Wednesday, 25 June 2025
Hard News Team

คืบหน้า บ.ผู้ผลิต ‘2475 Dawn of Revolution’ ฟ้องประชาไท ปมเสนอข่าวให้คนอ่านเชื่อว่า “รับเงินจากกองทัพบกมาจัดทำแอนิเมชัน”

เมื่อวันที่ (25 มี.ค. 68) เพจเฟซบุ๊ก ‘2475 Dawn of Revolution’ ได้โพสต์ข้อความว่า แจ้งความคืบหน้า กรณี บจก.นาคราพิวัฒน์ ผู้ผลิตแอนิเมชัน ๒๔๗๕ รุ่งอรุณแห่งการปฏิวัติ ฟ้อง มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน (ประชาไท) คดีหมิ่นประมาทและพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ จากนำเสนอข่าว ให้คนอ่านเชื่อว่า “รับเงินจากกองทัพบกมาจัดทำแอนิเมชัน”

ล่าสุด ศาลอาญารัชดาสั่งประทับรับฟ้อง ชี้คดีมีมูล!

ทีมงานแอนิเมชัน ๒๔๗๕ ขออธิบายเรื่องราวดังนี้ 

หลังจากเราเผยแพร่แอนิเมชันทางออนไลน์ไปในวันที่ 13 มีนาคม 2567 ทางเว็บไซต์ข่าวประชาไท ก็ได้เสนอรายงานข่าวว่า ผู้ผลิตแอนิเมชัน ๒๔๗๕ รับจ้างกองทัพ 11 สัญญาโดยวิธีเฉพาะเจาะจง ทำให้เกิดความเข้าใจผิดว่า แอนิเมชัน ๒๔๗๕ ได้รับการสั่งจ้างจากกองทัพ จนเกิดผลกระทบตามมาสู่ทีมงาน ผู้ร่วมงาน และบริษัทของเราอย่างมาก เราจึงตัดสินใจฟ้อง ประชาไท ผู้บริหารประชาไท และ อินฟลูเอนเซอร์บางรายที่แชร์ข่าวออกไป ทำให้ขยายความเข้าใจผิดในวงกว้าง 

ในวันเบิกความ เรามีหลักฐานคอมเมนท์ของผู้รับสาร ที่อ่านข่าวประชาไทและโพสต์โจมตีแอนิเมชันจำนวนมาก อาทิ "ทหารจ้างทำไอโอ" "เอาภาษีมาอวยกันเอง" หรือ "เอาภาษีประชาชนมาสร้างความแตกแยก" ซึ่งสื่อฯดังกล่าวก็ละเลยที่จะแก้ไขความเข้าใจผิด แต่กลับปล่อยคอมเมนท์เหล่านั้นไว้ในโซเชียลมีเดีย แสดงให้เห็นว่า การนำเสนอข่าวนี้มีส่วนชี้นำให้ผู้รับสารเกิดความเข้าใจเช่นนั้นจริงๆ

ล่าสุดวันนี้ 25 มีนาคม 2568 ศาลสั่งประทับรับฟ้อง ชี้คดีมีมูล
และให้เดินหน้า สอบคำให้การ และสืบพยานต่อไป

นี่เป็นเพียงขั้นตอนแรกของกระบวนการยุติธรรมเท่านั้น การต่อสู้คดียังอีกยาวไกล หากมีความคืบหน้าเพิ่มเติมเกี่ยวกับคดี ทีมงาน ๒๔๗๕ จะนำมาเสนอทุกท่านในโอกาสต่อไป

สำหรับคดีดังกล่าว บริษัท นาคราพิวัฒน์ จำกัด ซึ่งมี วิวัธน์ จิโรจน์กุล กรรมการผู้มีอำนาจ และผู้กำกับภาพยนตร์การ์ตูนประวัติศาสตร์ “2475 Dawn of Revolution” เป็นโจทก์ฟ้อง มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน จำเลยที่ 1, เกษม ศิริสัมพันธ์ จำเลยที่ 2 และ เทวฤทธิ์ มณีฉาย อดีตบรรณาธิการบริหารประชาไท จำเลยที่ 3 และฟ้องบุคคลทั่วไปที่แชร์ข่าวอีก 3 รายเป็นจำเลยที่ 4,5 และ 6
ในข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 326 และมาตรา 328 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ 2560 มาตรา 14(1) และ (5) จากการนำเสนอข่าว “พบเจ้าของแอนิเมชัน '2475 Dawn of Revolution' รับโครงการทำสื่อแบบวิธีเฉพาะเจาะจง 'กองทัพบก' 11 สัญญา” เมื่อวันที่ 15 มี.ค. 2567

หน่วยฝึกนาวิกโยธิน ฝึกผสม ทร.ไทย - ทร.สปจ. BLUE STRIKE 2025 ณ เมืองจ้านเจี้ยง มณฑลกวางตุ้ง สาธารณรัฐประชาชนจีน 

(25 มี.ค.68) หน่วยฝึกนาวิกโยธิน ที่เข้าร่วมการฝึกผสม ทร.ไทย - ทร.สปจ. (BLUE STRIKE 2025) ณ เมืองจ้านเจี้ยง มณฑลกวางตุ้ง สาธารณรัฐประชาชนจีน 

ได้เคลื่อนย้ายกำลังพลจาก ร.ล.อ่างทอง ณ ท่าเรือ หม่าเสี่ย เมืองจ้านเจียง ไปยังค่ายหนานถิง เมืองจ้านเจียง โดยมีพิธีต้อนรับอย่างสมเกียรติ เป็นกันเอง ในการนี้ การฝึกผสมฯ มีวัตถุประสงค์ เพื่อแลกเปลี่ยน เรียนรู้ ระหว่างหน่วยทหารนาวิกโยธิน ทั้ง 2 ประเทศ และเน้นการฝึกทางด้านองค์บุคคล องค์ยุทธวิธี และความรู้ที่ได้รับจะนำไปพัฒนาขีดความสามารถ เพิ่มทักษะให้กับทหารนาวิกโยธิน ต่อไป 

