Tuesday, 13 May 2025
Hard News Team

INTERLINK หนุน 'สร้างงาน สร้างคน สร้างอาชีพ' เสริมทักษะความรู้ สร้างกูรูสายสัญญาณป้อนไทย

(4 เม.ย.66) บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ คอมมิวนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการผลิตบุคลากรในสายวิชาชีพ กับสถาบันเทคโนโลยี หนุนสร้างงาน สร้างคน สร้างอาชีพ ส่งเสริมทักษะความรู้เฉพาะด้านการเป็นผู้นำด้านสายสัญญาณของประเทศไทยที่แข็งแกร่ง นำสู่การต่อยอดอาชีพในอนาคตได้อย่างเติบโต ต่อเนื่อง และยั่งยืน

โดยมี คุณสมบัติ อนันตรัมพร ประธานกรรมการ กลุ่มบริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ฯ และ ดร. ชลิดา อนันตรัมพร ประธานกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มบริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ฯ พร้อมด้วย รองศาสตราจารย์ ดร.คุณหญิง สุมณฑา พรหมบุญ อธิการบดีวิทยาลัยเทคโนโลยีจิตรลดา และประธานคณะกรรมการบริหารโรงเรียนจิตรลดา (สายวิชาชีพ) ร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลง (MOU) ทางวิชาการระหว่าง สถาบันเทคโนโลยีจิตรลดา ณ ห้องประชุมสภา สถาบันเทคโนโลยีจิตรลดา

สงกรานต์นี้ วิ่งฟรีมอเตอร์เวย์ 7 วัน สาย 7, 9 ส่วน M6 เปิดวิ่งชั่วคราว ช่วง ‘ปากช่อง - ขามทะเลสอ’

กรมทางหลวงเปิดฟรีมอเตอร์เวย์สาย 7, สาย 9 สงกรานต์นี้ รวม 7 วันช่วง 12-18 เม.ย. 66 ส่วน M6 ช่วงปากช่อง-สีคิ้ว-ขามทะเลสอ เปิดใช้ชั่วคราวระบายจราจร พร้อมตั้งจุดให้บริการ 393 แห่งอำนวยความสะดวกและปลอดภัย 24 ชั่วโมง

(4 เม.ย. 66) นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) เปิดเผยว่า ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ระหว่างวันที่ 11-17 เมษายน 2566 คาดว่าจะมีประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก กรมทางหลวงจึงได้เตรียมความพร้อมในการอำนวยความสะดวกและปลอดภัย เพื่อรองรับการเดินทางของประชาชนสู่ภูมิภาคต่างๆ ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของนายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม โดยได้สั่งการสำนักงานทางหลวงและแขวงทางหลวงทั่วประเทศดำเนินการตรวจสอบป้ายจราจร สัญญาณไฟจราจร ไฟฟ้าแสงสว่างให้พร้อมใช้งาน ตรวจสอบและแก้ไขจุดเสี่ยงและจุดอันตราย พร้อมบำรุงรักษาทางหลวงให้อยู่ในสภาพดี และมีรถบริการช่วยเหลือฉุกเฉินเมื่อผู้ใช้ทางเกิดอุบัติเหตุหรือรถเสีย

อีกทั้งได้ขอความร่วมมือผู้รับจ้างคืนผิวทางในพื้นที่ก่อสร้างทุกโครงการ ซึ่งหากพบว่ามีปริมาณจราจรหนาแน่นบนเส้นทางหลักจะทำการประสานงานกับตำรวจ ทางหลวง ในการอำนวยความสะดวกด้านการจราจรหรือการเปิดช่องทางพิเศษ (Reversible Lane) เพื่อให้การเดินทางของประชาชนเป็นไปอย่างสะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น

ทีเส็บ จัดโรดโชว์โครงการ ‘ประชุมเมืองไทย เร่งสร้างเศรษฐกิจไทย’เปิดประตูสู่ภาคตะวันตก เยือนหัวหินสร้างความมั่นใจ จัดกิจกรรมไมซ์ช่วยฟื้นเศรษฐกิจไทย

