Tuesday, 13 May 2025
Hard News Team

'รมว.เฮ้ง' สั่ง!! จ่ายเงินประกันรายได้ กลุ่มแรงงานเก็บเบอร์รี่แล้วกว่าแสนบาท

(22 ต.ค.65) นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า จากกรณีนางสาวศิริบูรณ์ ชื่นชม และพวก รวม 8 ราย ที่เดินทางไปเก็บผลไม้ป่าในประเทศฟินแลนด์ ฤดูกาลปี 2022 ได้ยื่นหนังสือต่อ นายสุรชัย ชัยตระกูลทอง ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงแรงงาน เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม ที่ผ่านมา ร้องขอให้ช่วยเหลือเนื่องจากไม่ได้รับความเป็นธรรมเรื่องค่าจ้างและสวัสดิการ ซึ่งกระทรวงฯ รับปากจะดูแลและให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ล่าสุดหลังตรวจสอบหลักฐานข้อเท็จจริง ได้ช่วยเหลือแรงงานเก็บผลไม้ป่าฟินแลนด์กลุ่มดังกล่าว โดยนำเงินประกันรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายมาตรฐาน ที่บริษัทผู้ประสานงานในประเทศไทยวางหลักประกัน ไว้ที่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร จ่ายให้แรงงานตามสัดส่วน รวมทั้งสิ้นเป็นเงิน 103,445.28 บาท

“ผมพร้อมรับฟังและให้ความช่วยเหลื แรงงานไทยที่ตั้งใจเดินทางไปทำงานต่างประเทศ เพื่อหารายได้ดูแลตนเองและครอบครัว คนเหล่านี้นำรายได้เข้าสู่ประเทศไทย หากไปทำงานแล้วประสบปัญหาผมไม่นิ่งนอนใจแน่นอน ในปีหน้ากรมการจัดหางาน และกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน จะตรวจสอบสัญญาจ้างให้มีการดูแลคนหางานให้ดียิ่งขึ้นและครอบคลุมขึ้น” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าว

ด้านนายไพโรจน์ โชติกเสถียร อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวว่า มาตรการการเดินทางไปเก็บผลไม้ป่าในฟินแลนด์ ฤดูกาลปี 2022 ระบุให้บริษัทผู้รับซื้อผลไม้ป่าฟินแลนด์/บริษัทผู้ประสานงานในประเทศไทย ต้องประกันรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายให้คนงานไทยโดยวางหลักประกันทางการเงินตามจำนวนที่กรมการจัดหางานกำหนด ณ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร และหลังสิ้นสุดฤดูกาลต้องดำเนินการให้คนงานไทยมีรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายไม่ต่ำกว่า 30,240 บาท

“ขณะนี้แรงงานส่วนใหญ่ได้เดินทางกลับถึงประเทศไทย และกลับสู่ภูมิลำเนาแล้ว ผมจึงได้มอบหมายสำนักงานจัดหางานจังหวัดทั่วประเทศสอบข้อเท็จจริงกับคนหางาน หากรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายมาตรฐาน ได้แก่ ค่าใช้จ่ายก่อนเดินทาง และค่าใช้จ่ายขณะทำงานในฟินแลนด์ ซึ่งประกอบด้วย ค่าที่พัก ค่าอาหาร และค่าเช่ารถ ไม่เป็นไปตามที่กำหนด สามารถรวบรวมเอกสารหลักฐานการเงินยื่นคำร้องทุกได้ที่สำนักงานจัดหางานจังหวัด สำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1-10 หรือที่กองบริหารแรงงานไทยไปต่างประเทศ กรมการจัดหางาน ภายในวันที่ 21 พฤศจิกายน 2565 หรือหากต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ กองบริหารแรงงานไทยไปต่างประเทศ โทร 02 245 6708 ในวันและเวลาราชการ” อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าว

'ก้าวไกล' โดดเดี่ยว พรรคการเมืองแห่ประกาศไม่แก้ 112 จับตา 'เพื่อไทย' หนุนหรือค้าน?