นิราช/นันทพล ทิพย์ศรี รายงาน 0909535645

#กองทัพเรือ
#นาวิกโยธิน 
#กองพลนาวิกโยธิน
#กองพันรถถังกองพลนาวิกโยธิน
#BLUESTRIKE2025
#เมื่อรบต้องชนะ
#นำดีตามดี
#SmartMarines
#จงรักภักดี_รู้หน้าที่_มีวินัย
#กองทัพเรือที่ประชาชนเชื่อมั่นและภาคภูมิใจ
#เทิดทูนสถาบัน_ป้องกันรัฐ_พัฒนาชาติ_ราษฎร์ศรัทธา
#MONARCHY_COUNTRY_GOVERNMENT_PEOPLE

รางวัลเทพทองพระราชทาน 'สถาบันพระปกเกล้า-ผลิตไฟฟ้าราชบุรี -สภาทนายความ' คว้าองค์กรต้นแบบ ขณะที่ คนดัง-ศิลปิน-นักร้อง-ผู้ประกาศข่าว-นักจัดรายการ แห่รับรางวัลคับคั่ง

เมื่อวานนี้ (25 มี.ค.68) ที่ศาลาสหทัยสมาคม ในพระบรมมหาราชวัง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ นายจิรายุ อิศรางกูร ณ อยุธยา องคมนตรี เป็นผู้แทนพระองค์ มอบรางวัล เทพทอง ครั้งที่ 23 จัดโดยสมาคมนักวิทยุและโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (สวทท.) โดยมี นางสาวชุติพันธุ์ ลิมปะพันธุ์ นายกสมาคม นายสมชาย จรรยา อุปนายกฝ่ายโทรทัศน์และสื่อดิจิทัล นายพลภฤต เรืองจรัส เลขาธิการ พร้อมคณะกรรมการบริหาร ร่วมในพิธี 

ปีนี้มีผู้เข้ารับรางวัลทั้งสิ้น 72 รางวัล ประกอบด้วย องค์กรดีเด่น 26 รางวัล บุคคลดีเด่นด้านโทรทัศน์ และสื่อออนไลน์ 16 รางวัล บุคคลดีเด่นด้านวิทยุกระจายเสียง 11 รางวัล และผู้ให้การสนับสนุนการจัดงานเทพทองครั้งนี้รับโล่เกียรติยศ จำนวน 19 รางวัล

สำหรับปีนี้ “องค์กรดีเด่น” ที่ทำคุณประโยชน์ต่อชาติบ้านเมือง เทิดทูล สถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เป็นองค์กรที่มิได้ประกอบกิจการอันขัดต่อความสงบเรียบร้อย และศีลธรรมอันดีงามของบ้านเมือง ได้แก่ สถาบันพระปกเกล้า บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรี จำกัด สภาทนายความ ในพระบรมราชูปถัมภ์ โค้ช เชโรงเรียนสอนเทควันโด้ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บริษัท เทรนด์ วีจี 3 จำกัด ผู้ผลิตเว็บไซต์ไทยรัฐออนไลน์ มูลนิธิธรรมดี องค์การบริหารส่วนตำบลโพนสว่าง จังหวัดหนองคาย หน่วยทหารพรานกองทัพบก องค์การบริหารส่วนตำบลกุดค้า อำเภอทุ่งฝน จังหวัดอุดรธานี สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย จังหวัดศรีสะเกษ บริษัท ฮิลล์คอฟฟ์ จำกัด จังหวัดเชียงใหม่ สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย จังหวัดอุบลราชธานี ละครชาตรี คณะเพชรสุมาพร จังหวัดเพชรบุรี มูลนิธิยังมีเรา บริษัท ปิรามิด โซลูชั่น จำกัด จังหวัดภูเก็ต สำนักประชาสัมพันธ์เขต 4 จังหวัดพิษณุโลก 

วัดต้นพยอม อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา ผู้ใหญ่บ้าน ชุมชนบ้านปากช่อง หมู่ที่ 3 อำเภอปะนาเระ จังหวัดปัตตานี สมาคมข้าราชการบำเหน็จบำนาญ กระทรวงสาธารณสุข (สาขากรุงเทพมหานคร) สมาคมสโมสรวัฒนธรรมหญิง ในพระบรมราชินูปถัมภ์ สโมสรไลออนส์ พัทยา-บางละมุง จังหวัดชลบุรี บริษัท เอ็ม.เจ.บางกอกวาล์วและฟิตติ้ง จำกัด จังหวัดสมุทรปราการ สถานีข่าวเอทีวี บริษัท ทีวีนิวส์ จำกัด จังหวัดอยุธยา โรงแรมอาร์อัส โฮเทล แอนด์ คอนเวนชั่น บริษัท โมเดิร์นโกลด์เยาวราช จำกัน 

