Tuesday, 13 May 2025
Hard News Team

‘บิ๊กป้อม’ นำทัพลูกทีม จับเบอร์ปาร์ตี้ลิสต์ ลั่น!! ขอสัก 20 เก้าอี้ พร้อมกำหมัดข้างขวา สู้ๆ

(4 เม.ย.66) ที่อาคารไอราวัตพัฒนา ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร เขตดินแดง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) พร้อมแกนนำพรรค เดินทางมาสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ โดย พล.อ.ประวิตร ชูมือสองข้างทักทายกองเชียร์และสื่อมวลชล จากนั้นได้เดินขึ้นบันไดมายังหน้าอาคารไอราวัตพัฒนา พร้อมกำหมัดข้างขวาขึ้น เพื่อแสดงสัญลักษณ์ว่าสู้ๆ

จากนั้นผู้สื่อข่าวถามว่า ลงสมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อครั้งแรกเป็นอย่างไร พล.อ.ประวิตร ยิ้มแต่ไม่ได้ตอบคำถาม เมื่อถามว่า เหนื่อยหรือไม่วันนี้ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เป็นนักการเมืองก็ต้องเข้มแข็ง เราต้องทำตามหน้าที่

ศึกการเงินโลกเริ่มเดือดขึ้นไปอีกขั้น  จับตาดอลลาร์ vs 'ทองคำ-หยวน-Bitcoin'

⚠️ ตอนนี้ศึกการเงินโลกเริ่มเดือดขึ้นไปอีกขั้นแล้ว ! เมื่อจีน-รัสเซียกำลังเร่งเดินหน้าทุกวิถีทางเพื่อพยายามทำลายค่าเงินและอำนาจของเงินดอลลาร์ลงให้ได้ ! ซึ่งคำถามสำคัญคือใครจะเป็นผู้ชนะกันแน่ ?!? ระหว่างเงินดอลลาร์, ทองคำ, เงินหยวน หรือ Bitcoin ?

(4 เม.ย.66) World Maker เผยว่า ปัจจุบันเงินดอลลาร์ยังคงครองการค้าโลกอยู่ราว 88% ของสัดส่วนสกุลเงินทั้งหมดที่ใช้ในการซื้อขายสินค้าและบริการต่าง ๆ ในขณะที่เงินหยวนของจีนมีสัดส่วนเพียง 3-7% เท่านั้น (แต่ล่ะสื่อรายงานตัวเลขไม่เท่ากันแต่อยู่ใน Range ระหว่างนี้)

บางคนมองว่าอีกไม่นานหยวนจะมีสัดส่วนมากขึ้นเรื่อย ๆ จนแทนดอลลาร์ได้ในที่สุด ? แต่ก็มีอีกฝั่งที่มองว่าไม่น่าจะเป็นไปได้ เนื่องจากนโยบายการบริหารประเทศของจีนและภาคการเงินนั้นเป็นระบบที่ค่อนข้างปลายปิด ซึ่งไม่อนุญาตให้เงินไหลเข้า-ออกประเทศได้อย่างอิสระ

และแม้จะมีข่าวว่าซาอุฯ กำลังเล็งขายน้ำมันบางส่วนเป็นเงินหยวน ทำให้หลายคนกำลังตั้งความหวังที่จะเกิด Petroyuan แทน Petrodollar แต่ในความเป็นจริงแล้วอาจยังห่างไกลกันมาก โดยเฉพาะเมื่อสกุลเงินของประเทศต่าง ๆ ในตะวันออกกลางมีความอ่อนไหวต่อค่าเงินดอลลาร์มากเป็นพิเศษ

ขณะเดียวกัน แม้ว่าจีนจะเป็นประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจอันดับ 2 ของโลก และยังเป็นคู่ค้าที่สำคัญมาก ๆ ของหลายประเทศ แต่โดยรวมแล้วการค้าโลกก็ยังถูกเงินดอลลาร์ครองตลาดอยู่ทิ้งห่างลิ่วจากสกุลเงินหยวน แม้จีนจะพยายามผลักดันการใช้เงินหยวนมาหลายปี แต่สุดท้ายแล้วดูเหมือนว่าความต้องการเงินดอลลาร์จะยังคงสูงกว่าจนถึงปัจจุบันนี้

อย่างไรก็ตาม หากในอนาคตจีนมีการเปลี่ยนแปลงตัวเองและเปิดกว้างสำหรับตลาดเงินหยวนมากขึ้น และแนวโน้มการเติบโตของเงินหยวนในตลาดโลกสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องไปเรื่อย ๆ ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ามีโอกาสที่การครอบงำตลาดของเงินดอลลาร์จะลดลงในะระยะยาว แม้ว่าในระยะสั้นนี้จะยังไม่เห็นภาพก็ตาม

📌 ส่วนทางด้านของทองคำนั้น ดูเหมือนจะเป็นคู่ฟัดที่ดูมีโอกาสมากที่สุดในการทุบอำนาจของเงินดอลลาร์ โดยทั่วโลกกำลังจับตาว่าทองคำจะยืนเหนือระดับ 2,000 $/Oz ได้หรือไม่ ? เพราะถ้ายืนได้ก็มีโอกาสที่จะทะลุเพดานไปอีก แต่ถ้ายืนไม่ได้ราคาทองคำโลกก็อาจร่วงลงมาอย่างมีนัยสำคัญเช่นกัน