‘ทีเส็บ’ เปิดตัวโครงการ 'ประชุมเมืองไทย เร่งสร้างเศรษฐกิจไทย' ให้งบสนับสนุนองค์กร จัดประชุมและการเดินทางเพื่อเป็นรางวัลภายในประเทศจำนวน 1,000 กลุ่ม หวังสร้างรายได้กว่า 100 ล้านบาท จัดโรดโชว์ปลายทางเมืองไมซ์ซิตี้ทั่วประเทศ กระตุ้นตลาดไมซ์ในประเทศ ช่วยฟื้นเศรษฐกิจไทย ณ โรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ รีสอร์ท วานา นาวา หัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
คุณสุวัชชัย นิมมานเทวินทร์ ผู้อำนวยการ สำนักส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ ภาคกลาง กล่าวว่า “ทีเส็บได้ให้การสนับสนุนหน่วยงาน หรือองค์กรที่ดำเนินการจัดประชุมองค์กรและการเดินทางเพื่อเป็นรางวัลในประเทศอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ปี 2563 โดยในปี 2566 นี้ ทีเส็บได้เดินหน้าให้การสนับสนุนต่อภายใต้ชื่อโครงการ “ประชุมเมืองไทย เร่งสร้างเศรษฐกิจไทย” เพื่อเร่งกระตุ้นนักเดินทางไมซ์และสร้างเศรษฐกิจภายในประเทศ โดยใช้กลไกการสนับสนุนเป็นตัวขับเคลื่อนให้เกิดการจัดงานไมซ์ทั่วประเทศเพิ่มขึ้น ทั้งยังเป็นการกระจายรายได้ไปสู่ทุกภูมิภาคอีกด้วย พร้อมกันนี้ยังเป็นการส่งเสริมให้ผู้ประกอบการไมซ์ ชุมชน รวมถึงธุรกิจต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมไมซ์ได้เกิดการจ้างงาน สร้างรายได้ ก่อเกิดเป็นเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจของประเทศ

สำหรับงานโรดโชว์ในครั้งนี้ที่หัวหิน เมืองตากอากาศที่มีชื่อเสียงของไทย ซึ่งมีความสวยงามของท้องทะเล และยังเพียบพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันในระยะทางที่ไม่ไกลจากกรุงเทพมหานคร มีศูนย์ประชุมและสถานที่จัดงานที่สามารถรองรับการจัดประชุมสัมมนาได้โดยมีมาตรฐานสถานที่จัดงานประเทศไทย TMVS อีกด้วย ซึ่งหัวหินมีศักยภาพและความพร้อมในทุกด้านที่ผู้ประกอบการสามารถเลือกให้เป็นสถานที่จัดงานไมซ์ได้อย่างดีเยี่ยม” คุณสุวัชชัยกล่าว

ภายในงานโรดโชว์ได้รับเกียรติจากท่านพลกฤต พวงวลัยสิน นายอำเภอหัวหิน ร่วมเปิดงาน และมีกิจกรรมต่างๆ อาทิ การเสวนาในหัวข้อ “กระตุ้นเศรษฐกิจไทย ด้วยกิจกรรมประชุมไมซ์ในประเทศ” โดย คุณสัมพันธ์ พงษ์พรรณนากูล ประธานหอการค้ากลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนล่าง คุณวสันต์ กิตติกุล นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคตะวันตก คุณชณัฎฐ์ พงศ์ธราธิก ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และ คุณวาสนา ศรีกาญจนา นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวหัวหิน – ชะอำ และ ดร.กรัณย์ สุทธารมณ์ ผู้แทนการตลาด สำนักส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ ภาคกลาง

โดยมีคุณนิยม อิงคสุรวัฒน์ ผู้จัดการอาวุโส สำนักส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ ภาคกลาง มาให้ข้อมูลโครงการประชุมเมืองไทยฯ และ คุณนราศักดิ์ ม่วงแก้ว ผู้จัดการส่วนงาน MICE Innovation ร่วมให้ข้อมูลเรื่องแพลตฟอร์ม Thai MICE Connect