สำหรับบุคคลดีเด่นด้านโทรทัศน์ และสื่อออนไลน์ ได้แก่ นายสุวิกรม อัมระนันทน์ กรรมการผู้จัดการและพิธีกรรายการ รายการเปอร์-สเปกทิฟ (PERSPECTIVE) สถานีโทรทัศน์ช่อง 9 เอ็มคอต เอชดี หมายเลข 30 นายอดิศักดิ์ ศรีสม ผู้ผลิตและผู้บรรยายสารคดี รายการประวัติศาสตร์นอกตำรา ทางสื่อออนไลน์ (YouTube) นางสาวอุมาพร ธำรงวงศ์โสภณ บรรณาธิการข่าว และผู้ประกาศข่าว รายการสดข่าวเที่ยง สถานีโทรทัศน์ช่องเวิร์คพอยท์ หมายเลข 23 นางสาวประภาศรี สภานนท์ ผู้ช่วยบรรณาธิการออนไลน์ และผู้ประกาศข่าว รายการตลาดข่าว และรายการตลาดข่าวสุดสัปดาห์ สถานีโทรทัศน์ช่องเวิร์คพอยท์ หมายเลข 23 นายสันติสุข มะโรงศรี ผู้ผลิตรายการและผู้ดำเนินรายการ รายการข่าวเป็นข่าว สถานีโทรทัศน์ ท็อปนิวส์ หมายเลข 18 เจเคเอ็น นางสาวอัจฉรา ชูสว่าง โปรดิวเซอร์และผู้สร้างสรรค์การผลิตรายการ รายการลายกนกยกสยาม สถานีโทรทัศน์ ท็อปนิวส์ หมายเลข 18 เจเคเอ็น นายวารินทร์ สัจเดว พิธีกร ผู้ประกาศข่าว และผู้ดำเนินรายการข่าว รายการ TNN World Today สถานีโทรทัศน์ทีเอ็นเอ็น ช่อง 16 นางสาวตะวันรุ่ง ปริสุทธิธรรม ผู้ประกาศข่าว และผู้ดำเนินรายการข่าว รายการ MONO ข่าวเช้า 

สถานีโทรทัศน์โมโน 29 ว่าที่ร้อยตรีภคพงศ์ อุดมกัลยารักษ์ ผู้ประกาศข่าว และผู้ดำเนินรายการข่าว รายการข่าวพร้อมบวก สถานีโทรทัศน์โมโน 29 นางรัสรินทร์ ปริยไชยพงศ์ ศิลปินนักแสดงอิสระ ฉายานางเอกหนังตลกร้อยล้าน (ชื่อในวงการ ปิยะมาศ โมนยะกุล) เป็นผู้ทำคุณประโยชน์ต่อสังคม นางสาวจิตรฉรีญา บุญธรรม นักร้องแนวลูกทุ่ง นักร้องหมอลำหญิงชาวไทย (ชื่อในวงการ บิว จิตรฉรีญา) เป็นผู้ทำคุณประโยชน์ต่อสังคม นายสุรพล ทองด้วง นักร้องหมอลำ แชมป์หมอลำไอดอลคนแรกจากรายการหมอลำไอดอล (ชื่อในวงการ อ๊อฟ สุรพล) สถานีโทรทัศน์ช่องเวิร์คพอยท์ หมายเลข 23 นายวีระพงษ์ วงศ์ศรี ศิลปิน หมอลำต้นแบบ และนักประพันธ์ (ชื่อในวงการ บิ๊ก ภูมารินทร์) เป็นผู้ทำคุณประโยชน์ต่อสังคม นายภาณุภัทร์ สุกัลยารักษ์ พิธีกร วีเจ ศิลปินนักแสดง นักดนตรี และ เจ้าของเพจท่องเที่ยว Go Went Go นายจิตกร บุษบา ผู้ดำเนินรายการ กู๊ดมอร์นิ่งแนวหน้า ทางแนวหน้าออนไลน์ นางสาวกนกวรรณ ขวัญอ่อน นักจัดการงานทั่วไปชำนาญการพิเศษและนักจัดรายการสื่อออนไลน์ เพจ “กลุ่มช่วยด้วยใจ” ผู้ให้การปรึกษาตามแนวพุทธจิตวิทยา 

บุคคลดีเด่นด้านวิทยุกระจายเสียง ได้แก่ นายวิชัย วรธานีวงศ์ นักจัดรายการวิทยุ รายการ ซีอีโอ วิชชั่น พลัส คลื่นความคิด เอฟเอ็ม 96.5 เมกะเฮิรตซ์ นางสาวมลฤดี ลูกอินทร์ นักสื่อสารมวลชนชำนาญการ และนักจัดรายการ สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย จังหวัดศรีสะเกษ เอฟเอ็ม 100.25 เมกะเฮิรตซ์ นางสาวปิยาภรณ์ กสิกรรมเมธากุล นักสื่อสารมวลชนปฏิบัติการ และนักจัดรายการ สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย จังหวัดยโสธร เอฟเอ็ม 90.0 เมกะเฮิรตซ์ 

รองศาสตราจารย์พนิดา จงสุขสมสกุล นักจัดรายการวิทยุ สถานีวิทยุกระจายเสียงมหาวิทยาลัยนเรศวร เอฟเอ็ม 107.25 เมกะเฮิรตซ์นางสาวสุพัตรา พรหมศร นักประชาสัมพันธ์เชี่ยวชาญ สถานีวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์รัฐสภา เอฟเอ็ม 87.5 เมกะเฮิรตซ์ นายอานันท์ จันทร์ศรี นักประชาสัมพันธ์ชำนาญการพิเศษ สถานีวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์รัฐสภา เอฟเอ็ม 87.5 เมกะเฮิรตซ์ นางสาวอาทิตยา ปักกะทานัง นักประชาสัมพันธ์ สถานีวิทยุกระจายเสียงมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี เอฟเอ็ม 89.5 เมกะเฮิรตซ์ นางสาวณัชชา โขมพัฒน์ ศิลปินนักร้องลูกทุ่ง ชื่อในวงการ นุจรี ศรีราชา นางสาวอรอุมา เกษตรพืชผล กรรมการผู้จัดการ บริษัท โอเค แมส จำกัด และผู้ดำเนินรายการวิทยุ รายการไอดอล สตอรี่ ทางสถานีวิทยุกองบัญชาการกองทัพไทย เอฟเอ็ม 101.0 เมกะเฮิรตซ์ นางสาวสาลี่ อินทร์โพธิ์ ศิลปินนักร้อง ชื่อในวงการ สาลี่ ขนิษฐา นายไอยรา อัลราวีย์ บรัศว์ตฤณ บรรณาธิการบริหาร สำนักข่าวออนไลน์ The States Times และผู้ดำเนินรายการ NAVY TIME สถานีวิทยุกระจายเสียงจากทหารเรือ (ส.ทร.) วังนันทอุทยาน เอฟเอ็ม 93.0 เมกะเฮิรตซ