โดยรัสเซียนั้นได้กลายเป็น 1 ในประเทศที่กำลังผลักดันให้โลกกลับไปสู่ระบบการเงินที่หนุนหลังด้วยทองคำ เนื่องจากทองคำเป็นเพียงไม่กี่ทางเลือกที่รัสเซียจะสามารถหลีกหนีการคว่ำบาตรของชาติตะวันตกไปได้ ซึ่งปัจจุบันรัสเซียกำลังร่วมมือกับอิหร่านในการทดลองใช้ Token ดิจิทัลที่หนุนหลังด้วยทองคำเพื่อทดแทนระบบเงินดอลลาร์ ขณะที่จีนเองก็มีข่าวว่าได้เข้าตุนทองคำเอาไว้เป็นปริมาณมาก ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของปฏิบัติการทุบอำนาจดอลลาร์ที่โลกฝั่งคอมมิวนิสต์ต้องการ

ธนาคารต่าง ๆ ในรัสเซียถูกรัฐบาลสั่งให้คิดค่าดอกเบี้ยในธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับดอลลาร์สูงขึ้นอย่างมากนับตั้งแต่เกิดสงครามยูเครนและโดนคว่ำบาตร ในขณะเดียวกันก็ออกกฏหมายหนุนให้ผู้คนหันไปหาเงินหยวนและทองคำมากขึ้นแทน ทำให้ Demand ทองคำจากผู้บริโภคในรัสเซียสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญตั้งแต่นั้นมา

โดยรวมในปี 2022 พบว่า Demand ทองคำทั่วโลกพุ่งขึ้นราว +18% สู่ระดับสูงสุดในรอบกว่า 10 ปี ซึ่งปัจจัยหลักมาจากการเข้าซื้ออย่างมหาศาลของธนาคารกลาง ซึ่งหากคิดเฉพาะ Demand จากธนาคารกลางจะถือว่าเข้าซื้อมาที่สุดในรอบราว 50 ปีเลยทีเดียว

นักวิเคราะห์หลายคนกล่าวว่าธนาคารกลางรัสเซียน่าจะเป็นผู้ซื้อรายสำคัญ แต่ไม่มีข้อมูลทางสถิติออกมายืนยันเพราะรัสเซียหยุดรายงานความเคลื่อนไหวในการซื้อขายทองคำและปริมาณตุนสำรองไปหลังจากที่สงครามยูเครนเริ่มต้นขึ้น

ขณะที่จีนก็พยายามผลักดันทองคำอยู่แบบเงียบ ๆ พร้อมกับการดันเงินหยวนให้มีความเป็นสากลมากขึ้น นั่นทำให้เราเห็นได้อย่างชัดเจนว่าโลกคอมมิวนิสต์กำลังปฏิบัติการเพื่อทำลายค่าเงินดอลลาร์อยู่ โดยใช้ทองคำเป็น 1 ในอาวุธหลัก เนื่องจากเหตุผลว่ามันคือ Safe Haven ที่รักษามูลค่าได้ตลอด 5,000 ปีที่ผ่านมา

แต่จะสามารถล้มอำนาจของดอลลาร์และดึงโลกกลับไปสู่มาตรฐานทองคำได้หรือไม่นั้น ? ก็คงต้องรอดูกันต่อไปในฉากหน้า ! โดยทั้งนี้ ตลอดหลายปีที่ผ่านมาก็มีความพยายามในการดัน Gold Standard กลับมาเรื่อย ๆ แต่ปรากฏว่าโลกก็ยังไม่ได้กลับไปใช้ทองคำหนุนหลังค่าเงินอยู่ดี นั่นจึงเป็นเหตุผลให้เราต้องลุ้นกันว่าครั้งนี้จะสำเร็จหรือคว้าน้ำเหลว ?

⚠️ อีกอาวุธหนึ่งที่มักจะถูกพูดถึงว่าจะนำมาใช้ล้มอำนาจของเงินดอลลาร์ก็คือ Bitcoin และ Crypto ซึ่งราคาของ Bitcoin ได้ปรับตัวสูงขึ้น +71% ในไตรมาสแรกของปี 2023 นี้ ! และท่ามกลางวิกฤต Bank Run ที่เกิดขึ้นก็พบว่าราคา Bitcoin ยังคงดีดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันเทรดอยู่ราว ๆ 28,300 $/BTC ทำให้หลายคนตั้งคำถามว่านี่จะใช่การกลับมาผงาดของมันหรือไม่ ? หลังจากเป็นกระแสข่าวแล้วราคาร่วงยับในก่อนหน้านี้

หลายสื่อรายงานว่าสภาพคล่องในตลาด Bitcoin กำลังอยู่ในภาวะ “แห้งเหือด” แม้ราคาจะปรับตัวสูงขึ้น ซึ่ง Trading Volumes ที่ลดลงหมายความว่าผู้ถือครองรายใหญ่จะสามารถปั่นราคาเหรียญได้ง่ายกว่าเดิมโดยใช้ปริมาณเงินน้อยกว่าเดิม ดังนั้นก็อาจเป็นไปได้ว่าที่ราคาปรับตัวขึ้นมาได้เมื่อเร็ว ๆ นี้อาจเป็นเพราะ Volumes ที่ลดลง ?

