Wednesday, 14 May 2025
Hard News Team

Amazon ทุ่มเฉียด 2 แสนลบ. เปิด AWS Asia Pacific (Bangkok) สนับสนุนการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลของประเทศไทย

ภายหลังข่าวแผนกคลาวด์คอมพิวติ้งของแอมะซอน หรือ AWS ได้ออกมาเปิดเผยว่า มีแผนลงทุนมูลค่า 5 พันล้านดอลลาร์ในไทย เพื่อยกระดับโครงสร้างพื้นฐานของ AWS

(19 ต.ค. 65) ด้าน ดร.สมเกียรติ โอสถสภา อดีตอาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ก็ได้โพสต์ข้อความเกี่ยวกับเรื่องนี้ ว่า...

AWS ประกาศแผนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานระบบคลาวด์ในไทย มูลค่ามากกว่า 5 พันล้าน ดอลลาร์ หรือ 1.9 แสนล้านบาท ในระยะเวลา 15 ปี ด้วยการเปิดตัว Region แห่งใหม่ ที่มีชื่อว่า 'AWS เอเชียแปซิฟิก' (กรุงเทพฯ)

อะเมซอน เว็บ เซอร์วิสเซส (Amazon Web Services: AWS) บริษัทในเครือ Amazon.com, Inc. ประกาศแผนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานระบบคลาวด์ ด้วยการเปิดตัว Region ในประเทศไทย ที่จะมีชื่อว่า AWS Asia Pacific (Bangkok)

โดย Region แห่งใหม่นี้จะประกอบด้วย Availability Zone สามแห่ง ซึ่งเพิ่มเติมจาก Availability Zone ของ AWS ที่มีอยู่แล้ว 87 แห่งใน 27 ภูมิภาคทั่วโลก และ AWS ได้ประกาศแผนที่จะสร้าง Availability Zone ทั่วโลกอีก 24 แห่งและ AWS  Region อีก 8 แห่งในออสเตรเลีย, แคนาดา, อินเดีย, อิสราเอล, นิวซีแลนด์, สเปน, สวิตเซอร์แลนด์ รวมถึงประเทศไทย

AWS Region ที่กําลังจะมีขึ้นในประเทศไทยจะช่วยให้นักพัฒนา สตาร์ตอัพ และองค์กรต่างๆ รวมถึงภาครัฐ การศึกษา และองค์กรไม่แสวงผลกําไร สามารถเรียกใช้แอปพลิเคชันของตนและให้บริการผู้ใช้ปลายทางจากศูนย์ข้อมูล AWS ที่ตั้งอยู่ในประเทศไทย เพื่อให้ลูกค้าที่ต้องการเก็บข้อมูลของตนไว้ในประเทศไทยสามารถทําได้

'บิ๊กตู่' สั่ง!! รีบหาช่องทางถ่ายสดบอลโลก หลังคอลูกหนังถามหากันเข้ามาเยอะ

'บิ๊กตู่' สั่งรีบหาช่องทางถ่ายทอดสดบอลโลกให้เร็วที่สุด หลังคอลูกหนังถามหา 'สมศักดิ์' แนะเทคนิคทำลิขสิทธิ์ถูก ให้อุบไว้ก่อน

(19 ต.ค. 65) รายงานข่าวจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันอังคารที่ 18 ต.ค.แจ้งว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้พูดคุยกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการโอลิมปิกประเทศไทย เรื่องการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกที่จะมีการแข่งขันในช่วงเดือน พ.ย. ว่าเป็นอย่างไร เพราะประชาชนเรียกร้องอยากให้มีการถ่ายทอดสด โดยระบุว่าเห็นเขาพูดกันเยอะ โดย พล.อ.ประวิตรระบุว่า เรื่องคณะกรรมการโอลิมปิกกำลังคุยกันอยู่ว่าจะเอาอย่างไรกันในอาเซียน