พระราชทานโล่เกียรติยศ อาทิ นางสุกานดา พันธุ์เสือ เจ้าของกิจการ บริษัท กานตนาทัวร์ จำกัด จังหวัดหนองคาย นางอารยา กุลธัญวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ ร้านวีที แหนมเนือง จังหวัดหนองคาย นางสาวนฤมล รักษาภักดี กรรมการผู้จัดการ ห้างหุ้นส่วนจำกัด นฤมลทัวร์ จังหวัดหนองคาย นายจิรายุ สีกะมุท กำนันตำบลโนนสว่าง จังหวัดหนองคาย ว่าที่พันตรี รุ่งโรจน์ โพธิ์ทอง ข้าราชการบำนาญ กรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม นายสุรเดช มณีไพศาลสกุล ที่ปรึกษาตลาดมหาชัยเมืองใหม่ จังหวัดสมุทรสาคร พระครูโสภณสาโรภาส (อภิวัฒน์ บางข่า) เจ้าอาวาสวัดสว่างอารมณ์ อำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม นางสาวกนิษฐรินทร์ วามะศิริภัทร กรรมการผู้จัดการ บริษัท โกร เดอะ เบสท์ จำกัด นางจริยา รอดเที่ยง ที่ปรึกษาสถานีโทรทัศน์ BMC TV ONLINE และที่ปรึกษาหน่วยเผยแพร่ศีลธรรม กรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม นางสาวประภารัตน์ เชื้อเวียง ผู้บริหาร บริษัท ดับเบิ้ลเอ็มอินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด จังหวัดขอนแก่น แพทย์หญิงณัฐฐาภณิตา รพีพงษ์พัฒนา กรรมการ บริษัทเอเบิ้ล ทูบี จำกัด นายพีรณัฐ นาคสุวรรณ์ ประธานบริษัท แพรวาออยล์ จำกัด จังหวัดสุราษฎ์ธานี นายมหพล ฉันทสหวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท มณีพาวเวอร์ จำกัด

เรืออากาศตรี กวิน สุยะนันทน์ กรรมการบริหาร บริษัท คิวเอ กรุ๊ป จำกัด นายวสันต์ พัดทอง ผู้ดำเนินรายการมิราเคิลพลังมู และผู้บริหารเพจเดี๋ยวรู้เรื่อง

จเรตำรวจแห่งชาติประชุมผู้แทนทูตนานาประเทศ ขับเคลื่อนศูนย์ประสานงานป้องกันปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีและการค้ามนุษย์ระหว่างประเทศ 

(26 มี.ค.68) เวลา 14.30 น. พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการ ศูนย์ป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และผู้อำนวยการ ศูนย์ต่อต้านการค้ามนุษย์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (จตช./ผอ.ศปอส.ตร./ผอ.ศตคม.ตร.) เป็นประธานการประชุมขับเคลื่อนศูนย์ประสานงานป้องกันปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีและการค้ามนุษย์ระหว่างประเทศ (International Coordination Center for the Anti-Cyber Crime and Human Trafficking Task Force) โดยมีผู้แทนผู้ช่วยทูตตำรวจ และนายตำรวจประสานงานจากนานาชาติที่ประจำอยู่ในประเทศไทย จาก 14 ประเทศ ได้แก่ ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย บังกลาเทศ แทนซาเนีย อิตาลี เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น ลาว เคนยา จีน อินเดีย รัสเซีย มาเลเซีย และสหรัฐอเมริกา และผู้แทนกระทรวงการต่างประเทศ พร้อมด้วย พล.ต.ต.พงษ์สยาม มีขันทอง รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว เข้าร่วมประชุม ณ ห้องศรียานนท์ ชั้น 2 อาคาร 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ 

การประชุมครั้งนี้เพื่อติดตามภาพรวมสถานการณ์ กำหนดช่องทางการประสานงานในการป้องกันปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และช่วยเหลือผู้ที่ตกเป็นเหยื่อ ตลอดจนติดตามขยายผลการสืบสวนสอบสวนจากนานาชาติให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด โดยหารือในเรื่องกลไกการดำเนินงานร่วมกัน การทบทวนและปรับปรุงกลไกการส่งตัวผู้กระทำความผิดกลับประเทศให้เหมาะสม โดยเน้นที่การต่อต้านอาชญากรรมทางไซเบอร์และการค้ามนุษย์ การแบ่งปันข้อมูล และการวางแผนเชิงกลยุทธ์