นอกจากนี้ยังมีการบรรยายในหัวข้อ 'จับตาชีพจรไมซ์ปี 2566' โดย คุณภูมินทร์ มีถาวรกุล ผู้ปฏิบัติการอาวุโส ฝ่าย MICE Intelligence และ นวัตกรรม และยังมี Thai MICE Connect: Exclusive Clinic คลินิกให้คำปรึกษาการใช้งาน Thai MICE Connect แบบตัวต่อตัวอีกด้วย
สำหรับโครงการ 'ประชุมเมืองไทย เร่งสร้างเศรษฐกิจไทย' เป็นโครงการสนับสนุนด้านงบประมาณการจัดงานไมซ์ให้แก่ผู้ประกอบการและนิติบุคคลตามกฎหมายที่มีแผนการจัดการประชุมองค์กรและการเดินทางเพื่อเป็นรางวัลในประเทศ โดยต้องมีการจัดกิจกรรมอย่างใดอย่างหนึ่งใน 7 ประเภท ได้แก่ กิจกรรมการประชุม (Meetings) กิจกรรมการเดินทางเพื่อเป็นรางวัล (Incentives) กิจกรรมสัมมนา (Seminars) กิจกรรมการอบรม (Training) กิจกรรมเพื่อสังคม (CSR) กิจกรรมพนักงานสัมพันธ์ (Outing) และกิจกรรมศึกษาดูงาน (Field trip)

โดยตั้งเป้าหมายมีองค์กรสมัครเข้าร่วมขอรับการสนับสนุน 1,000 กลุ่ม มีจำนวนนักเดินทางไมซ์กว่า 30,000 คน สร้างรายได้หมุนเวียนทางเศรษฐกิจกว่า 100 ล้านบาท สร้างผลกระทบทางเศรษฐกิจ 180 ล้านบาท สร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ (GDP Contribution) 101 ล้านบาท รัฐมีรายได้จากการจัดเก็บภาษี 6 ล้านบาท และก่อให้เกิดการจ้างงาน 120 อัตรา

กกต. ไฟเขียว 49 พรรค หาเสียงตามเบอร์ที่จับได้ หลังตรวจสอบเอกสารครบถ้วนแล้ว ไร้ปัญหา

กกต.ไฟเขียว 49 พรรค หาเสียงตามเบอร์ที่จับได้ หลังตรวจสอบเอกสารครบถ้วน แจงไม่มีอำนาจตรวจสอบคุณสมบัติแคนดิเดตนายกฯ เหตุกม.กำหนดให้ทำหน้าที่แค่รับแจ้ง พร้อมยันกกต.พิมพ์บัตรโหลเป็นตามกม.กำหนด 

(4 เม.ย. 66) เวลา 14.45 น. ที่อาคารไอราวัฒพัฒนา ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แถลงข่าวภายหลังการรับสมัครส.ส.แบบบัญชีรายชื่อในวันแรก ว่า การรับสมัครส.ส.บัญชีรายชื่อในวันนี้ หลังกกต.ได้ตรวจสอบเอกสารที่ 49 พรรคการเมืองที่มาก่อนเวลา 08.30 น. เอกสารครบและสามารถออกใบรับสมัครทั้ง 49 พรรคการเมือง มีคุณสมบัติครบแล้วได้หมายเลขตามลำดับที่จับสลากได้ โดยภาพรวมการรับสมัครงานนี้ค่อนข้างเรียบร้อย มีปัญหาอยู่บ้างคือสถานที่คับแคบ จุดรับสมัครน้อยโดยการรับสมัครในขณะนี้มีพรรคการเมืองแบบบัญชีรายชื่อจำนวน 53 พรรคการเมือง และรับแจ้งรายชื่อบุคคลซึ่งพรรคการเมืองจะเสนอเป็นนายกรัฐมนตรี หรือแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจำนวน 16 พรรค 20 คน