กลุ่ม ปตท. มอบบัตรเติมน้ำมัน 200,000 บาท สนับสนุน กทม. ทำงานบรรเทาเหตุน้ำท่วม

เมื่อเร็ว ๆ นี้ นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ได้มอบบัตรเติมน้ำมันมูลค่า 200,000 บาท ในนามกลุ่ม ปตท. แก่ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กลางขวา) เพื่อสนับสนุนการทำงานของกรุงเทพมหานครในการช่วยเหลือเหตุอุทกภัย และบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่กรุงเทพฯ ณ อาคาร ปตท. สำนักงานใหญ่ ถ.วิภาวดีรังสิต กทม.

โดยผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้กล่าวด้วยว่า ปตท. ถือเป็นส่วนสำคัญของเมือง ทั้งในเรื่องการสร้างงานและเศรษฐกิจ ต้องขอขอบคุณทาง ปตท. เป็นอย่างมากที่ช่วย กทม. มาตลอด และหวังว่าจะร่วมมือกันต่อไป

พร้อมกันนี้ ผู้ว่าฯ ชัชชาติ ยังได้กล่าวถึงโครงการ Saturday School Bangkok ซึ่งขณะนี้เปิดรับคุณครูอาสา (Volunteer Teacher) พร้อมเชิญชวนพนักงาน ปตท. มาช่วยสอนภาษาอังกฤษ สอนเรื่องพลังงาน เรื่องแยกขยะ ฯลฯ เพื่อให้พนักงานมีความเข้าใจปัญหาสังคม เข้าถึงเด็กๆ และได้ร่วมแบ่งปันโอกาสให้น้อง ๆ อีกด้วย

จากข้อสังเกตของในหลวง ร.9 สู่โครงการชื่อน่ารัก สร้างคุณประโยชน์มหาศาลต่อสยามประเทศ

ตลอดระยะเวลา 70 ปีที่รัชกาลที่ 9 ทรงครองราชย์ ทำให้แผ่นดินไทยร่มเย็นเป็นสุขเสมอมา ด้วยความที่พระองค์ทรงพระปรีชาสามารถ จึงเกิดโครงการในพระราชดำริมากถึง 4,000 กว่าโครงการ ที่ล้วนเอื้อประโยชน์ให้ประชาชนชาวไทยทั้งสิ้น  

บางโครงการมีชื่อเป็นทางการ แต่บางโครงการก็มีชื่อน่ารักและชวนฉงน จึงอยากนำมาเล่าสู่กันฟัง เผื่อคนรุ่นหลังที่เคยได้ยินชื่อโครงการเหล่านี้ แต่ไม่รู้ว่าเป็นโครงการอะไร

โครงการที่ดังที่สุดเห็นจะเป็น 'โครงการแก้มลิง'  

พระราชวังไกลกังวลที่หัวหินนั้นมักมีแขกขนฟูมาเยี่ยมเยียนเสมอ พระองค์สังเกตฝูงลิงและตรัสว่า...

“ลิงโดยทั่วไป ถ้าเราส่งกล้วยให้ ลิงจะรีบปอกเปลือก เอาเข้าปากเคี้ยว แล้วนำไปเก็บไว้ที่แก้มก่อน ลิงจะทำอย่างนี้จนกล้วยหมดหวีหรือเต็มกระพุ้งแก้ม จากนั้นจะค่อย ๆ นำออกมาเคี้ยวและกลืนกินภายหลัง”

นั่นคือจุดกำเนิดของโครงการชื่อน่ารักในชื่อโครงการแก้มลิง โครงการบริหารจัดการน้ำตามแนวพระราชดำริ ที่มีการแบ่งเป็น 3 ขนาด คือ ใหญ่ กลาง และเล็ก  