อย่างไรก็ตาม ผู้ที่เชื่อมั่นใน Bitcoin มองว่าอนาคตของมันยังอีกไกล ? และ Bitcoin จะไม่ใช่แค่แทนที่ดอลลาร์ ? แต่จะแทนที่ทองคำด้วย ? ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะเป็นเช่นนั้นจริงหรือไม่ ? เพราะสำหรับขาเชียร์ Bitcoin พวกเขาก็จะ Discredit ระบบเงิน Fiat และทองคำเป็นเรื่องปกตินับตั้งแต่ Bitcoin ยังเป็นกระแสจนราคาร่วงยับ -70%

อนึ่ง ในช่วงที่หน่วยงานกำกับดูแลของสหรัฐฯ กำลังเร่งตรวจสอบอุตสาหกรรมคริปโตอยู่นี้ พบว่าทางฮ่องกงก็กำลังเร่งเดินหน้าดันตัวเองให้กลายเป็น 1 ในศูนย์กลางคริปโตระดับโลก ! กลับลำ 180 องศาจากที่ก่อนหน้านี้รัฐบาลจีนออกมาประกาศก้องโลกว่าจะไม่เอา Crypto และยังสั่งให้ประชาชน-ธุรกิจต่าง ๆ ห้ามยุ่งเกี่ยวกับเหรียญเหล่านี้

ดังนั้นก็คงต้องรอดูว่าอนาคตของ Crypto จะถูกกำหนดออกมาอย่างไร เพราะปัจจัยที่สำคัญมาก ๆ ก็คือการยอมรับจากหน่วยงานกำกับดูแลต่าง ๆ ซึ่งคงต้องพิจารณาควบคู่กับการมาถึงของ CBDC ว่าจะให้ Crypto อยู่ในฐานะสินทรัพย์ทางเลือกต่อไป หรือว่าจะแบนทิ้งกันแน่ ? ส่วนเรื่องที่ Bitcoin จะแทนที่ดอลลาร์รักษามูลค่าไปเรื่อย ๆ ได้หรือไม่นั้น ? ก็คงต้องคุยกันหลังจากประเด็นนี้ผ่านก่อน

📌 ขณะเดียวกันนี้ ทาง OPEC+ ได้ตกลงกันที่จะลดกำลังผลิตน้ำมันดิบลงกว่า -1 ล้านบาร์เรล/วัน นับตั้งแต่เดือนพฤษภาคมนี้เป็นต้นไป ซึ่งเป็นสิ่งที่ OPEC+ กล่าวว่าเป็นการป้องกันความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนต่าง ๆ ของเศรษฐกิจโลก แต่ขณะเดียวกันก็เป็นการดันราคาน้ำมันให้สูงขึ้นตามไปด้วย

แน่นอนว่าราคาน้ำมันที่สูงขึ้นจะเป็นการสร้างเงินเฟ้อให้แก่โลกไปด้วย ซึ่งอาจเป็นส่วนหนึ่งในความพยายามที่จะทำลายเศรษฐกิจของประเทศตะวันตกด้วยการดันให้เงินเฟ้อเกิดขึ้นในระดับสูงอย่างที่นักวิเคราะห์ฝ่ายโปรรัสเซียส่วนใหญ่พยายามออกมาชี้ในก่อนหน้านี้ว่าประเทศตะวันตกจะต้องเผชิญเงินเฟ้อครั้งใหญ่จากการทำสงครามกับรัสเซีย ?

ราคาน้ำมันดิบโลกอย่าง WTI และ Brent ดีดขึ้นราว +6% ในวันนี้กลับมาอยู่ที่ระดับ 80 ดอลลาร์/บาร์เรลอีกครั้งหลังมีการประกาศลดกำลังผลิตจากกลุ่ม OPEC+ ซึ่งก็ต้องรอดูว่าหลังจากนี้ราคาน้ำมันดิบโลกจะพุ่งสูงขึ้นอีกหรือไม่ ? เพราะหากเศรษฐกิจและภูมิภาคโลกยังมีความตึงเครียดอยู่ ระดับ 100 ดอลลาร์/บาร์เรลก็ไม่ได้ถือว่าไกลเกินเอื้อมเลยสำหรับน้ำมัน

'ก้าวไกล' ตบเท้า ยื่น 92 บัญชีรายชื่อ  ด้าน 'พิธา' ลั่น!! พรรคส้มไม่ได้ส้มหล่น

(4 เม.ย.66) ที่อาคารไอราวัตพัฒนา ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ดินแดง พรรคก้าวไกล นำโดย นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เดินทางมาสมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ และแคนดิเคตนายกรัฐมนตรี