นายแสวง ยังกล่าวด้วยว่า รายชื่อผู้สมัครส.ส.แบบบัญชีรายชื่อทั้งหมดกกต. จะดำเนินการตรวจสอบคุณสมบัติเช่นเดียวกับส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง หากพบว่าผู้สมัครรายใดไม่มีคุณสมบัติจะไม่ประกาศรายชื่อ ซึ่งผู้ที่ไม่ได้รับการประกาศรายชื่อสามารถยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาได้ หากศาลไม่คืนสิทธิให้พรรคการเมืองก็จะเหลือจำนวนผู้สมัครเท่าที่มีอยู่ ส่วนแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีกฎหมายกำหนดให้กกต.เป็นเพียงผู้รับแจ้งชื่อเท่านั้น ไม่ได้มีหน้าที่ตรวจสอบคุณสมบัติ

‘พิธา’ ยืนหนึ่ง!! ลงสมัครแคนดิเดตนายกฯ ก้าวไกล ย้ำ!! นโยบายพรรคชัดเจน - ทำงานคุ้มภาษี ปชช.

‘พิธา’ นำทีม ‘ก้าวไกล’ ยื่นแคนดิเดตนายกฯ หนึ่งเดียว ‘พิธา ลิ้มเจริญรัตน์’ ชูจำเบอร์ ส.ส.เขตก้าวไกล-บัตรบัญชีรายชื่อจำโลโก้พรรค ย้ำเลือกพรรคก้าวไกลชัดเจน ตรงไปตรงมา ทำงานคุ้มค่าเงินภาษีประชาชน

(4 เม.ย.66) พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมด้วยว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ จำนวน 40 คน เดินทางโดยรถเมล์ NGV ตั้งแต่ช่วงเช้าตรู่ เพื่อไปสมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อและส่งรายชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ที่อาคารไอราวัตพัฒนา ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร เขตดินแดง กรุงเทพฯ

พิธากล่าวว่า วันนี้พรรคก้าวไกล ยื่นชื่อตนเป็นแคนดิเดตนายกฯ เพียงคนเดียว พร้อมกับว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. บัญชีรายชื่อจำนวน 92 คน เรามั่นใจว่าทุกคนมีความรู้ความเชี่ยวชาญที่ตอบโจทย์ความต้องการของประชาชนและความท้าทายใหม่ๆ ของประเทศ เป็นมืออาชีพพร้อมเข้าไปบริหาร เป็นคณะรัฐมนตรี ไม่ว่าจะเป็น ด้านแรงงาน ด้านเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ด้านการเอาจริงกับปัญหาโลกร้อน ความเท่าเทียมทางเพศ สันติภาพชายแดนภาคใต้

ภายใน 100 วันแรก รัฐบาลก้าวไกลจะขับเคลื่อนนโยบายเพื่อสร้างการเมืองดี ปากท้องดี มีอนาคต ด้วยการจัดประชามติร่างรัฐธรรมนูญใหม่โดยสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนทั้งหมด ผลักดันกฎหมายที่ก้าวหน้าทีพรรคก้าวไกลได้ริเริ่มไว้ เช่น สมรสเท่าเทียม สุราก้าวหน้า ผลักดันนโยบายหวยใบเสร็จ ปฏิวัติหลักสูตรการศึกษา รวมถึงการใช้ประโยชน์จากกองทุนส่งเสริมขีดความสามารถในการแข่งขัน เป็นต้น

ส่วนในช่วงนี้ที่มีโพลสำนักต่าง ๆ ออกมาคาดการณ์จำนวน ส.ส. ที่พรรคก้าวไกลจะได้รับ ตนมีความเชื่อมั่นจากการลงพื้นที่ พรรคก้าวไกลได้รับเสียงตอบรับดีขึ้นเรื่อย ๆ ส่วนผู้สมัคร ส.ส. บัญชีรายชื่อ บางคนอาจยังไม่เป็นที่รู้จักของประชาชนในวงกว้าง แต่เชื่อว่าหากมีโอกาสได้แสดงความคิดความเห็น แสดงวิสัยทัศน์ผ่านเวทีต่าง ๆ ผู้สมัครของพรรคก้าวไกลทุกคนไม่เป็นรองใครในวงการนั้น ๆ จะสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชนได้แน่นอน 