จากกรณีพรรคก้าวไกล เปิดนโยบายหาเสียงเลือกตั้งชุดแรก โดยหนึ่งในนั้นคือนโยบายแก้ไขมาตรา 112 ซึ่งถือเป็นการเปิดหน้าชัดเจน และยังเป็นการโยนความกดดันให้กับพรรคพันธมิตรอย่างพรรคเพื่อไทยว่าจะตัดสินใจอย่างไร หากวันข้างหน้าต้องเจรจาจัดตั้งรัฐบาลร่วมกัน เพื่อไทยจะสนับสนุนนโยบายนี้หรือไม่ เพราะหากเพื่อไทยยอมรับนโยบายนี้ก็เท่ากับสนับสนุนการล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ แต่หากไม่สนับสนุน ก้าวไกลก็อาจไม่เข้าร่วมจัดตั้งรัฐบาล อย่างไรก็ตามจะมีวันนั้นหรือไม่ถึง เรามาสำรวจจุดยืนของพรรคการเมืองอื่นๆต่อกฎหมายมาตราดังกล่าว ซึ่งชัดเจนว่าส่วนใหญ่ต่างประกาศไม่แก้ไขมาตรา 112

เริ่มที่ พรรคพลังประชารัฐ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ได้พูดในหลายครั้งว่า พรรคพลังประชารัฐมีจุดยืนชัดเจนคือ ปกป้องชาติ และสถาบันพระมหากษัตริย์ และไม่สนับสนุนการแก้ไขมาตรา 112

ขณะที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ประกาศย้ำว่า พรรคภูมิใจไทยไม่มีนโยบายและไม่มีความคิดเรื่องแก้ไขมาตรา 112 อีกทั้งไม่เข้าใจว่าคนที่เสนอแก้ไขเดือดร้อนอะไรกับมาตรา 112 พร้อมเชื่อว่าคนไทยส่วนใหญ่ไม่รู้สึกว่ากฎหมายมาตรา 112 เป็นปัญหาอุปสรรคในการดำเนินชีวิตประจำวัน จะมีก็แต่กลุ่มคนที่คิดจะทำผิดกฎหมาย จึงมาเรียกร้องให้แก้กฎหมายให้สิ่งที่ตนจะทำเป็นสิ่งที่ไม่ผิดกฎหมาย ซึ่งพรรคภูมิใจไทยจะขัดขวางการแก้ไขถึงที่สุด รวมทั้งจะไม่ร่วมมือหรือร่วมทำงานกับพรรคการเมือง นักการเมือง หรือกลุ่มการเมืองที่เสนอแก้ไขมาตรา 112 ทุกระดับ รวมไปถึงการจัดตั้งรัฐบาลหลังการเลือกตั้งครั้งหน้าหรืออีกกี่ครั้งก็ตาม

ด้านนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ย้ำจุดยืนของพรรประชาธิปัตย์ว่า พรรคยึดมั่นการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และไม่มีประเทศใดในโลก ที่ไม่มีกฎหมายคุ้มครองประมุขแห่งรัฐ ไม่ว่าจะปกครองในระบอบใด

ส่วนนายแพทย์วรงค์ เดชกิจวิกรม หัวหน้าพรรคไทยภักดี ตำหนิพรรคก้าวไกลว่า นโยบายหาเสียงไม่สร้างสรรค์ เป็นการสร้างความแตกแยก นอกจากนี้พรรคไทยภักดีได้ยื่นเรื่องให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต .เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงนโยบายของพรรคก้าวไกล ว่าการเสนอนโยบายให้มีการแก้ไขกฎหมาย ม.112 และ ม.116 ขัดต่อพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองหรือไม่

ขณะที่นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ให้สัมภาษณ์ในรายการ Top Talk ทางท็อปนิวส์ ออกอากาศเมื่อวันที่ 16 ตุลาคม ว่า มาตรา 112 ต่างจากกฎหมายอาญาเกี่ยวกับการหมิ่นประมาทประชาชนทั่วไปอย่างไร ถ้าเราไม่ทำผิดเราก็ไม่ถูกดำเนินคดี พร้อมทั้งถามว่ากฎหมายในลักษณะเดียวกับ 112 สหรัฐอเมริกามีหรือไม่ ทำไมไม่ไปเลิกที่สรัฐอเมริกาซึ่งเป็นประเทศแม่บท ทำไมต้องเลิกที่ประเทศไทย

ด้านนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวว่า จุดยืนของพรรคพรรคชาติไทยพัฒนาจะไม่ไปยุ่งอะไรกับมาตรา 112 เพราะตั้งแต่ตนเกิดมาจนถึงทุกวันนี้ ก็ไม่เห็นคนทั่วไปมีปัญหา อีกทั้งปัจจุบันขนาดบุคคลธรรมดายังมีคดีหมิ่นประมาทอยู่ในศาลตั้งหลายร้อยหลายพันคดี มาตรา 112 ไม่ใช่มาตราที่หาเรื่องใคร แต่ใช้เพื่อปกป้องสถาบันอันเป็นที่รัก หากมีใครอุตริไปหาเรื่องเราจะต้องมีอุปกรณ์หรือกฎหมายปกป้องสถาบันได้ ยืนยันหัวเด็ดตีนขาดก็ต้องมีมาตรา 112 รอให้ดินกลบหน้า ตนไม่ยอมแก้มาตรา 112 แน่นอน