โดยพระองค์มีพระราชดำริให้จัดหาพื้นที่ลุ่ม บึง สระ เป็นที่รองรับน้ำ เมื่อฝนตกหนักให้นำน้ำเข้ามาเก็บกักไว้ในแก้มลิงชั่วคราว น้ำฝนจะไม่ไหลลงสู่ทางระบายน้ำทันที แต่จะขังไว้ในพื้นที่พักน้ำ เมื่อน้ำในคลองมีสภาพปกติ จึงระบายน้ำออกจากแก้มลิง ซึ่งนอกจะแก้ไขปัญหาน้ำท่วมแล้ว ยังช่วยแก้ไขปัญหาการขาดน้ำในฤดูแล้งได้ด้วย

'ออสเตรเลีย' กลับลำ!! ขอแยกทางจากสหรัฐฯ ยกเลิกรับรองเยรูซาเล็มเป็นเมืองหลวงให้อิสราเอล

รัฐบาลออสเตรเลียได้ออกมายืนยันอย่างเป็นทางการแล้วว่า ได้ยกเลิกการรับรองกรุงเยรูซาเล็มฝั่งตะวันตกว่าเป็นเมืองหลวงของอิสราเอลแล้ว ซึ่งเป็นการถอนคำสั่งของ อดีตนายกรัฐมนตรี สกอตต์ มอร์ริสัน (Scott John Morrison) ที่ได้ประกาศรับรองเยรูซาเล็มเป็นเมืองหลวงให้อิสราเอลไว้ในปี 2018

สาเหตุเบื้องหลังเกิดจาก โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ได้ประกาศรับรองให้กรุงเยรูซาเล็ม เป็นเมืองหลวงอย่างเป็นทางการ (ตามความเห็นของผู้นำสหรัฐฯ) ให้กับอิสราเอล พร้อมทั้งย้ายสถานทูตสหรัฐฯ ไปตั้งในเขตเยรูซาเล็ม อย่างเป็นนัยสำคัญให้กับฝ่ายอิสราเอล ท่ามกลางการประท้วงคัดค้านอย่างหนักของชาวปาเลสไตน์ และ ผู้นำหลายชาติทั่วโลก 

แต่ทั้งนี้ ด้านออสเตรเลีย ที่ถือว่าเป็นพันธมิตรที่ใกล้ชิดมากที่สุดชาติหนึ่งของสหรัฐฯ อีกทั้ง สกอตต์ มอร์ริสัน ก็เป็นนายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย ที่มีแนวคิดคล้าย ๆ กับ โดนัลด์ ทรัมป์ ก็ตัดสินใจเดินตามรอยเท้าลูกพี่ใหญ่อย่างไม่ลังเล ออกมาประกาศรับรองการอ้างสิทธิ์เหนือกรุงเยรูซาเล็มของอิสราเอลเช่นกัน เมื่อปี 2018 และกำลังรอเวลาที่จะย้ายสถานทูตออสเตรเลียจากกรุง เทล อาวีฟ ไปตั้งในเขตเยรูซาเล็ม ตามสหรัฐอเมริกาไปติด ๆ

แต่พอจบรัฐบาลของสกอตต์ มอร์ริสัน ไปแล้ว แอนโทนี แอลบานีส นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย เชื้อสายอิตาลีคนใหม่จากพรรคแรงงาน ก็ได้กลับมาทบทวนนโยบายการรับรองกรุงเยรูซาเล็มอีกครั้ง และตัดสินใจคว่ำแผนการย้ายสถานทูตทิ้งแบบไม่ใยดีเช่นกัน

ตอนแรกทางรัฐบาลออสเตรเลียตั้งใจจะกลับลำแบบเงียบ ๆ ด้วยการแอบไปลบแผนนโยบายต่างประเทศเก่า ๆ ในสมัยของสกอตต์ มอร์ริสัน ที่โพสต์อยู่บนเว็บไซต์ของรัฐบาลทิ้ง โดย 2 ประโยคเด็ดที่ถูกลบออกไป คือช่วงที่มีการเขียนรับรองว่ากรุงเยรูซาเล็ม ให้อิสราเอล รวมถึงแผนการย้ายสถานทูต ดังนี้...