“การเมืองเป็นเรื่องของความเป็นไปได้ และทุกการเลือกตั้งคือโอกาสสร้างการเปลี่ยนแปลง พรรคก้าวไกลพิสูจน์แล้วจากการทำงานในสภาฯ ตลอด 4 ปี ว่าเรามีจุดยืนที่ชัดเจน ทำงานตรงไปตรงมา คุ้มค่าเงินภาษีประชาชน พร้อมแก้ปัญหาของประเทศที่ต้นตอ ครั้งนี้จึงมั่นใจเช่นกันว่าด้วยผู้สมัครที่เป็นคนใหม่และมีความสามารถ หากเราได้รับโอกาสจากประชาชนเป็นเสียงข้างมาก รัฐบาลก้าวไกลจะเปลี่ยนประเทศไทยได้” พิธากล่าว

ส่วนเรื่องหมายเลขพรรค พิธาเปิดเผยว่าไม่ว่าได้รับหมายเลขอะไร พรรคก้าวไกลพร้อมสู้ทุกเลข เชื่อว่าประชาชนจำโลโก้พรรคก้าวไกลได้ ขอให้ประชาชนจดจำเลขผู้สมัครเขตใบบัตรผู้สมัครเขต ส่วนในบัตรบัญชีรายชื่อให้จำโลโก้พรรค

“สิ่งที่ต้องขอย้ำไปถึงประชาชน คือการเลือกตั้งครั้งนี้มีบัตร 2 ใบ นอกจากผู้สมัครพรรคเดียวกันแต่ละเขตจะมีเบอร์ไม่เหมือนกันแล้ว ในบัตรเลือกตั้งยังไม่มีชื่อผู้สมัครด้วย จึงขอให้ประชาชนจดจำหมายเลขของผู้สมัครเขต ส่วนบัตรบัญชีรายชื่อที่เลือกพรรคนั้น เลือกเบอร์ที่มีโลโก้พรรคก้าวไกลปรากฏอยู่ เชื่อว่าประชาชนจดจำได้” พิธากล่าว

‘ร้านขายปลีกดอกไม้’ คึกคัก หลังคอการเมืองแห่ซื้อดาวเรือง เพื่อนำไปให้นักการเมืองที่ชื่นชอบ ส่งผลให้ราคาขยับเล็กน้อย 

(4 เม.ย.66) ที่จังหวัดนครสวรรค์ ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปสำรวจตลาดร้านขายดอกไม้ค้าส่ง-ค้าปลีก ในพื้นที่ตลาดสด ตำบลปากน้ำโพ อำเภอเมือง จังหวัดนครสวรรค์ หลังทราบว่า ขณะนี้ดอกดาวเรืองกำลังเป็นที่นิยมมากขึ้น

เนื่องจากเมื่อวานได้มีการเปิดรับสมัครเลือกตั้ง ส.ส.ในเขตพื้นที่จังหวัดนครสวรรค์ จึงทำให้บรรดาแฟนคลับกองเชียร์ แม่ยก รวมถึงบรรดาหัวคะแนนของผู้สมัคร ส.ส.แต่ละราย เริ่มมีการสั่งซื้อดอกดาวเรือง เพื่อนำไปทำพวงมาลัยคล้องคอให้กับนักการเมืองที่ตนเองชื่นชอบกันเป็นจำนวนมาก จึงส่งผลทำให้ช่วงนี้มียอดการขายดอกดาวเรืองสูงเป็นพิเศษ เรียกได้ว่าแทบไม่พอขายเลยทีเดียว

และจากการตรวจสอบราคาดอกดาวเรืองในวันนี้ พบว่าราคาส่ง มีการขยับขึ้นจากเดิมเพียงเล็กน้อยเท่านั้น โดยอยู่ที่ราคา 0.20-1.00 บาท/ดอก ส่วนพวงมาลัยดอกดาวเรืองสำเร็จรูป จากเดิมจะขายพวงละ 100 บาท แต่ตอนนี้มีการปรับราคาขึ้นมาเป็นพวงละ 120-140 บาทแล้ว