ขณะที่นายชัชวาลล์ คงอุดม ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคพลังท้องถิ่นไท กล่าวว่า จุดยืนของพรรคเราชัดเจนคือการปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งก็เป็นมาแบบนี้โดยตลอด และไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขมาตรา 112 เพราะสถาบันไม่ได้ทำอะไรให้ และตนก็ไม่เข้าใจพรรคก้าวไกลว่าทำไมจึงเสนอนโยบายแบบนั้น และหากพรรคก้าวไกลเสนอเรื่องดังกล่าวเข้ามาในสภาฯ ทางพรรคพลังท้องถิ่นไทก็จะคัดค้านอย่างแน่นอน

ด้านพรรคชาติพัฒนากล้า โดยนายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี รองหัวหน้าพรรค แสดงความเห็นเรื่องนี้โดยไม่ทราบว่าพรรคก้าวไกลคิดอะไร แต่ในส่วนของพรรคชาติพัฒนากล้าชัดเจนว่าจะไม่นำเรื่องนี้ และเรื่องที่เกี่ยวกับสถาบันมาเป็นนโยบายหาเสียง ตอนนี้ใกล้จะเลือกตั้ง ตนไม่อยากให้หยิบยกเรื่องมาตรา 112 มาเป็นประเด็น อย่าทำทุกอย่างไปสู่ความขัดแย้ง

ส่วนนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ประธานที่ปรึกษาพรรครวมพลัง หรือพรรครวมพลังประชาชาติไทยเดิม เคยกล่าวถึงจุดยืนต่อมาตรา 112 เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2564 ว่า เนื้อหาสาระของกฎหมายคือการห้ามไม่ให้ไปดูหมิ่นอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ แล้วที่ต้องมีกฎหมายนี้เพราะเป็นการถวายพระเกียรติยศ ถวายความเคารพสักการะในฐานะที่พระองค์ท่านเป็นประมุขของประเทศ เหมือนกับประชาชนในประเทศอื่นทั้งหลายที่เขาให้ความเคารพยกย่องประมุขของประเทศเขา ตนยืนอยู่ข้างกับฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยที่จะมีการแก้ไขมาตร112 เพราะตนเองเห็นว่าที่บัญญัติไว้อย่างถูกต้องและเหมาะสมแล้วหรับประเทศไทย

ส่วนท่าทีของพรรคเพื่อไทย นายสุทิน คลังแสง รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ได้ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 16 ตุลาคมที่ผ่านมา ไม่ขอวิจารณ์นโยบายแก้มาตรา112ของพรรคก้าวไกล อยู่ที่ประชาชนจะพิจารณาแล้วตัดสินใจ โดยอ้างว่าพรรคเพื่อไทยให้ความสำคัญเรื่องเร่งด่วนที่สุดคือ เรื่องเศรษฐกิจปากท้องประชาชน

'อ.ไชยันต์' ชี้ สื่ออังกฤษยังแนะปชช.พกวิทยุทรานซิสเตอร์ สะท้อน 'บิ๊กตู่' เป็น 'กัปตัน' ที่สามารถรักษาความปลอดภัยได้

(22 ต.ค.65) ศ.ดร.ไชยันต์ ไชยพร อาจารย์ภาควิชาการปกครอง คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก ว่า...

แม้ผมจะขอให้ ลุงตู่ วางมือทางการเมือง

(ซึ่งผมก็ยังเห็นเช่นนั้นอยู่)

แต่ผมยอมรับว่า ท่านไม่ได้เป็นแค่เพียง “รปภ”

แต่เป็นทั้ง “กัปตันที่สามารถรักษาความปลอดภัย” ได้ในเวลาเดียวกัน ครับ

เรื่องวิทยุทรานซิสเตอร์

“The public would be advised to use car radios or battery-powered receivers to listen to emergency broadcasts on FM and long-wave frequencies usually reserved for Radio 2 and Radio 4.”

