Wednesday, 14 May 2025
Hard News Team

เชียงใหม่-มันนี่เอ็กซ์โป เชียงใหม่ 2022 ทุ่มโปรโมชั่นกระตุ้นเศรษฐกิจภาคเหนือ

วารสารการเงินธนาคาร ผู้จัดงานมหกรรมการเงิน Money Expo ประกาศจัดงานมหกรรมการเงินเชียงใหม่ ครั้งที่ 17 Money Expo Chiangmai 2022 ยกทัพบริการทางการเงินการลงทุนครบวงจร จัดเต็มแคมเปญพิเศษส่งท้ายปี สู่ประชาชนและผู้ประกอบการเอสเอ็มอีชาวเชียงใหม่และชาวภาคเหนือ พร้อมฟังสัมมนาฟรี! จากกูรูหุ้นและการลงทุน วันที่ 11-13 พฤศจิกายน 2565 ณ เชียงใหม่ ฮอลล์ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เชียงใหม่ แอร์พอร์ต จังหวัดเชียงใหม่

นางสาวภาคนี วิริยะรังสฤษฎ์ ประธานจัดงานร่วม งานมหกรรมการเงิน Money Expo เปิดเผยว่า วารสารการเงินธนาคาร จะจัดงานมหกรรมการเงินเชียงใหม่ ครั้งที่ 17 Money Expo Chiangmai 2022 ในวันที่ 11-13 พฤศจิกายน 2565 ณ เชียงใหม่ ฮอลล์ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เชียงใหม่ แอร์พอร์ต จังหวัดเชียงใหม่ ภายใต้แนวคิด “Wealth to Wellness” ความสมดุลแห่งชีวิต” ครอบคลุมทุกมิติของชีวิตตั้งแต่ สุขภาพกายดี  สุขภาพจิตดี สุขภาพอารมณ์ดี สุขภาพสังคมดี สุขภาพการศึกษาดี สุขภาพการงานดี สุขภาพสิ่งแวดล้อมดี และสุขภาพการเงินดี ซึ่งสำคัญที่สุด เพื่อให้เกิดความมั่นคั่งอย่างสมดุล

งานมหกรรมการเงิน Money Expo ถือเป็น “มหกรรมการเงินการลงทุนครบวงจร” ที่เชื่อมระหว่าง ธนาคาร สถาบันการเงิน บริษัทประกันชีวิต ประกันภัย บริษัทหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน มานำเสนอบริการทางการเงินและการลงทุนกับประชาชน ธุรกิจ ผู้ลงทุน ให้ได้เข้าถึงแหล่งเงิน และแหล่งทุน ได้อย่างเท่าเทียมกัน

ธนาคารและสถาบันการเงินที่เข้าร่วมงานได้นำบริการทางการเงินและการลงทุนมานำเสนอให้กับประชาชนชาวเชียงใหม่ และจังหวัดใกล้เคียงให้สามารถเลือกใช้บริการอย่างครบวงจร ทั้งสินเชื่อบ้าน สินเชื่อบุคคล สินเชื่อรถยนต์ สินเชื่อเพื่อธุรกิจ SME สินเชื่อบัตรเครดิต บัตรเงินสด เงินฝาก Digital Banking Online Banking สลากออมทรัพย์ ประกันชีวิต ประกันภัย พร้อมแคมเปญโปรโมชั่นพิเศษในรอบปี เพื่อช่วยสนับสนุนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจภาคเหนือ และฟื้นฟูการค้าการลงทุน การท่องเที่ยว ภายหลังการแพร่ระบาดของโควิด-19

โดยเฉพาะอย่างยิ่งการกระตุ้นเศรษฐกิจของจังหวัดเชียงใหม่จากมาตรการที่ผ่อนคลายของโควิด-19 รวมถึงธนาคารและสถาบันการเงินที่เข้าร่วมงานยังได้เตรียมแพ็กเกจพิเศษส่งท้ายปี สินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำสำหรับธุรกิจเอสเอ็มอี และผู้ประกอบการที่ต้องการหาสภาพคล่องทางการเงินเพื่อฟื้นฟูกิจการมาให้บริการในงาน ส่วนเจ้าของธุรกิจหน้าใหม่ ก็มีแคมเปญสินเชื่อเริ่มต้นธุรกิจอัตราดอกเบี้ยพิเศษให้กับผู้ที่ต้องการหาเงินทุนก้อนแรกเริ่มต้นสร้างธุรกิจของตัวเองอีกด้วย