‘อนุทิน’ โพสท่าชูเบอร์ 7 เผย ถูกโฉลกมาก!! ลั่น!! ติดเบอร์ตามป้ายหาเสียงเพื่อเอาเคล็ดแล้ว 

(4 เม.ย.66) ที่อาคารไอราวัตพัฒนา ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ดินแดง นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ให้สัมภาษณ์หลังจากจับฉลากหมายเลขพรรคได้เบอร์ 7 ว่า เป็นเลขที่ถูกโฉลกกับตน  ส่วนเรื่องเอกสารที่บางพรรคอาจยื่นไม่ถูกต้อง และอาจทำให้เลขถูกเลื่อนขึ้น กลายเป็นเลขไม่ถูกโฉลกนั้น ก็ไม่เป็นอะไร เพราะว่าดีทุกเบอร์ แต่ตอนนี้เราได้เลขตัวเดียว พรรคอื่นหากมีปัญหาเรื่องเอกสารเลื่อนขึ้นมาก็ยังเป็นเลขตัวเดียว อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ได้ติดเบอร์ตามป้ายหาเสียงเพื่อเอาเคล็ดแล้ว จากนั้นนายอนุทิน ได้โชว์สัญลักษณ์เลข 7

เมื่อถามว่า หากได้เป็นนายกรัฐมนตรีจะเดินหน้าสนับสนุนร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) กัญชา กัญชง พ.ศ. ... ต่อหรือไม่ อนุทินกล่าวว่า เดินหน้าแน่นอน เพราะร่างกฎหมายที่คณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.กัญชาฯ เห็นชอบแล้ว มีมติเสียงข้างมากแล้ว เมื่อเรากลับเข้าสภาก็จะเสนอร่างนี้อีก ซึ่งบางคนไม่รู้ว่ากัญชามีประโยชน์ทางการแพทย์ ประเทศชาติ และประชาชน การเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา ที่พรรคภูมิใจไทยเข้ามาได้ส่วนหนึ่งก็เพราะนโยบายกัญชา ฉะนั้น สำหรับคนที่ไม่เข้าใจเราก็จะเดินหน้าสร้างความเข้าใจ

‘Major-ITC’ เปิดโปรเจกต์ ‘i-Tail PET CINEMA’  โรงหนังสำหรับคนรักสุนัข-แมว สามารถดูหนังร่วมกับน้องได้

หลายปีที่ผ่านมาเทรนด์ Pet Humanization ครอบครัวที่ดูแลสัตว์เลี้ยงเสมือนสมาชิกคนสำคัญในครอบครัวเติบโตอย่างมาก จนกลายเป็นเมกะเทรนด์ทั่วโลก ซึ่งมาจากสังคมยุคใหม่มีขนาดเล็กลง เป็นโสดมากขึ้น มีลูกน้อยลงหรือบางครอบครัวเลือกที่จะเลี้ยงสัตว์เลี้ยงแทนลูก

สัตว์เลี้ยงที่ได้รับความนิยมสูงครองอันดับต้นๆ มาตลอด ต้องยกให้ “น้องหมา” และ “น้องแมว”  ที่บรรดาเจ้าของ พร้อมเปย์ทั้งเงินและเวลา ดูแลทุกอย่าง ตั้งแต่อาหารการกิน สุขภาพ หาของเล่น เสื้อผ้า พาไปท่องเที่ยวพักผ่อนด้วยทุกที่

ทำให้สินค้าและบริการต่างๆ ต้องออกโปรดักท์มาเอาใจทาสหมา ทาสแมว ล่าสุด คุณวิศรุต พูลวรลักษณ์ รองประธานกรรมการ บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) ลงนามความร่วมมือ (MOU) กับ คุณพิชิตชัย วงศ์ปิยะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไอ-เทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ITC ธุรกิจผลิตอาหารสัตว์เลี้ยงในเครือไทยยูเนี่ยน เตรียมเปิด “i-Tail PET CINEMA” โรงภาพยนตร์สำหรับคนรักสุนัขและแมวแห่งแรกในประเทศไทย