พล.ต.อ.ธัชชัยฯ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ไทยมีการยกระดับมาตรการเข้มงวดชายแดนไทย-ประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อป้องกันมิจฉาชีพใช้ประเทศไทยเป็นเส้นทางผ่านเข้า-ออกประเทศเพื่อนบ้าน ไปทำงานกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ พร้อมกันนี้ขอความร่วมมือจากสถานทูตประเทศต่าง ๆ ในการแจ้งประกาศคำเตือนจากรัฐบาลไทย รวมถึงให้บริการล่ามเมื่อได้รับการร้องขอ ที่สำคัญที่สุดในการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ คือการประสานข้อมูลผลจากการสอบสวนผู้ที่ถูกส่งตัวกลับประเทศ เพื่อประโยชน์ในการคัดแยกเหยื่อและผู้กระทำความผิด รวมทั้งการแบ่งปันข้อมูลจากประเทศต่าง ๆ เพื่อประโยชน์ในการตรวจสอบติดตามจับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่อาจหลบหนีกบดานในไทย และหากมีข้อมูลว่าเจ้าหน้าที่ไทยมีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ขอให้ประสานข้อมูลให้ทราบ เพื่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะทำการสอบสวนและดำเนินคดีโดยเร็วที่สุด

โฆษก สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีพระราชกฤษฎีกาเงินประจำตำแหน่ง พ.ศ. 2568

(26 มี.ค. 68) ตามที่มีการเผยแพร่ข้อมูลผ่านสื่อสังคมออนไลน์เกี่ยวกับพระราชกฤษฎีกาการได้รับเงินประจำตำแหน่งของข้าราชการตำรวจ พ.ศ. 2568 ซึ่งมีการตั้งข้อสังเกตในประเด็นที่คลาดเคลื่อนจากข้อเท็จจริงนั้น พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ชี้แจงว่า การออกพระราชกฤษฎีกาดังกล่าวเป็นการดำเนินการเพื่อให้สอดคล้องกับพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2565 ที่มีผลใช้บังคับแทนพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2547 ซึ่งเป็นกฎหมายหลักที่ใช้มาก่อนหน้านี้

ทั้งนี้ พระราชกฤษฎีกาการได้รับเงินประจำตำแหน่งฉบับใหม่ ยังคงหลักการและอัตราเงินประจำตำแหน่งไว้เช่นเดิม ไม่มีการปรับเพิ่มค่าตอบแทนแต่อย่างใด โดยมีเพียงการแก้ไขรายละเอียดให้สอดคล้องกับบทบัญญัติของกฎหมายตำรวจฉบับใหม่ เช่น การปรับชื่อตำแหน่งให้ตรงตามที่กำหนดไว้ในกฎหมาย การเพิ่มสายงานวิชาชีพด้านสาธารณสุขให้ครอบคลุมวิชาชีพเฉพาะด้าน เช่น กายอุปกรณ์ แพทย์แผนไทย เทคโนโลยีหัวใจและทรวงอก ตลอดจนการปรับลักษณะงานของตำแหน่งผู้เชี่ยวชาญให้สอดคล้องกับการจัดกลุ่มสายงานในปัจจุบัน

นอกจากนี้ ยังมีการกำหนดสิทธิในการได้รับเงินประจำตำแหน่งประเภทบริหารให้แก่ผู้ดำรงตำแหน่งในสถาบันการศึกษาของสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่จัดการศึกษาระดับปริญญา โดยไม่ตัดสิทธิการได้รับเงินประจำตำแหน่งประเภทวิชาการ ซึ่งเป็นหลักเกณฑ์เช่นเดียวกับที่ใช้กับข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษาและข้าราชการทหาร

การออกพระราชกฤษฎีกาฉบับนี้จึงมิใช่การปรับเพิ่มเงินประจำตำแหน่งให้แก่ผู้บริหารระดับสูงตามที่บางกระแสเข้าใจ แต่เป็นการออกกฎหมายลำดับรองเพื่อให้สอดคล้องกับพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2565 ที่เพิ่งมีผลบังคับใช้

พล.ต.ท.อาชยน ฯ ยืนยันว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติให้ความสำคัญกับเจ้าหน้าที่ตำรวจระดับปฏิบัติการอย่างแท้จริง และมีนโยบายในการดูแลสวัสดิการของตำรวจทุกระดับ โดยคำนึงถึงความเหมาะสมและความเป็นธรรมเป็นหลัก พร้อมกล่าวย้ำว่า “สำนักงานตำรวจแห่งชาติมุ่งมั่นในการบริหารงานอย่างโปร่งใส และพร้อมรับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วน เพื่อให้การทำงานของตำรวจตอบสนองต่อความคาดหวังของประชาชนได้อย่างดีที่สุด”

26 มีนาคม พ.ศ. 2439 ร.5 เสด็จฯเปิดการเดินรถไฟปฐมฤกษ์ กรุงเทพ – อยุธยา ต่อมากำหนดเป็น ‘วันสถาปนากิจการรถไฟ’

ทุกวันที่ 26 มีนาคมเป็น “วันสถาปนากิจการรถไฟไทย” ซึ่งเป็นวันที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้า ฯ เปิดการเดินรถไฟรอบปฐมฤกษ์ระหว่างสถานีกรุงเทพ – อยุธยาเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2439

ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระองค์ทรงได้รับแรงบันดาลพระราชหฤทัยจากการทรงทอดพระเนดรการสร้างทางรถฟในชวาและทรงประทับรถไฟในอินเดีย พระองค์ทรงเห็นว่ารถไฟจะทำให้ราชอาณาจักรสยามมีความเจริญยิ่งขึ้น และจะช่วยเสริมสร้างความมั่นคงให้กับราชอาณาจักรได้ ซึ่งในขณะนั้นราชอาณาจักรสยามกำลังถูกกดดันจากชาติตะวันตกในการล่าอาณานิคม ดังนั้นการสร้างทางรถไฟจึงได้เกิดขึ้น เมื่อวันที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2433 โดยมีประกาศพระบรมราชโองการสร้างทางรถไฟสยามตั้งแต่กรุงเทพมหานครถึงนครราชสีมา ดังมีข้อความแสดงพระราชดำริบางดอนว่า