สุริยะ สั่ง กรมโรงงานฯ เข้มระบายน้ำทิ้งจากรง. หวั่นเกิดผลกระทบซ้ำเติมประชาชนช่วงน้ำท่วม

สุริยะ สั่งการกรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) เฝ้าระวังการระบายน้ำทิ้งจากโรงงานที่ติดตั้งเครื่องตรวจวัดค่าบีโอดี ค่าซีโอดี ออนไลน์ หวั่นซ้ำเติมพี่น้องประชาชนที่กำลังเดือดร้อนจากอุทกภัย 

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า สถานการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้นในขณะนี้ กระทรวงอุตสาหกรรมมีความห่วงใยโรงงานอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบ รวมถึงพี่น้องประชาชนในพื้นที่ จึงได้สั่งการให้กรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) ดูแลการระบายน้ำจากโรงงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ที่เกิดอุทกภัย ป้องกันไม่ให้เกิดการลักลอบระบายน้ำโดยไม่บำบัด พร้อมสั่งกำชับโรงงานให้ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ และข้อกฎหมายที่กำหนด เพื่อไม่เป็นการซ้ำเติมประชาชนที่กำลังเดือดร้อน

นายณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กำชับให้ กรอ. กำกับดูแลโรงงานที่ติดตั้งเครื่องตรวจวัดค่าบีโอดี ค่าซีโอดี ออนไลน์ ซึ่งระบายน้ำทิ้งตั้งแต่ 500 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน ต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ และข้อกฎหมายที่กำหนด ปัจจุบันมีกว่า 300 โรงงาน ในพื้นที่ 40 จังหวัด ซึ่งในจำนวนนี้อาจจะได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในพื้นที่รวม 20 จังหวัด 150 โรงงาน จึงต้องตรวจสอบการระบายน้ำอย่างใกล้ชิดเพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อประชาชนและชุมชน

'ส.ส.ก้าวไกล’ ซัดรัฐจัดการน้ำล้มเหลว เร่งรัฐจ่าย 3 พันต่อหัว กลุ่มพื้นที่รับภัยรุนแรง

ณัฐวุฒิ บัวประทุม รองหัวหน้าพรรค นิติพล ผิวเหมาะ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ สัดส่วนสิ่งแวดล้อม พรรคก้าวไกล ลงสำรวจผลกระทบจากน้ำท่วมพร้อมกับ ทวิวงศ์ โตทวิวงศ์ ว่าที่ผู้สมัครส.ส.เขต1จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พบว่าหลายแห่งยังคงประสบปัญหาน้ำท่วมอย่างหนัก บางหลังมิดหลังคามาแล้ว 3 เดือน เช่นที่บ้านกุ่ม โดยระดับน้ำยังคงไม่มีทีท่าว่าจะลด ประกอบกับลมหนาวที่กำลังมาทำให้ผู้ประสบภัยลำบากมาก ทั้งเปียก ทั้งหนาว ไม่มีที่พักอาศัย สุขอนามัยไม่ต้องพูดถึง อยู่กันอย่างยากลำบากมาก แต่รัฐบาลยังคงทำตัวเป็นทองไม่รู้ร้อนอยู่เช่นเดิม

ทวิวงศ์ โตทวิวงศ์ ว่าที่ผู้สมัครส.ส.เขต1จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพิ่มเติมว่า ขณะนี้ประชาชนตำบลบ้านกุ่ม รวมตัวกันแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ ‘ชูธงขาว’ ไม่ใช่เพื่อยอมแพ้ แต่ต้องการเจรจาเพื่อหาทางแก้ปัญหาน้ำท่วมสูงกว่า 2 เดือนแล้ว บ้านกุ่มเป็นตำบลที่ได้รับผลกระทบเป็นพื้นที่แรก ๆ และหนักหนาสาหัสตำบลหนึ่งของ อ.บางบาล ในตอนนี้ ระดับน้ำสูงกว่า 2.5 - 3 เมตร เป็นเวลาจะเข้าเดือนที่ 3 แล้ว 

สิ่งที่พี่น้องประชาชนประสบคือไม่มีน้ำสะอาดเพื่อใช้ในชีวิตประจำวันการเดินทางถูกตัดขาด และไม่ห้องน้ำเพื่อทำกิจหนักเบา ทั้งที่ปัจจัยเหล่านี้ควรได้รับการดูแลจากหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องตั้งแต่น้ำท่วมในช่วงแรกด้วยซ้ำ