จาก หนังสือพิมพ์ the Guardian วันอังคารที่ 18 ตุลาคม 2565

ทั้งนี้ อ.ไชยันต์ ได้ให้มุมมองดังกล่าว โดยสะท้อนจากประเด็น เมื่อวันที่ 18 ต.ค.65 ที่สำนักข่าว The Guardian อ้างอิงข้อมูลจากสำนักข่าว BBC โดยรายงานว่า สหราชอาณาจักรกำลังเผชิญปัญหาไฟฟ้าดับนานหลายชั่วโมง ซึ่งถ้าหากรัสเซียปิดท่อแก๊สทั้งหมดที่ส่งมายังยุโรป โรงไฟฟ้าในสหราชอาณาจักรอาจต้องงดจ่ายกระแสไฟฟ้าวันละ 3 ชั่วโมง ระหว่าง 16.00 - 19.00 น. โดยเฉพาะในเดือนมกราคม - กุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่อากาศหนาวมาก แถมยังเป็นช่วงเวลาที่ไม่มีกระแสลมมากพอในการสร้างกระแสไฟฟ้าจากกังหันลม

ยิ่งไปกว่านั้น วิกฤตขาดแคลนพลังงาน อาจส่งผลกระทบให้สหราชอาณาจักรต้องประสบปัญหาไฟดับนานมากถึง 36-48 ชั่วโมง กว่าจะสามารถกู้ระบบพลังงานกระแสไฟฟ้าให้กลับมาใช้งานได้ปกติ ซึ่งวิกฤตไฟฟ้าดับจะเกิดขึ้นเกือบทั่วประเทศ ทั้งในอังกฤษ, สกอตแลนด์ และเวลส์ ยกเว้นไอร์แลนด์เหนือที่ไม่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตพลังงาน เนื่องจากไอร์แลนด์เหนือ ได้รับพลังงานไฟฟ้าจากประเทศไอร์แลนด์

อย่างไรก็ตาม สำนักข่าว BBC ได้เตรียมร่างหนังสือสำหรับออกอากาศแจ้งเตือนไปยังประชาชนในสหราชอาณาจักร ให้เตรียมรับมือกับวิกฤตไฟฟ้าดับ ซึ่งจะทำให้ระบบต่างๆ ใช้งานไม่ได้ เช่น เครือข่ายสัญญาณโทรศัพท์ สัญญาณอินเตอร์เน็ต ระบบการเงินธนาคาร สัญญาณไฟจราจร และระบบบริการสาธารณะต่างๆ อีกมากมาย ในสถานการณ์ฉุกเฉิน

>> พร้อมทั้งแนะนำให้ประชาชนในสหราชอาณาจักร เตรียมจัดหาวิทยุทรานซิสเตอร์ (battery-powered receivers) สำหรับรับฟังข้อมูลข่าวสารในช่วงสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือจะใช้วิทยุภายในรถยนต์ในการรับฟังข้อมูลข่าวสารก็ได้เช่นกัน โดยสถานนีวิทยุ Radio 2 และ Radio 4 ของ BBC จะแจ้งข้อมูลข่าวสารผ่านระบบสัญญาณวิทยุ FM

'เทนนิส' ผงาดคว้าเเชมป์เวิลด์ กรังปรีซ์ พ่วงสถิติไร้พ่าย จ่อครบ 4 ปี

ผลการเเข่งขันเทควันโด เวิลด์ กรังปรีซ์ 2022 ที่เมืองแมนเชสเตอร์ ประเทศอังกฤษ วันศุกร์ที่ 21 ตุลาคม

ความหวังใหญ่ของไทยคงหญิงไม่พ้นรุ่น 49 กก. หญิง 'เทนนิส' พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ เจ้าของเหรียญทองโอลิมปิก 2020 ที่ญี่ปุ่นลงเเข่ง

โดยเทนนิส เตะเอาชนะตั้งเเต่รอบ 16 คน จนเข้าชิงกับ เมิร์ฟ เเดนเซล จากตุรกี คู่ปรับเก่าจากสนามที่ผ่านมา ผลปรากฏว่าจอมเตะไทยยังผลงานเยี่ยมเอาชนะไปได้ทั้ง 2 ยก สกอร์ 1-0 และ 3-2  คว้าแชมป์ไปครอง นอกจากนี้ยังทำให้เธอยืดสถิติไร้พ่ายในรุ่นนี้เป็น 3 ปี 10 เดือน 29 วัน