"การสร้างหนทางรถไฟเดินไปมาในระหว่างหัวเมืองไกล เป็นเหตุให้ความเจริญแก่บ้านเมืองได้เป็นอย่างสำคัญอันหนึ่ง เพราะทางรถฟอาจจะชักย่นหนทางหัวเมืองซึ่งตั้งอยู่ไกลไปมาถึงกันยากให้กลับเป็นหัวเมืองใกล้ไปมาถึงกันได้โดยสะดวกเร็วพลัน การย้ายขนสินค้าไปมางเป็นการลำบาก ก็สามารถจะย้ายขนไปมาถึงกันได้โดยง่าย เย็นการเปิดโอกาสให้อาณาประชาราษฎร์ มีทางตั้งการทำมาหากินกว้างขวางออกไปและทำทรัพย์สมบัติกรุงสยามให้มากมียิ่งขึ้นด้วย ทั้งเป็นคุณประโยชน์ในการบังคับบัญชา ตรวจตราราชการบำรุงรักษาพระราชอาณาเขตให้ราษฎรอยู่เย็นเป็นสุขได้โดยสะดวก"

ต่อมาในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2433 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สถาปนากรมรถไฟขึ้นเป็นครั้งแรกในสังกัดกระทรวงโยธาธิการ จากนั้นในวันที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2434 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ สยามมกุฎราชกุมาร ไปทรงขุดดินถมทางรถไฟหลวงสายแรก

สำหรับการก่อสร้างทางรถไฟสายนครราชสีมาได้แล้วเสร็จบางส่วน ในวันที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2439 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าเสาวภาผ่องศรีพระอัครราชเทวี ไปทรงประกอบพระราชพิธีเปิดการเดินรถไฟหลวงสายแรกในราชอาณาจักร พระองค์ทรงตอกหมุดตรึงรางรถไฟกับไม้หมอนและเสด็จพระราชดำเนินโดยรถไฟพระที่นั่งไปยังจังหวัดพระนครศรีอยุธยา

ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้รวมกิจการของกรมรถไฟสายเหนือและกรมรถไฟสายใต้เป็นกรมรถไฟหลวง และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าบูรฉัตรไชยากร กรมพระกำแพงเพ็ชรอัครโยธิน ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการกรมรถไฟหลวง และได้เปลี่ยนขนาดทางกว้างรางรถไฟให้เป็นทางกว้าง 1 เมตรทั่วประเทศ นอกจากนี้ยังมีการสร้างสะพานพระราม 6 เป็นสะพานรถไฟข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาสะพานแรกในประเทศไทยเพื่อเชื่อมทางรถไฟสายเหนือกับสายใต้เข้าด้วยกัน

จากนั้นรัฐสภาได้ตราพระราชบัญญัติการรถไฟแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2494 มีผลใช้บังคับวันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2494 กรมรถไฟจึงได้เปลี่ยนเป็นการรถไฟแห่งประเทศไทย และมีสถานะเป็นรัฐวิสาหกิจสังกัดกระทรวงคมนาคมตามพระราชบัญญัตินี้

การรถไฟแห่งประเทศไทยได้ดำเนินกิจการต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน การรถฟแห่งประเทศไทยได้น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเป็นอย่างสูง จึงได้จัดสร้างอนุสรณ์ปฐมฤกษ์รถไฟหลวงและทำพิธีเปิดเมื่อวันที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2534 ณ บริเวณที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงประกอบพระราชพิธีเปิดการเดินรถไฟหลวงสายแรกในราชอาณาจักร และถือเอาวันที่ 26 มีนาคมของทุกปี เป็นวันสถาปนากิจการรถไฟอีกด้วย

‘ติ๊ก ชีโร่’ ประกาศขายที่ดินทำเลดีใกล้ห้างดังเมืองโคราช หวังนำเงินมาเชื่อมต่อในส่วนวิกฤติของชีวิต

(25 มี.ค. 68) ‘ติ๊ก ชีโร่’ เดินหน้าฝ่าวิกฤติชีวิต หลังต้องหาเงินจ่ายคู่กรณีคดีรถชน ล่าสุดประกาศขายที่ดินใกล้ห้างดังในโคราช 

หลังจากเกิดการแชร์กันสนั่นโซเชียล เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา กรณี ‘ติ๊ก ชีโร่’ ศิลปินชื่อดัง ได้โพสต์รูปภาพปืน พร้อมระบุแคปชั่นว่า "โปรดติดตาม…ตอนต่อไป ว่าใจ จะไปได้ไกลแค่ไหน ภายในไม่กี่วันนี้ มีคำตอบให้ครับ ขอบคุณที่ติดตาม ขอบคุณที่สนับสนุนครับ" จนหลายคนต่างเป็นห่วง

กระทั่งเมื่อวานนี้ได้ออกมาโพสต์ภาพยกมือไหว้ต่อหน้าพระ พร้อมระบุข้อความขอโทษทุกคนที่ทำให้เป็นห่วง "ผมยังเข้มแข็งอยู่นะครับ และยังเดินหน้าต่อไปเพื่อจัดการกับชีวิต ขอโทษที่ทำให้เป็นห่วง ขอโทษที่ทำให้ตกใจ ขอโทษที่ทำให้เสียเวลา ขอบคุณที่เป็นกำลังใจให้นะครับ"