นายพิธา กล่าวว่า ตนจะเป็นผู้จับหมายเลขด้วยตนเอง เบอร์อะไรก็ได้ เพราะเราตั้งใจทำงานให้กับประชาชน ตามยุทธศาสตร์ของเรา ซึ่งการเลือกตั้งในครั้งนี้ เราต้องระบุเบอร์ในแต่ละเขต เพราะในบัตรเลือกตั้งแบบเขตไม่มีโลโก้พรรคและรายชื่อ ต้องดูว่าจะทำอย่างไรในการสื่อสารกับประชาชน เพื่อไม่ให้สับสน แต่ตนคิดว่าประชาชนจำโลโก้พรรคได้ หากได้เบอร์ 9 "อย่างที่ก้าวไกลให้ไทยก้าวหน้า"ก็จะดี 

เมื่อถามว่าวันนี้ได้เตรียมตัวมาแตกต่างกับเมื่อวานหรือไม่ นายพิธากล่าวว่า วันนี้เตรียมเอกสารมาสมัครเอง เมื่อวานเป็นเพียงผู้สังเกตการณ์  "วันนี้พิธามาสมัครงานกับพี่น้องประชาชน เป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป"

เมื่อถามว่ากดดันหรือไม่ เพราะเลือกตั้งครั้งนี้ไม่มีกรณีพรรคไทยรักษาชาติแล้ว นายพิธากล่าวว่า ไม่กดดัน ที่ทุกคนคิดการอาจจะไม่เป็นความจริงทั้งหมด ว่าเราเป็นพรรคส้มหล่น ต้องขอเรียนกับประชาชนว่า "พรรคส้มไม่ได้ส้มหล่น" มีหลายพื้นที่ ที่มีบ้านใหญ่ แต่อดีตพรรคอนาคตใหม่ก็ชนะ ทำให้เห็นว่ามีประชาชนจำนวนมาก ที่ต้องการการเมืองแบบใหม่ ต้องการปลี่ยนแปลงประเทศ ที่อยู่ในระบบอุปถัมภ์ และต้องการกระจายอำนาจ เลือกตั้งผู้ว่าราชการด้วยตนเอง และต้องการงบประมาณท้องถิ่นเพื่อจัดการด้วยตนเอง

เมื่อถามว่า มั่นใจว่ากระแสพรรคจะดีกว่าพรรคอนาคตใหม่หรือไม่ นายพิธากล่าวว่า ดีขึ้นทุกวัน เราไม่ได้แข่งขันกับอนาคตใหม่ เราแข่งขันกับตนเอง พรรคอนาคตใหม่คือพรรคของเรา และเพื่อนของเราในตอนนี้ที่จะสนับสนุน ให้เราสูงขึ้นเรื่อยๆ แต่ถ้าเปรียบเทียบกับครั้งแรกที่เริ่มแคมเปญ ตนคิดว่าได้การตอบรับที่ดี มากขึ้นทุกวันที่เราหาเสียง และเรายังมีเวลาก่อนถึงการเลือกตั้ง เพื่อให้ประชาชน ที่จะทำให้ได้รับการยอมรับและทำให้ประชาชนเชื่อ เชื่อในสิ่งที่เราจะทำให้ประเทศมากขึ้นเรื่อยๆ และหวังว่าในที่สุดจะได้รับโอกาส และได้รับความไว้วางใจจากประชาชน

สีสันวันรับสมัคร ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ แฟนคลับแห่เชียร์-ให้กำลังใจ ฟาก ‘ชูวิทย์’ โผล่จุดรับสมัคร ทักก้าวไกลปมงูเห่าในพรรค

(4 เม.ย.66) ที่อาคารไอราวัตพัฒนา ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร เขตดินแดง ซึ่งคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กำหนดให้เป็นสถานที่รับสมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ และรับแจ้งรายชื่อบุคคล ซึ่งพรรคการเมืองนั้นมีมติว่าจะเสนอให้สภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ระหว่างวันที่ 4-7 เมษายน 2566 บรรยากาศเป็นไปด้วยความคึกคัก โดยมีบรรดากองเชียร์จากพรรคต่างๆ เดินทางเข้ามาให้กำลังใจผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคตัวเอง

เช่น พรรคเพื่อไทย (พท.) เหล่ากองเชียร์ต่างตะโกนว่า “แลนด์สไลด์ เพื่อไทย สู้ๆ” พรรคไทยศิวิไลย์ รวมทั้ง พรรคเพื่อชาติ (พช.) นำโดย น.ส.ปวิศรัฐฐ์ ติยะไพรัช หัวหน้าพรรค นพ.เรวัต วิศรุตเวช แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ร.อ.ดร.จารุพล เรืองสุวรรณ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี เดินทางถึงศาลาว่าการ กทม. ตั้งแต่เวลา 06.35 น.