ห้องแล็บในสหรัฐ ผสมเชื้อโอมิครอน+อู่ฮั่น ได้ 'โอมิครอน-เอส' อัตราการตายสูงถึง 80%

นักวิทย์ประณาม ห้องแล็บในสหรัฐฯ 'เล่นกับไฟ' เอาเชื้อไวรัสโควิดสายพันธุ์อู่ฮั่นแบบดั้งเดิม มาผสมกับโอมิครอน จนเกิดเป็นสายพันธุ์ใหม่ล่าสุด ที่ทำให้ผู้ติดเชื้อมีอัตราการเสียชีวิตถึง 80%

เมื่อวันที่ (18 ต.ค. 65) เว็บไซต์ข่าวเดลี่เมล รายงานอ้างคำเปิดเผยของศาสตราจารย์ชามูเอล ชาปีรา นักวิทยาศาสตร์ชั้นนำของรัฐบาลอิสราเอล ที่กล่าวประณามนักวิจัยของห้องทดลองทางวิทยาศาสตร์มหาวิทยาลัยบอสตัน ในเมืองบอสตัน รัฐแมสซาชูเซตส์ ของสหรัฐฯ ที่ทำการทดลองเพาะเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ไฮบริด ที่เกิดจากการสกัดหนามโปรตีนของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์โอมิครอน ที่มีอัตราการแพร่เชื้อเร็วสูงสุด มาตัดแต่งเข้ากับเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ดั้งเดิมที่พบในเมืองอู่ฮั่น โดยใช้ชื่อว่า 'โอมิครอน-เอส'

นักวิทยาศาสตร์ของอิสราเอลระบุว่า การทดลองนี้เรียกได้ว่าเป็นการ 'เล่นกับไฟ' ที่ไม่ควรจะเกิดขึ้นเลย เพราะจากการทดลองกับหนูจำนวน 10 ตัวที่ได้รับเชื้อสายพันธุ์ใหม่ที่เพาะออกมาในห้องทดลองนี้ ปรากฏว่าหนูตายไป 8 ตัวจากจำนวนทั้งหมด 10 ตัว คิดเป็นอัตราการเสียชีวิตสูงถึง 80% 

รายงานข่าวระบุว่า การเปิดเผยครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงอันตรายที่ยังคงดำเนินต่อไปจากการทดลองในห้องแล็บสหรัฐฯ ท่ามกลางความหวาดวิตกว่าอาจเกิดการหลุดรอดออกมาของเชื้อไวรัส ทำให้เกิดการแพร่ระบาดครั้งใหญ่อีกรอบ แม้ว่าการทดลองเพาะเชื้ออันตราย อย่างงานวิจัยที่พยายามสร้างซูเปอร์ไวรัสขึ้นมาเพื่อศึกษาว่ามันจะมีโอกาสเกิดขึ้นได้อย่างไรได้บ้าง (Gain of Function research) ได้ถูกสั่งห้ามในสหรัฐฯ นับตั้งแต่ปี 2560 เป็นต้นมา ขณะที่มีความเชื่อกันว่า เชื้อไวรัสโคโรนาที่ทำให้เกิดการระบาดไปทั่วโลก มีต้นตอมาจากตลาดค้าสัตว์ป่า ที่อยู่ไม่ไกลจากห้องทดลองวิจัยเชื้อไวรัสโคโรนาในค้างคาว ที่เมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย ของจีน

นายแพทย์ริชาร์ด อีไบร์ท นักเคมีวิทยาแห่งมหาวิทยาลัยรัตเกอร์ส ในเมืองนิว บรันสวิก รัฐนิวเจอร์ซีย์กล่าวว่า หากโลกต้องการปกป้องไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสจากห้องแล็บครั้งใหม่ ก็มีความจำเป็นที่จะต้องสอดส่องไม่ให้เกิดการวิจัยซูเปอร์ไวรัสอันตรายขึ้นมาอีก


ที่มา : https://www.thairath.co.th/news/foreign/2529533

https://ch3plus.com/news/international/frontpagenews/315895

‘อนุทิน’ นำคณะแพทย์รับอวัยวะจาก รพ.อุดรธานี เพื่อมอบแก่ผู้ป่วยที่รอการปลูกถ่ายอวัยวะ