“Consistent with this longstanding policy, in December 2018, Australia recognised West Jerusalem as the capital of Israel, being the seat of the Knesset and many of the institutions of the Israeli government.

“Australia looks forward to moving its embassy to West Jerusalem when practical, in support of, and after the final status determination of, a two-state solution.”

แต่ทว่า ทุกประเทศล้วนมีทีม 'แคปทัน' เสมอ หูตาไวเวอร์ ที่สังเกตว่า อ้าว! นโยบายเรื่องเกี่ยวกับอิสราเอลหายไปแล้วนิหน่า หมายความว่ารัฐบาลออสเตรเลียชุดใหม่ จะทิ้งขบวน ไม่ตามสหรัฐฯ ไปกรุงเยรูซาเล็มแล้วใช่หรือไม่?

เมื่อวันที่ (18 ต.ค. 65) เพนนี หว่อง รัฐมนตรีต่างประเทศของออสเตรเลีย จึงออกมาแถลงข่าวยืนยันว่า รัฐบาลออสเตรเลียได้ตัดสินใจใหม่แล้วว่า จะไม่รับรองกรุงเยรูซาเล็ม ฝั่งตะวันตก เป็นเมืองหลวงของอิสราเอลอีกต่อไป เพื่อรักษาบรรยากาศแห่งความสันติสุขระหว่าง อิสราเอล และ ปาเลสไตน์ ให้เข้าสู่กระบวนการเจรจาหาทางออกในแนวสันติวิธี และเป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ 

ทั้งนี้ออสเตรเลีย ยังสนับสนุนนโยบาย Two-state solution และสถานทูตออสเตรเลีย ก็จะยังคงอยู่ที่กรุง เทล อาวีฟ เช่นเดิม ไม่ย้ายไปไหนด้วย

เพนนี หว่อง ยังกล่าวถึงรัฐบาลอิสราเอลว่า "ทางออสเตรเลียยังเป็นมิตรประเทศกับอิสราเอลอยู่นะ และต้องไม่ลืมว่า ออสเตรเลียคือชาติแรก ๆ ที่รับรองเอกราชให้กับชาติอิสราเอล เพียงแต่การยกเลิกนโยบายเก่าไม่ได้หมายความว่าเราจะไม่ดูแลชุมชนชาวยิวในออสเตรเลีย แต่ทั้งนี้ ออสเตรเลียก็มีหน้าที่ดูแลชุมชนชาวปาเลสไตน์ของเราด้วยอย่างเสมอภาค รวมถึงการสนับสนุนด้านมนุษยธรรมให้กับทุกชุมชน"

เมื่อรัฐบาลชุดใหม่ของออสเตรเลียออกมากลับคำ จากสิ่งที่เคยให้สัญญาไว้ย่อมสะเทือนถึงรัฐบาลอิสราเอลเป็นธรรมดา 

โดยด้าน ยาอีร์ ลาปิด นายกรัฐมนตรีอิสราเอลออกมาตอบโต้ทางออสเตรเลียอย่างเผ็ดร้อน ทำนองว่าเหยาะแหยะเป็นไม้หลักปักขี้เลนที่พูดแล้ว คืนคำ และยังวิจารณ์ว่า "เราได้แต่หวังว่ารัฐบาลออสเตรเลียจะบริหารนโยบายที่ลั่นวาจาไว้อย่างจริงจัง และเป็นมืออาชีพกว่านี้" 

ส่วนรัฐมนตรีต่างประเทศของอิสราเอล ก็ได้เรียกตัวเอกอัครราชทูตออสเตรเลียประจำอิสราเอล ให้มาอธิบายถึงสาเหตุการกลับลำ 360 องศาของรัฐบาลชุดใหม่ของออสเตรเลียว่า มีปัญหาอะไร?? 