ด้านเทนนิสยอมรับว่าภูมิใจที่สามารถคว้าเหรียญทองมาครองได้อีกหนึ่งรายการ เเถมยังดีใจที่รู้ว่าตัวเองเป็นจอมเตะหญิงที่ได้เหรียญทองในรายการเวิลด์ กรังปรีซ์มากที่สุดด้วย ซึ่งตอนนี้เหลืออีก 2 สนามในปีนี้ที่ คือชิงเเชมป์โลกที่เม็กซิโกเเละเวิลด์ กรังปรีซ์ ไฟนอลที่ซาอุดีอาระเบีย และเธอจะพยายามทำให้เต็มที่

'ครูแก้ว' ยัน!! 'โตโน่' ว่ายข้ามโขง ไม่ใช่แค่ได้เงินบริจาค แต่พาเศรษฐกิจนครพนมคึกคักตลอดหลายเดือน

(22 ต.ค.65) ช่วงเช้า ที่ลานพญาศรีสัตตนาคราชจังหวัดนครพนม ประชาชนและนักท่องเที่ยววิตกกังวล เพราะเกรงว่าจะมีฝนตก แต่ปรากฏว่าเมื่อพระสงฆ์เดินทางเข้ามาบริเวณดังกล่าวฟ้าเปิดฝนหยุด และทันทีที่ 'โตโน่' นายภาคิน คำวิลัยศักดิ์ เดินเข้ามาถึง ได้เรียกเสียงกรีดและหลายคนแสดงน้ำใจอวยพรให้ 'โตโน่' ประสบความสำเร็จในกิจกรรมครั้งนี้ นอกจากนี้มีรายงานว่า ผู้บริหารจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ นักการเมืองท้องถิ่นและระดับประเทศ พ่อค้า ประชาชน ภาคเอกชนยังได้เข้ามาให้กำลังใจ และปรากฏว่ายอดนางรำในขณะนี้มีกว่า 300 คน

ด้าน นายศุภชัย โพธิ์สุ หรือ 'ครูแก้ว' รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2 'ผู้นำนครพนม' กล่าวว่า ในวันนี้ขอพูดในฐานะคนจังหวัดนครพนม ต้องขอชื่นชมเป็นอย่างยิ่งสำหรับคนดี นั่นหมายถึง 'โตโน่' ดารานักแสดงชื่อดัง ที่มีความตั้งใจในการแสดงออกเป็นกุศล ต้องการใช้ความตั้งใจและความสามารถรณรงค์ช่วยเหลือโรงพยาบาลนครพนม รวมถึงโรงพยาบาลในประเทศลาว “เป็นการกระทำที่น่าชื่นชมยินดี ภาคภูมิใจ เพราะการทำของโตโน่นั่นคือการทำความดี เป็นการแสดงออกในรูปแบบสาธารณกุศล จึงเห็นประชาชนในจังหวัดได้ออกมายกย่องสรรเสริญด้วยความจริงใจและเต็มใจ”

'โตโน่' บวงสรวงก่อนลงน้ำ 10 โมง 9 นาที เจ้าอาวาสวัดเทพนรินทธราราม ถอดสร้อยพญานาคมอบให้

'โตโน่' บวงสรวงก่อนลงน้ำ 10 โมง 9 นาที เจ้าอาวาสวัดเทพนรินทธราราม ถอดสร้อยพญานาคมอบให้โตโน่ เผยเก็บมา 15 ปี คิดว่าเจ้าตัวเหมาะสม เปิดยอดบริจาค ทะลุ 28 ล้านบาทแล้ว

(22 ต.ค.65) ที่ลานพญาศรีสัตตนาคราช บรรยากาศก่อนพิธีบวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในงาน "One Man & The River หนึ่งคนว่าย หลายคนให้" ว่ายน้ำข้ามแม่น้ำโขงบริเวณฝั่งไทย-ลาว มีการจัดเตรียมปรมพิธี เครื่องเซ่นไหว้และบายศรีพญานาค 7 เศียร พร้อมจัดเวทีเครื่องขยายเสียงติดตั้งรอบพื้นที่ โดยประชาชนพากันเข้ามาร่วมงานกันจนแน่นพื้นที่ แม้เมื่อคืนที่ผ่านมาจนช่วงเช้ามืดจะมีฝนตกลงมาปรอยปรายก็ตาม

สำหรับยอดเงินบริจาคให้กับโรงพยาบาลในการจัดซื้ออุปกรณ์การแพทย์ที่ขาดแคลน ล่าสุดทีมผู้จัด แจ้งว่าเมื่อเวลา 07.40 น. มีเงินบริจาคเข้ามา 21,262,027 บาทแล้ว ซึ่งเกินตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ 16 ล้านบาท (ปัจจุบันมุ่งสู่ 30 ล้านบาท)