จาก 'อนาคตใหม่' ถึง 'ก้าวไกล' บทพิสูจน์ว่า 'ของจริง' แค่ไหน ในเลือกตั้ง66

เลือกตั้ง 24 มีนาคม 62 พรรคอนาคตใหม่ กวาดเก้าอี้ในสภาได้เกินคาดถึง 81ที่นั่ง ได้คะแนนรวมกว่า 6 ล้านเสียง กลายเป็นพรรคอันดับ 3 ในสภา จากระบบเลือกตั้งแบบจัดสรรปันส่วนผสม ที่ใช้บัตรเลือกตั้งใบเดียว ส่งให้พรรคอนาคตใหม่ ได้จำนวน ส.ส. ทะลุเป้า ทั้งที่ผู้สมัคร ส.ส.ทุกคนไม่เคยลงสมัครรับเลือกตั้งมาก่อนเลย 

พรรคอนาคตใหม่เริ่มนับหนึ่ง โดยมีนักธุรกิจหมื่นล้านอย่าง ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ กับ ปิยบุตร  แสงกนกกุล อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ เป็นผู้ร่วมกันปลุกปั้น โดยมี 'ช่อ' พรรณิการ์ วานิช อดีตบรรณาธิการและพิธีกรรายการข่าว วอยซ์ทีวี เข้ามารับบทบาทเป็นโฆษกพรรค ขณะที่กลุ่มผู้ก่อตั้งพรรค ที่ส่วนใหญ่เป็นนักกิจกรรมทางสังคมและคนรุ่นใหม่ เป็นส่วนผสมที่โดนใจกลุ่มผู้มีสิทธิเลือกตั้งครั้งแรก จำนวนกว่า 7 ล้านคน

แต่เส้นทางการเมืองของพรรคอนาคตใหม่ ก็ถูกสังคมจับจ้อง ด้วยภูมิหลังของ 'ธนาธร' ตั้งแต่ นามสกุล 'จึงรุ่งเรืองกิจ' ของเขา บทบาทนายทุนนิตยสารฟ้าเดียวกัน รวมถึงการเข้าร่วมชุมนุมกับกลุ่มคนเสื้อแดงในปี 2553 ไม่ต่างจาก 'ปิยบุตร' ที่เคยมีบทบาทเป็นหนึ่งในนักวิชาการกลุ่ม 'นิติราษฎร' ที่ออกมาจุดประเด็นในการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ทำให้ด้านหนึ่ง พวกเขาถูกโจมตีในฐานะบุคคลอันตราย แต่อีกด้าน ก็ทำให้พวกเขาและพรรคอนาคตใหม่เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในช่วงเวลาไม่นาน

พรรคอนาคตใหม่ ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่ขณะเดียวกัน หลายจุดยืนและวิธีคิดของพรรคอนาคตใหม่ ก็ถูกตั้งคำถามจากสังคม ทำให้พรรคอนาคตใหม่ ต้องเผชิญกับข้อกล่าวหา ถูกร้องในหลายกรณี ซึ่งมีไม่น้อยที่มีความผิดถึงขั้นยุบพรรค 

ย้อนไปในวันที่มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎรนัดแรก หลังเลือกตั้ง 62  ยังไม่ทันได้เริ่มต้นทำหน้าที่ 'ธนาธร' ก็ต้องเดินออกจากที่ประชุมสภา เนื่องจากศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่กรณีถือหุ้นสื่อ บริษัทวี-ลัค มีเดีย ก่อนมีคำวินิจฉัยให้พ้นสภาพ ส.ส. ในวันที่ 20 พ.ย.62

ห่างจากนั้นไม่ถึง 2 เดือน 21 ม.ค.63 พรรคอนาคตใหม่รอดพ้นจากการถูกยุบพรรค หลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยปมอิลลูมินาติ ไม่เข้าข่ายล้มล้างการปกครอง 

กระทั่งเดินมาถึงจุดพลิกผันสำคัญ เมื่อศาลรัฐธรรมนูญมีมติรับคำร้องของ กกต. กรณีที่ 'ธนาธร' ให้พรรคอนาคตใหม่กู้เงินจำนวน 191.2 ล้านบาท ซึ่งในที่สุด ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้ 'ยุบพรรค' ส่งผลให้กรรมการบริหารพรรคอนาคตใหม่จำนวน 16 คน ถูกเพิกถอนสิทธิทางการเมือง  10 ปี 

จุดสิ้นสุดของพรรคอนาคตใหม่ นำมาสู่การตัดสินใจแยกสายกันเดิน โดยที่ ธนาธร ปิยบุตร และ ช่อ พรรณิการ์ แยกไปตั้ง 'คณะก้าวหน้า' เดินหน้าทำงานการเมืองท้องถิ่น หวังผลักดันการกระจายอำนาจ แต่ประสบความล้มเหลวในการเลือกตั้งองค์การบริหารส่วนจังหวัดในปี 2563 เพราะใน 42 จังหวัดที่คณะก้าวหน้า ส่งผู้สมัครลงเลือกตั้งนายก อบจ. สอบตกทั้งหมด แต่ยังได้เก้าอี้สมาชิก อบจ. 57 คน จาก 20 จังหวัด 

ส่วนงานในสภาฯ ส.ส.จากพรรคอนาคตใหม่เดิม ที่เหลือ 55 คน หลังบางส่วนแยกตัวไปอยู่กับพรรคร่วมรัฐบาล ประกาศสานต่อนโยบายเดิม ด้วยการพากันย้ายไปบ้านใหม่ ที่ชื่อ 'พรรคก้าวไกล' โดยมี 'ทิม' พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ รับไม้ต่อเป็นหัวหน้าพรรค 