ญาติผู้เสียชีวิต 'ลุงวัย 58' จมบ่อปลาลึก 9 เมตร ตื้นตัน!! หลังทหารรุดช่วยค้นหาร่างสำเร็จ ทันทีที่ขอความช่วยเหลือ

เมื่อ (17 ต.ค. 65) กองร้อยลาดตระเวนระยะไกล 4 (ร้อย.ลว.ไกล 4/พล.ร.4) จัดกำลังชุดปฏิบัติการช่วยเหลือกู้ภัยทางน้ำจำนวน 8 นาย พร้อมอุปกรณ์ดำน้ำ ร่วมกับ มูลนิธิประสาทบุญสถาน/หน่วยกู้ภัยจังหวัดพิษณุโลก ในการร่วมกันค้นหาร่างผู้เสียชีวิต ภายหลังได้รับแจ้งเหตุมีคนสูญหายเมื่อวันที่ 16 ต.ค. เวลาประมาณ 21.00 น. จากการจมน้ำ ทราบชื่อ นายมานะ วิชัย อายุ 58 บ้านเลขที่ 187 หมู่ 3 ตำบลปากแรด อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก

โดยเหตุเกิด บริเวณบ่อปลาท้ายชุมชน ซึ่งลักษณะพื้นที่มีน้ำท่วมหลาก ความลึกประมาณ 9 เมตร พิกัด  47Q PU 177533 บ.วังแดง ม.7 ต.บางระกำฯ ต่อมาพบร่างผู้จมน้ำเสียชีวิตเมื่อเวลาประมาณ 11.30 น. ของวันที่ (17 ต.ค. 65) 

โซเชียลแชร์ ทะเลาะวิวาทในประเทศจีน โทษหนัก หากเป็นชาวต่างชาติ เนรเทศกลับประเทศลูกเดียว

(19 ต.ค. 65) จากเฟซบุ๊กเพจ 'ตี๋น้อย' ได้โพสต์เตือนเรื่องการทะเลาะวิวาทในจีน ไม่ว่าจะเป็นคนชาติใด ก็จะโดนโทษหนัก ไว้ว่า...

พอดีเมื่อวันที่ 8 ต.ค. เห็นข่าวที่ไทยทะเลาะวิวาทกัน โพสต์นี้ขออนุญาตเล่าเรื่องการทะเลาะวิวาทในจีนซักหน่อย 

ในกรณีที่เป็นนักศึกษาต่างชาติเกิดการทะเลาะวิวาทกันเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นกับคนจีนหรือกับต่างชาติด้วยกัน ยิ่งเกิดอาการบาดเจ็บจากการทะเลาะวิวาทโทษคือ โดนไล่ออกครับผม แถมโดนขึ้นแบล็คลิสต์ ห้ามเข้าจีนอย่างต่ำสามปี ในกรณีที่ถึงแก่ความตาย ทุพพลภาพ ขึ้นแบล็คลิสต์ห้ามเข้าจีนอย่างต่ำ 10 ปี หรือห้ามเข้าจีนตลอดชีวิต ผู้กระทำต้องรับผิดชอบค่ารักษาพยาบาลต่าง ๆ ทั้งร่างกายและจิตใจแก่ผู้เสียหายด้วย

ในกรณีที่เป็นเด็กนักเรียนต่างชาติ โดยส่วนมากโรงเรียนจะประนีประนอม โดยให้ฝ่ายที่กระทำจะต้องชดใช้ค่ารักษาพยาบาลต่าง ๆ แก่ผู้ถกกระทำ หนักสุด ก็ให้ลาออกจากโรงเรียน

อัปเดตราคา ‘หมู-เนื้อ-ไก่’

อัปเดตราคาอาหารสดวันนี้ มาดูกันว่าตามท้องตลาด ราคาอาหารสด ประจำวันที่ 19 ตุลาคม 2565 จะเพิ่มขึ้นหรือลดลงแค่ไหน ไม่ว่าจะเป็น ราคาหมู ราคาไก่ ราคาไข่ไก่ รวมไปถึงราคาผักสด เช็กกันเลย..

