'ก้าวไกล' โดดเดี่ยว พรรคการเมืองแห่ประกาศไม่แก้ 112 จับตา 'เพื่อไทย' หนุนหรือค้าน?

จากกรณีพรรคก้าวไกล เปิดนโยบายหาเสียงเลือกตั้งชุดแรก โดยหนึ่งในนั้นคือนโยบายแก้ไขมาตรา 112 ซึ่งถือเป็นการเปิดหน้าชัดเจน และยังเป็นการโยนความกดดันให้กับพรรคพันธมิตรอย่างพรรคเพื่อไทยว่าจะตัดสินใจอย่างไร หากวันข้างหน้าต้องเจรจาจัดตั้งรัฐบาลร่วมกัน เพื่อไทยจะสนับสนุนนโยบายนี้หรือไม่ เพราะหากเพื่อไทยยอมรับนโยบายนี้ก็เท่ากับสนับสนุนการล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ แต่หากไม่สนับสนุน ก้าวไกลก็อาจไม่เข้าร่วมจัดตั้งรัฐบาล อย่างไรก็ตามจะมีวันนั้นหรือไม่ถึง เรามาสำรวจจุดยืนของพรรคการเมืองอื่นๆต่อกฎหมายมาตราดังกล่าว ซึ่งชัดเจนว่าส่วนใหญ่ต่างประกาศไม่แก้ไขมาตรา 112

เริ่มที่ พรรคพลังประชารัฐ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ได้พูดในหลายครั้งว่า พรรคพลังประชารัฐมีจุดยืนชัดเจนคือ ปกป้องชาติ และสถาบันพระมหากษัตริย์ และไม่สนับสนุนการแก้ไขมาตรา 112

ขณะที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ประกาศย้ำว่า พรรคภูมิใจไทยไม่มีนโยบายและไม่มีความคิดเรื่องแก้ไขมาตรา 112 อีกทั้งไม่เข้าใจว่าคนที่เสนอแก้ไขเดือดร้อนอะไรกับมาตรา 112 พร้อมเชื่อว่าคนไทยส่วนใหญ่ไม่รู้สึกว่ากฎหมายมาตรา 112 เป็นปัญหาอุปสรรคในการดำเนินชีวิตประจำวัน จะมีก็แต่กลุ่มคนที่คิดจะทำผิดกฎหมาย จึงมาเรียกร้องให้แก้กฎหมายให้สิ่งที่ตนจะทำเป็นสิ่งที่ไม่ผิดกฎหมาย ซึ่งพรรคภูมิใจไทยจะขัดขวางการแก้ไขถึงที่สุด รวมทั้งจะไม่ร่วมมือหรือร่วมทำงานกับพรรคการเมือง นักการเมือง หรือกลุ่มการเมืองที่เสนอแก้ไขมาตรา 112 ทุกระดับ รวมไปถึงการจัดตั้งรัฐบาลหลังการเลือกตั้งครั้งหน้าหรืออีกกี่ครั้งก็ตาม

ด้านนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ย้ำจุดยืนของพรรประชาธิปัตย์ว่า พรรคยึดมั่นการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และไม่มีประเทศใดในโลก ที่ไม่มีกฎหมายคุ้มครองประมุขแห่งรัฐ ไม่ว่าจะปกครองในระบอบใด

ส่วนนายแพทย์วรงค์ เดชกิจวิกรม หัวหน้าพรรคไทยภักดี ตำหนิพรรคก้าวไกลว่า นโยบายหาเสียงไม่สร้างสรรค์ เป็นการสร้างความแตกแยก นอกจากนี้พรรคไทยภักดีได้ยื่นเรื่องให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต .เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงนโยบายของพรรคก้าวไกล ว่าการเสนอนโยบายให้มีการแก้ไขกฎหมาย ม.112 และ ม.116 ขัดต่อพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองหรือไม่

ขณะที่นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ให้สัมภาษณ์ในรายการ Top Talk ทางท็อปนิวส์ ออกอากาศเมื่อวันที่ 16 ตุลาคม ว่า มาตรา 112 ต่างจากกฎหมายอาญาเกี่ยวกับการหมิ่นประมาทประชาชนทั่วไปอย่างไร ถ้าเราไม่ทำผิดเราก็ไม่ถูกดำเนินคดี พร้อมทั้งถามว่ากฎหมายในลักษณะเดียวกับ 112 สหรัฐอเมริกามีหรือไม่ ทำไมไม่ไปเลิกที่สรัฐอเมริกาซึ่งเป็นประเทศแม่บท ทำไมต้องเลิกที่ประเทศไทย