เมื่อวันที่ (18 ต.ค. 65) น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เมื่อเวลา 05.30 น. วันที่ (18 ต.ค. 65) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ได้นำ นพ.พัชร อ่องจริต แพทย์ศัลยกรรมหัวใจและทรวงอก โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ และทีมแพทย์ เดินทางด้วยเครื่องบินไปยังจังหวัดอุดรธานี เพื่อรับอวัยวะจากผู้เสียชีวิตแต่อวัยวะบางส่วนยังใช้การได้อยู่ เพื่อนำไปมอบแก่ผู้ป่วยที่รอปลูกถ่ายอวัยวะต่อไป

“การไปรับอวัยวะจากผู้บริจาคในพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศนั้น จะต้องออกเดินทางอย่างเร่งด่วนทันทีที่ได้รับแจ้งจากโรงพยาบาลที่มีผู้บริจาคอวัยวะ ซึ่งวันนี้รองนายกรัฐมนตรีได้รับแจ้งจากโรงพยาบาลในช่วงเช้า จึงได้นำคณะแพทย์บินด่วนทันที เพื่อให้ทันเคสที่อยู่ระหว่างการผ่าตัดและนำมาช่วยเหลือผู้ป่วยได้ทันเวลา” น.ส.ไตรศุลี กล่าว

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า นายอนุทิน ได้ขับเครื่องบินส่วนตัวสนับสนุนทีมแพทย์ ในการรับส่งอวัยวะจากพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ มาตั้งแต่ปี 2557 โดยมีการเรียกชื่อภารกิจนี้ว่า “ปฏิบัติการหัวใจติดปีก”  
ซึ่งเป็นภารกิจสนับสนุนกรณีรับ-ส่งเคสเร่งด่วนที่เครื่องบินพาณิชย์ หรือยานพาหนะอื่น ๆ ไม่สามารถทำหน้าที่ได้ โดยที่ผ่านมาสามารถส่งต่ออวัยวะแก่ทีมแพทย์และช่วยชีวิตผู้ป่วยได้หลายคน สำหรับภารกิจล่าสุดเป็นภารกิจครั้งที่ 40

8 บิ๊กคอมพานีปักหมุดไทยฐานผลิตรถ EV หอบทุนแสนล้าน ดันไทยฮับ EV อาเซียน

(17 ต.ค. 65) จากเพจเฟซบุ๊ก Vaccine ได้โพสต์ข้อความเกี่ยวกับ อุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าของไทยที่กำลังจะกลายเป็น EV Hub ของโลก หลัง 8 บริษัทใหญ่ทั่วโลกร่วมลงทุนด้วยเงินกว่าแสนล้านบาท ไว้อย่างน่าสนใจว่า…

ประเทศไทยเนื้อหอม ยุครปภ.
8 บริษัทยักษ์ใหญ่ลงทุนโรงงานผลิตรถ EV

ประเทศไทยกำลังจะกลายเป็น EV Hub ของโลก...ในยุครปภ.
ด้วยเงินลงทุนกว่าแสนล้านจากบ.ยานยนต์ทั่วโลก
เพราะประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปจะเลิกจำหน่ายรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายในอย่างสิ้นเชิงภายในปี 2035 และสหประชาชาติก็เสนอร่างเลิกขายรถเครื่องยนต์สันดาปในปี 2040
ส่งผลให้รถ EV กลายเป็นหน้าใหม่ของอุตสาหกรรมยานยนต์ เป็นความต้องการของโลก

ด้วยความทันเกมส์ของรัฐบาลไทย ก็ประกาศเป้าหมาย ปี 2573 ไทยจะผลิตยานยนต์ไฟฟ้าทุกประเภท ทั้งรถยนต์นั่งและรถกระบะทั้งสิ้น 725,000 คัน ประเภทรถจักรยานยนต์จะมีการผลิตทั้งสิ้น 675,000 คัน หรือมีสัดส่วน 30% ของการผลิตทั้งหมด 

และคณะกรรมการยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ (บอร์ดอีวี) ตั้งเป้าการผลิตรถ ZEV (Zero Emission Vehicle) หรือรถยนต์ที่ปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ให้ได้อย่างน้อย 30% ของการผลิตยานยนต์ทั้งหมดในปี 2573 เพื่อก้าวเข้าสู่สังคมคาร์บอนต่ำ (Low Carbon Society) พร้อมผลักดันไทยเป็นฐานการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าและชิ้นส่วนที่สำคัญของโลกหรือศูนย์กลางของภูมิภาค (EV Hub)