ขณะที่ โตโน่ ภาคิน คำวิลัยศักดิ์ พร้อมคณะรักษาการ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ตัวแทน รพ.นครพนม และ รพ.แขวงคำม่วน จาก สปป.ลาว และทีมงานผู้จัดโครงการ ได้เริ่มทำพิธีบวงสรวงในเวลา 08.00น.โดยมี พระอาจารย์เทพนรินทร์ ชินรังษี เจ้าอาวาสวัดเทพนรินทธราราม นำสวดชยันโต สร้างขวัญกำลังใจ ก่อนพระอาจารย์จะถอดสร้อยพญานาคที่สวมคอไว้ ซึ่งทำจากหยก และผ่านการปลุกเสกที่คำชะโนด แล้วมอบให้โตโน่ นำไปสวมใส่ โดยพระอาจารย์ ระบุว่าแต่แรกไม่คิดจะมอบให้ใคร เก็บไว้ตลอด 15 ปี จนตั้งใจจะนำมามอบให้โตโน่ เพราะคิดว่าเหมาะสมจะเป็นเจ้าของที่แท้จริง

ก่อนจะทำพิธีประพรมน้ำมนต์ ก่อนนางรำท้องถิ่น 200 คน พร้อมดารานักแสดงสาว 7 คน ประกอบด้วย ณิชา ณัฏฐณิชา ดังวัธนาวณิชย์, ฮาน่า ฮาน่า ลีวิส, ไข่มุก รุ่งรัตน์ เหม็งพานิช, แม็กกี้ อาภา ภาวิไล,แบมบี้ สิรินโสพิศ ปัจฉิมสวัสดิ์, แป้ง ดาริน ตาแปง, พิมพ์ ประพิมภรณ์ พิมพา และอีฟ ไอยวริญร์ ชื่นชอบ จะร่วมกันรำถวายพ่อปู่พญานาค หรือพญาศรีสัตตนาคราช ในบทเพลง รำศรีโคตรบูรณ์ และเพลงออนซอนนครพนม เป็นเวลา 12 นาที

อัปเดตราคา 'หมู - ไก่ - เนื้อ' ประจำวันที่ 22 ตุลาคม 2565

อัปเดตราคาอาหารสดวันนี้ มาดูกันว่าตามท้องตลาด ราคาอาหารสด ประจำวันที่ 22 ตุลาคม 2565 จะเพิ่มขึ้นหรือลดลงแค่ไหน ไม่ว่าจะเป็น ราคาหมู ราคาไก่ ราคาไข่ไก่ รวมไปถึงราคาผักสด เช็กกันเลย...

ผบ.ตร.ประชุมความพร้อมทุกฝ่าย รับมือประชุมผู้นำ APEC ดูแลความปลอดภัย การจราจร ใช้ตำรวจกว่า 20,000 นาย เชิญชวนคนไทยเป็นเจ้าภาพที่ดี

วันนี้ (21 ต.ค.65) เวลา 09.00 น. พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร.(มค), พล.ต.อ.ชินภัทร สารสิน รอง ผบ.ตร.(กม) ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประชุมเตรียมความพร้อม ซักซ้อมการปฏิบัติด้านการรักษาความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกการจราจรเพื่อเตรียมการจัดการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปคและการประชุมที่เกี่ยวข้องในช่วงที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเอเปค ปี 2565

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ฯ เปิดเผยว่าได้กำหนดแผนการเตรียมการด้านการแพทย์และการสาธารณสุข แผนการสนับสนุนการปฏิบัติในการประชุมฯ (กรุงเทพมหานคร การไฟฟ้านครหลวง การประปานครหลวง และ บริษัทโทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) การเตรียมการด้านกำลังพล ยานพาหนะ สิ่งอุปกรณ์ที่ใช้ในการประชุมฯ งบประมาณและการติดต่อสื่อสาร 