ล่าสุด ติ๊ก ชีโร่ ได้ออกมาเคลื่อนไหว โพสต์ขายที่ดินทำเลดีในตัวเมืองโคราช โดยระบุว่า 
"สวัสดีครับทุกๆท่านผมได้เดินทางไปโคราชในซอย 30 กันยาแยก 18 ตรงกันข้ามกับสนามกีฬากลางใกล้ ห้างเซ็นทรัล Central ใกล้ Mega home ติดกับ วิทยาลัย ชพน. (ซอยนี้เรียกว่าซอยบ้านเช่า) ผมต้องการขายที่ตรงนี้ พื้นที่ 194 ตารางวา เพื่อที่จะนำเงินมาเชื่อมต่อในส่วนวิกฤติของชีวิตใครสนใจอยากได้ ผมยินดีขายให้ขอบคุณมากๆนะครับ"

เตรียมเปิดสนามบินนานาชาติแห่งใหม่เดือนกรกฎาคมนี้ รับการท่องเที่ยวและธุรกิจเติบโต ท่ามกลางการแข่งขันที่ดุเดือดในเอเชีย

(25 มี.ค. 68) กัมพูชาประกาศเตรียมเปิดสนามบินนานาชาติแห่งใหม่ในเดือนกรกฎาคมนี้ โดยจะตั้งอยู่ในพื้นที่ที่มีศักยภาพสูงสำหรับการเติบโตทางเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว หลังจากที่ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กำลังเผชิญการแข่งขันที่ดุเดือดเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก

สนามบินแห่งใหม่ของพนมเปญ ซึ่งเป็นที่รู้จักอย่างเป็นทางการในชื่อ สนามบินนานาชาติเทโช เริ่มสร้างขึ้นในปี 2562 ครอบคลุมพื้นที่ 6,425 เอเคอร์ ตั้งอยู่ที่ชายแดนของจังหวัดกันดาลและตาแก้ว ห่างจากเมืองหลวงไปทางใต้ประมาณ 30 กิโลเมตร

ซึ่งเป็นโครงการร่วมลงทุนระหว่างรัฐบาลกัมพูชาและภาคเอกชน จะเป็นศูนย์กลางการเชื่อมโยงการเดินทางทั้งในและต่างประเทศ ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยและมาตรฐานระดับสากล คาดว่าจะสามารถรองรับผู้โดยสารได้มากถึง 10 ล้านคนในปีแรกของการเปิดใช้งาน

โครงการนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของแผนการพัฒนาเศรษฐกิจของกัมพูชา ซึ่งต้องการเพิ่มขีดความสามารถในการดึงดูดนักท่องเที่ยวและการลงทุนจากต่างชาติ ท่ามกลางการเติบโตที่รวดเร็วของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะในประเทศไทย เวียดนาม และมาเลเซีย ซึ่งเป็นคู่แข่งสำคัญในตลาดนี้

สถาปนิกของสนามบินแห่งนี้คือบริษัท Foster + Partners ของประเทศอังกฤษ โดยเว็บไซต์ของบริษัทระบุว่า “การออกแบบสะท้อนให้เห็นถึงความรู้สึกที่แข็งแกร่งของสถานที่ และตอบสนองต่อสภาพภูมิอากาศแบบเขตร้อน”

ส่วนอาคารเทอร์มินัลตั้งอยู่ใต้สิ่งที่เรียกว่าหลังคาทรงโค้งเดี่ยวที่เป็นโครงเหล็กน้ำหนักเบา พร้อมหน้าจอนวัตกรรมที่กรองแสงธรรมชาติและส่องสว่างให้กับพื้นที่เทอร์มินัลอันกว้างใหญ่

การก่อสร้างจะดำเนินการเป็น 3 ระยะ โดยในระยะแรกคาดว่าสนามบินจะสามารถรองรับผู้โดยสารได้ 13 ล้านคนต่อปี และจะเพิ่มความจุเป็น 30 ล้านคนหลังปี 2030 และสูงสุด 50 ล้านคนในปี 2050

สนามบินแห่งนี้จะเป็นสนามบินหลักแห่งที่สองของกัมพูชาที่จะเปิดให้บริการภายในระยะเวลาสองปี โดยในปี 2023 สนามบินนานาชาติเสียมเรียบ-อังกอร์ ซึ่งได้รับเงินทุนจากจีนได้เริ่มเปิดให้บริการในจังหวัดเสียมเรียบทางตะวันตกเฉียงเหนือ ห่างจากนครวัดซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของประเทศซึ่งมีอายุกว่าหลายศตวรรษไปทางทิศตะวันออกประมาณ 40 กิโลเมตร 

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา การท่องเที่ยวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว ทำให้แต่ละประเทศในภูมิภาคต่างพยายามลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว และสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน กัมพูชาหวังว่าการเปิดสนามบินแห่งใหม่จะช่วยเสริมสร้างการเติบโตของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อเศรษฐกิจของประเทศ

สนามบินแห่งนี้จะเปิดให้บริการในช่วงฤดูร้อนของปี 2024 ซึ่งเป็นช่วงที่การท่องเที่ยวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เริ่มฟื้นตัวหลังจากผลกระทบของการระบาดใหญ่ของ COVID-19 โดยคาดว่าการเดินทางทางอากาศจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งการท่องเที่ยวเป็นหนึ่งในเสาหลักที่สนับสนุนเศรษฐกิจของกัมพูชา ตามข้อมูลของกระทรวงการท่องเที่ยว กัมพูชาต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติประมาณ 6.7 ล้านคนในปี 2024 ซึ่งเพิ่มขึ้น 23% จากปี 2023

ทั้งนี้ รัฐบาลกัมพูชามั่นใจว่าโครงการสนามบินแห่งใหม่จะเป็นจุดเริ่มต้นในการเติบโตของภาคการท่องเที่ยวในระยะยาว และจะช่วยให้ประเทศสามารถแข่งขันได้ในตลาดการท่องเที่ยวที่มีการแข่งขันสูงในภูมิภาคนี้