วันนี้ 8 บริษัทยักษ์ใหญ่เลือกลงทุนในไทยเป็นฐานการผลิตรถ EV ลงทุนแล้ว 5 บริษัท คือ

1. Foxconn + Horizon plus 🇹🇼🇹🇭 
มูลค่าการลงทุน 1.04 billion USD ที่จ.ชลบุรี

2. Ford 🇺🇲
มูลค่าการลงทุน 1.02 billion USD ที่จ.ระยอง

3. BYD 🇨🇳
มูลค่าการลงทุน 522 million USD ที่จ.ระยอง

'คณะก้าวหน้า' เดินสายดัน 'หลักสูตรเยาวชนก้าวหน้า' เรียนรู้การต่อสู้ระหว่างกระฎุมพีกับสถาบันฯ ในยุโรป

(18 ต.ค. 65) เพจ Common School โพสต์กิจกรรมของคณะก้าวหน้า ระบุข้อความว่า สุดต๊าช ! เปิดรายชื่อวิชาและวิทยากร Progressive Academy ‘หลักสูตรเยาวชนก้าวหน้า’ ครั้งที่ 2 จ.ขอนแก่น

เนื้อหาการบรรยายครอบคลุมทั้งรัฐศาสตร์ นิติศาสตร์ ประวัติศาสตร์ ปรัชญาการเมืองเศรษฐศาสตร์ และการสื่อสาร ทั้งรูปแบบการบรรยายและกิจกรรมเวิร์คช็อป

เปิดรายชื่อวิชาและวิทยากร

ประวัติศาสตร์การเมืองไทยร่วมสมัย โดย ธำรงศักดิ์ เพชรเลิศอนันต์

การเมืองวัฒนธรรม จาก 2475 ถึงปัจจุบัน โดย ณัฐพล ใจจริง

การเปลี่ยนผ่านประชาธิปไตย โดย ประจักษ์ ก้องกีรติ

ความเหลื่อมล้ำและเศรษฐกิจการเมืองไทย โดย อภิชาต สถิตนิรามัย

บทบาทการเมืองระหว่างประเทศต่อการเมืองไทย โดย ลลิตา หาญวงษ์

บทบาทกองทัพกับการเมืองไทย โดย สุภลักษณ์ กาญจนขุนดี

อดีต ปัจจุบันและอนาคตของการขูดรีดเกษตรกรไทย โดย เดชรัต สุขกำเนิด

ประวัติศาสตร์กลุ่มทุนไทย และ การบริหารจัดการเมืองสมัยใหม่ โดย ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ

Constitutional Monarchy และ ประวัติศาสตร์ปฏิวัติ โดย ปิยบุตร แสงกนกกุล

เทคโนโลยีกับการเมือง : ความก้าวหน้าและความท้าทาย โดย ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ

Workshop ประชาธิปไตย โดย พริษฐ์ วัชรสินธุ

ระบบราชการและงบประมาณ โดย ศิริกัญญา ตันสกุล

การสื่อสารทางการเมือง โดย พรรณิการ์ วานิช

เพราะเราเชื่อว่าคนรุ่นใหม่คือ พลังสำคัญในการเปลี่ยนแปลงประเทศ

รีบสมัครเลย ! รับเพียง 40 คนเท่านั้น สำหรับเยาวชนรุ่นใหม่ในภาคอีสาน อายุตั้งแต่ 15-30 ปี

สมัครได้ตั้งแต่วันนี้ – 5 พฤศจิกายน 2565

เรียนทุกวันเสาร์-อาทิตย์ และที่สำคัญ “เรียนฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย!”

เริ่มเรียน 12 พฤศจิกายน – 11 ธันวาคม 2565

ทั้งนี้เมื่อวันที่ 8 และ 9 ตุลาคม ที่ผ่านมา Common School ได้เปิดเรียนหลักสูตรเยาวชนก้าวหน้าสัปดาห์แรกภาคใต้ ที่ จ.นครศรีธรรมราช บรรยากาศเป็นกันเอง เต็มไปด้วยการพูดคุยอย่างออกรส แลกเปลี่ยนอย่างสนุกสนาน และอัดแน่นด้วยสาระเนื้อหา