นายกรัฐมนตรี-ครม. เยี่ยมชมกิจกรรมประชาสัมพันธ์ 'ทอดกฐินทั่วไทย ร่วมสืบทอดพระพุทธศาสนา 2565' วธ.เชิญชวนชาวพุทธร่วมกิจกรรมเทศกาลกฐิน สืบสานพระพุทธศาสนา

วันอังคารที่ 18 ตุลาคม 2565 ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม พร้อมด้วยนายชัยพล สุขเอี่ยม ผู้ตรวจราชการกระทรวงวัฒนธรรม นายสำรวย นักการเรียน รองอธิบดีกรมการศาสนา ผู้บริหาร ข้าราชการและเจ้าหน้าที่กระทรวงวัฒนธรรมร่วมให้การต้อนรับ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี เพื่อประชาสัมพันธ์ประเพณี 'ทอดกฐินทั่วไทย ร่วมสืบทอดพระพุทธศาสนา พุทธศักราช 2565' และนำชมนิทรรศการ การสาธิตการทอผ้าจุลกฐิน ตั้งแต่ขั้นตอนการอิ้วหรือ อิดเม็ดฝ้าย เพื่อเเยกเม็ดฝ้ายเเละปุยฝ้ายออกจากกัน การกรอหรือผัดเส้นฝ้าย ใส่หลอดกระสวยเพื่อนำไปทอผ้า สำหรับทำผ้ากฐิน โดยกลุ่มทอผ้าลาวครั่งวัดโพรงมะเดื่อ จากศูนย์เพื่อการเรียนรู้วัฒนธรรม วัดโพรงมะเดื่อ จังหวัดนครปฐม โดยมีนักเรียนจากชมรมวัฒนธรรมส่งเสริมเด็กและเยาวชนต้นแบบ โรงเรียนอนุบาลเมืองใหม่ชลบุรี และโรงเรียนมหาไถ่ศึกษาบ้านน้อยสามเหลี่ยม จังหวัดขอนแก่น นำเสนอความเป็นมาของเทศกาลกฐิน และเชิญชวนนายกรัฐมนตรี พร้อมคณะรัฐมนตรีร่วมทำบุญปักเสาธงต้นกฐิน เพื่อเป็นการสืบทอดประเพณีการทอดกฐิน และรับมอบสื่อประชาสัมพันธ์ เนื่องในเทศกาลกฐิน

นายอิทธิพล กล่าวว่า กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) โดยกรมการศาสนา (ศน.) ในฐานะหน่วยงานของรัฐที่มีหน้าที่ในการส่งเสริมคนไทยให้นำหลักธรรมทางศาสนามาใช้ให้เกิดความรู้คู่คุณธรรม และเสริมสร้างคุณธรรมจริยธรรมให้สังคมมีคุณภาพ เผยแพร่หลักธรรมสู่เยาวชนและประชาชน ประเพณีการทอดกฐินของพุทธศาสนิกชนไทยปฏิบัติสืบทอดตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน คือ พระกฐินหลวง และ กฐินราษฎร์ โดยกฐินมีกำหนดระยะเวลาถวาย 1 เดือน และตามราชประเพณีที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานผ้าพระกฐินให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ องค์การ สมาคม มูลนิธิ บริษัทห้างร้าน และประชาชนทั่วไป ที่มีจิตศรัทธาที่มาขอรับพระราชทานผ้าพระกฐิน นำไปถวายพระสงฆ์จำพรรษา ณ พระอารามหลวงทั่วราชอาณาจักรในกฐินกาล จำนวน 292 พระอาราม และวัดไทยในต่างประเทศ จำนวน 31 วัด ซึ่งในปีนี้ ได้กำหนดกฐินกาล เริ่มตั้งแต่วันอังคารที่ 11 ตุลาคม 2565 - วันอังคารที่ 8 พฤศจิกายน 2565 และกำหนดเริ่มพระกฐินหลวงตั้งแต่วันอังคารที่ 18 ตุลาคม 2565