ยูไนเต็ด แอร์ไลน์ ออกแถลงการณ์ขอโทษ หลังบินไปแล้ว 2 ชม. ต้องวกกลับกลางทาง

(25 มี.ค. 68) สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นรายงานว่า ยูไนเต็ด แอร์ไลน์ (United Airlines) ออกแถลงการณ์ขอโทษหลังจากเที่ยวบิน UA198 ซึ่งมุ่งหน้าไปยังเซี่ยงไฮ้จากลอสแอนเจลิส ต้องบินกลับกลางทางหลังจากเดินทางไปได้เพียง 2 ชั่วโมง เนื่องจากนักบินลืมนำหนังสือเดินทางติดตัวไปด้วย

เที่ยวบินดังกล่าวซึ่งออกเดินทางจากท่าอากาศยานนานาชาติลอสแอนเจลิส (LAX) เมื่อวันที่ 22 มีนาคม เวลา 14:00 น. ตามเวลาท้องถิ่น ด้วยเครื่องบินโบอิ้ง 787-9 Dreamliner ได้บินไปได้ประมาณสองชั่วโมง ก่อนที่ทีมบินจะตระหนักถึงความผิดพลาดของนักบินที่ไม่มีเอกสารสำคัญสำหรับการเดินทางระหว่างประเทศ

หลังจากพบปัญหาดังกล่าว ทีมบินจึงตัดสินใจบินกลับและลงจอดที่ ท่าอากาศยานนานาชาติซานฟรานซิสโก (SFO) โดยไม่ได้เดินทางต่อไปยังเซี่ยงไฮ้ตามที่กำหนดไว้ ก่อนที่เที่ยวบินจะถูกเลื่อนออกไป

ทาง ยูไนเต็ด แอร์ไลน์ ได้ออกแถลงการณ์ขอโทษต่อผู้โดยสารที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์นี้ พร้อมยืนยันว่าได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน และจะทำการตรวจสอบการทำงานภายในเพื่อป้องกันไม่ให้เหตุการณ์ในลักษณะนี้เกิดขึ้นอีกในอนาคต

ขณะเดียวกันผู้โดยสารบนเครื่องก็ได้รับการดูแลและข้อเสนอในการเปลี่ยนแปลงกำหนดการเดินทางใหม่ และทางสายการบินระบุว่าได้ทำทุกอย่างเพื่อให้การเดินทางดำเนินไปอย่างราบรื่นที่สุด

“นักบินไม่ได้พกหนังสือเดินทางติดตัวมาด้วย” ยูไนเต็ดกล่าวในแถลงการณ์ “เราได้จัดเตรียมลูกเรือชุดใหม่เพื่อพาลูกค้าของเราไปยังจุดหมายปลายทางในเย็นวันนั้น โดยมอบคูปองอาหารและเงินชดเชยให้กับลูกค้า”

สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าวกลายเป็นที่พูดถึงในโลกออนไลน์ โดยหลายคนไม่พอใจและตั้งคำถามว่า ทำไมถึงไม่มีการตรวจสอบเอกสารของนักบินก่อนการเดินทางไกล ส่งผลให้เที่ยวบินต้องล่าช้าและสร้างความไม่สะดวกให้กับผู้โดยสารจำนวนมาก

PEA แจง งดจ่ายกระแสไฟฟ้าในเมียนมา ไม่ได้ล่าช้า!! ยัน ตัดกระแสไฟฟ้าทันทีหลัง สมช. มีมติ

(25 มี.ค.68) การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) ชี้แจงกรณีที่มีการอภิปรายพาดพิงถึงการดำเนินงานของกระทรวงมหาดไทย โดยการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ประเด็นปัญหากระบวนการงดจ่ายกระแสไฟฟ้าเป็นไปด้วยความล่าช้ามีการเกี่ยงกันดำเนินงาน 

การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคชี้แจงว่ากระบวนการงดจ่ายกระแสไฟฟ้าไม่ได้เป็นไปด้วยความล่าช้า แต่เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย โดยหลังจากสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) มีมติให้งดจ่ายกระแสไฟฟ้าจากการประชุมเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2568 กระทรวงมหาดไทย โดยการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ก็งดจ่ายกระแสไฟฟ้าทันที เมื่อเช้าวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2568 ในพื้นที่ 5 จุดซื้อขาย ประกอบด้วย อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี 1 จุด อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย 2 จุด อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก 2 จุด เพิ่มเติมจากก่อนหน้านี้ ในช่วงปี 2566 - 2567 PEA ระงับการจำหน่ายไฟฟ้าให้ประเทศเมียนมาแล้ว 3 จุด   

ทั้งนี้ การจำหน่ายไฟฟ้าของ PEA ดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี ปี 2539 โดยมีวัตถุประสงค์ด้านสิทธิมนุษยชน และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ไม่ได้เป็นไปเพื่อผลประโยชน์ทางธุรกิจ ซึ่งการจะดำเนินการงดจ่ายกระแสไฟฟ้าหรือยกเลิกสัญญา สามารถดำเนินการได้ใน 2 กรณี คือ 

1. คู่สัญญาดำเนินการผิดสัญญา 
2. กระทบต่อความมั่นคงของประเทศ 

กระทรวงมหาดไทยเป็นหนึ่งในหน่วยงานที่ดูแลด้านความมั่นคงภายในประเทศ ดังนั้น ในกรณีที่เป็นเรื่องความมั่นคงระหว่างประเทศ จึงต้องสอบถามหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อความรอบคอบและให้เป็นไปตามสัญญา โดยหลังจากที่หน่วยงานด้านความมั่นคงได้มีมติให้งดจำหน่ายไฟฟ้า กระทรวงมหาดไทยก็ดำเนินการทันที


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top