ในส่วนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้รับมอบหมายให้เป็นหน่วยรับผิดชอบหลักด้านการรักษาความปลอดภัย (บุคคล สถานที่พัก สถานที่ประชุม งานเลี้ยงรับรอง และเส้นทางการเดินทาง) การจัดขบวนรถผู้นำเขตเศรษฐกิจ และพิธีการคนเข้าเมือง ตลอดจนการสืบสวน ติดตามสถานการณ์ด้านข่าว และการจัดตั้งกองอำนวยการร่วม อำนวยการ ควบคุม สั่งการการปฏิบัติตลอดภารกิจฯ วันนี้เป็นการเก็บรายละเอียดแผนการปฏิบัติและแผนเผชิญเหตุต่างๆ ตลอดจนเป็นการซักซ้อมทำความเข้าใจด้านต่างๆ เพื่อทำงานให้ประสานสอดคล้องกันในห้วงเวลาการปฏิบัติ มีการใช้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 20,000 นาย หน่วยปฏิบัติและหน่วยสนับสนุนกว่า 30 หน่วยงาน เฝ้าติดตามสถานการณ์ด้านการข่าวทุกด้านอย่างต่อเนื่อง ร่วมมือและประสานการปฏิบัติกับหน่วยงานระหว่างประเทศ และการปฏิบัติที่ชัดเจนอย่างใกล้ชิด จัดตั้งศูนย์ประสานงานฯ ศูนย์ติดตามสถานการณ์ฯ กำหนดมาตรการเฝ้าระวังเหตุก่อนการจัดการประชุมฯ การระดมกวาดล้างอาชญากรรม อาวุธปืน ยาเสพติด บุคคลตามหมายจับทุกข้อหา/ฐานความผิดห้วง (10 ต.ค.- 8 พ.ย.65 ก่อนการประชุมฯ) และกำหนดการซักซ้อมการปฏิบัติเสมือนจริง ในห้วงต้นเดือน พ.ย.2565 (แผนการป้องกันเหตุร้ายฯ (1 – 5 พ.ย.65) ซักซ้อมขบวนรถผู้นำฯ (7 พ.ย.65) การซักซ้อมแผนเผชิญเหตุโรงแรม (11 – 13 พ.ย.65)) ซึ่งภายหลังจากเสร็จสิ้นการประชุมแล้ว สำนักงานตำรวจแห่งชาติจะได้รายงานผลการประชุมให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ประธานคณะอนุกรรมการฯ ทราบต่อไป

รัฐบาล เฟ้นหา สุดยอดอาหารไทย เสิร์ฟขึ้นโต๊ะประชุมผู้นำเอเปก

(21 ต.ค. 65) นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการด้านการประชาสัมพันธ์ไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเอเปก กล่าวว่า การที่ไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก ครั้งที่ 29 หรือ เอเปก 2565 ถือเป็นโอกาสดีที่ไทยจะได้แสดงศักยภาพให้ทั่วโลกได้เห็นว่าไทยมีความสามารถแข่งขันในเวทีโลก

โดย อาหารไทย ถือเป็นส่วนหนึ่งที่สามารถต่อยอดทางธุรกิจและพัฒนาให้มีความเป็นสากลได้ ทั่วโลกยกย่องอาหารไทย สังเกตได้จากร้านอาหารไทยที่กระจายอยู่หลายประเทศ และเรามีความสมบูรณ์ทางทรัพยากรอาหาร สิ่งนี้ถือเป็นซอฟต์พาวเวอร์ ซึ่งหากเชฟชาวไทยได้มีโอกาส ได้พัฒนาทักษะ ก็จะเป็นหนทางในการสร้างรายได้ ต่อยอดทางธุรกิจการทำอาหาร ตนจึงได้มอบหมายให้กรมประชาสัมพันธ์ ในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการด้านการประชาสัมพันธ์ จัดทำโครงการ Future Food for Sustainability ส่งเมนูอาหารอนาคต เทรนด์อาหารยุคใหม่ที่กำลังได้รับความนิยม ผสมผสานกับความเป็นไทย เพื่อเตรียมนำไว้ให้คณะผู้นำเอเปก และชาวต่างชาติได้สัมผัส ในช่วงสัปดาห์การประชุมสุดยอดผู้นำเอเปก ระหว่างวันที่ 14-19 พฤศจิกายน นี้

'ก้าวไกล' ผิดหวัง 'กสทช.' แค่รับทราบควบรวม 'ทรู-ดีแทค' จ่อยื่นป.ป.ช.เอาผิด ฐานละเว้นปฏิบัติหน้าที่