ด้านนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวว่า จุดยืนของพรรคพรรคชาติไทยพัฒนาจะไม่ไปยุ่งอะไรกับมาตรา 112 เพราะตั้งแต่ตนเกิดมาจนถึงทุกวันนี้ ก็ไม่เห็นคนทั่วไปมีปัญหา อีกทั้งปัจจุบันขนาดบุคคลธรรมดายังมีคดีหมิ่นประมาทอยู่ในศาลตั้งหลายร้อยหลายพันคดี มาตรา 112 ไม่ใช่มาตราที่หาเรื่องใคร แต่ใช้เพื่อปกป้องสถาบันอันเป็นที่รัก หากมีใครอุตริไปหาเรื่องเราจะต้องมีอุปกรณ์หรือกฎหมายปกป้องสถาบันได้ ยืนยันหัวเด็ดตีนขาดก็ต้องมีมาตรา 112 รอให้ดินกลบหน้า ตนไม่ยอมแก้มาตรา 112 แน่นอน

ขณะที่นายชัชวาลล์ คงอุดม ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคพลังท้องถิ่นไท กล่าวว่า จุดยืนของพรรคเราชัดเจนคือการปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งก็เป็นมาแบบนี้โดยตลอด และไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขมาตรา 112 เพราะสถาบันไม่ได้ทำอะไรให้ และตนก็ไม่เข้าใจพรรคก้าวไกลว่าทำไมจึงเสนอนโยบายแบบนั้น และหากพรรคก้าวไกลเสนอเรื่องดังกล่าวเข้ามาในสภาฯ ทางพรรคพลังท้องถิ่นไทก็จะคัดค้านอย่างแน่นอน

ด้านพรรคชาติพัฒนากล้า โดยนายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี รองหัวหน้าพรรค แสดงความเห็นเรื่องนี้โดยไม่ทราบว่าพรรคก้าวไกลคิดอะไร แต่ในส่วนของพรรคชาติพัฒนากล้าชัดเจนว่าจะไม่นำเรื่องนี้ และเรื่องที่เกี่ยวกับสถาบันมาเป็นนโยบายหาเสียง ตอนนี้ใกล้จะเลือกตั้ง ตนไม่อยากให้หยิบยกเรื่องมาตรา 112 มาเป็นประเด็น อย่าทำทุกอย่างไปสู่ความขัดแย้ง

ส่วนนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ประธานที่ปรึกษาพรรครวมพลัง หรือพรรครวมพลังประชาชาติไทยเดิม เคยกล่าวถึงจุดยืนต่อมาตรา 112 เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2564 ว่า เนื้อหาสาระของกฎหมายคือการห้ามไม่ให้ไปดูหมิ่นอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ แล้วที่ต้องมีกฎหมายนี้เพราะเป็นการถวายพระเกียรติยศ ถวายความเคารพสักการะในฐานะที่พระองค์ท่านเป็นประมุขของประเทศ เหมือนกับประชาชนในประเทศอื่นทั้งหลายที่เขาให้ความเคารพยกย่องประมุขของประเทศเขา ตนยืนอยู่ข้างกับฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยที่จะมีการแก้ไขมาตร112 เพราะตนเองเห็นว่าที่บัญญัติไว้อย่างถูกต้องและเหมาะสมแล้วหรับประเทศไทย

ส่วนท่าทีของพรรคเพื่อไทย นายสุทิน คลังแสง รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ได้ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 16 ตุลาคมที่ผ่านมา ไม่ขอวิจารณ์นโยบายแก้มาตรา112ของพรรคก้าวไกล อยู่ที่ประชาชนจะพิจารณาแล้วตัดสินใจ โดยอ้างว่าพรรคเพื่อไทยให้ความสำคัญเรื่องเร่งด่วนที่สุดคือ เรื่องเศรษฐกิจปากท้องประชาชน

ดังนั้นนาทีนี้สามารถสรุปได้ว่า พรรคการเมืองที่ออกมาประกาศจุดยืนชัดเจนแล้วว่าไม่แก้มาตรา 112 ประกอบด้วย พรรคพลังประชารัฐ พรรคภูมิใจไทย พรรคประชาธิปัตย์ พรรครวมไทยสร้างชาติ พรรครวมพลัง พรรคไทยภักดี พรรคชาติไทยพัฒนา พรรครวมพลังท้องถิ่นไทย พรรคชาติพัฒนากล้า ส่วนพรรคการเมืองที่มีนโยบายแก้ไขมาตรา 112 อย่างชัดเจน มีพรรคก้าวไกลเพียงพรรคเดียว ส่วนพรรคแกนนำฝ่ายค้านอย่างเพื่อไทยต้องบอกว่าแทงกั๊ก ไม่บอกว่าสนับสนุน แต่ก็ไม่ได้คัดค้าน ซึ่งก็ต้องจับตาว่าพรรคเพื่อไทย รวมถึงพรรคการเมืองอื่นๆที่ยังเงียบอยู่จะมีจุดยืนอย่างไร

ที่มา: https://www.topnews.co.th/news/464379