เริ่มด้วยกิจกรรม Landlord เป็นกิจกรรมรูปแบบ Active Learning ให้ผู้เรียนได้สัมผัสถึงโครงสร้างอำนาจแบบศักดินาที่กดขี่ผู้ขุดด้วยอำนาจดิบเถื่อน ใช้อำนาจตามอำเภอใจโดยไม่มีใครสามารถควบคุม ตรวจสอบได้ซึ่งเป็นอำนาจที่กดทับศักยภาพที่แท้จริงของประชาชนเอาไว้ พาไปสำรวจโครงสร้างแบบศักดินาในทุกๆ ระดับของสังคมอย่างถึงราก พร้อมทั้งเรียนรู้อำนาจสามแบบที่ทำให้เราเข้าใจความสัมพันธ์เชิงอำนาจในการเมืองมากขึ้น

'ก้าวไกล' อัด!! คมนาคมซ้ำเติมปชช. 'แก้สายรถเมล์-เปลี่ยนสัมปทาน' หลายสายรถขาดช่วง ผู้คนเดือดร้อน ค่าเดินทางเพิ่มขึ้น

(18 ต.ค. 65) ณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.เขตบางขุนเทียน กรุงเทพฯ พรรคก้าวไกล เปิดเผยว่า ตนได้รับการร้องเรียนจากพี่น้องประชาชนที่ส่งเข้ามาหลายพันข้อความเกี่ยวกับการปล่อยสัมปทาน รถเมล์สาย 140 ให้เอกชนวิ่ง และรถสาย 68 ที่วิ่งน้อยลงส่งผลกระทบต่อการเดินทางและความปลอดภัยของประชาชนรวมถึงค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นในการต่อรถ

ตั้งแต่เดือนตุลาคมเป็นต้นมา กรมการขนส่งทางบกเริ่มเปิดให้เอกชนหลายรายที่ชนะการประมูลเส้นทางเข้าให้บริการรถเมล์แทนที่ ขสมก.รัฐวิสาหกิจที่ให้บริการอยู่เดิม โดยหลักการดูเหมือนดีที่จะเปิดให้การเดินรถมีการแข่งขัน ประชาชนจะได้คุณภาพการให้บริการที่ดีขึ้น มีระบบตั๋วอัตโนมัติ เดินรถเป็นเวลา เหมือนกับในต่างประเทศ

แต่ความจริงที่เกิดขึ้นไม่เป็นเช่นนั้นเลย เพราะระบบของบัตรสวัสดิการของรัฐใช้ไม่ได้ ตั๋วเดือนถูกยกเลิก สิทธิลดหย่อนค่ารถเมล์ของผู้สูงอายุใช้ไม่ได้ในรถร่วมใหม่ที่เข้ามาให้บริการ และเอกชนเลือกวิ่งเฉพาะเวลาที่ตัวเองได้กำไร แต่ในช่วงเวลาที่ประชาชนต้องการใช้บริการกลับไม่มีการวิ่ง ซึ่งต่างจากเดิมที่ ขสมก. รถเมล์จะวิ่งตามตาราง เช่น เริ่มตั้งแต่ 04:00 น.-23:00 น. ทำให้พี่น้องประชาชนที่จำเป็นต้องออกจากบ้านในช่วงเช้าตรู่ หรือเลิกงานในกลางดึกไม่มีรถในการโดยสาร

ปัญหาที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบโดยตรงกับเงินกระเป๋าประชาชน เพราะเมื่อไม่มีรถเมล์ในช่วงที่ต้องเดินทางก็ต่อใช้รถแท็กซี่ มอเตอร์ไซค์รับจ้างแทน ค่าใช้จ่ายเพิ่มจากเดิมมาก

‘กอบศักดิ์’ ชี้ ผลพวงปลด รมว.คลัง อังกฤษ สะท้อนนโยบายผิดทิศที่ขาดการกลั่นกรอง

ดร.กอบศักดิ์ ภูตระกูล ประธานกรรมการ สภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) และกรรมการรองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ โพสต์ข้อความผ่าน เฟซบุ๊กส่วนตัวว่า..บทเรียนราคาแพงของอังกฤษ !!!