(21 ต.ค. 65) ที่รัฐสภา น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ประชุมสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) มีมติ 3 ต่อ 2 เสียงรับทราบการควบรวมกิจการระหว่าง บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จํากัด (มหาชน) หรือทรู และบริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค แบบมีเงื่อนไข โดยมีการกำหนดมาตรการเยียวยาผลกระทบที่จะเกิดขึ้นนั้น ว่า เป็นไปตามที่คาดเดา แต่ยังคงผิดหวัง เพราะเราคาดหวังไว้ว่า กสทช.จะใช้อำนาจตัวเองอย่างเต็มที่ ซึ่งหากสังเกตมติครั้งนี้ไม่ใช่การอนุญาตให้ควบรวมแต่เป็นการรับทราบ มีการโหวต 2 ครั้ง ครั้งแรกเป็นการลงมติว่าสรุปแล้วกสทช.มีอำนาจให้ควบรวมหรือไม่ สิ่งที่ลงมติออกมาเป็น 2 ต่อ 2 เสียง ซึ่งก็เป็นประเด็นว่าในการลงมติเรื่องนี้จำเป็นจะต้องได้เสียงข้างมากของคณะกรรมการทั้งหมด คืออย่างน้อยต้องได้ 3 เสียงแต่กรณีนี้เป็นการที่คะแนนเท่ากัน จึงต้องให้ประธานชี้ขาด ซึ่งจะใช้ในกรณีที่เป็นกรณีพิเศษไม่ใช่ในกรณีนี้ ตามข้อบังคับการประชุมของกสทช.

น.ส.ศิริกัญญา กล่าวต่อว่า เมื่อมาดูมติเสียงข้างมากบอกว่าตัวเองไม่มีอำนาจที่จะอนุญาตและใช้วิธีเพียงแค่การรับทราบผลการขอควบรวมธุรกิจ แสดงว่ากสทช.ตีความว่า ทรูและดีแทคไม่ได้อยู่ในธุรกิจประเภทเดียวกัน ซึ่งค้านสายตาคนทั้งประเทศ และการที่ออกมาตรการหรือเงื่อนไขภายหลังแบบนี้ ตนคิดว่าสร้างบรรทัดฐานที่ไม่ดีสำหรับกฎหมายกำกับดูแลในประเทศนี้ ถ้าต่อไปเอไอเอสต้องการจะควบรวมกับ 3BB เขาจำเป็นต้องขออนุญาตหรือไม่ และในกรณีนี้จะนับว่าเป็นธุรกิจประเภทเดียวกันอีกหรือไม่ ฉะนั้น ตนคิดว่ามีปัญหาตั้งแต่กระบวนการโหวตและการตีความกฎหมายทั้งคู่ ผลที่ออกมาในส่วนที่เป็นเงื่อนไขหรือมาตรการเฉพาะในหลายเรื่องทั้งในเรื่องเชิงโครงสร้างและในเชิงพฤติกรรม ซึ่งหลายคนอาจจะรู้สึกพอใจแล้วว่ามาตรการที่จะช่วยควบคุมราคา แต่ขอบอกว่าไม่มีการตัดสินของการอนุญาตควบรวมใด ๆ ในโลกนี้ที่ให้รัฐเป็นผู้ควบคุมราคา เพราะทราบกันดีว่าในความเป็นจริงทำได้ยากมาก

“ดังนั้น สิ่งที่จำเป็นจะต้องมีที่สุดคือมาตรการในเชิงโครงสร้างไม่ว่าจะเป็นการขายลูกค้าให้กับเจ้าอื่น หรือขายคลื่นหรือคืนคลื่นออกมาในส่วนที่มีถือครองคลื่นเกินจำนวนที่กสทช.กำหนดไว้ หรือการใช้เสาสัญญาณร่วมในราคาที่เป็นธรรม ที่สำคัญที่สุดคือทำให้เกิดผู้เล่นรายใหม่ขึ้นเป็นเจ้าที่ 3 ซึ่งในกรณีนี้ต้องมีการกันคลื่นไว้ส่วนหนึ่งเพื่อที่จะนำไปประมูลสัมปทานให้กับรายใหม่ได้ และอาจจำเป็นต้องให้แต้มต่อกับรายใหม่ให้ได้ราคาที่ถูกเป็นพิเศษด้วยซ้ำ เพื่อดึงดูดให้มีรายที่ 3 เข้ามา จึงคิดว่าทั้งหมดนี้เป็นเงื่อนไขและมาตรการที่ไม่เพียงพอที่จะกู้คืนสภาพการแข่งขันที่เคยมีอยู่ 3 เจ้าได้เลย จึงเป็นที่มาของการคัดค้านการตัดสินใจของ กสทช. ในครั้งนี้ต่อไป เนื่องจาก กสทช.ไม่ได้ใช้อำนาจของตัวเองอย่างที่รัฐธรรมนูญและกฎหมายกำหนด” น.ส.ศิริกัญญา กล่าว


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top