K2 Medical บุกตลาด 'สกินแคร์' เปิดตัว NHH ท็อปแบรนด์ไต้หวันขยายฐานลูกค้าในไทย

บริษัท เคทู เมดิคอล (ประเทศไทย) จำกัด ส่ง เคทู เอสธีติค ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ด้านความงามชั้นนำเปิดตัว “NHH” แบรนด์สกินแคร์สัญชาติไต้หวัน รุกตลาดความงามประเทศไทย พร้อมอัดงบหลักประมาณ 200-300 ล้านบาท วางแผนพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่จากสารสกัดพืชไทยสู่ตลาดโลก เสริมความแกร่งช่องทางจัดจำหน่ายเข้มข้นทั้งออฟไลน์-ออนไลน์ พร้อมสยายปีกขยายฐานลูกค้าอาเซียน

นายไมเคิล เย่ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เคทู เมดิคอล (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดสกินแคร์ยังคงเป็นอุตสาหกรรมที่สร้างรายได้และมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2564 มีมูลค่าตลาดรวม 8.34 หมื่นล้านบาทเติบโต 7-8% ขณะเดียวกันยังมีการแข่งขันที่สูงเป็นอันดับต้นๆ ของตลาดสินค้าเพื่อสุขภาพและความงามจากผู้เล่นทั้งแบรนด์ในประเทศและเคาน์เตอร์แบรนด์จากต่างประเทศ ที่มุ่งเน้นไปในทิศทางเดียวกันคือการพัฒนานวัตกรรมเพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคในแต่ละช่วงของอายุ ส่งผลให้ 5 ปีที่ผ่านมาตลาดสกินแคร์ขยายขอบเขตมากขึ้น แต่ผู้นำตลาดยังคงเป็นเคาน์เตอร์แบรนด์ต่างประเทศและ Organic Brand

ในปี 2566 นี้ บริษัท เคทู เมดิคอล (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งมีบริษัทย่อย เคทู เอสธีติค เพื่อจำหน่ายผลิตภัณฑ์ด้านความงาม จึงรุกเข้าสู่ตลาดสกินแคร์ในประเทศไทย โดยนำเข้าแบรนด์ NHH จากประเทศไต้หวันซึ่งมีส่วนผสมของสารสกัด LONICA เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะที่ช่วยให้ Sodium Hyaluronate ซึมลึกลงสู่ชั้นผิวชั้นใน ทำให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งบริษัทได้รับสิทธิ์เป็นตัวแทนจัดจำหน่ายแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทยจาก บริษัท บี แอนด์ เอ็ม อินเตอร์เนชั่นแนล ไบโอเทค จำกัด เบื้องต้นจะทำตลาดใน 6 กลุ่มผลิตภัณฑ์ได้แก่ Hyaluronic Acid Treatment Essence ,Hyaluronic Acid Treatment Cream, Hyaluronic Acid Treatment Lotion, Hyaluronic Acid Skin Renewal facial wash, Hyaluronic Acid Energy Toner, Hyaluronic Acid Herbpro Acne เพื่อเจาะตลาดกลุ่มคนรุ่นใหม่และวัยรุ่น Y2K    

“การมีผู้เล่นในตลาดจำนวนมากทำให้ผู้บริโภคมีทางเลือกที่ตอบโจทย์ปัญหาการดูแลผิวเฉพาะบุคคลและไลฟ์สไตล์ของตัวเองมากขึ้น ขณะเดียวกันผู้บริโภคก็พร้อมเปิดใจรับนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อการดูแลผิวพรรณของตัวเองให้ดูดีที่สุด บริษัทจึงมองว่าเป็นความท้าทายมากกว่าเป็นอุปสรรค เพราะปัจจุบันสกินแคร์ส่วนใหญ่จะเป็นแบรนด์นำเข้าจากอเมริกา ฝรั่งเศส ญี่ปุ่นและเกาหลี ดังนั้นการเปิดตลาดใหม่ภายใต้ผลิตภัณฑ์จากไต้หวัน จึงถือว่าเป็นโอกาสของบริษัทที่จะสร้างความแตกต่าง รวมถึงความน่าเชื่อถือและความมั่นใจให้ผู้บริโภค” นายไมเคิล เย่ กล่าว 