หลายคนอยากรู้ว่า เมื่ออังกฤษยอมเปลี่ยนตัวรัฐมนตรีคลัง ประเภทปลดกลางอากาศ เพื่อสังเวยแนวนโยบาย ที่ตลาดนักเศรษฐศาสตร์ และแม้กระทั่ง IMF มองว่า เป็นนโยบายที่ "ผิดทิศผิดทาง" และเป็น Big Policy Mistakes แล้วเรื่องจะจบหรือไม่

ในประเด็นนี้ หลังจากท่านรัฐมนตรีคลังคนใหม่ ประกาศนโยบายที่เรียกว่า เกือบจะเป็น Complete U-Turn หันหลังกลับจากรัฐมนตรีคลังคนก่อนหน้า 

ยอมหั่นการลดภาระภาษีเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ จากเดิมที่ตั้งใจไว้ประมาณ 4.5 หมื่นล้านปอนด์ ให้เหลือเพียง 1.3 หมื่นล้านปอนด์

ลดการช่วยเหลือภาระของประชาชนเรื่องพลังงาน ในช่วงปีหน้า

พร้อมเตือนว่า ในช่วงปลายเดือนตุลาคม อังกฤษอาจจะมีนโยบายรัดเข็มขัดการใช้จ่ายบางส่วนประกาศออกมาเพิ่มเติม เพื่อเอา "การคลัง" ให้เข้าที่ และสร้างความเชื่อมั่นในตัวรัฐบาล

แม้ว่ารัฐบาลอังกฤษจะยอมซะขนาดนี้ บาดแผลและความเสียหาย จากการประกาศนโยบายที่ผิดพลาด ก็ยังปรากฏให้เราเห็น

ที่พอจะปรับตัวดีขึ้นบ้าง คงเป็นค่าเงินอังกฤษ ซึ่งกลับไประดับใกล้ ๆ ก่อนที่จะมีมาตรการ 1.13-1.14 ดอลลาร์/ปอนด์

อย่างไรก็ตาม ดอกเบี้ยพันธบัตรรัฐบาล 30 ปี ซึ่งเคยขึ้นไปถึง 5% แม้จะลงมาบ้างที่ 4.4% แต่ก็ยังสูงกว่าก่อนที่จะออกมาตรการพลาดมา 1% !!!

ดัชนีตลาดหุ้นของอังกฤษ FTSE100 ยังติดลบอยู่ -4.4%

สะท้อนถึงความไม่มั่นใจในฝีมือของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหา

สะท้อนความเสียหายในเชิง Policy Credibility ที่หมดไป 

และสะท้อนความเสี่ยงของการที่ท่านนายกจะมีนโยบาย "แปลก ๆ" ออกมาอีกที่ตลาด Price-in เผื่อเอาไว้

ชายเดือด!! บุกต่อย ‘ศรีสุวรรณ’ กลางวงสื่อ เหตุกร้าว!! ใครชุมนุมจะแจ้งความจับหมด

(18 ต.ค. 65) ที่ ศูนย์รับแจ้งความ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (กองปราบ) นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทยได้เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนเอาผิด เดี่ยว 13 ‘โน้ส อุดม-แต้พานิช’ หนุนม็อบหรือไม่ ขณะที่นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย นำหลักฐานมาเข้าพบพนักงานสอบ บก.ปอท. เพื่อขอให้ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ตามครรลองของกฎหมาย กรณีมีบุคคลทอล์กโชว์เดี่ยวไมโครโฟน-13 ซึ่งเผยแพร่ในสื่อสังคมออนไลน์ ซึ่งมีการใช้ถ้อยคำ บางคำพูดอันอาจมีลักษณะส่งเสริมให้บุคคลร่วมชุมนุมสาธารณะที่ผิดกฎหมาย ซึ่งอาจขัดต่อความมั่นคงของรัฐและหรือละเมิดสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่น และหรือขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน อันเข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ประกอบ พรบ.ว่าด้วยการกระทําความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ 2550 แก้ไขเพิ่มเติม ฉบับที่ 2 พ.ศ.2560 หรือไม่ อย่างไร

ทั้งนี้ บทพูดของการโชว์เดี่ยวไมโครโฟนดังกล่าว มีบางคำพูด อาทิ “วันนี้รถติดเยอะหน่อย มีม็อบไล่คนที่เราอยากจะไล่เขา ก็ให้อภัยเขาไปนะครับ ถือว่าเขาทำงานแทนเรา” นั้น จะสื่อความหมายไปอย่างอื่นมิได้ นอกเสียจากการพูดเพื่อที่จะสื่อหรือโฆษณาให้ผู้ฟังหรือผู้ชม ได้เข้าใจตรงกันว่า มีเจตนาหรือจงใจที่จะให้ทุกคนที่รับฟังและรับชมให้อภัยกลุ่มผู้ที่ออกมาชุมนุมสาธารณะที่เกิดขึ้นหลายๆ ครั้งเมื่อช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมานั่น “ทำงานแทนเรา” นั่นเอง โดยที่การชุมนุมเหล่านั้นล้วนผิดกฎหมาย ฝ่าฝืนข้อกำหนดใน ม.9 แห่ง พรก.ฉุกเฉิน 2548 และมีการสอดใส้การชุมนุมเป็นเรื่องการยกเลิก ปอ.112 และการปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ มิใช่การชุมนุมเพื่อขับไล่ผู้นำรัฐบาลแต่อย่างใดไม่

