาโดยตลอด เพราะนอกจากแรงงานไทยสามารถมีรายได้ดูแลครอบครัว ยกระดับคุณภาพชีวิตของตนเองได้แล้ว รายได้และประสบการณ์ที่นำกลับมายังมีส่วนในการพัฒนาประเทศด้วย” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานกล่าว

นายไพโรจน์ โชติกเสถียร อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวว่า ผู้ที่ประสงค์จะสมัครไปทำงานสาธารณรัฐเกาหลี สามารถสมัครสอบได้ที่เว็บไซต์ toea.doe.go.th ลงทะเบียนอิเล็กทรอนิกส์การบริหารแรงงานไทยไปต่างประเทศ กรอกข้อมูลเพื่อลงทะเบียนคนหางาน โดยสามารถศึกษาวิธีการลงทะเบียน คุณสมบัติผู้สมัครและเอกสารที่เกี่ยวข้อง ที่เมนูข่าวประชาสัมพันธ์ หัวข้อ ประกาศรับสมัครทดสอบภาษาเกาหลีและทักษะการทำงาน (Point System) ครั้งที่ 11  EPS โดยเลือกสมัครสอบได้ประเภทงานเดียวเท่านั้น ซึ่งแรงที่สนใจสมัครทดสอบภาษาเกาหลีฯ ต้องยื่นคำขอการสมัคร โดยคนหางานกรอกข้อมูลการสมัครและแนบเอกสารผ่านระบบออนไลน์ เลือกศูนย์สอบ ซึ่งมีสถานที่สอบให้เลือก 2 ศูนย์ คือ ศูนย์สอบกรุงเทพมหานคร และศูนย์สอบอุดรธานีทำการตรวจสอบผลการอนุมัติ โดยตรวจสอบผลการพิจารณา และพิมพ์ใบแจ้งชำระเงินค่าสมัคร เพื่อชำระเงินค่าสมัครสอบ จำนวน 830 บาท ภายในระยะเวลาที่กำหนด ซึ่งสามารถชำระเงินค่าสมัครสอบได้ 4 ช่องทาง ได้แก่ 1.เคาน์เตอร์ธนาคารกรุงไทย 2.ATM / ADM 3.Internet Banking 4.ต่างธนาคาร Cross Bank Bill Payment จากนั้นตรวจสอบสถานะ สมัครสอบ การชำระเงิน และหมายเลขผู้สมัครสอบ และพิมพ์บัตรประจำตัวผู้สมัครสอบ 

หลักฐานและเอกสารที่ใช้ประกอบการสมัคร มีดังนี้
1. รูปถ่ายหน้าตรง พื้นหลังสีขาว รวบผมให้เห็นใบหูและไม่สวมเสื้อสีขาว ไม่สวมหมวก ไม่สวมแว่นตา ถ่ายไว้ไม่เกิน 3 เดือน (ประเภทไฟล์เป็น JPG และความละเอียด 10-15KB)
2. ถ่ายหนังสือเดินทางที่ยังไม่หมดอายุ (ถ้ามี) ต้องชัดเจน ระบุวัน เดือน ปีเกิดให้ครบถ้วน (ประเภทไฟล์เป็น JPG ความละเอียด 60 - 100 KB)
3 . ถ่ายบัตรประจำตัวประชาชนที่ยังไม่หมดอายุ ต้องชัดเจน และระบุวัน เดือน ปีเกิดให้ครบถ้วน (ประเภทไฟล์เป็น JPG ความละเอียด 60-100 KB)


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top