Ms.Hsieh Hui-Ping ประธานบริษัท  บริษัท บี แอนด์ เอ็ม อินเตอร์เนชั่นแนล ไบโอเทค จำกัด ผู้คิดค้น และพัฒนา ผลิตภัณฑ์ด้านสุขภาพและความงาม จากธรรมชาติ อันดับหนึ่งในประเทศไต้หวัน กล่าวว่า “B&M ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2536 ภายใต้ความตั้งใจที่จะนำเสนอนวัตกรรม ผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงและมีประสิทธิภาพที่มาจากธรรมชาติ โดยค้นหาส่วนผสมคุณภาพตามหลักปรัชญาที่ว่า "หากส่วนผสมนั้นเราสามารถกินได้ ก็ย่อมปลอดภัยที่จะใช้กับผิวของเรา" ซึ่งตลอดระยะเวลากว่า 30 ปีที่ผ่านมาเราได้ทำงานร่วมกับบริษัทที่ติดอันดับ Fortune 500, สถาบันของรัฐบาล และบริษัทสตาร์ทอัพด้านความงาม เพื่อค้นหาและสกัดส่วนผสมที่มีประสิทธิภาพควบคู่ไปกับการพัฒนาเทคโนโลยีการสกัดส่วนผสมจากพืชที่ได้รับสิทธิบัตรเป็นของตัวเอง และปัจจุบันเราได้รับการยอมรับว่าเป็นผู้นำในการช่วยลูกค้าของเราผลิตสูตรเฉพาะ และสร้างแบรนด์ผลิตภัณฑ์ดูแลความงามให้กลุ่มลูกค้าทั่วโลก”

สำหรับ แบรนด์ NHH ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว และ A+ PERDU ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม เป็นแบรนด์ที่มีความแข็งแกร่งและได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคเป็นอันดับต้นๆในประเทศไต้หวัน เนื่องจากเป็นผลิตภัณฑ์ออร์แกนิค ที่ส่วนผสมหลักคือสารสกัดที่มาจากธรรมชาติ 100% ตั้งแต่กระบวนการเพาะปลูก ตลอดจนกระบวนการผลิตด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย ทำให้ได้รับความไว้วางใจจากผู้บริโภคชาวไต้หวันมายาวนาน รวมถึงเป็นตัวแทนของประเทศไต้หวันในการเข้าร่วมประชุม APEC  2022 ซึ่งจัดขึ้นในประเทศไทย

การขยายตลาดมายังประเทศไทยครั้งนี้ เรามองว่าผลิตภัณฑ์เหมาะกับสภาพผิวและสามารถตอบโจทย์ความต้องการเรื่องการบำรุงผิวผู้บริโภคที่มองหาผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับผู้ใช้และสิ่งแวดล้อม แต่ยังไม่มีผลิตภัณฑ์จากไต้หวันในตลาดประเทศไทยมากนัก นี่จึงเป็นโอกาสสำหรับ NHH และ A+ PERDU จะเข้ามาสร้างความแปลกใหม่ให้ตลาดและเป็นทางเลือกที่ดีให้กับผู้บริโภค เราจึงเชื่อมั่นว่า K2 เอสธีติค จะสามารถทำให้แบรนด์ NHH และ A+ PERDU ติดตลาดและเป็นที่ชื่นชอบของผู้บริโภคชาวไทยได้ไม่ยาก 

นายพีท เชียช์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท 79 ยูนิ มายด์ จำกัด ในฐานะผู้จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์แบรนด์ NHH กล่าวเสริมว่า ในปี 2566 นี้ บริษัทมีกลยุทธ์การดำเนินงาน 3 ด้าน ได้แก่ 1.การสร้างแบรนด์และนำนวัตกรรมที่สกัดโดยพืชธรรมชาติให้ลูกค้าและผู้ที่กำลังมองหาสิ่งที่ตอบโจทย์ต่อการดูแล บำรุงผิวอย่างปลอดภัยมากที่สุด 

 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top