กรณีดังกล่าวจึงไม่ใช่เป็นเรื่องส่วนตัวของบุคคลใดบุคคลหนึ่งแต่อย่างใด หากแต่อาจเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับความผิดต่อแผ่นดิน อาจกระทบต่อความมั่นคง และอาจขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน อันเข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ม.84 ม.85 และหรือ ม.87 ประกอบ ม.14 แห่งพรบ.ว่าด้วยการกระทําความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ 2550 แก้ไขเพิ่มเติม ฉบับที่ 2 พ.ศ.2560 ต้องระวางโทษกึ่งหนึ่งของโทษที่กำหนดไว้สำหรับความผิดนั้นด้วย และหรือต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปีหรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

โดยเหตุดังกล่าว สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จึงต้องนำความพร้อมพยานหลักฐานมาแจ้งต่อ บก.ปอท. ให้ใช้อำนาจตามกฎหมายในการตรวจสอบ สอบสวน กรณีดังกล่าวว่าเข้าข่ายความผิดอาญาต่อแผ่นดินหรือไม่ หากพบว่าเป็นความผิดให้ดำเนินการตามครรลองของกฎหมายต่อไป นายศรีสุวรรณ กล่าวในที่สุด

ทั้งนี้นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า การที่มาร้องวันนี้ไม่ได้เกี่ยวกับรัฐบาล ที่ผ่านมาถ้ารัฐบาลทำไม่ถูกต้องตนก็ร้องมาอยู่แล้วตลอด ส่วนโน้ส อุดม เขาก็เคยวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลมาทุกยุคทุกสมัยอยู่แล้ว แต่บางคำพูดที่เป็นการยุยงส่งเสริมม็อบ ตนไม่เห็นด้วย

หลังจากนั้น ปรากฏว่านายวีรวิชญ์ รุ่งเรืองศิริผล ในนามของ ‘กลุ่มศักดินาเสื้อแดงต่อต้านเผด็จการ’ ซึ่งแฝงตัวมาเป็นนักข่าวทำท่าทีสอบถามประเด็นการร้องเรียนของนายศรีสุวรรณ ว่าหลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญ ตัดสินคดี 8 ปีนายกรัฐมนตรี จะมีการแจ้งความคนเห็นต่างหรือไม่ แต่ยังไม่ทันจะถามจบนายวีรวิชญ์ได้เข้าไปทำร้ายชกต่อยนายศรีสุวรรณ ทันทีกลางวงสัมภาษณ์ ทำให้นักข่าวอึ้งกันทั้งวงสัมภาษณ์

หลังจากนั้น นายวีรวิชญ์ ให้สัมภาษณ์ว่า “ตนคาใจเพราะหลังจากศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยปม 8 ปี นายกรัฐมนตรี นายศรีสุวรรณ ออกมาประกาศว่า ใครชุมนุมจะแจ้งความจะแจ้งจับหมด ซึ่งตนเป็นคนหนึ่งที่ชุมนุม วันนี้ตั้งใจมาตบเพื่อสั่งสอน ซึ่งมีตำรวจที่รู้จักฝากมาตบด้วย กราบขอโทษกองปราบที่มาทำแบบนี้ เพราะไม่มีโอกาสเลย ตนเฝ้าและแอบดูว่านายศรีสุวรรณจะไปร้องอะไรบ้าง เมื่อเช้าตนยอมทิ้งงาน ตนอายุ 62 ปี จะเป็นอะไรไม่สนใจ อยากให้เห็นว่า คำว่าประชาธิปไตย ทุกคนต้องยอมรับความเห็นต่าง ประเทศนี้เป็นของประชาชน ไม่ใช่ของคนใดคนหนึ่ง ถ้าถูกดำเนินคดีพร้อมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม และที่มาวันนี้ไม่ได้มีใครจ้างมาแต่ตั้งใจมาด้วยตัวเอง”


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top