ด้านหนึ่งต้องยอมรับว่าพรรคก้าวไกลมีบทบาทสำคัญในการทำหน้าที่ฝ่ายค้าน หยิบยกประเด็นสำคัญขึ้นมาตั้งกระทู้ หรืออภิปรายตรวจสอบรัฐบาล อย่างไรก็ตาม บางจุดยืนที่แข็งแรงของพรรคอนาคตใหม่ที่ส่งต่อมายังพรรคก้าวไกล เช่น ประกาศเป็นขั้วตรงข้ามกับรัฐประหาร จุดยืนเรื่องการแก้ 112 และปฏิรูปสถาบัน ล้วนแต่เป็นยาขมของพรรคการเมืองอื่น และเริ่มกลายเป็นเค้าลางว่าเส้นทางของพรรคก้าวไกล ในการเลือกตั้งจะไม่ราบเรียบเหมือนปี 62

พรรคก้าวไกล กำลังเผชิญกับทั้ง 'ศึกนอก' ทั้งระบบการเลือกตั้งที่จะกลับมาใช้บัตร 2 ใบ เป็นระบบที่เอื้อ 'พรรคใหญ่' ที่มีกลุ่ม 'บ้านใหญ่' ทำให้พรรคใหม่อย่างก้าวไกลคาดหวังเก้าอี้ในสภาได้น้อยกว่าปี 62 ขณะเดียวกัน ยุทธศาสตร์แลนด์สไลด์ของ 'พรรคเพื่อไทย' หวังเก็บกวาดคะแนนเสียงจากฝั่งประชาธิปไตยไปทั้งหมดเพื่อตั้งรัฐบาลให้ได้ เป็นการส่งนัยถึงการโดดเดี่ยวพรรคก้าวไกลไว้ข้างหลัง

‘นักวิจัยจีน’ พัฒนา ‘แบตเตอรี่น้ำเค็ม’ ฝังในร่างกาย ช่วยฆ่า ‘เซลล์เนื้องอก’ ควบคุมการเติบโตของโรค

(4 เม.ย.66) เมื่อวันที่ 3 เม.ย.66 สำนักงานข่าวซินหัวรายงานว่า คณะนักวิจัยจีนพัฒนาแบตเตอรี่น้ำเค็มแบบฝังและชาร์จพลังงานได้เอง ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยฆ่าเซลล์เนื้องอกด้วยการควบคุมสภาพแวดล้อมที่สนับสนุนการเติบโตของเนื้องอก

การศึกษาฉบับดังกล่าวเผยแพร่ในวารสารไซแอนซ์ แอดวานซ์ (Science Advances) เมื่อไม่นานมานี้ โดยอธิบายว่าแบตเตอรีชนิดนี้จะลดปริมาณเนื้องอกเฉลี่ยร้อยละ 90 ในช่วงสองสัปดาห์ และกำจัดเนื้องอกในหนู 4 ตัวจาก 5 ตัว หากใช้ร่วมกับสารประกอบผลิตภัณฑ์ทางเภสัชกรรมที่เรียกว่าทิราปาซามีน (tirapazamine)

ทีมงานจากมหาวิทยาลัยฟู่ตั้นได้แรงบันดาลใจจากปฏิกิริยารีดอกซ์ของขั้วไฟฟ้าในแบตเตอรี่ โดยพวกเขาออกแบบอุปกรณ์แบบฝัง ซึ่งประกอบด้วยโพลีอิไมด์ที่มีส่วนประกอบเป็นคาร์บอนิลและโลหะสังกะสีที่เข้ากันได้ทางชีวภาพ

แบตเตอรี่ดังกล่าวสามารถสร้างวงจรการคายประจุและการชาร์จตัวเองเพื่อใช้งานออกซิเจนในเนื้องอกของหนู ซึ่งจะควบคุมปริมาณออกซิเจนและระดับความเป็นกรด-ด่างหรือค่าพีเอช (pH) ของเนื้องอก

การศึกษาเผยว่าแบตเตอรี่ยังเพิ่มประสิทธิภาพการฆ่าเนื้องอกของทิราปาซามีนในการฆ่าเซลล์เนื้องอกในหนู โดยทิราปาซามีนจะใช้ประโยชน์จากสภาวะการลดลงของออกซิเจน (oxygen-depleted) ของเนื้องอกเพื่อเลือกฆ่าเซลล์ที่ขาดออกซิเจน พร้อมเสริมว่าแบตเตอรี่น้ำเกลือมีความสามารถการปรับเปลี่ยนรูปดี จึงสามารถฝังเข้าชั้นใต้ผิวหนังบนผิวเนื้องอกและครอบคลุมพื้นผิวเนื้องอกอย่างเหมาะสม

‘หนุ่มใหญ่’ ปล่อยโฮ ถูกมือดีฉกเงินสด 8 หมื่นบาท หลังเผลอหลับ หวังจ่ายค่าผ่าตัดสมองให้พี่ชาย ชาวบ้านยันเห็นคนร้าย