ชลบุรี-ส่งร่าง จ่านาวิกโยธิน บริจาคอวัยวะช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์บำเพ็ญกุศล ยังภูมิลำเนา

(18 ต.ค.65) ที่โรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี พลเรือโท เผดิมชัย สุคนธมัต ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน กองทัพเรือ มอบหมายให้ พลเรือตรี สมรภูมิ จันโท รองผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน พลเรือตรี ปรีชา รัตนสำเนียง ผู้บัญชาการศูนยการฝึก หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน พลเรือตรี วีระชัย หลีค้า ผู้บัญชาการกองพลนาวิกโยธิน นำข้าราชการ กำลังพล หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และโรงพยาบาล สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ พร้อมด้วย นายสินศักดิ์ ศรีวสุศิริวิเมธา และนางศศินันท์ แสงหิรัญขจรศิริ บิดาและมารดา ตลอดจนญาติๆ นำร่างของ จ่าเอก รณกร แสงหิรัญขจรศิริ อดีตข้าราชการกองทัพเรือ ที่ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตจากรถจักรยานยนต์ ไปบำเพ็ญกุศลยังภูมิลำเนา จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ 

โดยนางศศินันท์ แสงหิรัญขจรศิริ มารดา ได้กล่าวว่าแม่อาจจะเสียใจในการสูญเสียลูกชายไป ในครั้งนี้ แต่วันข้างหน้าลูกจะเป็นผู้ที่ทำให้แม่ได้ภาคภูมิใจ ในวันที่แม่เข้มแข็งกว่านี้ โดยทางครอบครัว บิดามารดาแสดงเจตจำนง บริจาคอวัยวะสำคัญตามที่ จ.อ.รณกรฯ ได้เคยแสดงเจตจำนงและมีบัตรผู้บริจาคอวัยวะสภากาชาดไทย เพื่อนำอวัยวะไปต่อชีวิตผู้ป่วยที่รอการปลูกถ่ายอวัยวะรายอื่นต่อไป โดยทีมแพทย์ พยาบาล โรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ และคณะแพทย์ จากสภากาชาดไทย ได้ทำการผ่าตัดนำอวัยวะ หัวใจ และไตทั้ง 2 ข้าง ของ จ.อ.รณกรฯ ส่งสภากาชาดไทย เพื่อนำไปผ่าตัดปลูกถ่ายอวัยวะให้กับผู้ป่วยรายอื่นต่อไป นับเป็นข้าราชการกองทัพเรือ ผู้ซึ่งได้ทำประโยชน์อย่างยิ่งใหญ่ ในวาระสุดท้ายของชีวิต

โดยพลเรือตรี กิตตินันท์ งามศิลป์  ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ ได้มอบประกาศเกียรติคุณจากสภากาชาดไทย และขอเชิดชูเกียรติ จ.อ.รณกร แสงหิรัญขจรศิริ ข้าราชการกองทัพเรือ ผู้ซึ่งได้ทำประโยชน์อย่างยิ่งใหญ่ ในวาระสุดท้ายของชีวิต ซึ่งทางครอบครัวได้เปิดเผยประวัติ จ.อ.รณกร แสงหิรัญขจรศิริ เกิดวันที่ 10 มีนาคม 2540 ที่จังหวัดพังงา เป็นบุตรของ นายสินศักดิ์ ศรีวสุศิริวิเมธา ซึ่งเป็นบิดา และ นางศศินันท์ แสงหิรัญขจรศิริ ซึ่งเป็นมารดา มีพี่น้อง 2 คน ผู้ป่วยเป็นบุตรคนที่ 2 จบการศึกษาระดับปริญญาตรี คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี เมื่อปี 2559 และจบโรงเรียนจ่านาวิกโยธิน เมื่อปี 2560 และได้ศึกษาต่อในหลักสูตรรบพิเศษ recon และหลักสูตรส่งทางอากาศนาวิกโยธิน 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top