ใจสั่นและขาอ่อนจนระทวย หนุ่มใหญ่วัย 52 ปี อ.ศรีบุญเรือง จ.หนองบัวลำภูหอบเงินเฉียดแสนมาที่อุดรฯหวังจ่ายค่ารักษาพยาบาลพี่ชายผ่าตัดสมอง เผลอนอนหลับที่สวนสาธารณะหนองประจักษ์ มีมือดีมาฉกเงินหนีหน้าตาเฉย ชาวบ้านยันเห็นคนร้าย ยืนยันไม่ได้กุเรื่อง วอนตร.ล่าตัวคนร้ายแสบโดยเร็วไม่งั้นไม่มีเงินรักษาพยาบาลพี่ชายแน่

(4 เม.ย.66) เมื่อวันที่ 3 เม.ย.66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่านายอดิศร อ่อนมาสาย อายุ 53 ปี ชาวบ้าน ต.นากอก อ.ศรีบุญเรือง จ.หนองบัวลำภู เข้าแจ้งความกับตร.สภ.เมืองอุดรธานีว่า เงินสดตนเองหายไปจากกระเป๋าขณะเผลอหลับไปที่สวนสาธารณะหนองประจักษ์ ข้างรพ.ศูนย์อุดรธานี ที่น่าตกใจกว่านั้นคือเงินสดจำนวน 82,000 บาทได้หายไป คาดว่าจะมีคนมาขโมยตอนหลับ อยากให้ตร.ติดตามมาคืนด้วยเพราะเงินก้อนนี้เป็นเงินก้อนสุดท้ายที่ตนเองนำมาจ่ายค่ารักษาผ่าตัดสมองที่รพ.ศูนย์อุดรธานี

ต่อมานายอดิศรพาตร.ชุดสืบสวนเดินทางไปดูจุดที่เกิดเหตุที่นอนหลับในสวนสาธารณะหนองประจักษ์ โดยนายอดิศรใจสั่นและขาอ่อนจนระทวยที่เงินเฉียดแสนหายไปแบบนี้ พาตร.ชี้จุดที่เกิดเหตุ พร้อมบอกว่า เงินผมหายแล้วหัวหน้า ช่วยตามให้ผมที เงินนี้ผมจะเอามาจ่ายค่าผ่าตัดสมองพี่ชาย ขโมยมาเงินผมไป แบบนี้ผมไม่ได้จ่ายให้พี่ชายแน่

หนุ่มใหญ่เคราะห์ร้ายถูกขโมยเงิน บอกว่า พี่ชายป่วยเป็นเนื้องอกในสมองและมาผ่าตัดที่รพ.อุดรธานีตั้งแต่กลางเดือนมี.ค.แล้วและมีคิวผ่าตัดวันที่ 5 เม.ย.นี้ หมอแจ้งมีค่าใช้จ่ายประมาณ 80,000 บาทเศษ เงินที่ตนเองเก็บหอมรอมรับมานาน เอาใช้เป็นค่าใช้จ่ายพี่ชายทั้งหมด หวังจะให้พี่ชายรอด  ก่อนเกิดเหตุได้ขึ้นไปเยี่ยมพี่ชายและบอกว่าไม่ต้องห่วงมีเงินจ่ายค่าผ่าตัดแล้ว จากนั้นตนเองก็เดินลงมานอนพักผ่อนที่หนองประจักษ์ โดยเอากระเป๋าวางไว้ข้างๆ ที่ตัวเองนอน เผลอหลับไปสักงีบ พอตื่นขึ้นมาปรากฏว่ากระเป๋าเงินหายแล้ว ตกใจมากเงินหายแบบนี้ไม่ได้จ่ายค่าผ่าตัดพี่ชายแน่จึงรีบไปแจ้ง ตร.ให้มาตรวจสอบทันที หมดเนื้อหมดตัวแล้ว และสงสารพี่ชาย พอพี่ชายป่วยก็ถูกภรรยาไล่ออกจากบ้าน ตนเองสงสารพี่ชายจึงอยากจะจ่ายค่าผ่าตัดสมองให้ อยากจะวิงวอนให้ตร.ตามจับคนร้ายให้ได้

‘เจ้าของสวน’ แทบทรุด อีก 2 วันก็ตัดขายได้แล้ว  กลับถูกโจรแสบย่องตัด ‘ทุเรียน’ กว่าร้อยลูก มูลค่ากว่า 90,000 บาท

(4 เม.ย.66) วันที่ 3 เม.ย.66 ร.ต.อ. ชัชวาล เพ็ชรนอก รอง สว.(สอบสวน) สภ.บ้านค่าย ระยอง ได้รับแจ้งจาก นางจินตนา บุญประเสริฐ ผู้ใหญ่บ้านหมู่8 ต.ชากบก อ.บ้านค่าย จ.ระยอง ที่พานายพยุง ธรรมชาติ อายุ 55 ปี เจ้าของสวนทุเรียน ในพื้นที่หมู8 ต.ชากบก ว่าถูกคนร้ายไม่ทราบจำนวน บุกเข้าไปขโมยตัดทุเรียนพันธุ์หมอนทอง หายไปกว่า 100 ลูก จึงประสานตำรวจชุดสืบสวนเข้าตรวจสอบในจุดเกิดเหตุเพื่อหาเบาะแสคนร้าย

เมื่อไปถึงสวนทุเรียนที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นสวนทุเรียนพันธุ์หมอนทอง บนเนืัอที่ 7 ไร่ มีต้นทุเรียนอายุกว่า 7 ปี ทั้งหมด 60 ต้น กำลังออกผลเต็มต้น ตรวจสอบพบร่องรอยกิ่งหัก และ เหลือเพียงขั้วทุเรียนที่ถูกตัดลูกหายไป โดยหนึ่งต้นถูกขโมยลูกทุเรียนหายไป 10-20ลูก ตัดเอาผลไปทุกต้น รวมกว่า100ลูก ทิ้งไว้เพียงรอยเท้าของโจร ที่พบอยู่หลายรอยคาดว่าคงมาไม่ต่ำกว่า 3 คน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงตรวจสอบทั่วทุ้งสวนเพื่อหาเบาะแสของคนร้ายกลุ่มนี้

นายพยุง เจ้าของสวนทุเรียน ได้ให้การว่า ทุเรียนภายในสวนของตนเองเป็นพันธุ์หมอนทองทั้งหมด ต้นทุเรียนอายุ 7 ปี ใหะผลผลิตมาแล้ว 2 ปี โดยปีนี้ให้ผลผลิตมากกว่าปีที่ผ่านมา จึงเฝ้าดูแลทะนุถนอม รดน้ำใส่ปุ๋ย จนทำให้ผลทุเรียนได้น้ำหนัก โดยเหลือเวลาอีกแค่สองวันก็จะตัดทุเรียนบางส่วนส่งขายได้แล้ว โดยตนเองไม่ได้พักในสวน จึงสร้างรั้วกั้นอย่างแน่นหนา โดยเข้ามารดน้ำครั้งสุดท้ายเมื่อ 3 วันที่ผ่านมา จนกระทั่งวันนี้ได้เข้ามารดน้ำ เมื่อเห็นต้นทุเรียนก็แทบทรุด เพราะพบว่าถูกขโมยลูกทุเรียนไป ตรวจสอบพบว่าถูกขโมยไปทุกต้น โดยคนร้ายคัดเอาแต่ลูกที่สวยไป คงจะมีความรู้เรื่องทุเรียนพอสมควร

ผบ.ตร.ภาค 1 จับมือ ผวจ.อยุธยา ลงนาม MOU เปิดโครงการชุมชนยั่งยืนเพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติดแบบครบวงจร

วันที่ 3 เมษายน 2566 ที่ หอประชุมโดมเทศบาลเมืองลำตาเสา ตำบลลำตาเสา อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ให้การต้อนรับ พลตำรวจโท จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ประธานเปิด "โครงการชุมชนยั่งยืนเพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติดแบบครบวงจรตามยุทธศาสตร์ชาติ สถานีตำรวจภูธรวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา"  โดยมี พล.ต.ต.ชยานนท์ มีสติ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา  นางสมทรง  พันธ์เจริญวรกุล นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพระนครศรีอยุธยา  นางสมศรี พันธ์เจริญวรกุล นายกเทศมนตรีเมืองลำตาเสา พ.ต.อ.สมเจษฐ์ แม้นบุตร ผกก.สภ.วังน้อย หัวหน้าส่วนราชการ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เข้าร่วมพิธี 

พลตำรวจโท จิรพัฒน์ ภูมิจิตร กล่าวว่า ตามที่รัฐบาลได้กำหนดการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดเป็นวาระแห่งชาติ โดยในปีงบประมาณ พ.ศ.2566 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้กำหนดการดำเนินการโครงการดำเนินงานชุมชนยั่งยืน เพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติด แบบครบวงจรตามยุทธศาสตร์ชาติ โดยกำหนดให้สถานีตำรวจทุกแห่งทั่วประเทศ ดำเนินการ 1 สถานีตำรวจต่อ 1 ชุมชน โดยเน้น การบูรณาการ ร่วมกันทุกภาคส่วน 

 

‘พ่อเจ-เจตริน’ ซัด ‘ชัชชาติ’ ทำอะไรเพื่อ ปชช.บ้าง? ชี้!! ไม่เห็นผลงานเป็นชิ้นเป็นอัน เผย!! ดีใจไม่โง่ถูกหลอก

(3 เม.ย.66) ศาสตราจารย์ (พิเศษ) เจริญ วรรธนะสิน รองประธานคณะกรรมการ คณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้โพสต์ภาพนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร สวมเสื้อกล้าม กางเกงขาสั้น ถือปืนฉีดน้ำ ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ เมื่อปี 2557 พร้อมทวีตข้อความผ่านทวิตเตอร์ระบุว่า…

“ช่วยบอกที ตั้งแต่ได้รับเลือกเป็นผู้ว่าฯ กทม. เคยทำอะไรที่เป็นเรื่องเป็นราวเป็นชิ้นเป็นอันเพื่อประชาชนให้เห็นจะ ๆ กันบ้าง?”


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top